Share

บทที่ 1 พลอยพัดชา - 25%

สามเดือนก่อนหน้า

ร่างโปร่งระหงในชุดทำงานเรียบหรูสีดำด้วยกางเกงแปดส่วนกับเสื้อสูทเข้ารูปพอดีตัว เสื้อตัวในเป็นสายเดี่ยวเน้นเนินอกสีแดงสด รับกันดีกับรองเท้าส้นสูงและกระเป๋าสะพายสีเดียวกัน ผมยาวสลวยรวบขึ้นเป็นหางม้า เปิดใบหน้าเรียวเล็กสวยจับตาให้แก่ผู้พบเห็น

พลอยพัดชาเดินยิ้มบาง ๆ เข้าไปในลักซ์ แกรนด์ มิราจ โรงแรมหรูระดับห้าดาวย่านใจกลางเมือง จากนั้นก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นสามซึ่งเป็นสำนักงานสำหรับพนักงานและผู้บริหารของโรงแรมนี้

เมื่อขึ้นไปถึง หญิงสาวเดินไปทางขวามือแล้วไปหยุดอยู่หน้าห้องที่มีป้ายติดเอาไว้ว่า “General Manager” หญิงสาวคลี่ยิ้มกว้างก่อนยกมือเคาะประตูสามครั้ง รอไม่นานนักผู้เป็นเจ้าของห้องก็เดินมาเปิดให้

“พี่ธามขา เที่ยงแล้วนะไปกินข้าวกันเถอะ”

ชายหนุ่มเจ้าของชื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่คิดปิดบัง ไม่มีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั่น ไม่มีแม้กระทั่งแววตายินดีให้เห็น แต่เธอชินเสียแล้วกับปฏิกิริยาตอบรับของเขาที่เป็นแบบนี้

“เธอฟังพี่พูดไม่รู้เรื่องรึไงพลอย พี่บอกแล้วไงว่าเที่ยงนี้พี่มีนัดแล้ว และเป็นนัดสำคัญด้วย” หัวคิ้วของธามขมวดมุ่นอย่างไม่สบอารมณ์

“เวลาพลอยมาชวนพี่ทีไรพี่ก็พูดแบบนี้ทุกทีนั่นแหละ ทุกนัดของพี่สำคัญหมด แต่ทีกับพลอยพี่เลี่ยงแล้วเลี่ยงอีก นัดของพลอยไม่เคยสำคัญสำหรับพี่เลย”

พลอยพัดชาทำหน้าง้ำ รู้ทั้งรู้ว่าธามไม่เคยคิดอะไรกับตนมากไปกว่าน้องสาวคนหนึ่ง กระนั้นเธอก็ยังหวัง ยังคงตามตื๊อเขา ทำดีกับเขา ด้วยหวังว่าเขาจะใจอ่อนกับตนสักวันเพราะเห็นแก่ความรักที่เธอมีให้เขามานานหลายปี

“ก็ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วเธอยังจะมาทำไม อ้อ เธอพูดถูกนะพลอย ไอ้เรื่องนัดที่เธอพูดถึงน่ะมันเป็นนัดของเธอเพราะเธอพูดเองเออเองคนเดียวตลอด พี่ไม่เคยรับนัดเธอเลยสักครั้ง”

เขายืนกอดอกเอาตัวพิงกรอบประตูห้องไว้ไม่ให้เธอเข้าไปด้านใน ราวกับกลัวว่าเธอจะบุกเข้าไปในห้องทำงานแล้วลงมือปลุกปล้ำเขาอย่างไรอย่างนั้น

“แหม ทำไมจะไม่เคย เมื่อก่อนพลอยมาชวนพี่ทีไรพี่ก็ไปกับพลอยทุกครั้ง ทีตอนนี้ละมาทำเล่นตัว”

พลอยพัดชาพูดไปยิ้มไปแต่กลับถูกเขาทำหน้าดุใส่ หญิงสาวคิดจะพูดหยอกเย้าเขาอีกสักประโยค แต่ก็ต้องหยุดไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานของใครบางคนดังมาจากด้านหลังของเขา

“พี่ธามคะ เราจะไปกันเลยไหม”

พลอยพัดชามองไปทางเจ้าของเสียงทันที รอยยิ้มที่มีก่อนหน้าหุบลงพร้อมกับหัวคิ้วที่ย่นเข้าหากันเมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่ายชัด ๆ กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ถูกธามขัดขึ้นเสียก่อน

“ครับ ไปกันเลยก็ได้ ผมก็หิวแล้วด้วย”

ชายหนุ่มเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อให้หญิงสาวที่อยู่ในห้องเดินออกมา โดยที่เขาเดินมายืนขวางหน้าพลอยพัดชาเอาไว้แต่หันหลังให้เธอ

“เนี่ยน่ะหรือนัดสำคัญของพี่” พลอยพัดชากัดฟันถามเสียงแผ่ว หากแต่สายตาจับจ้องอยู่ที่ผู้หญิงอีกคนที่กำลังเดินออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่ม

“ใช่ เธอกลับไปทำงานของเธอได้แล้วไป พี่ไม่ว่างมาเถียงอะไรไร้สาระกับเธอหรอก” ธามหันมามองหน้าเธอนิ่งราวกับต้องการปรามไม่ให้เธอทำตัวเสียมารยาทกับแขกคนสำคัญของเขา

“แล้วถ้าพลอยจะไปด้วยล่ะ” เธอแกล้งกระซิบถามเขา และคำตอบก็ไม่ผิดไปจากที่คาดเดาเท่าไรนัก

“อย่ามาทำตัวงี่เง่านะพลอย พี่ไม่ชอบ”

“เฮอะ! พี่เคยชอบด้วยหรือ” ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับพลอย พี่ไม่เคยชอบเลยสักอย่าง...สองประโยคหลังเธอได้แต่พูดอยู่ในใจ เพราะขืนพูดออกไปเสียงคงสั่นพร่าจากความน้อยอกน้อยใจที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจากผู้ชายคนนี้

พลอยพัดชามองผู้หญิงคนนั้นด้วยสายตาไม่เป็นมิตร ก่อนจะสะบัดหน้าเดินกลับไปทางเดิมโดยไม่เหลียวหลังไปมองคนทั้งคู่อีกเลย

“เชอะ! แขกสำคัญกับผีน่ะสิ ยายนั่นเนี่ยนะ”

พลอยพัดชาเดินกระฟัดกระเฟียดกลับมาที่ร้านพัดชา เจมส์ ร้านจิวเวลรี่ของตนซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สามชั้นติดถนนใหญ่ และตั้งอยู่ข้างโรงแรมลักซ์ แกรนด์ มิราจ

ผู้หญิงที่อยู่ในห้องทำงานของธามนั้นพลอยพัดชารู้จักเป็นอย่างดี เพราะเคยเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ เธอเรียนด้านอัญมณีศาสตร์ แต่กนกลดาอยู่คณะบริหารธุรกิจ เธอกับกนกลดาเรียกว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันก็ว่าได้เพราะแข่งขันกันมาตั้งแต่เรียนปีหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งคัดเลือกเชียร์ลีดเดอร์ แข่งประกวดดาวมหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งประกวดนางนพมาศ เธอกับอีกฝ่ายสลับกันแพ้ชนะอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งต่างคนต่างเรียนจบ และแยกย้ายกันไปทางใครทางมัน

แต่วันนี้กลับต้องมาเจอกันอีกครั้ง อีกทั้งดูเหมือนกนกลดาจะสนใจผู้ชายของเธออีกด้วย

“เป็นสัมภเวสีรึไง ฉันนึกว่าแกไปผุดไปเกิดแล้วเสียอีก!”

พลอยพัดชาได้แต่เดินบ่นพึมพำทำหน้าง้ำอยู่คนเดียวจนกระทั่งเปิดประตูเข้าไปในร้านพัดชา เจมส์ สีหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนหน้านี้จึงถูกหญิงสาวเก็บซ่อนไว้ทันที พร้อมกับฉีกยิ้มสดใสอย่างเป็นมิตรเมื่อเห็นลูกค้าสองคนกำลังช่วยกันเลือกเครื่องประดับอยู่หน้าตู้กระจกโดยมีพนักงานประจำร้านคอยให้บริการอยู่

“สวัสดีค่ะ สนใจชิ้นไหนหรืออยากดูพลอยชนิดไหนเป็นพิเศษก็บอกได้นะคะ”

พลอยพัดชาเดินเข้าไปยืนอยู่หลังตู้กระจกเพื่อคอยหยิบชิ้นที่ลูกค้าต้องการ และคอยให้ข้อมูลต่าง ๆ กับลูกค้า เธอสังเกตเห็นว่าลูกค้าทั้งสองคนดูสนใจพลอยที่มีสีชมพูเป็นพิเศษจึงลองถามว่า

“คุณลูกค้าสนใจพลอยสีชมพูใช่ไหมคะ”

ลูกค้าสาวทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้พร้อมกับบอกว่า

“เราเกิดวันอังคารเหมือนกันค่ะ เห็นน้องคนนี้บอกว่าพลอยที่เหมาะกับคนเกิดวันอังคารคือพลอยสีชมพู”

“ใช่ค่ะ พลอยสีชมพูก็จะมีทับทิมพม่า พิงค์แซฟไฟร์ พิงค์ทัวมาลีน พิงค์โทพาส พิงค์สปิเนล แล้วก็พัดพารัดชาค่ะ” เธอชี้ให้ลูกค้าดูจากในตู้เพราะสินค้าวางเรียงกันไว้ตามชนิดของพลอยนั้น ๆ

“ชื่อเพราะจังเลยค่ะ พัดพารัดชา” ลูกค้าสาวยิ้มพลางก้มมองแหวนจากในตู้ พลอยพัดชาเห็นว่าอีกฝ่ายดูสนใจแหวนพัดพารัดชาเป็นพิเศษ จึงหยิบออกมาจากตู้เพื่อให้ลูกค้าได้ดูใกล้ ๆ

“ใช่ค่ะ ชื่อเพราะมาก ความจริงแล้วพัดพารัดชาเป็นไพลินนะคะ ปกติเนี่ยเราจะเห็นแต่ไพลินที่เป็นสีน้ำเงินหรือสีฟ้าใช่ไหม แต่ไพลินชนิดนี้มีสีชมพูอมส้ม บางที่เขาก็จะเรียกว่าไพลินสีกลีบบัวค่ะ ซึ่งจัดว่าเป็นไพลินสีที่หายากที่สุด ยิ่งถ้าเป็นพลอยดิบที่ไม่ผ่านการเผาหรือการปรับปรุงคุณภาพก็ยิ่งหายากมาก ๆ ค่ะ”

“โห แสดงว่าราคาแรงเอาเรื่องสินะคะเนี่ย” ลูกค้าสาวมองแหวนพัดพารัดชาที่เล็งเอาไว้ตาละห้อยเมื่อทราบถึงความพิเศษของมัน

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status