“ความจริงแล้วราคาของพัดพารัดชามีหลายเรตค่ะ บางเม็ดก็แพงกว่าเพชรอีก บางเม็ดราคาก็อยู่ในระดับกลาง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ย ทุกอย่างเราคุยกันได้นะคะ พลอยอยากให้คุณลูกค้าเลือกแบบหรือดีไซน์ที่ถูกใจก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องราคาเราค่อยมาคุยกันทีหลังเนอะ” ประโยคหลังพลอยพัดชาทำทีเป็นเอามือป้องปากพูดเสียงเบาจนสองสาวที่เป็นลูกค้ายิ้มกว้าง
“แต่เราชอบวงนี้นะ ดีไซน์สวยดี ดูมินิมอลน่ารักดีละ ขอดูวงนี้หน่อยได้ไหมคะ” ลูกค้าอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
“ได้ค่ะ วงนี้เป็นพิงค์แซฟไฟร์ ตัวพลอยจะอยู่ที่ 0.45 กะรัต เล่นไฟดีมากเลยนะคะวงนี้” พลอยพัดชาหยิบแหวนวงนั้นวางให้ลูกค้าบนถาดผ้าสักหลาด จากนั้นก็พูดต่ออีกว่า
“ตัวเรือนเป็นพิงค์โกลด์ 18K ค่ะ เพชรที่บ่าข้างเป็นเพชรแท้น้ำ 98 นะคะ ไม่ใช่เพชร CZ แน่นอนค่ะ ถ้าใส่ไม่ได้หรือไม่พอดีกับนิ้วก็สามารถปรับไซซ์ได้ไม่มีค่าบริการ แต่อาจต้องรอสินค้าประมาณห้าวันซึ่งคุณลูกค้าจะมารับเองที่ร้าน หรือจะให้ทางเราส่งทางไปรษณีย์ไปให้ก็ได้”
ในที่สุดพลอยพัดชาก็ขายแหวนพัดพารัดชากับพิงค์แซฟไฟร์ไปได้อย่างละวงรวมถึงสร้อยข้อมือพัดพารัดชาอีกหนึ่งเส้น หญิงสาวยิ้มแก้มแทบปริเพราะสินค้าสามชิ้นนั้นรวมราคาแล้วเกือบหนึ่งแสนบาท
พลอยพัดชาดูเวลา เห็นว่าเลยบ่ายโมงไปแล้วแต่ตนยังไม่ได้กินข้าวกลางวันจึงคิดจะสั่งมากินที่ร้านแทนเพราะไม่มีอารมณ์ไปนั่งกินข้าวคนเดียว ขณะที่เธอกำลังจะหยิบโทรศัพท์มาสั่งข้าว ประตูร้านก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ครั้นพอหญิงสาวหันหน้าไปมองก็ต้องเบิกตากว้าง
“อุ๊ยตาย นึกว่าสาวสวยที่ไหนเสียอีก ที่แท้ก็แม่ซุปตาร์คิวทอง แม่นางร้ายเบอร์หนึ่งนี่เอง ทำไมวันนี้ถึงว่างมาหาเพื่อนหาฝูงได้ยะ” พลอยพัดชายิ้มกว้างเมื่อเพื่อนสนิทอย่างนิ้ง นลินทราแวะมาเยี่ยมหาถึงที่ร้าน
“แหม ฉันก็ต้องคิดถึงหล่อนน่ะสิยะถึงได้แวะมา ถ้าไม่คิดถึงฉันไม่แวะมาหรอกย่ะแถวนี้น่ะ รถติดบรรลัย”
นลินทราเบ้ปากเมื่อพูดถึงการจราจรย่านใจกลางเมือง เจ้าตัวนั่งบนเก้าอี้สตูลยกสูง ก่อนหันไปยิ้มหวานให้พนักงานทุกคนในร้านอย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็พูดกับพลอยพัดชาว่า
“ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ตั้งแต่เช้าฉันยังไม่กินข้าวเลยเพราะตื่นมาก็สิบโมงกว่าเข้าไปแล้ว”
“วันนี้แกว่างทั้งวันเลยรึเปล่า เย็นนี้ไปหาอะไรดื่มแล้วฟังเพลงเพลิน ๆ กันดีไหม” พลอยพัดชาเห็นว่านานทีเพื่อนสนิทจะแวะมาหาเพราะอีกฝ่ายเป็นนักแสดงคิวทองที่มีผลงานต่อเนื่องตลอดทั้งปี จึงอยากใช้เวลากับนลินทราให้มากหน่อย
“ได้สิไม่มีปัญหา วันนี้กับพรุ่งนี้น้าจินนี่ให้ฉันพักได้เต็มที่เลย”
นลินทรายักคิ้วให้ ซึ่งน้าจินนี่ที่พูดถึงก็คือจินตวาตี ผู้จัดการส่วนตัวที่มีเด็กนักแสดงในสังกัดหลายสิบคน และยังเป็นน้าแท้ ๆ ของพลอยพัดชาอีกด้วย
“เฮ้อ จะว่าไปแล้วฉันก็ไม่ได้เจอน้าจินนี่มาเป็นอาทิตย์แล้วนะเนี่ย คิดถึงจังเลย” พลอยพัดชาถอนหายใจแผ่วเมื่อนึกถึงผู้เป็นน้า
จินตวาตีเป็นสตรีข้ามเพศ อีกฝ่ายคร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมาร่วมสิบกว่าปีในฐานะแมวมองฝีมือดี และผู้จัดการส่วนตัวของนักแสดงชื่อดังหลายคน รวมทั้งนลินทราด้วย พลอยพัดชาตกอยู่ในความดูแลของจินตวาตีตั้งแต่ขึ้นชั้นมัธยมสี่ เพราะบิดามารดาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งคู่ หญิงสาวจึงรักและผูกพันกับผู้เป็นน้าไม่ต่างจากแม่แท้ ๆ คนหนึ่ง
“น้าจินนี่งานเยอะมากแก นี่ขนาดว่าจ้างคนมาดูแลดาราแต่ละคนเพิ่มแล้วนะ แทบจะประกบหนึ่งต่อหนึ่งแต่น้าจินนี่ก็ยังหัวหมุนอยู่ ช่วงนี้กำลังเทรนเด็กใหม่สองคนติวเข้มเรื่องการแสดงกันน่าดู” นลินทราพูดไปตามที่ตนรู้มา
“แหม ใครจะเหมือนแกล่ะยายนิ้ง ลอยลำแล้วนี่ น้ำตาสั่งได้ สายตาเวลาจิกนางเอกแต่ละทีนี่เหมือนโกรธกันมาแต่ชาติปางก่อน”
พลอยพัดชาพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกมาจากด้านหลังตู้โชว์สินค้าแล้วพยักหน้าให้เพื่อน นลินทราจึงลงจากเก้าอี้สตูลมายืนบนพื้นแล้วหยิบโทรศัพท์ยื่นส่งให้พลอยพัดชา
“เดี๋ยวสิแก ถ่ายรูปให้ฉันก่อน ฉันจะเอาไปลงไอจีแล้วแท็กร้านแก”
จากนั้นก็หันไปหาพนักงานในร้านแล้วพูดเสียงแหลมอย่างตอนที่ตนรับบทนางร้ายเวลาเล่นละครด้วยท่าทางทีเล่นทีจริงว่า
“ไหนคะไหน ในร้านนี้สร้อยเส้นไหนแพงสุด จัดมาให้ฉันหน่อยสิ เร็ว ๆ เข้าอย่าให้องค์แม่ต้องลง”
พนักงานพากันหัวเราะคิกคักเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายมักชอบเล่นแบบนี้เสมอ เมื่อหันไปมองพลอยพัดชาแล้วเห็นเจ้านายพยักหน้าอนุญาต จึงไขตู้แล้วหยิบเอาชุดทับทิมล้อมเพชรขึ้นมาหนึ่งชุด ซึ่งประกอบไปด้วยสร้อยคอ แหวน และต่างหู แต่นลินทราหยิบแค่สร้อยคอกับแหวนขึ้นมาสวมเท่านั้น เพราะขี้เกียจถอดต่างหูที่ตนใส่อยู่
นางร้ายเบอร์หนึ่งโพสท่าให้เพื่อนถ่ายไปหลายภาพ เสร็จเรียบร้อยก็ถอดสร้อยกับแหวนวางคืนไว้ที่เดิม จากนั้นก็พากันเดินออกจากร้าน
“แกอยากกินอะไร หรือจะกินที่ไหนดีล่ะ” พลอยพัดชาหยุดเดินเพราะอยากรู้จุดหมายปลายทางก่อน
“ไปกินร้านพี่ออยแถวเอกมัยละกัน วันก่อนฉันเข้าฉากกับเขาแล้วเขาให้นามบัตรไว้น่ะ เขาเปิดภาพในโทรศัพท์ให้ดูด้วยนะ ร้านเขาแต่งน่ารักมากเลยแก ฉันคิดว่าแกต้องชอบแน่เลย ไปรถฉันนะจอดไว้ในโรงแรมน่ะ”
“ได้เลย ถ้าอย่างนั้นวันนี้เราสองคนก็ไปแรดกันได้ทั้งวันเลยน่ะสิ นี่ยายนิ้ง ถ้าคืนนี้แกเมาหนักมากก็ไปนอนคอนโดฯ ฉันนะ ฉันจะขับรถแกเอง ส่วนรถฉันก็เอาจอดไว้ที่โรงแรมนี่แหละเพราะมันไม่หายหรอก”
“จัดไปค่ะเพื่อน”
สองสาวเดินคุยกันไปพลางหัวเราะไปพลางจนกระทั่งขึ้นมานั่งบนรถของนลินทรา หัวคิ้วของพลอยพัดชาขมวดมุ่นทันทีเมื่อเห็นสภาพภายในรถยุโรปยี่ห้อดังจึงบ่นให้เพื่อนอย่างอดไม่ได้
“นังนิ้ง! นี่มันอะไรเนี่ย ทำไมรถแกมันรกแบบนี้ แกช่วยให้เกียรติตราดาวสามแฉกที่ติดอยู่หน้ารถแกหน่อยได้ไหมอีบ้า ดูสิเนี่ยทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เศษกระดาษอะไรวุ่นวายไปหมด”
“เออน่า แกอย่าเพิ่งมาเจ้าระเบียบใส่ฉันตอนนี้เลย มานั่งเร็ว ฉันมีเรื่องจะเม้าท์” นลินทรารวบกระดาษหลายปึกซึ่งเป็นบทละครที่ตนใช้ท่องเอาไปไว้ที่เบาะหลัง พลอยพัดชาจึงขึ้นไปนั่งได้
หลังจากที่รถออกตัวไปได้สักพัก นลินทราก็เริ่มพูดเรื่องสำคัญให้เพื่อนฟังทันที
“พลอย พี่พัฒน์กลับมาจากเมืองนอกแล้วนะแก”
“พัฒน์ไหนอีกวะ” พลอยพัดชาทำหน้าสงสัย นลินทราจึงใช้นิ้วจิ้มขมับอีกฝ่ายไม่แรงนัก
“แฟนเก่าแกไงเล่า ที่นังสนิมมันแย่งไปน่ะ” นังสนิมที่พูดถึงก็คือกนกลดา ซึ่งมาจากคำว่านุ่มนิ่มสนิมสร้อย อันเป็นบุคลิกของอีกฝ่ายที่เรียบร้อยดั่งผ้าพับไว้
ทั้งพลอยพัดชา นลินทรา และกนกลดาเคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมาก่อน นลินทราเองก็เคยเข้าประกวดเวทีต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกัน จึงทำให้สนิทสนมกับพลอยพัดชามาตั้งแต่นั้น ยิ่งการที่ตนได้มาเป็นดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงจากการแนะนำของพลอยพัดชาเพราะมีน้าเป็นแมวมองและผู้จัดการมือทอง ทั้งสองคนก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น และก็ทำให้ทั้งคู่มีคู่ปรับคนเดียวกันนั่นคือกนกลดา“อ๋อ กลับมาแล้วหรือ หอบลูกหอบเมียกลับมาด้วยรึเปล่าล่ะ”น้ำเสียงของพลอยพัดชาไม่มีความตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อยเมื่อได้ยินชื่อของรพีพัฒน์ แฟนเก่าที่เคยคบหากันสมัยเรียนมหาวิทยาลัย“แกก็พูดไป พี่พัฒน์เขายังโสดย่ะ ฉันบังเอิญได้เจอพี่เขาตอนไปโชว์ตัวโพรโมตละครเรื่องใหม่ที่ห้างน่ะ เขาถามถึงแกด้วยนะ ถามใหญ่เลยล่ะว่าตอนนี้แกยังเปิดร้านจิวเวลรี่ที่เดิมรึเปล่า มีแฟนรึยัง ถามนั่นถามนี่สารพัด ฉันว่าพี่เขาดูดีกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยนะแก จะไม่ลองเป่าถ่านไฟเก่าให้คุขึ้นมาหน่อยหรือ”“ไม่ล่ะ แกก็รู้จักนิสัยฉันนี่ยายนิ้ง ถ้าฉันคิดหันหลังให้ใครแล้วฉันก็จะไม่หันกลับไปมองอีก”พลอยพัดชาตอบไปตามที่ตนคิด กับผู้ชายที่เคยหลอกลวงเพื่อคบซ้อนกับผู้หญิงอีกคน ผู้ชายที่โลเลไ
“พี่ธามคงไม่รู้ ความจริงแล้วดากับพลอยเป็นเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันค่ะ แต่เราอยู่คนละคณะ และก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก แค่เคยเจอหน้าและคุยกันนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเอง”ธามพยักหน้ารับรู้ พลางนึกถึงสายตาจิกกัดอย่างไม่เป็นมิตรของพลอยพัดชาตอนที่มองกนกลดาก็เข้าใจได้ทันที เพราะปกติแล้วแม้พลอยพัดชาจะดื้อรั้นเอาแต่ใจ ร้ายกาจและนิสัยเสียไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยทำตัวเสียมารยาทกับแขกของเขาอย่างนี้ ดูท่าสองคนนี้คงไม่ใช่แค่เพื่อนเรียนเสียแล้วกระมัง น่าจะเป็นคู่ปรับกันมากกว่า“โลกกลมจังเลยนะครับ ผมไม่คิดเลยว่าคุณดาจะเรียนรุ่นเดียวกันกับพลอยด้วย”“นั่นสิคะ” เธอพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะตักกับข้าวใส่จานให้เขาอีกหนึ่งอย่างแล้วพูดว่า“ในเมื่อดาเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพลอย พี่ธามก็น่าแทนตัวเองว่าพี่เวลาคุยกับดาเหมือนที่คุยกับพลอยบ้างสิคะ และไม่ต้องเรียกดาว่าคุณก็ได้ ดาว่าฟังดูห่างเหินยังไงก็ไม่รู้ค่ะ”ธามยิ้ม ไม่ตอบรับและไม่ปฏิเสธ ก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานต่อเขาติดต่อกับกนกลดาเพราะธุรกิจ ไม่ใช่เป็นการคุยกันแบบส่วนตัว เพราะฉะนั้นเขาไม่สามารถแทนตัวเองว่าพี่ และเรียกอีกฝ่ายโดยไม่มีคำว่าคุณนำหน้าไม่ได้ แต่กับพลอยพัดชาน
เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือ ทำให้คนที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงหลังใหญ่ตื่นจากห้วงนิทราพลอยพัดชาลืมตาขึ้นพลางรีบเอื้อมมือไปกดปิดเสียงเอาไว้เพราะเกรงว่าจะรบกวนการนอนของเพื่อนสนิทที่หลับอยู่ด้านข้าง จากนั้นหญิงสาวก็ตวัดผ้าห่มออกแล้วก้าวลงจากเตียง เดินไปเทน้ำใส่แก้วดื่มเข้าไปอึกใหญ่ เมื่อคืนเธอใช้เสียงจากการร้องเพลงมากเกินไป ผลลัพธ์ที่ได้คือเสียงแหบราวกับคนเป็นไข้ไอเจ็บคอพลอยพัดชาใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวราวชั่วโมงกว่าก็สวยเพริศพริ้งออกมาจากห้องนอน ในขณะที่นลินทรายังคงหลับไม่ตื่นเพราะเมื่อคืนดื่มไปหลายแก้ว เห็นทีวันนี้เธอคงต้องนั่งแท็กซี่ไปทำงานที่ร้านด้วยตัวเองแล้วกระมัง เพราะคนที่บอกว่าจะขับรถไปส่งที่ทำงานนั้น ยังลุกไม่ขึ้นเลย“นังเพื่อนบ้า ได้ปล่อยผีสองวันก็เล่นเต็มที่เลยนะ” พูดได้แค่นั้นพลอยพัดชาก็ต้องกระแอมออกมาหลายครั้งเพราะเจ็บคอ“แย่จริง วันนี้มีไลฟ์หน้าจอซะด้วยสิ” แต่เสียงเป็นแบบนี้ เห็นทีคงไลฟ์สดไม่ได้เสียแล้วร้านพัดชา เจมส์จะมีการไลฟ์สดทุกวัน วันละหนึ่งครั้งโดยมีพนักงานขายประจำร้านทำหน้าที่ตรงนี้ เพราะในปัจจุบันการไลฟ์สดเพื่อขายของผ่านทางหน้าเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมนั้นกำลังเป็นที่
“สวัสดีค่ะคุณลุง มากินมื้อเที่ยงหรือคะ” เธอยกมือไหว้ชายวัยกลางคนตรงหน้าอย่างนอบน้อมเพราะเขาคือธเนศ บิดาของธาม“ใช่ ขอลุงนั่งด้วยคนได้ไหม”“ยินดีมาก ๆ เลยค่ะคุณลุง เชิญค่ะ”หญิงสาวรอจนอีกฝ่ายนั่งลงฝั่งตรงข้ามแล้วจึงนั่งบนเก้าอี้ของตัวเองบ้าง เป็นเวลาเดียวกับที่พนักงานนำเมนูอาหารมาวางไว้ให้ธเนศพอดีโดยที่ไม่ต้องขอ“หนูไม่สบายรึเปล่า ทำไมเสียงเป็นแบบนั้น”“เปล่าค่ะ หนูสบายดี เพียงแต่เมื่อวานหนูไปร้องคาราโอเกะกับเพื่อนและน้าจินนี่มาค่ะ เสียงก็เลยแหบ” พลอยพัดชาตอบอย่างอาย ๆ จนคนสูงวัยกว่าหัวเราะเบา ๆ“น่าสนุกจริง ๆ ดีแล้วละ ปลดปล่อยความเครียดซะบ้าง คนหนุ่มคนสาวก็ดีอย่างนี้แหละนะ ว่าแต่เจ้าธามมันไม่มากินข้าวกับหนูหรือ หนูถึงได้มากินคนเดียวเนี่ย”“พี่ธามงานยุ่งค่ะ พลอยไม่ได้ขึ้นไปชวนพี่เขาด้วยแหละเพราะไม่อยากรบกวนเขา” เธอปดไปเพราะตนเพิ่งขึ้นไปชวนเขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนนี้เอง และคำตอบก็เป็นเช่นเคยคือเขาปฏิเสธ หากแต่ครั้งนี้เธอไม่อยากเซ้าซี้เขาอีกแล้ว เพราะตั้งใจ
“คุณดาครับ ผมดูรายงานล่าสุดที่คุณส่งมาแล้ว ผมคิดว่ามันผิดไปจากที่เราคุยกันไว้นี่ครับ”ธามขมวดคิ้วมุ่นด้วยความไม่สบอารมณ์ แผนงานขั้นแรกที่คุยกันไว้ก่อนหน้านั้นเขาโอเคแล้ว เพราะสเปกโครงสร้างของสวนน้ำดูแล้วปลอดภัยกับผู้มาใช้บริการ แต่แผนงานล่าสุดที่บริษัทของกนกลดาปรับแก้มาให้ดูนั้นลดสเปกหลายอย่างลง ทำให้เขาไม่พอใจมาก“ผมเข้าใจครับว่าทางคุณต้องการลดค่าใช้จ่าย แต่แบบนี้มันมากเกินไป ที่เราจะสร้างคือสวนน้ำในโรงแรมนะครับ ถ้าความปลอดภัยมีไม่มากพอ หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะทำยังไง”ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปมาในห้องเพื่อฟังปลายสายพูดโต้ตอบกลับมา แต่คงไม่ใช่คำตอบที่เขาอยากฟังเท่าไรนัก สีหน้าจึงย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม“ต่อให้มีคนใช้บริการแค่คนเดียว เราก็ต้องทำให้มันได้มาตรฐานครับ ผมไม่ต้องการเอาชื่อเสียงของโรงแรมผมไปเสี่ยง” เขาหยุดยืนแล้วมองถนนหนทางด้านนอกโรงแรม มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาทุบหน้าผากตัวเองเบา ๆ ราวกับต้องการบอกให้ตนใจเย็นลง“เอาเป็นว่าผมไม่โอเคเลยครับ คุณจะให้ผมเข้าไปคุยที่บริษัทก็ได้นะ แต่ต้องเรียกบริษัทรั
“ทำไมล่ะ แล้วทองที่ขายในร้านทองทั่วไปล่ะ พี่เห็นเขาเขียนกันว่าเก้าสิบหกจุดห้าไม่ใช่หรือ” เขายังคงถามต่อ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างสงสัยใคร่รู้“เพราะทองมันมีความอ่อนตัวค่ะ ถ้าเป็นสร้อยทอง สร้อยข้อมือที่เป็นทองอย่างเดียวไม่มีเพชรหรือพลอยประดับก็สามารถใช้ทองเก้าสิบหกจุดห้าได้ หรือถ้าเทียบเป็น K ก็คือ 23K แต่ถ้ามีเพชรหรือพลอยด้วยจะต้องใช้ทอง 18K ทองเก้าสิบ หรือจะน้อยกว่านั้นก็ได้ค่ะ ไม่อย่างนั้นมันจะเกาะเพชรเกาะพลอยไม่อยู่ อาจหล่นหายได้”พลอยพัดชาอธิบายอย่างใจเย็น เพราะไม่ใช่แค่รพีพัฒน์คนเดียวที่เข้าใจว่าทองเคคือทองปลอม ยังมีลูกค้าอีกหลายคนที่ยังเข้าใจอย่างนั้นอยู่“เข้าใจละ ต้องขอโทษด้วยครับเพราะพี่เองก็ไม่ค่อยใส่เครื่องประดับน่ะก็เลยไม่ค่อยรู้เรื่อง”“ไม่เป็นไรค่ะ พลอยยินดีอธิบาย” พลอยพัดชาหันถาดเครื่องประดับเซตนั้นให้เขาดูแล้วพูดว่า“เกิดวันอาทิตย์ก็แนะนำเป็นทับทิมสยามหรือโกเมนค่ะ แต่ถ้าถามพลอยนะ พลอยแนะนำเป็นทับทิมสยามมากกว่า เพราะทับทิมเป็นพลอยเนื้อแข็ง และอีกอย่างคือทับทิมสยามตอนนี้หาย
ธามเงยหน้ามองปฏิทินตั้งโต๊ะ ก่อนจะกดดูโทรศัพท์ของตนเพื่อดูว่าวันนี้เป็นวันที่เท่าไร ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาต้องไปประชุมที่พัทยาสามวัน แต่สัปดาห์นี้เขาอยู่ออฟฟิศตลอดไม่ได้ไปไหน และวันนี้ก็เป็นวันศุกร์แล้ว แต่ยังไร้วี่แววของคนที่เคยมาชวนเขาไปกินข้าวทุกวันเช่นเคยนับ ๆ ดูก็ร่วมสองสัปดาห์เข้าไปแล้วที่พลอยพัดชาหายหน้าไปเลยเขานึกถึงประโยคที่หญิงสาวพูดด้วยความโกรธวันนั้นขึ้นมาทันที‘ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพลอยจะไม่มาให้พี่เห็นหน้าอีกเลย จะไม่มายุ่งวุ่นวายให้พี่ต้องรำคาญอีกแล้ว’“คราวนี้โกรธจริงหรือเนี่ย”เขาส่งข้อความไปหาหญิงสาวหลายครั้ง เธออ่านแต่ไม่ตอบ เคยลองโทรศัพท์ไปหาแต่เธอก็ไม่รับ นับว่าครั้งนี้เป็นการไม่เจอหน้ากันนานที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมาก็ว่าได้คราแรกเขาคิดจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไป เพราะอย่างไรเสียก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พลอยพัดชาจะได้เลิกหวังในตัวเขา ทว่าพอเอาเข้าจริงเขากลับรู้สึกเหมือนชีวิตประจำวันขาดอะไรไปบางอย่าง“ช่างเถอะ” ธามถอนหายใจแผ่วพลางป
“คุณซี นพฤทธิ์น่ะ เขาเป็นลูกเจ้าของเฟรชลูปที่ฉันไปถ่ายโฆษณาให้ ความจริงเขาก็นัดฉันไปกินข้าวหลายครั้งแล้วละแต่ฉันยังไม่กล้าไป มาคราวนี้ฉันเกรงใจเขาเพราะเขาชวนหลายครั้งแล้ว ฉันเห็นว่ามันเป็นร้านอาหารกึ่งผับ ก็เลยบอกเขาว่าจะขอชวนเพื่อนไปด้วยคนหนึ่ง เขาก็เลยบอกว่างั้นเขาก็จะชวนเพื่อนมาด้วยคนหนึ่งเหมือนกัน แกคงไม่มีปัญหาอะไรเนอะ”เฟรชลูป คือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับน้ำผลไม้รสชาติต่าง ๆ ในรูปแบบขวดภายใต้ชื่อแบรนด์ว่าเฟรชชี นลินทราได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับน้ำส้มผสมเลมอน โดยจะเริ่มออนแอร์เดือนหน้า“แล้วเพื่อนเขาเป็นใคร มาจากไหนล่ะ” โอเค เธอรู้แล้วว่าคู่ของนลินทราเป็นใคร แต่คู่ของเธอนั้นยังไม่รู้“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ไม่กล้าถาม แต่เพื่อนเขาก็ยังมาไม่ถึงนะแก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่ารูปร่างหน้าตาและนิสัยใจคอเป็นยังไง เอาไว้มาถึงก็รู้เองนั่นแหละ ถ้าหน้าหม้อมากนักก็ถีบส่งเลย”“โอเคค่ะคุณเพื่อน รอคนสวยหน่อยนะ คนสวยกำลังไป หล่อนก็นั่งล้วงตาคนนั้นไปก่อนละกัน เอ่อ...ฉันหมายถึงล้วงข้อมูลน่ะ” พูดจบเธอก็หัวเราะในลำคอเมื่อได้ยินเสียงน
พลอยพัดชาอมยิ้มขณะที่อ่านข่าวเหล่านั้นจากโทรศัพท์มือถือของตน ตอนที่เธอกับจินตวาตีคาดเดาความสัมพันธ์ของกวินภพกับปวีณาเมื่อคราวนั้น เธอยังอดสงสารฝ่ายหญิงไม่ได้ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ราวกับคนที่ทำผิดกฎหมาย แต่มาวันนี้ความสงสารไม่มีเหลืออยู่แล้ว หลังจากที่ได้เห็นภาพและคลิปต่าง ๆ ที่ธามนำมาให้ดู เธอจึงรู้ทันทีว่าสองคนนี้ร่วมมือกัน“จริงสิ พี่ธามให้ใครส่งรูปพวกนั้นให้พวกเพจข่าวหรือคะ ไหนจะพวกที่ไปตอบคอมเมนต์ว่าเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับสองคนนั้นอีก เขาเป็นจริง ๆ รึเปล่า แล้วไม่กลัวโดนฟ้องหรือไง”ธามยิ้มอ่อนพลางตอบว่า “จะใครเล่า ก็ยายนาฏไง”พลอยพัดชาเบิกตากว้าง “ยายนาฏหรือ อ้าว! แล้วแอคเคาน์พวกนี้ล่ะ”“เป็นแอคเคาน์สำรองของเพื่อน ๆ เขาที่อเมริกาน่ะ ถ้าคิดจะฟ้องก็เชิญตามสบาย” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะตักกุ้งทอดซอสมะขามใส่ในจานข้าวให้หญิงสาวแล้วพูดว่า“กินข้าวเถอะ อย่าไปสนใจข่าวพวกนั้นเลย รอดูฟีดแบ็กที่ตามมาดีกว่า”“พลอยอยากเห็นหน้านายก้าวจริง ๆ ว่าถ้าเห็นข่าวพวกนี้แล้ว
“พี่ธามพอแล้ว พลอยหายใจไม่ทัน” หญิงสาวหอบจนตัวโยนราวกับวิ่งมาหลายกิโลเมตร ธามเห็นแล้วสงสารจึงหยุดมือ แต่ก็อดหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างมันเขี้ยวไม่ได้“คิดจะไปส่องแขกหล่อ ๆ งั้นหรือ เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”ธามคาดโทษหญิงสาวอย่างไม่จริงจังนักเพราะรู้นิสัยของอีกฝ่ายดีว่าช่างยั่วยวนและยั่วอารมณ์ให้มีน้ำโหอยู่บ่อย ๆ“ก็แขกส่วนใหญ่หล่อจริง ๆ นี่นา แต่ก็สู้หล่อมาดเข้มแบบพี่ไม่ได้หรอกน่า จริงไหม” พลอยพัดชายิ้มประจบ“ก็เพราะปากหวานช่างยั่วอย่างนี้นี่ไง พี่ถึงไปไหนไม่รอด” ชายหนุ่มเชยคางของเธอขึ้นแล้วจุ๊บเบา ๆ“ให้มันจริงเถอะ พลอยกลัวว่าพอหมดช่วงโปร พี่ก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมน่ะสิ คนนิสัยเสีย”“ไม่เป็นแล้ว สัญญา” เขาชี้สามนิ้วขึ้น เธอจึงยู่หน้าใส่เขา“เชอะ พี่น่ะชอบใจร้ายกับพลอย จะง้อก็ไม่มาง้อดี ๆ กลับส่งขนมมาล่อ แถมยังเป็นคุกกี้ถั่วอีกต่างหาก แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่เอาใจใส่พลอยมากแค่ไหน”ธามได้ยินอย่างนั้นก็เบิกตากว้างพลางทำหน้างุนงงสงสัย เพราะเขาจำไม่ได้ว่าส่
พลอยพัดชาพยักหน้าเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่“เฮ้อ ตั้งแต่เคยถูกผู้ชายกอดมานะ มีอีตาคนนี้นี่แหละที่พลอยรู้สึกรังเกียจที่สุด”ธามหูผึ่งขึ้นมาทันที จากนั้นก็ชี้หน้าเธออย่างเอาเรื่อง“ยั่วโมโหอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะโดน”พลอยพัดชาหัวเราะคิกคัก แล้วถามว่า“ว่าแต่...พี่จะทำอะไรเขาหรือคะ”พลอยพัดชาอดอยากรู้ไม่ได้ แต่มั่นใจว่าคนอย่างธามจะไม่มีการส่งนักเลงไปดักซ้อมกวินภพแน่นอน เพราะเขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการให้ผลแค่ระยะสั้น คนอย่างเขาถ้าคิดลงมือเล่นงานใคร จะต้องเกิดผลเสียกับอีกฝ่ายในระยะยาว“ก็มันอยากเป็นข่าวนักไม่ใช่หรือ พี่ก็จะจัดให้ไง” ธามหันมายิ้มให้ ก่อนจะจับแก้มของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วดึงเบา ๆ พลางพูดว่า“คราวนี้ก็ยิ้มได้แล้วนะ ลงไปหาเค้กกินแก้เครียดกันดีกว่าเนอะ”หญิงสาวยิ้มออกทันที รู้สึกสมองโล่งขึ้นมาในทันใด อีกทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจอุ่นวาบอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่บิดามารดาจากไป ชีวิตของเธอก็มีแต่น้าจินนี่คอยกางปีกปกป้องเสมอมา แต่ในบางครั
พลอยพัดชาเดินเข้ามาในโรงแรมพลางโทรศัพท์หานลินทราไปด้วย แต่อีกฝ่ายไม่รับสาย หญิงสาวจึงคิดว่าเพื่อนน่าจะวุ่นอยู่กับการซ้อมบทจึงไม่คิดโทร. ไปรบกวนอีกหญิงสาวกดลิฟต์ไปชั้นสิบเอ็ดแล้วเดินไปยังห้องที่ข้อความบอกเอาไว้ เมื่อมาถึงห้องหมายเลยหนึ่งหนึ่งศูนย์สี่ จึงเคาะเบา ๆ แล้วรอให้ทีมงานมาเปิดประตูเมื่อประตูเปิดแง้มออก พลอยพัดชาได้ยินเสียงนลินทราดังแว่วมาจึงลองชะโงกหน้าเข้าไปแล้วเรียกเพื่อนเบา ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีมือแข็งแรงจากด้านในฉุดข้อมือของเธอจนถลาไปตามแรงนั้น และในที่สุดก็ต้องมายืนอยู่ในห้องจนได้พลอยพัดชาหน้าเหวอทันทีเพราะเห็นแล้วว่าไม่มีคนอยู่ในห้องนี้เลย และเสียงของนลินทราที่ได้ยินก็เป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก เธอจึงรีบหันหลังกลับทันที แต่พอหันมาก็ต้องเจอกับใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายที่เธอไม่คิดอยากเจอที่สุดในโลกยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งหมายความว่าเมื่อครู่เขาแอบอยู่หลังประตู และเป็นคนฉุดเธอเข้ามาในห้องนี้อีกด้วย“ถอยไป!” เรื่องราวเดินมาถึงขั้นนี้แล้ว พลอยพัดชาจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดดี ๆ กับอีกฝ่ายอีก&ldqu
พลอยพัดชาอมยิ้มเมื่อเห็นธามตัวเกร็งขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ นั่นก็เพราะการกรีดแผ่นหลังของเขาแบบนี้เป็นการกระตุ้นอารมณ์ของชายหนุ่มให้ตื่นเพริด ยิ่งถ้าเธอทำตอนนัวเนียกันอยู่บนเตียง เขาจะแหงนหน้าขึ้นแล้วครางออกมาอย่างลืมตัวเสมอ“แขกของพี่ธามนี่เขาไม่ได้เรียนมารยาทมาหรือคะ เห็นมาทีไรก็มาตอนเที่ยงทุกที เขาไม่รู้หรือไงว่าตอนเที่ยงพนักงานทุกคนก็ต้องพักเที่ยงไปกินข้าวกินปลา”พลอยพัดชาเห็นกนกลดากำหมัดแน่นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งเห็นร่องรอยบนใบหน้าซึ่งเกิดจากฝีมือของตนครั้งนั้นก็ยิ่งรู้สึกสะใจไม่น้อย ครั้นพอเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างเธอจึงชิงพูดขึ้นก่อนเพราะไม่ต้องการปล่อยให้อีกฝ่ายได้พูด“อ๋อรู้แล้ว ที่มาตอนเที่ยงทุกครั้งก็หมายความว่าเป็นเพราะเขาอยากชวนพี่ไปกินกลางวันด้วยใช่ไหมคะ อุ๊ยตาย ช่างมีความพยายามสูงส่งซะจริ๊ง”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ! ฉันมาคุยเรื่องงานกับพี่ธาม”กนกลดาแทบเค้นเสียงพูด สีหน้าแววตามีแต่ความกรุ่นโกรธอัดแน่นเต็มที่ แต่พลอยพัดชากลับไม่สนใจ เธอเปิดฝากล่องข้าวหน้าเนื้อจนกลิ่นหอมของอาหารโชยเข้าจมู
“ใกล้ถึงวันเกิดของเขาน่ะ แต่พี่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาดีก็เลยคิดว่าน่าจะซื้อแหวนให้สักวง”“แล้วพี่พัฒน์คิดว่าจะหมั้นกันเร็ว ๆ นี้รึเปล่าคะ หรือว่ายังไม่ได้กำหนด”พลอยพัดชาลองเลียบเคียงถาม เพราะจะได้เลือกสินค้าให้เขาได้ตรงตามความต้องการของอีกฝ่าย“ยังไม่ได้คิดเรื่องหมั้นเลย พี่เพิ่งคบกับเขาได้เดือนสองเดือนนี่เอง” สีหน้าของชายหนุ่มมีความขัดเขินอย่างเห็นได้ชัด“ถ้าอย่างนั้นพลอยแนะนำว่าเป็นต่างหูหรือสร้อยคอสร้อยข้อมืออะไรพวกนี้ดีกว่าไหมคะ เพราะว่าถ้าให้แหวนกัน คนรับอาจจะคิดว่านี่คือการขอหมั้นทางอ้อม”เธอแนะนำอย่างเป็นกลาง เพราะอย่างไรเสียการให้แหวนกันนั้น อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคนให้ต้องการหมั้นหมายก็เป็นได้จากที่ฟังเขาพูดมา ดูเหมือนรพีพัฒน์ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นนั้นเพราะเพิ่งคบหากันได้ไม่นาน ซึ่งหากฝ่ายหญิงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องหมั้นเช่นกัน แต่จู่ ๆ ฝ่ายชายก็ให้แหวนแทนใจ อาจทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาต้องการผูกมัดทางอ้อม และสิ่งที่จะตามมาก็คือความอึดอัดถ้าหากเจ้าตัวยังไม่พร้อมพูดถึงเรื่องนี้&ldqu
“ฉันไม่น่ารับปากยายปลาแล้วเอามันมาอยู่ในสังกัดเลย ชักศึกเข้าบ้านตัวเองแท้ ๆ”“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดน่าน้าจินนี่ อีกอย่างนะ เขาเองก็กำลังดังเป็นพลุแตก ใคร ๆ ก็อยากได้เขากันทั้งนั้น” พลอยพัดชาเอ่ยปลอบใจผู้เป็นน้า“เรื่องยายปลาน้าไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เรื่องนั้นน่ะสิ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไอ้ก้าวมันจะทำได้”“พลอยก็ว่างั้นแหละ เขาไม่กลัวคนจะจำได้เลยเนอะ เวลาออกสื่อน่ะ”จินตวาตีนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “น้าคิดว่าก็คงมีคนจำได้บ้างนั่นแหละ และก็รู้กันแค่วงในไม่กี่คน แต่เขาไม่เอามาพูดกัน เพราะสมัยนี้เอะอะอะไรก็ฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล คนมันต้องทำมาหากิน ไม่มีใครว่างพอจะมานั่งติดตามเรื่องพวกนี้หรอก”พลอยพัดชาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ก็จริงเนอะ คนกลุ่มเล็ก ๆ แค่ไม่กี่คนกับคนกลุ่มใหญ่ที่รู้จักฐานะของเขาว่าเป็นพระเอกคนดัง ยังไงกลุ่มหลังเสียงมันก็ดังกว่า”“นี่ถ้านังแอ๊ดดี้กับนังเบนซ์มันรู้เข้าคงได้หัวเราะเยาะฉันจนกรามค้างแน่ พวกนั้นมันยิ่งรอดูฉันล้ม
ธามยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดจะใช้เรื่องคีย์การ์ดมาจัดการกับพิษณุด้วยการยื่นหนังสือให้ฝ่ายบริหารทุกคนทราบว่าอีกฝ่ายทำผิดกฎร้ายแรง และไล่ออกให้พ้นจากบริษัทไป แต่วันนี้หลังจากที่ตรวจไซต์งานเสร็จเรียบร้อย เขาก็เปลี่ยนใจ เพราะคิดว่าการไล่ออกให้พ้นจากตำแหน่งดูจะลงโทษน้อยไปหน่อย“พี่คิดว่าไหน ๆ ก็จะเอาเรื่องเขาแล้วก็ต้องทำให้ถึงที่สุด การไล่ออกโทษมันเบาไปหน่อย เพราะแผนที่พี่วางเอาไว้น่ะนอกจากจะไล่ออกแล้ว ยังส่งพวกมันเข้าคุกและฟ้องร้องเรียกเงินค่าเสียหายได้อีกด้วย โทษฐานทุจริต”พลันนั้นเขานึกถึงสายตาคับแค้นของกฤษณ์ตอนที่มองพลอยพัดชาจึงอดเตือนเธอไม่ได้“พลอยต้องระวังตัวหน่อยนะ เพราะพี่ไม่รู้ว่าดากับพ่อของเขาจะมาเล่นงานพลอยรึเปล่า พ่อลูกคู่นี้น่ะเล่นงานคนอื่นมาเยอะ พี่ไม่อยากให้พลอยเป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่ว่าพลอยย้ายมาอยู่กับพี่ที่เพนต์เฮาส์เถอะ”“โน!”“ไม่คิดจะกลับไปตัดสินใจก่อนหรือ พี่เป็นห่วงพลอยจริง ๆ นะ”“อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วพี่น่ะ ทำมาเป็นพูดดี ไม่ต้องเลย ต่างคนต่างอยู่ไปนั่น
ธามยักไหล่ “แน่นอนอยู่แล้ว เพอร์เฟกต์อย่างพี่น่ะหาไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะจะบอกให้ เพราะฉะนั้นพลอยต้องจับไว้ให้แน่น ๆ ห้ามปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดเลยนะ”พลอยพัดชาเบ้ปากใส่ทันที “ขอโทษนะคะ ประโยคนั้นพลอยควรเป็นคนพูดมากกว่าค่ะ”“ครับผม ยอมแล้วครับ แต่ก่อนอื่น กรุณาอย่าหลับในรถนะครับคนสวย มันอันตรายนะคุณผู้หญิง ถ้าคิดจะงีบก็กรุณาเลื่อนกระจกลงมาสักนิดก็ยังดี”“ก็ตอนแรกไม่คิดว่าจะหลับสักหน่อย เล่นมือถืออยู่ดี ๆ เล่นไปเล่นมาหลับตอนไหนยังไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่พี่มาเคาะกระจกเรียกนั่นแหละ ปกติพลอยไม่เคยหลับตอนกลางวันเลยนะ เรื่องนี้เป็นความผิดของพี่ล้วน ๆ ที่ทำให้พลอยต้องนอนไม่อิ่ม” เธอค้อนให้เขาธามหัวเราะเบา ๆ พลางเอื้อมไปจับมือของเธอให้มาวางไว้บนตักของตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยปากถามว่า“พลอยค้างกับพี่อีกคืนได้ไหม เดี๋ยวคืนนี้พี่พาไปเที่ยวที่เด็ด ๆ”“ที่ไหน บาร์อะโกโก้หรือ” หญิงสาวปรายตามองเขา“เฮ้ย รู้ได้ไง” เขาเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ“ใช่แล้ว พี่จะพาพลอยไปเที่ยวบาร์อะโกโก้ แต่มันไม่ใช่บาร์อนาจารแบบที่พลอยเข้าใจนะ ที่นั่นจะมีผู้หญิงเต้น