วันนั้นเป็นงานวันเกิดของบิดา และเป็นช่วงที่เขาเรียนจบปริญญาโทกลับมาจากเมืองนอกพอดี เขาเห็นพลอยพัดชาเดินไปเดินมาอยู่ในงานเพียงลำพัง นอกจากหยุดพูดคุยทักทายคนรู้จักเล็กน้อยแล้วเขาก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมากับครอบครัวหรือมากับแฟนจึงทำให้เขาสนใจเธอขึ้นมาทันทีตั้งแต่แรกเห็น
เขาแอบมองเธอเงียบ ๆ จนแน่ใจแล้วว่าหญิงสาวมาคนเดียวแน่นอน จึงตั้งใจจะเข้าไปทำความรู้จัก ทว่าหันไปมองอีกที เขาก็เห็นเธอผลุนผลันออกไปจากห้องจัดเลี้ยงราวกับมีเรื่องด่วน เขาแอบตามไปจนเห็นว่าหญิงสาวไปนั่งทรุดอยู่กับพื้นตรงมุมลับตาคนในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก จึงรีบปรี่เข้าไปหาเธอทันทีด้วยความตกใจ
แต่หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่าพลอยพัดชาเป็นบุตรสาวของเพื่อนสนิทที่ล่วงลับของบิดาเขาเอง อีกทั้งยังซี้ปึ้กกับธีรนาฏ น้องสาวของเขาอีกด้วยเพราะเรียนมัธยมมาด้วยกันตลอดหกปีเต็ม แต่เพราะเขาไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบมัธยมต้น จึงไม่เคยเจอหน้าพลอยพัดชามาก่อน พอรู้ว่าเป็นคนกันเอง และบิดาของเขาก็เอ็นดูเธอไม่น้อย จึงทำให้เขาปฏิบัติกับเธอไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่ง
ตลอดหลายปีมานี้ พลอยพัดชาคอยวิ่งตามเขามาตลอด แต่พอเธอหายหน้าไปร่วมครึ่งเดือน เขากลับรู้สึกเหมือนว่าชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง ยิ่งมาเห็นท่าทีไม่แยแส ราวกับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาของพลอยพัดชา เขาก็ยิ่งรู้สึกว่านี่มันไม่ถูกต้อง ในอกของเขาอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่ชินที่ถูกเธอเมินใส่
เป็นเพราะธามมัวแต่ตกอยู่ในภวังค์ ส่วนพลอยพัดชาก็มัวแต่มองไปทางนั้นทีทางนี้ที จึงไม่ทันเห็นว่าสายตาของนพฤทธิ์นั้นมีแววซุกซนเจ้าเล่ห์บางอย่าง เขามองสองหนุ่มสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะกระแอมขึ้นเบา ๆ แล้วถามพลอยพัดชาว่า
“จะว่าไปแล้วคุณพลอยนี่ก็จัดว่าเป็นคนสวยมาก ๆ คนหนึ่งเลยนะครับ ถึงแม้ว่าเคล็ดลับความงามจะอลังการงานสร้างไปหน่อยก็เถอะ แล้วทำไมถึงไม่คิดเป็นดาราเหมือนคุณนิ้งล่ะครับ”
นพฤทธิ์รู้ก่อนหน้านั้นแล้วว่าผู้จัดการส่วนตัวของนลินทราเป็นน้าแท้ ๆ ของพลอยพัดชา แต่เขาก็อยากรู้ว่าทำไมจินตวาตีถึงไม่ดันหลานสาวตัวเองเข้าวงการบันเทิง
“แหม คุณซีขา ถ้าพลอยเป็นดาราจริง ป่านนี้ยายนิ้งไม่ได้เกิดหรอกค่ะ” พลอยพัดชาลอยหน้าลอยตาตอบ
“กล้าพูด...นิ้งต้องขอโทษคุณซีด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกไว้ล่วงหน้าว่าเพื่อนของนิ้งคนนี้ค่อนข้างหลงตัวเองไปนิด ยังไงก็ทนฟังหน่อยนะคะ” นลินทราทำสีหน้าขอโทษขอโพยชายหนุ่ม
“ก็คนมันมีดีให้หลง หรือจะเถียง...ความจริงแล้วพลอยเห็นแก่เพื่อนค่ะ ถึงไม่คิดเข้าวงการ เพราะถ้าพลอยเป็นดาราจริง ๆ ละก็ คงแสดงบทอะไรไม่ได้หรอกค่ะนอกจากบทนางร้าย แล้วยายนิ้งจะไปทำมาหากินอะไรล่ะคะคุณซี” เธอพูดจบ ธามก็หัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วพูดว่า
“ข้อนี้เห็นด้วย...นางร้าย”
พลอยพัดชาตวัดตาส่งค้อนให้ชายหนุ่มทันทีพลางพูดเสียงลอดไรฟัน
“ใช่ซี้...”
ธามยิ้มอ่อนพลางเลิกคิ้วให้หญิงสาวโดยไม่พูดอะไร พลอยพัดชาจึงสะบัดหน้าไปทางอื่น ขณะที่นพฤทธิ์นั้นแววตายิ่งวาววามอย่างถูกใจ เขาหันไปคุยกับนลินทราอย่างทีเล่นทีจริงว่า
“คุณนิ้งครับ ผมว่าสองคนนี้เขาเหมือนแฟนกันเลยเนอะ ว่าไหม ดูสิครับมีงอนกันด้วย”
นพฤทธิ์ยิ้มแป้น ขณะที่นลินทราได้แต่ยิ้มเจื่อนเพราะกลัวใจเพื่อนจะลุกขึ้นมาเกรี้ยวกราด เธอยังไม่ทันพูดอะไรออกไป พลอยพัดชาก็เป็นฝ่ายแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ให้ชายหนุ่มฟังเสียก่อน
“เหมือนตรงไหนคะคุณซี ไม่เหมือนสักหน่อย พลอยนับถือพี่ธามเหมือนพี่ชายแท้ ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเองค่ะ พี่ธามก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ” เธอเน้นคำว่าพี่ชายอย่างจงใจ ก่อนพูดต่อ
“แต่จะว่าไป คุณซีพูดแบบนี้ออกมา ระวังนะคะจะทำให้ใครบางคนไม่พอใจเข้า เขายิ่งซีเรียสกับเรื่องนี้อยู่” ขณะที่พูด พลอยพัดชาก็เหลือบมองคนข้างตัวไปด้วย
ธามยิ้มบาง ๆ พลางยกเบียร์ขึ้นดื่มอึกหนึ่งอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มเหมือนไม่มีทีท่าจะโต้แย้งอะไร แต่เจ้าตัวกลับขยับไปนั่งเบียดพลอยพัดชา แขนข้างหนึ่งล้ำเส้นไปกินที่ของหญิงสาวจนต้นแขนชิดกัน
ชายหนุ่มวางแก้วเบียร์ลงแล้วหันไปถามพลอยพัดชาด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ ว่า
“ใครหรือที่ไม่พอใจ ทำไมพี่ไม่เห็นรู้เรื่อง มีคนซีเรียสกับเรื่องนี้ด้วยหรือ”
พลอยพัดชาหรี่ตามองเขาด้วยความหมั่นไส้ แล้ววันนั้นแมวที่ไหนไล่เธอให้ไปพ้น ๆ หน้าห้องทำงานของเขากัน ทีวันนี้ดันมาทำเป็นลืมเสียได้ คนนิสัยเสีย!
แล้วนี่อะไรกัน ทำไมเธอต้องมานั่งตัวลีบจนแขนจะฝังเข้าไปในผนังอยู่แล้ว!
“พี่มาเบียดพลอยทำไม” เธอมองเขาตาขวาง แต่คนหน้าตายกลับเลิกคิ้วขึ้นและทำหน้าเหลอหลาราวกับไม่รู้ว่าเธอพูดเรื่องอะไร
“เบียดอะไร เปล่าสักหน่อย พี่ก็นั่งของพี่ดี ๆ” เขาพูดพลางตักกุ้งแม่น้ำใส่จานให้เธอ
“ดีตรงไหน พลอยมีที่นั่งอยู่แค่นี้เองนะ แล้วดูของพี่ซิ” หญิงสาวยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาวัดขนาดของโต๊ะฝั่งที่ตนนั่งอยู่
“เหลวไหล เราก็พูดไปเรื่อย พูดแบบนี้แสดงว่าอยากนั่งตักพี่ละสิ คงไม่ได้หรอกนะพลอย คนเยอะแยะอายเขาเปล่า ๆ และเราก็ไม่ใช่พี่น้องกันสักหน่อย” เขาทำหน้านิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยคล้ายสั่งสอนเธอกลาย ๆ เหมือนตอนทำงานอยู่ที่โรงแรมแล้วเธอขึ้นไปชวนเขากินข้าวกลางวัน
“ใครอยากนั่งตักพี่ พลอยไม่ได้พูดสักหน่อย” เธอเชิดหน้าเถียงเขากลับ
“ไม่พูดแต่ก็คิดใช่ไหมล่ะ พี่รู้หรอกน่า เราน่ะชอบแอบคิดเกินเลยกับพี่”
“คราวนี้ไม่มีเกินเลยแน่นอน พี่สบายใจได้เลยเพราะพลอยเลิกคิดแล้ว” เธอโมโหจนแทบจะพ่นไฟได้
“ให้มันจริงเถอะ แล้วพี่จะรอดู”
เขายิ้มอย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า พลอยพัดชาเห็นแล้วอยากหาอะไรสักอย่างฟาดเขาสักทีให้สมกับความมั่นหน้าของเขา
ขณะที่ทั้งสองคนเถียงกันเบา ๆ อยู่นั้น นลินทราก็มองเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ดีว่าถึงแม้ภายนอกของพลอยพัดชาจะเหมือนไม่แยแส และโต้ตอบกับธามได้อย่างเป็นปกติ แต่ในใจนั้นคงเจ็บปวดไม่น้อย
เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลอยพัดชางอนจนอีกฝ่ายต้องหาทางทำให้หญิงสาวหายงอนด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของโปรดมาฝาก หรือการพูดจาเย้าแหย่อย่างที่เห็น และทุกครั้งก็จบลงที่เพื่อนของเธอหายโกรธแต่โดยดีแล้วก็วิ่งตามเขาต่อไป ส่วนธามก็กลับเข้าสู่โหมดปกติคือไม่ใส่ใจพลอยพัดชาเหมือนเคย
ไม่รู้ว่าคราวนี้ พลอยพัดชาจะใจแข็งได้อย่างที่ลั่นวาจาไว้หรือไม่ เพราะหากใจอ่อนอีกก็คงไม่แคล้วต้องเข้าสู่วังวนเดิม ๆ
“คุณนิ้งอย่าห่วงไปเลยครับ ให้พวกเขาปรับความเข้าใจกันนั่นแหละดีแล้ว” นพฤทธิ์หันมาพูดกับเธอเบา ๆ
“ไม่ดีหรอกค่ะ คุณน่ะไม่รู้อะไรซะแล้ว” นลินทราช้อนตาขึ้นแล้วค้อนให้เขาเล็กน้อย
“ผมเป็นเพื่อนธามมานาน ผมรู้ดีที่สุดว่าเขาเป็นคนยังไง ถึงเขาจะไม่แสดงออกอะไรมากมาย แต่ความจริงแล้วเขาแคร์คุณพลอยมากนะครับ”
“คุณเป็นเพื่อนเขา คุณก็ต้องเข้าข้างเขาเป็นธรรมดา แต่นิ้งเป็นเพื่อนพลอย นิ้งทีมพลอยค่ะ” เขาไม่ได้มานั่งฟังเพื่อนสนิทร้องไห้ปรับทุกข์ให้ฟังเหมือนอย่างเธอนี่
“อ้าว แล้วผมล่ะ” เขาพูดยิ้ม ๆ แต่สายตามองอย่างสื่อความนัยจนนลินทราต้องหลบตาวูบ และแก้เก้อด้วยการหยิบค็อกเทลมาดื่ม
มิน่าเล่าชายหนุ่มสองคนนี้ถึงได้เป็นเพื่อนสนิทกัน หน้ามึนด้วยกันทั้งคู่
พลอยพัดชานำมงกุฏเพชรประดับด้วยพลอยบุษราคัมลงกล่องกำมะหยี่สีม่วงเปลือกมังคุดพลางอมยิ้มเมื่อนึกถึงผู้ที่กำลังจะได้เป็นเจ้าของ หญิงสาวปิดฝากล่อง กดตัวล็อกแล้วก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นตัวอักษรสีทองที่อยู่บนฝาแด่คนงาม นาม...จินตวาตีวันนี้เป็นวันเกิดของน้าจินนี่ จินตวาตี ซึ่งจะมีงานปาร์ตีที่บ้านใหญ่ในช่วงหัวค่ำ งานนี้มีบรรดาดารานักแสดง รวมถึงคนในวงการบันเทิงที่สนิทชิดเชื้อไปร่วมงานกันมากมาย ซึ่งพลอยพัดชาก็ต้องไปร่วมงานให้ได้ เพราะผู้เป็นน้าลั่นวาจาเอาไว้ทุกปีว่าต่อให้เธอป่วยจนลุกจากเตียงไม่ไหว ก็ต้องถ่อสังขารไปทั้งเตียงและเสาน้ำเกลือธีมของงานคือเซ็กซี่ออนเดอะบีช จินตวาตีเนรมิตสวนและสระว่ายน้ำให้เป็นเกาะสวาทหาดสวรรค์ ฉะนั้นผู้ที่ไปร่วมงานก็ต้องแต่งตัวให้เข้ากับการไปเที่ยวทะเล ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ต้องมีบิกินีแน่นอน“พี่กลับก่อนนะคะ ต้องกลับไปเตรียมตัวสักหน่อย”พลอยพัดชาบอกกับพนักงานในร้านหลังจากที่นำมงกุฏห่อใส่กล่องของขวัญและผูกโบว์เรียบร้อยแล้วหญิงสาวเดินออกจากร้านเพื่อไปขึ้นรถที่จอดไว้ในโรงแรม เม
หญิงสาวมองธามจากกระจกมองหลัง เห็นเขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนจนกระทั่งรถของเธอเลี้ยวมาอีกด้าน ทำให้มองไม่เห็นเขาแล้วจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็กรี๊ดออกมาลั่นรถเพื่อระบายความอัดอั้น“อีตาบ้า อีคนหน้าตาย คิดจะอ่อยฉันเหรอ เชอะ! ไม่สำเร็จหรอกย่ะ รอให้ฉันตัดใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเมื่อไร ต่อให้มากอดแข้งกอดขาฉันก็จะเชิดหน้าให้คอเคล็ดไปเลย ฮึ!”ทีตอนที่เธอวิ่งตามเขา เขากลับไม่เคยแยแส แต่พอเธอตั้งใจว่าจะเลิกแคร์ เขากลับตามตอแยเธอไม่เลิกเมื่อกลับถึงคอนโดมิเนียม พลอยพัดชารีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว โชคดีที่เตรียมชุดไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จึงไม่เสียเวลากับการเลือกชุดที่จะใส่ไปงานปาร์ตีคืนนี้หญิงสาวเลือกบิกินีลายดอกลิลลี่สีชมพูพื้นดำ เครื่องสำอางต้องเป็นแบบกันน้ำเพราะงานนี้มีการกระโดดลงสระกันแน่นอน จากนั้นก็หยิบกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งมาสวมใส่ เพราะคงเดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้ ส่วนผ้าผูกเอวที่เอาไว้คลุมสะโพกค่อยเอาไว้ไปใส่ที่งาน รวมไปถึงดอกกล้วยไม้สำหรับทัดหูนั
“สวัสดีครับ ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เขายิ้มให้อย่างสุภาพ นลินทราจึงพยักหน้าให้เขา“เชิญค่ะพี่ก้าว ยายพลอย แกรู้จักพี่ก้าว กวินภพอยู่แล้วเนอะ น้าจินนี่เล่าให้ฟังแล้วใช่รึเปล่า” ประโยคหลังนลินทราหันไปคุยกับพลอยพัดชา“เล่าให้ฟังแล้วละ รู้ว่าเคยแสดงอะไรมาบ้าง แต่ยังไม่เคยคุยกัน”พลอยพัดชาตอบไปตามตรง เพราะหญิงสาวเคยเห็นเขาแค่ในโทรทัศน์ และโฆษณาบางตัวเท่านั้น“คุณพลอยจำผมได้ด้วย ผมดีใจนะเนี่ย” กวินภพยิ้มกว้าง สีหน้ามีแววขัดเขินเล็กน้อยนลินทราลอบสังเกตท่าทางที่กวินภพมีต่อพลอยพัดชาอยู่เงียบ ๆ เท่าที่เธอรู้มา พระเอกหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยมีข่าวเสื่อมเสียหรือข่าวซุบซิบให้ได้ยินสักเท่าไร เขาเป็นนักแสดงที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่สิ่งที่เธอติดใจมีเพียงอย่างเดียวคือเธอไม่รู้สาเหตุที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวที่เคยล่มหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ แล้วมาอยู่กับจินตวาตี เพราะตอนถามจินตวาตี อีกฝ่ายก็บอกเพียงว่าหมดสัญญากับคนเก่า และคนเก่าไม่ต้องการทำงานเป็นผู้จัดการให้แล้ว“ก็
“คุณพลอยมีแฟนรึยังคะ หนุ่ม ๆ ในงานสนใจกันหลายคนเลยนะเนี่ย”เจ้าตัวพูดจบ เสียงของหนุ่ม ๆ ที่ว่าก็พร้อมใจกันเฮขึ้นมาทันทีแล้วตะโกนพูดพร้อมกันว่า...ไม่มี...ไม่มีพลอยพัดชาคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดใส่ไมโครโฟนสองคำสั้น ๆ “โสดค่ะ”ทันทีที่พลอยพัดชาพูดจบ เสียงปรบมือและเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจก็ดังขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะถูกดับฝันด้วยคำพูดของเจ้าของงานวันเกิดว่า“ไม่อนุญาตให้จีบนะคะ คนนี้คือแก้วตาดวงใจของเจ๊ค่ะ” เสียงโห่ด้วยความเสียดายดังขึ้นทันทีที่จินตวาตีพูดจบ“โธ่ น้าจินนี่ อยู่บนคานมันหนาวนะ ไม่เห็นใจหลานบ้างเลย พลอยยิ่งหาแฟนยากอยู่” พลอยพัดชาแกล้งทำหน้าง้ำ จินตวาตีจึงยักไหล่พลางเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า“ช่วยไม่ได้ย่ะ ในเมื่อน้าอย่างฉันที่สวยแซ่บกว่าหล่อนขนาดนี้ยังหาผัวไม่ได้ หล่อนที่เป็นหลานก็อย่าหวังเลยว่าจะมีผัวได้ก่อนน้า”เสียงกรี๊ดกร๊าดและหัวเราะก็ดังขึ้นทันที่ที่เจ้าของงานวันเกิดพูดจบจากนั้นปาร์ตีก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ยิ่งมีปาร์ตีโฟมในสระว่ายน้ำ แต่ละคนจึงพากันลงไปเล่นน้ำ
วันต่อมา พลอยพัดชาเข้าร้านตามปกติ ทว่ายังไม่ทันจะวางกระเป๋า ร้านพัดชา เจมส์ก็ได้ต้อนรับพระเอกหนุ่มมาแรงอย่างกวินภพที่แวะมาเยี่ยมเยียนพลอยพัดชาถึงร้าน ทำเอาพนักงานตื่นเต้นกันมาก ต่างพากันขอถ่ายรูปคู่กับเขาคนละรูปสองรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันทุกคนหลังจากถ่ายรูปร่วมกันเสร็จเรียบร้อย กวินภพก็ค้อมศีรษะขอบคุณทุกคนพร้อมกับฝากฝังผลงานละครเรื่องใหม่อย่างเป็นมิตร ก่อนจะหันมายิ้มให้เจ้าของร้านสาวสวยที่ยืนกอดอกมองความวุ่นวายเมื่อครู่ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ“ไม่ทราบว่าคุณพลอยยุ่งอยู่รึเปล่าครับ ผมมารบกวนรึเปล่า”“เปล่าค่ะ พลอยเพิ่งมาถึงร้านเอง ว่าแต่คุณก้าวเถอะ มาทำธุระแถวนี้หรือคะ หรือว่ามาหาซื้อแหวนสักวงให้แฟน พลอยแนะนำให้ได้นะ”พลอยพัดชาใช่ว่าไม่รู้ว่าพระเอกหนุ่มคนนี้สนใจตน เพราะคืนวันนั้นสายตาของเขาเวลาที่มองเธอก็แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกวินภพเป็นดาราในสังกัดของจินตวาตีกระมัง เธอจึงมองเขาเป็นเพื่อน หรือเป็นพี่มากกว่าอีกทั้งพลอยพัดชามั่นใจว่า หากกวินภพได้รู้จักกับเธอนานวันเ
“ก็ไม่แน่ว่ะ ถึงขั้นตามไปหาที่ร้านนี่ก็ไม่ใช่เล่น ๆ แล้วมั้ง แกไม่ลองพิจารณาเขาบ้างหรือ” นลินทราพูดเสียงเบาราวกับกลัวคนอื่นได้ยิน จึงทำให้พลอยพัดชารู้ว่าบริเวณที่เพื่อนนั่งอยู่นั้นมีคนอื่นเดินผ่านพอดี“คงไม่ละ เป็นเพื่อนกันไปนั่นแหละดีแล้ว ฉันไม่ชอบมีแฟนเป็นดารา ขอผู้ชายธรรมดาดีกว่า”“ผู้ชายธรรมดาที่แกว่าน่ะ หมายถึงพี่ธามหรือพี่พัฒน์ล่ะยายบ้า สองคนนี้เรียกผู้ชายธรรมดาที่ไหนกัน คนหนึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม อีกคนเป็นเจ้าของบริษัทน้ำอัดลม หูย...อีสวยเลือกได้ ฉันละอยากรู้จริงเชียวว่าถ้าพี่ธามเห็นภาพข่าวพวกนี้แล้วเขาจะเป็นยังไง”พลอยพัดชาเบ้ปาก “จะเป็นยังไงล่ะ ก็คงดีใจจนเนื้อเต้นละมั้งที่ฉันมีคนมาจีบสักที จะได้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับเขาอีก แต่แกเชื่อเถอะว่าเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอก เพราะพี่ธามเขาสนใจข่าวซุบซิบดาราพวกนี้ที่ไหน วัน ๆ ดูแต่ข่าวเศรษฐกิจกับการเมือง ดีไม่ดี ดาราผู้หญิงคนเดียวที่เขารู้จักก็คงมีแต่แกนั่นแหละนังนิ้ง”หญิงสาวพูดจบก็ต้องเบิกตากว้าง เพราะตอนนี้หน้าร้านมีใครบางคนกำลังแหงนหน้ามองป้ายชื่อร้านราวกับดูให
เขารู้จักพลอยพัดชาดี เธอเป็นคนที่ไม่ยอมลงให้คนอื่น ยิ่งกับคู่อริด้วยแล้วยิ่งไม่มีทาง ดังนั้นถ้าเธอเห็นว่ากนกลดาไปกินข้าวด้วยกัน เขายังคิดว่าพลอยพัดชาจะต้องตามไปด้วยเพื่อต้องการขัดแข้งขัดขาอีกฝ่ายเป็นแน่ แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังธามผงกศีรษะให้กนกลดาเป็นเชิงบอกว่าออกจากร้านกันได้แล้ว ครั้นพอเดินออกมาไม่เท่าไร เขายังอดหันกลับไปมองด้านหลังไม่ได้เพราะคิดว่าอีกเดี๋ยวพลอยพัดชาจะต้องตามมาแน่ แต่เธอก็ไม่มา สุดท้ายจึงได้แต่ถอดใจแล้วเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่ช้าไม่เร็วขณะเดียวกัน พลอยพัดชาก็นั่งเท้าคางพลางเหยียดยิ้มมุมปากเมื่อคิดถึงเรื่องสนุกที่ตนกำลังจะลงมือทำ ป่านนี้สองคนนั้นคงเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไร คิดได้ดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วเดินออกจากร้านตามไปทันทีธามกับกนกลดาเดินนำอยู่ข้างหน้าประมาณสิบเมตรได้ เธอเห็นธามเดินเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างซึ่งนั่นเป็นอาการเวลาที่เขาไม่ต้องการใกล้ชิดกับอีกฝ่ายมากเกินไป ขณะที่กนกลดานั้นพยายามเดินเอาแขนของตนไปชนแขนของชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้งพลอยพัดชาเร่งฝีเท้าก้าวให้ทันคนทั้งคู่ จากนั้นก็จงใจแทรกตรงกลางระหว่างคนทั้งสองโดยจงใจใช้ลำตั
ธามมองอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อสแกนว่าไม่มีจานไหนที่มีถั่วเป็นส่วนประกอบ แม้จะรู้ว่าพลอยพัดชาย่อมระวังตัวเองอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังวางใจไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดคือเขาจะให้กนกลดารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่าพลอยพัดชาแพ้ถั่วทุกชนิด เพราะสองคนนี้ไม่ใช่แค่ไม่ถูกชะตากันธรรมดา แต่เรียกว่าเกลียดกันมากเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้เสียอีกยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะหยิบตะเกียบ เขาก็ถูกคนข้างตัวใช้มือดันให้เข้าไปด้านในของเก้าอี้อีกครั้ง“กระเถิบไปเลย พลอยนั่งไม่สะดวก นิสัยเสีย มานั่งติดคนอื่นเขาอยู่ได้”ธามยิ้มอ่อนพลางขยับเข้าไปเพียงเล็กน้อยพอให้เธอจับตะเกียบได้สะดวกขึ้น แต่ก็ยังไม่วายเย้าแหย่ให้เธอเหวี่ยงใส่ด้วยการพูดว่า“พี่นั่งของพี่ตรงนี้อยู่ดี ๆ เรานั่นแหละมาเบียดพี่ หรือจะย้ายไปนั่งกับคุณดาเขาก็ได้นะ”“แหวะ! ไม่เอาหรอก เดี๋ยวสนิมเกาะ” พูดจบก็ทำสีหน้ายี้ใส่กนกลดา จนอีกฝ่ายเริ่มทนไม่ไหวแล้ว“นังพลอย!”แม้จะถูกกนกลดาตวาดใส่แต่เสียงก็ไม่ดังนักเพราะอีกฝ่ายยังเกรงใจธามและโต๊ะข้างเคียงอยู่ เห็นดังนั้นพลอยพัดชาจึงอด
พลอยพัดชาอมยิ้มขณะที่อ่านข่าวเหล่านั้นจากโทรศัพท์มือถือของตน ตอนที่เธอกับจินตวาตีคาดเดาความสัมพันธ์ของกวินภพกับปวีณาเมื่อคราวนั้น เธอยังอดสงสารฝ่ายหญิงไม่ได้ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้ความสงสารไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นภาพและคลิปต่าง ๆ ที่ธามนำมาให้ดู เธอจึงรู้ทันทีว่าสองคนนี้ร่วมมือกัน“จริงสิ พี่ธามให้ใครส่งรูปพวกนั้นให้พวกเพจข่าวหรือคะ ไหนจะพวกที่ไปตอบคอมเมนต์ว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับสองคนนั้นอีก เขาเป็นจริง ๆ รึเปล่า แล้วไม่กลัวโดนฟ้องหรือไง”ธามยิ้มอ่อนพลางตอบว่า “จะใครเล่า ก็ยายนาฏไง”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ยายนาฏหรือ อ้าว! แล้วแอคเคาน์พวกนี้ล่ะ”“เป็นแอคเคาน์สำรองของเพื่อน ๆ เขาที่อเมริกาน่ะ ถ้าคิดจะฟ้องก็เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะตักกุ้งทอดซอสมะขามใส่ในจานข้าวให้หญิงสาวแล้วพูดว่า“กินข้าวเถอะ อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลย รอดูฟีดแบ็กที่ตามมาดีกว่า”“พลอยอยากเห็นหน้านายก้าวจริง ๆ ว่าถ้าเห็นข่าวพวกนี้แล้ว
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
พลอยพัดชาเดินเข้ามาในโรงแรมพลางโทรศัพท์หานลินทราไปด้วย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หญิงสาวจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะวุ่นอยู่กับการซ้อมบทจึงไม่คิดโทร. ไปรบกวนอีกหญิงสาวกดลิฟต์ไปชั้นสิบเอ็ดแล้วเดินไปยังห้องที่ข้อความบอกเอาไว้ เมื่อมาถึงห้องหมายเลยหนึ่งหนึ่งศูนย์สี่ จึงเคาะเบา ๆ แล้วรอให้ทีมงานมาเปิดประตูเมื่อประตูเปิดแง้มออก พลอยพัดชาได้ยินเสียงนลินทราดังแว่วมาจึงลองชะโงกหน้าเข้าไปแล้วเรียกเพื่อนเบา ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือแข็งแรงจากด้านในฉุดข้อมือของเธอจนถลาไปตามแรงนั้น และในที่สุดก็ต้องมายืนอยู่ในห้องจนได้พลอยพัดชาหน้าเหวอทันทีเพราะเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ในห้องนี้เลย และเสียงของนลินทราที่ได้ยินก็เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงรีบหันหลังกลับทันที แต่พอหันมาก็ต้องเจอกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอไม่คิดอยากเจอที่สุดในโลกยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหมายความว่าเมื่อครู่เขาแอบอยู่หลังประตู และเป็นคนฉุดเธอเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย“ถอยไป!” เรื่องราวเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว พลอยพัดชาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดดี ๆ กับอีกฝ่ายอีก&ldqu
พลอยพัดชาอมยิ้มเมื่อเห็นธามตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ นั่นก็เพราะการกรีดแผ่นหลังของเขาแบบนี้เป็นการกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้ตื่นเพริด ยิ่งถ้าเธอทำตอนนัวเนียกันอยู่บนเตียง เขาจะแหงนหน้าขึ้นแล้วครางออกมาอย่างลืมตัวเสมอ“แขกของพี่ธามนี่เขาไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือคะ เห็นมาทีไรก็มาตอนเที่ยงทุกที เขาไม่รู้หรือไงว่าตอนเที่ยงพนักงานทุกคนก็ต้องพักเที่ยงไปกินข้าวกินปลา”พลอยพัดชาเห็นกนกลดากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเห็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดจากฝีมือของตนครั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างเธอจึงชิงพูดขึ้นก่อนเพราะไม่ต้องการปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด“อ๋อรู้แล้ว ที่มาตอนเที่ยงทุกครั้งก็หมายความว่าเป็นเพราะเขาอยากชวนพี่ไปกินกลางวันด้วยใช่ไหมคะ อุ๊ยตาย ช่างมีความพยายามสูงส่งซะจริ๊ง”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ฉันมาคุยเรื่องงานกับพี่ธาม”กนกลดาแทบเค้นเสียงพูด สีหน้าแววตามีแต่ความกรุ่นโกรธอัดแน่นเต็มที่ แต่พลอยพัดชากลับไม่สนใจ เธอเปิดฝากล่องข้าวหน้าเนื้อจนกลิ่นหอมของอาหารโชยเข้าจมู
“ใกล้ถึงวันเกิดของเขาน่ะ แต่พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาดีก็เลยคิดว่าน่าจะซื้อแหวนให้สักวง”“แล้วพี่พัฒน์คิดว่าจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้รึเปล่าคะ หรือว่ายังไม่ได้กำหนด”พลอยพัดชาลองเลียบเคียงถาม เพราะจะได้เลือกสินค้าให้เขาได้ตรงตามความต้องการของอีกฝ่าย“ยังไม่ได้คิดเรื่องหมั้นเลย พี่เพิ่งคบกับเขาได้เดือนสองเดือนนี่เอง” สีหน้าของชายหนุ่มมีความขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้นพลอยแนะนำว่าเป็นต่างหูหรือสร้อยคอสร้อยข้อมืออะไรพวกนี้ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าให้แหวนกัน คนรับอาจจะคิดว่านี่คือการขอหมั้นทางอ้อม”เธอแนะนำอย่างเป็นกลาง เพราะอย่างไรเสียการให้แหวนกันนั้น อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคนให้ต้องการหมั้นหมายก็เป็นได้จากที่ฟังเขาพูดมา ดูเหมือนรพีพัฒน์ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้นเพราะเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ซึ่งหากฝ่ายหญิงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องหมั้นเช่นกัน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายก็ให้แหวนแทนใจ อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการผูกมัดทางอ้อม และสิ่งที่จะตามมาก็คือความอึดอัดถ้าหากเจ้าตัวยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้&ldqu
“ฉันไม่น่ารับปากยายปลาแล้วเอามันมาอยู่ในสังกัดเลย ชักศึกเข้าบ้านตัวเองแท้ ๆ”“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดน่าน้าจินนี่ อีกอย่างนะ เขาเองก็กำลังดังเป็นพลุแตก ใคร ๆ ก็อยากได้เขากันทั้งนั้น” พลอยพัดชาเอ่ยปลอบใจผู้เป็นน้า“เรื่องยายปลาน้าไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นน่ะสิ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้ก้าวมันจะทำได้”“พลอยก็ว่างั้นแหละ เขาไม่กลัวคนจะจำได้เลยเนอะ เวลาออกสื่อน่ะ”จินตวาตีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้าคิดว่าก็คงมีคนจำได้บ้างนั่นแหละ และก็รู้กันแค่วงในไม่กี่คน แต่เขาไม่เอามาพูดกัน เพราะสมัยนี้เอะอะอะไรก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนมันต้องทำมาหากิน ไม่มีใครว่างพอจะมานั่งติดตามเรื่องพวกนี้หรอก”พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงเนอะ คนกลุ่มเล็ก ๆ แค่ไม่กี่คนกับคนกลุ่มใหญ่ที่รู้จักฐานะของเขาว่าเป็นพระเอกคนดัง ยังไงกลุ่มหลังเสียงมันก็ดังกว่า”“นี่ถ้านังแอ๊ดดี้กับนังเบนซ์มันรู้เข้าคงได้หัวเราะเยาะฉันจนกรามค้างแน่ พวกนั้นมันยิ่งรอดูฉันล้ม
ธามยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดจะใช้เรื่องคีย์การ์ดมาจัดการกับพิษณุด้วยการยื่นหนังสือให้ฝ่ายบริหารทุกคนทราบว่าอีกฝ่ายทำผิดกฎร้ายแรง และไล่ออกให้พ้นจากบริษัทไป แต่วันนี้หลังจากที่ตรวจไซต์งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าการไล่ออกให้พ้นจากตำแหน่งดูจะลงโทษน้อยไปหน่อย“พี่คิดว่าไหน ๆ ก็จะเอาเรื่องเขาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด การไล่ออกโทษมันเบาไปหน่อย เพราะแผนที่พี่วางเอาไว้น่ะนอกจากจะไล่ออกแล้ว ยังส่งพวกมันเข้าคุกและฟ้องร้องเรียกเงินค่าเสียหายได้อีกด้วย โทษฐานทุจริต”พลันนั้นเขานึกถึงสายตาคับแค้นของกฤษณ์ตอนที่มองพลอยพัดชาจึงอดเตือนเธอไม่ได้“พลอยต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าดากับพ่อของเขาจะมาเล่นงานพลอยรึเปล่า พ่อลูกคู่นี้น่ะเล่นงานคนอื่นมาเยอะ พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่ว่าพลอยย้ายมาอยู่กับพี่ที่เพนต์เฮาส์เถอะ”“โน!”“ไม่คิดจะกลับไปตัดสินใจก่อนหรือ พี่เป็นห่วงพลอยจริง ๆ นะ”“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพี่น่ะ ทำมาเป็นพูดดี ไม่ต้องเลย ต่างคนต่างอยู่ไปนั่น
ธามยักไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว เพอร์เฟกต์อย่างพี่น่ะหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะฉะนั้นพลอยต้องจับไว้ให้แน่น ๆ ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยนะ”พลอยพัดชาเบ้ปากใส่ทันที “ขอโทษนะคะ ประโยคนั้นพลอยควรเป็นคนพูดมากกว่าค่ะ”“ครับผม ยอมแล้วครับ แต่ก่อนอื่น กรุณาอย่าหลับในรถนะครับคนสวย มันอันตรายนะคุณผู้หญิง ถ้าคิดจะงีบก็กรุณาเลื่อนกระจกลงมาสักนิดก็ยังดี”“ก็ตอนแรกไม่คิดว่าจะหลับสักหน่อย เล่นมือถืออยู่ดี ๆ เล่นไปเล่นมาหลับตอนไหนยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มาเคาะกระจกเรียกนั่นแหละ ปกติพลอยไม่เคยหลับตอนกลางวันเลยนะ เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่ล้วน ๆ ที่ทำให้พลอยต้องนอนไม่อิ่ม” เธอค้อนให้เขาธามหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมไปจับมือของเธอให้มาวางไว้บนตักของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า“พลอยค้างกับพี่อีกคืนได้ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเที่ยวที่เด็ด ๆ”“ที่ไหน บาร์อะโกโก้หรือ” หญิงสาวปรายตามองเขา“เฮ้ย รู้ได้ไง” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใช่แล้ว พี่จะพาพลอยไปเที่ยวบาร์อะโกโก้ แต่มันไม่ใช่บาร์อนาจารแบบที่พลอยเข้าใจนะ ที่นั่นจะมีผู้หญิงเต้น