“สวัสดีครับ ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เขายิ้มให้อย่างสุภาพ นลินทราจึงพยักหน้าให้เขา
“เชิญค่ะพี่ก้าว ยายพลอย แกรู้จักพี่ก้าว กวินภพอยู่แล้วเนอะ น้าจินนี่เล่าให้ฟังแล้วใช่รึเปล่า” ประโยคหลังนลินทราหันไปคุยกับพลอยพัดชา
“เล่าให้ฟังแล้วละ รู้ว่าเคยแสดงอะไรมาบ้าง แต่ยังไม่เคยคุยกัน”
พลอยพัดชาตอบไปตามตรง เพราะหญิงสาวเคยเห็นเขาแค่ในโทรทัศน์ และโฆษณาบางตัวเท่านั้น
“คุณพลอยจำผมได้ด้วย ผมดีใจนะเนี่ย” กวินภพยิ้มกว้าง สีหน้ามีแววขัดเขินเล็กน้อย
นลินทราลอบสังเกตท่าทางที่กวินภพมีต่อพลอยพัดชาอยู่เงียบ ๆ เท่าที่เธอรู้มา พระเอกหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยมีข่าวเสื่อมเสียหรือข่าวซุบซิบให้ได้ยินสักเท่าไร เขาเป็นนักแสดงที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่สิ่งที่เธอติดใจมีเพียงอย่างเดียวคือเธอไม่รู้สาเหตุที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวที่เคยล่มหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ แล้วมาอยู่กับจินตวาตี เพราะตอนถามจินตวาตี อีกฝ่ายก็บอกเพียงว่าหมดสัญญากับคนเก่า และคนเก่าไม่ต้องการทำงานเป็นผู้จัดการให้แล้ว
“ก็ต้องจำได้สิคะ แหม...คุณก้าวออกจะดัง ใครไม่รู้จัก หรือไม่เคยเห็นก็คงเชยแย่” พลอยพัดชายิ้มให้อย่างเป็นมิตร ไม่นำพากับสายตาของเพื่อนสนิทที่เหล่มองมาราวกับต้องการเตือนอะไรบางอย่าง
พลอยพัดชามองชายหนุ่มด้วยความชื่นชม วันนี้กวินภพสวมกางเกงชายหาดยาวแค่เข่ากับเสื้อยืดสีขาวและมีเสื้อฮาวายลายแสบสันคลุมทับ เขาทำผมด้านหน้าตั้งขึ้นดูแล้วเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุไม่ถึงยี่สิบปี ใบหน้าหมดจดของเขาชวนมองขนาดนี้ แล้วจะให้เธอทำหยิ่งเพื่ออะไรกัน ใครบ้างไม่ชอบของสวย ๆ งาม ๆ เธอก็แค่ชอบมองคนหล่อ ใช่ว่าเธอจะไปเป็นแฟนกับเขาเสียเมื่อไร
“แล้วตอนนี้คุณก้าวกำลังจะมีงานอะไรหรือคะ”
พลอยพัดชาชวนกวินภพคุยเพราะดูเหมือนชายหนุ่มจะประหม่าไม่น้อยเวลาที่อยู่ต่อหน้าตน
“ตอนนี้ก็กำลังจะมีละครเรื่องหนึ่งครับ เล่นกับคุณนิ้งด้วย” พูดถึงตรงนี้ เขาก็หันไปยิ้มให้นลินทรา
“แล้วก็กำลังจะเซ็นสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้วันมิลค์” กวินภพพูดไปยิ้มไป สายตาที่มองพลอยพัดชาดูอ่อนเชื่อมมากกว่าปกติจนคนที่แอบสังเกตอย่างนลินทราได้แต่ขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย
“โอ้โห วันมิลค์ด้วย ดีจัง ขอให้งานเข้าปัง ๆ นะคะ” พลอยพัดชาฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะมองเลยด้านหลังของเขาไปพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม กวินภพจึงหันไปมองด้านหลังของตน
ทีมงานจัดเลี้ยงคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกพลอยพัดชาที่โต๊ะ
“คุณพลอยคะ ได้เวลาแล้วค่ะ”
“โอเคค่ะ เดี๋ยวขอตัวไปจัดเซอร์ไพรส์ให้น้าสาวสุดที่รักก่อนนะจ๊ะ ขอตัวก่อนนะคะคุณก้าว” พลอยพัดชาลุกขึ้นแล้วเดินตามทีมงานคนนั้นไปทันที
คล้อยหลังพลอยพัดชาแล้ว นลินทราจึงเป็นฝ่ายชวนกวินภพคุยบ้าง เพราะไหน ๆ ก็ต้องนั่งอยู่กับเขาแค่สองคนในโต๊ะ
“เป็นไงบ้างคะคุณก้าว น้าจินนี่ป้อนงานให้เยอะเลยละสิ”
“สำหรับผมแล้วก็ถือว่าเยอะพอสมควรเลยครับ พี่จินนี่คอนเนกชันเยอะมากจริง ๆ คิดไม่ผิดเลยที่ย้ายมาอยู่กับพี่เขา” กวินภพตอบด้วยท่าทีสุภาพ แววตาที่มองนลินทราก็เหมือนมองเพื่อนหรือคนรู้จักทั่วไป ไม่ได้หวานเชื่อมเหมือนตอนคุยกับพลอยพัดชา
“ใช่ค่ะ น้าจินนี่เขารู้จักคนเยอะ มาอยู่กับแกรับรองเลยว่าคำว่าไม่มีงานน่ะแทบเป็นไปไม่ได้” เว้นเสียแต่ว่านักแสดงคนนั้นจะทำตัวแย่จนผู้จัดละครเบื่อหน่ายและแบนดาราคนนั้น
“จริงครับ”
“นิ้งแอบได้ยินมาว่าคุณก้าวมีปัญหากับผู้จัดการคนเก่า เรื่องนี้จริงรึเปล่าคะ” นลินทราเข้าเรื่องทันที ใครจะหาว่าเธอยุ่งเรื่องชาวบ้านก็ช่าง แต่ในเมื่อผู้ชายคนนี้สนใจเพื่อนสนิทของเธอ ดังนั้นจึงต้องซักประวัติกันสักหน่อย จะได้รู้ว่าข่าวลือเรื่องที่ตนได้ยินมากับเรื่องที่ออกจากปากของคนต้นเรื่องนั้นต่างกันแค่ไหน
“ก็...ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอกครับ พี่ปลาเขาแค่จะกลับบ้านไปดูแลพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดน่ะ ความจริงพี่เขาคุยกับผมมาสักพักแล้วละว่าจะกลับไปอยู่บ้าน แต่เขาจะเคลียร์งานของผมให้หมดก่อน ถึงได้ไปคุยกับพี่จินนี่เอาไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะหมดสัญญากัน”
“อ๋อ เข้าใจแล้วค่ะ” นลินทราพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้บาง ๆ
“ว่าแต่ คุณนิ้งรู้จักคุณพลอยมานานรึยังครับ ผมเห็นคุณนิ้งก็เรียกพี่จินนี่ว่าน้าเหมือนคุณพลอยเลย”
“นิ้งกับพลอยเรียนมหา’ลัยมาด้วยกันค่ะ สนิทกันตั้งแต่ตอนนั้นเลย ที่นิ้งมาเป็นดาราได้ก็เพราะยายพลอยเป็นเจ๊ดันให้นิ้งน่ะ”
นลินทราตอบไปตามตรง เพราะบรรดาเด็กในสังกัดของจินตวาตี มีเธอเพียงคนเดียวที่เรียกอีกฝ่ายว่าน้าตามพลอยพัดชา นอกนั้นจะเรียกว่าพี่จินนี่กันทุกคน
จู่ ๆ เสียงเพลงก็เงียบลงไป จึงทำให้ทั้งสองคนหยุดคุยแล้วหันไปมองด้านหน้าของสระว่ายน้ำ ซึ่งขณะนั้นเริ่มมีการให้ของขวัญและกล่าวคำอวยพรกันตามลำดับอาวุโส จนกระทั่งมาถึงคนสุดท้าย เป็นสาวสวยเซ็กซี่ในชุดบิกินี แต่มีผ้าคลุมสะโพกเอาไว้เดินถือกล่องสีม่วงออกมาจากในตัวบ้าน ท่าทางเยื้องย่างราวกับนางงามบวกกับรอยยิ้มพิมพ์ใจนั้น สะกดสายตาของทุกคนได้เป็นอย่างดี
และเพราะงานนี้มีคนดังหลายคนไปร่วมงาน จึงต้องมีการถ่ายรูป การไลฟ์สดจากดาราหลายคนเพื่อให้แฟนคลับของตนได้ร่วมติดตามไปด้วย รวมถึงสื่อมวลชนที่อยากเข้ามาเก็บภาพไปทำข่าว จึงเลี่ยงไม่ได้เลยที่ภาพหลายภาพจะมีพลอยพัดชาอยู่ในนั้น ตอนนี้หน้าเฟซบุ๊กของหญิงสาวจึงมีแต่รูปที่ถ่ายกับดาราหลายคน และดาราเหล่านั้นพากันแท็กชื่อของพลอยพัดชาจนหญิงสาวแทบไม่ต้องโพสต์ด้วยตัวเอง
ธามเลื่อนดูรูปเหล่านั้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันมุ่น โดยเฉพาะภาพที่พลอยพัดชาถ่ายกับนักแสดงหนุ่มหล่อหลายต่อหลายคน และนักแสดงหนุ่มเหล่านั้นต่างพากันชื่นชมเธอกันทุกภาพ และที่สำคัญคือหญิงสาวใส่แค่บิกินีเดินเตร่ไปทั่วงาน แม้จะมีผ้าคลุมสะโพกเอาไว้ก็เถอะ
ดูแต่งตัวเข้า คนอื่นไม่เห็นเขาจะโป๊ขนาดนี้เลย!
“สวัสดีค่ะทุกคน พลอยเองนะคะ” พลอยพัดชายิ้มกว้างพลางมองไปรอบงานให้ครบทุกคน ก่อนจะหันไปมองจินตวาตีที่ยืนอยู่ข้างตนแล้วพูดต่อ
“ของขวัญที่พลอยจะให้น้าจินนี่ชิ้นนี้เนี่ย พลอยใช้เวลาทำหลายเดือนมากกว่าจะได้ที่ถูกใจ ซึ่งพลอยคิดว่าของขวัญชิ้นนี้เหมาะกับน้าจินนี่ที่สุดแล้ว เพราะน้าจินนี่เป็นทั้งพ่อและแม่ เป็นพี่สาว เป็นเพื่อน พูดง่าย ๆ เลยก็คือน้าจินนี่เป็นทุกอย่างในชีวิตพลอยจริง ๆ ตั้งแต่พ่อกับแม่ของพลอยจากไป ก็มีแต่น้าจินนี่ที่คอยอยู่เคียงข้างพลอยเสมอ เพราะฉะนั้นพลอยจึงขอยกให้น้าจินนี่เป็นที่หนึ่งในชีวิตของพลอยค่ะ”
พลอยพัดชาพูดจบ จินตวาตีก็น้ำตาอาบสองแก้มไปแล้ว หากแต่เป็นน้ำตาแห่งความปลื้มปริ่ม ยิ่งเห็นของขวัญที่อยู่ในมือของหลานสาวสุดที่รัก รอยยิ้มก็ยิ่งกว้างขึ้นกว่าเดิม
“โถ...ยายเด็กน้อยของน้า” จินตวาตีโผเข้ากอดหลานสาวจนน้ำตาเปียกหัวไหล่ของอีกฝ่าย
“น้าจินนี่ดีกับพลอยขนาดนี้ มงต้องลงแล้วค่ะ”
พลอยพัดชาพูดไปน้ำตาก็เริ่มคลอขึ้นมาเช่นกัน หญิงสาวกะพริบตาหลายครั้งเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมาแล้วบรรจงใส่มงกุฏให้ผู้เป็นน้า ตามด้วยสายสะพายที่มีข้อความว่า ‘สวย รวย เริ่ด’
“น้าจินนี่เกิดวันจันทร์ พลอยก็เลยเลือกบุษราคัมมาประดับมงกุฏคู่กับเพชร สีเหลืองเรืองรองแบบนี้งานจะได้เข้าเยอะ ๆ และทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็จะได้ปัง ๆ ไปด้วยกันนะคะ”
พลอยพัดชาพูดจบ ดารานักแสดงในสังกัดของจินตวาตีทุกคนก็พากันปรบมือโห่ร้องด้วยความดีใจ จากนั้นก็มีนักแสดงสาวคนหนึ่งตะโกนถามขึ้นว่า
“คุณพลอยมีแฟนรึยังคะ หนุ่ม ๆ ในงานสนใจกันหลายคนเลยนะเนี่ย”เจ้าตัวพูดจบ เสียงของหนุ่ม ๆ ที่ว่าก็พร้อมใจกันเฮขึ้นมาทันทีแล้วตะโกนพูดพร้อมกันว่า...ไม่มี...ไม่มีพลอยพัดชาคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดใส่ไมโครโฟนสองคำสั้น ๆ “โสดค่ะ”ทันทีที่พลอยพัดชาพูดจบ เสียงปรบมือและเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจก็ดังขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะถูกดับฝันด้วยคำพูดของเจ้าของงานวันเกิดว่า“ไม่อนุญาตให้จีบนะคะ คนนี้คือแก้วตาดวงใจของเจ๊ค่ะ” เสียงโห่ด้วยความเสียดายดังขึ้นทันทีที่จินตวาตีพูดจบ“โธ่ น้าจินนี่ อยู่บนคานมันหนาวนะ ไม่เห็นใจหลานบ้างเลย พลอยยิ่งหาแฟนยากอยู่” พลอยพัดชาแกล้งทำหน้าง้ำ จินตวาตีจึงยักไหล่พลางเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า“ช่วยไม่ได้ย่ะ ในเมื่อน้าอย่างฉันที่สวยแซ่บกว่าหล่อนขนาดนี้ยังหาผัวไม่ได้ หล่อนที่เป็นหลานก็อย่าหวังเลยว่าจะมีผัวได้ก่อนน้า”เสียงกรี๊ดกร๊าดและหัวเราะก็ดังขึ้นทันที่ที่เจ้าของงานวันเกิดพูดจบจากนั้นปาร์ตีก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ยิ่งมีปาร์ตีโฟมในสระว่ายน้ำ แต่ละคนจึงพากันลงไปเล่นน้ำ
วันต่อมา พลอยพัดชาเข้าร้านตามปกติ ทว่ายังไม่ทันจะวางกระเป๋า ร้านพัดชา เจมส์ก็ได้ต้อนรับพระเอกหนุ่มมาแรงอย่างกวินภพที่แวะมาเยี่ยมเยียนพลอยพัดชาถึงร้าน ทำเอาพนักงานตื่นเต้นกันมาก ต่างพากันขอถ่ายรูปคู่กับเขาคนละรูปสองรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันทุกคนหลังจากถ่ายรูปร่วมกันเสร็จเรียบร้อย กวินภพก็ค้อมศีรษะขอบคุณทุกคนพร้อมกับฝากฝังผลงานละครเรื่องใหม่อย่างเป็นมิตร ก่อนจะหันมายิ้มให้เจ้าของร้านสาวสวยที่ยืนกอดอกมองความวุ่นวายเมื่อครู่ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ“ไม่ทราบว่าคุณพลอยยุ่งอยู่รึเปล่าครับ ผมมารบกวนรึเปล่า”“เปล่าค่ะ พลอยเพิ่งมาถึงร้านเอง ว่าแต่คุณก้าวเถอะ มาทำธุระแถวนี้หรือคะ หรือว่ามาหาซื้อแหวนสักวงให้แฟน พลอยแนะนำให้ได้นะ”พลอยพัดชาใช่ว่าไม่รู้ว่าพระเอกหนุ่มคนนี้สนใจตน เพราะคืนวันนั้นสายตาของเขาเวลาที่มองเธอก็แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกวินภพเป็นดาราในสังกัดของจินตวาตีกระมัง เธอจึงมองเขาเป็นเพื่อน หรือเป็นพี่มากกว่าอีกทั้งพลอยพัดชามั่นใจว่า หากกวินภพได้รู้จักกับเธอนานวันเ
“ก็ไม่แน่ว่ะ ถึงขั้นตามไปหาที่ร้านนี่ก็ไม่ใช่เล่น ๆ แล้วมั้ง แกไม่ลองพิจารณาเขาบ้างหรือ” นลินทราพูดเสียงเบาราวกับกลัวคนอื่นได้ยิน จึงทำให้พลอยพัดชารู้ว่าบริเวณที่เพื่อนนั่งอยู่นั้นมีคนอื่นเดินผ่านพอดี“คงไม่ละ เป็นเพื่อนกันไปนั่นแหละดีแล้ว ฉันไม่ชอบมีแฟนเป็นดารา ขอผู้ชายธรรมดาดีกว่า”“ผู้ชายธรรมดาที่แกว่าน่ะ หมายถึงพี่ธามหรือพี่พัฒน์ล่ะยายบ้า สองคนนี้เรียกผู้ชายธรรมดาที่ไหนกัน คนหนึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม อีกคนเป็นเจ้าของบริษัทน้ำอัดลม หูย...อีสวยเลือกได้ ฉันละอยากรู้จริงเชียวว่าถ้าพี่ธามเห็นภาพข่าวพวกนี้แล้วเขาจะเป็นยังไง”พลอยพัดชาเบ้ปาก “จะเป็นยังไงล่ะ ก็คงดีใจจนเนื้อเต้นละมั้งที่ฉันมีคนมาจีบสักที จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขาอีก แต่แกเชื่อเถอะว่าเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก เพราะพี่ธามเขาสนใจข่าวซุบซิบดาราพวกนี้ที่ไหน วัน ๆ ดูแต่ข่าวเศรษฐกิจกับการเมือง ดีไม่ดี ดาราผู้หญิงคนเดียวที่เขารู้จักก็คงมีแต่แกนั่นแหละนังนิ้ง”หญิงสาวพูดจบก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะตอนนี้หน้าร้านมีใครบางคนกำลังแหงนหน้ามองป้ายชื่อร้านราวกับดูให
เขารู้จักพลอยพัดชาดี เธอเป็นคนที่ไม่ยอมลงให้คนอื่น ยิ่งกับคู่อริด้วยแล้วยิ่งไม่มีทาง ดังนั้นถ้าเธอเห็นว่ากนกลดาไปกินข้าวด้วยกัน เขายังคิดว่าพลอยพัดชาจะต้องตามไปด้วยเพื่อต้องการขัดแข้งขัดขาอีกฝ่ายเป็นแน่ แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังธามผงกศีรษะให้กนกลดาเป็นเชิงบอกว่าออกจากร้านกันได้แล้ว ครั้นพอเดินออกมาไม่เท่าไร เขายังอดหันกลับไปมองด้านหลังไม่ได้เพราะคิดว่าอีกเดี๋ยวพลอยพัดชาจะต้องตามมาแน่ แต่เธอก็ไม่มา สุดท้ายจึงได้แต่ถอดใจแล้วเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ช้าไม่เร็วขณะเดียวกัน พลอยพัดชาก็นั่งเท้าคางพลางเหยียดยิ้มมุมปากเมื่อคิดถึงเรื่องสนุกที่ตนกำลังจะลงมือทำ ป่านนี้สองคนนั้นคงเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไร คิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านตามไปทันทีธามกับกนกลดาเดินนำอยู่ข้างหน้าประมาณสิบเมตรได้ เธอเห็นธามเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างซึ่งนั่นเป็นอาการเวลาที่เขาไม่ต้องการใกล้ชิดกับอีกฝ่ายมากเกินไป ขณะที่กนกลดานั้นพยายามเดินเอาแขนของตนไปชนแขนของชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้งพลอยพัดชาเร่งฝีเท้าก้าวให้ทันคนทั้งคู่ จากนั้นก็จงใจแทรกตรงกลางระหว่างคนทั้งสองโดยจงใจใช้ลำตั
ธามมองอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อสแกนว่าไม่มีจานไหนที่มีถั่วเป็นส่วนประกอบ แม้จะรู้ว่าพลอยพัดชาย่อมระวังตัวเองอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังวางใจไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดคือเขาจะให้กนกลดารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าพลอยพัดชาแพ้ถั่วทุกชนิด เพราะสองคนนี้ไม่ใช่แค่ไม่ถูกชะตากันธรรมดา แต่เรียกว่าเกลียดกันมากเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีกยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะหยิบตะเกียบ เขาก็ถูกคนข้างตัวใช้มือดันให้เข้าไปด้านในของเก้าอี้อีกครั้ง“กระเถิบไปเลย พลอยนั่งไม่สะดวก นิสัยเสีย มานั่งติดคนอื่นเขาอยู่ได้”ธามยิ้มอ่อนพลางขยับเข้าไปเพียงเล็กน้อยพอให้เธอจับตะเกียบได้สะดวกขึ้น แต่ก็ยังไม่วายเย้าแหย่ให้เธอเหวี่ยงใส่ด้วยการพูดว่า“พี่นั่งของพี่ตรงนี้อยู่ดี ๆ เรานั่นแหละมาเบียดพี่ หรือจะย้ายไปนั่งกับคุณดาเขาก็ได้นะ”“แหวะ! ไม่เอาหรอก เดี๋ยวสนิมเกาะ” พูดจบก็ทำสีหน้ายี้ใส่กนกลดา จนอีกฝ่ายเริ่มทนไม่ไหวแล้ว“นังพลอย!”แม้จะถูกกนกลดาตวาดใส่แต่เสียงก็ไม่ดังนักเพราะอีกฝ่ายยังเกรงใจธามและโต๊ะข้างเคียงอยู่ เห็นดังนั้นพลอยพัดชาจึงอด
“เธอนี่เสน่ห์แรงไม่มีตกเลยนะ” กนกลดายิ้มบาง ๆ ยิ่งเห็นสีหน้าไม่สบอารมณ์ของธามก็ยิ่งรู้สึกว่าครั้งนี้ตนมาถูกทางแน่แล้ว ดูท่าทางชายหนุ่มคงไม่ได้คิดกับพลอยพัดชาแค่น้องสาวอย่างที่ปากพูดกระมัง เห็นทีครั้งนี้เธอคงต้องพยายามดึงความสนใจจากเขาให้มากกว่าเดิม มิเช่นนั้นนอกจากแผนทุกอย่างจะพังแล้ว เม็ดเงินมหาศาลจากการที่ได้อาศัยชื่อเสียงของโรงแรมลักซ์ แกรนด์ มิราจในการทำธุรกิจก็คงละลายหายไปด้วยโชคดีที่ธามเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่อายุยังน้อย อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็จัดว่าควงได้ไม่อายใคร แม้เขาจะหล่อไม่เท่ารพีพัฒน์ แต่ความคมเข้ม สมาร์ต และความภูมิฐานนั้นกินขาดผู้ชายวัยเดียวกันอย่างไม่เห็นฝุ่น ดังนั้นการตีสนิทกับเขาโดยเอาตัวเข้าแลกนั้นเธอจึงเต็มใจทำอย่างยิ่ง แต่ปัญหากลับติดอยู่ที่คนเพียงคนเดียว...พลอยพัดชา“แน่นอน ก็ฉันสวยนี่ จริงไหมคะพี่ธามขา” ประโยคหลัง พลอยพัดชาจงใจกระแซะไหล่เขาเพื่อให้ชายหนุ่มหมั่นไส้เล่นเพราะเธอรู้ว่าต่อให้อ่อยผู้ชายคนนี้ไปกี่เล่มเกวียน เขาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรกับตนแต่ที่เขามาทำตัวใกล้ชิด และทำเหมือนง้อราวกับเ
“ไม่ได้การแล้ว” ขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เขาต้องเสียเธอไปจริง ๆ แน่ เขาอยากปรับความเข้าใจกับเธอเสียใหม่ แต่งานช่วงนี้ก็ช่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย เพราะพรุ่งนี้เขาก็ต้องเดินทางไปพัทยา กว่าจะกลับก็อีกสองวัน ระหว่างนี้เขาทำได้เต็มที่แค่โทรศัพท์คุยกับพลอยพัดชาเท่านั้น แต่ไม่สามารถมานั่งจับเข่าคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวได้เลยเอาไงดีวะครั้นพอนึกถึงข่าวที่กนกลดาส่งให้อ่านวันนี้ เกี่ยวกับพระเอกหนุ่มสุดฮอตที่ดูเหมือนจะตามจีบพลอยพัดชา ความไม่สบอารมณ์ ความหวาดหวั่นและไม่สบายใจก็โอบรัดรอบตัวจนเขาไม่อาจนั่งอยู่ในห้องทำงานต่อไปได้คิดได้ดังนั้น ชายหนุ่มจึงโทรศัพท์ชวนเพื่อนสนิทอย่างนพฤทธิ์ให้ออกมานั่งดื่มเพื่อผ่อนคลายสมองเช่นเคย“เฮ้ยเพื่อน ว่างไหม ชนแก้วกันหน่อยดีกว่า...อืม ร้านเดิมนะ”หลังจากนัดแนะกันเรียบร้อย ธามก็หยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ และกุญแจรถเดินออกจากห้องทำงานทันทีในห้องพักของคอนโดมิเนียมหรูย่านใจกลางเมือง กวินภพนั่งจมจ่อมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กภาพข่าวจากสื่อบันเทิงสำนักต่าง ๆ หล
ในเวลาเดียวกัน พลอยพัดชาก็กำลังนั่งดื่มด่ำกับไวน์รสเลิศริมสระว่ายน้ำในบ้านหลังใหญ่ โดยมีจินตวาตีนั่งดื่มอยู่ด้วย สองน้าหลานนั่งฟังเพลงที่เปิดจากโทรศัพท์มือถือแล้วต่อเข้ากับลำโพงบลูทูธด้วยสีหน้าผ่อนคลายทั้งคู่“พลอยอยากให้น้าจัดการอะไรไหมล่ะ” จินตวาตีถามขึ้นเบา ๆ ทั้งที่ยังหลับตาพลางโยกศีรษะอย่างเชื่องช้าไปตามจังหวะเพลง“น้าคิดว่าไงละ แต่พลอยไม่ซีเรียสนะเพราะพลอยไม่ใช่ดาราหรือเซเลบที่ไปไหนมาไหนจะต้องมีคนจำหน้าได้ และมีนักข่าวคอยแอบถ่ายรูปไปทำข่าว”พลอยพัดชายิ้มอ่อน ตามองน้ำในสระที่กระเพื่อมเล็กน้อยตามแรงลมแล้วกระทบกับแสงไฟสีส้มจนเกิดเป็นประกายระยิบระยับสวยงามจับตา“ถ้าเป็นข่าวบ่อยเข้า อีกหน่อยมันก็ไม่แน่หรอกย่ะ” จินตวาตีลืมตาขึ้นพลางเอื้อมไปหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบ“เขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันล่ะ เขาก็ดังพอตัวอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ก็ไหนว่างานละครกับงานอีเวนต์เพียบ ไหนจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้สินค้าตั้งหลายอย่าง แต่มาอยากเป็นข่าวกับพลอยเนี่ยนะ”จินตวาตีเงียบไปครู่หนึ่ง สักพักก็พูดขึ้นเบา ๆ
“พลอย” เขาเรียกเธอเสียงพร่า หญิงสาวจึงแกล้งละเลงลิ้นลงบนกล้วยอีกครั้งพลางตอบรับเบา ๆ“ขา พี่อยากทำงานก็ทำไปสิคะ พลอยก็แค่...หิว”พูดจบเธอก็ส่งกล้วยเข้าปากไปอีกครั้ง และเช่นเคยที่เธอไม่ยอมกัดกินมัน แต่กลับเอาออกมาแล้วส่งเข้าไปใหม่อีกสองสามครั้ง จนในที่สุดธามก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงเพื่อปิดเครื่อง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง“อุ๊ย!” สายตาของพลอยพัดชาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงเขาทันที เพราะตอนนี้มันเป็นรูปเป็นร่างจนเห็นเด่นชัด“ตื่นแล้วอะ ทำยังไงดีน้า” หญิงสาวใช้นิ้วชี้ลากเบา ๆ ไปตามรอยที่นูนขึ้นมาอย่างยั่วเย้า“ยั่วเก่งดีนักนะ แล้วอย่ามาบ่นละกันว่าปวดขาปวดเอว”เขาพูดจบก็คว้าสูทมาพาดไว้ที่แขนเพื่อเป็นการบังเป้ากางเกงไปด้วย มืออีกข้างก็โอบเอวภรรยาจอมยั่วพลางกระซิบว่า“กล้วยนี้มันไม่อร่อยหรอก ขึ้นไปกินกล้วยกับพี่บนห้องดีกว่า อร่อยกว่าเยอะแถมกินได้ไม่อั้น”พลอยพัดชายิ้มกริ่มพลางทิ้งกล้วยหอมนั้นลงถังขยะทันที จากนั้นก็เดินตามสามีออกจากห้องทำงานแล้วขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นบนสุ
สองปีต่อมาพลอยพัดชามองเงาตัวเองในกระจกแล้วอดยิ้มไม่ได้ ตอนนี้พุงของเธอป่องมากราวกับลูกโป่งใบใหญ่ เธอตั้งครรภ์ได้แปดเดือนแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เจอหน้าสาวน้อยที่อยู่ในพุง หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นเสียจนแทบนับวันถอยหลังรอแต่คนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อ เพราะตั้งแต่รู้ว่าเด็กในครรภ์เป็นลูกสาว ธามก็ลงทุนจัดห้องไว้รอรับด้วยตัวเอง ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีชมพูอ่อน ซื้อเตียงและเปลเจ้าหญิงเอาไว้รอ รวมถึงเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ล้วนเป็นสีชมพูและไม่ใช่แค่ธามเท่านั้นที่เตรียมห้องไว้รอบุตรสาวคนแรก จินตวาตีก็เช่นกันที่จัดเตรียมห้องไว้รอต้อนรับหลานสาวคนแรกที่จะได้เรียกตนว่าคุณยายหญิงสาวหยิบโลชั่นสำหรับกันรอยแตกลายมาทาเบา ๆ ที่หน้าท้อง เพราะแม้จะใกล้ได้เป็นคุณแม่แล้ว แต่ร่างกายส่วนอื่นของพลอยพัดชาก็ยังคงสภาพเดิม มีเพียงหน้าอกเท่านั้นที่ขยายใหญ่ขึ้นมาอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นแหล่งอาหารของเจ้าตัวเล็กในครรภ์ทว่าตอนนี้คนที่ดูจะคลั่งไคล้กับหน้าอกที่ขยายใหญ่ขึ้นของเธอเป็นพิเศษ เห็นจะเป็นสามีของเธออ้อมกอดอบอุ่นจากด้านหล
พลอยพัดชากับนลินทรายืนมองผืนน้ำสีเขียวมรกตด้วยแววตาระยิบระยับ นานมากแล้วที่ไม่ได้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ เพราะฉะนั้นมาทะเลครั้งนี้พวกเธอจะต้องเก็บเกี่ยวความสุขเอาไว้เติมพลังชีวิตให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้“พี่ธามไปไหนน่ะ” นลินทราถามถึงแฟนหนุ่มของเพื่อน“ไม่รู้สิ เห็นมีโทรศัพท์มาเมื่อกี้แล้วก็เดินไปคุยที่อื่นน่ะ” พลอยพัดชาตอบก่อนจะหันไปโบกมือให้จินตวาตีที่กำลังนั่งทาครีมกันแดดอยู่ในที่ร่ม“น้าจินนี่เอาชุดว่ายน้ำกับพร็อพมาเพียบเลยแก ทั้งหมวกเอย ผ้าคลุมเอย คือนางไม่ได้จะมาเล่นน้ำหรอก แต่จะมาเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เห็นบอกว่าจะเก็บไว้ดูตอนแก่” พลอยพัดชาได้ที จึงแอบเม้าท์ผู้เป็นน้า“ว่าแต่น้าจินนี่ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะยะ มาเที่ยวแค่สี่วันแต่กระเป๋าเดินทางตั้งสองใบ อีบ้า ทำอย่างกับจะมาอยู่เป็นเดือน” นลินทราค้อนให้เพื่อน พลอยพัดชาจึงได้แต่หัวเราะคิกคักทั้งสองสาวเห็นว่าเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาที่ชายหาดกันบ้างแล้วจึงหันไปมองหน้ากัน“ฉันว่าเราไป
“เจ้าค่า...คราวนี้ก็ออกกันยกแผงเลยสิคะ”“ใช่ ตอนนี้ให้ฝ่ายบุคคลของส่วนกลางประกาศรับพนักงานใหม่แล้ว ส่วนคนที่จะไปแทนตำแหน่งของพิษณุกับโชคชัยนั้น พี่ว่าจะลองคุยกับคุณพ่อดูว่าจะคัดเลือกคนเก่ง ๆ ของที่นี่ไปประจำอยู่สาขานั้นดีไหม ถือเป็นการเลื่อนตำแหน่งไปในตัว แล้วพลอยล่ะเป็นไงมั่ง”“ตอนนี้ที่ร้านได้พนักงานใหม่มาเพิ่มแล้วค่ะ หน่วยก้านดีใช้ได้ ไลฟ์สดเก่งด้วยเพราะเขาเคยไลฟ์ขายเสื้อผ้ามาก่อนก็เลยคล่องมากตอนอยู่หน้าจอ ส่วนน้าจินนี่อาการดีขึ้นมากแล้ว เริ่มให้พวกพี่เลี้ยงที่ดูแลศิลปินเข้าไปคุยเรื่องงานโดยตรงในห้องพักได้แล้วค่ะ เพราะจะได้ช่วยฟื้นความจำด้วย”“พูดถึงเรื่องนี้ก็นึกถึงไอ้ก้าว ตอนนี้ฝากขังไว้ที่เรือนจำแล้วละ รอศาลตัดสินโทษ แต่คิดว่าคงติดคุกไม่นานหรอก ไม่กี่ปี แต่เรื่องของเพื่อนพลอยนี่สิ กว่าคดีจะเสร็จสิ้นคงอีกนานเลย น่าจะเป็นปี”พลอยพัดชาได้ยินอย่างนั้นก็รู้ทันทีว่าเขาหมายถึงกนกลดา“ว้าย อย่ามาพูดอย่างนี้นะ นางไม่ใช่เพื่อนพลอยสักหน่อย แค่คนรู้จักยังไม่อยากจะเป็นเลย เท่ากับว่าตอนนี้นางกับพ่อก็ยัง
พลอยพัดชาตื่นขึ้นมาช่วงสายเพียงลำพังบนเตียงนอนหลังใหญ่ ไม่รู้ธามไปไหน แต่เดาว่าเขาคงลงไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสของโรงแรมตามเคยหญิงสาวพาร่างที่เมื่อยขบของตนไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย ครึ่งชั่วโมงถัดมาเธอก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยความสดชื่น แต่แล้วสายตาของเธอก็หยุดอยู่ที่กล่องกำมะหยี่สีแดงกล่องใหญ่บนเตียง ดูแล้วเหมือนกล่องใส่เครื่องประดับที่สามารถใส่ได้หลายชิ้นทั้งแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ กำไล และต่างหู“หรือว่าจะเป็นกล่องใส่นาฬิกาของพี่ธาม” เธอรู้ว่าธามเป็นคนที่ชอบสะสมนาฬิกา ก็เลยคิดว่าเขาคงหยิบมาเลือกใส่จึงไม่ได้สนใจมันอีก จากนั้นก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดของตนออกมาสวม“จะไม่เปิดดูหน่อยหรือ” เสียงทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตูห้องนอน หญิงสาวจึงหันไปมองตามเสียง ธามยืนเปลือยท่อนบน ใส่เพียงกางเกงลำลองอยู่บ้านสบาย ๆ กำลังยืนกอดอกและส่งยิ้มมาให้“กล่องนาฬิกาของพี่ธามรึเปล่าล่ะคะ”“ไม่ใช่ กล่องนั้นของพลอยทั้งกล่องเลย”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ถามจริง”เธอแขวนชุดไว
“เม็ดสีเหลืองคือพลอยปลอม วิธีสังเกตอย่างง่ายเลยก็คือให้ดูประกายของมันเวลาส่องกับแสง ถ้ามีประกายรุ้งคือปลอมชัวร์ เป็นพลอยที่สังเคราะห์ขึ้นมา และอีกวิธีที่สังเกตด้วยตาเปล่าได้ก็คือให้ดูที่เส้นของพลอย พลอยบางเม็ดมันจะมีเส้นตรงเรียง ๆ กันเป็นแถบให้เห็นกันเลย แต่บางเม็ดเราก็อาจจะต้องใช้ลูปหรือกล้องส่องพระขยายดูข้างในว่ามันมีเส้น ๆ พวกนี้ไหม จำไว้ว่าต้องเป็นเส้นตรงเท่านั้น ถ้ามีเส้นโค้งให้เห็นนั่นคือปลอม และถ้าใช้ลูปส่องดูแล้วมีฟองอากาศหรือรูปร่างกลม ๆ เหมือนโดนัทกระจายอยู่ นั่นก็ปลอมเหมือนกัน” พลอยพัดชาลองให้วนิตาใช้ลูปส่องพลอยดูด้วยตัวเอง“เส้นหรือแถบสีในเนื้อพลอยมันก็เหมือนลายนิ้วมือของคนเรานั่นแหละ แต่ละเม็ดก็จะแตกต่างกันไป ไม่มีเม็ดไหนที่เหมือนกันหรอก”พลอยพัดชาอธิบายพลางเดินไปหยิบถ้วยสีขาวในตู้มารองน้ำแล้วกลับมานั่งที่เดิม“และอีกวิธีที่ง่ายในการดูด้วยตาเปล่าก็คือการจุ่มน้ำ” เธอหยิบพลอยเม็ดสีเขียวมาจุ่มลงไปในน้ำแล้วถามว่า“นิตาเห็นอะไรไหม”“เห็นค่ะ มันเป็นแถบสีเป็นเส้น ๆ” วนิตาตอบ&
“ถ้าไม่มีผมก็ขอปิดประชุมครับ อ้อจริงสิ ผมลืมไป ผู้ช่วยคุณพิษณุกับคุณโชคชัยอย่าลืมไประงับการก่อสร้างเอาไว้นะครับ ส่วนคนงานพวกนั้นก็ให้กลับบ้านไปได้เลยเพราะเป็นคนของเคบี บิลท์ และเพิ่มพนักงานรักษาความปลอดภัยอีกสี่คนเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน”ธามพูดจบก็หันไปพยักหน้ากับบิดา จากนั้นก็พากันลุกเดินออกไปจากห้องประชุมทันที ซึ่งหลังจากคล้อยหลังคนทั้งสามแล้ว ในห้องประชุมก็มีแต่เสียงโอดครวญเพราะรู้อนาคตของตัวเองแล้วว่าจะเป็นอย่างไรกฤษณ์กลับถึงบ้านด้วยสีหน้าเครียดขึ้ง กนกลดาจึงรีบเดินมาหาบิดาทันที“เป็นไงบ้างคะคุณพ่อ”“มันมีหลักฐานครบทุกอย่างเลย งานนี้เราจบแน่”“แล้วเราจะทำยังไงดีคะ เราต้องติดคุกหรือคะคุณพ่อ” กนกลดาถามเสียงสั่น กฤษณ์ยืนใช้ความคิดครู่หนึ่งก็บอกบุตรสาวว่า“เราต้องหนีไปต่างประเทศแล้วละ แต่ก่อนอื่นเราต้องหาทางถ่ายโอนทรัพย์สินและเงินทั้งหมดไปไว้กับป้าของแกก่อน ไม่อย่างนั้นเราถูกยึดทรัพย์หมดตัวแน่”“แล้วพวกพนักงานที่บริษัทล่ะคะ”
“ว่าไงครับ ทำไมเงียบกันล่ะ” ธามยิ้มมุมปาก เพราะเข้าใจดีว่าพิษณุกับโชคชัยคงกำลังสงสัยและกังวลไม่น้อยว่าเขารู้อะไรมาบ้าง แต่ด้วยความที่วางตัวเป็นคนใหญ่คนโตมานานเกินไป จึงได้แต่เชิดหน้าอย่างหยิ่งผยอง“เธอมาไล่บี้กับพวกอาอย่างนี้ไม่ถูกนะ รู้ไหมว่าสมัยที่พ่อเธอ...” โชคชัยทำท่าขึงขัง แต่ธามไม่เปิดโอกาสให้พูดจบ“พ่อผมก็ส่วนพ่อผมครับไม่เกี่ยวกัน นั่นมันสมัยเมื่อกี่สิบปีมาแล้วล่ะ คนเรามันต้องเดินหน้าครับ ธุรกิจก็เช่นกัน ยิ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการโรงแรมหรือการท่องเที่ยวยิ่งย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ ทุกอย่างต้องเห็นแก่ประโยชน์ขององค์กรเป็นหลักครับไม่ใช่ตัวบุคคล ไอ้ระบบพวกมากลากไปหรือระบบผู้อาวุโสต้องถืออภิสิทธิ์เหนือคนอื่น คิดอยากจะมาทำงานวันไหนก็มาแต่เงินเดือนรับเต็มเดือน แล้วก็พวกใช้เส้นสายยัดญาติพี่น้องตัวเองเข้ามาทำงานแล้วแต่งตั้งตำแหน่งกันเอง ผมบอกตรงนี้เลยว่าผมไม่เอา”ชายหนุ่มลากเก้าอี้ออกแล้วหย่อนตัวลงนั่งพลางกวาดตามองหน้าผู้เข้าร่วมประชุมไปทีละคนอย่างช้า ๆ เพราะคนเหล่านี้ล้วนแต่ถืออภิสิทธิ์ชนทั้งสิ้น บางคนมาทำง
“คุณพ่อว่าไงนะ พี่ธามพาทีมวิศวกรมาตรวจเองโดยไม่บอกใครหรือคะ” กนกลดาถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าเมื่อครู่ตนไม่ได้หูฝาด“ก็ใช่น่ะสิ แสดงว่ามันคอยสบโอกาสเล่นงานเราอยู่แน่ ๆ”กฤษณ์หงุดหงิดจนไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้ ต้องลุกเดินไปเดินมาเพื่อคลายความร้อนรุ่มในใจ“แต่ดาว่าก็แค่ตัวเลขบางจุดไม่ตรงกันกับคราวก่อน เขาไม่น่าจะเล่นงานเราได้นะคะ”“เฮอะ! นี่แกคิดว่าคนอย่างไอ้ธามมันจะจ้างทีมวิศวกรลงมาตรวจงานเล่น ๆ หรือ มันทำแบบนี้ก็หมายความว่ามันมีหลักฐานที่สามารถเอาผิดพวกเราได้อยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว”กนกลดานิ่งไปทันทีที่ได้ยินบิดาพูดจบ “แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดีคะ หรือถ้าเราไม่ยอมรับเสียอย่าง เขาจะทำอะไรเราได้ คุณพ่อคิดว่าหลักฐานที่เขามีจะทำให้เราล้มได้เลยหรือ”กฤษณ์หันมามองหน้าบุตรสาวครู่หนึ่งแล้วพูดว่า“ถ้าพวกเราไม่ล้มแล้วมันจะทำอย่างนี้ไปทำไม”เขาพยักหน้าช้า ๆ เมื่อนึกถึงสีหน้าเย็นชากับสายตาที่เป็นอริของธามยามมองมาที่ตน“ไอ้ธามมันอดทนอดกลั้นได้ด