Share

บทที่ 1 พลอยพัดชา - 50%

“ความจริงแล้วราคาของพัดพารัดชามีหลายเรตค่ะ บางเม็ดก็แพงกว่าเพชรอีก บางเม็ดราคาก็อยู่ในระดับกลาง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ย ทุกอย่างเราคุยกันได้นะคะ พลอยอยากให้คุณลูกค้าเลือกแบบหรือดีไซน์ที่ถูกใจก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องราคาเราค่อยมาคุยกันทีหลังเนอะ” ประโยคหลังพลอยพัดชาทำทีเป็นเอามือป้องปากพูดเสียงเบาจนสองสาวที่เป็นลูกค้ายิ้มกว้าง

“แต่เราชอบวงนี้นะ ดีไซน์สวยดี ดูมินิมอลน่ารักดีละ ขอดูวงนี้หน่อยได้ไหมคะ” ลูกค้าอีกคนหนึ่งพูดขึ้น

“ได้ค่ะ วงนี้เป็นพิงค์แซฟไฟร์ ตัวพลอยจะอยู่ที่ 0.45 กะรัต เล่นไฟดีมากเลยนะคะวงนี้” พลอยพัดชาหยิบแหวนวงนั้นวางให้ลูกค้าบนถาดผ้าสักหลาด จากนั้นก็พูดต่ออีกว่า

“ตัวเรือนเป็นพิงค์โกลด์ 18K ค่ะ เพชรที่บ่าข้างเป็นเพชรแท้น้ำ 98 นะคะ ไม่ใช่เพชร CZ แน่นอนค่ะ ถ้าใส่ไม่ได้หรือไม่พอดีกับนิ้วก็สามารถปรับไซซ์ได้ไม่มีค่าบริการ แต่อาจต้องรอสินค้าประมาณห้าวันซึ่งคุณลูกค้าจะมารับเองที่ร้าน หรือจะให้ทางเราส่งทางไปรษณีย์ไปให้ก็ได้”

ในที่สุดพลอยพัดชาก็ขายแหวนพัดพารัดชากับพิงค์แซฟไฟร์ไปได้อย่างละวงรวมถึงสร้อยข้อมือพัดพารัดชาอีกหนึ่งเส้น หญิงสาวยิ้มแก้มแทบปริเพราะสินค้าสามชิ้นนั้นรวมราคาแล้วเกือบหนึ่งแสนบาท

พลอยพัดชาดูเวลา เห็นว่าเลยบ่ายโมงไปแล้วแต่ตนยังไม่ได้กินข้าวกลางวันจึงคิดจะสั่งมากินที่ร้านแทนเพราะไม่มีอารมณ์ไปนั่งกินข้าวคนเดียว ขณะที่เธอกำลังจะหยิบโทรศัพท์มาสั่งข้าว ประตูร้านก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ครั้นพอหญิงสาวหันหน้าไปมองก็ต้องเบิกตากว้าง

“อุ๊ยตาย นึกว่าสาวสวยที่ไหนเสียอีก ที่แท้ก็แม่ซุปตาร์คิวทอง แม่นางร้ายเบอร์หนึ่งนี่เอง ทำไมวันนี้ถึงว่างมาหาเพื่อนหาฝูงได้ยะ” พลอยพัดชายิ้มกว้างเมื่อเพื่อนสนิทอย่างนิ้ง นลินทราแวะมาเยี่ยมหาถึงที่ร้าน

“แหม ฉันก็ต้องคิดถึงหล่อนน่ะสิยะถึงได้แวะมา ถ้าไม่คิดถึงฉันไม่แวะมาหรอกย่ะแถวนี้น่ะ รถติดบรรลัย”

นลินทราเบ้ปากเมื่อพูดถึงการจราจรย่านใจกลางเมือง เจ้าตัวนั่งบนเก้าอี้สตูลยกสูง ก่อนหันไปยิ้มหวานให้พนักงานทุกคนในร้านอย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็พูดกับพลอยพัดชาว่า

“ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ตั้งแต่เช้าฉันยังไม่กินข้าวเลยเพราะตื่นมาก็สิบโมงกว่าเข้าไปแล้ว”

“วันนี้แกว่างทั้งวันเลยรึเปล่า เย็นนี้ไปหาอะไรดื่มแล้วฟังเพลงเพลิน ๆ กันดีไหม” พลอยพัดชาเห็นว่านานทีเพื่อนสนิทจะแวะมาหาเพราะอีกฝ่ายเป็นนักแสดงคิวทองที่มีผลงานต่อเนื่องตลอดทั้งปี จึงอยากใช้เวลากับนลินทราให้มากหน่อย

“ได้สิไม่มีปัญหา วันนี้กับพรุ่งนี้น้าจินนี่ให้ฉันพักได้เต็มที่เลย”

นลินทรายักคิ้วให้ ซึ่งน้าจินนี่ที่พูดถึงก็คือจินตวาตี ผู้จัดการส่วนตัวที่มีเด็กนักแสดงในสังกัดหลายสิบคน และยังเป็นน้าแท้ ๆ ของพลอยพัดชาอีกด้วย

“เฮ้อ จะว่าไปแล้วฉันก็ไม่ได้เจอน้าจินนี่มาเป็นอาทิตย์แล้วนะเนี่ย คิดถึงจังเลย” พลอยพัดชาถอนหายใจแผ่วเมื่อนึกถึงผู้เป็นน้า

จินตวาตีเป็นสตรีข้ามเพศ อีกฝ่ายคร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมาร่วมสิบกว่าปีในฐานะแมวมองฝีมือดี และผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงชื่อดังหลายคน รวมทั้งนลินทราด้วย พลอยพัดชาตกอยู่ในความดูแลของจินตวาตีตั้งแต่ขึ้นชั้นมัธยมสี่ เพราะบิดามารดาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งคู่ หญิงสาวจึงรักและผูกพันกับผู้เป็นน้าไม่ต่างจากแม่แท้ ๆ คนหนึ่ง

“น้าจินนี่งานเยอะมากแก นี่ขนาดว่าจ้างคนมาดูแลดาราแต่ละคนเพิ่มแล้วนะ แทบจะประกบหนึ่งต่อหนึ่งแต่น้าจินนี่ก็ยังหัวหมุนอยู่ ช่วงนี้กำลังเทรนเด็กใหม่สองคนติวเข้มเรื่องการแสดงกันน่าดู” นลินทราพูดไปตามที่ตนรู้มา

“แหม ใครจะเหมือนแกล่ะยายนิ้ง ลอยลำแล้วนี่ น้ำตาสั่งได้ สายตาเวลาจิกนางเอกแต่ละทีนี่เหมือนโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อน”

พลอยพัดชาพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกมาจากด้านหลังตู้โชว์สินค้าแล้วพยักหน้าให้เพื่อน นลินทราจึงลงจากเก้าอี้สตูลมายืนบนพื้นแล้วหยิบโทรศัพท์ยื่นส่งให้พลอยพัดชา

“เดี๋ยวสิแก ถ่ายรูปให้ฉันก่อน ฉันจะเอาไปลงไอจีแล้วแท็กร้านแก”

จากนั้นก็หันไปหาพนักงานในร้านแล้วพูดเสียงแหลมอย่างตอนที่ตนรับบทนางร้ายเวลาเล่นละครด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงว่า

“ไหนคะไหน ในร้านนี้สร้อยเส้นไหนแพงสุด จัดมาให้ฉันหน่อยสิ เร็ว ๆ เข้าอย่าให้องค์แม่ต้องลง”

พนักงานพากันหัวเราะคิกคักเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายมักชอบเล่นแบบนี้เสมอ เมื่อหันไปมองพลอยพัดชาแล้วเห็นเจ้านายพยักหน้าอนุญาต จึงไขตู้แล้วหยิบเอาชุดทับทิมล้อมเพชรขึ้นมาหนึ่งชุด ซึ่งประกอบไปด้วยสร้อยคอ แหวน และต่างหู แต่นลินทราหยิบแค่สร้อยคอกับแหวนขึ้นมาสวมเท่านั้น เพราะขี้เกียจถอดต่างหูที่ตนใส่อยู่

นางร้ายเบอร์หนึ่งโพสท่าให้เพื่อนถ่ายไปหลายภาพ เสร็จเรียบร้อยก็ถอดสร้อยกับแหวนวางคืนไว้ที่เดิม จากนั้นก็พากันเดินออกจากร้าน

“แกอยากกินอะไร หรือจะกินที่ไหนดีล่ะ” พลอยพัดชาหยุดเดินเพราะอยากรู้จุดหมายปลายทางก่อน

“ไปกินร้านพี่ออยแถวเอกมัยละกัน วันก่อนฉันเข้าฉากกับเขาแล้วเขาให้นามบัตรไว้น่ะ เขาเปิดภาพในโทรศัพท์ให้ดูด้วยนะ ร้านเขาแต่งน่ารักมากเลยแก ฉันคิดว่าแกต้องชอบแน่เลย ไปรถฉันนะจอดไว้ในโรงแรมน่ะ”

“ได้เลย ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราสองคนก็ไปแรดกันได้ทั้งวันเลยน่ะสิ นี่ยายนิ้ง ถ้าคืนนี้แกเมาหนักมากก็ไปนอนคอนโดฯ ฉันนะ ฉันจะขับรถแกเอง ส่วนรถฉันก็เอาจอดไว้ที่โรงแรมนี่แหละเพราะมันไม่หายหรอก”

“จัดไปค่ะเพื่อน”

สองสาวเดินคุยกันไปพลางหัวเราะไปพลางจนกระทั่งขึ้นมานั่งบนรถของนลินทรา หัวคิ้วของพลอยพัดชาขมวดมุ่นทันทีเมื่อเห็นสภาพภายในรถยุโรปยี่ห้อดังจึงบ่นให้เพื่อนอย่างอดไม่ได้

“นังนิ้ง! นี่มันอะไรเนี่ย ทำไมรถแกมันรกแบบนี้ แกช่วยให้เกียรติตราดาวสามแฉกที่ติดอยู่หน้ารถแกหน่อยได้ไหมอีบ้า ดูสิเนี่ยทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เศษกระดาษอะไรวุ่นวายไปหมด”

“เออน่า แกอย่าเพิ่งมาเจ้าระเบียบใส่ฉันตอนนี้เลย มานั่งเร็ว ฉันมีเรื่องจะเม้าท์” นลินทรารวบกระดาษหลายปึกซึ่งเป็นบทละครที่ตนใช้ท่องเอาไปไว้ที่เบาะหลัง พลอยพัดชาจึงขึ้นไปนั่งได้

หลังจากที่รถออกตัวไปได้สักพัก นลินทราก็เริ่มพูดเรื่องสำคัญให้เพื่อนฟังทันที

“พลอย พี่พัฒน์กลับมาจากเมืองนอกแล้วนะแก”

“พัฒน์ไหนอีกวะ” พลอยพัดชาทำหน้าสงสัย นลินทราจึงใช้นิ้วจิ้มขมับอีกฝ่ายไม่แรงนัก

“แฟนเก่าแกไงเล่า ที่นังสนิมมันแย่งไปน่ะ” นังสนิมที่พูดถึงก็คือกนกลดา ซึ่งมาจากคำว่านุ่มนิ่มสนิมสร้อย อันเป็นบุคลิกของอีกฝ่ายที่เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status