โกดังสินค้า
รถยุโรปคันใหญ่แล่นไปตามทางดินลูกรังของพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง ต้นไม้หนาทึบช่วยพรางสายตาจากบุคคลภายนอกได้เป็นอย่างดี รอบโกดังมีรั้วเหล็กสนิมเกาะล้อมเอาไว้อีกชั้น เมื่อดูจากภายนอกก็ไม่ต่างจากสถานที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง หากแต่ความจริงภายในอัดแน่นไปด้วยสินค้าผิดกฎหมาย
โอนิกซ์เดินทางมาพร้อมกับลูกน้องเพื่อมาประชุมกับกลุ่มเพื่อนตามปกติ ใบหน้าเฉยชาสวมแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมนั้นไม่ต่างจากหนุ่มเนิร์ดคงแก่เรียน มักมีหนังสือติดมือเสมอ ใครที่พบเขามักจะนึกว่าชายหนุ่มเป็นหมอหรือทนายความ แต่ความจริงเขาคือมาเฟียดีๆ นี่เอง
ภายในโกดังมีลูกน้องหลายคนเดินไปเดินมาขวักไขว่ ตรวจเช็กสินค้าก่อนส่ง โอนิกซ์ซึ่งมีบริษัทโลจิสติกส์เป็นของตัวเอง จึงสามารถแอบลักลอบส่งสินค้าพวกนี้ไปกับเรือได้สบาย
ชั้นใต้ดินของโกดังเป็นทางเดินคดเคี้ยว แยกย่อยหลายทิศทาง ชวนให้สับสน แต่คนที่คุ้นเคยเส้นทางดีอย่างเขาสามารถหลับตาเดินมาจนถึงห้องประชุมกว้างได้สบาย
"ไง มาเร็วตลอดเลยมึง" วิคเตอร์นั่งเอกเขนกอยู่กลางโซฟาเพียงลำพัง พร้อมจิบกระป๋องเบียร์ในมือไปด้วยเอ่ยทัก ก่อนจะโยนกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบอีกอันมาทางเขา
"..."
โอนิกซ์รับไว้อย่างแม่นยำ เปิดกระป๋องเครื่องดื่มในมือยกขึ้นจิบเล็กน้อย ทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามเพื่อนสนิท
ภายในห้องอัดแน่นด้วยโซฟายาวหลายตัวตั้งล้อมโต๊ะเตี้ย ไร้การประดับตกใดๆ ทุกอย่างเน้นการใช้งานจริง มุมห้องมีตู้เก็บเอกสารเก่าๆ และยังมีตู้เย็นขนาดเล็ก อัดแน่นด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนเต็ม มุมอีกด้านมีโต๊ะทำงานไม้ตัวหนา แต่กลับไม่เคยมีใครไปใช้
"มึงสามารถส่งของไปฮ่องกงได้ไหม กูกำลังดีลกับลูกค้าใหม่อยู่" วิคเตอร์ถามขึ้นมา
"สบาย มารับที่ท่าเอง"
"จะไม่โดนสุ่มตรวจ?"
"ไม่อะ ไม่กล้าตรวจตู้กูหรอก" ร่างสูงไหวไหล่เบาๆ เขามีเส้นสายอยู่ทั่ว และจัดการยัดเงินใต้โต๊ะไปจำนวนมาก แค่นี้พวกเจ้าหน้าที่โลภมากก็พร้อมจะหลับหูหลับตาไม่สนใจเรื่องของเขาแล้ว
"หึ" วิคเตอร์แค่นหัวเราะ กระดกเบียร์อึกใหญ่อย่างสบายอารมณ์
เมื่อยังไม่มีใครมา โอนิกซ์จึงเปิดหนังสือที่หยิบติดมือมาอ่านเล่นฆ่าเวลา ด้วยไอคิวที่มากถึง 160 ทำให้เขาชอบศึกษาอะไรใหม่ๆ เสมอ เขาชอบตัวเลข เทคโนโลยี และตอนนี้กำลังสนใจการเขียนโค้ด แฮ็กระบบ และพัฒนาโปรแกรม
เขาจบมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 16 แต่พ่อแม่ชายหนุ่มอยากจะให้เขามีชีวิตวัยรุ่นเหมือนเด็กทั่วๆ ไป จึงส่งโอนิกซ์กลับมาเรียนระดับมัธยมอีกครั้งเพื่อเข้าสังคม ทำให้ได้เจอวิคเตอร์ตอนช่วงมอปลาย ระหว่างนั้นเขาก็ต่อปริญญาโทอีกใบควบคู่ไปกับการเรียนในระดับมัธยม
โอนิกซ์ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกาอีกใบ หลังจากจบมาก็ยังติดต่อกับวิคเตอร์มาตลอด เพื่อนสนิทแนะนำให้เขาได้รู้จักลีออน และไคโร เมื่อเริ่มสนิทกันมากขึ้น ทั้งหมดเลยตัดสินใจทำธุรกิจมืดร่วมกัน
ไม่นานใบหน้าร่าเริงสดใสของลีออนก็โผล่มาพร้อมลูกน้องคนสนิท และปิดท้ายด้วยไคโร การประชุมจึงเริ่มขึ้น
"กูได้ข่าวมาว่าพวกไอ้อาชามันเริ่มสนใจอยากเข้าธุรกิจนี้" วิคเตอร์เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ หลังจากลีออนอวดสรรพคุณอาวุธชนิดใหม่เสร็จแล้ว
"เฮอะ! นอกจากค้าอวัยวะแล้ว ยังอยากมาทำอาวุธอีกเหรอ" ลีออนพ่นลมขึ้นจมูก หันกลับไปถาม
"ช่วงนี้ส่งของต้องระวังกันหน่อย"
"ถ้ามันกล้ายุ่ง ก็เก็บให้เรียบ" ไคโรเอ่ยเสียงเย็นแววตาวาวโรจน์
"หึๆ" ลีออนแค่นหัวเราะ แสยะยิ้มถูกใจกับคำพูดเพื่อนรัก
"..."
"เรื่องกลุ่มไอ้อาชา...เดี๋ยวกูลองตามสืบดู" โอนิกซ์ที่นั่งเงียบฟังอยู่นานเอ่ยขึ้น รู้สึกไม่ค่อยไว้วางใจ พอจะเคยได้ยินเรื่องอีกฝ่ายอยู่บ้าง ถึงความเจ้าเล่ห์ กัดไม่ปล่อย หากไม่เตรียมรับมือ คาดว่าคงมีเรื่องหน้าปวดหัวตามมาในอนาคตแน่นอน
เขาเคยเจออาชาตามงานสังคมหรือการประชุม พ่อของอาชาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขควบตำแหน่ง ผอ.โรงพยาบาลใหญ่ ใครจะคิดว่าเบื้องหลังนายแพทย์ท่าทางเคร่งขรึมทำงานเพื่อสังคมจะมีลูกชายค้าอวัยวะเถื่อน
"นึกขยันอะไรขึ้นมาว่ะ" ลีออนเอียงคอมองอย่างสงสัย
"...แค่มีเรื่องสงสัย" ใบหน้าหล่อเหล่าเย็นชาภายใต้กรอบแว่น เอ่ยเพียงแค่นั้น ก่อนจะจมดิ่งกับความคิดของตัวเองอีกครั้ง ปล่อยให้กลุ่มเพื่อนพูดคุยหลอกล้อกันต่อ
"ไอ้ไทเปจะกลับมาเมื่อไร" น้ำเสียงเรียบถาม 'ตะวัน' ลูกน้องคนสนิทอีกคนของเขาขณะนั่งรถกลับเพ้นต์เฮ้าส์ส่วนตัว
"น่าจะอีก 2-3 วันครับ"
"..."
ร่างสูงเงียบไปอีกครั้ง เหม่อมองไปยังนอกหน้าต่างรถ ตะวันที่รับหน้าที่ขับรถลอบสังเกตสีหน้าของเจ้านาย
"นายมีเรื่องอะไรให้ผมไปจัดการให้ก่อนไหมครับ"
"..."
รถตกอยู่ภายใต้ความเงียบอีกครั้ง แม้ตะวันจะทำงานกับโอนิกซ์มานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยชินกับความเงียบขรึมของอีกฝ่ายเท่าไร ในขณะที่คิดว่ามาเฟียหนุ่มคงรอให้ไทเปเพื่อนร่วมงานกลับมาจัดการ เจ้านายก็เอ่ยปากขึ้นมาเสียก่อน
"งั้นมึงไปสืบเรื่องไอ้อาชาให้กูหน่อย กูอยากรู้ช่วงนี้มันทำอะไรบ้าง"
"ได้ครับ"
ไม่นานรถคันหรูก็แล่นมาถึงอาคารสูง 9 ชั้นใจกลางกรุงเทพ ซึ่งเป็นที่พักของโอนิกซ์ ชายหนุ่มรักความเป็นส่วนตัว จึงซื้อเหมาทั้งตึกและปรับเปลี่ยนให้เป็นที่พักสำหรับลูกน้องด้วย โดยชั้นบนสุดของอาคารตีทะลุทั้งชั้นและทำเป็นเพนต์เฮ้าส์ส่วนตัว อัดแน่นไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีมากมาย
ห้องพักลูกน้องก็ถูกจัดสรรไว้ลงตัว มีสระว่ายน้ำส่วนกลาง ห้องออกกำลังกาย ห้องซ้อมยิงปืน ห้องอาหาร มุมพักผ่อน ลูกน้องทุกคนต้องทำงานบนความเสี่ยงทำให้เจ้านายหนุ่มทุ่มสวัสดิการเต็มที่ จนทุกคนจงรักภักดีทุ่มเทยอมทำงานถวายหัวให้เขา
โอนิกซ์เดินเข้าสู่ที่พัก ลูกน้องต่างโค้งศีรษะทำความเคารพ เขาพยักหน้ารับเล็กน้อย ใบหน้ายังคงเฉยชาเช่นทุกวัน ร่างสูงสแกนนิ้วมือและกดรหัสที่ลิฟต์ ก่อนมันจะเคลื่อนตัวสู่ชั้นบนสุด
ภายในห้องพักส่วนตัวกว้างขวาง โปร่งโล่ง ด้านหนึ่งเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ตกแต่งโทนสีเข้ม ถัดไปมีโต๊ะกินข้าวขนาด 8 ที่นั่ง อีกด้านเป็นห้องนั่งเล่นกว้าง แม้จะไม่มีผนังกั้น แต่ก็จัดไว้เป็นสัดส่วน โทรทัศน์จอแบนขนาด 88 นิ้ว ติดผนังพร้อมระบบเครื่องเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง โซฟาหนังสีเข้มตัวใหญ่ล้อมโต๊ะเตี้ยเป็นตัวยู ด้านหลังเป็นห้องย่อยๆ ไปอีก ทั้งห้องฟิตเนสส่วนตัว ห้องเก็บหนังสือ ห้องซักรีดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด ห้องน้ำ ที่มุมสุดเป็นประตูสีดำสนิทดูแน่นหนาทนทาน ก่อนจะเข้าไปได้ต้องสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งเขาเป็นคนเดียวที่มีสิทธิ์เข้าห้องนี้
ผนังด้านหนึ่งของห้องพักเป็นกระจกสูงจรดเพดาน สามารถมองเห็นสระว่ายน้ำตรงระเบียงได้ถนัดตา ใกล้กันนั้นมีบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งเป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ ห้องนอนแขก 2 ห้อง และห้องทำงาน เรียกได้ว่าเพนต์เฮ้าส์นี้เต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันจนชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องออกไปไหนเลย
แม้เพนต์เฮ้าส์จะกว้างขวางแต่กลับเงียบเชียบเมื่อมีผู้อาศัยเพียงคนเดียว โอนิกซ์โยนแว่นตาทิ้งไว้บนโซฟา เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาอย่างร้ายกาจเนียนใสไร้ริ้วรอย คิ้วหนาเฉียงขึ้นเล็กน้อย ดวงตาอินทรีย์ดูดุดันจริงจัง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนารูปกระจับสีเข้มตามประสาคนสูบบุหรี่ เขาปลดกระดุมเสื้อออก 2-3 เม็ด และกระดุมข้อมือเพื่อให้คล่องตัว ท่อนขากำยำก้าวไปยังประตูสีดำ ใช้นิ้วโป้งแตะที่แผงวงจรเพื่อสแกนลายนิ้วมือ
ติ๊ด ติ๊ด~
เสียงปลดล็อกดังขึ้นก่อนที่จะเขาผลักประตูเข้าไป ด้านในห้องลับมืดสนิท มีเพียงแสงสีเขียวจุดเดียวสว่างโดดเด่นในความมืด เมื่อปุ่มนั้นถูกกด คอมพิวเตอร์สั่งประกอบราคาหลักล้านก็สว่างวาบ เสียงระบบเริ่มทำงาน ทำให้หน้าจอขนาดใหญ่ทั้ง 3 ติดขึ้นมาตามลำดับ
ห้องดังกล่าวคือห้องคอมที่โอนิกซ์มักจะหมกตัวอยู่ในนั้นทั้งวันนั่นเอง ข้อมูลความลับทุกอย่างถูกเก็บเอาไว้ในห้องนี้ ด้วยระบบที่เขาพัฒนาขึ้นเองทำให้ยากต่อการโจรกรรม
หลังจากกรอกรหัสผ่าน ร่างสูงก็เอนกายพิงเก้าอี้นุ่มไล่มองภาพกล้องวงจรปิดที่เขาติดไว้ทั่ว ทั้งที่เพนต์เฮ้าส์ โกดังสินค้า อาคารสำนักงาน ท่าเรือทั่วประเทศ กล้องนั้นเขาก็ทำการดัดแปลงและพัฒนาขึ้นมาใหม่ ให้มีขนาดเล็กมาก แต่ทนทาน บันทึกภาพและเสียงได้คมชัด ทั้งกลางวันกลางคืน
เขาทำการแอบติดไว้เงียบๆ โดยที่ไม่ได้แจ้งให้ใครรู้ เพื่อแอบตรวจสอบการทำงานของเหล่าพนักงานและลูกน้อง หากมีใครคิดทรยศหักหลังหรือจะแอบลักลอบทำอะไร เขาจะได้ลงมือจัดการทันที
โอนิกซ์กดไล่ภาพไปเรื่อยๆ ดูความเรียบร้อยแต่ละสถานที่ ก่อนที่จะไปหยุดชะงักอยู่ที่จอด้านหน้าห้องทำงานของเขา ร่างสูงกดขยายภาพนั้นขึ้นมา เหลือบมองเวลาบนหน้าจอ สายตาคมอ่อนลงเมื่อเห็นเลขาสาวของตนเองยังนั่งจมกองเอกสาร แม้จะล่วงเลยเวลาเลิกงานนานแล้ว
ร่างเล็กในชุดล้าสมัยคลุมทับด้วยเสื้อกันหนาวลายดอกไม้น่าเกลียด เส้นผมหยิกฟูสีน้ำตาลเข้มและแว่นหนาทำให้เขาแทบไม่เคยเห็นใบหน้าเธอชัดๆ เธอเปิดไล่แฟ้มเอกสารทีละเล่ม พลางจดรายละเอียดใส่สมุดบันทึก
มาเฟียหนุ่มเผยยิ้มมุมปากออกมา กดซูมเข้าไปบนโต๊ะทำงานของเธอ เพื่อมองของขวัญที่เธอเลือกให้ถนัดตา
เขาอุตส่าห์ให้เธอเลือกรางวัลสำหรับความทุ่มเทในการทำงานตลอด 4 ปีเอง สุดท้ายเธอกลับซื้อเพียงสมุดบันทึกโง่ๆ สีน้ำตาลเล่มเดียว ราคาเพียง 249 บาท
ร่างใหญ่เหยียดกายในท่าทางสบายๆ เฝ้ามองหญิงสาวทำงานอย่างเพลิดเพลินโดยไม่รู้ตัวเกือบชั่วโมง จนกระทั่งเวลาผ่านไปสักพักใหญ่เกือบจะ 3 ทุ่ม หญิงสาวจึงเปลี่ยนอิริยาบถ ยืดตัวบิดกายขับไล่ความเมื่อยล้า เธอลงมือเก็บของใช้ส่วนตัวลงกระเป๋าย่ามราคาถูก หยิบแฟ้ม 2-3 อันติดมือไปด้วย
ร่างสูงไล่เปิดภาพสลับไปเรื่อยๆ ตั้งแต่หน้าห้องทำงาน จนเธอเดินออกไปนอกตัวตึก และกลืนหายไปกับฝูงชนที่เดินขวักไขว่ด้านนอก
โอนิกซ์เริ่มรู้สึกตัวว่าเผลอทำอะไรไร้สาระลงไป อย่างการนั่งมองเลขาสาวทำงาน เขาสะบัดศีรษะเรียกสติตัวเอง และเริ่มลงมือเปิดโปรแกรมที่ทำค้างไว้ขึ้นมา
นิ้วเรียวรัวกดแป้นคีย์บอร์ดด้วยภาษาที่คนทั่วไปไม่อาจเข้าใจอย่างรวดเร็ว ราวกับมันเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย โค้ดมากมายถูกกรอกลงไปในเครื่องคอมสเปกแรง โอนิกซ์จมดิ่งจดจ่อกับการเขียนโค้ดอยู่นาน แต่โปรแกรมที่เขาพัฒนาก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเท่าไร เวลาล่วงเลยจนเกือบ ตี 2 ชายหนุ่มจึงตัดสินใจหยุดพัก เซฟข้อมูล เปิดหน้าจอทิ้งไว้แบบเดิม ก่อนจะเดินหายขึ้นห้องนอนส่วนตัวไป
วันเสาร์คอนโดแพรวาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในช่วงสายๆ วันหยุดทั้งทีจึงขอนอนให้เต็มที่หน่อย เธอลุกขึ้นนั่งบิดกายอย่างเกียจคร้าน ผมยาวสลวยสีแดงยุ่งฟูเล็กน้อย ใบหน้ากระจ่างใสเซ็กซี่ชวนมองยังคงง่วงงุน เธอขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะลุกออกจากเตียงหญิงสาวสวมเพียงเสื้อเชิ้ตผ้าแพรเย็นสบายสีม่วง ช่วงล่างมีเพียงแพนตี้สีขาวโอบอุ้มสะโพกกลมมน แพรวาเดินเข้าครัวชงกาแฟและทอดไข่ดาวแฮมไส้กรอกง่ายๆ ทุกครั้งที่ขยับตัว ก้มๆ เงยๆ กางเกงในสีสะอาดมักโผล่วับๆ แวมๆ เย้ายวนสายตา โชคดีที่เธออยู่เพียงลำพังหลังจากไข่สุกได้ที่ก็ตักใส่จาน เธอยกจานมานั่งขัดสมาธิบนโซฟากลางห้องนั่งเล่น หยิบมือถือไล่เปิดอ่านอัปเดตข่าวสารพลางใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกเข้าปากครืด ครืด ครืดขณะนั้นเองโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้น ปรากฏชื่อเพื่อนสาวสมัยมหาวิทยาลัยขึ้นบนหน้าจอ"ว่าไงแก"(ฮายยยเพื่อน ไม่ได้คุยกันนานมาก เป็นไงบ้าง) เจเปนหญิงสาวรูปร่างอวบอั๋นเย้ายวนส่งเสียงร้องทักมาตามสาย"ก็เรื่อยๆ เหมือนเดิม แกล่ะ"(แทบตายค่ะ งานบริษัทฉันนรกมาก!)แพรวาขำออกมากับคำพูดของเพื่อนสนิท แม้จะทุกคนจะแยกย้ายกันไปดำเนินชีวิตของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกัน
วันจันทร์บริษัท JRV LOGISTICSแพรวามาทำงานตามปกติ พนักงานหลายคนมองผ่านเธอราวกับอากาศธาตุเช่นเดิม ช่างแตกต่างจากเมื่อวันเสาร์ตอนเธอไปเดินห้างเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เพราะข้อดีของการเป็นยัยเฉิ่มคือไม่โดนถูกจับจ้องเพ่งเล็ง และนำเธอไปเป็นหัวข้อนินทาว่าร้ายลับหลังเธอลุกไปชงกาแฟให้ประธานหนุ่มเช่นเดียวกับทุกวัน ยืนกลั้นใจอยู่หน้าห้องทำงานอยู่นาน แอบกังวลเล็กน้อยกลัวเขาจะจำได้ ว่าเลขาจืดชืดจะเป็นคนเดียวกับสาวสวยสุดเปรี้ยวที่เขาเดินชนวันก่อนก๊อก ก๊อก ก๊อก"เชิญ"ร่างเล็กก้มหน้างุด หอบเอกสารในวงแขน มืออีกข้างถือถ้วยกาแฟร้อนๆ เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของเจ้านายไปด้วย ขณะที่เขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าหล่อเหลายังคงเรียบนิ่งทำใจดวงน้อยเริ่มสงบลง"กาแฟค่ะ""อืม"เขาตอบรับเรียบๆ หมุนเก้าอี้กลับมาประจำที่ เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีเรื่องจะพูด เธอจึงแจ้งตารางงานวันนี้ให้เขาฟังโอนิกซ์หลับตาลงช้าๆ ราวกับไม่สนใจ ปล่อยให้เสียงหวานให้พูดต่อไปโดยไม่ขัด"วันนี้ช่วงเช้าประธานมีแค่เซ็นเอกสาร อาหารกลางวันวาเตรียมเป็นเซ็ตซูชิหน้ารวมให้ ส่วนในช่วงบ่าย บ่าย 2 โมง บริษัท BBK Rubber ขอเข้าพบเพื
หลายวันต่อมาพื้นที่รกร้างห่างไกลผู้คนช่วงกลางดึกเงียบสงัด ชายฉกรรจ์เกือบ 30 คน ยืนกระจายทั่วบริเวณเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติ ในขณะที่คนอีกส่วนใช้ชะแลงงัดลังไม้ หยิบอาวุธด้านในส่งให้อีกฝ่ายตรวจเช็กหัวหน้ากลุ่มพยักหน้าพึงพอใจ ส่งสายตาให้ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังขนถ่ายสินค้าขึ้นท้ายรถบรรทุกทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น ก่อนที่เสียงปืนหลายนัดจะดังขึ้นปัง ปัง ปัง!คนทั้งสองกลุ่มรีบล้วงอาวุธปืนเงาวับขึ้นมาเตรียมความพร้อม พยายามยิงตอบโต้ผู้ไม่หวังดี"เฮ้ย! คุมกันของขึ้นรถ!""ฉิบหาย ใครว่ะ! พวกมึงยิงสกัดไว้"เสียงปืนดังขึ้นตามมาอีกหลายนัด ทั้ง 2 ฝ่ายยิงปะทะกันอยู่นาน ต่างพยายามหลบหลังรถเพื่อกำบังกาย พลางยิงตอบโต้อีกฝ่ายไปบ้าง ชายฉกรรจ์สวมไอ้โม่งคลุมปิดบังทั่วใบหน้าจู่ๆ ก็เข้ามาปิดล้อมการซื้อขาย การแต่งกายเช่นนี้ไม่ใช่ตำรวจแน่นอน"อ๊ากกก!""แม่งเอ๊ย! หมายความว่ายังไงแบบนี้ เจ้านายกูต้องไม่พอใจแน่" หัวหน้ากลุ่มหันมาตะคอกถามลูกน้องของกลุ่มมาเฟียเสียงดัง บ่งบอกถึงความโมโห"ผมก็ไม่ทราบ ยังไงรีบขนของก่อน ทางนี้พวกผมจัดการให้""ฮึ่ย!"ร่างกำยำสบถคำหยาบออกมาอีกหลายคำ กำอาวุธในมือแน่น โบกมือโบ
วันต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSแพรวามาทำงานตามปกติ ตระเตรียมเอกสารการประชุมและแฟ้มงานมากมายให้ประธานหนุ่ม วันนี้ก็เป็นอีกวันที่วุ่นวาย ปัญหาภายในเล็กน้อยยิบย่อยมากมายคอยให้หญิงสาวไปจัดการเสียงฝีเท้ากระทบพื้นหินอ่อนทำให้เลขาสาวเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร เธอส่งยิ้มให้ผู้มาใหม่อย่างเป็นมิตร"สวัสดีค่ะคุณไทเป ไม่เจอกันนานเลย" เธอเอ่ยทักทายคนสนิทของเจ้านาย การที่ทำงานกับโอนิกซ์หลายปี ทำให้มีโอกาสพบเจอลูกน้องของเขาหลายครั้ง"ครับ ตอนนี้นายว่างอยู่หรือเปล่า""คุณโอนิกซ์ไม่มีแขกค่ะ น่าจะเซ็นเอกสารอยู่"ไทเปพยักหน้าให้เลขาสาว ไม่ได้สนใจการแต่งกายแปลกประหลาดล้าสมัยของเธอ แพรวาเตรียมจะลุกเคาะประตูแจ้งเจ้านายให้ก่อน แต่ชายหนุ่มก็ส่ายหน้าทำให้เธอนั่งลงตามเดิมก๊อก ก๊อก"ไทเปครับ""อืม เข้ามา" เสียงทุ้มตอบกลับ"คุณไทเปรับกาแฟหรือของว่างไหมคะ""ไม่ครับ ขอตัวก่อน"ว่าจบชายหนุ่มก็ผลักประตูห้องทำงานใหญ่เข้าไป แพรวาจึงกลับมาสนใจกับกองเอกสารต่อ"ได้อะไรไหม" โอนิกซ์เอนกายพิงพนักเก้าอี้เอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อพบหน้าคนสนิท"เท่าที่ผมตรวจสอบดู ยังไม่พบความผิดปกติของลูกน้องเราคนไหนนะคร
ร่างไร้สติของหญิงสาวถูกยัดใส่เบาะหลังรถ โดยมีชายหนุ่มก้าวขึ้นมานั่งด้านข้าง ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดเหลือบมองคนข้างตัวด้วยแววตาหลากหลายความรู้สึกศีรษะที่ถูกคลุมเอาไว้เอนซบไหล่หนาโดยไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดส่งผลให้กลิ่นกายหอมหวานคุ้นเคยของเธอ ลอยมากระทบจมูกโอนิกซ์อีกครั้งเขาพ่นลมหายใจออกมา เบือนหันหน้าหนี เพื่อหวังว่าจะไม่ต้องได้กลิ่นเย้ายวน แต่กลับไม่ยอมผลักไสเธอออก ปล่อยให้เธอซบต่อไป"แผลเป็นไงบ้างครับ" ไทเปเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบโอนิกซ์ก้มมองหลังมือตนเองที่ถูกหญิงสาวข่วนเสียเลือดซิบเป็นทาง เริ่มรู้สึกแสบๆ คันๆ ขึ้นมาบ้าง"ฤทธิ์มากฉิบ""ทำแผลก่อนไหมครับ""ช่างมัน กลับเพนต์เฮ้าส์เลย"ลูกน้องอีกคนพยักหน้ารับ ขับรถตรงกลับที่พักทันทีเพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์"อื้อออ~"หญิงสาวส่งเสียงในลำคอเบาๆ เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา ความเจ็บจี๊ดบริเวณท้ายทอยเป็นสิ่งแรกที่รู้สึก กำลังจะยกมือขึ้นไปจับ แต่ก็ต้องเบิกตาโพลง หัวใจหล่นวูบเมื่อข้อมือถูกเชือกมัดไว้ ไล่ย้อนคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าก็เริ่มสติแตก เมื่อรู้ว่าเธอถูกลักพาตัวมาแพรวาดิ้นให้หลุดไปจากพันธนาการนี้ แต่เชือกนั้นก็มัดเธอเอาไว้แน่นเห
พรึ่บ!ร่างเธอถูกเหวี่ยงลงกับเตียงอย่างแรงราวกับเป็นเพียงสิ่งของ ทำท้องน้อยจุกแปลบจนหน้าเบ้ พยายามหยัดกายขึ้นเตรียมจะวิ่งหนี แต่ร่างหนาของประธานกลับก้าวขึ้นคร่อมเธอเสียก่อน บดเบียดกายร้อนผ่าวแนบชิดร่างเล็กแนบแน่น จนไม่เหลือพื้นที่ให้อากาศแทรกผ่านแพรวาหน้าซีด เริ่มรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อไป แม้จะออกแรงขัดขืนอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่ามันสายเกินไปแล้วเสื้อคลุมสีเบจถูกกระชากออกจากร่าง พยายามจะต่อต้านแล้วแต่ก็ไม่อาจสู้แรงร่างสูงได้ภายในห้องมืดสนิท มีเพียงแสงไฟของอาคารภายนอกฉายเข้ามาผ่านกระจกเท่านั้น โอนิกซ์จัดการรูดเนกไทสีน้ำเงินเข้มที่ต้นคอตัวเองออก คนตัวเล็กพยายามใช้จังหวะนั้นพุ่งตัวหนี แต่ก็ถูกกระชากต้นแขนกลับมานอนดังเดิม"อึก...ขอร้อง...อย่าทำอะไรวาเลย...ฮือ...วาบอกทุกอย่างไปหมดแล้ว"เธอยกมือขึ้นพนมไหว้งกๆ ขอความเห็นใจครั้งสุดท้าย ใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตา แต่คนใจร้ายก็ไม่สนใจ รวบข้อมือบางขึ้นเหนือหัว ก่อนจะใช้เนกไทในมือมัดมันเข้าด้วยกัน แล้วผูกปลายอีกด้านไว้กับหัวเตียงดวงตาสีเข้มใต้กรอบแว่นเย็นเฉียบไร้เมตตา ไล่มองเรือนร่างของเลขาสาวนิ่งๆ แม้เขาจะไม่ได้แสดงท่าทาง
วันต่อมาหญิงสาวสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวัน ทั้งร่างปวดร้าวไปหมดโดยเฉพาะช่วงล่าง เธอหน้าเบ้ย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ก็ต้องหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้ว่าเกิดจากความอายหรือโมโหมากกว่ากันที่ถูกประธานหนุ่มย่ำยีตลอดคืน เธอไม่แน่ใจว่าเขาจากไปตอนไหน แต่ช่วงฟ้าสางเขายังไม่หยุดด้วยซ้ำ!สมเพชและหงุดหงิดตัวเองที่เผลอคล้อยตามไปกับสัมผัสเร่าร้อนนั้น สาบานว่าจะไม่ยอมให้เขาล่วงเกินเธออีกแล้วเรียวแขนเล็กเต็มไปด้วยรอยแดงจากการถูกมัดพยายามหยัดตัวขึ้นมา ร่างกายเธอบอบช้ำไม่ต่างจากถูกรุมโทรม เนื้อตัวเปล่าเปลือย มีเพียงผ้าห่มสีขาวห่อคลุมร่างเอาไว้ ความโกรธแล่นขึ้นมาเป็นริ้วๆ เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรอยหยดเลือดบนผ้าปูเตียงเธอเพิ่งมีโอกาสได้สำรวจห้องเป็นครั้งแรก มันดูเหมือนห้องพักในโรงแรมทั่วไป ขนาดไม่ใหญ่มาก มีเตียงขนาด 6 ฟุตวางอยู่กลางห้อง ด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้าติดกระจกเงา ปลายเตียงมีโทรทัศน์ขนาด 50 นิ้วติดผนัง ส่วนข้างๆ นั้นเป็นประตูที่เธอคิดว่าคงเป็นห้องน้ำใบหน้าสวยเหยเกเมื่อลองขยับตัว ส่วนสงวนเจ็บแปลบขึ้นมาจนต้องชะงักค้าง เธอสูดหายใจเป่าปากกลั้นใจลุกต่อ แต่ความเจ็บปวดก็ตรงเข้าเล่นงานอีก ไม่กล้ามองสภ
บริษัท JRV LOGISTICSการทำงานของบริษัทใหญ่แทบจะเรียกได้ว่าหยุดชะงัก เมื่อขาดเลขาคนเก่งอย่างแพรวา หลังจากโอนิกซ์ประกาศว่าหญิงสาวลาพักร้อนชั่วคราวทุกคนก็หน้าซีด เอกสารมากมายถูกประธานตีกลับหมดเมื่อเขาพบความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อย รังสีอันตรายบ่งบอกถึงพื้นอารมณ์ที่ไม่ปกติ ทำให้ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าขึ้นไปส่งงานที่ชั้นบนอีกเลยตลอดบ่ายห้องทำงานกว้างชั้นบนสุดของอาคาร ใบหน้าของประธานหนุ่มเคร่งเครียดฉายแววหงุดหงิด จนเหล่าพนักงานต่างเข้าหน้ากันไม่ติด กองเอกสารมากมายที่เขาหยิบจากโต๊ะเลขากองเป็นพะเนิน การทำงานโดยไม่มีผู้ช่วยสาวดูเหมือนจะเป็นเรื่องหนักหนากว่าที่คาด ปกติก่อนเอกสารจะถึงมือเขาจะผ่านการคัดกรอง ตรวจสอบมาแล้ว แต่เมื่อไม่มีสิ่งเหล่านั้น คนรักความสมบูรณ์แบบถึงกับกุมขมับ เหลือบมองยอดตัวเลขค่าใช้จ่ายถูกคำนวณผิดความอดทนสุดท้ายขาดผึ่ง เมื่อใบสัญญาสะกดผิดแม้กระทั่งชื่อบริษัทลูกค้า!โอนิกซ์ปิดแฟ้มหนาด้วยอารมณ์เดือดดาล เห็นทีเขาต้องเข้มงวดกับพนักงานให้มากกว่านี้แล้ว ที่ผ่านมาแพรวาเป็นคนคอยเคลียร์ปัญหายิบย่อย ตรวจเช็กความถูกต้องทุกอย่าง ทำให้เขาไม่เคยเห็นถึงความชุ่ยของคนในองค์กร
เพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์โอนิกซ์ส่งยิ้มพลางยื่นนิ้วมือไปหาลูกน้อยในอ้อมแขน ซึ่งอัศวินก็หัวเราะร่าพยายามยื่นมือมาคว้ากำนิ้วบิดาเอาไว้ เขาพยายามบีบๆ คลายๆ อยู่หลายครั้ง และมักจะส่งเสียงโต้ตอบบ้างเวลาผู้เป็นพ่อพูดคุยด้วยแม้จะยังไม่รู้ความก็ตามไม่แปลกใจเลยทำไมเพื่อนเขาถึงอยากพาลูกชายตัวเล็กของตนกลับบ้านไปด้วย อัศวินเลี้ยงง่ายและอารมณ์ดี บางครั้งเขาก็มักจะเพลินกับการหยอกล้อกับลูกจนลืมเวลาไป"เล่นพอยังคะตัวเล็ก หม่ามี๊พาไปอาบน้ำดีกว่า""คิก คิก คิก"อัศวินหัวเราะคิกคักขณะดวงตากลมโตบ้องแบ๊วมองมารดาและยิ้มจนตาหยี"กวนปะป๊านานแล้วนะคะ ไปกัน"โอนิกซ์ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยา ประคองทารกให้หญิงสาวรับไปอุ้มต่อ สายตาอบอุ่นสื่อความหมายสบมองกัน แม้ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขมากในทุกช่วงเวลาแพรวาอุ้มอัศวินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ส่วนโอนิกซ์ก็หยิบโน้ตบุ๊กมานั่งเคลียร์งานที่คั่งค้างต่ออีกนิดหน่อยมุมปากหยักยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังแววออกมาจากห้องน้ำ จนอดใจไม่ไหวต้องวางโน้ตบุ๊กบนตักลงแล้วเดินไปดูสองแม่ลูกแทนแพรวานำอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กมาตั้งไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน
3 เดือนต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSประธานหนุ่มเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ ก้มอ่านเอกสารร่างสัญญาฉบับใหม่ มือขวาควงปากกา มือซ้ายก็ประคองร่างของลูกชายตัวเล็กโยกกล่อมให้หลับภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก ทั้งเปลที่นอน และคอกกั้นบุนวมอย่างดี พร้อมตุ๊กตาของเล่นขนาดต่างๆ จนไม่เหลือคราบห้องของประธานบริษัทแม้แต่น้อยแพรวาเปิดประตูเข้ามา หลังจากคลอดลูกน้อยรูปร่างเธอก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แทบจะดูไม่ออกว่าเคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อนใบหน้าสวยดูเปล่งประกายความงามชัดเจน ผิวขาวเนียนตัดกับเส้นผมสีดำสนิทยาวจรดแผ่นหลัง เธอสวมชุดเสื้อสูทสีครีมคู่กับกระโปรงเอวสูงสีเดียวกัน ราศีภรรยาประธานบริษัทจับทุกระเบียบนิ้วมุมปากที่ทาทับด้วยลิปสติกสีนู้ดยกยิ้มขึ้น จรดฝีเท้าเงียบเชียบไม่ให้รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยโอนิกซ์เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร สายตาใต้กรอบแว่นดูอ่อนโยนเมื่อมองผู้มาใหม่ วางปากกาในมือลง"นี่เอกสารประชุมอาทิตย์หน้าค่ะ""เหนื่อยไหมครับ""นิกซ์ต่างหาก วินดื้อไหมเอ่ย""เล่นเสร็จ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้"สายตาอ่อนโยนมองใบหน้าหลับใหลของลูกชายที่ถอดแบบมาจากเขาแทบจะพิมพ์เดียวกัน ยก
2 เดือนต่อมาโรงพยาบาลแพรวานั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บนเตียงคนไข้ โอนิกซ์ย้ายเธอมาที่โรงพยาบาลได้สองวันแล้วเพื่อรอวันคลอด ตอนนี้แพรวายังไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไร ต่างจากคนเป็นสามีที่ดูตื่นตัวพร้อมทุกสถานการณ์ เขาจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับทารกแรกเกิดไว้พร้อมสรรพ รวมถึงจัดการออกแบบตกแต่งห้องนอนรับแขกเก่าที่แพรวาเคยนอนเป็นห้องเด็กอ่อน แม้ลูกยังต้องนอนห้องเดียวกับพวกเขาอีกหลายปีก็ตามท้องเธอโตเสียแทบเดินไม่ไหว จะลุกจะนั่งต้องมีโอนิกซ์คอยช่วยพยุงวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ห้องพักของเธอครึกครื้น"พี่วาเอาแอปเปิลไหม คลีปอกให้" คลีโอและลีโอหอบกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมว่าที่คุณแม่ตั้งแต่เช้า"ได้จ้ะ ขอบคุณนะ""ค่า เดี๋ยวคลีไปล้างก่อน"คลีโอเดินไปยังส่วนครัวของห้องพักซึ่งไม่ต่างจากโรงแรมดีๆ มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีแยกโซนสำหรับคนไข้และญาติเวลามาเยี่ยมไว้ด้วย ห้องรับแขกก็กว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนจึงไม่รบกวนการพักผ่อนของคนไข้"ปอกเป็นเหรอไง เอามีดมานี่ พี่ทำเอง" ลีโอที่แทบทนดูไม่ไหว ดึงมีดคมออกจากมือแฟนสาว และดันตัวเธอไปข้างๆ ก่อนจะจัดการแอปเปิลสีแดงด้วยตัวเองชายหนุ่มจัดการป
ย่านใจกลางเมืองเหล่ามาเฟียสี่คน ยืนหน้าเครียดมองประตูร้านขนมหวานด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนที่เป็นคนเสนอความคิด"เอาจริงดิ พาพวกกูมาคุยงานในร้านขนมเนี่ยนะ" ลีออนเอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้"แล้วยังไง""ดูหน้าแต่ละคนก่อน แล้วค่อยถามว่ายังไง""มึงก็รู้กูห่างเมียนานไม่ได้ มันปวดหัวอยากจะอ้วก ถ้าอยากคุยงานก็คุยที่นี่" โอนิกซ์ตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะจูงมือภรรยาสาวที่ท้องโตเข้าไปในร้านเป็นคนแรก"แน่ใจเหรอวะ" ลีออนหันมาขอความเห็นจากเพื่อนที่เหลือ ซึ่งวิคเตอร์ก็ทำได้เพียงถอนหายใจ ส่วนไคโรและลีโอก็ส่ายหน้าไม่ได้ตอบคำถาม และพาแฟนตัวเองเข้าไปในร้านด้วยเช่นกัน"เชี่ย พวกกูสองคนมาทำห่าอะไรเนี่ย นึกว่านัดเดทคู่""กูยอมให้มึงควงได้วันหนึ่ง แต่ถ้าเริ่มลวนลามกูเมื่อไร กูถีบมึงแน่""ถุย! กูเนี่ยนะ จะลวนลามมึง พูดจาน่าถูกกระสุนฝังหัวจริงๆ""หึ"วิคเตอร์ทำเพียงแค่แค่นหัวเราะ และเดินตามคนอื่นเข้าไปในร้าน สุดท้ายเพื่อนผู้เรื่องมากก็หมดข้อโต้แย้ง ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมตามเข้ามาโอนิกซ์แยกโต๊ะระหว่างกลุ่มสาวๆ ในนั่งริมหน้าต่างร้าน ส่วนกลุ่มเขาแยกมาอีกโต๊ะก่อ
คฤหาสน์ตระกูลโอนิกซ์แพรวาคลี่ยิ้มละลายใจ ขณะผลักร่างสูงของผู้เป็นสามีลงบนเตียงกว้างในห้องนอนของเขา โอนิกซ์หอบหายใจเข้าออกหนักหน่วงด้วยความตื่นเต้น เฝ้ามองหญิงสาวค่อยๆ คลานขึ้นมาคร่อมร่างด้วยท่าทางยั่วเย้าชวนคลั่งคอเสื้อเว้าลงมา จนสามารถมองเห็นเนื้อนุ่มคู่สวยใต้ชุดเดรสน้ำเงิน ความกระสันทำช่วงล่างปวดหนึบ ดุนดันเป้ากางเกงขึ้นเป็นลำคนตัวเล็กยกยิ้มอย่างคนมีอำนาจเหนือกว่า มือน้อยลูบไล้ลำกายแข็งขืนผ่านกางเกง เฝ้ามองคนข้างใต้พยายามบดเบียดช่วงล่างเข้าหามือเธอ"จะให้รางวัลอะไรนิกซ์ครับ" เขาถามเสียงกระเส่า ความรู้สึกตื่นตัววูบหวิวทรมานเหมือนตนกำลังโดนทำโทษมากกว่า"รอดูสิคะ ใจร้อนจัง""อ่า เมียขี้ยั่วจัง"มือซุกซนเริ่มทำการปลดตะขอกางเกงพร้อมดึงมันลง โอนิกซ์ก็ยกสะโพกช่วยให้เธอจัดการกับกางเกงเกะกะโดยง่าย ท่อนเอ็นร้อนแข็งแทบชี้หน้า แต่ก็ยังมี บ็อกเซอร์อีกตัวปกปิดเอาไว้แพรวานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขา ใช้มือสัมผัสความใหญ่โตผ่านเนื้อผ้าอย่างยั่วยวนใจเย็น แต่คนที่นอนหอบหายใจกลับจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียเอง รูดชั้นในลง โยนทิ้งออกไปในที่สุดท่อนเอ็นใหญ่ขนาดเท่าข้อมือหญิงสาวปรากฏสู่สาย
หลังมื้ออาหารจบลง งานประมูลสินค้าเพื่อร่วมบริจาคเงินให้แก่เด็กด้อยโอกาสจึงเริ่มขึ้น แขกที่มาร่วมงานทยอยเดินไปยังโซนหน้าเวทีโอนิกซ์โอบเอวภรรยาคนสวยไว้ตลอดทาง ระมัดระวังทุกย่างก้าวจนเธอนั่งลงข้างไปรยาเรียบร้อย เขาจึงนั่งขนาบข้าง ไม่นานไฟในห้องจัดเลี้ยงก็ถูกหรี่ลง พร้อมเสียงพิธีกรดำเนินงานดังขึ้น"สวัสดีครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลเพื่อการกุศลครั้งที่ 4 รายได้จากการประมูลทั้งหมด หลักหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสยังพื้นที่ห่างไกล ของที่นำมาร่วมประมูลในวันนี้มีมูลค่ารวมกันเกือบ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับงานในครั้งนี้นะครับ"แขกที่มาร่วมงานต่างปรบมือเสียงดัง ตื่นเต้นที่จะได้ชมของล้ำค่ามากมาย และยังได้โอกาสอวดบารมีและเงินในบัญชีให้คนอื่นรับรู้ด้วย"ของชิ้นแรก เปิดกันมาด้วยแจกันเครื่องลายครามจากราชวงศ์ชิง ของประเทศจีนโบราณ พร้อมใบรับประกัน ขอเปิดการประมูลที่ หนึ่งล้านบาทครับ"เมื่อพิธีกรให้สัญญา ผู้ร่วมงานก็ชูป้ายขานราคากันอย่างสนุกสนาน แพรวาตกใจกับราคาที่สูงลิ่วของของแต่ละอย่าง ความคิดที่อยากจะร่วมงานเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยต้องถูกหยุดไว้ชั่วคร
ครืด ครืด ครืดโอนิกซ์ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมา ก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นชื่อมารดาปรากฏที่หน้าจอ ก่อนจะต้องกดรับสายอย่างไม่มีทางเลือก(ลูก วันนี้อย่าลืมมางานเลี้ยงการกุศลที่โรงแรม คาเรน ฮิลล์ นะ)"ผมบอกตอนไหนว่าจะไปครับ"(ไม่ต้องบอก เพราะแม่ไม่ให้ทางเลือกจ๊ะ)"วาเขาเหนื่อย แม่ยังจะให้ลูกสะใภ้ไปเดินร่อนในงานอีกเหรอครับ"(หนูวาโอเค เธอรับปากแม่เมื่อวานเรียบร้อยจ้า แต่งตัวมาหล่อๆ สวยๆ แล้วเจอกัน 1 ทุ่ม รักลูกจ้า)"เดี๋ยว! แม่ครับ"โอนิกซ์ร้องเรียกมารดาเสียงดัง แต่คุณหญิงไปรยาก็ไม่อยู่รอฟังคำบ่นจากปากลูกชาย กดวางสายไปเสียก่อน โอนิกซ์จึงทำได้เพียงถอนหายใจ"วาไปรับปากแม่เหรอ ว่าจะไปงานเลี้ยงอะไรนั่น""ค่ะ คุณแม่โทรหาเมื่อวาน อยากให้เราสองคนไปร่วมงานด้วย""เฮ้อออ~ วาน่าจะปฏิเสธไป งานพวกนี้น่าเบื่อจะตาย ทำวาเหนื่อยเปล่าๆ""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณแม่บอกเป็นงานประมูลเพื่อนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้เด็กด้อยโอกาส เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ถ้าวาช่วยได้ก็อยากจะช่วย" หญิงสาวอธิบายเพิ่มทำให้ผู้เป็นสามีหมดทางแย้งดูเหมือนมารดาจะจับทางถูก เข้าหาแพรวาก่อนเพื่อมัดมือชกให้เขาเข้าร่วมงานไปด้วย"เอาเถอะ
หลายวันต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSภาพประธานหนุ่มแสนหล่อเหลาโอบประคองเอวบางของสาวสวยผมดำประบ่าเดินเคียงคู่กันเข้ามาในบริษัท สร้างความแตกตื่นให้กับเหล่าพนักงานเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพยายามแย่งกันชะโงกดูใบหน้าหญิงสาวผู้โชคดีว่าเธอคือใครโอนิกซ์ไม่ได้เข้าบริษัทมาหลายเดือน แต่เมื่อกลับมาอีกทีก็พกสาวสวยมาด้วย จึงเป็นที่สนใจใคร่รู้ของพนักงานทุกคน"ใครอ่าแก สวยจังเลย""แฟนประธานหรือเปล่า ใช่คนเดียวกับที่มีคนเคยไปเจอไหม""ฉันว่าฉันคุ้นๆ หน้าผู้หญิงนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน ใช่ดารา นางแบบหรือเปล่า""แกดูที่เขามองกันสิ ขนาดยืนอยู่ตรงนี้ยังเห็นประกายความรักเลย""เฮอะ จะอยู่ได้นานแค่ไหน คนก่อนก็โผล่มาแป๊บเดียว ก็หายไปแล้ว""ยัยนี่! ประธานเราไม่ค่อยวุ่นวายกับผู้หญิงก็รู้กันอยู่ ฉันว่าคนนี้จริงจัง"เสียงซุบซิบแสดงความเห็นของกลุ่มพนักงานดังขึ้น หลังจากทั้งคู่ผ่านบริเวณนั้นไปแล้ว แม้จะอยากรู้ใจแทบขาด ว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปถาม ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆ นานาทั้งสองขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนสุดของตึกสำนักงานหรู เพียงออหญิงสาววัยกลางคนลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นสองหนุ
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง ริมฝีปากนุ่มทั้งสองก็พุ่งเข้ามาหากัน ชายหนุ่มรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด บดจูบร้อนแรงใส่เธอไม่หยุดหย่อน แพรวาก็ไม่น้อยหน้า ท่อนแขนเล็กโอบลำคอหนา เผยอริมฝีปากตอบกลับอย่างเร่าร้อนดุเดือดฝ่ามือร้อนไล่ตามแผ่นหลังลงไปบีบขยำสะโพกกลมกลึงของเธอหนักหน่วง พร้อมบดเบียดแก่นกายร้อนผ่าวที่แข็งดุนกางเกงออกมาเป็นลำชิดกายสาวเรียวลิ้นเปียกชื้นกระหวัดเกี่ยวพันสลับบดจูบดูดเม้ม ส่งผลให้น้ำลายสีใสไหลเลอะมุมปาก แต่อารมณ์ปรารถนาที่พุ่งสูงทำให้สองหนุ่มสาวที่ตกอยู่ในห้วงตัณหาไม่ได้ใส่ใจมันสักนิดติ๊ง~เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ยอมแยกจากกัน โอนิกซ์ดึงคนตัวเล็กออกมาโดยที่ริมฝีปากทั้งคู่ไม่ละห่างกันแม้เพียงเสี้ยววิมือน้อยสอดเข้าไปขยุ้มกลุ่มเส้นผมดกหนา แทรกลิ้นเข้าไปโพรงปากคนตัวสูง ดูดดุนปลายลิ้นสาก พลางลากมืออีกข้างสัมผัสกล้ามหน้าอกแกร่งใต้เสื้อเชิ้ตสีเข้มโอนิกซ์เหลือบตามองหมายเลขห้อง โชคดีที่ทั้งชั้นมีเพียงไม่กี่ห้องจึงไม่มีลูกค้าอื่นสัญจรเดินผ่านไปมาขัดจังหวะคนทั้งคู่คีย์การ์ดสีขาวในกระเป๋าเสื้อถูกล้วงออกมา แตะเข้าที่แผงวงจรประตูก็ได