“ใช่...นี่เป็นที่พักของพวกบ่าวไพร่ในจวนแห่งนี้ และเจ้าต้องอยู่ที่นี่”
“ท่าจะให้ข้าอยู่รวมกับพวกแม่ครัวเหล่านี้ใช่หรือไม่เจ้าคะ”
“เปล่า...ข้าเพียงพาเจ้าเข้ามาดูว่าในจวนนี้เป็นเช่นไรบ้างและเจ้าต้องทำอะไร แต่เวลานอนเจ้าต้องไปอยู่ที่เรือนสาวใช้ของท่านแม่ทัพ....อ้อ...มาพอดีเลย...ผิงอัน มานี่หน่อยซิ”
พ่อบ้านหวางกวักมือเรียกหญิงนางหนึ่งซึ่งการแต่งกายสวยงามกว่าพวกหญิงที่ทำหน้าที่แม่ครัว นางเดินนวยนาดเข้ามาและยอบกายแสดงความเคารพต่อพ่อบ้าน
“พ่อบ้านหวาง มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือเจ้าคะ”
“ผิงอัน...นี่คือหยู่เยียน นางจะมาอยู่คอยช่วยงานที่นี่ ข้าขอมอบหมายให้เจ้าช่วยแนะนำนางด้วยว่าต้องทำงานอะไรบ้าง และพานางไปที่พักของสาวใช้ด้วย”
“เจ้าค่ะ”
ผิงอันรับคำก่อนพ่อบ้านหวางจะเดินกลับออกไป หญิงสาวในชุดยาวแสนสวยหันไปมองหยู่เยียนซึ่งมองปราดเดียวก็รู้ว่านางคงเป็นสาวชาวบ้านมาจากไร่นาด้วยมองจากเสื้อผ้าก็พอนึกเดาออกว่ามันเป็นอาภรณ์ของชาวบ้านซึ่งแตกต่างไปจากหญิงในจวนหรือตำหนักของเหล่าเจ้านายผู้มียศศักดิ์
ในขณะเดียวกันหยู่เยียนก็จ้องมองสาวใช้ของแม่ทัพใหญ่ซึ่งอายุคงไล่เลี่ยกันกับนาง ใบหน้าขอผิงอันนั้นสวยผ่องผาด ผิวพรรณเนียนดุจหยกล้ำค่า เครื่องหน้างามฉาบริมฝีปากด้วยสีแดงอ่อนๆ หยู่เยียนนึกกระดากเพราะนางนั้นมาจากหมู่บ้านห่างไกล ก้มลงมองการแต่งกายของตัวเองก็ช่างซอมซ่อเสียนี่กระไร เทียบไม่ได้เลยกับนางในเมืองหลวง หากผิงอันก็ยิ้มรื่นกับผู้มาใหม่เมื่อหยู่เยียนก้มหน้าแสดงการให้เกียรติ
“ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย...ข้านี้มีนามว่าหยู่เยียนค่ะ”
“หยู่เยียนหรือ...เรียกข้าว่าผิงอันนะ ตามข้ามานี่ซี”
ผิงอันเดินนำหน้าหยู่เยียนไปยังที่พัก เป็นบ้านของนางรับใช้ภายในจวน โอบล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น นางหยุดที่หน้าห้องหนึ่งแล้วเปิดประตูเข้าไป หยู่เยียนเดินตามและมองไปรอบ ๆ ห้องขนาดใหญ่กว่าบ้านที่นางอยู่กับลุงและป้าที่บ้านนอกทั้งหลังด้วยซ้ำ ผิงอันกล่าวขึ้น
“เจ้าคงมาจากในหมู่บ้านซีนะ นี่เพิ่งเข้ามาในเมืองเห็นครั้งแรกใช่หรือไม่”
“ใช่...ข้าเพิ่งเข้ามาในเมืองเป็นครั้งแรก และไม่ค่อยรู้เท่าใดว่าเขาต้องทำตัวกันเช่นไรบ้าง ขอให้เจ้าช่วยแนะนำข้าด้วย”
“ก็มิยากเท่าใดหรอกหากอยากอยู่ที่นี่อย่างมีความสุข แค่เจ้าทำในสิ่งที่ท่านแม่ทัพชอบ อย่าทำในสิ่งที่ท่านไม่ชอบเท่านั้นล่ะ”
“ฟังดูเหมือนง่ายเลยนะผิงอัน”
“ตอนแรกข้าก็คิดเช่นเจ้า แต่มันก็มิใช่เสียทั้งหมด น่า...อยู่ไปเจ้าก็จะรู้เองล่ะ แต่ขอบอกไว้เสียก่อนนะว่าที่นี่มิใช่ที่ที่เจ้าจะอยู่สบายนัก”
“หมายความว่าอย่างไรเล่าผิงอัน”
หยู่เยียนตั้งคำถามและเห็นผิงอันรีบปิดประตูห้องก่อนหันกลับมาเพื่อบอกว่า
“เจ้าอยู่ที่นี่ต้องระแวดระวังตัวให้ดีนะรู้หรือไม่”
“ข้าต้องระวังอันใด?”
“เจ้าต้องระวังท่านแม่ทัพนั่นล่ะ”
บทที่ 3
“ท่านแม่ทัพเช่นนั้นรึ...ใยข้าต้องระวังเขาด้วยเล่า”
“เจ้าเพิ่งมายังมิรู้อันใด จะบอกให้นะว่าแม่ทัพหลีเหว่ยคือผู้มีความเด็ดขาดอย่างยิ่ง และเขามิชอบให้ใครขัดใจแม้เพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม หากเจ้าทำมิถูกใจอาจถูกจับไปขังในคุกลับได้เลยเชียวนะ”
“ว่าอย่างไรนะ! คุกลับเช่นนั้นรึ”
“ชู่ว...อย่าเสียงดังไปซี เดี๋ยวผู้ใดผ่านมาได้ยินจะถูกทำโทษสถานหนักเลยนะ”
“ท่านแม่ทัพเด็ดขาดถึงขั้นนั้นเลยเชียวรึ ข้าชักจะกลัวขึ้นมาเสียแล้วซี”
“หากเจ้ากลัวก็ต้องอยู่ที่นี่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวนะหยู่เยียน และที่สำคัญ ในจวนของท่านแม่ทัพนี้เต็มไปด้วยนายทหารหน้าตาดี เจ้าอย่าได้แสดงความพึงใจต่อนายทหารคนใดอย่างเด็ดขาด เพราะท่านแม่ทัพไม่ชอบให้มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับชู้สาวในที่พำนักของเขา”
“ข้าจะพยายามทำตัวดี ๆ จะได้อยู่ที่นี่นานๆ”
“ถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้าไปวุ่นวายกับท่านแม่ทัพหลีเหว่ยเป็นเด็ดขาด เขามิชอบให้นางรับใช้เข้าใกล้ อันนี้ข้ามิได้กุเรื่องขึ้นมาพูดเอง แต่ท่านแม่ทัพมิชอบให้สตรีใดเข้าใกล้เพราะเกรงจะเป็นที่ครหา”
“เอ้อ...ตอนผ่านเข้ามาในจวนของท่านแม่ทัพหลีเหว่ย ข้าเห็นมีตำหนักหนึ่งอยู่หลังไม้ใหญ่ด้านโน้น งดงามยิ่งนัก”“อ้อ...นั่นคือหอเหมยฟ้า เป็นสถานที่ท่านแม่ทัพชอบไปนั่งเขียนหนังสือในยามว่าง แต่เจ้าอย่าไปสนใจเลย ปกติมิค่อยมีใครเข้าไปที่นั่นหรอก”“ขอบใจเจ้ามากนะผิงอันที่ช่วยบอกข้าเรื่องการวางตัวในจวนแห่งนี้ ข้าจะจดจำไว้และไม่ทำในสิ่งที่เจ้าบอกว่ามิสมควร”“ดีแล้ว...เชื่อฟังข้าแล้วเจ้าจะอยู่ที่นี่ได้นานๆ...ถ้าเช่นนั้นแล้วเดี๋ยวข้าไปก่อน เจ้าจงจัดเสื้อผ้าและที่นอนของเจ้าให้เรียบร้อยเถิด”ผิงอันกล่าวจบก็เดินออกไป สาวใช้ในจวนแม่ทัพหยุดยืนหน้าห้องเมื่อปิดประตูบลง นางเบ้ปากและพูดกับตัวเอง“ชิ! สาวชาวบ้านเช่นเจ้ารึจะมาสู้สาวใช้ในจวนของท่านแม่ทัพอย่างข้าได้ หยู่เยียน...หน้าตาเจ้าสะสวยมิใช่เล่น ได้ขัดสีฉวีวรรณคงงามไม่แพ้ข้าและสาวใช้คนอื่น ข้าจะมิยอมให้เจ้าได้อยู่ใกล้ชิดท่านแม่ทัพเป็นเด็ดขาด”กล่าวแล้วนางก็เดินออกไป ทิ้งให้หยู่เยียนอยู่ในห้องพักของนางลำพัง ขณะนั้นสาวชาวบ้านก็นั่งนึกถึงคำพูดของผิงอัน สงสัยจะเป็นจริงดั่งนางว่า ก็ดูเอาเถิด ท่านแม่ทัพหลีเหว่ยผู้งามสง่า ใบหน้าคร้ามคมเข้ม ดูทีรึวัยก็น่าจะปาเข้า
หยู่เยียนมองซ้ายขวาไม่เห็นใครอยู่แถวนั้นแม้แต่นายทหารหรือพ่อบ้าน นางจึงจุดประกายความคิดขึ้นบางอย่างในใจ ด้วยความใคร่รู้ทำให้นางตัดสินใจเดินผ่านสวนดอกไม้ที่ตั้งใจจะมาเก็บดอกไม้ไปให้หัวหน้าแม่ครัว และตรงไปยังหอเหมยฟ้า ที่นั่นไม่มีใครเลย ปราศจากทหารหรือคนเฝ้าเวรยาม นางเองอยากรู้เสียนักว่าเหตุใดหลีเหว่ยถึงไม่ใคร่อนุญาตให้ใครเข้ามาในอาณาบริเวณนี้ หรือว่าเขาต้องการเก็บรักษาของส่วนตัวไว้ภายในหอเหมยฟ้ากระมังร่างบอบบางของสาวใช้ก้าวผ่านประตูโค้งสลักลายดอกไม้เข้าไป ทางเข้าเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานา กลิ่นดอกไม้กำจายอวลไอในยามต้องแดดและทำให้หยู่เยียนเริ่มหลงใหลอยากเข้าไปข้างใน อยากรู้นักว่ามันจะงดงามขนาดไหน คงงามกว่าข้างนอกนี้แน่ นางก้าวเข้าไปอย่างเงียบเชียบด้วยเกรงว่าถ้ามีใครอยู่ที่นี่และเกิดรู้ว่ามีคนเข้ามาอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ และเมื่อก้าวเท้าเข้าไปใกล้แนวต้นไม้ที่มีดอกไม้บานและได้รับการจัดแต่งอย่างดีหยู่เยียนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงดังเหมือนคนกำลังคุยกัน นางนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจ มีคนอยู่ที่นี่ หรือว่าอาจเป็นแม่ทัพใหญ่ของจวนแก่งนี้ ยิ่งเข้าไปใกล้นางก็ได้ยินเสียงชัดเจนมากขึ้นทุกที“อาส์...ซี
“อ่าส์...ซี๊ดดดด...อ่าส์....โอยยยย...ดีมากผิงอัน...เจ้าทำได้ดีมาก...ซี๊ดดดด...อ่าส์”“ท่านแม่ทัพ...มือของข้าเป็นอย่างไรบ้าง”“รูดให้แรงกว่านี้ เพราะมือของเจ้าเล็ก...อ่าส์...ต้องออกแรงให้หนักกว่านี้...ซี๊ดดดด...เสียวดีเหลือเกิน”พอได้ยินเช่นนั้นผิงอันก็ออกแรงรูดมือทั้งสองเข้า ๆ ออก ๆ บนท่อนเอ็นของแม่ทัพใหญ่แรงกว่าเดิม ขณะนั้นใบหน้าหล่อเหลาของหลีเหว่ยก็บิดเบี้ยวเหยเก หยู่เยียนที่แอบดูอยู่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน เสียงซี๊ดซ๊าด เสียงแห่งความพึงพอใจที่ดังลอดออกมาจากห้องป้าและลุงตั้งแต่ยังเล็ก นางไม่รู้หรอกว่าป้ากับลุงของนางทำอะไรกัน ยังคิดเลยว่าทั้งสองอาจจะออกแรงช่วยกันทำอะไรสักอย่าง แต่คราวนี้นางได้เห็นแจ่มแจ้งแล้วว่ามันคืออะไรหยู่เยียนร้อนรุ่มและแก้มแดงซ่าน นางจ้องมองไปยังเรือนกายแข็งแกร่งสมชายชาตรีของแม่ทัพหนุ่มที่ตอนนี้หน้าท้องของเขาเกร็งจนนูนขึ้นมาเป็นลอนเห็นได้ชัดเจน ความเป็นบุรุษเพศของแม่ทัพนั้นใหญ่โตอลังการ แม้ว่าไม่เคยประสบพบเจอกับเรื่องน่าอายเช่นนี้แต่หยู่เยียนก็เหมือนเด็กสาวทั่วไป มีความคิดและความรู้สึกไวต่อเรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับของชายหญิง ห
จินลี่ เป็นอีกนามปากกาของ วานิลลานิยายจีน นามปากกา จินลี่ เป็นนิยายขนาดสั้น เน้นความซาบซ่านในอารมณ์ ไม่มีสาระและเนื้อหาหนักหน่วง มีแต่ความรันจวนวาบหวามเท่านั้นค่ะ*******************เรื่องราวของ หยู่เยียน สาวน้อยที่ยอมมาเป็นสาวใช้ในจวนของแม่ทัพหนุ่ม หลีเหว่ย นางถูกยุยั่วจากเพื่อนคนใช้ว่าในจวนแห่งนี้มีหอกาลกินี ไว้ทำโทษคนที่แม่ทัพไม่ชอบใจแล้ววันหนึ่งหยู่เยียนก็ได้พบคำตอบ ว่าที่ หอเหมยฟ้า แท้จริงคือ หอรักเร้นสวาท ที่มีไว้เพื่อลงทัณฑ์หญิงสาวด้วยความซาบซ่านวาบหวามอารมณ์จื่อรั่วเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่ภายในจวนอันกว้างขวางของแม่ทัพ หลีเหว่ย เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นนางจึงรีบกวักมือหญิงสาวร่างเล็กบอบบางในชุดสาวชาวบ้านเข้ามา“หยู่เยียน...เจ้ามัวยืนรออันใดอยู่เล่า รีบเข้ามานี่เถิด วันนี้ทางสะดวก มิเห็นมีผู้ใดในจวนของแม่ทัพใหญ่เลยสักคน แบบนี้ข้าจะได้คุยกับท่านแม่ทัพได้สะดวกหน่อย”“ท่านป้า...นี่หรือคือจวนของท่าแม่ทัพ ทำไมมันใหญ่เหมือนวังอย่างนี้ล่ะจ๊ะ”“ข้าจะบอกอะไรให้นะว่าจวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในจวนที่ใหญ่มาก สร้างไว้สำหรับแม่ทัพผู้เก่งกาจอย่างหลีเหว่ย ชื่อเสียงของแม่ทัพผู้นี้เป็นที่รู้จั
“ข้าอยู่ที่นี่ได้ค่ะท่านแม่ทัพ ถึงแม้ข้าจะเคยอยู่ในหมู่บ้าน ทำไร่ทำนาแต่ข้าคิดว่าจะปรับตัวและช่วยงานท่านแม่ทัพได้เจ้าค่ะ”“เจ้าทำอะไรเป็นบ้างนะ”บทที่ 2 “หลานสาวของข้าทำงานได้สารพัดอย่าง แล้วแต่ท่านแม่ทัพจะเรียกใช้หรืออยากให้นางทำอะไรดังใจท่านต้องการ”จื่อรั่วรีบนำเสนอ เพราะนางไม่อยากต้องเป็นธุระพาหลานสาวกลับบ้านนอก อยากให้หยู่เยียนอยู่ในจวนของแม่ทัพหนุ่มมิใช่ด้วยเหตุผลอื่น เพียงแค่ไม่อยากต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานสาวอยู่ที่บ้าน ยิ่งข้าวปลาอาหารไม่ได้หาง่าย ๆ และในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเพราะบ้านเมืองมีสงครามอยู่เนืองๆ ขณะนั้นเองหลีเหว่ยก็นั่งนิ่งสักครู่แล้วจึงตอบกลับไปว่า“ก็ได้...เช่นนั้นแล้วข้าจะยอมรับหลานของเจ้าไว้ให้ช่วยงานในจวน แต่ก้ขอเตือนไว้ก่อนว่ามาอยู่ที่นี่เจ้าต้องทำตัวดี ๆ อย่าได้ทำในสิ่งที่ข้าไม่อนุญาตหรือประพฤติตัวไม่เหมาะสม หาไม่แล้วข้าจะส่งเจ้ากลับไปอยู่กับป้าของเจ้าเช่นเดิม”“ค่ะ...ท่านแม่ทัพ...ข้ารับปากว่าจะทำตัวให้ดีสมกับที่ท่านเมตตารับข้าไว้ให้ช่วยงานที่นี่เจ้าค่ะ”“ดี! เดี๋ยวข้าจะให้พ่อบ้านหวางพาเจ้าไปที่พัก ที่นี่มีคนของข้าอยู่มากมาย หากทำตัวดี ๆ เจ้าก็จะอยู
“อ่าส์...ซี๊ดดดด...อ่าส์....โอยยยย...ดีมากผิงอัน...เจ้าทำได้ดีมาก...ซี๊ดดดด...อ่าส์”“ท่านแม่ทัพ...มือของข้าเป็นอย่างไรบ้าง”“รูดให้แรงกว่านี้ เพราะมือของเจ้าเล็ก...อ่าส์...ต้องออกแรงให้หนักกว่านี้...ซี๊ดดดด...เสียวดีเหลือเกิน”พอได้ยินเช่นนั้นผิงอันก็ออกแรงรูดมือทั้งสองเข้า ๆ ออก ๆ บนท่อนเอ็นของแม่ทัพใหญ่แรงกว่าเดิม ขณะนั้นใบหน้าหล่อเหลาของหลีเหว่ยก็บิดเบี้ยวเหยเก หยู่เยียนที่แอบดูอยู่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน เสียงซี๊ดซ๊าด เสียงแห่งความพึงพอใจที่ดังลอดออกมาจากห้องป้าและลุงตั้งแต่ยังเล็ก นางไม่รู้หรอกว่าป้ากับลุงของนางทำอะไรกัน ยังคิดเลยว่าทั้งสองอาจจะออกแรงช่วยกันทำอะไรสักอย่าง แต่คราวนี้นางได้เห็นแจ่มแจ้งแล้วว่ามันคืออะไรหยู่เยียนร้อนรุ่มและแก้มแดงซ่าน นางจ้องมองไปยังเรือนกายแข็งแกร่งสมชายชาตรีของแม่ทัพหนุ่มที่ตอนนี้หน้าท้องของเขาเกร็งจนนูนขึ้นมาเป็นลอนเห็นได้ชัดเจน ความเป็นบุรุษเพศของแม่ทัพนั้นใหญ่โตอลังการ แม้ว่าไม่เคยประสบพบเจอกับเรื่องน่าอายเช่นนี้แต่หยู่เยียนก็เหมือนเด็กสาวทั่วไป มีความคิดและความรู้สึกไวต่อเรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับของชายหญิง ห
หยู่เยียนมองซ้ายขวาไม่เห็นใครอยู่แถวนั้นแม้แต่นายทหารหรือพ่อบ้าน นางจึงจุดประกายความคิดขึ้นบางอย่างในใจ ด้วยความใคร่รู้ทำให้นางตัดสินใจเดินผ่านสวนดอกไม้ที่ตั้งใจจะมาเก็บดอกไม้ไปให้หัวหน้าแม่ครัว และตรงไปยังหอเหมยฟ้า ที่นั่นไม่มีใครเลย ปราศจากทหารหรือคนเฝ้าเวรยาม นางเองอยากรู้เสียนักว่าเหตุใดหลีเหว่ยถึงไม่ใคร่อนุญาตให้ใครเข้ามาในอาณาบริเวณนี้ หรือว่าเขาต้องการเก็บรักษาของส่วนตัวไว้ภายในหอเหมยฟ้ากระมังร่างบอบบางของสาวใช้ก้าวผ่านประตูโค้งสลักลายดอกไม้เข้าไป ทางเข้าเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานา กลิ่นดอกไม้กำจายอวลไอในยามต้องแดดและทำให้หยู่เยียนเริ่มหลงใหลอยากเข้าไปข้างใน อยากรู้นักว่ามันจะงดงามขนาดไหน คงงามกว่าข้างนอกนี้แน่ นางก้าวเข้าไปอย่างเงียบเชียบด้วยเกรงว่าถ้ามีใครอยู่ที่นี่และเกิดรู้ว่ามีคนเข้ามาอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ และเมื่อก้าวเท้าเข้าไปใกล้แนวต้นไม้ที่มีดอกไม้บานและได้รับการจัดแต่งอย่างดีหยู่เยียนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงดังเหมือนคนกำลังคุยกัน นางนิ่วหน้าด้วยความแปลกใจ มีคนอยู่ที่นี่ หรือว่าอาจเป็นแม่ทัพใหญ่ของจวนแก่งนี้ ยิ่งเข้าไปใกล้นางก็ได้ยินเสียงชัดเจนมากขึ้นทุกที“อาส์...ซี
“เอ้อ...ตอนผ่านเข้ามาในจวนของท่านแม่ทัพหลีเหว่ย ข้าเห็นมีตำหนักหนึ่งอยู่หลังไม้ใหญ่ด้านโน้น งดงามยิ่งนัก”“อ้อ...นั่นคือหอเหมยฟ้า เป็นสถานที่ท่านแม่ทัพชอบไปนั่งเขียนหนังสือในยามว่าง แต่เจ้าอย่าไปสนใจเลย ปกติมิค่อยมีใครเข้าไปที่นั่นหรอก”“ขอบใจเจ้ามากนะผิงอันที่ช่วยบอกข้าเรื่องการวางตัวในจวนแห่งนี้ ข้าจะจดจำไว้และไม่ทำในสิ่งที่เจ้าบอกว่ามิสมควร”“ดีแล้ว...เชื่อฟังข้าแล้วเจ้าจะอยู่ที่นี่ได้นานๆ...ถ้าเช่นนั้นแล้วเดี๋ยวข้าไปก่อน เจ้าจงจัดเสื้อผ้าและที่นอนของเจ้าให้เรียบร้อยเถิด”ผิงอันกล่าวจบก็เดินออกไป สาวใช้ในจวนแม่ทัพหยุดยืนหน้าห้องเมื่อปิดประตูบลง นางเบ้ปากและพูดกับตัวเอง“ชิ! สาวชาวบ้านเช่นเจ้ารึจะมาสู้สาวใช้ในจวนของท่านแม่ทัพอย่างข้าได้ หยู่เยียน...หน้าตาเจ้าสะสวยมิใช่เล่น ได้ขัดสีฉวีวรรณคงงามไม่แพ้ข้าและสาวใช้คนอื่น ข้าจะมิยอมให้เจ้าได้อยู่ใกล้ชิดท่านแม่ทัพเป็นเด็ดขาด”กล่าวแล้วนางก็เดินออกไป ทิ้งให้หยู่เยียนอยู่ในห้องพักของนางลำพัง ขณะนั้นสาวชาวบ้านก็นั่งนึกถึงคำพูดของผิงอัน สงสัยจะเป็นจริงดั่งนางว่า ก็ดูเอาเถิด ท่านแม่ทัพหลีเหว่ยผู้งามสง่า ใบหน้าคร้ามคมเข้ม ดูทีรึวัยก็น่าจะปาเข้า
“ใช่...นี่เป็นที่พักของพวกบ่าวไพร่ในจวนแห่งนี้ และเจ้าต้องอยู่ที่นี่”“ท่าจะให้ข้าอยู่รวมกับพวกแม่ครัวเหล่านี้ใช่หรือไม่เจ้าคะ”“เปล่า...ข้าเพียงพาเจ้าเข้ามาดูว่าในจวนนี้เป็นเช่นไรบ้างและเจ้าต้องทำอะไร แต่เวลานอนเจ้าต้องไปอยู่ที่เรือนสาวใช้ของท่านแม่ทัพ....อ้อ...มาพอดีเลย...ผิงอัน มานี่หน่อยซิ”พ่อบ้านหวางกวักมือเรียกหญิงนางหนึ่งซึ่งการแต่งกายสวยงามกว่าพวกหญิงที่ทำหน้าที่แม่ครัว นางเดินนวยนาดเข้ามาและยอบกายแสดงความเคารพต่อพ่อบ้าน“พ่อบ้านหวาง มีอะไรให้ข้ารับใช้หรือเจ้าคะ”“ผิงอัน...นี่คือหยู่เยียน นางจะมาอยู่คอยช่วยงานที่นี่ ข้าขอมอบหมายให้เจ้าช่วยแนะนำนางด้วยว่าต้องทำงานอะไรบ้าง และพานางไปที่พักของสาวใช้ด้วย”“เจ้าค่ะ”ผิงอันรับคำก่อนพ่อบ้านหวางจะเดินกลับออกไป หญิงสาวในชุดยาวแสนสวยหันไปมองหยู่เยียนซึ่งมองปราดเดียวก็รู้ว่านางคงเป็นสาวชาวบ้านมาจากไร่นาด้วยมองจากเสื้อผ้าก็พอนึกเดาออกว่ามันเป็นอาภรณ์ของชาวบ้านซึ่งแตกต่างไปจากหญิงในจวนหรือตำหนักของเหล่าเจ้านายผู้มียศศักดิ์ในขณะเดียวกันหยู่เยียนก็จ้องมองสาวใช้ของแม่ทัพใหญ่ซึ่งอายุคงไล่เลี่ยกันกับนาง ใบหน้าขอผิงอันนั้นสวยผ่องผาด ผิวพรรณเนี
“ข้าอยู่ที่นี่ได้ค่ะท่านแม่ทัพ ถึงแม้ข้าจะเคยอยู่ในหมู่บ้าน ทำไร่ทำนาแต่ข้าคิดว่าจะปรับตัวและช่วยงานท่านแม่ทัพได้เจ้าค่ะ”“เจ้าทำอะไรเป็นบ้างนะ”บทที่ 2 “หลานสาวของข้าทำงานได้สารพัดอย่าง แล้วแต่ท่านแม่ทัพจะเรียกใช้หรืออยากให้นางทำอะไรดังใจท่านต้องการ”จื่อรั่วรีบนำเสนอ เพราะนางไม่อยากต้องเป็นธุระพาหลานสาวกลับบ้านนอก อยากให้หยู่เยียนอยู่ในจวนของแม่ทัพหนุ่มมิใช่ด้วยเหตุผลอื่น เพียงแค่ไม่อยากต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานสาวอยู่ที่บ้าน ยิ่งข้าวปลาอาหารไม่ได้หาง่าย ๆ และในยุคที่ข้าวยากหมากแพงเพราะบ้านเมืองมีสงครามอยู่เนืองๆ ขณะนั้นเองหลีเหว่ยก็นั่งนิ่งสักครู่แล้วจึงตอบกลับไปว่า“ก็ได้...เช่นนั้นแล้วข้าจะยอมรับหลานของเจ้าไว้ให้ช่วยงานในจวน แต่ก้ขอเตือนไว้ก่อนว่ามาอยู่ที่นี่เจ้าต้องทำตัวดี ๆ อย่าได้ทำในสิ่งที่ข้าไม่อนุญาตหรือประพฤติตัวไม่เหมาะสม หาไม่แล้วข้าจะส่งเจ้ากลับไปอยู่กับป้าของเจ้าเช่นเดิม”“ค่ะ...ท่านแม่ทัพ...ข้ารับปากว่าจะทำตัวให้ดีสมกับที่ท่านเมตตารับข้าไว้ให้ช่วยงานที่นี่เจ้าค่ะ”“ดี! เดี๋ยวข้าจะให้พ่อบ้านหวางพาเจ้าไปที่พัก ที่นี่มีคนของข้าอยู่มากมาย หากทำตัวดี ๆ เจ้าก็จะอยู
จินลี่ เป็นอีกนามปากกาของ วานิลลานิยายจีน นามปากกา จินลี่ เป็นนิยายขนาดสั้น เน้นความซาบซ่านในอารมณ์ ไม่มีสาระและเนื้อหาหนักหน่วง มีแต่ความรันจวนวาบหวามเท่านั้นค่ะ*******************เรื่องราวของ หยู่เยียน สาวน้อยที่ยอมมาเป็นสาวใช้ในจวนของแม่ทัพหนุ่ม หลีเหว่ย นางถูกยุยั่วจากเพื่อนคนใช้ว่าในจวนแห่งนี้มีหอกาลกินี ไว้ทำโทษคนที่แม่ทัพไม่ชอบใจแล้ววันหนึ่งหยู่เยียนก็ได้พบคำตอบ ว่าที่ หอเหมยฟ้า แท้จริงคือ หอรักเร้นสวาท ที่มีไว้เพื่อลงทัณฑ์หญิงสาวด้วยความซาบซ่านวาบหวามอารมณ์จื่อรั่วเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องโถงใหญ่ภายในจวนอันกว้างขวางของแม่ทัพ หลีเหว่ย เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในนั้นนางจึงรีบกวักมือหญิงสาวร่างเล็กบอบบางในชุดสาวชาวบ้านเข้ามา“หยู่เยียน...เจ้ามัวยืนรออันใดอยู่เล่า รีบเข้ามานี่เถิด วันนี้ทางสะดวก มิเห็นมีผู้ใดในจวนของแม่ทัพใหญ่เลยสักคน แบบนี้ข้าจะได้คุยกับท่านแม่ทัพได้สะดวกหน่อย”“ท่านป้า...นี่หรือคือจวนของท่าแม่ทัพ ทำไมมันใหญ่เหมือนวังอย่างนี้ล่ะจ๊ะ”“ข้าจะบอกอะไรให้นะว่าจวนแห่งนี้เป็นหนึ่งในจวนที่ใหญ่มาก สร้างไว้สำหรับแม่ทัพผู้เก่งกาจอย่างหลีเหว่ย ชื่อเสียงของแม่ทัพผู้นี้เป็นที่รู้จั