ธามเงยหน้ามองปฏิทินตั้งโต๊ะ ก่อนจะกดดูโทรศัพท์ของตนเพื่อดูว่าวันนี้เป็นวันที่เท่าไร ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาต้องไปประชุมที่พัทยาสามวัน แต่สัปดาห์นี้เขาอยู่ออฟฟิศตลอดไม่ได้ไปไหน และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์แล้ว แต่ยังไร้วี่แววของคนที่เคยมาชวนเขาไปกินข้าวทุกวันเช่นเคย
นับ ๆ ดูก็ร่วมสองสัปดาห์เข้าไปแล้วที่พลอยพัดชาหายหน้าไปเลย
เขานึกถึงประโยคที่หญิงสาวพูดด้วยความโกรธวันนั้นขึ้นมาทันที
‘ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพลอยจะไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีกเลย จะไม่มายุ่งวุ่นวายให้พี่ต้องรำคาญอีกแล้ว’
“คราวนี้โกรธจริงหรือเนี่ย”
เขาส่งข้อความไปหาหญิงสาวหลายครั้ง เธออ่านแต่ไม่ตอบ เคยลองโทรศัพท์ไปหาแต่เธอก็ไม่รับ นับว่าครั้งนี้เป็นการไม่เจอหน้ากันนานที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมาก็ว่าได้
คราแรกเขาคิดจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไป เพราะอย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พลอยพัดชาจะได้เลิกหวังในตัวเขา ทว่าพอเอาเข้าจริงเขากลับรู้สึกเหมือนชีวิตประจำวันขาดอะไรไปบางอย่าง
“ช่างเถอะ” ธามถอนหายใจแผ่วพลางปัดเรื่องของพลอยพัดชาออกไปจากหัวแล้วก้มหน้าจดจ่อกับคอมพิวเตอร์ตรงหน้าต่อ เบื้องหน้าเขามีรายงานจัดซื้อจัดจ้างที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างส่งมาให้อนุมัติ หากแต่นิ้วมือของเขากลับเลื่อนไปเปิดหน้าเบราว์เซอร์แล้วคลิกเข้าเฟซบุ๊กของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ปกติธามเป็นคนที่ไม่ค่อยติดโซเชียลเท่าไรนัก แต่พักหลังมานี้ ถ้ามีเวลาว่างหรือไม่มีอะไรทำ เขามักจะเข้าเฟซบุ๊กเพื่ออ่านข่าวทั่วไป รวมถึงดูความเคลื่อนไหวของบรรดาเพื่อนฝูงอยู่เสมอ และคนที่ชายหนุ่มต้องกดเข้าไปดูชีวิตประจำวันของอีกฝ่ายอย่างอดไม่ได้ทุกครั้งที่เข้ามาก็คือพลอยพัดชา โดยที่ธามเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตนถึงต้องทำอย่างนั้น และวันนี้ก็เช่นกันที่เขาเผลอเข้าไปดูความเคลื่อนไหวของหญิงสาวก่อนเป็นอย่างแรก
พลอยพัดชายังคงเพื่อนเยอะเหมือนเคย หญิงสาวสนิทสนมกับนักแสดงหลายคนทั้งผู้หญิงและผู้ชายเพราะมีน้าเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ดารา ข้อนี้เขารู้ดีอยู่แล้ว แต่มีคนหนึ่งที่เขาเห็นแล้วได้แต่คาใจ เป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาดี และดูเหมือนเพิ่งจะมาสนิทกับพลอยพัดชาได้ไม่นาน เพราะเพิ่งเห็นรูปของอีกฝ่ายในช่วงหลังมานี่เอง
“หืม...” ทว่าดูเหมือนความคิดนั้นต้องถูกตีตกไป เมื่อเขาเห็นรูปที่ทั้งสองคนถ่ายด้วยกันครั้งล่าสุดเมื่อไม่กี่วันนี้เอง เป็นรูปที่ฝ่ายชายโพสต์เอาไว้ที่หน้าโพรไฟล์ส่วนตัว แล้วแท็กชื่อของพลอยพัดชา โดยมีข้อความเขียนเอาไว้ว่า
...อยากเป่าถ่านไฟเก่าให้คุจัง ผมต้องทำยังไงดี...
“แฟนเก่าของพลอยหรือ”
พลอยพัดชาไปมีแฟนตั้งแต่ตอนไหน เพราะตั้งแต่รู้จักเธอมาตลอดหลายปีนี้ เขาไม่เคยเห็นหญิงสาวคบหากับผู้ชายคนไหนสักคน เธอเอาแต่คอยตามเขาต้อย ๆ อย่างไม่ลดละ แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน
ธามยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ โทรศัพท์ของเขาก็สั่นครืดคราดอยู่บนโต๊ะ ครั้นพอมองไปแล้วเห็นชื่อเพื่อนสนิทเป็นคนโทร. มาหาจึงรีบกดรับ เพราะอีกฝ่ายคงนัดดื่มหลังเลิกงานเช่นเคย
“เออ ว่าไง” เขานิ่งฟังปลายสายพูดมาประโยคหนึ่งก็ตอบรับกลับไปทันทีโดยไม่ลังเล
“โอเค คืนนี้เจอกันที่เดิม”
ธามกดวางสาย แต่สายตายังคงมองรูปบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แทบไม่กะพริบ จู่ ๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล และตอนนี้เขาก็ไม่มีอารมณ์จะทำงานต่อแล้ว จึงตัดสินใจปิดหน้าจอแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงานของตนทันที
ข้างโรงแรมลักซ์ แกรนด์ มิราจ ถัดไปจากร้านจิวเวลรี่ของพลอยพัดชา มีร้านกาแฟชื่อดังตั้งอยู่ในศูนย์การค้าขนาดย่อม ธามตั้งใจจะเดินไปซื้อมาดื่มสักแก้ว และบอกตัวเองว่าลงไปเดินเล่นสักหน่อยเพื่อผ่อนคลายสมองก็คงดี แต่ขณะที่เดินผ่านร้านพัดชา เจมส์นั้น ชายหนุ่มก็อดมองเข้าไปในร้านไม่ได้
ไม่เห็นแฮะ...
พลอยพัดชาไม่ได้อยู่หน้าร้าน แต่ไม่เป็นไร ขากลับจากซื้อกาแฟ เขาค่อยแวะมาดูอีกทีก็ได้
ทว่าหลังจากเขาซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาก็ยังไม่เห็นหญิงสาวเช่นเคย สุดท้ายการกระทำไปไวกว่าสมอง กว่าจะรู้ตัว ธามก็พบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในร้านพัดชา เจมส์แล้วเรียบร้อย
พนักงานขายสามสี่คนที่อยู่ในนั้นหันมองเขาเป็นตาเดียว หญิงสาวกลุ่มนี้รู้ดีอยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร หนึ่งในนั้นจึงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นก่อนว่า
“มาหาคุณพลอยหรือคะ”
ธามกระแอมเบา ๆ ก่อนตอบ “ครับ พลอยอยู่ไหม”
“คุณพลอยเพิ่งออกไปได้สักครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เองค่ะ ไลฟ์เสร็จก็กลับบ้านเลย”
ธามยิ้มบาง ๆ พร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย “โอเคครับ ขอบคุณมาก”
เขาพูดจบก็เดินออกจากร้านทันทีโดยไม่เหลียวหลัง ครั้นพอเข้ามาในเขตโรงแรมของตัวเองแล้ว ชายหนุ่มก็ผ่อนลมหายใจออกมาราวกับโล่งอก
“เราทำอะไรลงไปวะเนี่ย”
พลอยพัดชามองเงาของตัวเองในกระจกแล้วจัดการเก็บผมที่หลุดลุ่ยออกมาให้กลับเข้าไปอยู่ในหมวกคลุมผมตามเดิม หญิงสาวหันหน้าตัวเองไปทางซ้ายและขวา เมื่อเห็นว่าผิวหน้าถูกพอกด้วยครีมพอกหน้าทุกพื้นที่แล้วจึงล้างมือแล้วออกจากห้องน้ำ เปิดโทรทัศน์เพื่อดูซีรีส์เกาหลีที่ดูค้างไว้เมื่อวานระหว่างที่รอครีมพอกหน้าแห้ง
เสียงโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะตรงหน้าดังขึ้น พลอยพัดชาจึงเอื้อมไปหยิบแล้วกดรับสายเมื่อเห็นว่าผู้ที่โทร. เข้ามาคือนลินทรา แต่เพราะครีมที่พอกหน้าไว้เริ่มแห้ง เสียงของเธอจึงฟังอู้อี้แปลก ๆ เพราะเจ้าตัวไม่อยากขยับปากมากนักด้วยเกรงว่าครีมพอกหน้าจะหลุดล่อน
“ว่าไงยะ”
“ยายพลอย แกอยู่บ้านใช่ไหมเนี่ย” เสียงของนลินทราเจื้อยแจ้วมาตามสาย อีกทั้งรอบข้างยังมีเสียงเพลงและเสียงจ้อกแจ้กจอแจ บ่งบอกให้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน
“เออสิ วันนี้ถอดนอหนึ่งวัน พักร่างซะมั่ง”
ตั้งแต่พลอยพัดชาตั้งใจว่าจะไม่ไปวุ่นวายกับธามอีก เธอก็ไม่ไปตามที่ได้พูดไว้จริง ๆ แต่เพราะสภาพจิตใจที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ช่วงนี้หญิงสาวจึงปาร์ตีสังสรรค์กับเพื่อนแทบทุกคืน
“แล้วทำไมเสียงเป็นแบบนั้นวะ อย่าบอกนะว่าร้องไห้อยู่น่ะนังพลอย” นลินทราแว้ด ๆ มาตามสาย
“ฉันพอกหน้าอยู่ แกอย่ามาชวนฉันคุยเยอะ ถ้าหน้าฉันเหี่ยวขึ้นมาฉันจะไปเอาเงินค่าโบท็อกซ์กับแกนะยะนังนิ้ง ตกลงมีเรื่องอะไร” พลอยพัดชาแหวเสียงแหลมกลับไปบ้าง
“แกรีบไปล้างหน้าแล้วแต่งตัวให้สวยที่สุดมาที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะยะ ด่วน!”
“นี่นังนิ้ง ฉันแต่งชุดไหนก็สวยอยู่แล้วปะวะ ก็ฉันสวยนี่ แล้วที่แกจะให้ฉันรีบไปนี่ แสดงว่ามีผู้งานดีจะแนะนำให้รู้จักอีกละสิ แหม ริอ่านเป็นแม่สื่อแม่ชัก หล่อนน่ะเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะย่ะ”
“แกไม่ต้องมาห่วงฉันเลย ตกลงจะมาไม่มา”
“ไป! ถึงแม้ฉันจะสวยเลือกได้ แต่ถ้ามีมาให้เลือกเยอะ ๆ ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว” พลอยพัดชายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ แต่ในหัวเริ่มคิดแล้วว่าจะใส่ชุดไหนไปดี
“แล้วตกลงเป็นผู้ที่ไหนยะ หล่อนเล่ามาซิ”
หญิงสาวเค้นถามเพื่อน เพราะอย่างน้อยตนก็ต้องรู้ก่อนว่าชายหนุ่มที่ตนกำลังจะไปทำความรู้จักนั้นเป็นใคร ทำงานอะไร
“คุณซี นพฤทธิ์น่ะ เขาเป็นลูกเจ้าของเฟรชลูปที่ฉันไปถ่ายโฆษณาให้ ความจริงเขาก็นัดฉันไปกินข้าวหลายครั้งแล้วละแต่ฉันยังไม่กล้าไป มาคราวนี้ฉันเกรงใจเขาเพราะเขาชวนหลายครั้งแล้ว ฉันเห็นว่ามันเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ก็เลยบอกเขาว่าจะขอชวนเพื่อนไปด้วยคนหนึ่ง เขาก็เลยบอกว่างั้นเขาก็จะชวนเพื่อนมาด้วยคนหนึ่งเหมือนกัน แกคงไม่มีปัญหาอะไรเนอะ”เฟรชลูป คือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับน้ำผลไม้รสชาติต่าง ๆ ในรูปแบบขวดภายใต้ชื่อแบรนด์ว่าเฟรชชี นลินทราได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับน้ำส้มผสมเลมอน โดยจะเริ่มออนแอร์เดือนหน้า“แล้วเพื่อนเขาเป็นใคร มาจากไหนล่ะ” โอเค เธอรู้แล้วว่าคู่ของนลินทราเป็นใคร แต่คู่ของเธอนั้นยังไม่รู้“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ไม่กล้าถาม แต่เพื่อนเขาก็ยังมาไม่ถึงนะแก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่ารูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอเป็นยังไง เอาไว้มาถึงก็รู้เองนั่นแหละ ถ้าหน้าหม้อมากนักก็ถีบส่งเลย”“โอเคค่ะคุณเพื่อน รอคนสวยหน่อยนะ คนสวยกำลังไป หล่อนก็นั่งล้วงตาคนนั้นไปก่อนละกัน เอ่อ...ฉันหมายถึงล้วงข้อมูลน่ะ” พูดจบเธอก็หัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินเสียงน
ชายหนุ่มเล่าวีรกรรมแสบสันล่าสุดของพลอยพัดชา หากแต่สีหน้าและแววตาของเขากลับไม่มีร่องรอยของความไม่พอใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับฟังแล้วรู้สึกว่าคนพูดมีความเอื้อเอ็นดูอย่างหาได้ยากนพฤทธิ์ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่วน “น้องแกนี่ก็ดีนะ ตัวไม่อยู่แต่ก็ยังอุตส่าห์ทิ้งตัวแทนเอาไว้ด้วย”“เฮอะ ปวดหัวตายห่า” ธามแค่นยิ้ม แต่นพฤทธิ์กลับมองด้วยสายตาราวกับรู้ทัน“จริงเร้อ...ไม่ใช่ว่าแกเดาได้แต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าเพื่อนคุณนิ้งเป็นใคร ไม่อย่างนั้นแกจะขอแลกที่นั่งกับฉันทำไม จริงไหมวะไอ้คุณธาม”ธามไม่พูดอะไรเพื่อเป็นการแก้ต่างให้ตัวเอง เขาได้แต่นั่งยิ้มบาง ๆ เพื่อรอให้สองสาวกลับมาที่โต๊ะตามเดิมขณะเดียวกัน พลอยพัดชาก็เดินไปเดินมาราวกับเสือติดจั่นอยู่ในห้องน้ำเพราะเมื่อครู่นลินทราถูกแฟนคลับขอถ่ายรูปด้วย เมื่อเห็นว่าเพื่อนเดินตามเข้ามาแล้ว จึงปรี่เข้าไปหาทันที“ทำไมพี่ธามมาอยู่ที่นี่ได้ ทำไมแกไม่บอกฉันว่าเป็นพี่ธาม”“ฉันขอโทษ ฉันสาบานได้เลยว่าฉันไม่รู้จริง ๆ เว้ยว่าเพื่อนคุณซีคือพี่ธาม
วันนั้นเป็นงานวันเกิดของบิดา และเป็นช่วงที่เขาเรียนจบปริญญาโทกลับมาจากเมืองนอกพอดี เขาเห็นพลอยพัดชาเดินไปเดินมาอยู่ในงานเพียงลำพัง นอกจากหยุดพูดคุยทักทายคนรู้จักเล็กน้อยแล้วเขาก็ไม่เห็นว่าหญิงสาวจะมากับครอบครัวหรือมากับแฟนจึงทำให้เขาสนใจเธอขึ้นมาทันทีตั้งแต่แรกเห็นเขาแอบมองเธอเงียบ ๆ จนแน่ใจแล้วว่าหญิงสาวมาคนเดียวแน่นอน จึงตั้งใจจะเข้าไปทำความรู้จัก ทว่าหันไปมองอีกที เขาก็เห็นเธอผลุนผลันออกไปจากห้องจัดเลี้ยงราวกับมีเรื่องด่วน เขาแอบตามไปจนเห็นว่าหญิงสาวไปนั่งทรุดอยู่กับพื้นตรงมุมลับตาคนในสภาพที่ไม่สู้ดีนัก จึงรีบปรี่เข้าไปหาเธอทันทีด้วยความตกใจแต่หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่าพลอยพัดชาเป็นบุตรสาวของเพื่อนสนิทที่ล่วงลับของบิดาเขาเอง อีกทั้งยังซี้ปึ้กกับธีรนาฏ น้องสาวของเขาอีกด้วยเพราะเรียนมัธยมมาด้วยกันตลอดหกปีเต็ม แต่เพราะเขาไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบมัธยมต้น จึงไม่เคยเจอหน้าพลอยพัดชามาก่อน พอรู้ว่าเป็นคนกันเอง และบิดาของเขาก็เอ็นดูเธอไม่น้อย จึงทำให้เขาปฏิบัติกับเธอไม่ต่างจากน้องสาวคนหนึ่งตลอดหลายปีมานี้ พลอยพัดชาคอยวิ่งตามเขามาตลอด แต่พอเธอหายหน้าไปร่วมครึ่งเดื
พลอยพัดชานำมงกุฏเพชรประดับด้วยพลอยบุษราคัมลงกล่องกำมะหยี่สีม่วงเปลือกมังคุดพลางอมยิ้มเมื่อนึกถึงผู้ที่กำลังจะได้เป็นเจ้าของ หญิงสาวปิดฝากล่อง กดตัวล็อกแล้วก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อเห็นตัวอักษรสีทองที่อยู่บนฝาแด่คนงาม นาม...จินตวาตีวันนี้เป็นวันเกิดของน้าจินนี่ จินตวาตี ซึ่งจะมีงานปาร์ตีที่บ้านใหญ่ในช่วงหัวค่ำ งานนี้มีบรรดาดารานักแสดง รวมถึงคนในวงการบันเทิงที่สนิทชิดเชื้อไปร่วมงานกันมากมาย ซึ่งพลอยพัดชาก็ต้องไปร่วมงานให้ได้ เพราะผู้เป็นน้าลั่นวาจาเอาไว้ทุกปีว่าต่อให้เธอป่วยจนลุกจากเตียงไม่ไหว ก็ต้องถ่อสังขารไปทั้งเตียงและเสาน้ำเกลือธีมของงานคือเซ็กซี่ออนเดอะบีช จินตวาตีเนรมิตสวนและสระว่ายน้ำให้เป็นเกาะสวาทหาดสวรรค์ ฉะนั้นผู้ที่ไปร่วมงานก็ต้องแต่งตัวให้เข้ากับการไปเที่ยวทะเล ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ต้องมีบิกินีแน่นอน“พี่กลับก่อนนะคะ ต้องกลับไปเตรียมตัวสักหน่อย”พลอยพัดชาบอกกับพนักงานในร้านหลังจากที่นำมงกุฏห่อใส่กล่องของขวัญและผูกโบว์เรียบร้อยแล้วหญิงสาวเดินออกจากร้านเพื่อไปขึ้นรถที่จอดไว้ในโรงแรม เม
หญิงสาวมองธามจากกระจกมองหลัง เห็นเขายังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหนจนกระทั่งรถของเธอเลี้ยวมาอีกด้าน ทำให้มองไม่เห็นเขาแล้วจึงได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็กรี๊ดออกมาลั่นรถเพื่อระบายความอัดอั้น“อีตาบ้า อีคนหน้าตาย คิดจะอ่อยฉันเหรอ เชอะ! ไม่สำเร็จหรอกย่ะ รอให้ฉันตัดใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเมื่อไร ต่อให้มากอดแข้งกอดขาฉันก็จะเชิดหน้าให้คอเคล็ดไปเลย ฮึ!”ทีตอนที่เธอวิ่งตามเขา เขากลับไม่เคยแยแส แต่พอเธอตั้งใจว่าจะเลิกแคร์ เขากลับตามตอแยเธอไม่เลิกเมื่อกลับถึงคอนโดมิเนียม พลอยพัดชารีบอาบน้ำแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว โชคดีที่เตรียมชุดไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จึงไม่เสียเวลากับการเลือกชุดที่จะใส่ไปงานปาร์ตีคืนนี้หญิงสาวเลือกบิกินีลายดอกลิลลี่สีชมพูพื้นดำ เครื่องสำอางต้องเป็นแบบกันน้ำเพราะงานนี้มีการกระโดดลงสระกันแน่นอน จากนั้นก็หยิบกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งมาสวมใส่ เพราะคงเดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนี้ไม่ได้ ส่วนผ้าผูกเอวที่เอาไว้คลุมสะโพกค่อยเอาไว้ไปใส่ที่งาน รวมไปถึงดอกกล้วยไม้สำหรับทัดหูนั
“สวัสดีครับ ถ้าไม่รังเกียจ ผมขอนั่งด้วยได้ไหมครับ” เขายิ้มให้อย่างสุภาพ นลินทราจึงพยักหน้าให้เขา“เชิญค่ะพี่ก้าว ยายพลอย แกรู้จักพี่ก้าว กวินภพอยู่แล้วเนอะ น้าจินนี่เล่าให้ฟังแล้วใช่รึเปล่า” ประโยคหลังนลินทราหันไปคุยกับพลอยพัดชา“เล่าให้ฟังแล้วละ รู้ว่าเคยแสดงอะไรมาบ้าง แต่ยังไม่เคยคุยกัน”พลอยพัดชาตอบไปตามตรง เพราะหญิงสาวเคยเห็นเขาแค่ในโทรทัศน์ และโฆษณาบางตัวเท่านั้น“คุณพลอยจำผมได้ด้วย ผมดีใจนะเนี่ย” กวินภพยิ้มกว้าง สีหน้ามีแววขัดเขินเล็กน้อยนลินทราลอบสังเกตท่าทางที่กวินภพมีต่อพลอยพัดชาอยู่เงียบ ๆ เท่าที่เธอรู้มา พระเอกหนุ่มคนนี้ไม่ค่อยมีข่าวเสื่อมเสียหรือข่าวซุบซิบให้ได้ยินสักเท่าไร เขาเป็นนักแสดงที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่สิ่งที่เธอติดใจมีเพียงอย่างเดียวคือเธอไม่รู้สาเหตุที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวที่เคยล่มหัวจมท้ายกันมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ แล้วมาอยู่กับจินตวาตี เพราะตอนถามจินตวาตี อีกฝ่ายก็บอกเพียงว่าหมดสัญญากับคนเก่า และคนเก่าไม่ต้องการทำงานเป็นผู้จัดการให้แล้ว“ก็
“คุณพลอยมีแฟนรึยังคะ หนุ่ม ๆ ในงานสนใจกันหลายคนเลยนะเนี่ย”เจ้าตัวพูดจบ เสียงของหนุ่ม ๆ ที่ว่าก็พร้อมใจกันเฮขึ้นมาทันทีแล้วตะโกนพูดพร้อมกันว่า...ไม่มี...ไม่มีพลอยพัดชาคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะพูดใส่ไมโครโฟนสองคำสั้น ๆ “โสดค่ะ”ทันทีที่พลอยพัดชาพูดจบ เสียงปรบมือและเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจก็ดังขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะถูกดับฝันด้วยคำพูดของเจ้าของงานวันเกิดว่า“ไม่อนุญาตให้จีบนะคะ คนนี้คือแก้วตาดวงใจของเจ๊ค่ะ” เสียงโห่ด้วยความเสียดายดังขึ้นทันทีที่จินตวาตีพูดจบ“โธ่ น้าจินนี่ อยู่บนคานมันหนาวนะ ไม่เห็นใจหลานบ้างเลย พลอยยิ่งหาแฟนยากอยู่” พลอยพัดชาแกล้งทำหน้าง้ำ จินตวาตีจึงยักไหล่พลางเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า“ช่วยไม่ได้ย่ะ ในเมื่อน้าอย่างฉันที่สวยแซ่บกว่าหล่อนขนาดนี้ยังหาผัวไม่ได้ หล่อนที่เป็นหลานก็อย่าหวังเลยว่าจะมีผัวได้ก่อนน้า”เสียงกรี๊ดกร๊าดและหัวเราะก็ดังขึ้นทันที่ที่เจ้าของงานวันเกิดพูดจบจากนั้นปาร์ตีก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ยิ่งมีปาร์ตีโฟมในสระว่ายน้ำ แต่ละคนจึงพากันลงไปเล่นน้ำ
วันต่อมา พลอยพัดชาเข้าร้านตามปกติ ทว่ายังไม่ทันจะวางกระเป๋า ร้านพัดชา เจมส์ก็ได้ต้อนรับพระเอกหนุ่มมาแรงอย่างกวินภพที่แวะมาเยี่ยมเยียนพลอยพัดชาถึงร้าน ทำเอาพนักงานตื่นเต้นกันมาก ต่างพากันขอถ่ายรูปคู่กับเขาคนละรูปสองรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันทุกคนหลังจากถ่ายรูปร่วมกันเสร็จเรียบร้อย กวินภพก็ค้อมศีรษะขอบคุณทุกคนพร้อมกับฝากฝังผลงานละครเรื่องใหม่อย่างเป็นมิตร ก่อนจะหันมายิ้มให้เจ้าของร้านสาวสวยที่ยืนกอดอกมองความวุ่นวายเมื่อครู่ด้วยรอยยิ้มบาง ๆ“ไม่ทราบว่าคุณพลอยยุ่งอยู่รึเปล่าครับ ผมมารบกวนรึเปล่า”“เปล่าค่ะ พลอยเพิ่งมาถึงร้านเอง ว่าแต่คุณก้าวเถอะ มาทำธุระแถวนี้หรือคะ หรือว่ามาหาซื้อแหวนสักวงให้แฟน พลอยแนะนำให้ได้นะ”พลอยพัดชาใช่ว่าไม่รู้ว่าพระเอกหนุ่มคนนี้สนใจตน เพราะคืนวันนั้นสายตาของเขาเวลาที่มองเธอก็แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกวินภพเป็นดาราในสังกัดของจินตวาตีกระมัง เธอจึงมองเขาเป็นเพื่อน หรือเป็นพี่มากกว่าอีกทั้งพลอยพัดชามั่นใจว่า หากกวินภพได้รู้จักกับเธอนานวันเ
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
พลอยพัดชาเดินเข้ามาในโรงแรมพลางโทรศัพท์หานลินทราไปด้วย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หญิงสาวจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะวุ่นอยู่กับการซ้อมบทจึงไม่คิดโทร. ไปรบกวนอีกหญิงสาวกดลิฟต์ไปชั้นสิบเอ็ดแล้วเดินไปยังห้องที่ข้อความบอกเอาไว้ เมื่อมาถึงห้องหมายเลยหนึ่งหนึ่งศูนย์สี่ จึงเคาะเบา ๆ แล้วรอให้ทีมงานมาเปิดประตูเมื่อประตูเปิดแง้มออก พลอยพัดชาได้ยินเสียงนลินทราดังแว่วมาจึงลองชะโงกหน้าเข้าไปแล้วเรียกเพื่อนเบา ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือแข็งแรงจากด้านในฉุดข้อมือของเธอจนถลาไปตามแรงนั้น และในที่สุดก็ต้องมายืนอยู่ในห้องจนได้พลอยพัดชาหน้าเหวอทันทีเพราะเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ในห้องนี้เลย และเสียงของนลินทราที่ได้ยินก็เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงรีบหันหลังกลับทันที แต่พอหันมาก็ต้องเจอกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอไม่คิดอยากเจอที่สุดในโลกยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหมายความว่าเมื่อครู่เขาแอบอยู่หลังประตู และเป็นคนฉุดเธอเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย“ถอยไป!” เรื่องราวเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว พลอยพัดชาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดดี ๆ กับอีกฝ่ายอีก&ldqu
พลอยพัดชาอมยิ้มเมื่อเห็นธามตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ นั่นก็เพราะการกรีดแผ่นหลังของเขาแบบนี้เป็นการกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้ตื่นเพริด ยิ่งถ้าเธอทำตอนนัวเนียกันอยู่บนเตียง เขาจะแหงนหน้าขึ้นแล้วครางออกมาอย่างลืมตัวเสมอ“แขกของพี่ธามนี่เขาไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือคะ เห็นมาทีไรก็มาตอนเที่ยงทุกที เขาไม่รู้หรือไงว่าตอนเที่ยงพนักงานทุกคนก็ต้องพักเที่ยงไปกินข้าวกินปลา”พลอยพัดชาเห็นกนกลดากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเห็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดจากฝีมือของตนครั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างเธอจึงชิงพูดขึ้นก่อนเพราะไม่ต้องการปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด“อ๋อรู้แล้ว ที่มาตอนเที่ยงทุกครั้งก็หมายความว่าเป็นเพราะเขาอยากชวนพี่ไปกินกลางวันด้วยใช่ไหมคะ อุ๊ยตาย ช่างมีความพยายามสูงส่งซะจริ๊ง”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ฉันมาคุยเรื่องงานกับพี่ธาม”กนกลดาแทบเค้นเสียงพูด สีหน้าแววตามีแต่ความกรุ่นโกรธอัดแน่นเต็มที่ แต่พลอยพัดชากลับไม่สนใจ เธอเปิดฝากล่องข้าวหน้าเนื้อจนกลิ่นหอมของอาหารโชยเข้าจมู
“ใกล้ถึงวันเกิดของเขาน่ะ แต่พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาดีก็เลยคิดว่าน่าจะซื้อแหวนให้สักวง”“แล้วพี่พัฒน์คิดว่าจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้รึเปล่าคะ หรือว่ายังไม่ได้กำหนด”พลอยพัดชาลองเลียบเคียงถาม เพราะจะได้เลือกสินค้าให้เขาได้ตรงตามความต้องการของอีกฝ่าย“ยังไม่ได้คิดเรื่องหมั้นเลย พี่เพิ่งคบกับเขาได้เดือนสองเดือนนี่เอง” สีหน้าของชายหนุ่มมีความขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้นพลอยแนะนำว่าเป็นต่างหูหรือสร้อยคอสร้อยข้อมืออะไรพวกนี้ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าให้แหวนกัน คนรับอาจจะคิดว่านี่คือการขอหมั้นทางอ้อม”เธอแนะนำอย่างเป็นกลาง เพราะอย่างไรเสียการให้แหวนกันนั้น อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคนให้ต้องการหมั้นหมายก็เป็นได้จากที่ฟังเขาพูดมา ดูเหมือนรพีพัฒน์ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้นเพราะเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ซึ่งหากฝ่ายหญิงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องหมั้นเช่นกัน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายก็ให้แหวนแทนใจ อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการผูกมัดทางอ้อม และสิ่งที่จะตามมาก็คือความอึดอัดถ้าหากเจ้าตัวยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้&ldqu
“ฉันไม่น่ารับปากยายปลาแล้วเอามันมาอยู่ในสังกัดเลย ชักศึกเข้าบ้านตัวเองแท้ ๆ”“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดน่าน้าจินนี่ อีกอย่างนะ เขาเองก็กำลังดังเป็นพลุแตก ใคร ๆ ก็อยากได้เขากันทั้งนั้น” พลอยพัดชาเอ่ยปลอบใจผู้เป็นน้า“เรื่องยายปลาน้าไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นน่ะสิ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้ก้าวมันจะทำได้”“พลอยก็ว่างั้นแหละ เขาไม่กลัวคนจะจำได้เลยเนอะ เวลาออกสื่อน่ะ”จินตวาตีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้าคิดว่าก็คงมีคนจำได้บ้างนั่นแหละ และก็รู้กันแค่วงในไม่กี่คน แต่เขาไม่เอามาพูดกัน เพราะสมัยนี้เอะอะอะไรก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนมันต้องทำมาหากิน ไม่มีใครว่างพอจะมานั่งติดตามเรื่องพวกนี้หรอก”พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงเนอะ คนกลุ่มเล็ก ๆ แค่ไม่กี่คนกับคนกลุ่มใหญ่ที่รู้จักฐานะของเขาว่าเป็นพระเอกคนดัง ยังไงกลุ่มหลังเสียงมันก็ดังกว่า”“นี่ถ้านังแอ๊ดดี้กับนังเบนซ์มันรู้เข้าคงได้หัวเราะเยาะฉันจนกรามค้างแน่ พวกนั้นมันยิ่งรอดูฉันล้ม
ธามยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดจะใช้เรื่องคีย์การ์ดมาจัดการกับพิษณุด้วยการยื่นหนังสือให้ฝ่ายบริหารทุกคนทราบว่าอีกฝ่ายทำผิดกฎร้ายแรง และไล่ออกให้พ้นจากบริษัทไป แต่วันนี้หลังจากที่ตรวจไซต์งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าการไล่ออกให้พ้นจากตำแหน่งดูจะลงโทษน้อยไปหน่อย“พี่คิดว่าไหน ๆ ก็จะเอาเรื่องเขาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด การไล่ออกโทษมันเบาไปหน่อย เพราะแผนที่พี่วางเอาไว้น่ะนอกจากจะไล่ออกแล้ว ยังส่งพวกมันเข้าคุกและฟ้องร้องเรียกเงินค่าเสียหายได้อีกด้วย โทษฐานทุจริต”พลันนั้นเขานึกถึงสายตาคับแค้นของกฤษณ์ตอนที่มองพลอยพัดชาจึงอดเตือนเธอไม่ได้“พลอยต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าดากับพ่อของเขาจะมาเล่นงานพลอยรึเปล่า พ่อลูกคู่นี้น่ะเล่นงานคนอื่นมาเยอะ พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่ว่าพลอยย้ายมาอยู่กับพี่ที่เพนต์เฮาส์เถอะ”“โน!”“ไม่คิดจะกลับไปตัดสินใจก่อนหรือ พี่เป็นห่วงพลอยจริง ๆ นะ”“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพี่น่ะ ทำมาเป็นพูดดี ไม่ต้องเลย ต่างคนต่างอยู่ไปนั่น
ธามยักไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว เพอร์เฟกต์อย่างพี่น่ะหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะฉะนั้นพลอยต้องจับไว้ให้แน่น ๆ ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยนะ”พลอยพัดชาเบ้ปากใส่ทันที “ขอโทษนะคะ ประโยคนั้นพลอยควรเป็นคนพูดมากกว่าค่ะ”“ครับผม ยอมแล้วครับ แต่ก่อนอื่น กรุณาอย่าหลับในรถนะครับคนสวย มันอันตรายนะคุณผู้หญิง ถ้าคิดจะงีบก็กรุณาเลื่อนกระจกลงมาสักนิดก็ยังดี”“ก็ตอนแรกไม่คิดว่าจะหลับสักหน่อย เล่นมือถืออยู่ดี ๆ เล่นไปเล่นมาหลับตอนไหนยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มาเคาะกระจกเรียกนั่นแหละ ปกติพลอยไม่เคยหลับตอนกลางวันเลยนะ เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่ล้วน ๆ ที่ทำให้พลอยต้องนอนไม่อิ่ม” เธอค้อนให้เขาธามหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมไปจับมือของเธอให้มาวางไว้บนตักของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า“พลอยค้างกับพี่อีกคืนได้ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเที่ยวที่เด็ด ๆ”“ที่ไหน บาร์อะโกโก้หรือ” หญิงสาวปรายตามองเขา“เฮ้ย รู้ได้ไง” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใช่แล้ว พี่จะพาพลอยไปเที่ยวบาร์อะโกโก้ แต่มันไม่ใช่บาร์อนาจารแบบที่พลอยเข้าใจนะ ที่นั่นจะมีผู้หญิงเต้น
โชคชัยเห็นว่าเรื่องเริ่มเลยเถิดจึงเข้ามาแก้ไขสถานการณ์“เอาน่า เรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น เลิกแล้วต่อกันเถอะนะ”“แต่ผู้หญิงของเธอมาทำร้ายยายดาจนเลือดตกยางออก แบบนี้อาไม่ยอมนะ!”กฤษณ์โพล่งขึ้นมาอย่างเดือดดาล ตาจ้องเขม็งไปทางพลอยพัดชาอย่างกรุ่นโกรธอีกครั้ง ขณะที่ธามเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วมองหน้าอีกฝ่ายเหมือนไม่รู้สึกรู้สา“เรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้นนี่ครับ ทำไงได้ จู่ ๆ คุณดาเขาก็เปิดประตูห้องเข้ามาโดยไม่มีการเคาะหรือบอกให้รู้ก่อน ผมเองก็อาบน้ำอยู่ แฟนผมเขาเห็นคนแปลกหน้าแอบเข้ามาในห้องดึก ๆ ดื่น ๆ ก็นึกว่าเป็นขโมย เลยลงไม้ลงมือหนักไปหน่อย ตอนแรกแฟนผมคิดจะไปแจ้งตำรวจแล้วด้วยซ้ำว่าห้องพักโดนบุกรุก ดีที่ผมออกจากห้องน้ำมาทันเวลาถึงได้เห็นว่าเป็นคุณดา ก็เลยไม่ได้แจ้งความน่ะครับ โอ๊ะจริงสิ ผมก็ลืมถามคุณดาไปเลยนะเนี่ยว่าแอบเข้าห้องผมกับแฟนทำไม”กฤษณ์โกรธจนหน้าสั่น เพราะธามพูดขึ้นมาอย่างนั้นก็หมายความว่ากนกลดาจงใจบุกรุกห้องพักโดยพลการ ซึ่งธามกับแฟนสาวมีสิทธิ์แจ้งความดำเนินคดีได้ และหากเขาจะเอาเรื่องกับแฟนส