แชร์

16.ค่าปรับ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ไทเปิดประตูให้แม่หน่อย”

ไทธัชรีบวางไอแพดในมือแล้วลุกเดินไปเปิดประตูอย่างรวดเร็ว

“ทำอะไรอยู่ลูก”

“วาดรูปอยู่ครับแม่” เมื่อเห็นมารดามีสีหน้าแปลกใจไทธัชก็เลยต้องเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง

“ลูกชายแม่โตขึ้นมากเลย แม่ดีใจที่ลูกทำงานต่อให้เพื่อนแล้วไม่คิดจะเอาผลงานมาเป็นชื่อของตัวเอง”

“ผมสงสารเขาครับแม่ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรคิวถึงต้องตัดสินใจจากไปแบบนั้น ครอบครัวของเขาก็ดูอบอุ่นดี”

“เขาก็คงมีปัญหาที่บอกใครไม่ได้ ถ้าหมอซันไม่เจอกับไทวันนั้น ไทของแม่ก็อาจจะตัดสินใจแบบนั้นลงไปก็ได้”

“นั่นสิครับ พี่ซันเป็นฉุดผมขึ้นมา พอมีโอกาสผมก็เลยอยากทำอะไรให้พี่ซันบ้าง”

“คิดดีแล้วล่ะ แล้วไปทำความสะอาดห้องให้พี่เขาดีหรือเปล่า ไม่ใช่ทำแบบลวก ๆ นะลูก”

“ผมทำเต็มที่เลยครับมารับรองได้ว่าสะอาดกว่าจ้างแม่บ้านอีก”

“ดีแล้ว เขามีน้ำใจกับเรา ช่วยเหลือเรา เราก็ควรตอบแทนบ้าง แต่ใช่ว่าทำงานแค่นี้แล้วเราจะไม่ชดใช้เงินเขานะ มันคนละเรื่องกัน”

“ผมรู้ครับแม่ แต่ถ้าให้เงินตอนนี้พี่ซันก็ไม่รับอยู่ดี เขาบอกจะรอตอนผมเรียนจบก่อน”

“เงินแค่นี้มันคงเล็กน้อยสำหรับเขา แต่สำหรับเราแล้วมันก็ถือว่าเยอะอยู่มาก เพราะฉะนั้นอะไรที่ทำให้พี่เขาได้และมันไม่ลำบากจนเกินไปแม่ว่าไทก็ควรทำ”

“ครับแม่ แม่จำได้ไหมที่ผมบอกว่าจะต้องไปใช้คอมพิวเตอร์ที่ร้านเพื่อเรียนการใช้โปรแกรมได้ไหมครับ”

“จำได้สิ แล้วมีปัญหาอะไรไหม ที่ร้านเขามีโปรแกรมที่ไทต้องเรียนหรือเปล่า” เธอเป็นกังวลเพราะกลัวลูกชายจะไม่ได้เรียนตามที่ตั้งใจ ครั้นจะซื้อเครื่องใหม่ให้ลูกชายก็บอกว่าไม่จำเป็นขนาดนั้น

“ผมไม่ได้ไปที่ร้านหรอกครับแม่ พอดีคอมพ์ของพี่ซันก็เรียนได้ ผมก็เลยเรียนที่ห้องพี่ซันครับ”

“รบกวนพี่เขาอีกแล้ว”

“ผมก็ไม่อยากรบกวนแต่พี่ซันบอกเองว่าให้ผมใช้ ถ้าเครื่องมีปัญหาจะได้รับเอาไปเคลมเพราะเพิ่งซื้อมาได้แค่เดือนเดียวเอง เลยอยากให้ผมได้ลองใช้”

“อ้อ แม่ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ แล้วพรุ่งนี้ต้องทำความสะอาดห้องอีกไหม แม่ว่าจะฝากกับข้าวไปให้หมอซันสักหน่อย”

“พรุ่งนี้ไปทำความสะอาดห้องตอนบ่ายครับ แต่ผมว่าอย่าฝากกับข้าวไปเลย เพราะเย็นวันพุธพี่ซันบอกว่าจะขอมาทานข้าวเย็นด้วยครับ”

“แล้วพี่เขาบอกไหมว่าอยากกินอะไร”

“ไม่ได้บอกครับ แม่ก็ทำแบบที่เรากินกันนี่แหละครับ พี่เขาขอแค่สะอาดและไม่เผ็ดมากแค่นั้นเอง”

“ได้จะ แม่กับยายจะได้ช่วยกันทำ ถ้ายายรู้คงดีใจ”

“นั่นสิครับ พี่ซันน่ะขวัญใจยายเลย แล้วแม่กับยายเป็นไงบ้างครับ ไปเยี่ยมญาติมาเหนื่อยไหมครับ”

“ไม่เลยจ้ะ พอได้เจอญาติ ๆ ยายของไทก็ดูจะมีความสุข ยิ้มทั้งวันเลย”

“แม่ครับพี่ฝ้ายนี่เขาขอมาอยู่กับเรานานไหมครับ”

“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันลูก อันที่จริงบ้านเราก็ไม่ได้สะดวกสบายขนาดนั้น แต่แม่ก็เกรงใจลุงไม้เพราะแต่ก่อนลุงเขาคอยช่วยเหลือดูแลยายตอนที่แม่เข้ามาอยู่กรุงเทพใหม่ ๆ และยังไม่ได้พายายมาอยู่ด้วย แม่อยากให้ไทอดทนหน่อยละลูก”

“ผมทนได้ครับแม่ แต่แม่กับยายต้องอยู่ห้องเดียวกัน ห้องนั้นมันเล็กมากเลยนะครับ ผมอยากให้ยายมานอนห้องผม ส่วนผมนอนพื้นก็ได้ครับ ผมอยากให้ยายนอนสบาย ๆ”

“เดี๋ยวแม่จะลองคุยกับยายให้นะ ไททำงานต่อเถอะ”

“ครับแม่”

เมื่อคืนไทธัชวาดรูปจนดึก เขารู้ว่าวันนี้ไม่ต้องรีบตื่นตอนแต่เช้าเพราะมารดายังไม่ได้ทำกับข้าวไปขาย

พออาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้องนอนก็เห็นว่ายายกับพี่ฝ้ายกำลังนั่งดูทีวีด้วยกันสองคน

“ตื่นแล้วเหรอ หิวไหม กับข้าวอยู่ในตู้นะลูก” ยายมาลัยหันมาบอกหลานชาย

“ยังไม่หิวเลยครับยาย แล้วแม่ไปไหนล่ะครับ”

“ออกไปซื้อของมาทำกับข้าวพรุ่งนี้”

“ผมนึกว่าแม่จะให้ผมไปช่วยเสียอีก”

“แม่คงเห็นว่าเราอ่านหนังสือจนดึกเลยไม่อยากรบกวน”

“ไทอยู่ ม.อะไรแล้วจ้ะ”

“ม.6 ครับ”

“กำลังเตรียมตัวสอบเข้าสินะ มีวิชาไหนไม่เข้าใจถามพี่ได้นะ”

“ดีเลย ยายฝากฝ้ายช่วยติวให้น้องด้วยนะ”

“ค่ะยาย”

พอทานอาหารเช้าเสร็จแล้วไทธัชก็กลับเข้าไปในห้องเพื่ออ่านหนังสืออีกนิด เพราะจากทีแรกที่คิดว่าจะทานอาหารกลางวันให้เรียบร้อยแล้วค่อยออกไปทำความสะอาดคอนโดให้อคิราห์เด็กหนุ่มก็เปลี่ยนใจ

แต่จะไปห้องของอคิราห์ก่อนเวลาที่บอกก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ไทธัชจึงส่งไลน์ไปถามเขาก่อน

T ^_^ T : พี่ซันครับ

Dr.Akhirah : ว่า?

T ^_^ T : ผมไปที่ห้องพี่ตอนนี้ได้ไหม

Dr.Akhirah : ไปสิ ใครห้าม

T ^_^ T : มันก่อนเวลาที่บอก เกรงใจครับ

Dr.Akhirah : พูดว่าเกรงใจโดนปรับ

T ^_^ T : เอาอะไรเป็นค่าปรับครับ กาแฟร้านพี่พีทไหมครับ

Dr.Akhirah : จะเอามาส่งเหรอ

T ^_^ T : จะเอาไหมล่ะครับ เอากาแฟไร

Dr.Akhirah : อเมริกาโน่ เย็น หวานน้อย

T ^_^ T : ส่งที่ไหนครับ

Dr.Akhirah : ตึกศัลยกรรม ถึงแล้วบอกนะ จะลงไปเอา

T ^_^ T : รับทราบครับ

Dr.Akhirah : รอนะ

หลังจากส่งข้อความไปแล้วไทธัชก็รีบอาบน้ำแต่งตัวและไม่ลืมที่เอาไอแพดไปด้วย เพราะระหว่างรออคิราห์เลิกงานเขาจะได้ลงสีเพิ่มเติม

ตอนนี้รูปเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือลงสีเพิ่มเติมอีกเพียงนิดก่อนจะส่งให้กับคุณธีรธร แต่เขาก็อยากให้อคิราห์ดูก่อน

“อ้าว ไทจะไปไหนจ๊ะ ไหนว่าจะให้พี่ติวให้ไง”

“ผมมีธุระครับพี่ฝ้าย ขอตัวก่อนนะครับ”

“ไปไหนล่ะลูก”

“เอาของไปให้พี่ซันที่โรงพยาบาลครับยาย แล้วก็จะเลยไปทำความสะอาดห้อง”

“จะกลับดึกไหมล่ะลูก”

“ไม่แน่ครับ ยายไม่ต้องรอกินข้าวเย็นนะครับ ผมคงกินมาจากข้างนอก”

“ไทบอกแม่แล้วใช่ไหม”

“บอกแล้วครับยาย ผมไปก่อนนะครับไม่อยากให้พี่ซันรอนาน”

ไทธัชหยิบเป้ใบเก่งขึ้นบ่า จากนั้นก็สวมรองเท้าผ้าใบคู่เก่งสีขาวที่ดูไม่ใช่สีขาวสักเท่าไหร่ แต่เขาก็ชอบว่าเพราะคู่นี้เก็บเงินซื้อเองตอนเรียนอยู่ชั้น ม.5

เด็กหนุ่มนั่งรถเมล์ไม่กี่ป้ายก็ถึงหน้าโรงพยาบาลที่อคิราห์ทำงานอยู่ เขาแวะไปซื้อกาแฟที่ร้านของพีรพลซึ่งตอนนี้มีพนักงานคนใหม่ที่รับมาหลังจากเขาลาออกไปแล้ว

“สวัสดีครับพี่พีท”

“อ้าว ไท มาได้ไง”

“คิดถึงพี่พีทไงครับ”

“อย่ามาทำปากหวาน แล้วมาคนเดียวเหรอ”

“ครับพี่ แล้วพี่เจนกับพี่มิ้นต์ไปไหนเหรอครับ”

“กินข้าวอยู่หลังร้าน เดี๋ยวพี่เรียกให้เอาไหม”

“ไม่เป็นไรครับ วันนี้ผมแวะมาซื้อกาแฟให้พี่ซันครับ เอาไว้วันหลังมีเวลาเยอะกว่านี้ค่อยแวะมาใหม่ครับ”

“ชงเองไหม” เจ้าของร้านถาม

“ไม่ดีกว่าครับ”

“งั้นพี่ให้เด็กใหม่ชงนะ นั่นชื่อก้องเพิ่งทำงานได้สี่วัน”

“ได้ครับ ใครชงก็เหมือนกัน พี่ซันไม่รู้หรอก”

“อเมริกาโน่เย็นหวานน้อยนะครับ ผมขอปลอกแก้วก่อนได้ไหมครับ” เขาหันไปบอกพนักงานคนใหม่ที่ดูน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เมื่ออีกฝ่ายส่งปลอกแก้วให้ไทธัชก็หยิบปากกาออกจากกระเป๋าแล้ววาดรูปดวงอาทิตย์กับรูปชูสองนิ้วลงไปอย่างเคย

ออกจากร้านกาแฟก็รีบตรงไปยังตึกศัลยกรรมที่ตัวเองเคยมาส่งกาแฟตอนทำงานอยู่กับพีรพลอยู่หลายครั้ง

เขาโทรศัพท์ไปหาอคิราห์ระหว่างที่กำลังจะเดินไปถึงหน้าตึก แต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะลงมารอก่อนแล้ว

“พี่รู้ได้ไงว่าผมจะมาตอนนี้ ก็กะเวลาเอาไง จากบ้านมาขึ้นรถ แล้วก็มาร้านกาแฟน่าจะชั่วโมงหนึ่งพอดี”

“ผมไม่เคยจับเวลาเลย”

อคิราห์แอบยิ้มที่เห็นท่าทางของอีกคนงง ๆ

“ผมกลับเลยนะครับพี่จะได้ทำงานต่อ”

“ไท เย็นนี้พี่กลับค่ำหน่อยนะ จะรอไหม”

“ถ้าพี่ให้รอผมก็รอ”

“งั้นรอนะ ว่าจะสั่งอะไรไปกินด้วยกันสักหน่อย”

“พี่ซันครับ ผมขอยืมคอมพิวเตอร์ได้ไหม”

“เอาสิ นายจะทำอะไรในห้องพี่ก็ตามสบายเลย ยกเว้นพาสาวมานอนแค่นั้นเอง”

“ใครจะทำอย่างนั้นกันล่ะ หรือพี่ทำ”

“พี่ไม่เคยพาสาวที่ไหนขึ้นห้อง”

“เชื่อตายเลยหน้าตาอย่างพี่ผมว่าสับรางแทบไม่ทันมากกว่า”

“แล้วเคยเห็นพี่ทำอย่างนั้นไหมล่ะ”

ไทธัชส่ายหัว แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะนั่นมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา

“ผมไปจริง ๆ ละนะ พี่ก็กลับไปทำงานได้แล้ว”

“อือ เดิน ๆ ดีอย่าสะดุดขาตัวเองล้มล่ะ” เขาพูดไล่หลังอย่างอารมณ์ดี

ตั้งแต่เจอกันถึงตอนนี้ก็หนึ่งเดือนมาแล้ว อคิราห์รู้สึกว่าเหมือนเขากับเด็กหนุ่มรู้จักกันมานานแสนนาน เขาพูดคุยกับไทธัชได้ทุกเรื่อง เด็กหนุ่มคนนี้ทำให้เขายิ้มมากขึ้น หัวเราะบ่อยขึ้นและอยากจะกลับไปที่คอนโดเร็วขึ้น

ชายหนุ่มมองแก้วกาแฟในมือแล้วยิ้มเมื่อเห็นปลอกแก้วที่ไทธัชเขียนข้อความและวาดรูปไว้เหมือนทุกครั้ง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status