หลังจากไล่ผู้หญิงคนนั้นไปแล้วผมก็เดินกลับมาหาไอ้คาแลนที่โต๊ะ เมื่อเห็นผมนั่งลงทำให้มันขมวดคิ้วมองอย่างแปลกใจ“นี่มึงทำแล้ว?”“ทำอะไร” ผมนั่งกระแทกลงบนเก้าอี้อย่างหัวเสีย รู้สึกว่าวันนี้แม่งโคตรน่าเบื่อฉิบหายเลย“มึงเพิ่งเดินเข้าไปพร้อมเด็กไม่ใช่? แล้วทำไมออกมาเร็วจังวะ”“กูแค่ไม่มีอารมณ์” ผมตอบก่อนจะยกแก้วขึ้นมาดื่ม“ไอ้นี่! ตอนกูถามมึงก็บอกว่าเอา”“เออ! ตอนนี้ไม่มีอารมณ์มึงจะถามเหี้ยอะไรนักหนาวะ”“เป็นอะไรวะ กูรู้สึกว่ามึงแปลกไปนะไอ้ลีวาย”“เรื่องของกู!!”“ไอ้สัส! กูถามเพราะเป็นห่วง”ผมหยิบแก้วเหล้าดื่มรวดเดียวหมดด้วยอารมณ์ที่เดือดดาล ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรออกไปหาผู้หญิงที่กล้าท้าทายกับผม“หึ!! กล้าดียังไงไม่รับสายฉัน” ผมกดโทรอีกครั้งแต่เธอก็ไม่ยอมรับสาย ผ่านไปครู่หนึ่งก็ปิดเครื่องใส่ปัก!! ผมวางโทรศัพท์กระแทกลงโต๊ะพร้อมอารมณ์เดือดดาลที่ทวีคูณมากขึ้นหลายเท่า“มึงโทรหาใคร”“ยุ่ง!!”“กูชักจะเริ่มสงสัยว่าใครกันที่ทำให้มึงหงุดหงิดได้มากขนาดนี้” ไอ้คาแลนจ้องหน้าผมอย่างคาดคั้น“ไม่มีใครทำทั้งนั้น เก็บความสงสัยของมึงเอาไว้ซะ”ผมพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ พยายามทำใจให้สงบแต่มันก็เ
มือที่สั่นเทาของฉันค่อย ๆ จิ้มไปยังข้อความที่พี่ลีวายส่งมา จากนั้นภาพก็เด้งไปหน้าจอแชตทำเอาอ้าปากค้างเพราะเขาส่งข้อความมาเยอะมาก ๆลีวาย: รับสายฉันมันจะตายหรือไงวะ!!!ลีวาย: กล้าอวดดีกับฉันขนาดนี้เลยรึไง!!ลีวาย: ถ้าไม่รีบโทรกลับมาภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงเธอกับฉันได้เห็นดีกันแน่ลีวาย: … อย่าให้ฉันต้องไปหาเธอด้วยตัวเองหัวใจดวงน้อยเต้นรัว ๆ เพราะความกลัว ถ้าให้เดาตอนที่พี่ลีวายพิมพ์ข้อความส่งมาเขาคงหัวเสียมาก ๆ คิดไม่ออกเลยว่าถ้าฉันอยู่ด้วยตรงนั้นจะเกิดอะไรขึ้นตอนนี้ฉันกำลังคิดหนักว่าจะโทรกลับไปดีไหม ใจจริงมันไม่อยากโทรเลยแต่ถ้าไม่โทรจะเกิดอะไรขึ้น ที่ประเทศไทยตอนนี้น่าจะดึกแล้วด้วยเอาไว้ค่อยโทรคงไม่เป็นอะไรครืด~ ครืด~ ขณะที่กำลังจะวางโทรศัพท์ลง จู่ ๆ มันก็สั่นเพราะมีสายเรียกเข้า พอมองดูหน้าจอท้องไส้มันก็ปั่นป่วนไปหมด เพราะสายที่โทรมาคือพี่ลีวายแน่นอนว่าต้องรับสายถึงจะไม่อยากรับเลย เขาขู่ขนาดนั้นจะให้เมินเฉยได้ยังไง“ฮัลโหลค่ะ”มันแปลกที่พอรับสายแล้วทางปลายสายกลับเงียบ ได้ยินเพียงลมหายใจที่ดังขึ้นเป็นจังหวะทำให้ขนทั้งตัวลุกซู่“พี่…” กำลังจะถามแต่ปลายสายเอ่ยแทรกขึ้นมาซะก่อน น้ำเสียง
ผมลุกขึ้นหยิบผ้ามาซับเลือดบนมืออย่างไม่รู้สึกเจ็บ แม้ว่าเลือดจะไหลออกมามาก ก่อนจะเดินออกมาสูบบุหรี่ที่ริมระเบียง พลางคิดสงสัยว่าทำไมกับไอ้แค่ผู้หญิงคนเดียวถึงทำให้ผมหัวเสียมากขนาดนี้ได้ แถมยังไม่มีอารมณ์กับผู้หญิงคนอื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน“ก็แค่ผู้หญิงคนเดียวทำไมต้องสนใจด้วยวะ แม่งเอ้ย!!”มันเพราะอะไรกัน แน่นอนว่านอกจากความแค้นผมไม่ได้รู้สึกอะไรอีก ไม่เคยรักมีแต่ความเกลียด ยิ่งเธอพยายามหนีมันก็ทำให้ร้อนใจซะจนอยากตามไปถึงต่างประเทศแล้วลากเธอกลับมาทรมานให้สาสมใจรู้แบบนี้ผมคงแอบถ่ายคลิปตอนเอากับเธอเอาไว้จะได้ไม่กล้าอวดดีขนาดนี้แค่วูบเดียวที่เผลอคิดถึงใบหน้าของยัยนั่นตอนที่มีอะไรกัน จู่ ๆ ความเป็นชายของผมมันก็ผงาดชูชันขึ้นมา “ซี๊ด! แค่คิดถึงหน้าทำไมต้องแข็งขนาดนี้ด้วยวะ!!”หึ!! ทั้งที่เกลียดแต่กลับมีอารมณ์เพียงเพราะคิดถึงตอนทำกับเธอ ผมคงต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่!!“… อีกไม่นานเธอจะต้องกลับมา” ผมกำมือแน่นแล้วสบถออกมาด้วยอารมณ์ที่แข็งกร้าวผมนอนอยู่บนเตียงมองเพดานห้องพลางคิดหาวิธีอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจโทรหาไอ้คาแลนเพราะมีแค่มันที่ทำได้ (โทรมามีอะไร)“ช่วยอะไรกูหน่อย”(คนอย่างมึงเนี่ยนะ
หลังจากกินอาหารเสร็จพี่คัลเลนก็พาฉันนั่งรถชมรอบ ๆ เมืองต่อ“อยากถ่ายรูปไหม”“มิลินไม่ได้เอาโทรศัพท์มาค่ะ”“เดี๋ยวใช้โทรศัพท์พี่ถ่ายก่อนก็ได้”“… ก็ได้ค่ะ”ตรงนี้ผู้คนค่อนข้างเยอะคงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องแวะ ฉันแอบเห็นว่ามีคนไทยด้วย“พี่จะถ่ายแล้วนะ”“ค่ะ”ฉันยืนนิ่ง ๆ อย่างเขินอายให้พี่คัลเลนถ่ายภาพ ที่เขินก็เพราะมีชาวต่างชาติหลายคนเอาแต่มองจนทำตัวไม่ถูก“รีบไปกันดีกว่าค่ะ” พอถ่ายรูปเสร็จแล้วฉันก็รีบกลับมานั่งในรถ“อยากไปที่ไหนต่ออีกไหม?” ตอนนี้มันค่ำ ๆ แล้ว ทำให้ฉันรู้สึกอยากไปที่ ๆ หนึ่ง “มิลินอยากไป… ดื่มค่ะ”“ดื่ม?” พี่คัลเลนขมวดคิ้วหนามองด้วยความแปลกใจ“แปลกตรงไหนคะ ก็มิลินอยากดื่มเหล้าเก่ง ๆ บ้าง ไม่ใช่แก้วสองแก้วก็เมาแล้ว”“พี่ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ อยากไปก็จะพาไปแต่ถ้าดื่มไม่ไหวอย่าฝืนนะ”“ค่ะ”พี่คัลเลนขับรถมาจอดยังบาร์แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของคุณท่านเท่าไร จากนั้นก็พาฉันเดินเข้าไปด้านในก่อนจะนั่งที่หน้าบาร์แล้วสั่งเหล้าให้“ถ้าอยากมาเมื่อไรก็บอกพี่นะ พี่จะมาเป็นเพื่อน” พี่คัลเลนจิบเหล้าก่อนจะพูด“ค่ะ” ฉันพยักหน้าตอบก่อนจะยกแก้วขึ้นมาดื่มที่นี่คนไม
ฉันไม่ได้ท้าทายหรือประชด ทุกคำพูดที่เอ่ยออกไปแปลว่าตอนนี้ความรู้สึกทั้งหมดมันถึงขีดจำกัดแล้ว มันเสียใจจนไม่รู้จะเสียใจยังไงแล้วกับการกระทำหลาย ๆ อย่างของพี่ลีวายถ้าเขาอยากจะทำร้ายกันมากนักฉันก็ห้ามไม่ได้…(บอกว่าอย่าท้าทายฉัน)“ไม่ได้ท้าทาย แต่มิลินเหนื่อยแล้ว เหนื่อยที่ต้องเสียใจกับการกระทำของพี่ลีวายที่ไม่เคยให้ค่ามิลินเลย”พี่ลีวายพูดย้ำเหมือนอยากให้ฉันคิดทบทวนดี ๆ แต่ไม่ใช่หรอก เจตนาจริง ๆ ของเขาก็แค่อยากให้ฉันกลับไทย กลับไปเป็นที่รองรับอารมณ์เขาให้ค่าฉัน… แค่นั้นจริง ๆ … แต่ฉันกลับให้ค่าผู้ชายที่ทำร้ายตัวเองซะมากมาย(มั่นใจว่าจะเลือกแบบนั้น)“มิลินไม่อยากกลับไทยค่ะ หวังว่าหลังจากปล่อยคลิปแล้วความเกลียดที่พี่ลีวายมีให้มิลินมันจะลดลง”(หึ!! ไม่มีทาง)“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจพี่ลีวายเลยค่ะ อยากจะเกลียดก็เกลียดไป ต่อไปนี้มิลินจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว”(อย่างเธอจะทำได้แบบที่พูดจริง ๆ หรือไง)ฉันกำมือแน่นคำพูดนั้นมันยิ่งตอกย้ำว่าฉันต้องทำให้ได้ “มิลินยอมพี่ลีวายมามากแล้ว ต่อไปนี้จะไม่ยอมอีกแล้วค่ะ”(ฉันรอดูว่าเธอจะทำได้จริง ๆ หรือเปล่า)“มิลินเจ็บมามากพอแล้ว เจ็บจนข้างในมันชินชาไปแล้ว”(เ
เชื่อว่าคนเราถ้ามันสุดแล้วจริง ๆ จะเล่าทั้งหมดอย่างไม่อาย ซึ่งฉันก็เป็นแบบนั้นเพราะไม่อยากแต่งงานกับพี่ลีวาย เพราะการแต่งงานกับเขาก็ไม่ต่างอะไรกับการผลักตัวเองลงไปในเหวนรก ฉันรู้ว่าพี่ลีวายต้องพยายามทุกทางให้ฉันเจ็บปวดเพื่อแก้แค้น คนอย่างเขาต่อให้อธิบายเท่าไรก็ยังเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดถึงในตอนนี้ข้างในใจของฉันจะยังมีเขาอยู่ แต่ความรู้สึกมันบอกว่าให้พอได้แล้ว… ฉันควรหยุดทุกอย่างไว้ห้ามรู้สึกอะไรอีกและเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ที่เข้มแข็งขึ้นหลังจากเล่าทุกอย่างให้คุณท่านฟัง ท่านก็นั่งเงียบสีหน้าเคร่งเครียดจนฉันไม่กล้าพูดอะไรต่อ“ถ้าฉันรู้ว่าลูกชายตัวเองจะเลวขนาดนี้ คงไม่ฝากให้มันดูแลหนูตั้งแต่แรก” คุณท่านกัดกรามแน่นเพราะความโกรธหลังจากฟังเรื่องเล่าจากฉันจบ“… หนูกับพี่ลีวายจะไม่ได้แต่งงานกันใช่ไหมคะ… คุณท่านจะไม่บังคับใช่ไหม” ฉันกำมือแน่นจนเปียกชุ่มเหงื่อแล้วถามออกไปให้ตัวเองมั่นใจว่าจะไม่มีงานแต่งเกิดขึ้นจริง ๆ“แน่ใจใช่ไหม ว่าไม่อยากให้ตาลีวายมารับผิดชอบ” ถึงแม้จะเล่าทุกอย่างให้ฟังแล้ว แต่คุณท่านก็ยังถามย้ำซึ่งฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ“… หนูยอมรับนะคะ ว่าแอบรักพี่ลีวายมานานมาก เคยอยา
—-Talk ลีวาย—ผมกำโทรศัพท์ในมือแน่น เมื่อโทรหามิลินแล้วเธอไม่รับ แถมยังไม่กลัวคำขู่ของผมอีก ปีกกล้าขาแข็งมาจากไหน!!คิดว่าผมจะเชื่อเหรอ ว่าเธอไม่กลัวอย่างปากว่า แค่ทำเป็นเก่งต่อหน้าผมก็เท่านั้น และผมก็ไม่ได้เดือดร้อนใจอะไรกับที่เธอบอกให้รับให้ได้บ้างแล้วกัน แต่แค่หงุดหงิดที่เธอไม่ยอมง่าย ๆ เหมือนเมื่อก่อนก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องหงุดหงิด เพราะเรื่องมิลินแม่งทำให้หมดอารมณ์กับทุกอย่าง ทั้งเที่ยว ดื่ม หรือแม้แต่เรื่องผู้หญิง มันน่าหงุดหงิดฉิบหายตั้งแต่มิลินไปผมก็แทบไม่อยากจะคุยหรือยุ่งกับผู้หญิงที่ไหน ถึงจะนึกมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแต่พอคิดว่าคน ๆ นั้นไม่ใช่เธอแล้วมันก็หดนี่ผมกำลังติดใจเธอจริง ๆ เหรอ หึ! ไม่มีทาง ผมก็แค่หัวเสียเกินไปเพราะเธอทำเป็นสู้กลับก็เท่านั้นแหละ คนอย่างผมไม่มีทางรู้สึกอะไรกับเธอหรอก#วันต่อมาตื่นนอนเสร็จ ผมก็อาบน้ำแต่งตัว พยายามลบเรื่องมิลินออกจากหัวและไม่นึกถึงมันอีก จากนั้นก็ออกไปซื้อของมาจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้านริมสระไม่ใช่เป็นการจัดปาร์ตี้ธรรมดาแต่ผมจ้างผู้หญิงตัวท็อปของทุกร้านมา เพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองหมดอารมณ์กับผู้หญิงจริงรึเปล่าหมายถึงผู้หญิงค
พ่อมองหน้าผมเหมือนหมดคำที่จะพูดต่อ ก่อนจะเดินไปไล่พวกผู้หญิงที่ผมเรียกมา ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว“เตรียมตัวจัดการธุระให้เสร็จภายในเดือนนี้ซะ และหวังว่าแกจะไม่ขัดคำสั่งของฉัน” พ่อเดินกลับมาพร้อมสั่งเสียงกร้าวก่อนจะหันหลังให้“จะไปไหนครับ”“กลับต่างประเทศ”“หึ! พ่อมาแค่เรื่องนี้เองสินะ” ผมใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิดที่รู้ว่าพ่อมาเพื่อจะต่อว่าเรื่องแค่นี้“ใช่!! เพราะฉันโทรมาแล้วแกไม่รับ ถึงได้ต้องมาถึงที่นี่ไง!! ต่อไปนี้เลิกทำให้ฉันหนักใจสักที”“เพราะเด็กนั่นที่ทำให้พ่อหงุดหงิดผมขนาดนี้”“หนูมิลินเสียใจกับการกระทำของแกขนาดไหน ยังไม่รู้ตัวอีกหรือไง”“…”“คอยดูเถอะ แกจะคิดได้ในวันที่หนูมิลินไม่สนใจแกแล้ว ถึงวันนั้นตัวแกเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายรู้สึกผิด”“ทำไมต้องรู้สึกผิด ผมทำอะไรผิดครับ?”“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคลิปนั่นมันเป็นคลิปตัดต่อ ฉันให้ลูกน้องสืบแล้ว แกนี่มันทำได้ทุกอย่างจริง ๆ”“บ่นเสร็จแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัว”“จะไปไหน!!”“ออกไปข้างนอกครับ”“กลับมาเดี๋ยวนี้!! ฉันสั่งให้แกกลับมา!!”ผมไม่สนใจคำที่ตวาดตามหลังของพ่อ ก่อนจะเหยียบคันเร่งรถขับออกจากบ้านด