เป็นเวลาเกือบเดือนแล้วที่อคิราห์มาเรียนที่อเมริกา ชายหนุ่มยังคงโทรศัพท์ไปหาไทธัชอยู่เกือบทุกวันไม่ว่าจะเรียนหนักมากแค่ไหน การได้คุยกับคนที่อยู่อีกฟากโลกหนึ่งทำให้เขามีกำลังใจและหายเหนื่อย“พี่ดูท่าทางเหนื่อยมากเลยนะครับ” เมื่อวิดีโอคอลไปแล้วเห็นว่าอคิราห์ดูใบหน้าโทรมลงไปมาก อีกทั้งขอบตาก็คล้ำอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน“อือ เหนื่อย”“ไหวไหมครับ”“ไหวสิ ว่าแต่นายเถอะเป็นไงบ้างทุกอย่างโอเคไหม”“เหมือนเดิมครับ เดือนหน้าก็จะปิดเทอมแล้ว เมื่อวานผมแวะไปที่ร้านพี่ทีท เขาชวนผมไปทำงานช่วงปิดเทอม พี่ว่าผมไปดีไหม”“ถ้าบอกไม่ให้ไปนายก็จะดื้อไปอยู่นี่นั่นแหละ”“ผมไม่อยากอยู่ว่าง ๆ ช่วยงานแม่กับยายมันก็ไม่นาน มีเวลาเหลืออีกเยอะ”“ถ้าอย่างนั้นก็ไปทำเถอะ”“พี่ซันครับ ดูแลตัวเองด้วย ผมเป็นห่วง”“อือ ขอบใจเดี๋ยวคุยกับนายเสร็จก็จะไปนอนแล้ว”การมาเรียนที่นี่ไม่ง่ายอย่างที่คิด ถึงแม้เขาจะพอมีประสบการณ์ในห้องผ่าตัดมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เขาเหนื่อยน้อยลง ทุกวันหลังเลิกเรียนชายหนุ่มก็แทบจะหมดแรงพอเข้าเดือนที่สามทุกอย่างก็เริ่มลงตัว แต่เขากับไทธัชกลับได้คุยกันน้อยลงเพราะชายหนุ่มเริ่มเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัย
วันหยุดยาวไทธัชโทรไปหามารดา เพื่อบอกว่าสัปดาห์นี้เขาจะติวหนังสือกับรุ่นพี่จึงไม่กลับบ้านอย่างที่ได้บอกไว้ มารดาของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะลูกชายเป็นเด็กดีมาตลอดชายหนุ่มนัดกันมาติวที่หอของรุ่นพี่ แต่พอมาถึงกลับพบว่าตอนนี้มีแค่เขากับวีริญารุ่นพี่ที่เขาเริ่มคบหาได้เกือบหนึ่งเดือน เพียงแค่สองคนเท่านั้น“สงสัยคนอื่นกลับบ้านกันหมดแล้วแน่เลย”“นั่นสิ ผมก็ลืมคิดว่าเป็นวันหยุดยาว”“ไม่เป็นไรริญาติวให้ไทคนเดียวก็ได้ส่วนคนที่เหลือก็ค่อยเอาไว้วันหลัง”“งั้นริญาก็ต้องเหนื่อยสองรอบนะครับ ผมว่ารอพร้อมกันดีกว่า วันนี้ผมกลับก่อนก็ได้”“เดี๋ยวสิไท อยู่เป็นเพื่อนริญาก่อน หยุดยาวที่หอเงียบมาก ริญาไม่อยากอยู่คนเดียว”“เราออกไปดูหนังกันดีไหม”“ไท” วีริญาขยับเข้าใกล้จนไทธัชได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ“เราไม่ต้องนั่งชิดขนาดนี้ก็ได้”“ไทรังเกียจริญาเหรอ หรือเพราะริญากับพี่เข้มเคยเป็นแฟนกันมาก่อน” หญิงสาวหมายถึงเขมทัตรุ่นพี่ปีสามที่เธอเพิ่งเลิกกับเข้าได้ไม่ถึงสองเดือน“เปล่า ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย”“แต่ไทไม่เคยจับมือ ไม่เคยจูบริญาเลยสักครั้ง” หญิงสาวทำท่าทางน้อยใจเหมือนกำลังจะร้องไห้ ไทธัชจึงต้องรีบปลอบ“ผมไม่ได้รัง
ตั้งแต่คืนวันนั้นอคิราห์ก็ไม่ได้เจอกับไมค์อีกเลย ชายหนุ่มกลับมาทุ่มเทกับการเรียนและการฝึกทักษะอย่างหนัก เขาอยากเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากที่สุด พอวันหยุดก็ไปช่วยงานอาจารย์คลินิกในช่วงวันหยุดคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้เขาคิดว่าจะกลับประเทศไทยเพื่อจัดการอะไรให้เรียบร้อย เพราะหลังจากนี้เขาคิดว่าคงจะใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาอีกหลายปีเรื่องนี้เขายังไม่ได้บอกใครแม้กระทั่งไทธัช เพราะหลังจากวันที่ชายหนุ่มส่งรูปมาให้ดูอคิราห์ก็ยังไม่ได้คุยกับเจ้าตัวอีกเลย แต่ก็ยังคงมีข้อความส่งถึงกันอยู่เหมือนเดิมอคิราห์ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับชายหนุ่ม แม้อยากจะได้ยินเสียงอยากเห็นหน้าอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็ตาม เขากลัวว่าตัวเองจะทนฟังเรื่องราวของไทธัชกับแฟนรุ่นพี่ไม่ได้ เพราะรู้ว่าอีกคนคงต้องเล่าทุกเรื่องให้ฟังอย่างที่มักทำเป็นประจำแน่นอนเขาเห็นสายที่ไม่ได้รับจากไทธัชอยู่หลายสาย แต่ก็ไม่ได้โทรกลับ อคิราห์ส่งไลน์กลับไปบอกแค่ว่าถ้าว่างแล้วจะโทรหาแต่ผ่านมาหลายวันแล้วเขาก็ยังไม่โทรกลับ อคิราห์อยากขอเวลาทำใจอีกนิดก่อนที่จะคุยกับไทธัชอีกครั้งวันนี้พอมีเวลาว่างอคิราห์เลยถือโอกาสมานั่งดื่มที่บาร์แห่งเดิม
พอเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จไทธัชก็มายืนรอปัณวุฒิที่หน้าตึกคณะวิศวะตามที่รูมเมทนัดไว้ ระหว่างรอก็มองนักศึกษาคนอื่นไปเรื่อย คณะที่มีแต่ผู้ชายหน้าตาดี ๆ ทั้งนั้น ถึงว่าละรูมเมทบอกเขาว่าลองมาที่นี่แล้วจะรู้ใจตนเองขึ้นอีกนิด“ไท โทษทีนะอาจารย์ปล่อยช้าไปหน่อย”“อือ ไปกันเลยไหม”“ใจร้อนจังนะมึง”“ก็กูอย่างรู้ว่าชมรมนั่นมีอะไร”“เบาๆ หน่อยสิ มันเป็นความลับ”“เอา กูขอโทษก็มันตื่นเต้นนี่หว่า”ปัณวุฒิพาเขานั่งแท็กซี่มายังคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งดูหรูหราพอ ๆ กับคอนโดของอคิราร์เลยทีเดียว“จำไว้นะมึง ทุกคนที่เจอที่นี่ เป็นความลับ ไม่ว่ามึงจะรู้จักมาก่อนหรือเปล่ามึงก็ต้องทำตัวนิ่งเข้าไว้ แล้วพอเจอกันข้างนอกมึงก็ต้องทำเป็นไม่รู้จัก หรือถ้าเป็นคนที่มึงรู้จักดีอยู่แล้วก็ห้ามพูดหรือถามเรื่องนี้เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น”“กูชักกลัวแล้วสิ มึงไม่ได้พากูมาขายใช่ไหม”“อย่างมึงขายไม่ได้ราคาหรอก อย่ากลัวไปเลย”“ทำไมวะ กูก็ออกจะหล่อนะ”“หล่อ แต่ไร้ประสบการณ์ใครเขาจะเอามึงวะ”เหตุผลที่ไทธัชตามรูมเมทมาวันนี้ก็เพราะอยากรู้ใจตนเองว่าเป็นแบบที่ปัณวุฒิพูดหรือไม่มาถึงหน้าห้องชายหนุ่มคนซึ่งเดินนำมาตลอดก็เคาะประตู เสียงปลดล็อกจากทาง
อคิราห์เงียบหลังจากได้ฟังคนปลายสายพูด เขาไม่รู้ว่าพระเจ้ากำลังเล่นตลกอะไรกับชีวิตของเขาหรือเปล่า อยู่ดี ๆ คนที่เขาชอบก็มาบอกว่าตนเองเป็นเกย์“ล้อเล่นใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง“พี่คิดว่าเรื่องนี้มันล้อเล่นกันได้เหรอครับ” อีกคนถามกลับ“ถ้าอย่างนั้นพี่ถามหน่อยทำไมไทถึงคิดว่าตัวเองเป็นเกย์แล้วรู้ได้ยังไง รู้ตั้งแต่ตอนไหน” พอโอกาสก็ยิงคำถามเป็นชุด“ความรู้สึกมันบอกแบบนั้น ผมเองก็เพิ่งรู้”“คิดไปเองหรือเปล่า หรือมีใครบอก”แล้วไทธัชก็บอกว่าที่เขารู้ก็เพราะรูมเมทที่เป็นเกย์บอก และเขาเองก็คิดว่าเป็นแบบนั้น“อย่าบอกนะว่าไท กับรูมเมท...” อคิราห์ไม่กล้าถามต่อเพราะตอนนี้รู้สึกเจ็บจนไม่อาจจะพูดหรือถามอะไรต่อไปได้ถ้าหากเขาไม่มาเรียนที่นี่ ถ้าหากเขาอยู่กับไทธัชอย่างเมื่อก่อน เขาก็คงไม่เสียอีกคนไปแบบนี้ และถ้าย้อนเวลาได้เขาจะไม่มาเรียนที่นี่อย่างแน่นอน“พี่ซันโกรธเหรอครับ”“เปล่า”“แต่พี่เงียบไป ผมใจไม่ดีเลย ผมกับรูมเมทไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่เขาพูดให้ผมเข้าใจตัวเอง ให้ผมลองทบทวนความรู้สึกตัวเองก็เท่านั้น”พอได้ยินคำตอบอคิราห์ก็รู้สึกโล่งใจแต่ก็ยังกังวล“ไม่ใช่ว่าผิดหวังจากผู้หญิงเลยหันมาชอบผ
เสียงร้องเพลงชาติดังไปทั่วทั้งบริเวณของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง แม้ว่าเด็กที่มาเรียนในวันนี้จะมีจำนวนเพียงครึ่งเดียวก็ตาม เนื่องจากเป็นวันสอบปลายภาคเรียนวันแรกชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่ง กำลังเดินขึ้นไปบนอาคารเรียนแห่งนี้ด้วยความคุ้นเคย แม้เวลาจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ความทรงจำก็ยังไม่จางหาย ภาพที่ตัวเองเคยวิ่งบนระเบียงอาคารจนถูกอาจารย์ดุอยู่เกือบทุกวันยังฉายชัด ขายาวก้าวไปตามระเบียงทางเดินชั้นสองซึ่งมีห้องเรียนเรียงอยู่นับสิบห้อง ก่อนจะหยุดที่หน้าล็อกเกอร์เก็บของที่อยู่ด้านในสุดของตัวอาคารมือเรียวยาวหยิบกุญแจหมายเลข 10 ขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตสีขาวราคาแพง จากนั้นไขกุญแจตามหมายเลขที่ตรงกับลูกกุญแจในมือของตัวเองด้านในล็อกเกอร์มีอุปกรณ์การเรียน หนังสือเรียน ของใช้ส่วนตัวอีกเล็กน้อย แต่ที่สะดุดตาก็คงจะเป็นรองเท้าผ้าใบราคาแพงที่เขาจำได้ว่าเพิ่งจะซื้อให้กับเจ้าของล็อกเกอร์นี้ได้ไม่ถึงเดือนชายหนุ่มเก็บทุกอย่างลงไปในลังกระดาษที่เตรียมมาด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะต้องเป็นคนมาเก็บของออกจากล็อกเกอร์ของน้องชาย ในวันที่เจ้าตัวนั้นลาโลกไปแล้วพอตรวจสอบว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แล้วเขาก็ปิดล
เด็กหนุ่มคิดตามที่เขาพูด จากนั้นก็เล่าถึงปัญหาที่ตัวเองกำลังเจออยู่ให้กับชายแปลกหน้าฟังเริ่มตั้งแต่เขารู้จักคนกลุ่มหนึ่งในเฟซบุ๊ค จากนั้นก็ถูกชักชวนให้ลงทุนเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท พอครบหนึ่งสัปดาห์เขาก็ได้รับเงินคืนมา 1,300บาท พอสัปดาห์ที่สองเขาทำแบบเดิมอีก จากเงิน 1,000 กลายเป็นเงิน 1,300 บาท ทำแบบนั้นอยู่สองสัปดาห์เขากำไรถึง 600 บาท โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่พอเขาจะลงทุนเพิ่มสัปดาห์ที่สาม ทางกลุ่มก็ให้เขาเพิ่มจำนวนเงินเป็น 2,000 บาท เขาก็ทำตามเพราะคิดว่ายังไงก็ต้องได้เงินคืน และพอครบสัปดาห์ ครั้งนี้เขาได้เงินถึง 3,000 บาท กำไรถึง 1,000 บาทเพราะเงินมันมากขึ้นเขาจึงเกิดความโลภ ครั้งสุดท้ายเขาจึงเอาเงินค่าเทอมและเงินค่าเช่าแผงขายของในตลาดไปลงทุนเป็นเงินถึง 20,000 บาท ทางกลุ่มบอกว่าถ้าครบสัปดาห์จะได้เงินคืนทั้งหมด 35,000 บาท แต่พอครบกำหนดฝ่ายนั้นกลับไม่ยอมคืนเงินให้ พอจะแจ้งความก็โดนขู่ว่าจะมาทำร้ายมารดากับยาย สุดท้ายเขาก็ถูกพวกนั้นบล็อกทุกช่องทางการติดต่อ“นายก็เลยคิดจะฆ่าตัวตายใช่ไหม” คนอายุมากกว่าถามเด็กหนุ่ม“พี่ก็ได้ยินหมดแล้วนี่จะถามทำไมอีกล่ะ”“ถ้านายตายเพราะอุบัติเหตุแม่กับยาย
“หมอซันคะ อาจารย์หมอวัลลภเรียกให้ไปพบค่ะ”พยาบาลประจำแผนกศัลยกรรมคนหนึ่งรีบบอกอคิราห์ทันทีเมื่อเขาก้าวเท้าเข้ามายังแผนกอคิราห์เป็นประจำแผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง เมื่อไม่กี่วันก่อนเขายื่นเรื่องขอลาออกกับทางโรงพยาบาลเพราะวางแผนไว้ว่าจะไปเรียนต่อศัลยกรรมตกแต่งที่ต่างประเทศ อาจารย์หมอคงจะเรียกเขาเข้าไปคุยเรื่องนี้“สวัสดีครับอาจารย์”“สวัสดี นั่งก่อนสิ”“อาจารย์เรียกมาพบเพราะเรื่องที่ผมลาออกใช่ไหม”“ใช่ ผมคิดว่าคุณควรจะขอลาไปเรียนมากกว่าลาออก” อาจารย์วัยเกือบเกษียณบอกกับคนที่เป็นทั้งรุ่นน้องและลูกศิษย์ เขาเสียดายชายหนุ่มฝีมือดีที่สอนมาเองกับมือ“ผมวางแผนไว้ว่าหลังจากเรียนจบแล้วจะหางานที่นั่นสักพักค่อยกลับมาน่ะครับ”“แสดงว่าจะไปด้วยทุนส่วนตัวใช่ไหม”“ครับอาจารย์ ทุนของโรงพยาบาลเอาไว้ให้คนอื่นดีกว่า ผมเองก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง”อคิราห์ไม่อยากใช้ทุนของโรงพยาบาลเพราะถ้าเรียนจบก็ต้องรีบกลับมาใช้ทุน ชายหนุ่มไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเพราะครอบครัวพอมีฐานะ นอกจากนั้นยังได้เงินจากการฟ้องหย่าที่บิดาจ่ายให้กับมารดาของเขามากถึงยี่สิบล้านแต่เดิมเขาไม่คิดจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพ