“ปั้น แม่กูทำกับข้าวมาเผื่อ มึงยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม” ไทธัชเห็นรูมเมทเดินเข้ามาด้วยท่าทางซีดเซียว“อือ หิวมากเลย กูแทบจะแดกควายได้ทั้งตัว”“ใครห้ามมึงกินวะ” เขาส่งจานข้าวให้เพื่อน พร้อมกับถามไปด้วย“ก็แฟนกูไง แม่งไม่เจอกันนานเล่นเอากูเดินแทบไม่ไหว”“แล้วมึงไปยอมเขาทำไมวะ”“ก็กูรักของกู”“แล้วมึงมีความสุขเหรอวะ”“ไอ้ห่าถามมาได้ ไม่มีความสุขกูจะยอมเหรอ มึงไม่เคยมึงไม่รู้หรอกว่าเวลาอยู่ด้วยกันสองคนแล้วมันฟินมากแค่ไหน ถ้าถุงยางไม่หมดก็คงไม่ได้กลับ”“ดูท่ามึงจะเป็นเอามากเลยนะไอ้ปั้น”“มึงไม่เคยมึงไม่รู้หรอก”“เอ่อ กูไม่เคยมึงไม่ต้องมาย้ำหรอกน่า”“ว่าแต่แฟนมึงหน้าตาเป็นไงวะ หล่อไหม มึงกับเขาใครหล่อกว่ากัน” ปัณวุฒิถาม แล้วยื่นรูปถ่ายของตัวเองและแฟนหนุ่มที่อยู่ในโทรศัพท์ให้กับรูมเมทดูเมื่อเพื่อนยอมให้ดูรูปคนรัก ไทธัชก็เลยส่งรูปที่เขากับอคิราห์ถ่ายด้วยกันก่อนวันเดินทางให้กับอีกฝ่ายดู“แม่งหล่อ ฉิบหาย แล้วดูสายตาเขาสิ จ้องมึงเหมือนจะกินมึงไปทั้งตัว”“เหรอ” ไทธัชไม่เคยสังเกต เลยยื่นหน้าเข้ามาดูรูปถ่ายของตัวเองรูปนั้นเขาเป็นคนถ่ายส่วนอคิราห์ยืนอยู่ด้านข้าง เขาไม่ได้สนใจรูปนี้เท่าไหร่ แต่พอเพ
อคิราห์ลงจากเครื่องเวลา 9 นาฬิกา เขาเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่บ้าน จากนั้นก็เอาของฝากให้กับมารดาและเด็กรับใช้ คุยกับท่านไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ขอตัวกลับเขาขับรถมาที่บ้านของไทธัชเพื่อเอาของฝากมาให้และถือโอกาสบอกกับทั้งสองท่านว่าเขากำลังเริ่มคบหากับไทธัชอยู่ แม้ไทธัชจะบอกว่าเรื่องนี้ทางบ้านของตนเองไม่มีปัญหาแต่อคิราห์ก็อยากมาบอกด้วยตนเองอีกครั้งชายหนุ่มยืนยันอย่างหนักแน่นอีกครั้งว่าตนเองจริงใจกับไทธัชมาแค่ไหน แต่ที่ก่อนหน้านั้นไม่ได้พูดเรื่องนี้เพราะตอนนั้นไทธัชยังเรียนอยู่“แล้วหมอซันไม่คิดเหรอว่าสิ่งที่ทำลงไปจะสูญเปล่าถ้าเกิดว่าไทไม่ได้ชอบผู้ชายอย่างตอนนี้” มัทนาถามหลังจากที่เขาสารภาพทุกอย่างออกมา“ไม่หรอกครับ ตอนแรกที่ผมช่วยเพราะรู้สึกถูกชะตาและเห็นว่าเขาวัยเดียวกับน้องชาย แต่พอสนิทด้วยก็เริ่มรู้ว่าตัวเองคิดกับไทมากกว่านั้น”“ยายล่ะ ไม่เข้าใจจริง ๆ หมอซันเก็บความรู้สึกมาได้ยังไงตั้งครึ่งปี”“ก็ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าไทยังเด็ก ผมอยากให้เขาได้เจอโลกมากกว่านี้”“แม่ถามตามตรง ๆ นะ หมอซันดูออกเหรอว่าลูกชายของแม่เขาเป็นเกย์” เธอถามอย่างตรงไปตรงมา“ก็ไม่เชิงนะครับ ไทเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ไม่มีอะไ
อคิราห์โน้มตัวเข้ามาใช้ฝ่ามือใหญ่รั้งท้ายทอยของไทธัชเข้ามาใกล้ ปรับองศาของศีรษะให้พอดีก่อนจะประกบไปบนริมฝีปากที่มีคราบช็อกโกแลตติดอยู่ไทธัชทำตัวไม่ถูกแต่เรื่องนี้เขาก็เตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว เขาหลับตาลงเมื่อคนพี่บรรจงจูบไปบนเรียวปาก ลิ้นร้อนปาดช็อกโกแลตเข้าปากและสัมผัสไปรอบ ๆ ปากได้รูปอีกครั้ง พออีกคนเผยอปากออก อคิราห์ก็สอดลิ้นของตนเข้าไปสัมผัสความหวานด้านในอย่างกระหาย กวาดต้อนจนอีกคนแทบหลอมละลาย“อร่อยจริง ๆ ด้วย”“ช็อกโกแลตใช่ไหม”“คิดว่ายังไงล่ะ”“ไม่รู้”“งั้นก็ต้องกินอีก”เขารั้งร่างของอีกคนขึ้นมาคร่อมอยู่บนตักแกร่ง อคิราห์ประคองใบหน้าของคนรักแล้วกดจูบลงไปอีกครั้ง ฟันขาวขบเม้มริมฝีปากของไทธัชสลับบนล่าง จากจูบแผ่วเบาก็เร่าร้อนและเรียกร้องมากขึ้นไทธัชรู้สึกร้อนไปทั้งตัว เขาเคยจูบกับผู้หญิงมาแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน การจูบของอคิราห์มันทำให้ร่างกายของเขาตื่นตัวและโหยหา ร่างกายกำลังเรียกจนไม่อยากให้เขาถอนจูบ“หวาน ขอกินอีกได้ไหม”“กินช็อกแลตหรือกินผม” ถามออกไปแล้วก็หน้าแดงลามไปถึงใบหู“ใครสอนให้พูดแบบนี้”“ไม่มีใครสอน แค่พูดเพราะอยากพูด”“อย่าพูดกับใครอีก”“แล้วถ้าพูดกับพี
“ไท คริสต์มาสอีฟ ไม่เตรียมถุงเท้ารอของขวัญจากซานต้าเหรอครับ”“พี่ซันครับ ผมจะ 20 แล้วนะครับ นั้นเขาเอาไว้หลอกเด็ก”“ก็ไทเป็นเด็กของพี่ไงครับ”“แล้วพี่จะหลอกเด็กอย่างผมได้ลงคอเหรอครับ”“แล้วถ้าพี่หลอก เด็กอย่างไทจะยอมไหม”“พี่ไม่ต้องหลอก ผมก็ยอมอยู่แล้ว”ตอนนี้คนพูดกำลังนั่งหน้าดำคร่ำเครียดเพราะอคิราห์อยากได้ของขวัญปีใหม่เป็นรูปที่ไทธัชวาดให้ ซึ่งไม่ใช่รูปของตนเอง หากแต่เขาอยากได้รูปของไทธัช ซึ่งเจ้าตัวก็วาดไปบ่นไปเพราะเกิดมาก็ไม่เคยวาดรูปของตัวเองสักครั้ง“หิวหรือยัง”“ยังครับ พี่ซันหิวไหม สั่งอะไรมากินหรือกลับไปกินที่บ้านครับ” เขาหมายถึงบ้านของตนเองซึ่งตอนนี้มนัสสรกลับมาขออยู่ด้วยสักพัก เพราะเธอกำลังจะเปลี่ยนงานใหม่เลยต้องหาที่พักใหม่ใกล้ที่ทำงาน“ไม่ล่ะ พี่รู้ไทก็ไม่อยากกลับใช่ไหม”“อือ ผมไม่ชอบเวลาเขามองพี่”“หึงเหรอ”“อือ ก็แฟนผมหล่อ”ตั้งแต่ตกลงคบกันทั้งสองก็ไม่ปิดบังความรู้สึก มีอะไรก็พูดกันตรง ๆ อคิราห์ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่ต้องปรุงแต่งไม่ต้องฝืนตัวเอง เป็นตัวของตัวเอง เมื่อก่อนเป็นแบบไหนตอนนี้ไม่ค่อยต่างกัน เพียงแต่อาจจะมีความหวานใส่กันบ้าง แต่ทุกอย่างก็ออกมาจากความรู้สึก ไ
ตั้งแต่อคิราห์กลับมาเขาก็ไม่ปล่อยให้ไทธัชอยู่ห่างกายเลย ไม่ว่าชายหนุ่มจะทำอะไรคุณหมอก็มีมาคลอเคลียอยู่ใกล้ ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากเก็บช่วงเวลานี้ไว้เพราะอีกไม่กี่วันเขาก็ต้องกลับไปแล้วไทธัชนอนเล่นสมาร์ทโฟนอยู่บนโซฟา ศีรษะหนุนบนตักของอคิราห์ ในขณะที่คุณหมอหนุ่มก็นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อย มือหนึ่งจับหนังสือ อีกมือลูบผมคนรัก มันเพลินจนไทธัชรู้สึกง่วงแล้วจู่ ๆ คนที่กำลังเคลิ้มก็ลุกพรวดจนอีกคนตกใจ“ไท เป็นอะไร”“เปล่าครับ ผมขอไปคุยกับเพื่อนหน่อยนะ”ชายหนุ่มคนน้องไม่รอฟังคำตอบเขารีบวิ่งเข้าไปยังห้องนอนเล็กทันที“ว่าไง” ไทธัชถามคนที่เงียบไปนาน“มึงติดต่อเพื่อนมึงให้กูได้ไหม กูอยากเจอมัน” เสียงของปลายสายฟังดูกังวล“มึงแน่ใจนะไอ้ย้ง”“อือ ว่าแต่มึงชัวร์ใช่ไหมว่าเป็นคนเดียวกัน” ธนิทถามกลับ“ก็คิดว่าใช่นะ มึงแคปชื่อกับรูปหน้าโปรไฟล์มันส่งให้กูหน่อยได้ไหม”“อือ เดี๋ยวกูส่งให้นะ ช่วงนี้กูว่างอยากจะเจอมันหน่อย อยากรู้ว่าทำไมมันถึงหายไป ตั้งแต่ติดต่อกับมันไม่ได้กูก็รู้สึกไม่ดีมาตลอด และกูก็ไม่อยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้อีกแล้ว ถ้ารู้ว่ามันโอเคกูก็จะได้หายห่วง”“เดี๋ยวกูจะติดต่อกลับไปนะ กูขอไปเช็กให้แน่ใ
อคิราห์คิดไม่ตก เขาไม่รู้จะจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นยังไง ใจหนึ่งอยากให้พ่อเลี้ยงของเขาได้รับโทษ แต่ก็ต้องแลกกับความลับของน้องชายที่เจ้าตัวก็ไม่อยากให้ใครรู้ อีกทั้งเขาก็ห่วงความรู้สึกของมารดา“พี่ซันครับ ผมว่าพี่กินข้าวก่อนดีไหม” ไทธัชเรียกคนที่เอาแต่นั่งเหม่อมาเกือบครึ่งชั่วโมงให้ทานอาหารตรงหน้า“พี่ไม่หิว ไทกินก่อนเลย”“กินหน่อยนะครับพี่ซัน พี่ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่กลางวันแล้วนะครับ เดี๋ยวจะปวดท้องนะครับ”“ก็บอกว่าไม่หิว” เขาทำเสียงแข็ง“ถ้าพี่ไม่กินผมก็ไม่กิน” ไทธัชขู่เพราะคิดว่าเขาจะยอมทานอะไรบ้างสักนิดก็ยังดี“ไท อย่าดื้อพี่เครียดอยู่”“ก็เพราะเห็นว่าพี่เครียดไงครับ กินก่อน ถ้าไม่กินจะเอาพลังงานที่ไหนมาคิด นะครับผมป้อนนะเอาไหม” เขาพยายามเอาคนตัวโตที่เอาแต่ทำหน้าเครียด“ไทไม่เข้าใจหรอกว่าพี่รู้สึกยังไง” อคิราห์พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องนอนโดยไม่สนใจว่าอีกคนจะรู้สึกยังไงแต่ไทธัชไม่โกรธเพราะรู้ว่าอคิราห์กำลังเครียด เขาเองก็ไม่รู้จะช่วยชายหนุ่มยังไงเวลาผ่านไปเกือบจะเที่ยงคืนแล้วแค่อคิราห์ก็ยังไม่เปิดประตูห้องออกมา ไทธัชอยากเปิดประตูเข้าไปหาเขา แต่ก็กลัวว่าอีกคนจะโกรธ ทั้งเป็นห่วงแ
ปกติแล้วทุกคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไทธัชจะไปสวดมนต์ข้ามปีกับมารดาและยาย แต่ปีนี้ไม่เหมือนกับทุกปีเพราะเขามีอคิราห์อยู่ข้างกายจึงอยากใช้เวลาช่วงนี้อยู่กบคนรักให้มากที่สุดก่อนที่เข้าจะกลับไปเรียนอีกครั้งหลังช่วงหยุดยาวเย็นวันที่ 31 ไทธัชจึงพามารดาและยายของเขาไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอคิราห์เป็นคนจองไว้ ก่อนจะไปรับท่านที่บ้านโดยมีมนัสสรตามมาด้วย“ไม่เห็นจะต้องลำบากพายายมาทานอาหารแบบนี้เลยเราทำกันเองที่บ้านก็ได้” ยายมาลัยเกรงใจหลายชายและว่าที่หลานเขย“ผมรบกวนยายกับแม่มาหลายมื้อแล้วครั้งนี้กลับมาเมืองไทยก็อยากจะพาทั้งสองคนมาทานอาหารนอกบ้านบ้าง”“พี่ซันจะกลับไปอีกไหมคะ”“ครับ” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ“จริง ๆ ฝ้ายก็มีเพื่อนทำงานอยู่ที่นั่นหลายคนนะคะ นี่ก็ชวนไปเที่ยว แต่ฝ้ายไม่เคยไปก็เลยไม่กล้าเดินทางคนเดียว พี่ซันจะกลับช่วงไหนคะ เผื่อว่าฝ้ายจะได้ไปพร้อมพี่ซันเลย”“ผมกลับหลังปีใหม่ครับ”“กลับเร็วจังนะคะ ฝ้ายทำวีซ่าไม่ทันแน่ ๆ ฝ้ายขอเบอร์กับที่อยู่ของพี่ซันได้ไหมคะ เผื่อจะได้ติดต่อกัน”“อยู่ที่นั่นผมไม่ค่อยได้ใช้โทรศัพท์เท่าไหร่ถ้าฝ้ายอยากจะติดต่อก็ฝากเมล์ไว้ได้”“ค่ะ ฝ้ายคงไม่รบก
ขณะกำลังเลือกซื้อเบียร์อยู่ก็ได้รับสายจากชลกร อคิราห์เลยใช้เวลานานกว่าปกติพอกลับมาก็คนที่อยากฉลองด้วยหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงเสียแล้ว เขาไม่อยากกวนคนที่กำลังฝันดี จึงเข้ามาอย่างเงียบ ๆ แต่พออาบน้ำออกมาก็เห็นไทธัชนั่งส่งข้อความหาเพื่อนอยู่บนเตียง“นึกว่าจะหลับยาวถึงเช้า”“มาถึงทำไมไม่ปลุกล่ะครับ”“ไม่อยากฏวนคนตอน คุยกับเพื่อนเสร็จแล้วเหรอ” อคิราห์ดึงไทธัชเข้ามานั่งบนตัก เกยคางลงบนไหล่ของอีกคน ในขณะที่เขากำลังดูข้อความ แม้ไทธัชไม่ใช่คนตัวเล็ก แต่อคิราห์ก็ชอบในชายหนุ่มคนน้องนั่งอยู่บนตักตัวเอง“พี่ซัน มืออยู่นิ่ง ๆ ได้ไหม ผมจะส่งไลน์หาเพื่อน”“ก็ส่งไปสิพี่ไม่ได้ห้ามสักหน่อย”“แต่มือพี่ไม่นิ่งเลย แล้วจะล้วงไปตรงนั้นทำไม เดี๋ยวมันก็ตื่น”“ก็อยากให้ตื่น” เขาพูดหน้าตาเฉย“แล้วเมื่อกี้ทำเป็นบอกว่าไม่อยากปลุก”“ก็มันปลุกคนละแบบกัน”“เอาจริงใช่ไหม”“อือ ขอนะ สดด้วย”“มันดีกว่าใช่ไหม พี่มีความสุขมากกว่าใช่ไหม”“ครับ” เขาตอบไปตามความจริง“ไท ดูหน้าตัวเองตอนนี้ในกระจกสิ โคตรเอ็กซ์เลย” กระจกที่ติดไว้ด้านหนึ่งของห้องซึ่งอคิราห์เพิ่งจะซื้อมาเมื่อวันก่อน“อื้ม พี่ก็หน้าหื่น”“แล้วชอบให้คนหน้าหื่นเอาไหม”“
หลังจากที่ส่งหลักฐานให้กับทนายแล้วไทธัชก็หมดหน้าที่ แต่เขาก็คอยติดตามความเคลื่อนไหวที่ผ่านมาทางอคิราห์อยู่ทุกวันเรื่องหย่าจบไปตั้งแต่สัปดาห์แรก เพราะคุณตรีวุฒิกลัวว่าเรื่องที่เขาพาเด็กผู้ชายเข้ามานอนในบ้านจะรู้ถึงหูคนอื่น และจะทำให้เขาเสียชื่อเสียง เขาจ่ายค่าเลี้ยงดูคุณอรณีถึง 25 บาท แต่เขาไม่รู้เลยว่าหลังจากเซ็นใบหย่าแล้ว เรื่องราวมันจะรุนแรงขึ้นในแบบที่เขาแทบจะไม่มีที่ยืนในสังคมมารดาของอคิราห์ร้องไห้จนเป็นลมเมื่อทราบเรื่องที่ลูกชายโดนพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา เธอโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ดูแลลูกไม่ดี และยังพาคนชั่วอย่างตรีวุฒิเข้ามาอยู่ในบ้าน แต่เธอก็ไม่ได้โดดเดี่ยวเพราะได้คุณอรรณพอดีตสามีคอยอยู่ข้าง ๆพอตั้งสติได้คุณอรณีก็เข้มแข็งขึ้น เธอและคุณอรรณพนำคลิปหลักฐานที่นายตรีวุฒิทำกับลูกชาย ภาพถ่าย และคำขู่ที่ฝ่ายนั้นส่งมาคุกคามลูกชายของเขาให้กับตำรวจ เธอก็บอกให้จัดการทุกอย่างตามกฎหมายโดยไม่ต้องห่วงว่าเธอจะรู้สึกยังไง จะเสียชื่อเสียงไหม เธออยากให้ผู้ชายคนนั้นรับโทษจากการกระทำของตัวเองโดยเร็วที่สุดพอมีข่าวว่าตรีวุฒิถูกจับ ก็มีเด็กหนุ่มอีกหลายคนซึ่งตกเป็นเหยื่อทางอารมร์ของตรีวุฒิเข้ามาแจ้
ไทธัชตื่นนอนมาช่วยมารดาและยายตั้งแต่เช้า พอทั้งสองคนออกไปขายของชายหนุ่มก็รีบอาบน้ำแต่งตัวไปรับมารดาของอคิราห์ที่บ้าน เขาพาเธอไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งตามที่คุณอรรณพแนะนำพอไปถึงก็ต้องแปลกใจ เพราะตอนนี้บิดาของอคิราห์รออยู่ก่อนแล้ว เขามาพร้อมกับทนายความไทธัชยกมือไหว้ผู้อาวุโสทั้งสอง ก่อนเดินเลี่ยงออกไปอีกทางเพื่อให้ผู้ใหญ่ได้คุยกัน หน้าที่ของเขาคือพาคุณอรณีมาส่งโรงพยาบาลเพราะหลังจากนั้นทนายความจะเป็นคนจัดการทั้งหมด แต่เขาจะยังกลับไม่ได้เพราะอคิราห์สั่งไว้ว่าจะต้องคอยดูแลไม่ให้บิดากับมารดาของเขาทะเลาะกันเองจนเสียเรื่อง“คุณสบายดีนะครับคุณอรณี”“ถ้าฉันสบายดีจะมาโรงพยาบาลไหมล่ะ ถามอะไรไม่คิด”คุณอรรณพไม่ได้ตอบเขาเพียงแต่ยิ้ม ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนคุณอรณีก็ยังไม่เปลี่ยน นิสัยชอบพูดประชดและชอบเอาชนะซึ่งเขาชินเสียแล้ว“ผมว่าเชิญทางนี้ดีกว่านะครับคุณผู้หญิง” คุณทนายรีบเชิญอดีตภรรยาของเจ้านายไปยังห้องตรวจพอคุณอรณีเดินไปกับทนายแล้วบิดาของอคิราห์ก็ชวนไทธัชคุย“ไท พ่อปรึกษาทนายเรื่องนั้นแล้วนะ”“ครับ เขาว่ายังไงบ้าง”“เขาแนะนำให้เราเอาข้อความที่คิวคุยกับเพื่อนให้ทางตำรวจดู จากนั้นตำรวจจะเรียกเขามาสอ
“ไม่ต้องเยอะหรอกครับยาย แม่พี่ซันเขากินคนเดียวนะครับ”“แล้วสามีเขาไม่กินด้วยเหรอ” ยายมาลัยรู้ว่ามารดาของหมออคิราห์นั้นเลิกกับบิดาของเขาแล้วอยู่กับสามีคนใหม่ที่บ้านหลังใหญ่“พี่ซันบอกว่าเขาไม่ค่อยกลับบ้านครับ”“เอาไปเผื่อหน่อยก็ดีนะไท เอาไปน้อยมันกูน่าเกลียด” มัทนาบอกลูกชาย“งั้นก็ได้ครับ ผมเอาไปให้เขาแล้วจะเอารถไปเก็บแล้วคืนนี้จะกลับมานอนที่บ้านนะครับแม่”“ได้สิ ว่าแต่มีตังเติมน้ำมันหรือเปล่า”“ไม่ต้องเติมหรอกครับ ตั้งแต่พี่ซันไปผมก็ไม่เคยขับไปไหน แต่พี่ซันเขาให้ช่วยขับสักอาทิตย์ละครับ ผมเลยคิดว่าจะขับไปที่บ้านเขา เพราะบ้านพี่ซันอยู่ในซอยลึกมาก”“ดีแล้วล่ะ ช่วยพี่เขาดูแลแม่ ดูแลรถ แล้วคอนโดก็อย่าลืมทำความสะอาด”“ครับแม่”ไทธัชขับรถมาถึงหน้าบ้านหลังใหญ่ที่มารดาของอคิราห์อาศัยอยู่ รถเคลื่อนมาจอดหน้ารั้ว ประตูก็เปิดออกทันที ลุงสมคิดคงจะรออยู่แล้วเพราะก่อนเข้ามา เขาก็โทรมาบอกลุงไว้ว่าจะขับรถของอคิราห์มาที่บ้านไทธัชเคยเจอลุงสมคิดอยู่หลายครั้ง เพราะตอนที่อคิราห์ยังอยู่เมืองไทยเขาก็มักจะตามที่บ้านด้วยอยู่เสมอ“สวัสดีครับลุงผมซื้อผลไม้มาฝาก สบายดีไหมครับ” ไทธัชยกมือไว้ผู้อาวุโสพร้อมกับส่งถุง
อีกไม่กี่ชั่วโมงอคิราห์ก็จะต้องแยกจากคนรักอีกครั้ง แต่ความรู้สึกมันต่างจากครั้งก่อนมาก เพราะตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าอีกคนที่อยู่ทางนี้คิดยังไงจะรอเขาไหม แต่ครั้งนี้เขารู้ว่าไทธัชรอเขาอยู่ มันทำให้คุณหมอหนุ่มมีความมุ่งมั่นมากขึ้นและมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อคืนเขากับไทธัชนอนคุยกันจนเกือบเช้า เขาแปลกใจไม่น้อยที่ตัวเองสามารถนอนคุยกับใครคนหนึ่งได้นานขนาดนั้น เขาชอบที่จะฟังอีกคนเล่าเรื่องราวในแต่ละวันที่ผ่านมา ไทธัชถามเขากลับบ้าง มันทำให้รู้สึกว่าต่างฝ่ายต่างพยายามเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันมากขึ้น การได้นอนกอด ได้พูดคุยโดยไม่มีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องมันอบอุ่นหัวใจจนแทบอยากจะหยุดเวลาเอาให้นานที่สุดเขาตื่นนอนตั้งแต่เช้าทำตัวเหมือนปกติ ชวนไทธัชทานข้าวจากนั้นก็ตรวจสอบทุกอย่างให้เรียบร้อยอีกครั้ง“พี่ซันครับ ผมจะปิดกระเป๋าแล้วจะเอาอะไรใส่อีกไหมครับ” ไทธัชมองกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ใส่ของไว้เพียงครึ่งก็ถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“เอาตัวเองใส่ลงไปได้ไหมล่ะ”“ถ้ามันใส่ได้ผมก็คงลงไปตั้งนานแล้วครับ”“แต่ถ้าหั่นเป็นชิ้นก็คงใส่ได้พอดี”“กล้าหั่นเหรอครับ”“ตอนนี้ไม่กล้า แต่ในอนาคตไม่แน่นะครับ ถ้าไททำใ
วันนี้ไทธัชมีเรียนในเวลาบ่าย เขาตื่นในเวลาเกือบเที่ยง จากนั้นรีบอาบน้ำแต่งตัว คิดว่าจะไปหาอะไรทานที่โรงอาหารก่อนเข้าเรียนแต่พอออกมาจากห้องก็เห็นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่วางอยู่บนโต๊ะ ส่วนเจ้าของห้องกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องรับแขก พอเห็นไทธัชเดินออกมาก็เดินมานั่งเป็นเพื่อน ระหว่างที่ชายหนุ่มนั่งทาน“พี่ซันกินแล้วเหรอครับ”“กินแล้ว ไทไม่ต้องรีบหรอก เหลืออีกตั้งเกือบชั่วโมงพี่ขับรถแป๊บเดียวก็ถึงมหาลัยแล้ว”“จะไปส่งผมเหรอครับ” สีหน้าคนถามไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่“ครับ มีอะไรหรือเปล่า”“ไม่อยากให้ไปส่งกลัวเจอไอ้โจ้”“ยังไม่เลิกหึงเพื่อนอีกเหรอครับ”“เปล่าก็แค่ไม่ชอบให้คนอื่นมองพี่”“ถึงว่าล่ะ ตั้งแต่พี่กลับมาไม่ค่อยยอมออกไปไหน เพราะกลัวคนอื่นมองพี่เหรอครับ”“ครับ”“แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่าพี่ก็อยากอวดคนอื่นอยากให้คนอื่นรู้ว่าไทเป็นอะไรกับพี่”“ก็คิดว่าพี่หมอกลัวคนอื่นรู้ พี่ลืมไปหรือเปล่าว่าพี่เป็นหมอนะครับ ถ้าคนไข้รู้คงไม่ค่อยดี”“งานก็คืองานครับ คนไข้เขาแยกแยะได้”“ถามตรง ๆ นะครับ พี่อายไหมที่มีแฟนเป็นผม”“เป็นไทแล้วยังไง พี่ไม่เข้าใจคำถาม”“พี่ก็เห็นนี่ว่าผมเหมือนผู้ชายทั่ว ๆ ไป รูปร่างก็ไม่ได้น
“พี่ซันตั้งใจขับรถหน่อยครับ อย่าเอาแต่หันมามอง”“ก็อยากมองหน้าแฟนตัวเองผิดตรงไหน”“ไม่ผิดครับ แต่เอาไว้มองตอนอื่นได้ไหม แล้วเป็นอะไรครับ ดูท่าทางมีความสุขเชียว” ไทธัชถามคนที่ดูอารมณ์ดีกว่าทุกวัน“พี่ดีใจที่ไทบอกเพื่อนไปอย่างนั้น”“มันดีใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ”“แน่นอนสิ พี่นึกว่าไทจะไม่กล้าบอกคนอื่น”“ทำไมจะไม่กล้า ถ้าผมไม่บอกไอ้โจ้มันก็จะไม่เลิกยุ่งกับพี่”“หึงเหรอ”“หึงสิ ทั้งหล่อทั้งใจดีแบบนี้หาไม่ง่ายเลยนะครับ”“พี่มีขอดีแค่นั้นเองเหรอ แค่หล่อกับใจดี”“หล่อใจดีลีลาเด็ดแค่นี้พอไหมครับ”“ชอบตรงลีลาเด็ด งั้นรีบกลับดีกว่าจะได้ทำตามคุณสมบัติแฟนให้ครบทุกอย่าง”“พี่ซันครับเย็นนี้เรานัดแม่กับยายไว้นะครับ”“อ้าว พี่ลืมไปเลย ไม่เป็นไรยังเหลืออีกตั้งสองวัน”บ้านหลังเล็กของไทธัช“จะเดินทางแล้วใช่ไหมหมอซัน”“อีกสองวันครับแม่ ผมกลัวยุ่งก็เลยรีบมาลาแม่กับยายก่อน”“ยายขออวยพรให้เดินทางปลอดภัยนะ”“แม่ก็ขอให้หมอซันโชคดี ไม่ต้องห่วงทางนี้”“ขอบคุณครับ ยาย ขอบคุณครับแม่”“เอาไว้ยายถูกหวยยายจะไปเที่ยวหานะ”“ยายครับ ยายไม่เคยซื้อหวยครับ” ไทธัชท้วง“ถ้ายายกับแม่อยากไปเที่ยวก็ให้ไทพาไปนะครับ เรื่องค่าใช้จ่
แม้ว่าอยากจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากแค่ไหนแต่ไทธัชก็มาหน้าที่ของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบเพราะเขาวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะตั้งใจเรียนและเอาเกียรตินิยมมาให้ได้วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกหลังจากหยุดยาวมาหลายวัน อคิราห์ขับรถมาส่งเขาที่หอพักจากนั้นก็รอรับไปส่งที่ตึกเรียน ชายหนุ่มเหลือเวลาอีกสองวันก่อนที่จะเดินทางกลับอเมริกา“พี่ซันจอดตรงนี้ครับ”“ทำไมมันยังไม่ถึงหน้าตึกเลย”“ก็ตรงหน้าตึกคนมันเยอะ”“กลัวคนอื่นเห็นเหรอครับ อายเหรอที่เราคบกัน” จู่ ๆ คนตัวโต กว่าก็ดึงดราม่าจนไทธัชตามอารมณ์ไม่ทัน“เปล่า แค่ไม่อยากให้พี่เสียเวลาอ้อม”“อย่ามาอ้างเลย พี่รู้ว่าไทไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเราคบกัน มันน่าอายมากเหรอครับที่เป็นแฟนพี่”“ไปกันใหญ่แล้วนะครับ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น”อคิราห์เงียบ เขาไม่ได้คิดตามที่พูดแต่ก็แค่อยากจะแหย่ไทธัชเล่นก็เท่านั้น เพราะสำหรับเขาแล้วไม่เคยสนใจความคิดของคนอื่น ขอแค่ไทธัชยอมรับในตัวเขาก็เพียงพอแล้ว“รีบลงไปเถอะเดียวคนอื่นมาเห็น”“จะให้ผมลงไปได้ยังไงก็พี่ซันยังงอนอยู่แบบนี้”“ไม่ได้งอนครับ”“แต่ไม่ยิ้มเลย ยิ้มหน่อยนะครับพี่หมอคนดีของไท นะ นะ” ไทธัชพยายามง้อย่างเต็มที่เขายื่นหน้าเข้าม
คืนส่งท้ายปีเก่าที่ผ่านมานับว่าเป็นคืนที่ไทธัชมีความสุขกว่าปีไหน ร่างกายของเขาสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกับคนรักนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะหลงใหลไปกับตัณหาราคะได้มากถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มเรียกร้องให้เขาเข้ามาในตัวเองครั้งแล้ว ครั้งเล่า อคิราห์ก็ตอบสนองเขาจนแทบสำลักความสุข เสียงบอกรักและเสียวครางของคุณหมอหนุ่มยังก้องอยู่ในหู ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความรักอย่างท่วมท้น ยิ่งพอได้ยินอคิราห์บอกว่าอีกกี่วันก็จะถึงวันเกิดของเขา ซึ่งคงไม่ได้อยู่ฉลองด้วยกัน ไทธัชก็เลยอยากมอบความสุขให้เขาเป็นของขวัญ เขายอมให้อคิห์พลิกซ่ายขวาจัดท่าได้ตามใจปรารถณาเป็นการร่วมรักที่ยาวนานและมีความสุขจนแทบไม่อยากให้เขาหยุด สุดท้ายก็หมดแรงจนลุกไปเข้าห้องน้ำไม่ไหว เดือดร้อนอคิราห์ที่ต้องหาผ้ามาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำรักให้ ก่อนจะนอนกอดกันทั้ง ๆ ที่ร่างกายยังเปลือยเปล่าอย่างนั้น จนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายของอีกวัน “ไท ตื่นได้แล้ว” “อือ ไม่อยากตื่น ขอนอนต่อได้ไหม” “กินข้าวก่อนไหม” “ยังไม่หิวครับ อยากนอนมากกว่า พี่ซันกินก่อนเลยนะครับ” “ให้นอนต่ออีก
ขณะกำลังเลือกซื้อเบียร์อยู่ก็ได้รับสายจากชลกร อคิราห์เลยใช้เวลานานกว่าปกติพอกลับมาก็คนที่อยากฉลองด้วยหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงเสียแล้ว เขาไม่อยากกวนคนที่กำลังฝันดี จึงเข้ามาอย่างเงียบ ๆ แต่พออาบน้ำออกมาก็เห็นไทธัชนั่งส่งข้อความหาเพื่อนอยู่บนเตียง“นึกว่าจะหลับยาวถึงเช้า”“มาถึงทำไมไม่ปลุกล่ะครับ”“ไม่อยากฏวนคนตอน คุยกับเพื่อนเสร็จแล้วเหรอ” อคิราห์ดึงไทธัชเข้ามานั่งบนตัก เกยคางลงบนไหล่ของอีกคน ในขณะที่เขากำลังดูข้อความ แม้ไทธัชไม่ใช่คนตัวเล็ก แต่อคิราห์ก็ชอบในชายหนุ่มคนน้องนั่งอยู่บนตักตัวเอง“พี่ซัน มืออยู่นิ่ง ๆ ได้ไหม ผมจะส่งไลน์หาเพื่อน”“ก็ส่งไปสิพี่ไม่ได้ห้ามสักหน่อย”“แต่มือพี่ไม่นิ่งเลย แล้วจะล้วงไปตรงนั้นทำไม เดี๋ยวมันก็ตื่น”“ก็อยากให้ตื่น” เขาพูดหน้าตาเฉย“แล้วเมื่อกี้ทำเป็นบอกว่าไม่อยากปลุก”“ก็มันปลุกคนละแบบกัน”“เอาจริงใช่ไหม”“อือ ขอนะ สดด้วย”“มันดีกว่าใช่ไหม พี่มีความสุขมากกว่าใช่ไหม”“ครับ” เขาตอบไปตามความจริง“ไท ดูหน้าตัวเองตอนนี้ในกระจกสิ โคตรเอ็กซ์เลย” กระจกที่ติดไว้ด้านหนึ่งของห้องซึ่งอคิราห์เพิ่งจะซื้อมาเมื่อวันก่อน“อื้ม พี่ก็หน้าหื่น”“แล้วชอบให้คนหน้าหื่นเอาไหม”“