ที่ห้องทำงานคุณนิรันด์
“เชิญนั่งครับ” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขาด้วยใจที่อยู่ไม่เป็นสุขเพราะไม่รู้ว่าเขาจะต่อว่าฉัน เรื่องอะไรบ้าง “ผมขอเข้าเรื่องเลยละกันนะครับ คุณรินรดาคงจำได้เมื่อวันก่อนที่เจอกับคุณนิรันด์กาลพ่อของผมแล้วมีน้องในทีมของคุณโดนน้ำมันจากเครื่องจักรกระเด็นใส่หน้า ทำให้ท่านเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของคุณก็แค่นั้น ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิการทำงานของคุณเลย” ฉันได้ฟังดังนั้นจึงทำได้เพียงพยักหน้ายอมรับความหวังดีก็นั้น “ต้องขอขอบคุณความหวังดีของท่านมากนะคะ ต่อไปฉันกับน้องในทีมจะระวังให้มากกว่านี้ค่ะ” “พูดแบบนี้ คงไม่ยอมทำตามใช่มั้ยครับ” คุณนิรันด์ยิ้มอย่างรู้ทัน “ถ้ามีคำสั่งมาแบบนี้ฉันก็ต้องทำตามค่ะแต่ฉันอยากจะเคลียร์งานให้หมดก่อนได้มั้ยคะเพราะยังมีงานที่ฉันต้องส่งมอบให้ลูกค้าอีกค่ะ” ฉันอธิบาย “งั้น ตกลงครับผมอนุญาต” “ขอบคุณค่ะที่เข้าใจฉัน” “ตอนเที่ยง คุณมีนัดหรือยังครับ ผมว่าจะชวนคุณไปทานข้าว” คุณนิรันด์ส่งสายตาเป็นประกาย ให้ตายเถอะสายตาแบบนี้เหมือนกาลนานมองฉันไม่มีผิด แต่ดูๆ ไปสองคนนี้มีส่วนคล้ายกันอยู่นะไม่ว่าจะเป็นดวงตาหรือว่ารอยยิ้มของเขามีเสน่ห์เหมือนกันไม่มีผิด “คือ…” ฉันอ้ำอึ้ง “ผมว่าจะคุยเรื่องงานนิดหน่อย หวังว่าคุณรินรดาคงไม่ว่าอะไรนะครับ” ก็พูดมาซะขนาดนี้แล้วฉันไปว่าอะไรคุณได้ล่ะคะคุณนิรันด์ ฉันคิดในใจ “ตกลงค่ะคุณนิรันด์” ฉันยิ้มเจือนๆ ให้เขา “เรียกผมว่าคุณรันด์ก็ได้ครับ ผมขอเรียกคุณรินเฉยๆ ได้มั้ยครับ” นี่เขากำลังจะทำฉันหายใจไม่ออกอยู่แล้ว อึดอัดที่สุดเลยเพราะเขาใช้ความเป็นนายจ้างของเขาบังคับฉันกลายๆ ว่าต้องไปกับเขาและปฏิเสธเขาไม่ได้แน่ๆ ตอนเที่ยง เขานัดฉันมาที่ร้านประจำ ที่ฉันเคยมาทานข้าวกับกาลนานบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่ใช่กาลนานนี่แหละ น่าเสียดาย หลังจากที่ฉันโทรบอกเขาว่าออกมาทานข้าวข้างนอกกับคุณนิรันด์ที่ร้านเดิมที่เราเคยมาทาน เขาก็มีน้ำเสียงดุและไม่พอใจอย่างมากทำให้เราทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง “เขาหึงเหรอ” ฉันเผลอหลุดปากพูดต่อหน้าคุณนิรันด์ “ใครหึงใครครับ หรือว่าคุณรินกลัวแฟนมาเห็นแล้วจะหึงถ้าเป็นแบบนั้นผมต้องขอโทษด้วยนะครับ” “ไม่ใช่ค่ะ ฉันคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอย่าถือสาเลยนะคะ” ฉันบอกมือปัดพัลวัน “คุณรินก็น่ารักไปอีกแบบนะครับ ดูเป็นธรรมชาติมองยังไงก็ไม่เบื่อผมชักอิจฉาแฟนคุณรินแล้วสิที่มีแฟนทั้งสวยทั้งเก่งและน่ารักมากขนาดนี้” คุณนิรันด์ยังคงบริหารเสน่ห์ใส่ฉันไม่หยุดไม่หย่อนจนฉันอยากจะเอากระเป๋าฟาดเขาไปสักทีให้มีสติ รู้มั้ยการที่คุณทำแบบนี้มันทำให้คนอื่นต้องลำบากใจที่ต้องคอยอือออ แกล้งยิ้มให้คุณทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าฉันกำลังถูกคุณคุกคามอยู่ ฉันจะทำยังไงเพื่อตัดบทสนทนาแบบนี้แล้วเดินออกจากร้านไปอย่างไม่น่าเกลียด หรือแกล้งเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วชิ่งกลับ แบบนี้มันน่าเกลียดยังไงก็ต้องเจอในบริษัทอยู่ดีแถมเขายังเป็นเจ้าของบริษัทอีกด้วย เผาร้านอาหารนี้ นั่นก็คุก ถึงเขาจะหล่อจะรวยมากแค่ไหนแต่ถ้าการจีบผู้หญิงของเขาเป็นแบบนี้ก็ไม่ไหวนะ หรือว่าจะหลอกเอาเงินดี ไม่หรอกฉันมีแฟนแล้ว และแฟนของฉันก็หล่อมากด้วย “ไหนว่าคุณนิรันด์ จะคุยเรื่องงานกับฉันไงคะ มีส่วนไหนที่อยากแนะนำบอกฉันได้นะคะ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องคุย “ไหนรับปากผมแล้วไงครับว่าจะเรียกผมว่าคุณรันด์” เขาเอียงคอถามแถมยังยิ้มมุมปากแบบกาลนานอีก “ฉันไม่กล้าค่ะ ให้เรียกคุณนิรันด์ตามเดิมเถอะนะคะ ฉันสะดวกแบบนี้มากกว่าค่ะ” ขืนเรียกคุณรันด์เฉยๆ ต่อหน้าคนอื่นทีนี้คนทั้งบริษัทก็จะหาว่าฉันไปตีเสมอเจ้านาย ขนาดพี่ชายังเรียกชื่อเต็มๆ ของเขาเลย “งั้นตามใจคุณรินก็ได้ครับ ผมไม่บังคับคุณหรอกเพราะเราก็เพิ่งรู้จักกันเอง” “คุณนิรันด์คะ คือฉันต้องรีบกลับเข้าไปทำงานแล้วค่ะตอนบ่ายมีประชุมกับทีมด้วยค่ะ” “ตกลงครับ งั้นผมเช็คบิลก่อนนะคุณรินกลับเข้าบริษัทเลยก็ได้ครับ ผมจะไปทำธุระต่อ แต่ครั้งหน้าเราต้องมารถคันเดียวกันนะครับ” “ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ” ฉันก้มหัวโค้งขอบคุณให้เขา “ยินดีครับคุณริน” ในที่สุดฉันก็ได้กลับไปทำงานแล้ว ฉันไม่เคยอยากทำงานแบบนี้มาก่อนนี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าที่อยากให้หมดเวลาพักเร็วๆ กาลนาน Talk เมื่อผมเห็นพี่รินขับรถออกไป ผมก็ไปยืนรอพี่ชายนอกคอกของผมตรงลานจอดรถยนต์ข้างร้านอาหาร “หวัดดีไอ่รันด์ ไม่เจอกันนานแกยังเลวเหมือนเดิมเลยนะ ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ” ผมยืนกอดอกพิงประตูรถตรงฝั่งคนขับของมัน “ฉันเก่งมั้ยวะ ที่หาผู้หญิงของแกเจออีกแล้วแต่คนนี้ท่าจะไม่ง่ายว่ะ ยิ่งยากกูก็ยิ่งชอบ” “แกยังโง่เหมือนเดิม ให้ฉันปั่นหัวไม่หยุดไม่หย่อนระวังแล้วกันโรคจะถามหา” ผมพูดให้ตัวเองดูเหนือชั้น “ถ้าฉันติดโรค แกต้องพลาดติดบ้างแหละไอ่นาน” “บางทีแกอาจจะเอาคนเดียวก็ได้ ซึ่งฉันยังไม่เคยได้เอา” ผมยักไหล่กวนๆ มัน “ไอ้นาน คนอย่างมึงมีเหรอจะไม่เอาแค่คลำตูดไม่มีหางมึงก็เอาหมดแหละ” มันตะคอกใส่ผม “ถ้ามึงจะพูดเรื่องนั้นอีกและคิดว่ากูเอาแฟนมึงคืนนั้นกูคงไม่มีอะไรจะอธิบายเพราะกูพูดความจริงไปหมดแล้ว” ผมพูดใส่มันบ้าง “งั้นมึงก็เตรียมตัวเสียใจได้เลย รินรดาคนนี้แหละที่กูจะเอาอีกคนเพราะขนาดมึงยังลงทุนมาสมัครเป็นพนักงานของที่นี่ กูว่ามันต้องมีอะไรดีแน่ๆ” “ไอ้สัสรันด์”ผมกัดฟันพูดในลำคอเพื่อไม่ให้มันเห็นว่าผมกำลังโกรธอยู่จนอยากจะกระโดดถีบหน้ามันอยู่แล้ว “ถ้าแกคิดว่าตามถูกคนก็ตามสบาย ฉันไปล่ะ” ผมพูดใจดีสู้เสือ “ถ้ากูตามไม่ถูกคน แล้วมึงจะร้อนรนมาที่นี่ทำไมวะไอ้นาน ฮ่าๆๆ” “ก็มาหาข้าวกินไง นั่นไงข้าวกูมาละ” ผมเดินไปโอบเอวสาวเซ็กซี่ชุดเดรสสีดำที่ผมจ้างมาหลอกไอ้รันด์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของมันไม่ให้พุ่งเป้าไปที่พี่ริน แต่พุ่งเป้ามาที่ผู้หญิงคนที่ผมกำลัง โอบเอวนี้อยู่แทน ถ้าปลาติดเบ็ดสาวเซ็กซี่คนนี้จะมีเงินใช้เป็นหลายล้านนี่ยังไม่รวมของไอ่รันด์นะที่มันจะทุ่มไม่อั้นเพื่อแย่งของๆ ผมไป“พี่บอกว่าค้างไม่ได้ไง ทำไมนานไม่ไปนอนที่คอนโดนานล่ะ”“ก็ผมอยากค้างกับพี่รินนี่ครับ ให้ผมนอนด้วยนะผมนอนที่โซฟานี้ก็ได้” แล้วเขาก็นอนลงบนโซฟาจริงๆ“ไม่ได้หรอก” ฉันตอบเขาอมยิ้มพร้อมทั้งเดินไปดึงมือของเขาให้ลุกขึ้น“โอ๊ย” ฉันตกใจเมื่อเขาดึงฉันให้ลงไปนอนบนตัวของเขา“นานแกล้งพี่”“ก็พี่ริน…น่า…แกล้งนี่ครับ” เขาทำเป็นพูดเว้นไว้“ไม่ทันไร ก็กล้าทำแบบนี้กับพี่แล้วเหรอ”“กล้ามากกว่านี้ผมก็ทำมาแล้วนะครับพี่รินน่าจะรู้” เขากอดรัดฉันจนแน่นแถมยังหอมแก้มของฉันอีก“ปล่อยพี่ก่อนสิพี่หายใจไม่ออกนะนาน” “งั้นผมต้องผายปอดให้พี่แล้วล่ะครับ” ไม่พูดเปล่าเขาจับท้ายทอยฉันกดลงให้ใบหน้าของฉันไปใกล้ริมฝีปากของเขา“อืม ดีจังครับ” มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังของฉันเมื่อฉันโต้ตอบการจูบของเขาบ้าง “พี่ว่ามันเร็วไปนะเรื่องของเรา”“พี่รินเสียใจเหรอครับที่มีอะไรกับผม ผมทำพี่รินเสียใจเหรอครับ” เขาพูดในขณะที่ฉันยังนอนทับตัวของเขาอยู่บนโซฟา“พี่ไม่เสียใจหรอก แต่พี่แค่คิดว่าเรามีอะไรกันเร็วเกินไปนานคงไม่ว่าพี่ใจง่ายนะ” ฉันดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากตัวของเขาแล้วนั่งลง กาลนานลุกขึ้นมากอดฉัน“ถ้าช้ากว่านี้ผมคงขาดใจตายพอดี
ตี๊ดดๆๆๆ เสียงนาฬิกาที่ฉันตั้งไว้ดังขึ้น“พี่รินตั้งปลุกทำไมครับวันนี้วันหยุดนะ” กาลนานที่ยังนอนงัวเงียอยู่หลับตาพูด“พี่ลืมน่ะ ขอโทษทีนะนอนต่อเถอะ” เขาดึงตัวฉันให้ไปนอนหนุนแขนของเขา“ดีจังเช้านี้ตื่นมาก็เจอสาวสวยนอนอยู่ข้างๆ” ฉันแกล้งแซวเขา“ดีจัง เช้านี้ตื่นมาพี่รินก็เจอหนุ่มหล่อแบบผมนอนอยู่ข้างๆ” กาลนานแซวฉันคืนบ้าง“วันนี้วันหยุดนานมีธุระที่ไหนมั้ย” ฉันถามเขา“วันนี้ผมยกให้พี่รินทั้งวันเลยครับ พี่รินอยากไปเที่ยวไหนเดี๋ยวผมจะพาไปทุกทีเลย”“แต่พี่กลัวคนที่ทำงานเห็นเราสองคนอยู่ด้วยกัน” ฉันพูด“ทำไมยังต้องกลัวคนเห็นครับ ผมไม่มีแฟนพี่รินก็ไม่มีแฟนแล้วเราจะหลบทำไมครับ”“พี่กลัวคนที่ทำงานเจอเรา มันดูไม่ดีเพราะพี่อายุมากกว่านานตั้งหลายปี นานไม่อายคนอื่นเหรอที่มีแฟนแก่แบบพี่” ฉันบุ้ยปาก“จะอายทำไมครับ พี่รินยังดูเด็กยังสาวยังสวยขนาดนี้ใครอายก็บ้าแล้ว”“จริงเหรอ ไม่หลอกให้พี่ดีใจนะ”“จริงสิครับ เพราะผมสำรวจพี่มาทุกซอกทุกมุมแล้วยังสาวยังสวยแถมยังเร้าใจอยู่” เขากระชับกอดฉันแน่นขึ้น“อย่างหลังไม่ต้องบอกก็ได้มั้ง” ฉันบ่นอู้อี้กับหน้าอกแน่นๆ ของเขา“ผมกลัวพี่รินไม่เห็นภาพนี่ครับ”“‘งั้นถ้าใครเห
สองวันต่อมา“ยัยริน ช่วงนี้ไม่เบาเลยนะแก” น้ำตาลเดินมาหาฉันที่โต๊ะทำงานพลางทำมือปูไต่บนหัวไหล่ของฉัน“อะไรไม่เบาของแกฉันไปทำอะไรให้เหรอ”“มีคนเห็นแกกับน้องนานไปเดินซื้อของกันที่ห้างXXX เดินควงแขนกันท่าทางกระหนุงกระหนิงมากเลยนะหวานเวอร์อ่ะ ใช่มั้ยๆ” น้ำตาลใช้ไหล่กระแซะฉันบอกแล้วถ้ายัยน้ำตาลล้อใครนี่จะเล่นใหญ่มากเหมือนกับตอนนี้ที่ฉันโดนเธอกระหน่ำยิงคำถามทีเล่นทีจริงอยู่“ใครกันเห็นฉัน จำคนผิดแล้วฉันจะไปเดินควงแขนกับนานเขาได้ไง ตาฝาด” “ก็ฉันนี่ไง ฉันเห็นแกเต็มสองตาว่าเดินควงแขนมากับน้องนานสุดหล่อของฉัน”“แกเองเหรอ ฉันก็คิดว่าใคร” ฉันค่อยรู้สึกโล่งอกเมื่อน้ำตาลบอกว่าเป็นตัวเธอเองที่เห็น“แล้วก็คุณสมรที่เห็นเธอมากับน้องนาน” พอน้ำตาลพูดชื่อคุณสมรขึ้นมาความรู้สึกของฉันก็เปลี่ยนไปทันที“ถ้าคุณสมรรู้ป่านนี้ก็รู้กันทั้งบริษัทละ” ฉันพูดพร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปเพราะคงไปห้ามปากคนไม่ให้พูดไม่ได้“แล้วจริงสิที่คบกัน ฉันว่าฉันไม่พลาดหรอกมองแป๊บเดียวก็รู้ ตอบมาเลย” น้ำตาลพูดพร้อมจับไหล่ฉันเขย่า“ เออ คบกันอยู่” ฉันตอบแบบรำคาญ“คบกันตอนไหน นานหรือยัง” “ถามไรเยอะแยะ” “ก็ฉันอยากรู้นี่ หรือว่าตอ
วันต่อมาฉันเข้ามาทำงานแต่เช้าเพราะต้องมาเคลียร์งานก็เจอกับอาร์ที่กำลังนอนหลับอยู่“อาร์ ตื่นเร็วเช้าแล้วมานอนอะไรตรงนี้”“อ้าวพี่รินเช้าแล้วเหรอ” เขาลุกขึ้นมานั่งทุบท้ายทอยตัวเองตุบๆ“แล้วมานอนอะไรตรงนี้ เมื่อคืนไม่ได้กลับไปนอนที่บ้านเหรอ”“เมื่อคืนผมนั่งเคลียร์งานเก่าตอนช่วงป่วยเลยเผลอหลับไปครับ”“เอากาแฟหน่อยมั้ย” ฉันถามเขา“ดีเหมือนกันพี่” ฉันหัวเราะให้น้องที่มันยังคงนั่งงัวเงียอยู่ “พี่รินคบกับนานแล้วเหรอครับ” อาร์ถามฉันเมื่อเขาจิบกาแฟที่มันกำลังมีไอร้อนหอมกรุ่นขึ้นอยู่“ใช่ พี่คบกันแล้วข่าวเร็วจัง”“พี่ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ เดี๋ยวคนก็หยุดพูด”“นั่นสิเนอะ พี่จะสนใจทำไมแล้วทำไมยังเคลียร์งานเก่าอยู่ล่ะ บอกให้พี่ช่วยก็ได้นะ”“งานแก้โปรแกรมน่ะครับ ผมใส่โค้ดผิด”“ระดับอาร์นี่นะใส่โค้ดผิด” ฉันหัวเราะเขาพร้อมกับเปิดโน๊ตบุ๊คเตรียมทำงาน“พี่ริน คิดว่านานเป็นคนยังไงครับ” “ฮะ ทำไมถึงถามเรื่องนี้ล่ะ อาร์ก็รู้จักเขาก่อนพี่อีกนะ”“ผมก็รู้จักในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ในฐานะแฟนแบบพี่รินสักหน่อย”“รู้อะไรมาบอกพี่มานะ” ฉันตีไปที่แขนของเจ้าอาร์ เพราะเขาเป็นเพื่อนกันน่าจะรู้ความลับกันบ้างแหละ“ผมจะไปรู้อะ
สามวันแล้วที่กาลนานไม่มาทำงานและติดต่อเขาไม่ได้เลยโทรไปก็ปิดเครื่อง ฉันไปดูที่คอนโดของเขาก็ไม่เจอเลย“เราเลิกกันจริงๆ แล้วเหรอเราจบกันแค่นี้จริงเหรอ” ฉันพูดกับตัวเองเมื่อก้าวขาออกมาจากคอนโดของเขา เช้าวันต่อมาวันนี้คุณนิรันด์กาลเข้ามาดูบริษัท เพื่อจะขยายธุรกิจ พวกเราจึงเตรียมตัวกันแต่เช้าโดยเฉพาะพี่ชาหัวหน้าแผนกที่ยุ่งกว่าทุกวัน“รินๆ เดี๋ยวช่วยเอาอันนี้แทรกเนื้อหาที่พี่จะพูดกับคุณนิรันด์กาลด้วยนะ” พี่ชาพูดพร้อมกับหยิบแฟลชไดรฟ์ในกระเป๋าส่งให้ฉัน ฉันรับมันมาและตั้งหน้าตั้งตาทำงานพยายามไม่คิดถึงกาลนานแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองหาเขา“สวัสดีครับพนักงานที่น่ารักของผม หลายเดือนแล้วที่ผมไม่ได้เข้ามาที่นี่ แต่ผมก็ส่งลูกชายคนโตของผมเข้ามาทำงานและดูแลที่นี่แทนผมขอขอบคุณที่ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี แต่ก็มีลูกชายคนเล็กของผมที่อยากให้เข้ามาช่วยที่นี่ด้วยเช่นกัน หลายคนอาจจะรู้จักแล้วและผมเองก็แปลกใจเพราะรู้เรื่องนี้เมื่อวันก่อนจากปากลูกชายคนโตของผมว่าเขามาทำงานที่นี่หลายเดือนแล้ว” คุณนิรันด์พูดออกไมโครโฟนในห้องประชุมใหญ่ แล้วคุณนิรันด์ก็ลุกขึ้นทักทายทุกคนในห้องประชุม ทันทีที่ประตูห้องประชุมถูกเป
ฉันเห็นกาลนานมองมาที่ฉันอยู่หน้าร้านข้าวและฉันกลับแกล้งทำเป็นไม่เห็นเขา แต่หันกลับไปหาอคินแทน“คุณ เลิกตามฉันสักทีเถอะค่ะ เรื่องของเรามันจบลงไปแล้ว” ฉันหันไปตวาดใส่อคิน“แต่ผมยังรักคุณ คิดถึงคุณตลอดนะครับริน”“ฉันไม่ได้รักคุณแล้วค่ะ คุณก็รู้ว่าฉันไม่มีทางกลับไปหาคุณเด็ดขาดเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเราฉันถือว่าให้หมามันกินค่ะ” ฉันหันไปชำเลืองมองกาลนาน ใช่ฉันเองก็หลอกด่ากาลนานเหมือนกัน“โธ่ รินครับ” อคินพูดเสียงอ่อน“คุณก็รู้ ว่าฉันมูฟออนเร็วแค่ไหน”“เพราะมีไอ้เด็กน้อยคนนั้นเหรอ คุณเลยปฏิเสธผม อ๋อนี่ไง มารอกันอยู่นี่เอง” คำพูดของอคินทำให้กาลนานที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเราตรงปรี่เข้าไปหาเขาพร้อมทั้งกระชากคอเสื้อของอคินจนยับยู่ยี่ฉันตกใจมากเพราะไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เลย“นาน หยุดปล่อยเขา “ฉันดึงแขนเขาให้ออกมาจากอคิน“ทำไมกลัวว่ามันจะเจ็บตัวเหรอ” เขาหันมาขมวดคิ้วสายตาดุดันใส่ฉัน“ใช่” ฉันตอบทันที เพราะไม่อยากให้มีเรื่องกันจะได้แยกย้ายกันตรงนี้เลยเพราะฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้ว“พอกันทีทั้งคู่แหละ คินคุณเลิกตามง้อฉันเถอะฉันไม่ได้รักคุณแล้วคุณไปตามทางของคุณซะเถอะ ฉันพูดจากใจจริงของฉัน”
ที่ผับ XXX ที่ฉันมาเป็นประจำ“ใครจะคิดว่ากาลนานจะเป็นลูกคนรวย ลูกเจ้าของบริษัทแบบนี้แถมตอนนี้เขายังข่มวางอำนาจใส่ฉันไม่หยุด” ฉันหันไปคุยกับน้ำตาลที่กำลังนั่งจิบเหล้าในแก้วพลางมองดูหนุ่มหล่อที่เดินผ่านไปมาตรงโต๊ะที่เรานั่งอยู่“เออ ฉันก็คิดเหมือนแก ดีนะที่ฉันทำงานตลอดตอนอยู่ต่อหน้าคุณกาลนาน” ฉันอดหัวเราะไม่ได้ที่เธอห่วงแต่เรื่องนี้จริงๆ สินะ“วันนี้แฟนแกมาป่ะ ไปนอนบ้านฉันมั้ย” ฉันชวนน้ำตาลเพราะอยากกลับไปกินเหล้าที่บ้านต่อเพราะถ้าฉันเมาแล้วขว้างแก้วอีกจะทำยังไงล่ะ“มาจ้ะ เสียใจด้วยนะเพราะคืนนี้เขาจะมาค้างกับฉันและอยู่อาทิตย์นึง” แฟนน้ำตาทำงานเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารที่ต้องเดินทางไปดูร้านบ่อยเพราะมีหลายสาขาในประเทศจึงไปๆ มาๆ“อดเลย กะจะนั่งกินชิลล์ๆ ที่บ้านซะหน่อย” ฉันทำหน้าเซ็งแล้วซบไหล่น้ำตาล“วันนี้แกกับคุณกาลนานเป็นไงบ้าง ทำงานเป็นเลขาเขาวันแรก”“สุดๆ เลยถ้าฉันรู้แต่แรกว่าเขาเป็นคนแบบนี้ฉันคงไม่กล้าคบกับเขาหรอก”“สุดๆ เลยเหรอ” น้ำตาลถามย้ำ“มาก เขาใช้ฉันสารพัดแถมยังคุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนอื่นเสียงดังบางทีก็เปิดลำโพงคุยหวานจนฉันเลี่ยนจะอ้วกอยู่ละ”“อ๋อ งั้นเหรอแกหึงเขาสินะ”“ไม่ได้ห
“ลงมา” กาลนานเปิดประตูรถคันหรูของเขาตรงฝั่งที่ฉันนั่งอยู่“ไม่ลง คุณจะพาฉันไปไหน” ฉันนั่งกอดอกดื้อดึงให้ตายก็ไม่ยอมลงจากรถแน่ๆ“จะลงดีๆ มั้ยครับ” เขายืนพูดเอาแขนเท้ากับประตูรถ เมื่อมีโอกาสฉันจึงดันประตูรถเปิดออกให้กว้างแล้ววิ่งออกมา แต่ก็ไม่ทันข้อมือแข็งแรงของเขาที่คว้าข้อมือของฉันไว้จนแน่น“ถ้าคุณหนี ผมจะจูบคุณตรงนี้แหละ” กาลนานไม่พูดเปล่าเขาดึงฉันให้ไปแนบกับอกกว้างของเขาจนฉันเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาที่โกรธและโมโหเขาจนแทบจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณไม่มีสิทธิ์มาทำกับฉันแบบนี้ ฉันจะฟ้องกรมแรงงานว่าคุณทำร้ายและทารุณฉัน”“อย่างนั้นก็ได้ครับ ผมจะได้ไล่คุณออกเลย” นี่เขาคงเห็นว่าฉันกลัวจะถูกไล่ออกสินะ ถ้ามีเจ้านายที่แย่นิสัยไม่ดีแบบนี้ ฉันก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน“คุณมันเลว ฉันจะแจ้งตำรวจให้มาจับคุณ” ฉันพูดต่อ“อยากจับตรงไหนก็จับเลยแต่ขอเป็นตำรวจผู้หญิงนะ” เขาแกล้งเอามือปัดเป้ากางเกงตัวเองทำหน้ายียวน“นี่คุณ ฉันแจ้งตำรวจจริงๆ นะ” ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดโทรออก“เรื่องผัวเมียเขาไม่ยุ่งหรอกนะคุณ แล้วอีกอย่างเลิกขัดขืนผมได้แล้วผมไม่อยากใช้กำลังกับคุณ”เปรี้ยะ ฉันตบหน้าเขาให้มีสติไม่
(ตอนพิเศษที่ 2 วันวานกับเรื่องบาดหมางของกาลนานกับนิรันด์และโมเม้นกาลนานเจอรินรดาครั้งแรก)เมื่อกาลนานกำลังจะขึ้นปีสองก็ได้มีการบรรยายพิเศษที่คณะจากทีมวิศวะมืออาชีพหญิงสาวสวยสะพรั่งในชุดกระโปรงทรงเอรัดรูปกับผมที่ถูกมัดขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าและต้นคองามระหงเด่นชัด“ไอ้นาน มึงมองพี่เขาขนาดนั้นเดี๋ยวพี่เขาก็ถามมึงหรอก” เจตเพื่อนที่เรียนวิศวะด้วยกันกับเขาพูดขึ้น“ถ้าพี่เขาถามกู กูจะให้เบอร์โทรพี่เขาเลย ผู้หญิงอะไรสวยแท้วะ” กาลนานนั่งพูดอยู่อีกมุมหนึ่งของห้องโดยที่หญิงสาวยังคงพูดบรรยายไปโดยที่ไม่ทันได้เห็นกาลนานด้วยซ้ำ“ต้องขอขอบคุณทุกคนนะคะ ที่ฟังพี่รินพูดอย่างตั้งใจหวังว่าทุกคนจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในการเรียนหรือวันข้างหน้าก็สามารถปรับเปลี่ยนกับการทำงานได้ค่ะ” รินรดาพูดจบเธอก็เก็บอุปกรณ์ของตัวเอง“พี่รินครับ ผมมีข้อสงสัยครับ” นักศึกษาชายยกมือขึ้นทำให้กาลนานหันไปมองเพื่อนในชั้นทันที“มีอะไรคะ ถามได้เลยค่ะ” รินรดายิ้มแย้ม“พี่รินมีแฟนหรือยังครับ” นักศึกษาคนนั้นถามทำให้เพื่อนๆ ในห้องโห่แซวกันใหญ่“ไอ่เชี่ย” กาลนานอุทาน“พี่ยังไม่มีแฟนค่ะ และพี่ก็ไม่ชอบเด็กด้วยค่ะ” รินรดาพูดตัดจบไป ทุกคนในค
เผลอใจรักพักใจเหรอ ตอนพิเศษ1 วันวานกับพี่ชายที่ชื่อนิรันด์ย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นตอนอายุสิบแปดของกาลนานที่เริ่มโตเป็นหนุ่มมีใบหน้าที่หล่อเหลาแม้ร่างกายที่ดูภายนอกจะบอบบางแต่จริงๆ แล้ว เขานั้นซ่อนรูปไม่เบามันเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจของหญิงแท้ชายเทียมเป็นอย่างมาก ท่ามกลางแสงสีไฟสลัวๆ ที่กระทบกับร่างกายของชายหนุ่มที่เต้นใช้เอวเป็นซะส่วนใหญ่ ค่อยๆ หมุน ค่อยๆ ควงเอวให้มันต่ำลงจนตัวเองนั่งคุกเข่าลงแล้วยกเสยเอวเด้งขึ้นเด้งลงไม่หยุด เสียงกรี๊ดของผู้หญิงในผับก็ดังแข่งกับเสียงดนตรีที่เขาเต้นอยู่บนเวทีด้วยเช่นกัน คงจะถูกใจกันไม่น้อยเลยทีเดียว เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมลงจนเห็นสะดือกับหัวเข็มขัดถูกถอดและเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น ยิ่งทำให้เห็นกล้ามเนื้อและแผ่นหลังที่ดูแข็งแรงจนไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย“กรี๊ดดด ถอดอีกๆ” เสียงร้องตะโกนของสาวๆ ในผับตะโกนกู่ร้องดังเหมือนยิ่งยุให้เขาทำในสิ่งที่พวกเธอต้องการ“ข้างล่างถอดไม่ได้ครับ ขืนผมถอดเจ้าของผับแบนไม่ให้ผมเข้าอีกแน่ๆ” เมื่อกาลนานพูดจบเขาก็ก้มโค้งขอบคุณแล้วเก็บเสื้อที่เขาโยนมันลงพื้นไปแต่แรก ทันใดนั้นสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นผู้ชายที่เขาคุ้นเคยเป็นอ
หลายวันต่อมา คุณนิรันด์กาลเรียกฉันให้เข้าไปพบที่ห้องทำงานของเขา “สวัสดีค่ะ คุณนิรันด์กาล” ฉันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม “เชิญนั่งก่อนครับ ผมมีเรื่องสำคัญจะแจ้ง” “ขอบคุณค่ะ” ฉันนั่งลงตรงข้ามเขาด้วยใจที่ลุ้นระทึกอีกรอบ เขาส่งกระดาษใบสี่เหลี่ยมให้ฉัน “เงินเจ็ดล้านตามที่ตกลงกันไว้ครับ คุณทำสำเร็จนะขอบใจคุณรินมากที่ช่วยครอบครัวของเรา” “ฉันรับไม่ได้หรอกค่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ” ฉันส่งเช็คนั้นคืนกลับไป “ทำไมจะยังไม่ได้ทำครับ ก็ลูกชายทั้งสองของผมบอกว่าถ้าไม่ได้คุณรินป่านนี้น่าจะยังทะเลาะกันอยู่ผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องครับ เลี้ยงลูกตามใจจนเอาลูกไม่อยู่จนต้องไปขอให้คุณรินช่วย” “ฉันยินดีค่ะ แต่เขาสองคนดีกันแล้วเหรอคะ” “ใช่ครับ เมื่อคืนเขาคุยกันหัวเราะชอบใจใหญ่ผมมีความสุขมากครับ” อ๋อว่าแล้วเมื่อคืนกาลนานบอกว่าจะมานอนที่บ้านเป็นแบบนี้นี่เอง “ดีใจด้วยนะคะคุณนิรันด์กาล แต่ฉันไม่ขอรับเงินจำนวนนี้หรอกค่ะเพราะว่าฉันเองก็มีส่วนทำให้เขาทั้งสองทะเลาะกันด้วย” “งั้นถ้าผมจะสู่ขอคุณรินให้เจ้ากาลนานลูกชายคนเล็กของผมล่ะครับ คุณจะรังเกียจครอบครัวของเรามั้ย“ “คะ คุณรู้เรื่องของเราเหรอคะ” ฉันก้มหน้าพูด
“รินครับ ผมมีอะไรจะให้” เขาเดินมานั่งข้างๆ ฉันที่นั่งหน้าบ้านเพราะว่าเราจะมานั่งดูพระจันทร์ด้วยกัน“อะไรคะ” เขาหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมาแล้วติดที่ผมของฉันมันวิบวับแวววาวมากจนฉันต้องหยิบลงมาดู“ดาวครับ สวยมั้ย” เขาใช้นิ้วเกลี่ยแก้มของฉันเล่นอย่างแผ่วเบา“เพชรนี่คะ สวยจัง” ฉันทำท่าจะเอากิ๊บเข้าปากเพื่อเช็คว่าแท้มั้ย“รินทำน่ารักอีกแล้วนะแท้สิครับผมเป็นใคร ผมคือกาลนานนะ”“ล้อเล่นเฉยๆ เองขอบคุณนะคะ” แล้วฉันก็ติดกิ๊บที่ผมตามเดิม“ครั้งนี้ไม่ปฏิเสธเหรอครับ หลายล้านบาทนะอย่าเอาไปขายล่ะเวลางอนผม” “ปฏิเสธก็บ้าแล้ว นานกระแทกรินจนช่วงล่างแทบจะพังรินเสียหายนะ” “งั้นเหรอครับ งั้นผมให้ใบนี้รินไว้ใช้ดีกว่าเพราะผมจะกระแทกอีกนานเลยครับ” เขาหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นมาพร้อมกับหยิบบัตรการ์ดใบแข็งสีดำส่งให้ฉัน“นี่มันแบล็คการ์ดเหรอคะ นานมีจริงๆ ด้วยเพราะเมื่อก่อนรินว่าเคยเห็นนานถืออยู่นะ”ฉันหยิบมาดูพลิกไปพลิกมา“จริงสิครับ ผมให้”“สายเปย์ของจริงเลยนะเนี่ย” “แน่อยู่แล้วครับ”“งั้นคืนนี้รินขอใช้บัตรนี้ซื้อตัวนานได้มั้ยคะ เหมาทั้งคืน” ฉันขยิบตาให้พร้อมกับหย่อนบัตรลงไปในกระเป๋าเสื้อของเขา“อย่ามาร้องขอชีวิตกับผมแล้ว
หลังจากที่ฉันบอกว่าจะลาออกฉันก็ไม่เจอคุณนิรันด์ที่นี่อีกเลย ฉันเหลือบมองกาลนานที่นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดเลยอยากเอาใจเขา“รับกาแฟมั้ยคะคุณกาลนาน” เขาเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารตรงหน้าด้วยอาการคิ้วขมวด“เรียกคุณอีกแล้ว เราอยู่กันสองคนเรียกผมนานเฉยๆ ก็ได้หรือจะเรียกผัวจ๋าแบบที่เคยเรียกก็ได้นะครับ” เขายิ้มพร้อมทั้งขยิบตาใส่“บ้า อือ แล้วพี่ชายของคุณล่ะฉันยังไม่เห็นเขาเลยตั้งแต่มา” ฉันลองถามเขาเพราะเห็นว่าเขาอารมณ์ดีอยู่“ทำไมคิดถึงเขาเหรอ” กาลนานหน้าบึ้ง“ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย พี่แค่ถามดู”“มันไปดูอีกบริษัทละครับ เสือสองตัวจะอยู่ถ้ำเดียวกันได้ไงครับ”“จร้าๆ พ่อเสือใหญ่ถอดเขี้ยวเล็บด้วยนะคะ ถ้าไม่ถอดพี่จะถอดให้เอง” ฉันทำท่าเสือกางเล็บใส่เขา “เสือสิ้นลายแล้วครับโดนพี่ขี่ผมไปไหนไม่ได้แล้วครับ ว่าแล้วก็อยากโดนขี่อีกจังในนี้ดีมั้ย” กาลนานลุกมาหาฉัน“หยุดเลย ไว้ไปทำที่บ้าน”“คืนนี้ไม่อดแล้วเว้ยเราชักจนปวดมือแล้ว”“ทะลึ่ง” พอเราสองคนมาคืนดีกันแบบนี้ก็ยิ่งเติมเต็มความรักให้กันมากขึ้นกว่าเดิม ฉันมัวแต่มีความสุขจนลืมคำพูดที่รับปากไว้กับคุณนิรันด์กาลพ่อของเขาสนิทเลย จะทำยังไงดี ถึงจะให้สองคนมาคืนดีก
“กาลนานอย่า” ฉันห้ามเขา แต่อคินก็ยังสวนหมัดกลับมาใส่ใบหน้าของกาลนานเต็มๆ เช่นกัน“หยุดนะคิน ถ้าคุณไม่หยุดฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก” ฉันควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงขาสั้นจุ๊ดที่ฉันใส่อยู่บ้าน“ทีไอ้นี่ยังเข้ามาได้” เขาชี้หน้ากาลนาน“ก็เขาเป็นสามีของฉันทำไมจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ฉันยืนพูดเพราะยังไงวันนี้ฉันต้องจัดการเรื่องฉันกับอคินให้มันจบๆ ไปเสียที“พูดได้เต็มปาก เด็กมันจะสู้ผมได้ยังไง” อคินยังคงดื้อดึง ยิ่งทำให้กาลนานโกรธเข้าไปใหญ่“อย่าค่ะผัวจ๋า เดี๋ยวเมียจัดการเอง” ฉันแกล้งพูดให้อคินโดยมีกาลนานที่ยืนยิ้มอยู่“พอเถอะค่ะคินฉันมีผัวใหม่แล้วฉันไม่กลับไปกินของเก่าแบบคุณอีกแน่ๆ”“ถ้าคุณพูดเต็มปากขนาดนี้ว่าไอ้อ่อนนี่มันเป็นผัวใหม่ของคุณ ผมก็ไม่เอาคุณแล้วเหมือนกัน”“เชิญค่ะ นั่นประตู” อคินเดินไปอย่างหัวเสียเจอแบบนี้ใครกลับมาอีกก็บ้าแล้ว“ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” ฉันหยิบเสื้อที่ตกลงกับพื้นส่งให้เขาคืน“ครับ แต่ผมโดนเขาต่อยช่วยทำแผลให้ผมหน่อยไม่ได้เหรอ”“ก็ได้ค่ะ เห็นแก่ความดีของคุณนะ” ฉันเดินไปหยิบยาทาแล้วมานั่งรอเขาที่กำลังใส่เสื้ออยู่“เดือนนี้ทั้งเดือนไม่รู้ปากของผมเป็นอะไรไปรับแต่กำปั้
ตั้งแต่กลับมาจากไปดูงานที่เมืองนอกกาลนานก็ไม่พูดอะไรกับฉันเลยนอกจากเรื่องงานจนถึงวันนี้ก็วันที่สามแล้ว แต่สามวันนี้เขาก็พาผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้าเช่นกัน ฉันรู้สึกว่าโชคดีมากที่คืนนั้นฉันไม่เผลอตัวเผลอใจไปกับเขาไม่งั้นฉันคงติดโรคจากเขาแน่ๆ คุณนิรันด์เองก็เช่นกันเขายังคงมาเที่ยวตามฉันไม่หยุด เหมือนกับวันนี้ “คุณรินครับ ผมมารับไปทานข้าวด้วยกันข้างนอกครับ” เขาเดินเข้ามามองฉันแล้วชำเลืองมองกาลนาน “จะคุยเรื่องงานด้วยครับ” เขาพูดต่อจนฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ “ค่ะ ได้ค่ะ” ฉันหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกมากับคุณนิรันด์นั่งรถมาคันเดียวกัน คนในบริษัทก็เห็นโดยเฉพาะยัยจิวรุ่นน้องที่เคยจีบกาลนาน “จะควบทั้งพี่ทั้งน้องเลยเหรอคะพี่ริน” เธอพูดกับฉันเมื่อเราเจอกันที่ร้านอาหารข้างนอก “แล้วเธอล่ะได้ควบใครหรือยังจ้ะน้องจิว” ฉันพูดเย้ยเธอให้สะใจ “คนขี่ม้าเยอะขนาดนี้ระวังนะคะควบไปควบมาจะตกม้าตาย” ยัยจิวแสนร้ายพูดแล้วก็หัวเราะเดินออกไป “ยัยบ้าจิว” พอฉันนึกถึงหน้ากาลนานความโมโหก็ขึ้นมาทันที ป่านนี้คงควบกันอยู่บนโต๊ะแล้วมั้งนี่ถ้าฉันไม่อยู่ในห้องทำงานคงควบกันไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้าแล้วยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห “คุณรินทำไ
สามวันต่อมากาลนานไปดูงานที่ต่างประเทศฉันจึงต้องติดตามเขาไปด้วย“คุณไหวมั้ยคุณริน” เขาถามฉันพร้อมทั้งเอาหลังมือแตะหน้าผากของฉัน เพราะฉันไข้หลังจากกลับเข้ามาในโรงแรม“ไหวค่ะ คุณออกไปเลยก็ได้ฉันอยากจะพักผ่อนสักหน่อย” ฉันพูดทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่“คุณอยากไปหาหมอมั้ย” เขาเอามือจับผมตรงหน้าผากฉันเสยขึ้น“ไม่ค่ะ ฉันกินยาก็หายแล้วคุณมีงานอะไรรบกวนส่งเข้าทางข้อความให้ฉันหน่อยนะคะ พรุ่งนี้ฉันจะมาจัดการให้ค่ะ” ลมหายใจที่ร้อนผ่าวของฉันรู้เลยว่าฉันมีไข้ขึ้นสูง“คุณเลิกพูดเรื่องงานที่ผมสั่งให้คุณทำได้มั้ย เอาตัวเองก่อน” “ฉันอยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีค่ะ”“ไหนล่ะยาที่คุณกิน” เขาดูลนลาน“ไม่มีค่ะ สงสัยฉันลืมหยิบมาด้วย”“คุณเอาแต่ทำให้ผมเป็นห่วงตลอดนะคุณริน” เขารีบวิ่งเปิดประตูออกไปสักพักเขากลับมาพร้อมกับยาลดไข้ และผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ฉัน“คุณจะทำอะไร” ฉันขยับตัวหนีเมื่อเขาดึงผ้าห่มออกพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิตของฉัน“ก็จะเช็ดตัวให้คุณไง ตัวคุณร้อนอย่างกับไฟเกิดช็อกขึ้นมาจะทำยังไงคุณต้องลดไข้ก่อนนะ” เขาเปิดเสื้อเชิตของฉันออก“เดี๋ยวฉันทำเอง” ฉันแย่งผ้ามาจากมือของเขา“ผมเห็นของคุณมาตั้งเท่าไหร่แล้ว
ปึก“โอ๊ย” เขาร้องลั่นพร้อมกับจับคางและปากของตัวเอง“เลือด” ฉันร้องลั่นเมื่อริมฝีปากของเขามีเลือดแดงสดไหลออกมา “ผมเจ็บนะ คุณจะฆ่าผมเหรอ” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่องดูหน้ากับหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองจนฉันต้องหยิบกระจกให้เขาส่องดู“ฉันขอโทษ แล้วใครใช้ให้คุณเอาคางมาเงยหัวไหล่ของฉันล่ะ” เขาไม่ตอบกลับไปหยิบกระดาษทิชชูแล้วส่งให้ฉัน“เช็ดให้ผม” สีหน้านิ่งเรียบแต่แววตาแฝงไปด้วยความเจ็บเพราะฉันกระแทกแรงมากช่วยไม่ได้อยากทำตัวรุ่มร่ามเอง แล้วฉันก็หัวเราะออกมา“คุณตั้งใจกระแทกผมเหรอ” เขาเลิกคื้วขึ้นคงจะเจ็บไม่น้อยเพราะน้ำตาคลอเบ้าเลย“เปล่านะคะ คุณเอาคางมาเกยฉันเองนะ” ฉันหยิบทิชชูเช็ดปากให้เขาพลางหัวเราะไป“แล้วทำไมคุณต้องลุกพรวดพราดขนาดนั้นด้วยล่ะ” เขาหน้าบึ้งพลางจือปากให้ฉันเช็ด“คุณอยากทำตัวรุ่มร่ามเอง เช็ดเองไปเลยค่ะเพราะนี่ไม่ใช่หน้าที่ของฉัน” ฉันหันหลังแล้วเก็บของจะกลับบ้าน“ไม่ใช่หน้าที่อะไร คุณทำผมเจ็บนะเลือดออกขนาดนี้จะไม่พาผมไปโรงพยาบาลหน่อยเหรอ” เขาทำทีโวยวาย ทีต่อยกับพี่ชายของตัวเองวันนั้นยังไม่สนใจจะเช็ดเลือดที่ปากของตัวเองเลย “ปากคุณนี่น่าจะโดนอะไรฟาดปากสักหน่อยนะคะ อุ้ยขอโทษค่ะพอดีฉั