“แฮ่กๆๆ”
เสียงหอบหนักของวินตาดังขึ้นเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง แต่อย่าเป็นอิสระเสียยังดีกว่า หากมันจะดึงดูดความสนใจจากร่างสูงไว้ให้หยุดทุกอย่างอยู่เพียงเท่านี้ วินตาก็จะยอมให้อีกฝ่ายจูบต่อให้นานตราบเท่าที่อีกฝ่ายพึงพอใจ ทว่าการจูบไม่เคยเพียงพอสำหรับจาริล ชายหนุ่มผละกายออกมาก็เพื่อจะเริ่มบรรเลงบทรักที่แท้จริงต่อจากนี้ เขากำลังจะครอบครองเรือนร่างของวินตาในไม่ช้า “ริล... ริลอย่า...” วินตาอ้อนวอนรุ่นน้องด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความกลัว นัยน์ตาสีน้ำตาลเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสที่เตรียมจะไหลรินได้ทุกเมื่อ และในไม่ช้า... มันจะหลั่งไหลลงมาเพราะการกระทำของจาริล “จาริลอย่า... ฮือออ...” หญิงสาวยกแขนข้างหนึ่งขึ้นบิดบังใบหน้า เธอทำใจไม่ได้ที่จะต้องทนเห็นคนที่กำลังทำร้ายเธอ จาริลยกขาเปลือยเปล่าของวินตาขึ้นอ้ากว้าง ก่อนจะยัดเอียดความเป็นชายของตนผ่านช่องทางคับแน่นจนไม่สามารถแทรกแก่นกายผ่านเข้าไปได้ ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดที่ไม่ต่างอะไรจากการถูกเศษแก้วบาดเมื่อครู่ แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็ได้รู้ว่ามันเจ็บยิ่งกว่าบาดแผลที่ถูกเศษแก้วแทงที่ต้นขาขนาดไหน จาริลพยายามกระแทกกายเข้าไปจนกระทั่งสามารถสอดใส่แก่นกายได้เติมความยาว กายบางสะดุ้งเฮือก ความเจ็บปวดแล่นพล่านจนยากจะบรรยาย ยิ่งร่างสูงกระเสือกกระสนกายเข้ามามากยิ่งขึ้น หน้าท้องเกร็งของเธอก็จุกแน่นไปหมด มันยิ่งเจ็บปวดทรมาน เมื่อกายหนาถาโถมใส่ไม่เว้นจังหวะ ร่างบางเคลื่อนไหวไปตามแรงชักนำของจาริลอย่างทุกข์ทรมานจนในที่สุดก็ไม่อาจสะกดกั้นเสียงร้องไห้เอาไว้ได้อีกแล้ว วินตาระเบิดเสียงร้องไห้โฮปานจะขาดใจให้กับเหตุการณ์ในค่ำคืนนี้ เธอเจ็บ... เจ็บเหลือเกิน... “ฮือๆๆๆ.... ริล...หยุดเถอะ ขอร้อง ฟังพี่อยู่ไหม...” ถ้อยคำขอถูกส่งไปหา ทว่าใบหน้าของคนเมาด้วยฤทธิ์ยากลับแสดงออกถึงความสุขใจที่ได้ครอบครองร่างกายของอีกฝ่าย ไม่มีวี่แววว่าจะสนใจใยดีรุ่นพี่คนนี้เลย จาริลคนนี้ ใจร้ายเหลือเกิน... “ฮือออ...จาริล... ฮือๆๆ” กายแกร่งยังคงเร่งจังหวะไม่หยุดพัก ราวกับไม่เคยเหนื่อยล้าทั้งที่หยาดเหงื่อไหลโทรมกายราวกับคนวิ่งแข่งมาเป็นเวลานาน ตรงข้ามกับคนด้านล่างที่เหน็ดเหนื่อยทรมานมากกว่าร่างหนานั้นหลายเท่า จาริลไม่ปราณีเธอเลยสักนิด และสิ่งที่น่าอับอายสำหรับวินตาในตอนนี้ก็คือร่างกายของเธอ ร่างกายที่เธอไม่รู้ว่ามันตอบสนองต่อการกระทำอันแสนโหดร้ายนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อรู้ตัวอีกทีเธอกลับต้องการปลดปล่อยอย่างยิ่งยวด แม้จะเคยมีประสบการณ์ด้วยตนเองมาบ้าง แต่เธอกลับไม่เคยหลับนอนกับใครเลยสักคน นี่นับเป็นครั้งแรก อีกทั้งคนที่พรากความบริสุทธิ์ของเธอไปก็ไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นคนที่เธอสนิทสนมและยังไว้เนื้อเชื่อใจเป็นอย่างดี ความจริงข้อนี้กำลังแผดเผาหัวใจของเธอ ต่อจากนี้เธอจะมองหน้าจาริลด้วยความรู้สึกอย่างไร หากอีกฝ่ายตื่นขึ้นแล้วรู้ว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป นั่นไม่ใช่เรื่องแย่สำหรับเจ้าตัวหรอกหรือ เธอเองรู้สึกโกรธอีกฝ่ายอย่างมาก แต่ทั้งหมดนั้นคงจะเทียบไม่ได้กับความเสียใจที่เกิดขึ้น เพราะทุกวินาทีที่จาริลได้เสพสม ทุกวินาทีที่จาริลมีความสุข เธอคนนี้รู้สึกเสียใจเหลือเกิน... “ฮึก...ฮึก...” วินตาสะอื้นฮักเมื่อร่างสูงแตะถึงฝั่งฝัน ทั้งสองร่างที่หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวถึงเวลาปลดปล่อยสายธารออกมาพร้อมๆ กัน ซึ่งนั่นเป็นเสมือนเจลหล่อลื่นอย่างดีให้กับร่างสูง จาริลดึงส่วนที่เชื่อมอยู่ภายในกายของวินตาออกมาจนเกือบสุดแล้วกระแทกกลับเข้าไปใหม่ ช่องทางรักที่ฉีกขาดตอดรัดส่วนแข็งขืนของชายหนุ่มไว้อีกครั้ง แม้ครั้งนี้การสอดใส่จะทำได้ง่ายขึ้นเพราะของเหลวที่เอ่อล้นออกมาพร้อมด้วยเลือดข้นที่ช่วยให้ความหล่อลื่นก็ตาม แต่ผิวอ่อนนุ่มของหญิงสาวก็ยังคงเจ็บปวดมากเหลือเกิน จาริลกระชับท่อนขาของหญิงสาวเข้ามาใกล้มากขึ้นแล้วส่งแรงทั้งหมดชำแรกผ่านร่างบางด้วยท่อนเนื้อร้อนขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่แก่นกายกรีดผ่านผิวเนื้อของร่างบางเลือดสีแดงสดก็จะไหลหยดลงเปื้อนผ้าปูที่นอนเป็นวงไม่นับรวมรอยเลือดที่เกิดจากบาดแผลที่ต้นขาข้างขวานั้นด้วย เพราะยามนี้เลือดที่ต้นขาขาวก็ยังคงไม่หยุดไหล สายเลือดกระเด็นเปือนผืนผ้าสีขาวไปตามจังหวะโยกไหวของจาริล ร่างหนาซอยสะโพกถี่กระชั้นเป็นสัญญาณบอกให้คนด้านล่างรับรู้ว่าอีกไม่นานร่างสูงจะถึงจุดสูงสุด และหญิงสาวแอบหวังว่าการกระทำอันแสนป่าเถื่อนนี้จะจบลงได้สักที “อาห์...” จาริลครางตํ่า ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเมื่อตนเองใกล้ถึงฝั่งฝัน แต่ถึงกระนั้นใครอีกคนกลับไม่ถึงฝั่งฝันไปด้วย ร่างกายของวินตาบาดเจ็บจนไม่อาจตอบรับสัมผัสของเขาอีกแล้ว ทว่าร่างสูงกลับไม่ปล่อยให้อีกคนถูกเอาเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว เขาใช้มือปลุกปั่นอารมณ์ของร่างบางด้วยการบีบขยำทรวงอกของหญิงสาวพลางซุกไซ้ริมฝีปากไปตามซอกคอขาว วินตาส่ายหน้าอย่างทรมาน เธอเอื้อมมือไปเพื่อหยุดมือของจาริลแล้ว แต่กลับถูกมือหนาสะบัดจนหลุดออกราวกับจะกลั่นแกล้ง “อย่า... พอได้แล้ว พอ!” วินตาแผดเสียงแหบแห้งห้ามอีกฝ่ายออกไปด้วยความกลัวและเกลียดสัมผัสนี้ใจแทบขาด แต่จาริลก็ยังไม่ยอมหยุดปรนเปรอความเสียวซ่านให้แก่เธอ ชายหนุ่มจงใจหยอกเย้ายอดปทุมถรรพ์สีชมพูอ่อนอย่างสำราญมือไม่ยอมหยุด มือหนาบีบเค้นทรวงอกอันเต่งตึงสลับกับการบีบบิดยอดถรรพ์อย่างรุนแรง จนกระทั่งเสียงร้องห้ามแปรเปลี่ยนเป็นเสียงครางแห่งความเสียวซ่าน ยามนั้นจึงได้เวลาที่ร่างสูงรุกคืบเข้ามาภายในกายของวินตาอีกครา “อ๊ะ” วินตาร้องครางด้วยความเจ็บจากแผลสดที่ถูกกรีดซ้ำตรงรอยเดิม หญิงสาวผันหน้าหนีเพราะไม่อาจทนมองอีกฝ่าย ร่างสูงเคลื่อนไหวกายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเสียงร้องแหบแห้งของวินตาค่อยๆ เบาหายไป เหลือเพียงเสียงครางกระเส่าของจาริลที่ดังสลับกับเสียงเสียดสีของผิวกายแต่เพียงเท่านั้น ร่างของเธอกระตุกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ของเหลวอุ่นจะฉีดพุ่งภายในกายและเอ่อล้นออกมาอาบช่องทางสีสดอย่างมากมาย คราวนี้จาริลถอนแก่นกายออกมาจากช่องทางรักที่บอบช้ำแล้วถอยตัวออกห่าง เป็นโอกาสให้วินตากระเถิบตัวถอยหนีได้บ้าง ร่างบางรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีลุกหนีลงไปจากเตียงนอน แต่ก็ถูกกระชากเรือนผมกลับมาจนล้มลงนอนหงายบนเตียงกว้าง หญิงสาวพลิกกายนอนตะแคงข้าง ลำตัวขดเกร็งเข้าหากันด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรเธออีก ดวงตาของเธอปิดสนิทแน่น ริมฝีปากแดงสั่นระริก ก่อนที่มันจะอ้ากว้างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อจาริลยกขาข้างหนึ่งของเธอขึ้นพาดบ่าแล้วกดแท่งเนื้อร้อนลงมาชำแรกผ่านช่องทางรักที่เปื้อนของเหลวสีขุ่นและคราบเลือดเกรอะกรังโดยไม่สนใจความเจ็บปวดของเธอ แม้ว่าเลือดจากบาดแผลที่ขาจะหยุดไหลลงแล้ว แต่น้ำตาที่เคยเหือดแห้งกลับไหลลงรดหมอนไม่หมดสิ้น เช่นเดียวกับการกระทำของจาริลที่วินตาไม่รู้ว่าจะดำเนินไปอีกนานแค่ไหน นานจนกว่าเธอจะหยุดร้องไห้ หรือนานจนกว่าทุกคนจะกลับมาถึง เธอไม่อยากให้ใครมาเห็นภาพของเธอกับจาริลตอนนี้เลย “ริล... พอแล้ว... พอได้แล้ว” เสียงสะอื้นไห้ของวินตาทำให้ร่างสูงชะงัก จาริลย่นหัวคิ้วมองจ้องรุ่นพี่ชั่ววินาที จนทำให้หญิงสาวเริ่มมีความหวัง แต่สุดท้ายความหวังของเธอก็ต้องพังลงไป เมื่อจาริลจับขาทั้งสองข้างของเธอถ่างออกกว้างแล้วกระแทกเข้ามาอย่างไม่ปราณีปราศรัย วินตากรีดร้องลั่น น้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บที่ทวีมากยิ่งขึ้น “ฮึก อ๊ะ... อ๊ะ! อ๊า!!” “จาริล เจ็บ! ฮือออ พอสักที! พอที!!” ร่างบางรํ่าร้องอย่างเจ็บปวด ไม่มีทางเลยที่เธอจะห้ามปรามอีกคนหนึ่งได้ เธอจำต้องนอนนิ่งให้ร่างสูงตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอมากเท่าที่อีกฝ่ายต้องการ “จาริลพี่ไม่ไหวแล้ว เจ็บ อ๊ะ จาริล!” เสียงของวินตาขาดหายเมื่อถูกร่างสูงก้มลงจุมพิตปิดปาก จาริลส่งผ่านเรียวลิ้นเข้าไปลุกล้ำภายในโพรงปากอุ่นร้อนด้วยความรุนแรงเหมือนทุกครั้งจนร่างบางหายใจไม่ออก มือข้างหนึ่งของวินตาบีบเข้าที่ลำคอของจาริลเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายหยุดการกระของตัวเองครั้งนี้ แต่ผลของการถือดีทำร้ายร่างสูงก็คือความรุนแรงที่มากขึ้นจนร่างบางทนรับไม่ไหว จึงไม่กล้าต่อกรกับคนใจร้ายผู้นี้อีก แล้วเมื่อไรกันที่อีกฝ่ายจะพอ เมื่อไรที่เธอจะถูกปลดปล่อย นานเท่าไรแล้ว... วินตาไม่อาจรู้ เวลาแห่งความทุกข์ทรมานล่วงเลยผ่านไปนับชั่วโมงจนเธออยากจะหายตัวไปจากสถานที่แห่งนี้ เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไปถึงจุดสุดยอดแล้วกี่ครั้ง รวมถึงไม่สามารถนับหยดน้ำตาที่สูญเสียไปได้เช่นเดียวกัน ภายในห้องพักของวินตายามนี้กลับกลายเป็นสถานที่ก่อกิจกามของร่างสูงที่การเสพสมครั้งไหนก็ยังไม่สามารถสนองตัณหาของเขาได้ ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งสองหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่าโดยที่ร่างสูงไม่เคยถอนส่วนที่เชื่อมอยู่ภายในกายของอีกคนออกมาเลย... เสร็จแล้วก็เริ่มใหม่... เหมือนยังไม่หนำใจและจะดำเนินต่อไปแม้ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะจบลงและเริ่มเข้าสู่เช้ากันใหม่ สิ่งเดียวที่วินตาทำได้ในตอนนี้คืออดทนรอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไป “อืม... นี่ฉันมีอะไรกับท่อนไม้เหรอเนี่ย ทำไมถึงได้นิ่งเงียบขนาดเน้” จาริลส่ายหน้าไม่พอใจ ก่อนจะก้มลงกดจูบไปที่ทรวงอกงามของหญิงสาวจนเป็นรอยแดง อีกฝ่ายพยายามดันใบหน้าของคนด้านบนออกห่างแต่ก็ถูกตรึงมือทั้งสองข้างไว้ กับเตียงแน่น ใบหน้าของวินตาเชิดขึ้นเมื่อปลายลิ้นของจาริลระรานยอดอกข้างซ้ายของเธอ “อื้มมม” อีกฝ่ายส่งเสียงครางในลำคออย่างอิ่มเอมใจเมื่อได้ครอบครองเรือนร่างงามทั้งส่วนบนและส่วนล่างไปพร้อมๆ กัน เขี้ยวคมของเขากัดกระชากเชอร์รี่ผลงามจนถูกตอกกลับด้วยกำปั้นไปหลายครั้ง กายบางพยายามอดทนและอดกลั้นอารมณ์อย่างยิ่งยวดเพราะรู้ดีว่าหากถูกปลุกปั้นอารมณ์ขึ้นมาแล้วนั้น ผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร เธอไม่อยากจะปลดปล่อยความอัดอั้นนั้นอีกแล้ว เพราะในสถานการณ์เช่นนี้มันทำให้เธอเจ็บปวดทรมานมากนัก ดังนั้นถ้าเธอไม่รู้สึกอะไรกับมัน เธอก็จะไม่ตกหลุมพรางของจาริลอีก กายแกร่งพรมจูบไปทั่วเรือนร่างของวินตาอย่างบ้าคลั่ง โดยทุกพื้นผิวที่ริมฝีปากของเขาเคลื่อนผ่าน ร่างหนาก็จะฝากรอยสีกลีบกุหลาบไว้ให้เห็นอยู่ประปราย ลิ้นร้อนลากวนอยู่บริเวณท้องน้อยของหญิงสาว ปลุกความเสียวซ่านของอีกฝ่ายจนคนที่พยายามอดทนอดกลั้นต้องแพ้พ่าย ปล่อยให้ผู้ชนะครอบครองเรือนกายของเธออย่างน่าอับอาย “อา...” หญิงเผลอปล่อยเสียงครางที่คิดว่าน่าอายนั้นออกมาอย่างไม่ตั้งใจ เธอรีบเม้มริมฝีปากแน่น อดทนกับสัมผัสรุนแรงที่ปรนเปรอส่วนล่างของเธอด้วยเรียวนิ้ว แต่ก็ผวาครางทุกครั้งที่ก้านนิ้วยาวกดย้ำเข้าที่จุดกระสัน เพียงไม่นานเธอก็รู้สึกได้ถึงมวลของเหลวที่กำลังจะปลดปล่อย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่จาริลยันตัวลุกขึ้นนั่ง ชายหนุ่มยกเอวบางให้ขึ้นมานั่งทับบนตักของตน เขานำพาให้ช่องทางรักของหญิงสาวสัมผัสกับยอดของแท่งเนื้อร้อนของเขาจนนำมาซึ่งความรู้สึกวาบหวาม ก่อนจะกดร่างวินตาลงจนสุดให้สามารถครอบครองเจ้าโลกของเขาไว้ได้มิด หญิงสาวอ้าปากค้าง อยากร้องออกมาด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่สามารถทำได้เมื่อโพรงปากถูกแทนที่ด้วยลิ้นร้อนที่เริ่มคุ้นเคยนั้นอีกครั้ง มันเกี่ยวกระหวัดชอนไชและพรากลมหายใจของเธอไปไม่เคยพลาด ร่างสูงเกือบจะทำให้ร่างบางโอนอ่อนด้วยรสจูบอันร้อนแรงนั่นแล้ว หากไม่ใช่เพราะกายท่อนล่างของเธอถูกกระแทกจากกายท่อนล่างของเขา “อื้อ” วินตาส่งเสียงครางในลำคอแล้วผันหน้าหนีออกมาด้วยความตกใจ เห็นดังนั้นจาริลจึงกระชับเอวบางของอีกฝ่ายไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นตัวหนีไปได้ ร่างบางที่กำลังจะเผชิญชะตากรรมครั้งใหม่รีบดันหน้าอกกว้างของจาริลให้ออกห่าง “ไม่! ไม่เอาแล้ว พอแล้ว!” วินตาตะคอกบอกคนที่โอบรั้งกายเธอไว้ แต่คนด้านล่างก็กระแทกแก่นกายเข้ามาในทันที หญิงสาวเอี้ยวตัวออกไปด้านข้าง หวังจะหลุดออกจากส่วนกายที่เชื่อมต่อร่างกายของพวกเขาไว้ แต่จาริลก็จับสะโพกของเธอไว้แน่นก่อนจะยกร่างเธอขึ้นรับกับแรงกระแทกที่แรงไม่ต่างจากครั้งไหนๆ ดวงหน้าหวานถึงกับเปลี่ยนสีหน้า อยากจะร้องไห้อีกครั้งแต่ก็ร้องไม่ออก ในเมื่อเธอสูญเสียน้ำตามากเสียจนไม่เหลือน้ำตาให้ไหลอีกแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากความเจ็บปวด... ร่างบางเริ่มหอบหนักขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งใกล้จะปลดปล่อยมากเท่าไรเธอก็ยิ่งรู้สึกทรมานมากขึ้นเท่านั้น ใบหน้าของเธอเอนซบลงไปกับแผ่นอกกว้างของจาริลอย่างไม่รังเกียจ หากนาทีนี้มันจะเป็นที่พักพิงให้เธอได้บ้าง เธอก็ยอม... ในตอนนั้นเธอได้ยินเสียงหัวใจของจาริลดังชัดเจนเมื่อใบหูแนบเข้ากับแผ่นอกกว้าง และจังหวะการเต้นของหัวใจเธอเองก็ไม่แตกต่าง เว้นเสียแต่มันมีที่มาของความรู้สึกที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง เปลือกตาสีน้ำนมปิดลงช้าๆ เมื่อหยาดน้ำหวานหลั่งไหลออกมาปนเมือกเหลวและคราบเลือดที่โคนขาด้านในของวินตา ก่อนที่หลังจากนั้นจาริลจะพลิกร่างบางให้ควํ่าหน้าลงกับเตียงแล้วเสือกไสแก่นกายเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนอีกครั้งโดยไม่ทอดทิ้งจังหวะ วินตาครางหวือกับการรุกล้ำครั้งนี้ มือข้างหนึ่งของเธอจำต้องยกขึ้นปิดปากเพื่อปิดกั้นเสียงคราง ทั้งที่ไม่อยากเปล่งเสียงที่น่าอับอายเช่นนั้นออกไปแท้ๆ แต่จาริลก็บังคับให้เธอต้องร้องมันออกมาอยู่ดี “อย่าเงียบสิ ฉันเกลียดความเงียบ” “ร้องออกมา! เวลาเอากับฉันจำไว้ว่าต้องครางออกมาดังๆ ร้องสิ!” “อ๊ะ!” กายหนาถาโถมเข้ามารัวเร็วเพื่อเร่งจังหวะให้ตนเองไปถึงฝั่งฝัน ใบหน้าที่โชกไปด้วยหยาดเหงื่อแนบเข้ากับแผ่นหลังเปลือยเปล่าของร่างบางก่อนบรรจงจูบมันอย่างแผ่วเบาเป็นครั้งแรกโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดใดไว้ วินตาครางแผ่วเป็นระยะและไม่สามารถหยุดได้จนกว่าร่างสูงจะพึงพอใจ กายหนายังตอกย้ำ แกล้งเธอให้ครางหวือด้วยจังหวะรุนแรงที่ส่งมาไม่หยุดง่าย และเสียงของเธอคงจะดังต่อไปเรื่อยๆ หากไม่มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เสียงเพลงที่ดังอย่างต่อเนื่องด้วยจังหวะเร้าใจนี้กำลังทำให้ ริล หรือ จาริล รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ ร่างสูงหรือไอดอลที่รู้จักกันในชื่อ ริล รับรู้ถึงจังหวะการก้าวเดินที่ผิดทิศทางไปเล็กน้อย แต่นั่นก็มากพอที่จะเตือนเขาให้รู้ว่าต้องรีบควบคุมตนเองทันใด เพราะยามนี้ชายหนุ่มที่เริ่มส่อเค้าอาการเมากำลังเดินไปตามแรงฉุดของหญิงสาวออกไปจากฟอร์แดนซ์ เธอพาเขาแทรกกายผ่านผู้คนที่เบียดเสียดอยู่ตามโถงทางเดินออกมาอย่างยากลำบาก และเมื่อร่างสูงถูกพามาหยุดยังชานพักบันไดที่ไร้ซึ่งผู้คน ไม่นานหลังจากนั้นริมฝีปากของเขาก็ถูกจู่โจมโดยหญิงสาวแสนสวยตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหว เรียวลิ้นแทรกผ่านโพรงปากของจาริลเข้าไปก่อนอย่างไร้ซึ่งความเขินอาย ทว่าชายหนุ่มนั้นเคลิบเคลิ้มกับเรียวลิ้นหวานได้ไม่นานก็ต้องถึงกับสำลัก เมื่อเรียวลิ้น ชื้นส่งผ่านเม็ดยาบางอย่างเข้ามาในโพรงปากของเขาจนมันลื่นไหลลงคอไปในที่สุด จาริลผละออกมาจากร่างสวยแล้วเอามือจับคอตัวเองด้วยความตระหนก ใบหน้าจ้องมองคนที่กำลังคบหาด้วยสายตาตำหนิ และนั่นเป็นเสมือนคำถามที่ส่งตรงไปให้หญิงสาว เธอคนนั้นยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะล้วงเอาบางอย่างออกมาจากกร
“มีสติหน่อยสิ นี่วินนี่นะ นี่พี่วินนี่ไง ไปๆ ขึ้นรถ ไปเดี๋ยวนี้!” วินตาไม่ว่าเปล่า แขนกระชากเสื้อของจาริลให้เดินตามขึ้นรถกลับบ้าน เมื่อผลักร่างสูงเข้าไปนั่งด้านในได้สำเร็จ เธอก็ไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับจาริล เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะไม่ยอมหยุดอยู่นิ่งๆ แล้ว เธอกลัวว่าอาจจะถูกก่อกวนระหว่างขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ ครั้นคาดเข็มขัดนิรภัยให้รุ่นน้องเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้ามานั่งภายในรถเตรียมตัวเดินทางกลับ ทว่าเสียงผิดคีย์ของจาริลก็ชักจะทำให้คนฟังเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาง่ายๆ แต่ละคำที่เขาพูดออกมาช่างน่ารำคาญเสียเหลือเกิน “พี่วินนี่ปล่อย... ปล่อยเซ.... ช่ออยู่ไหน... ช่อฟ้าๆๆๆ” จาริลครํ่าครวญหาคนรักจนคนขับแทบทนฟังไม่ได้ ยิ่งได้ยินเสียงรุ่นน้องก็ยิ่งพาลหงุดหงิดเป็นเท่าตัว ทั้งที่ห่วงแสนห่วงแต่คนข้างๆ ก็ดันทำตัวงี่เง่าจนทำให้เธอโมโหหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นกับอีกฝ่าย เธอคิดผิดจริงๆ สินะที่ขับรถออกมาซื้อของกินเข้าบ้านพักศิลปิน เพราะถ้าเธอไม่ออกมาในค่ำคืนนี้ เธอก็คงไม่ถูกแมนไหว้วานให้แวะมารับจาริลจอมหลอกลวงคนนี้หรอก “ช่อ ฮือออ... ผมจะไปหาช่อ พี่จะพาผมไปไหน ไม่ปายยยย” “จาริล! เงียบๆ พี่ต้องใช้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“แมน...” วินตาเอ่ยชื่อคนที่เธอคาดเดาไว้ พลันความรู้สึกกลัวก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศอันน่าหวาดวิตกหากชายหนุ่มกลับมาแล้ว ตอนนี้คนอื่นๆ ก็คงจะกลับมาถึงด้วยเช่นกัน เธอจะปล่อยให้พวกนั้นเห็นเธอในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“พี่วินนี่ ริลอยู่นั่นไหม?”“รำคาญว่ะ”จาริลบ่นงึมงำขณะโยกสะโพกดันบั้นท้ายของวินตาอย่างเพลิดเพลินไม่สนใจสิ่งใด หากแต่เจ้าของเรือนร่างที่บอบช้ำกำลังร้อนรนและหวาดกลัว หากอีกฝ่ายที่อยู่ข้างนอกนั่นเปิดประตูเข้ามาเห็น เธอกับจาริลจะอธิบายเจ้าพวกนั้นว่าอย่างไรเพราะเรื่องมันน่าอายเกินกว่าจะอธิบายได้ วินตาจึงไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากใครทั้งสิ้น ขอเพียงแค่ทุกคนไม่รู้เรื่องนี้เพียงเท่านั้นมันก็ดีพอแล้วสำหรับเรื่องแย่ที่เกิดขึ้น โชคดีที่จาริลเงียบไม่สนใจสิ่งใดนอกจากการกระทำของตน หากอีกฝ่ายเผลอพูดสิ่งใดที่ไม่สมควรออกมาในยามนี้ล่ะก็ พวกเธอทั้งคู่อาจตกที่นั่งลำบาก“... แมน”“เรียกชื่อใครกัน... ครางต่อสิ หยุดทำไม...” จาริลบ่นเสียงเบาพร้อมกับกลั่นแกล้งร่างบางด้วยการบีบยอดอกทั้งสองข้าง และมันเรียกเสียงครางหวิวจากวินตาได้ผลเป็นอย่างดี“อะ”“พี่วิน
แม้นเมืองจากไปแล้ว แต่ชายที่ยังอยู่อีกหนึ่งคนกลับไม่ยอมลุกขึ้นไปอาบน้ำ ชายหนุ่มไม่มีกระจิตกระใจจะออกไปทำงานด้วยซ้ำ ในหัวของเขายังมีแต่เรี่องที่ทำไว้กับรุ่นพี่จนไม่สามารถหยุดคิดได้จาริลลุกขึ้นนั่งลงบนเตียงของวินตาที่ตั้งอยู่ติดฝาผนัง เขาต้องทำใจอยู่นานกว่าจะรวบรวมความกล้าปลุกอีกฝ่าย ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความเงียบงันรุ่นพี่ยังคงหลับไม่ตื่นจนจาริลต้องเปล่งเสียงเรียกดังมากขึ้นกว่าเดิมก่อนที่เสียงเรียกชื่อนั้นจะเริ่มดังขึ้นเรี่อยๆ เมื่อร่างบางดูไม่มีทีท่าว่าจะตื่น“พี่วินนี่! พี่วินนี่! พี่วินนี่! ตื่นสิ พี่วินนี่!” จาริลร้อนใจจนต้องจับใบหน้าของรุ่นพี่เพื่อปลุกให้ได้สติฟื้นตื่น ทว่ารุ่นพี่กลับไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใดชายหนุ่มร้องไห้ น้ำเสียงของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเรียกชื่ออีกคนมากเท่าไรแต่ฝ่ายนั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นจาริลจึงตัดสินใจตบแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวเพื่อปลุกอีกฝ่าย และการกระทำครั้งนี้ได้ผลวินตาลืมตาขึ้นเพราะสัมผัสจากฝ่ามือของจาริล“พี่วินนี่” จาริลเรียกชื่อของคนที่ทำให้ใจเขาเต้นแรงด้วยความกลัวอีกครั้ง นัยน์ตาจ้องมองใบหน้าของคนที่กุมชะต
ใบหน้านิ่งสงบไม่บ่งบอกอารมณ์ใดของวินตาเป็นภาพเดียวที่อยู่ในสายตาของจาริลตอนนี้ ก่อนที่มันจะหายไปจากสายตาเมื่อร่างของเขาถูกฉุดกระชากด้วยแรงของใครคนหนึ่งทันทีที่ได้ให้คำตอบ“ผมไม่รู้ แต่คิดว่ามันน่าจะเป็นยาตระกูลยาอีหรืออะไรเทือกๆ นั้น”“ว่าไงนะ!”เป็นเฮคเตอร์ที่กระชากไหล่ของจาริลอย่างแรงจนร่างนั้นเสียหลักเกือบผลัดตกจากเตียงหากไม่ได้แม้นเมืองดึงรั้งไว้วินตาจงใจให้จาริลสารภาพความจริงส่วนหนึ่งความจริงที่ทำเอาทุกคนต่างอึ้งและคาดไม่ถึงว่าเพื่อนของพวกเขาจะทำเช่นนั้น นอกเหนือจากเรื่องเหล้าเบียร์และบุหรี่ ยาเสพติดถือเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คิดแตะต้อง แต่นึกไม่ถึงว่าหนึ่งในสมาชิกของวงจะพลาดท่าให้กับยาเสพติดก่อนใครเพื่อน ความจริงที่ออกจากปากของจาริลได้สร้างความผิดหวังขึ้นในใจของทุกคน พวกเขาอยากจะตำหนิชายหนุ่มแต่เพราะเห็นแก่พี่สาวคนสำคัญของบ้านผู้เป็นคนเปิดประเด็นสนทนาครั้งนี้ ทุกคนจึงเลือกที่จะเงียบและรอให้รุ่นพี่เอ่ยต่อ แต่จาริลกลับใช้โอกาสนี้โพนทะนาความผิดของตนเองออกมาจน(เกือบ)หมด“ผมรู้สึกเซ็งก็เลยไปหาช่อที่ผับ พอเริ่มเมา ช่อก็ให้กินยาอะไรก็ไม่รู้ จนผมไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้าง ผม... ทำพี่วิ
หลังจากงานแฟนมีตติ้งจบสิ้นลง คํ่าคืนต่อมาศิลปินทุกคนก็พากันไปเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขาดก็แต่จาริลกับวินนี่ที่มาสายจนทุกคนคิดว่าจะไม่ยอมมาตามนัดเสียแล้ว สาเหตุที่ทำให้คนเป็นรุ่นพี่มาช้าก็เพราะมัวแต่นอนหลับเพลิน กว่ารุ่นน้องจะมาเรียกเธอหน้าห้องเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้ว ฝ่ายรุ่นน้องทั้งที่ถูกสั่งให้เดินทางมาก่อนกลับไม่ยอมเชื่อฟัง จาริลเลือกที่จะรอรุ่นพี่ทั้งที่แต่ก่อนเขามักจะเป็นฝ่ายที่สายจนทำให้รุ่นพี่ต้องรออยู่เสมอก็ตามแต่เขาอาจจะคิดผิดก็ได้ที่รอใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ติดจะงัวเงียของหญิงสาวก้าวเดินออกมาจากห้องก่อนที่มันจะแสดงความหงุดหงิดเมื่อเห็นร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา“บอกว่าไม่ต้องรอไง” วินตาพูดเสียงกระแทกพร้อมกับเดินผ่านหน้ารุ่นน้องไปอย่างรวดเร็วจาริลถึงกับหน้าเสียก่อนที่เขาจะเดินตามหลังอีกฝ่ายไปใกล้ๆ ชนิดก้าวต่อก้าว เขาลืมกฎที่ต้องห่างกันสองเมตรไปชั่วคราว และผลของการเดินเข้ามาถึงร้านอาหารช้าเป็นสองคนสุดท้ายก็ทำให้ที่ว่างสองที่ที่เหลืออยู่เป็นของวินตากับจาริลอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เฮคเตอร์ แม้นเมือง นั่งตรงข้ามกับวินตาและจาริล ถัดด้วยศิลปินคนอื่นๆ และเวียนมาบรรจบที่วิน
หลังจากงานแฟนมีตติ้งจบสิ้นลง คํ่าคืนต่อมาศิลปินทุกคนก็พากันไปเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขาดก็แต่จาริลกับวินนี่ที่มาสายจนทุกคนคิดว่าจะไม่ยอมมาตามนัดเสียแล้ว สาเหตุที่ทำให้คนเป็นรุ่นพี่มาช้าก็เพราะมัวแต่นอนหลับเพลิน กว่ารุ่นน้องจะมาเรียกเธอหน้าห้องเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้ว ฝ่ายรุ่นน้องทั้งที่ถูกสั่งให้เดินทางมาก่อนกลับไม่ยอมเชื่อฟัง จาริลเลือกที่จะรอรุ่นพี่ทั้งที่แต่ก่อนเขามักจะเป็นฝ่ายที่สายจนทำให้รุ่นพี่ต้องรออยู่เสมอก็ตามแต่เขาอาจจะคิดผิดก็ได้ที่รอใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ติดจะงัวเงียของหญิงสาวก้าวเดินออกมาจากห้องก่อนที่มันจะแสดงความหงุดหงิดเมื่อเห็นร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา“บอกว่าไม่ต้องรอไง” วินตาพูดเสียงกระแทกพร้อมกับเดินผ่านหน้ารุ่นน้องไปอย่างรวดเร็วจาริลถึงกับหน้าเสียก่อนที่เขาจะเดินตามหลังอีกฝ่ายไปใกล้ๆ ชนิดก้าวต่อก้าว เขาลืมกฎที่ต้องห่างกันสองเมตรไปชั่วคราว และผลของการเดินเข้ามาถึงร้านอาหารช้าเป็นสองคนสุดท้ายก็ทำให้ที่ว่างสองที่ที่เหลืออยู่เป็นของวินตากับจาริลอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เฮคเตอร์ แม้นเมือง นั่งตรงข้ามกับวินตาและจาริล ถัดด้วยศิลปินคนอื่นๆ และเวียนมาบรรจบท
“พี่จะใจร้ายกับผมได้ลงคอจริงๆ เหรอ”จาริลเอ่ยอย่างหมดความอดทน ในที่สุดเขาก็ยอมจำนนต่อรุ่นพี่อีกต่อไปไม่ไหว ด้วยบทลงโทษที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายถอยห่างอีกฝ่ายไป เขาไม่อาจทนได้ และที่เขาแสร้งทำตัวคุกคามรุ่นพี่อยู่นี้ก็เพื่อให้อีกฝ่ายคิดเปลี่ยนใจหยุดการกระทำของตนซะ เพราะนอกจากเขาจะไม่ยอมเหินห่างอีกฝ่ายแล้ว เขายังพร้อมจะครอบครองอีกฝ่ายด้วย แต่เขาจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ถ้ารุ่นพี่ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ ถึงเวลานั้นเขาจะหยุดทุกอย่างและยอมแพ้แต่ไม่ใช่ในตอนนี้วินตาดิ้นขลุกขลักอยู่ภายใต้ร่างหนอย่างยากและเหนื่อยกายแต่เธอก็ยังพยายาม เพราะหวังจะชนะอีกฝ่าย เธอไม่อยากเป็นคนที่ถูกเขาไล่ต้อน แม้เธอจะรังเกียจสัมผัสที่ได้จากร่างสูงเพียงใดแต่เธอก็จำต้องตอบรับมันและสนองกลับไปให้เหนือกว่าครู่ต่อมาจาริลก้มลงจูบบดเบียดริมฝีปากของวินตาอย่างรุนแรงมากกว่าในค่ำคืนที่ตนขาดสติ สัมผัสที่รุนแรงและเจ็บปวดนั้นได้ไปจุดชนวนความโกรธของวินตาจนเธอไม่สามารถหยุดการกระทำของตนได้เช่นเดียวกัน ยิ่งจาริลรุกล้ำและเก็บเกี่ยวความหวานจากโพรงปากของเธออย่างเนิ่นนานไม่รู้จักหยุด วินตาก็ล่งผ่านเรียวลิ้นแลกกับค
“พี่จะใจร้ายกับผมได้ลงคอจริงๆ เหรอ”จาริลเอ่ยอย่างหมดความอดทน ในที่สุดเขาก็ยอมจำนนต่อรุ่นพี่อีกต่อไปไม่ไหว ด้วยบทลงโทษที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายถอยห่างอีกฝ่ายไป เขาไม่อาจทนได้ และที่เขาแสร้งทำตัวคุกคามรุ่นพี่อยู่นี้ก็เพื่อให้อีกฝ่ายคิดเปลี่ยนใจหยุดการกระทำของตนซะ เพราะนอกจากเขาจะไม่ยอมเหินห่างอีกฝ่ายแล้ว เขายังพร้อมจะครอบครองอีกฝ่ายด้วย แต่เขาจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ถ้ารุ่นพี่ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ ถึงเวลานั้นเขาจะหยุดทุกอย่างและยอมแพ้แต่ไม่ใช่ในตอนนี้วินตาดิ้นขลุกขลักอยู่ภายใต้ร่างหนอย่างยากและเหนื่อยกายแต่เธอก็ยังพยายาม เพราะหวังจะชนะอีกฝ่าย เธอไม่อยากเป็นคนที่ถูกเขาไล่ต้อน แม้เธอจะรังเกียจสัมผัสที่ได้จากร่างสูงเพียงใดแต่เธอก็จำต้องตอบรับมันและสนองกลับไปให้เหนือกว่าครู่ต่อมาจาริลก้มลงจูบบดเบียดริมฝีปากของวินตาอย่างรุนแรงมากกว่าในค่ำคืนที่ตนขาดสติ สัมผัสที่รุนแรงและเจ็บปวดนั้นได้ไปจุดชนวนความโกรธของวินตาจนเธอไม่สามารถหยุดการกระทำของตนได้เช่นเดียวกัน ยิ่งจาริลรุกล้ำและเก็บเกี่ยวความหวานจากโพรงปากของเธออย่างเนิ่นนานไม่รู้จักหยุด วินตาก็ล่งผ่านเรียวลิ้นแลกกับค
หลังจากงานแฟนมีตติ้งจบสิ้นลง คํ่าคืนต่อมาศิลปินทุกคนก็พากันไปเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขาดก็แต่จาริลกับวินนี่ที่มาสายจนทุกคนคิดว่าจะไม่ยอมมาตามนัดเสียแล้ว สาเหตุที่ทำให้คนเป็นรุ่นพี่มาช้าก็เพราะมัวแต่นอนหลับเพลิน กว่ารุ่นน้องจะมาเรียกเธอหน้าห้องเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้ว ฝ่ายรุ่นน้องทั้งที่ถูกสั่งให้เดินทางมาก่อนกลับไม่ยอมเชื่อฟัง จาริลเลือกที่จะรอรุ่นพี่ทั้งที่แต่ก่อนเขามักจะเป็นฝ่ายที่สายจนทำให้รุ่นพี่ต้องรออยู่เสมอก็ตามแต่เขาอาจจะคิดผิดก็ได้ที่รอใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ติดจะงัวเงียของหญิงสาวก้าวเดินออกมาจากห้องก่อนที่มันจะแสดงความหงุดหงิดเมื่อเห็นร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา“บอกว่าไม่ต้องรอไง” วินตาพูดเสียงกระแทกพร้อมกับเดินผ่านหน้ารุ่นน้องไปอย่างรวดเร็วจาริลถึงกับหน้าเสียก่อนที่เขาจะเดินตามหลังอีกฝ่ายไปใกล้ๆ ชนิดก้าวต่อก้าว เขาลืมกฎที่ต้องห่างกันสองเมตรไปชั่วคราว และผลของการเดินเข้ามาถึงร้านอาหารช้าเป็นสองคนสุดท้ายก็ทำให้ที่ว่างสองที่ที่เหลืออยู่เป็นของวินตากับจาริลอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เฮคเตอร์ แม้นเมือง นั่งตรงข้ามกับวินตาและจาริล ถัดด้วยศิลปินคนอื่นๆ และเวียนมาบรรจบท
หลังจากงานแฟนมีตติ้งจบสิ้นลง คํ่าคืนต่อมาศิลปินทุกคนก็พากันไปเลี้ยงฉลองที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขาดก็แต่จาริลกับวินนี่ที่มาสายจนทุกคนคิดว่าจะไม่ยอมมาตามนัดเสียแล้ว สาเหตุที่ทำให้คนเป็นรุ่นพี่มาช้าก็เพราะมัวแต่นอนหลับเพลิน กว่ารุ่นน้องจะมาเรียกเธอหน้าห้องเวลาก็ล่วงเลยมาเกือบชั่วโมงแล้ว ฝ่ายรุ่นน้องทั้งที่ถูกสั่งให้เดินทางมาก่อนกลับไม่ยอมเชื่อฟัง จาริลเลือกที่จะรอรุ่นพี่ทั้งที่แต่ก่อนเขามักจะเป็นฝ่ายที่สายจนทำให้รุ่นพี่ต้องรออยู่เสมอก็ตามแต่เขาอาจจะคิดผิดก็ได้ที่รอใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ติดจะงัวเงียของหญิงสาวก้าวเดินออกมาจากห้องก่อนที่มันจะแสดงความหงุดหงิดเมื่อเห็นร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา“บอกว่าไม่ต้องรอไง” วินตาพูดเสียงกระแทกพร้อมกับเดินผ่านหน้ารุ่นน้องไปอย่างรวดเร็วจาริลถึงกับหน้าเสียก่อนที่เขาจะเดินตามหลังอีกฝ่ายไปใกล้ๆ ชนิดก้าวต่อก้าว เขาลืมกฎที่ต้องห่างกันสองเมตรไปชั่วคราว และผลของการเดินเข้ามาถึงร้านอาหารช้าเป็นสองคนสุดท้ายก็ทำให้ที่ว่างสองที่ที่เหลืออยู่เป็นของวินตากับจาริลอย่างช่วยไม่ได้ในขณะที่เฮคเตอร์ แม้นเมือง นั่งตรงข้ามกับวินตาและจาริล ถัดด้วยศิลปินคนอื่นๆ และเวียนมาบรรจบที่วิน
ใบหน้านิ่งสงบไม่บ่งบอกอารมณ์ใดของวินตาเป็นภาพเดียวที่อยู่ในสายตาของจาริลตอนนี้ ก่อนที่มันจะหายไปจากสายตาเมื่อร่างของเขาถูกฉุดกระชากด้วยแรงของใครคนหนึ่งทันทีที่ได้ให้คำตอบ“ผมไม่รู้ แต่คิดว่ามันน่าจะเป็นยาตระกูลยาอีหรืออะไรเทือกๆ นั้น”“ว่าไงนะ!”เป็นเฮคเตอร์ที่กระชากไหล่ของจาริลอย่างแรงจนร่างนั้นเสียหลักเกือบผลัดตกจากเตียงหากไม่ได้แม้นเมืองดึงรั้งไว้วินตาจงใจให้จาริลสารภาพความจริงส่วนหนึ่งความจริงที่ทำเอาทุกคนต่างอึ้งและคาดไม่ถึงว่าเพื่อนของพวกเขาจะทำเช่นนั้น นอกเหนือจากเรื่องเหล้าเบียร์และบุหรี่ ยาเสพติดถือเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คิดแตะต้อง แต่นึกไม่ถึงว่าหนึ่งในสมาชิกของวงจะพลาดท่าให้กับยาเสพติดก่อนใครเพื่อน ความจริงที่ออกจากปากของจาริลได้สร้างความผิดหวังขึ้นในใจของทุกคน พวกเขาอยากจะตำหนิชายหนุ่มแต่เพราะเห็นแก่พี่สาวคนสำคัญของบ้านผู้เป็นคนเปิดประเด็นสนทนาครั้งนี้ ทุกคนจึงเลือกที่จะเงียบและรอให้รุ่นพี่เอ่ยต่อ แต่จาริลกลับใช้โอกาสนี้โพนทะนาความผิดของตนเองออกมาจน(เกือบ)หมด“ผมรู้สึกเซ็งก็เลยไปหาช่อที่ผับ พอเริ่มเมา ช่อก็ให้กินยาอะไรก็ไม่รู้ จนผมไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไปบ้าง ผม... ทำพี่วิ
แม้นเมืองจากไปแล้ว แต่ชายที่ยังอยู่อีกหนึ่งคนกลับไม่ยอมลุกขึ้นไปอาบน้ำ ชายหนุ่มไม่มีกระจิตกระใจจะออกไปทำงานด้วยซ้ำ ในหัวของเขายังมีแต่เรี่องที่ทำไว้กับรุ่นพี่จนไม่สามารถหยุดคิดได้จาริลลุกขึ้นนั่งลงบนเตียงของวินตาที่ตั้งอยู่ติดฝาผนัง เขาต้องทำใจอยู่นานกว่าจะรวบรวมความกล้าปลุกอีกฝ่าย ทว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความเงียบงันรุ่นพี่ยังคงหลับไม่ตื่นจนจาริลต้องเปล่งเสียงเรียกดังมากขึ้นกว่าเดิมก่อนที่เสียงเรียกชื่อนั้นจะเริ่มดังขึ้นเรี่อยๆ เมื่อร่างบางดูไม่มีทีท่าว่าจะตื่น“พี่วินนี่! พี่วินนี่! พี่วินนี่! ตื่นสิ พี่วินนี่!” จาริลร้อนใจจนต้องจับใบหน้าของรุ่นพี่เพื่อปลุกให้ได้สติฟื้นตื่น ทว่ารุ่นพี่กลับไม่มีวี่แววว่าจะตื่นขึ้นมาแต่อย่างใดชายหนุ่มร้องไห้ น้ำเสียงของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเรียกชื่ออีกคนมากเท่าไรแต่ฝ่ายนั้นกลับไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นจาริลจึงตัดสินใจตบแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาวเพื่อปลุกอีกฝ่าย และการกระทำครั้งนี้ได้ผลวินตาลืมตาขึ้นเพราะสัมผัสจากฝ่ามือของจาริล“พี่วินนี่” จาริลเรียกชื่อของคนที่ทำให้ใจเขาเต้นแรงด้วยความกลัวอีกครั้ง นัยน์ตาจ้องมองใบหน้าของคนที่กุมชะต
ก๊อก ก๊อก ก๊อก... ก๊อก ก๊อก ก๊อก…“แมน...” วินตาเอ่ยชื่อคนที่เธอคาดเดาไว้ พลันความรู้สึกกลัวก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศอันน่าหวาดวิตกหากชายหนุ่มกลับมาแล้ว ตอนนี้คนอื่นๆ ก็คงจะกลับมาถึงด้วยเช่นกัน เธอจะปล่อยให้พวกนั้นเห็นเธอในสภาพนี้ไม่ได้เด็ดขาด“พี่วินนี่ ริลอยู่นั่นไหม?”“รำคาญว่ะ”จาริลบ่นงึมงำขณะโยกสะโพกดันบั้นท้ายของวินตาอย่างเพลิดเพลินไม่สนใจสิ่งใด หากแต่เจ้าของเรือนร่างที่บอบช้ำกำลังร้อนรนและหวาดกลัว หากอีกฝ่ายที่อยู่ข้างนอกนั่นเปิดประตูเข้ามาเห็น เธอกับจาริลจะอธิบายเจ้าพวกนั้นว่าอย่างไรเพราะเรื่องมันน่าอายเกินกว่าจะอธิบายได้ วินตาจึงไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากใครทั้งสิ้น ขอเพียงแค่ทุกคนไม่รู้เรื่องนี้เพียงเท่านั้นมันก็ดีพอแล้วสำหรับเรื่องแย่ที่เกิดขึ้น โชคดีที่จาริลเงียบไม่สนใจสิ่งใดนอกจากการกระทำของตน หากอีกฝ่ายเผลอพูดสิ่งใดที่ไม่สมควรออกมาในยามนี้ล่ะก็ พวกเธอทั้งคู่อาจตกที่นั่งลำบาก“... แมน”“เรียกชื่อใครกัน... ครางต่อสิ หยุดทำไม...” จาริลบ่นเสียงเบาพร้อมกับกลั่นแกล้งร่างบางด้วยการบีบยอดอกทั้งสองข้าง และมันเรียกเสียงครางหวิวจากวินตาได้ผลเป็นอย่างดี“อะ”“พี่วิน
“มีสติหน่อยสิ นี่วินนี่นะ นี่พี่วินนี่ไง ไปๆ ขึ้นรถ ไปเดี๋ยวนี้!” วินตาไม่ว่าเปล่า แขนกระชากเสื้อของจาริลให้เดินตามขึ้นรถกลับบ้าน เมื่อผลักร่างสูงเข้าไปนั่งด้านในได้สำเร็จ เธอก็ไม่ลืมคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับจาริล เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะไม่ยอมหยุดอยู่นิ่งๆ แล้ว เธอกลัวว่าอาจจะถูกก่อกวนระหว่างขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ ครั้นคาดเข็มขัดนิรภัยให้รุ่นน้องเรียบร้อยแล้ว เธอก็เข้ามานั่งภายในรถเตรียมตัวเดินทางกลับ ทว่าเสียงผิดคีย์ของจาริลก็ชักจะทำให้คนฟังเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาง่ายๆ แต่ละคำที่เขาพูดออกมาช่างน่ารำคาญเสียเหลือเกิน “พี่วินนี่ปล่อย... ปล่อยเซ.... ช่ออยู่ไหน... ช่อฟ้าๆๆๆ” จาริลครํ่าครวญหาคนรักจนคนขับแทบทนฟังไม่ได้ ยิ่งได้ยินเสียงรุ่นน้องก็ยิ่งพาลหงุดหงิดเป็นเท่าตัว ทั้งที่ห่วงแสนห่วงแต่คนข้างๆ ก็ดันทำตัวงี่เง่าจนทำให้เธอโมโหหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นกับอีกฝ่าย เธอคิดผิดจริงๆ สินะที่ขับรถออกมาซื้อของกินเข้าบ้านพักศิลปิน เพราะถ้าเธอไม่ออกมาในค่ำคืนนี้ เธอก็คงไม่ถูกแมนไหว้วานให้แวะมารับจาริลจอมหลอกลวงคนนี้หรอก “ช่อ ฮือออ... ผมจะไปหาช่อ พี่จะพาผมไปไหน ไม่ปายยยย” “จาริล! เงียบๆ พี่ต้องใช้
1 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เสียงเพลงที่ดังอย่างต่อเนื่องด้วยจังหวะเร้าใจนี้กำลังทำให้ ริล หรือ จาริล รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ ร่างสูงหรือไอดอลที่รู้จักกันในชื่อ ริล รับรู้ถึงจังหวะการก้าวเดินที่ผิดทิศทางไปเล็กน้อย แต่นั่นก็มากพอที่จะเตือนเขาให้รู้ว่าต้องรีบควบคุมตนเองทันใด เพราะยามนี้ชายหนุ่มที่เริ่มส่อเค้าอาการเมากำลังเดินไปตามแรงฉุดของหญิงสาวออกไปจากฟอร์แดนซ์ เธอพาเขาแทรกกายผ่านผู้คนที่เบียดเสียดอยู่ตามโถงทางเดินออกมาอย่างยากลำบาก และเมื่อร่างสูงถูกพามาหยุดยังชานพักบันไดที่ไร้ซึ่งผู้คน ไม่นานหลังจากนั้นริมฝีปากของเขาก็ถูกจู่โจมโดยหญิงสาวแสนสวยตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหว เรียวลิ้นแทรกผ่านโพรงปากของจาริลเข้าไปก่อนอย่างไร้ซึ่งความเขินอาย ทว่าชายหนุ่มนั้นเคลิบเคลิ้มกับเรียวลิ้นหวานได้ไม่นานก็ต้องถึงกับสำลัก เมื่อเรียวลิ้น ชื้นส่งผ่านเม็ดยาบางอย่างเข้ามาในโพรงปากของเขาจนมันลื่นไหลลงคอไปในที่สุด จาริลผละออกมาจากร่างสวยแล้วเอามือจับคอตัวเองด้วยความตระหนก ใบหน้าจ้องมองคนที่กำลังคบหาด้วยสายตาตำหนิ และนั่นเป็นเสมือนคำถามที่ส่งตรงไปให้หญิงสาว เธอคนนั้นยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจก่อนจะล้วงเอาบางอย่างออกมาจากกร
“แฮ่กๆๆ”เสียงหอบหนักของวินตาดังขึ้นเมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง แต่อย่าเป็นอิสระเสียยังดีกว่า หากมันจะดึงดูดความสนใจจากร่างสูงไว้ให้หยุดทุกอย่างอยู่เพียงเท่านี้ วินตาก็จะยอมให้อีกฝ่ายจูบต่อให้นานตราบเท่าที่อีกฝ่ายพึงพอใจทว่าการจูบไม่เคยเพียงพอสำหรับจาริล ชายหนุ่มผละกายออกมาก็เพื่อจะเริ่มบรรเลงบทรักที่แท้จริงต่อจากนี้ เขากำลังจะครอบครองเรือนร่างของวินตาในไม่ช้า“ริล... ริลอย่า...” วินตาอ้อนวอนรุ่นน้องด้วยหัวใจที่เต้นแรงด้วยความกลัว นัยน์ตาสีน้ำตาลเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสที่เตรียมจะไหลรินได้ทุกเมื่อและในไม่ช้า... มันจะหลั่งไหลลงมาเพราะการกระทำของจาริล“จาริลอย่า... ฮือออ...” หญิงสาวยกแขนข้างหนึ่งขึ้นบิดบังใบหน้า เธอทำใจไม่ได้ที่จะต้องทนเห็นคนที่กำลังทำร้ายเธอจาริลยกขาเปลือยเปล่าของวินตาขึ้นอ้ากว้าง ก่อนจะยัดเอียดความเป็นชายของตนผ่านช่องทางคับแน่นจนไม่สามารถแทรกแก่นกายผ่านเข้าไปได้ร่างบางเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดที่ไม่ต่างอะไรจากการถูกเศษแก้วบาดเมื่อครู่ แต่ในวินาทีต่อมาเธอก็ได้รู้ว่ามันเจ็บยิ่งกว่าบาดแผลที่ถูกเศษแก้วแทงที่ต้นขาขนาดไหนจาริลพยายามกระแทกก