วันหยุดยาวไทธัชโทรไปหามารดา เพื่อบอกว่าสัปดาห์นี้เขาจะติวหนังสือกับรุ่นพี่จึงไม่กลับบ้านอย่างที่ได้บอกไว้ มารดาของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะลูกชายเป็นเด็กดีมาตลอดชายหนุ่มนัดกันมาติวที่หอของรุ่นพี่ แต่พอมาถึงกลับพบว่าตอนนี้มีแค่เขากับวีริญารุ่นพี่ที่เขาเริ่มคบหาได้เกือบหนึ่งเดือน เพียงแค่สองคนเท่านั้น“สงสัยคนอื่นกลับบ้านกันหมดแล้วแน่เลย”“นั่นสิ ผมก็ลืมคิดว่าเป็นวันหยุดยาว”“ไม่เป็นไรริญาติวให้ไทคนเดียวก็ได้ส่วนคนที่เหลือก็ค่อยเอาไว้วันหลัง”“งั้นริญาก็ต้องเหนื่อยสองรอบนะครับ ผมว่ารอพร้อมกันดีกว่า วันนี้ผมกลับก่อนก็ได้”“เดี๋ยวสิไท อยู่เป็นเพื่อนริญาก่อน หยุดยาวที่หอเงียบมาก ริญาไม่อยากอยู่คนเดียว”“เราออกไปดูหนังกันดีไหม”“ไท” วีริญาขยับเข้าใกล้จนไทธัชได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ“เราไม่ต้องนั่งชิดขนาดนี้ก็ได้”“ไทรังเกียจริญาเหรอ หรือเพราะริญากับพี่เข้มเคยเป็นแฟนกันมาก่อน” หญิงสาวหมายถึงเขมทัตรุ่นพี่ปีสามที่เธอเพิ่งเลิกกับเข้าได้ไม่ถึงสองเดือน“เปล่า ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย”“แต่ไทไม่เคยจับมือ ไม่เคยจูบริญาเลยสักครั้ง” หญิงสาวทำท่าทางน้อยใจเหมือนกำลังจะร้องไห้ ไทธัชจึงต้องรีบปลอบ“ผมไม่ได้รัง
ตั้งแต่คืนวันนั้นอคิราห์ก็ไม่ได้เจอกับไมค์อีกเลย ชายหนุ่มกลับมาทุ่มเทกับการเรียนและการฝึกทักษะอย่างหนัก เขาอยากเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด พอวันหยุดก็ไปช่วยงานอาจารย์คลินิกในช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้เขาคิดว่าจะกลับประเทศไทยเพื่อจัดการอะไรให้เรียบร้อย เพราะหลังจากนี้เขาคิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาอีกหลายปีเรื่องนี้เขายังไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งไทธัช เพราะหลังจากวันที่ชายหนุ่มส่งรูปมาให้ดูอคิราห์ก็ยังไม่ได้คุยกับเจ้าตัวอีกเลย แต่ก็ยังคงมีข้อความส่งถึงกันอยู่เหมือนเดิมอคิราห์ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับชายหนุ่ม แม้อยากจะได้ยินเสียงอยากเห็นหน้าอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็ตาม เขากลัวว่าตัวเองจะทนฟังเรื่องราวของไทธัชกับแฟนรุ่นพี่ไม่ได้ เพราะรู้ว่าอีกคนคงต้องเล่าทุกเรื่องให้ฟังอย่างที่มักทำเป็นประจำแน่นอนเขาเห็นสายที่ไม่ได้รับจากไทธัชอยู่หลายสาย แต่ก็ไม่ได้โทรกลับ อคิราห์ส่งไลน์กลับไปบอกแค่ว่าถ้าว่างแล้วจะโทรหาแต่ผ่านมาหลายวันแล้วเขาก็ยังไม่โทรกลับ อคิราห์อยากขอเวลาทำใจอีกนิดก่อนที่จะคุยกับไทธัชอีกครั้งวันนี้พอมีเวลาว่างอคิราห์เลยถือโอกาสมานั่งดื่มที่บาร์แห่งเดิม
พอเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จไทธัชก็มายืนรอปัณวุฒิที่หน้าตึกคณะวิศวะตามที่รูมเมทนัดไว้ ระหว่างรอก็มองนักศึกษาคนอื่นไปเรื่อย คณะที่มีแต่ผู้ชายหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น ถึงว่าละรูมเมทบอกเขาว่าลองมาที่นี่แล้วจะรู้ใจตนเองขึ้นอีกนิด“ไท โทษทีนะอาจารย์ปล่อยช้าไปหน่อย”“อือ ไปกันเลยไหม”“ใจร้อนจังนะมึง”“ก็กูอย่างรู้ว่าชมรมนั่นมีอะไร”“เบาๆ หน่อยสิ มันเป็นความลับ”“เอา กูขอโทษก็มันตื่นเต้นนี่หว่า”ปัณวุฒิพาเขานั่งแท็กซี่มายังคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งดูหรูหราพอ ๆ กับคอนโดของอคิราร์เลยทีเดียว“จำไว้นะมึง ทุกคนที่เจอที่นี่ เป็นความลับ ไม่ว่ามึงจะรู้จักมาก่อนหรือเปล่ามึงก็ต้องทำตัวนิ่งเข้าไว้ แล้วพอเจอกันข้างนอกมึงก็ต้องทำเป็นไม่รู้จัก หรือถ้าเป็นคนที่มึงรู้จักดีอยู่แล้วก็ห้ามพูดหรือถามเรื่องนี้เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น”“กูชักกลัวแล้วสิ มึงไม่ได้พากูมาขายใช่ไหม”“อย่างมึงขายไม่ได้ราคาหรอก อย่ากลัวไปเลย”“ทำไมวะ กูก็ออกจะหล่อนะ”“หล่อ แต่ไร้ประสบการณ์ใครเขาจะเอามึงวะ”เหตุผลที่ไทธัชตามรูมเมทมาวันนี้ก็เพราะอยากรู้ใจตนเองว่าเป็นแบบที่ปัณวุฒิพูดหรือไม่มาถึงหน้าห้องชายหนุ่มคนซึ่งเดินนำมาตลอดก็เคาะประตู เสียงปลดล็อกจากทาง
อคิราห์เงียบหลังจากได้ฟังคนปลายสายพูด เขาไม่รู้ว่าพระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเขาหรือเปล่า อยู่ดี ๆ คนที่เขาชอบก็มาบอกว่าตนเองเป็นเกย์“ล้อเล่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“พี่คิดว่าเรื่องนี้มันล้อเล่นกันได้เหรอครับ” อีกคนถามกลับ“ถ้าอย่างนั้นพี่ถามหน่อยทำไมไทถึงคิดว่าตัวเองเป็นเกย์แล้วรู้ได้ยังไง รู้ตั้งแต่ตอนไหน” พอโอกาสก็ยิงคำถามเป็นชุด“ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น ผมเองก็เพิ่งรู้”“คิดไปเองหรือเปล่า หรือมีใครบอก”แล้วไทธัชก็บอกว่าที่เขารู้ก็เพราะรูมเมทที่เป็นเกย์บอก และเขาเองก็คิดว่าเป็นแบบนั้น“อย่าบอกนะว่าไท กับรูมเมท...” อคิราห์ไม่กล้าถามต่อเพราะตอนนี้รู้สึกเจ็บจนไม่อาจจะพูดหรือถามอะไรต่อไปได้ถ้าหากเขาไม่มาเรียนที่นี่ ถ้าหากเขาอยู่กับไทธัชอย่างเมื่อก่อน เขาก็คงไม่เสียอีกคนไปแบบนี้ และถ้าย้อนเวลาได้เขาจะไม่มาเรียนที่นี่อย่างแน่นอน“พี่ซันโกรธเหรอครับ”“เปล่า”“แต่พี่เงียบไป ผมใจไม่ดีเลย ผมกับรูมเมทไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่เขาพูดให้ผมเข้าใจตัวเอง ให้ผมลองทบทวนความรู้สึกตัวเองก็เท่านั้น”พอได้ยินคำตอบอคิราห์ก็รู้สึกโล่งใจแต่ก็ยังกังวล“ไม่ใช่ว่าผิดหวังจากผู้หญิงเลยหันมาชอบผ
เพราะตื่นมาคุยกับอคิราห์ตั้งแต่ตีสองครึ่ง พอวางสายก็นอนไม่หลับ เย็นนี้ไทธัชจึงง่วงจนตาแทบจะปิดตอนกลับมาถึงหอพัก หลังจากเลิกเรียนในตอนเย็น“ไอ้ไท ลุกมาคุยกับกูก่อน อย่าเพิ่งนอน”“เดี๋ยวค่อยคุยได้ไหม กูง่วง”“แต่กูอยากรู้เรื่องของมึง”“ทำไม่วะ ถ้าไม่รู้คืนนี้มึงจะนอนไม่หลับเหรอ” ไทธัชถามขณะที่ดึงผ้าห่มคลุมจนมิดศีรษะ“มึงอย่ากวนตีน ลุกมาคุยกับกูก่อน ถ้ามึงไม่ยอมคุยกับกู กูจะบอกคนอื่นว่ามึงเป็นเกย์และมึงกับกูก็เป็นแฟนกัน”“ไอ้เชื่ยปั้น มึงขู่กูเหรอ”“ลุกมาเลยมึง ให้ไว”“กูขอนอนก่อนได้ไหม กูง่วงจริง ๆ”“เดี๋ยวกูไปหาอะไรเย็น ๆ ให้มึงกินจะได้สดชื่น เอาเบียร์ไหม”“อือ แต่เอาของมึงนะ” เพราะในตู้เย็นจะแบ่งของออกเป็นสองฝั่ง ที่ไทธัชพูดถึงก็คือจะเอาเบียร์ในฝั่งที่เป็นของปัณวุฒิ“กูให้มึงสองกระป๋องเลย” พูดแล้วก็เดินไปหยิบเบียร์ในตู้มายื่นให้ไทธัชชายหนุ่มรับมาแล้วเอากระป๋องแนบไปที่แก้ม เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองตื่นตัว“เล่ามาเร็วกูรอฟัง”ไทธัชไม่ได้เล่าถึงรายละเอียด เขาเพียงแค่บอกว่าทุกอย่างโอเคและตอนนี้ก็ตกลงที่จะเป็นแฟนกันแล้ว“ใช้ได้เลยมึง”“อือ งั้นกูนอนได้แล้วนะ”“อือ มันมีอะไรอีกเยอะที่มึงควรรู้
ไทธัชกลับมาถึงบ้านตั้งแต่เช้า พอมาถึงก็เก็บล้างทำความสะอาดเครื่องใช้ในครัวอย่างเคย ระหว่างรอมารดาและยายกลับมาจากการขายกับข้าวที่ตลาด“แม่ครับแล้วยายไม่กลับมาพร้อมกันเหรอครับ” เขาถามมารดาเมื่อเห็นมารดาลงมาจากรถเพียงคนเดียว“ยายไปงานโกนผมไฟหลานชายเจ๊จิตจ้ะลูก” เธอบอกลูกชายขณะที่ช่วยกันยกหม้อลงจากรถก่อนช่วยกันจะล้างทำความสะอาดอีกครั้ง“ลูกชายเจ๊จิตแกไปแต่งงานตอนไหน ครับ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกับไทนั่นแหละลูก เดี๋ยวคงต้องรอยายกลับมาเราค่อยถาม”“ครับ ผมว่าเรากินข้าวก่อนดีไหม กินข้าวเสร็จผมจะจัดการล้างเองแม่จะได้พัก”“งั้นก็ได้จ้ะ”ยายมาลัยกลับเข้าบ้านมาหลังเวลาอาหารกลางวันเล็กน้อย“สวัสดีครับยาย คิดถึงยายจัง”“ยายก็คิดถึงไทเหมือนกันลูก ไม่เจอกันเกือบเดือนไทของยายผอมลงหรือเปล่า กินข้าวบ้างไหมลูก”“กินสิครับ กินเยอะมากด้วย แต่ช่วงนี้ผมออกกำลังกายด้วยครับ”“ไทไม่เห็นจะอ้วนเลยลูก”“ที่ออกกำลังกายเพราะอยากแข็งแรงครับ ว่าแต่ยายเถอะผอมไปหรือเปล่า” ไทธัชสวมกอดพร้อมกับสอดมือไปบีบเอวที่เต็มไปด้วยไขมันของยายมาลัยอย่างหยอกล้อ“อย่ามาล้อยายเล่นนะ”“โอ๋ ๆ ไม่ล้อแล้วครับ”พอกอดจนหายคิด
“ปั้น แม่กูทำกับข้าวมาเผื่อ มึงยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม” ไทธัชเห็นรูมเมทเดินเข้ามาด้วยท่าทางซีดเซียว“อือ หิวมากเลย กูแทบจะแดกควายได้ทั้งตัว”“ใครห้ามมึงกินวะ” เขาส่งจานข้าวให้เพื่อน พร้อมกับถามไปด้วย“ก็แฟนกูไง แม่งไม่เจอกันนานเล่นเอากูเดินแทบไม่ไหว”“แล้วมึงไปยอมเขาทำไมวะ”“ก็กูรักของกู”“แล้วมึงมีความสุขเหรอวะ”“ไอ้ห่าถามมาได้ ไม่มีความสุขกูจะยอมเหรอ มึงไม่เคยมึงไม่รู้หรอกว่าเวลาอยู่ด้วยกันสองคนแล้วมันฟินมากแค่ไหน ถ้าถุงยางไม่หมดก็คงไม่ได้กลับ”“ดูท่ามึงจะเป็นเอามากเลยนะไอ้ปั้น”“มึงไม่เคยมึงไม่รู้หรอก”“เอ่อ กูไม่เคยมึงไม่ต้องมาย้ำหรอกน่า”“ว่าแต่แฟนมึงหน้าตาเป็นไงวะ หล่อไหม มึงกับเขาใครหล่อกว่ากัน” ปัณวุฒิถาม แล้วยื่นรูปถ่ายของตัวเองและแฟนหนุ่มที่อยู่ในโทรศัพท์ให้กับรูมเมทดูเมื่อเพื่อนยอมให้ดูรูปคนรัก ไทธัชก็เลยส่งรูปที่เขากับอคิราห์ถ่ายด้วยกันก่อนวันเดินทางให้กับอีกฝ่ายดู“แม่งหล่อ ฉิบหาย แล้วดูสายตาเขาสิ จ้องมึงเหมือนจะกินมึงไปทั้งตัว”“เหรอ” ไทธัชไม่เคยสังเกต เลยยื่นหน้าเข้ามาดูรูปถ่ายของตัวเองรูปนั้นเขาเป็นคนถ่ายส่วนอคิราห์ยืนอยู่ด้านข้าง เขาไม่ได้สนใจรูปนี้เท่าไหร่ แต่พอเพ
อคิราห์ลงจากเครื่องเวลา 9 นาฬิกา เขาเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้าน จากนั้นก็เอาของฝากให้กับมารดาและเด็กรับใช้ คุยกับท่านไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับเขาขับรถมาที่บ้านของไทธัชเพื่อเอาของฝากมาให้และถือโอกาสบอกกับทั้งสองท่านว่าเขากำลังเริ่มคบหากับไทธัชอยู่ แม้ไทธัชจะบอกว่าเรื่องนี้ทางบ้านของตนเองไม่มีปัญหาแต่อคิราห์ก็อยากมาบอกด้วยตนเองอีกครั้งชายหนุ่มยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่าตนเองจริงใจกับไทธัชมาแค่ไหน แต่ที่ก่อนหน้านั้นไม่ได้พูดเรื่องนี้เพราะตอนนั้นไทธัชยังเรียนอยู่“แล้วหมอซันไม่คิดเหรอว่าสิ่งที่ทำลงไปจะสูญเปล่าถ้าเกิดว่าไทไม่ได้ชอบผู้ชายอย่างตอนนี้” มัทนาถามหลังจากที่เขาสารภาพทุกอย่างออกมา“ไม่หรอกครับ ตอนแรกที่ผมช่วยเพราะรู้สึกถูกชะตาและเห็นว่าเขาวัยเดียวกับน้องชาย แต่พอสนิทด้วยก็เริ่มรู้ว่าตัวเองคิดกับไทมากกว่านั้น”“ยายล่ะ ไม่เข้าใจจริง ๆ หมอซันเก็บความรู้สึกมาได้ยังไงตั้งครึ่งปี”“ก็ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าไทยังเด็ก ผมอยากให้เขาได้เจอโลกมากกว่านี้”“แม่ถามตามตรง ๆ นะ หมอซันดูออกเหรอว่าลูกชายของแม่เขาเป็นเกย์” เธอถามอย่างตรงไปตรงมา“ก็ไม่เชิงนะครับ ไทเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ไม่มีอะไ
อคิราห์ไปส่งไทธัชเสร็จแล้วก็กลับมาที่คอนโด ขณะกำลังเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นก็เห็นไอแพดที่อีกคนลืมไว้เขาถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู ก็เห็นข้อความที่เพื่อนของไทธัชส่งเข้ามาหลังจากอ่านแล้วก็รู้สึกกังวลเพราะดูเหมือนว่าตอนนี้ไทธัชกำลังถูกคนในคณะเข้าใจผิด เนื่องจากมีผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพูดทำนองว่าไทธัชเป็นเกย์และตอนนี้กำลังมีเสี่ยใหญ่คนหนึ่งคอยช่วยเหลือเรื่องการเงินอยู่อคิราห์เปิดเข้าไปตามลิงค์ต้นเรื่องก็เห็นคนมาแสดงความคิดเห็นต่อจากเจ้าของโพสต์กันสนุกปาก บ้างก็ว่าเสี่ยที่ดูแลไทธัชอยู่นั้นภรรยาอยู่แล้ว บ้างก็ว่าไทธัชทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินก้อนโต แต่ทำให้อคิราห์โมโหที่สุดก็คือคนที่บอกว่าเสี่ยของไทธัชนั้นทั้งแก่ทั้งอ้วนและยังหัวล้านอีกด้วยแต่ก็มีบางความคิดเห็นที่บอกว่าเป็นเกย์ไม่ผิด แต่ผิดที่ไม่รู้จักเลือกคนให้ดี ๆ หน่อยไม่ใช่เห็นแก่เงินจนลืมนึกถึงหน้าตาและอายุ แม้จะมีหลายคนบอกว่าไทธัชไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะเคยเห็นแฟนของไทธัชแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเท่าไหร่ เพราะน้อยคนนักที่จะได้เห็นไทธัชกับแฟนอยู่ด้วยกันอคิราห์ไม่รู้ว่าไทธัชเห็นโพสต์นี้แล้วจะเป็นยังไงบ้างชายหนุ่มรีบโทรไปถามเพราะกลัวว่าอีกคนจะรู
หลังเลิกเรียนอคิราห์ก็มารับไทธัชตามที่นัดไว้ พอชายหนุ่มเห็นรถยนต์คันหรูแล่นเข้ามาก็รีบเดินไปขึ้นรถทันที“รอพี่นานไหม” อคิราห์ถามพร้อมกับยื่นชาเขียวให้กับคนรัก“ขอบคุณครับ รอไม่นานเพิ่งลงมาไม่ถึงห้านาที”รถเคลื่อนออกมาได้สักระยะไทธัชก็ถามขึ้น“พี่ซันทำไมไม่บอกผมเรื่องเงิน 25 ล้าน”“พี่นึกว่าแม่บอกไทแล้วนะ เพราะตอนนั้นพี่ไม่ได้อยู่เมืองไทย”“อยู่ที่ไหนก็บอกได้เหมือนกันนะครับ ผมว่าพี่ตั้งใจปิดมากกว่า”“พี่จะปิดได้ยังไง นั่นมันบัญชีของไทนะ”“แต่ก็น่าจะบอกรู้ไหม ว่าเอาเงินนั้นไปฝากประจำจะได้ดอกเบี้ยเยอะเลย”“ที่ผ่านมาไม่เคยเอาสมุดบัญชีไปปรับเลยใช่ไหม”“ครับ บัญชีนี้ไม่มีในแอปธนาคารด้วยก็เลยไม่รู้ว่ามีเงินเข้า พอดีวันนี้คุณธีรธรเขาโอนเงินค่ามัดจำเขาก็เลยลองเอาไปปรับดู”“พี่อยากให้ไทเก็บไว้ใช้จ่าย”“ไม่หรอกครับ ผมว่าจะขออนุญาตเอาไปเปิดบัญชีฝากประจำได้ไหมครับ ถ้าได้ดอกเบี้ยค่อยเอามาใช้”“จะขอพี่ทำไท นั้นเงินของไท”“แต่แม่พี่บอกว่าให้พี่ แต่พี่ยกให้ผม”“นั้นไง ก็ยกให้แล้ว ไทจะเอาไปทำอะไรก็ได”“ขอบคุณนะครับ เงินมากขนาดนั้นทั้งชาติผมคงไม่มีโอกาสหาได้”“บอกแล้วไงไทเป็นเด็กดี มีอะไรที่พี่ให้ได้พี่
ไทธัชถูกประคองเดินมาที่เตียงในเวลาเกือบตีสอง ขาเขาสั่นจนแทบเดินไม่ไหว แต่ก็ไม่อยากให้อคิราห์อุ้ม เพราะดูแล้วอีกคนก็หมดแรงไม่ต่างจากตัวเองมากนักจากที่คิดจะไปอาบน้ำให้สดชื่น แต่คนพี่ก็อาสาเป็นคนทำความสะอาดช่องทางรักที่เต็มไปด้วยน้ำสีขาวขุ่น แต่เพราะคนทำความสะอาดช่ำชองจนเกินไปไทธัชจึงตื่นตัวอีกครั้งและบทรักก็บรรเลงใต้ฝักบัวอยู่อีกเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนทั้งสองจะปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง เขาจำไม่ได้ว่าตัวเองถึงจุดสุดยอดไปกี่ครั้ง รู้แต่ทุกครั้งมันเต็มไปด้วยความสุข อคิราห์ส่งผ่านความรักความคิดถึงผ่านทุกสัมผัสจนไทธัชลืมเรื่องน้อยใจไปจนหมดสิ้น“ไทครับ เรียนกี่โมงนะ”“สิบโมงครับ ตอนนี้กี่โมงแล้ว” ไทธัชยังไม่ยอมออกจากผ้าห่ม เขายังคงกอดอคิราห์ไว้อย่างนั้น กลัวเหลือเกินว่าที่ผ่านมาเมื่อคืนมันจะเป็นเพียงความฝัน“แปดโมงครับ นอนต่ออีกหน่อยก็ได้ เดี๋ยววันนี้พี่ขับรถไปส่ง”“ผมไปเองได้ครับ นั่งรถไฟฟ้าไปแป๊บเดียวก็ถึงหรือโหนรถเมล์ไปก็ได้”“อย่าดื้อครับ ลองลุกมาก่อนไหม แล้วลองเดินดูว่าตัวเองจะเดินขึ้นบันไดสถานีรถไฟฟ้าได้ไหมหรือจะยืนเบียดคนอื่นบนรถเมล์ไหวไหม” อคิราห์มองคนที่นอนจมอยู่บนเตียงนอนแล้วก็รู้สึกสงสา
ก่อนกลับคอนโดไทธัชไลน์ไปถามอคิราห์ว่าเย็นนี้เขาจะทานอะไรแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่อ่าน ชายหนุ่มเลยแวะซื้อข้าวสวยและกับข้าวที่อคิราห์ชอบกลับไปด้วยเขากลับมาถึงห้องก็ปิดไฟมืด เขาคิดว่าอคิราห์คงนอนอยู่ที่ห้องนอนเล็กเหมือนเดิม แต่เปิดเข้าไปห้องก็ว่างเปล่า ไทธัชเริ่มกังวลหรือว่าภาพเหตุการณ์เมื่อเช้าเป็นสิ่งที่เขาคิดไปเอง ชายหนุ่มรีบเดินมาดูที่ห้องนอนใหญ่แล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคืออคิราห์จริงไทธัชไม่อยากกวนเวลานอนจึงกลับมาอาบน้ำที่ห้องของตัวเอง คิดว่าให้อคิราห์นอนต่อ แต่ก็ทนใจแข็งได้ไม่นานเพราะอยากพูดคุยกับเขาให้หายคิดถึงชายหนุ่มเปิดเข้าไปในห้องอีกครั้งก็ไม่คนที่นอนอยู่เมื่อครู่ เขาได้ยินเสียงอาบน้ำ จึงรีบออกมาเตรียมอาหารไว้รอพอทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินไปตามอคิราห์อีกครั้งก๊อก ก๊อก ก๊อก“พี่ซันครับ ผมเข้าไปได้ไหม”เงียบ..“ผมเข้าไปแล้วนะ”ไทธัชถามอีกครั้งแต่คนในห้องก็ยังไม่ตอบ เขาจึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ออกจากห้องน้ำก็เลยนั่งรออยู่บนเตียง“ผมมาตามไปกินข้าวครับ ผมไปรอข้างนอกนะครับ” ไทธัชรีบบอกเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ“ทำไมต้องไปรอข้างนอก ไหนว่าคิดถึง
ไทธัชรู้สึกว่าเวลาของตัวเองจะเดินช้ากว่าของคนอื่น ตั้งแต่ปีใหม่ครั้งนั้นอคิราห์ก็ยังไม่กลับมาเมืองไทยเลยสักครั้ง เขารู้ว่าอีกคนยุ่งทั้งเรียนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ปีใหม่ครั้งที่ผ่านมาเขาต้องนอนร้องไห้อยู่คอนโดเพราะคิดถึงความทรงจำที่เคยมีด้วยกันกับคนรัก ไหนจะช่วงวาเลนไทน์ที่ผ่านมาถึงสองครั้งเขาก็เคยได้มีโอกาสฉลอง มีแต่ของขวัญที่ส่งมาทั้งปีใหม่ วาเลนไทน์รวมไปถึงวันเกิด แต่ใครบอกว่าเขาอยากได้ของขวัญมีราคาพวกนั้นแม้จะวิดีโอคอลคุยกันทุกวัน บอกรักกันทุกวันแต่มันก็เทียบไม่ได้เลยกับอ้อมกอดที่อบอุ่นของผู้ที่ชื่ออคิราห์เลยสักนิด“ไท เหนื่อยเหรอท่าทางไม่ดีเลย”“นิดหน่อยครับ วันนี้มีกิจกรรมรับน้องผมเป็นพี่ปีสามก็เลยเหนื่อยหน่อย พี่ซันล่ะครับ ดูเหมือนช่วงนี้จะร่าเริงเป็นพิเศษนะครับ มีอะไรดีหรือเปล่า”“ก็แค่วันนี้อาจารย์ให้พี่ได้ลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างแล้วพี่ก็ทำออกมาได้ดี”“พี่ซันเก่งอยู่แล้ว ผมว่าถ้ากลับมาครั้งนี้คงยุ่งจนไม่มีเวลาให้ผมแน่ ๆ เลย”“ถ้ากลับไปพี่คงพักสักระยะแล้วค่อยเริ่มงาน พี่จะให้เวลาไทเต็มที่เลยดีไหม”“อือ ถ้าพี่กลับมาเราไปเที่ยวทะเลกันไหมครับ ผมอยากพาแม่กับยายไ
หลังจากที่ส่งหลักฐานให้กับทนายแล้วไทธัชก็หมดหน้าที่ แต่เขาก็คอยติดตามความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทางอคิราห์อยู่ทุกวันเรื่องหย่าจบไปตั้งแต่สัปดาห์แรก เพราะคุณตรีวุฒิกลัวว่าเรื่องที่เขาพาเด็กผู้ชายเข้ามานอนในบ้านจะรู้ถึงหูคนอื่น และจะทำให้เขาเสียชื่อเสียง เขาจ่ายค่าเลี้ยงดูคุณอรณีถึง 25 บาท แต่เขาไม่รู้เลยว่าหลังจากเซ็นใบหย่าแล้ว เรื่องราวมันจะรุนแรงขึ้นในแบบที่เขาแทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมมารดาของอคิราห์ร้องไห้จนเป็นลมเมื่อทราบเรื่องที่ลูกชายโดนพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา เธอโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ดูแลลูกไม่ดี และยังพาคนชั่วอย่างตรีวุฒิเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่เธอก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเพราะได้คุณอรรณพอดีตสามีคอยอยู่ข้าง ๆพอตั้งสติได้คุณอรณีก็เข้มแข็งขึ้น เธอและคุณอรรณพนำคลิปหลักฐานที่นายตรีวุฒิทำกับลูกชาย ภาพถ่าย และคำขู่ที่ฝ่ายนั้นส่งมาคุกคามลูกชายของเขาให้กับตำรวจ เธอก็บอกให้จัดการทุกอย่างตามกฎหมายโดยไม่ต้องห่วงว่าเธอจะรู้สึกยังไง จะเสียชื่อเสียงไหม เธออยากให้ผู้ชายคนนั้นรับโทษจากการกระทำของตัวเองโดยเร็วที่สุดพอมีข่าวว่าตรีวุฒิถูกจับ ก็มีเด็กหนุ่มอีกหลายคนซึ่งตกเป็นเหยื่อทางอารมร์ของตรีวุฒิเข้ามาแจ้
ไทธัชตื่นนอนมาช่วยมารดาและยายตั้งแต่เช้า พอทั้งสองคนออกไปขายของชายหนุ่มก็รีบอาบน้ำแต่งตัวไปรับมารดาของอคิราห์ที่บ้าน เขาพาเธอไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตามที่คุณอรรณพแนะนำพอไปถึงก็ต้องแปลกใจ เพราะตอนนี้บิดาของอคิราห์รออยู่ก่อนแล้ว เขามาพร้อมกับทนายความไทธัชยกมือไหว้ผู้อาวุโสทั้งสอง ก่อนเดินเลี่ยงออกไปอีกทางเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้คุยกัน หน้าที่ของเขาคือพาคุณอรณีมาส่งโรงพยาบาลเพราะหลังจากนั้นทนายความจะเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่เขาจะยังกลับไม่ได้เพราะอคิราห์สั่งไว้ว่าจะต้องคอยดูแลไม่ให้บิดากับมารดาของเขาทะเลาะกันเองจนเสียเรื่อง“คุณสบายดีนะครับคุณอรณี”“ถ้าฉันสบายดีจะมาโรงพยาบาลไหมล่ะ ถามอะไรไม่คิด”คุณอรรณพไม่ได้ตอบเขาเพียงแต่ยิ้ม ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนคุณอรณีก็ยังไม่เปลี่ยน นิสัยชอบพูดประชดและชอบเอาชนะซึ่งเขาชินเสียแล้ว“ผมว่าเชิญทางนี้ดีกว่านะครับคุณผู้หญิง” คุณทนายรีบเชิญอดีตภรรยาของเจ้านายไปยังห้องตรวจพอคุณอรณีเดินไปกับทนายแล้วบิดาของอคิราห์ก็ชวนไทธัชคุย“ไท พ่อปรึกษาทนายเรื่องนั้นแล้วนะ”“ครับ เขาว่ายังไงบ้าง”“เขาแนะนำให้เราเอาข้อความที่คิวคุยกับเพื่อนให้ทางตำรวจดู จากนั้นตำรวจจะเรียกเขามาสอ
“ไม่ต้องเยอะหรอกครับยาย แม่พี่ซันเขากินคนเดียวนะครับ”“แล้วสามีเขาไม่กินด้วยเหรอ” ยายมาลัยรู้ว่ามารดาของหมออคิราห์นั้นเลิกกับบิดาของเขาแล้วอยู่กับสามีคนใหม่ที่บ้านหลังใหญ่“พี่ซันบอกว่าเขาไม่ค่อยกลับบ้านครับ”“เอาไปเผื่อหน่อยก็ดีนะไท เอาไปน้อยมันกูน่าเกลียด” มัทนาบอกลูกชาย“งั้นก็ได้ครับ ผมเอาไปให้เขาแล้วจะเอารถไปเก็บแล้วคืนนี้จะกลับมานอนที่บ้านนะครับแม่”“ได้สิ ว่าแต่มีตังเติมน้ำมันหรือเปล่า”“ไม่ต้องเติมหรอกครับ ตั้งแต่พี่ซันไปผมก็ไม่เคยขับไปไหน แต่พี่ซันเขาให้ช่วยขับสักอาทิตย์ละครับ ผมเลยคิดว่าจะขับไปที่บ้านเขา เพราะบ้านพี่ซันอยู่ในซอยลึกมาก”“ดีแล้วล่ะ ช่วยพี่เขาดูแลแม่ ดูแลรถ แล้วคอนโดก็อย่าลืมทำความสะอาด”“ครับแม่”ไทธัชขับรถมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่มารดาของอคิราห์อาศัยอยู่ รถเคลื่อนมาจอดหน้ารั้ว ประตูก็เปิดออกทันที ลุงสมคิดคงจะรออยู่แล้วเพราะก่อนเข้ามา เขาก็โทรมาบอกลุงไว้ว่าจะขับรถของอคิราห์มาที่บ้านไทธัชเคยเจอลุงสมคิดอยู่หลายครั้ง เพราะตอนที่อคิราห์ยังอยู่เมืองไทยเขาก็มักจะตามที่บ้านด้วยอยู่เสมอ“สวัสดีครับลุงผมซื้อผลไม้มาฝาก สบายดีไหมครับ” ไทธัชยกมือไว้ผู้อาวุโสพร้อมกับส่งถุง
อีกไม่กี่ชั่วโมงอคิราห์ก็จะต้องแยกจากคนรักอีกครั้ง แต่ความรู้สึกมันต่างจากครั้งก่อนมาก เพราะตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าอีกคนที่อยู่ทางนี้คิดยังไงจะรอเขาไหม แต่ครั้งนี้เขารู้ว่าไทธัชรอเขาอยู่ มันทำให้คุณหมอหนุ่มมีความมุ่งมั่นมากขึ้นและมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อคืนเขากับไทธัชนอนคุยกันจนเกือบเช้า เขาแปลกใจไม่น้อยที่ตัวเองสามารถนอนคุยกับใครคนหนึ่งได้นานขนาดนั้น เขาชอบที่จะฟังอีกคนเล่าเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านมา ไทธัชถามเขากลับบ้าง มันทำให้รู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างพยายามเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันมากขึ้น การได้นอนกอด ได้พูดคุยโดยไม่มีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องมันอบอุ่นหัวใจจนแทบอยากจะหยุดเวลาเอาให้นานที่สุดเขาตื่นนอนตั้งแต่เช้าทำตัวเหมือนปกติ ชวนไทธัชทานข้าวจากนั้นก็ตรวจสอบทุกอย่างให้เรียบร้อยอีกครั้ง“พี่ซันครับ ผมจะปิดกระเป๋าแล้วจะเอาอะไรใส่อีกไหมครับ” ไทธัชมองกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ใส่ของไว้เพียงครึ่งก็ถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“เอาตัวเองใส่ลงไปได้ไหมล่ะ”“ถ้ามันใส่ได้ผมก็คงลงไปตั้งนานแล้วครับ”“แต่ถ้าหั่นเป็นชิ้นก็คงใส่ได้พอดี”“กล้าหั่นเหรอครับ”“ตอนนี้ไม่กล้า แต่ในอนาคตไม่แน่นะครับ ถ้าไททำใ