บริษัท JRV LOGISTICS
หญิงสาวในชุดเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวแขนยาวตัวโคร่ง สวมทับอีกชั้นด้วยเสื้อคลุมตัวหนาสีครีม ท่อนล่างเป็นกระโปรงน้ำตาลลายตารางยาวเลยเข่า ทรงผมสีน้ำตาลหยิกฟูไม่เป็นทรงถูกรวบไว้หลวมๆ อีกทั้งแว่นตาที่หนาเตอะกินพื้นที่เกือบครึ่งใบหน้า เธอหอบหิ้วกระเป๋าย่ามและแฟ้มงานเป็นตั้งลงจากรถประจำทาง ก้าวเท้าเข้ามาในบริษัท โลจิสติกส์ขนาดใหญ่ติด 1 ใน 3 ของประเทศด้วยท่าทางทุลักทุกเท
พนักงานหลายคนมองเธอด้วยความขบขัน และอีกหลายคนมองผ่านเธอไปราวกับเป็นอากาศธาตุ มีเพียงลุง รปภ.ที่เดินเข้ามาช่วยเหลือ
"ผมช่วยนะครับคุณแพรวา"
"ขอบคุณมากเลยค่ะลุงวิทย์" เธอส่งยิ้มเกรงใจ แต่ข้าวของในมือที่เยอะเกินไป จึงยอมแบ่งบางส่วนให้อีกฝ่ายช่วยถือ
"วันนี้มาแต่เช้าเลยนะครับ"
"ค่ะ วาต้องรีบมาเคลียร์งานที่เหลือต่อนะคะ"
เมื่อเข้ามาในลิฟต์เธอก็กดที่ชั้นบนสุด แพรวาพูดคุยกับลุงวิทย์ด้วยท่าทางเป็นกันเอง ด้วยความที่ต้องอยู่บริษัทจนค่ำเป็นประจำ หญิงสาวจึงมักจะมีน้ำใจนำขนมติดไม้ติดมือมาฝากบรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสมอ ทำให้พวกเขาค่อนข้างเอ็นดูและคอยช่วยเหลือเธอตลอด
ประตูลิฟต์เปิดออก ก็ปรากฏทางเดินยาวตกแต่งไว้อย่างลงตัว ตามผนังมีรูปภาพติดไว้และมีแจกันดอกไม้แซมตลอดทาง ด้านหนึ่งของชั้นเป็นห้องประชุมใหญ่ ห้องรับรอง และห้องส่วนตัวสำหรับพนักงานอาวุโส ส่วนฟากหนึ่งของชั้นเป็นที่ทำงานของประธานบริษัท 'โอนิกซ์'
"วางไว้บนโต๊ะได้เลยค่ะ"
หญิงสาวว่าพลางวางแฟ้มกองโตในมือไว้บนโต๊ะทำงานเช่นเดียวกัน เธอขยับจัดที่บนโต๊ะอีกครั้งให้เรียบร้อยเป็นระเบียบ ก่อนจะหันกลับไปกล่าวขอบคุณความมีน้ำใจของลุงยาม
"ขอบคุณมากเลยนะคะ ช่วยวาได้เยอะเลย"
"ยินดีครับ วันนี้ก็ตั้งใจทำงานนะครับ"
"เช่นกันค่ะ"
เธอส่งยิ้มหวาน ลุง รปภ.ค้อมศีรษะเล็กน้อย แม้ใครจะมองว่าหญิงสาวตรงหน้าเฉิ่มเชย แต่นิสัยน่ารักจริงใจของเธอกลับทำให้เขาเอ็นดูมากกว่าเหล่าสาวๆ ที่มีดีเพียงภายนอกแต่ภายในดำมืดเสียอีก
โต๊ะทำงานของแพรวาอยู่หน้าห้องทำงานของประธานบริษัท เพราะเธอทำหน้าที่เป็นเลขาให้กับเขา
แพรวาเข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้ตั้งแต่เรียนจบตอนอายุ 21 ปี
ในตำแหน่งพนักงานทั่วไป ด้วยความสามารถที่จัดการปัญหาได้ดี จึงได้มีโอกาสเลื่อนขั้นมาเป็นเลขาให้โอนิกซ์ ที่ตอนนั้นเพิ่งเริ่มเข้ามาศึกษางานในตำแหน่งรองประธานบริษัทตลอดเวลาเกือบ 4 ปี ที่ทำงานร่วมกับโอนิกซ์ถือเป็นช่วงเวลาที่หนักหนาพอสมควร เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นคนเงียบขรึม ทำให้เธอต้องคอยสังเกตสีหน้าท่าทางเขาเสมอ และจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ก่อนที่ใครสักคนจะถูกแช่แข็งด้วยสายตาเย็นเฉียบของประธานหนุ่ม
แพรวาเริ่มไล่เปิดแฟ้มงาน เช็กปัญหาที่ถูกเขียนรายงานส่งมา และจดลงในสมุดบันทึกส่วนตัว อีกทั้งยังมีพวกบัญชี เอกสารสัญญา และงบประมาณต่างๆ ที่ต้องนำไปให้โอนิกซ์เซ็นอนุมัติ
จนเวลาล่วงเลยไปจนเกือบ 9 โมงเช้า เสียงรองเท้าหนังแพงระยับกระทบพื้นหินอ่อนของทางเดินก็ดังขึ้น เรียกสติแพรวาให้หลุดจากกองเอกสารตรงหน้า หญิงสาวลุกขึ้นโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นการทักทาย
ร่างสูงโปร่งในชุดสูทตัดเย็บอย่างประณีต ใบหน้าหล่อเหลาใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมดูไร้อารมณ์เช่นทุกวัน ประธานหนุ่มเพียงใช้แววตาเย็นยะเยือกมองมายังเธอ พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเดินผ่านไป ผลักประตูบานใหญ่เข้าห้องทำงานเหมือนทุกวัน
และการทำงานในหนึ่งวันของแพรวาก็เริ่มต้นขึ้น ด้วยการลุกไปชงกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล นำไปเสิร์ฟให้โอนิกซ์ในห้องเป็นอันดับแรก
ก๊อก ก๊อก
"ขออนุญาตค่ะ"
"เชิญ"
เสียงภายในตอบรับเรียบๆ เธอจึงผลักประตูเข้าไป ความเย็นเฉียบของเครื่องปรับอากาศกระทบผิว จนเส้นขนในกายพร้อมใจกันลุกพรึ่บ เธอเดินตรงไปยังโต๊ะของประธานหนุ่ม วางกาแฟร้อนหอมกรุ่น และแจ้งตารางงานของชายหนุ่มสำหรับวันนี้
โอนิกซ์หยิบแก้วร้อนๆ ขึ้นจิบ พลางเอนกายพิงพนัก หมุนเก้าอี้มองวิวยามเช้าของกรุงเทพที่ด้านหลัง ในท่าทางสบายๆ ขณะรับฟัง
"วันนี้มีประชุมกับผู้ถือหุ้นช่วง 11 โมง วาส่งเอกสารการประชุมเข้าอีเมลประธานแล้ว ลองตรวจสอบดูนะคะ..."
"..."
"ช่วงบ่าย 2 มีประชุมกับทีมวิศวะ เรื่องท่าเรือใหม่ที่กำลังก่อสร้าง...6 โมงเย็นมีรับประทานอาหารกับประธานบริษัท BP Group เพื่อตกลงข้อเสนอใหม่ก่อนเซ็นสัญญา..."
โอนิกซ์เหลือบสายตามองเลขาสาวเป็นระยะ กรอบแว่นและทรงผมฟูหนาแทบจะบดบังใบหน้าของเธอ บางครั้งหญิงสาวก็จะฉายแววมั่นใจ เฉลียวฉลาด ซึ่งดูขัดกับเสื้อผ้าการแต่งตัวและท่าทางที่เธอแสดงออก ทำให้มักจะสามารถดึงความสนใจจากชายหนุ่มได้บ่อยๆ
ประธานหนุ่มเลื่อนสายตามองนอกหน้าต่างอีกครั้ง ปล่อยให้แพรวาแจ้งกำหนดการต่อไป
"ส่วนเอกสารบนโต๊ะนี้เป็นเอกสารเบิกงบประมาณของแต่ละแผนกในบริษัทค่ะ พิมพ์เขียวแบบแปลนท่าเรือของท่าเรือใหม่ แล้วก็เอกสารที่ต้องเซ็นอนุมัติค่ะ"
"เมื่อวานของส่งล่าช้าเหรอ" น้ำเสียงเนือยๆ ถามขึ้นกะทันหัน ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่หญิงสาวเพิ่งพูดเมื่อครู่แม้แต่น้อย
"เรือสินค้าเจอพายุกลางทะเล เลยมีความล่าช้ากว่ากำหนดไปบ้าง วาประสานงานกับรถขนส่งให้สแตนด์บายรอสินค้าไว้แล้วค่ะ"
"..."
เมื่อโอนิกซ์เงียบไปอีกครั้ง หญิงสาวก็รับรู้ว่าเขาหมดข้อซักถามเธอต่อแล้ว จึงโค้งตัวเล็กน้อยและเดินออกไป โดยที่สายตาเรียบนิ่งของประธานหนุ่มไม่ได้มองเธอแม้แต่น้อย
ภายในห้องทำงานกว้างเงียบสนิทมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศทำงานเท่านั้น ร่างสูงหลับตาสูดหายใจรับกลิ่นหอมของกาแฟผสานกลิ่นกายอ่อนๆ อันมีเอกลักษณ์ของเลขาสาวเงียบๆ
เมื่อจัดการเอกสารให้ประธานหนุ่มเรียบร้อย แพรวาก็ต้องเดินไปตามเรื่องในแต่ละแผนกที่มีปัญหายิบย่อย เพื่ออัปเดตความคืบหน้าให้โอนิกซ์
"สวัสดีค่ะพี่อร บริษัท Once Industry ทางเราจะไม่ชำระในส่วนของภาษีนำเข้าให้ก่อนนะคะ รบกวนพี่ติดต่อทางบริษัทให้ชำระตรงส่วนนี้เองด้วยค่ะ ทางเราจะดูแลในส่วนของการขนส่งอย่างเดียว ถ้าเขายังไม่ชำระไม่อนุญาตให้นำสินค้าออกนะคะ"
"พี่เคยแจ้งทางนั้นแล้ว แต่บริษัทบอกว่าช่วงนี้สภาพคล่องยังไม่ดี พี่ก็ลำบากใจ"
อิงอรพี่หัวหน้าแผนกบัญชีมีสีหน้าหนักใจ เพราะทราบนโยบายของทางบริษัทดี
"พี่อรลองเจรจาดูอีกทีค่ะ วาพอจะมีเบอร์เจ้าหน้าที่ของธนาคารที่รู้จัก ถ้าเขามีปัญหาเรื่องการเงินของบริษัทแนะนำให้ปรึกษาดูค่ะ แต่ทางเราไม่สามารถชำระให้ก่อนได้ ส่วนเอกสารอันนี้วายังจะไม่ส่งให้ประธานเซ็นนะคะ เพราะยังไงก็ต้องโดนตีกลับ แล้วประธานคงต้องเรียกคุย"
"ขอบคุณมากนะน้องวา เดี๋ยวพี่จะลองคุยดู"
รุ่นพี่สาวมีสีหน้าสีขึ้นบ้างเมื่อเห็นทางออก เธอไม่อยากจะแบกหน้ารับผิดชอบแทนลูกค้าเช่นกัน
แพรวาเดินต่อไปยังอีกแผนก ตลอดทางมีพนักงานที่ต้องติดต่อประสานงานส่งยิ้มมาให้บ้าง แม้จะมีสายตาหมั่นไส้ดูถูกส่งมาเป็นระยะ แต่หญิงสาวก็ไม่ได้คิดจะสนใจ ตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
"คุณปุณณ์คะ วาขอเวลาสักครู่ได้ไหมคะ"
เลขาสาวเคาะประตูห้องทำงานของหัวหน้าทีมวิศวะ เอ่ยขออนุญาตเมื่อเห็นว่าเขากำลังเรียกลูกน้องเข้ามาคุยในห้อง
"อ๋อ ได้ครับ น้องวาเข้ามาเลย...อะ ส่วนพวกแก ก็จัดการตามที่คุยกันเมื่อกี้ด้วยล่ะ" ปุณณ์ ชายวัยกลางคนพยักหน้ารับ ก่อนจะหันกลับไปพูดกับลูกน้อง เมื่อไร้บุคคลอื่นในห้องเขาก็ถามขึ้นมาทันที
"มีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
"วาได้รับการร้องเรียนจากลูกค้า สินค้าลูกค้าได้รับความเสียหาย เขาแจ้งว่ามีกลิ่นเหม็นติดไม้ที่ลูกค้าส่งออก ทำให้ทางบริษัทปลายทางไม่ยอมรับของ..."
"...พอวาตรวจสอบดูพบว่าตู้ที่ใช้ขนส่ง ก่อนหน้านั้นส่งพวกเครื่องเทศกลิ่นแรงและน้ำปลา ฝากคุณปุณณ์กำชับทีมที่ท่าเรือ ตรวจเช็กทำความสะอาดตู้ก่อนให้ลูกค้ารายถัดไปใช้ด้วยนะคะ ยิ่งของมีกลิ่นยิ่งต้องตรวจสอบละเอียด ให้แน่ใจว่าจะไม่มีปัญหา"
"เฮ้อ ไอ้พวกขี้เกียจนั่น...แล้วลูกค้าว่ายังไงบ้าง"
"ครั้งนี้วาให้ AE ลองคุย แล้วจะชดเชยค่าเสียหายให้บางส่วน ยังดีที่ของมีปัญหาแค่ตู้เดียว แต่ถ้ามีครั้งหน้าอีกอาจจะต้องมีการเรียกสอบค่ะ"
"ได้ๆ เดี๋ยวพี่จะจัดการไอ้พวกนั้นเอง"
"แล้วก็คุยเรื่องตรวจสภาพของตู้ด้วยนะคะ วาไม่อยากให้มีกรณีของเสียหายจากทางเราอีก"
"โอเค ขอบใจมากเลย"
หญิงสาวยิ้มน้อยๆ โค้งศีรษะให้คนอายุมากกว่า ก่อนจะจากไป
แม้คนส่วนใหญ่จะค่อนข้างเกรงใจเธออยู่บ้าง ด้วยเป็นคนใกล้ชิดของประธานบริษัท แต่แพรวาก็ไม่เคยเอาตำแหน่งข่มใคร และให้เกียรติทุกคนเสมอ จึงเป็นที่เอ็นดูของบรรดาผู้ใหญ่และหัวหน้าแผนกที่ต้องประสานงานกัน
เวลาล่วงเลยจนเกือบ 5 โมงเย็น แพรวายังคงนั่งจมกองเอกสาร ปัญหามากมายถูกส่งขึ้นมารายงานโอนิกซ์แล้วก็จะเป็นเธอที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบและคิดวิธีรับมือแก้ไขสถานการณ์
แอ๊ดดด~
เสียงประตูห้องทำงานประธานหนุ่มเปิดออก พร้อมใบหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์เช่นเดิม เธอมองนาฬิกา ก่อนจะรีบส่งเอกสารในมือให้เขา
"วาเตรียมรถไว้ให้แล้ว ส่วนอันนี้เป็นใบสัญญาค่ะ"
"เธอไม่ไป?" ร่างสูงปรายตามองเลขาที่ยังหัวฟูอ่านเอกสารหลายตั้งตรงหน้า
"ค่ะ วาเห็นว่าคุณไพศาลค่อนข้างสนิทกับครอบครัวประธาน คงมีเรื่องอื่นพูดคุยด้วย วาไปด้วยคงจะเกะกะเปล่าๆ"
"อืม"
โอนิกซ์ตอบกลับเพียงสั้นๆ และหมุนกายเดินจากไป ถึงแม้ว่าสีหน้าเขาจะไม่เปลี่ยน แต่แพรวากลับรู้สึกถึงกระแสความไม่พอใจในสายตาเขาได้
เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่ออีกฝ่ายลงลิฟต์จากไปแล้ว
การทำงานในแต่ละวันก็วุ่นวายเกิดพอ ยังต้องคอยรับแรงกดดันทางสายตาจากประธานอีก เนื่องจากคุณไพศาลแอบกระซิบเธอมาแล้ว ว่าต้องการนัดโอนิกซ์เป็นการส่วนตัว เพราะจะแนะนำลูกสาวให้กับชายหนุ่มรู้จัก แบบนี้แล้วจะให้เธอไปเป็นก้างขวางคอทำไม
แพรวานั่งเคลียร์เอกสารและกำหนดนัดหมายในวันต่อไปให้เจ้านาย จนท้องฟ้าด้านนอกเริ่มเปลี่ยนสี เธอบิดกายน้อยๆ ไล่ความเมื่อยล้า คว้ากระเป๋าผ้าโง่ๆ และแฟ้มงานบางส่วนติดมือกลับบ้านไปด้วย
คอนโดแพรวา
หลังจากต้องเบียดเสียดกับมนุษย์เงินเดือนหลายพันชีวิตบนรถไฟฟ้า ในที่สุดหญิงสาวก็กลับมาถึงที่พักจนได้ เธอแตะคีย์การ์ดกับประตูห้อง ผลักบานประตูไม้สีอ่อนเบาๆ เดินอย่างหมดเรี่ยวแรงเข้าไปด้านใน คอนโดขนาดกะทัดรัดจัดแยกพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน ทุกอย่างตกแต่งตัวเฟอร์นิเจอร์สีโทนสว่าง ช่วยให้สบายตา และรู้สึกว่าห้องดูกว้างขึ้น
มือเล็กจัดการวางข้าวของพะรุงพะรังในมือและถุงอาหารที่แวะซื้อระหว่างทางบนโต๊ะครัว เดินไปจุดเทียนหอมยังห้องนั่งเล่นขนาดเล็กที่อยู่ติดกัน ไม่นานทั้งห้องก็ฟุ้งไปด้วยกลิ่นอ่อนๆ ของวานิลา
แพรวาหลับตาลงซึมซับกลิ่นหอม ความตึงเครียดจากงานที่เผชิญมาทั้งวันคลายลงช้าๆ
เธอถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะและเริ่มหันมาจัดการกับเสื้อผ้าหลายชั้นของตัวเองด้วยความรำคาญ
ใครจะคิดว่าภายใต้เสื้อผ้าล้าสมัยจะซุกซ่อนรูปร่างเซ็กซี่เย้ายวนเอาไว้ ผิวกายขาวผ่องนวลเนียนปรากฏเมื่อไร้เสื้อผ้าปกปิด บราเซียสีขาวโอบอุ้มทรวงอกนุ่มขนาดเกินตัว เอวเธอบางเล็กคอดกิ่วรับกับสะโพกกลมกลึงได้รูป
แพรวาดึงวิกผมหยิกฟูของตัวเองทิ้ง สะบัดศีรษะปล่อยให้เส้นผมตรงยาวสีแดงสยายไปตามแผ่นหลัง เลื่อนประตูกระจกเข้าไปยังห้องนอน เลือกคว้าชุดสบายๆ มาสวมใส่แทน เธอยิ้มน้อยๆ ยืดแขนบิดกายสบายอารมณ์เมื่อได้กลับไปเป็นตัวเองอีกครั้ง
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้แพรวาเลือกที่ซ่อนความสวยของเธอเอาไว้ภายใต้ภาพลักษณ์ของยัยเฉิ่ม และเมื่อไม่เป็นที่สนใจของคนอื่น เธอก็ใช้ชีวิตได้สงบสุขยิ่งขึ้น
กลางดึกขณะแพรวากำลังเพลิดเพลินผ่อนคลายไปกับการนอนแช่น้ำในอ่าง เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นครืด ครืด ครืดร่างเล็กระบายลมหายใจพรืดใหญ่ เมื่อถูกขัดจังหวะ มองรายชื่อที่ปรากฏก็ต้องขมวดคิ้ว ก่อนจะตัดสินใจรับสายในที่สุด"สวัสดีค่ะพี่เปรม"(โอ้ รอดตายไปทีที่น้องวายังไม่นอน ขอโทษนะที่พี่ต้องรบกวนกลางดึกแบบนี้ แต่ทางท่าที่เวียดนามเพิ่งแจ้งเข้ามา ว่ามีสินค้าภายในตู้ของลูกค้าได้รับความเสียหาย)"ช่วยอธิบายให้ละเอียดหน่อยค่ะ"ใบหน้าสวยเริ่มเคร่งเครียด เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบกายและเดินออกไปนั่งคุยยังห้องนั่งเล่นแทน พลางล้วงสมุดบันทึกในกระเป๋ามาจดรายละเอียดไปด้วย(ผลไม้ของแบรนด์ Fruity Thailand กล่องบรรจุลูกค้าแตก ทำให้พอเปิดตู้มาพวกผลไม้ที่อยู่ด้านล่างถูกทับจนช้ำหมดเลย ส่วนกล่องด้านบนยังปกติดีค่ะ) เปรมธิดา หัวหน้าฝ่าย AE รีบอธิบาย"เป็นตู้เดียวเหรอคะ"(เป็นเหมือนกันหมดทั้ง 3 ตู้เลยค่ะ คาดว่าจะเสียหายประมาณ 1 ใน 3 เลย พี่เครียดมาก ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญหาแบบนี้)"ให้ทางเวียดนามถ่ายรูปความเสียหายมาหน่อยค่ะ ขอละเอียดถ่ายทุกมุม ส่วนสินค้าที่ไม่เสียหายให้รถรับไปก่อน พรุ่งนี้เช้าแจ้งลูกค้
โกดังสินค้ารถยุโรปคันใหญ่แล่นไปตามทางดินลูกรังของพื้นที่ห่างไกลตัวเมือง ต้นไม้หนาทึบช่วยพรางสายตาจากบุคคลภายนอกได้เป็นอย่างดี รอบโกดังมีรั้วเหล็กสนิมเกาะล้อมเอาไว้อีกชั้น เมื่อดูจากภายนอกก็ไม่ต่างจากสถานที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง หากแต่ความจริงภายในอัดแน่นไปด้วยสินค้าผิดกฎหมายโอนิกซ์เดินทางมาพร้อมกับลูกน้องเพื่อมาประชุมกับกลุ่มเพื่อนตามปกติ ใบหน้าเฉยชาสวมแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมนั้นไม่ต่างจากหนุ่มเนิร์ดคงแก่เรียน มักมีหนังสือติดมือเสมอ ใครที่พบเขามักจะนึกว่าชายหนุ่มเป็นหมอหรือทนายความ แต่ความจริงเขาคือมาเฟียดีๆ นี่เองภายในโกดังมีลูกน้องหลายคนเดินไปเดินมาขวักไขว่ ตรวจเช็กสินค้าก่อนส่ง โอนิกซ์ซึ่งมีบริษัทโลจิสติกส์เป็นของตัวเอง จึงสามารถแอบลักลอบส่งสินค้าพวกนี้ไปกับเรือได้สบายชั้นใต้ดินของโกดังเป็นทางเดินคดเคี้ยว แยกย่อยหลายทิศทาง ชวนให้สับสน แต่คนที่คุ้นเคยเส้นทางดีอย่างเขาสามารถหลับตาเดินมาจนถึงห้องประชุมกว้างได้สบาย"ไง มาเร็วตลอดเลยมึง" วิคเตอร์นั่งเอกเขนกอยู่กลางโซฟาเพียงลำพัง พร้อมจิบกระป๋องเบียร์ในมือไปด้วยเอ่ยทัก ก่อนจะโยนกระป๋องเบียร์เย็นเฉียบอีกอันมาทางเขา"..."โอ
วันเสาร์คอนโดแพรวาหญิงสาวตื่นขึ้นมาในช่วงสายๆ วันหยุดทั้งทีจึงขอนอนให้เต็มที่หน่อย เธอลุกขึ้นนั่งบิดกายอย่างเกียจคร้าน ผมยาวสลวยสีแดงยุ่งฟูเล็กน้อย ใบหน้ากระจ่างใสเซ็กซี่ชวนมองยังคงง่วงงุน เธอขยี้ตาเบาๆ ก่อนจะลุกออกจากเตียงหญิงสาวสวมเพียงเสื้อเชิ้ตผ้าแพรเย็นสบายสีม่วง ช่วงล่างมีเพียงแพนตี้สีขาวโอบอุ้มสะโพกกลมมน แพรวาเดินเข้าครัวชงกาแฟและทอดไข่ดาวแฮมไส้กรอกง่ายๆ ทุกครั้งที่ขยับตัว ก้มๆ เงยๆ กางเกงในสีสะอาดมักโผล่วับๆ แวมๆ เย้ายวนสายตา โชคดีที่เธออยู่เพียงลำพังหลังจากไข่สุกได้ที่ก็ตักใส่จาน เธอยกจานมานั่งขัดสมาธิบนโซฟากลางห้องนั่งเล่น หยิบมือถือไล่เปิดอ่านอัปเดตข่าวสารพลางใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกเข้าปากครืด ครืด ครืดขณะนั้นเองโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้น ปรากฏชื่อเพื่อนสาวสมัยมหาวิทยาลัยขึ้นบนหน้าจอ"ว่าไงแก"(ฮายยยเพื่อน ไม่ได้คุยกันนานมาก เป็นไงบ้าง) เจเปนหญิงสาวรูปร่างอวบอั๋นเย้ายวนส่งเสียงร้องทักมาตามสาย"ก็เรื่อยๆ เหมือนเดิม แกล่ะ"(แทบตายค่ะ งานบริษัทฉันนรกมาก!)แพรวาขำออกมากับคำพูดของเพื่อนสนิท แม้จะทุกคนจะแยกย้ายกันไปดำเนินชีวิตของตัวเอง แต่ทุกครั้งที่ได้พูดคุยกัน
วันจันทร์บริษัท JRV LOGISTICSแพรวามาทำงานตามปกติ พนักงานหลายคนมองผ่านเธอราวกับอากาศธาตุเช่นเดิม ช่างแตกต่างจากเมื่อวันเสาร์ตอนเธอไปเดินห้างเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ เพราะข้อดีของการเป็นยัยเฉิ่มคือไม่โดนถูกจับจ้องเพ่งเล็ง และนำเธอไปเป็นหัวข้อนินทาว่าร้ายลับหลังเธอลุกไปชงกาแฟให้ประธานหนุ่มเช่นเดียวกับทุกวัน ยืนกลั้นใจอยู่หน้าห้องทำงานอยู่นาน แอบกังวลเล็กน้อยกลัวเขาจะจำได้ ว่าเลขาจืดชืดจะเป็นคนเดียวกับสาวสวยสุดเปรี้ยวที่เขาเดินชนวันก่อนก๊อก ก๊อก ก๊อก"เชิญ"ร่างเล็กก้มหน้างุด หอบเอกสารในวงแขน มืออีกข้างถือถ้วยกาแฟร้อนๆ เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของเจ้านายไปด้วย ขณะที่เขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าหล่อเหลายังคงเรียบนิ่งทำใจดวงน้อยเริ่มสงบลง"กาแฟค่ะ""อืม"เขาตอบรับเรียบๆ หมุนเก้าอี้กลับมาประจำที่ เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีเรื่องจะพูด เธอจึงแจ้งตารางงานวันนี้ให้เขาฟังโอนิกซ์หลับตาลงช้าๆ ราวกับไม่สนใจ ปล่อยให้เสียงหวานให้พูดต่อไปโดยไม่ขัด"วันนี้ช่วงเช้าประธานมีแค่เซ็นเอกสาร อาหารกลางวันวาเตรียมเป็นเซ็ตซูชิหน้ารวมให้ ส่วนในช่วงบ่าย บ่าย 2 โมง บริษัท BBK Rubber ขอเข้าพบเพื
หลายวันต่อมาพื้นที่รกร้างห่างไกลผู้คนช่วงกลางดึกเงียบสงัด ชายฉกรรจ์เกือบ 30 คน ยืนกระจายทั่วบริเวณเฝ้าสังเกตสิ่งผิดปกติ ในขณะที่คนอีกส่วนใช้ชะแลงงัดลังไม้ หยิบอาวุธด้านในส่งให้อีกฝ่ายตรวจเช็กหัวหน้ากลุ่มพยักหน้าพึงพอใจ ส่งสายตาให้ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังขนถ่ายสินค้าขึ้นท้ายรถบรรทุกทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น ก่อนที่เสียงปืนหลายนัดจะดังขึ้นปัง ปัง ปัง!คนทั้งสองกลุ่มรีบล้วงอาวุธปืนเงาวับขึ้นมาเตรียมความพร้อม พยายามยิงตอบโต้ผู้ไม่หวังดี"เฮ้ย! คุมกันของขึ้นรถ!""ฉิบหาย ใครว่ะ! พวกมึงยิงสกัดไว้"เสียงปืนดังขึ้นตามมาอีกหลายนัด ทั้ง 2 ฝ่ายยิงปะทะกันอยู่นาน ต่างพยายามหลบหลังรถเพื่อกำบังกาย พลางยิงตอบโต้อีกฝ่ายไปบ้าง ชายฉกรรจ์สวมไอ้โม่งคลุมปิดบังทั่วใบหน้าจู่ๆ ก็เข้ามาปิดล้อมการซื้อขาย การแต่งกายเช่นนี้ไม่ใช่ตำรวจแน่นอน"อ๊ากกก!""แม่งเอ๊ย! หมายความว่ายังไงแบบนี้ เจ้านายกูต้องไม่พอใจแน่" หัวหน้ากลุ่มหันมาตะคอกถามลูกน้องของกลุ่มมาเฟียเสียงดัง บ่งบอกถึงความโมโห"ผมก็ไม่ทราบ ยังไงรีบขนของก่อน ทางนี้พวกผมจัดการให้""ฮึ่ย!"ร่างกำยำสบถคำหยาบออกมาอีกหลายคำ กำอาวุธในมือแน่น โบกมือโบ
วันต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSแพรวามาทำงานตามปกติ ตระเตรียมเอกสารการประชุมและแฟ้มงานมากมายให้ประธานหนุ่ม วันนี้ก็เป็นอีกวันที่วุ่นวาย ปัญหาภายในเล็กน้อยยิบย่อยมากมายคอยให้หญิงสาวไปจัดการเสียงฝีเท้ากระทบพื้นหินอ่อนทำให้เลขาสาวเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร เธอส่งยิ้มให้ผู้มาใหม่อย่างเป็นมิตร"สวัสดีค่ะคุณไทเป ไม่เจอกันนานเลย" เธอเอ่ยทักทายคนสนิทของเจ้านาย การที่ทำงานกับโอนิกซ์หลายปี ทำให้มีโอกาสพบเจอลูกน้องของเขาหลายครั้ง"ครับ ตอนนี้นายว่างอยู่หรือเปล่า""คุณโอนิกซ์ไม่มีแขกค่ะ น่าจะเซ็นเอกสารอยู่"ไทเปพยักหน้าให้เลขาสาว ไม่ได้สนใจการแต่งกายแปลกประหลาดล้าสมัยของเธอ แพรวาเตรียมจะลุกเคาะประตูแจ้งเจ้านายให้ก่อน แต่ชายหนุ่มก็ส่ายหน้าทำให้เธอนั่งลงตามเดิมก๊อก ก๊อก"ไทเปครับ""อืม เข้ามา" เสียงทุ้มตอบกลับ"คุณไทเปรับกาแฟหรือของว่างไหมคะ""ไม่ครับ ขอตัวก่อน"ว่าจบชายหนุ่มก็ผลักประตูห้องทำงานใหญ่เข้าไป แพรวาจึงกลับมาสนใจกับกองเอกสารต่อ"ได้อะไรไหม" โอนิกซ์เอนกายพิงพนักเก้าอี้เอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อพบหน้าคนสนิท"เท่าที่ผมตรวจสอบดู ยังไม่พบความผิดปกติของลูกน้องเราคนไหนนะคร
ร่างไร้สติของหญิงสาวถูกยัดใส่เบาะหลังรถ โดยมีชายหนุ่มก้าวขึ้นมานั่งด้านข้าง ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดเหลือบมองคนข้างตัวด้วยแววตาหลากหลายความรู้สึกศีรษะที่ถูกคลุมเอาไว้เอนซบไหล่หนาโดยไม่รู้ตัว ความใกล้ชิดส่งผลให้กลิ่นกายหอมหวานคุ้นเคยของเธอ ลอยมากระทบจมูกโอนิกซ์อีกครั้งเขาพ่นลมหายใจออกมา เบือนหันหน้าหนี เพื่อหวังว่าจะไม่ต้องได้กลิ่นเย้ายวน แต่กลับไม่ยอมผลักไสเธอออก ปล่อยให้เธอซบต่อไป"แผลเป็นไงบ้างครับ" ไทเปเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบโอนิกซ์ก้มมองหลังมือตนเองที่ถูกหญิงสาวข่วนเสียเลือดซิบเป็นทาง เริ่มรู้สึกแสบๆ คันๆ ขึ้นมาบ้าง"ฤทธิ์มากฉิบ""ทำแผลก่อนไหมครับ""ช่างมัน กลับเพนต์เฮ้าส์เลย"ลูกน้องอีกคนพยักหน้ารับ ขับรถตรงกลับที่พักทันทีเพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์"อื้อออ~"หญิงสาวส่งเสียงในลำคอเบาๆ เริ่มรู้สึกตัวขึ้นมา ความเจ็บจี๊ดบริเวณท้ายทอยเป็นสิ่งแรกที่รู้สึก กำลังจะยกมือขึ้นไปจับ แต่ก็ต้องเบิกตาโพลง หัวใจหล่นวูบเมื่อข้อมือถูกเชือกมัดไว้ ไล่ย้อนคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าก็เริ่มสติแตก เมื่อรู้ว่าเธอถูกลักพาตัวมาแพรวาดิ้นให้หลุดไปจากพันธนาการนี้ แต่เชือกนั้นก็มัดเธอเอาไว้แน่นเห
พรึ่บ!ร่างเธอถูกเหวี่ยงลงกับเตียงอย่างแรงราวกับเป็นเพียงสิ่งของ ทำท้องน้อยจุกแปลบจนหน้าเบ้ พยายามหยัดกายขึ้นเตรียมจะวิ่งหนี แต่ร่างหนาของประธานกลับก้าวขึ้นคร่อมเธอเสียก่อน บดเบียดกายร้อนผ่าวแนบชิดร่างเล็กแนบแน่น จนไม่เหลือพื้นที่ให้อากาศแทรกผ่านแพรวาหน้าซีด เริ่มรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดต่อไป แม้จะออกแรงขัดขืนอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่ามันสายเกินไปแล้วเสื้อคลุมสีเบจถูกกระชากออกจากร่าง พยายามจะต่อต้านแล้วแต่ก็ไม่อาจสู้แรงร่างสูงได้ภายในห้องมืดสนิท มีเพียงแสงไฟของอาคารภายนอกฉายเข้ามาผ่านกระจกเท่านั้น โอนิกซ์จัดการรูดเนกไทสีน้ำเงินเข้มที่ต้นคอตัวเองออก คนตัวเล็กพยายามใช้จังหวะนั้นพุ่งตัวหนี แต่ก็ถูกกระชากต้นแขนกลับมานอนดังเดิม"อึก...ขอร้อง...อย่าทำอะไรวาเลย...ฮือ...วาบอกทุกอย่างไปหมดแล้ว"เธอยกมือขึ้นพนมไหว้งกๆ ขอความเห็นใจครั้งสุดท้าย ใบหน้าสวยเปรอะเปื้อนด้วยคราบน้ำตา แต่คนใจร้ายก็ไม่สนใจ รวบข้อมือบางขึ้นเหนือหัว ก่อนจะใช้เนกไทในมือมัดมันเข้าด้วยกัน แล้วผูกปลายอีกด้านไว้กับหัวเตียงดวงตาสีเข้มใต้กรอบแว่นเย็นเฉียบไร้เมตตา ไล่มองเรือนร่างของเลขาสาวนิ่งๆ แม้เขาจะไม่ได้แสดงท่าทาง
เพนต์เฮ้าส์โอนิกซ์โอนิกซ์ส่งยิ้มพลางยื่นนิ้วมือไปหาลูกน้อยในอ้อมแขน ซึ่งอัศวินก็หัวเราะร่าพยายามยื่นมือมาคว้ากำนิ้วบิดาเอาไว้ เขาพยายามบีบๆ คลายๆ อยู่หลายครั้ง และมักจะส่งเสียงโต้ตอบบ้างเวลาผู้เป็นพ่อพูดคุยด้วยแม้จะยังไม่รู้ความก็ตามไม่แปลกใจเลยทำไมเพื่อนเขาถึงอยากพาลูกชายตัวเล็กของตนกลับบ้านไปด้วย อัศวินเลี้ยงง่ายและอารมณ์ดี บางครั้งเขาก็มักจะเพลินกับการหยอกล้อกับลูกจนลืมเวลาไป"เล่นพอยังคะตัวเล็ก หม่ามี๊พาไปอาบน้ำดีกว่า""คิก คิก คิก"อัศวินหัวเราะคิกคักขณะดวงตากลมโตบ้องแบ๊วมองมารดาและยิ้มจนตาหยี"กวนปะป๊านานแล้วนะคะ ไปกัน"โอนิกซ์ส่งยิ้มอ่อนโยนให้ภรรยา ประคองทารกให้หญิงสาวรับไปอุ้มต่อ สายตาอบอุ่นสื่อความหมายสบมองกัน แม้ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมา แต่ทั้งคู่ก็มีความสุขมากในทุกช่วงเวลาแพรวาอุ้มอัศวินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ส่วนโอนิกซ์ก็หยิบโน้ตบุ๊กมานั่งเคลียร์งานที่คั่งค้างต่ออีกนิดหน่อยมุมปากหยักยกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังแววออกมาจากห้องน้ำ จนอดใจไม่ไหวต้องวางโน้ตบุ๊กบนตักลงแล้วเดินไปดูสองแม่ลูกแทนแพรวานำอ่างอาบน้ำสำหรับเด็กมาตั้งไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน
3 เดือนต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSประธานหนุ่มเจ้าของบริษัทโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ ก้มอ่านเอกสารร่างสัญญาฉบับใหม่ มือขวาควงปากกา มือซ้ายก็ประคองร่างของลูกชายตัวเล็กโยกกล่อมให้หลับภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยอุปกรณ์เลี้ยงเด็ก ทั้งเปลที่นอน และคอกกั้นบุนวมอย่างดี พร้อมตุ๊กตาของเล่นขนาดต่างๆ จนไม่เหลือคราบห้องของประธานบริษัทแม้แต่น้อยแพรวาเปิดประตูเข้ามา หลังจากคลอดลูกน้อยรูปร่างเธอก็กลับสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว แทบจะดูไม่ออกว่าเคยผ่านการตั้งครรภ์มาก่อนใบหน้าสวยดูเปล่งประกายความงามชัดเจน ผิวขาวเนียนตัดกับเส้นผมสีดำสนิทยาวจรดแผ่นหลัง เธอสวมชุดเสื้อสูทสีครีมคู่กับกระโปรงเอวสูงสีเดียวกัน ราศีภรรยาประธานบริษัทจับทุกระเบียบนิ้วมุมปากที่ทาทับด้วยลิปสติกสีนู้ดยกยิ้มขึ้น จรดฝีเท้าเงียบเชียบไม่ให้รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยโอนิกซ์เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร สายตาใต้กรอบแว่นดูอ่อนโยนเมื่อมองผู้มาใหม่ วางปากกาในมือลง"นี่เอกสารประชุมอาทิตย์หน้าค่ะ""เหนื่อยไหมครับ""นิกซ์ต่างหาก วินดื้อไหมเอ่ย""เล่นเสร็จ เพิ่งหลับไปเมื่อกี้"สายตาอ่อนโยนมองใบหน้าหลับใหลของลูกชายที่ถอดแบบมาจากเขาแทบจะพิมพ์เดียวกัน ยก
2 เดือนต่อมาโรงพยาบาลแพรวานั่งๆ นอนๆ อยู่แต่บนเตียงคนไข้ โอนิกซ์ย้ายเธอมาที่โรงพยาบาลได้สองวันแล้วเพื่อรอวันคลอด ตอนนี้แพรวายังไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไร ต่างจากคนเป็นสามีที่ดูตื่นตัวพร้อมทุกสถานการณ์ เขาจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับทารกแรกเกิดไว้พร้อมสรรพ รวมถึงจัดการออกแบบตกแต่งห้องนอนรับแขกเก่าที่แพรวาเคยนอนเป็นห้องเด็กอ่อน แม้ลูกยังต้องนอนห้องเดียวกับพวกเขาอีกหลายปีก็ตามท้องเธอโตเสียแทบเดินไม่ไหว จะลุกจะนั่งต้องมีโอนิกซ์คอยช่วยพยุงวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ห้องพักของเธอครึกครื้น"พี่วาเอาแอปเปิลไหม คลีปอกให้" คลีโอและลีโอหอบกระเช้าผลไม้มาเยี่ยมว่าที่คุณแม่ตั้งแต่เช้า"ได้จ้ะ ขอบคุณนะ""ค่า เดี๋ยวคลีไปล้างก่อน"คลีโอเดินไปยังส่วนครัวของห้องพักซึ่งไม่ต่างจากโรงแรมดีๆ มีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีแยกโซนสำหรับคนไข้และญาติเวลามาเยี่ยมไว้ด้วย ห้องรับแขกก็กว้างขวาง แบ่งเป็นสัดส่วนจึงไม่รบกวนการพักผ่อนของคนไข้"ปอกเป็นเหรอไง เอามีดมานี่ พี่ทำเอง" ลีโอที่แทบทนดูไม่ไหว ดึงมีดคมออกจากมือแฟนสาว และดันตัวเธอไปข้างๆ ก่อนจะจัดการแอปเปิลสีแดงด้วยตัวเองชายหนุ่มจัดการป
ย่านใจกลางเมืองเหล่ามาเฟียสี่คน ยืนหน้าเครียดมองประตูร้านขนมหวานด้วยความไม่แน่ใจ ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนที่เป็นคนเสนอความคิด"เอาจริงดิ พาพวกกูมาคุยงานในร้านขนมเนี่ยนะ" ลีออนเอ่ยขึ้นมาอย่างอดไม่ได้"แล้วยังไง""ดูหน้าแต่ละคนก่อน แล้วค่อยถามว่ายังไง""มึงก็รู้กูห่างเมียนานไม่ได้ มันปวดหัวอยากจะอ้วก ถ้าอยากคุยงานก็คุยที่นี่" โอนิกซ์ตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะจูงมือภรรยาสาวที่ท้องโตเข้าไปในร้านเป็นคนแรก"แน่ใจเหรอวะ" ลีออนหันมาขอความเห็นจากเพื่อนที่เหลือ ซึ่งวิคเตอร์ก็ทำได้เพียงถอนหายใจ ส่วนไคโรและลีโอก็ส่ายหน้าไม่ได้ตอบคำถาม และพาแฟนตัวเองเข้าไปในร้านด้วยเช่นกัน"เชี่ย พวกกูสองคนมาทำห่าอะไรเนี่ย นึกว่านัดเดทคู่""กูยอมให้มึงควงได้วันหนึ่ง แต่ถ้าเริ่มลวนลามกูเมื่อไร กูถีบมึงแน่""ถุย! กูเนี่ยนะ จะลวนลามมึง พูดจาน่าถูกกระสุนฝังหัวจริงๆ""หึ"วิคเตอร์ทำเพียงแค่แค่นหัวเราะ และเดินตามคนอื่นเข้าไปในร้าน สุดท้ายเพื่อนผู้เรื่องมากก็หมดข้อโต้แย้ง ยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่ครู่หนึ่งก็ยอมตามเข้ามาโอนิกซ์แยกโต๊ะระหว่างกลุ่มสาวๆ ในนั่งริมหน้าต่างร้าน ส่วนกลุ่มเขาแยกมาอีกโต๊ะก่อ
คฤหาสน์ตระกูลโอนิกซ์แพรวาคลี่ยิ้มละลายใจ ขณะผลักร่างสูงของผู้เป็นสามีลงบนเตียงกว้างในห้องนอนของเขา โอนิกซ์หอบหายใจเข้าออกหนักหน่วงด้วยความตื่นเต้น เฝ้ามองหญิงสาวค่อยๆ คลานขึ้นมาคร่อมร่างด้วยท่าทางยั่วเย้าชวนคลั่งคอเสื้อเว้าลงมา จนสามารถมองเห็นเนื้อนุ่มคู่สวยใต้ชุดเดรสน้ำเงิน ความกระสันทำช่วงล่างปวดหนึบ ดุนดันเป้ากางเกงขึ้นเป็นลำคนตัวเล็กยกยิ้มอย่างคนมีอำนาจเหนือกว่า มือน้อยลูบไล้ลำกายแข็งขืนผ่านกางเกง เฝ้ามองคนข้างใต้พยายามบดเบียดช่วงล่างเข้าหามือเธอ"จะให้รางวัลอะไรนิกซ์ครับ" เขาถามเสียงกระเส่า ความรู้สึกตื่นตัววูบหวิวทรมานเหมือนตนกำลังโดนทำโทษมากกว่า"รอดูสิคะ ใจร้อนจัง""อ่า เมียขี้ยั่วจัง"มือซุกซนเริ่มทำการปลดตะขอกางเกงพร้อมดึงมันลง โอนิกซ์ก็ยกสะโพกช่วยให้เธอจัดการกับกางเกงเกะกะโดยง่าย ท่อนเอ็นร้อนแข็งแทบชี้หน้า แต่ก็ยังมี บ็อกเซอร์อีกตัวปกปิดเอาไว้แพรวานั่งคุกเข่าอยู่กลางหว่างขา ใช้มือสัมผัสความใหญ่โตผ่านเนื้อผ้าอย่างยั่วยวนใจเย็น แต่คนที่นอนหอบหายใจกลับจะเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียเอง รูดชั้นในลง โยนทิ้งออกไปในที่สุดท่อนเอ็นใหญ่ขนาดเท่าข้อมือหญิงสาวปรากฏสู่สาย
หลังมื้ออาหารจบลง งานประมูลสินค้าเพื่อร่วมบริจาคเงินให้แก่เด็กด้อยโอกาสจึงเริ่มขึ้น แขกที่มาร่วมงานทยอยเดินไปยังโซนหน้าเวทีโอนิกซ์โอบเอวภรรยาคนสวยไว้ตลอดทาง ระมัดระวังทุกย่างก้าวจนเธอนั่งลงข้างไปรยาเรียบร้อย เขาจึงนั่งขนาบข้าง ไม่นานไฟในห้องจัดเลี้ยงก็ถูกหรี่ลง พร้อมเสียงพิธีกรดำเนินงานดังขึ้น"สวัสดีครับ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งานประมูลเพื่อการกุศลครั้งที่ 4 รายได้จากการประมูลทั้งหมด หลักหักค่าใช้จ่ายแล้วจะนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสยังพื้นที่ห่างไกล ของที่นำมาร่วมประมูลในวันนี้มีมูลค่ารวมกันเกือบ 50 ล้านบาทเลยทีเดียว ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับงานในครั้งนี้นะครับ"แขกที่มาร่วมงานต่างปรบมือเสียงดัง ตื่นเต้นที่จะได้ชมของล้ำค่ามากมาย และยังได้โอกาสอวดบารมีและเงินในบัญชีให้คนอื่นรับรู้ด้วย"ของชิ้นแรก เปิดกันมาด้วยแจกันเครื่องลายครามจากราชวงศ์ชิง ของประเทศจีนโบราณ พร้อมใบรับประกัน ขอเปิดการประมูลที่ หนึ่งล้านบาทครับ"เมื่อพิธีกรให้สัญญา ผู้ร่วมงานก็ชูป้ายขานราคากันอย่างสนุกสนาน แพรวาตกใจกับราคาที่สูงลิ่วของของแต่ละอย่าง ความคิดที่อยากจะร่วมงานเพื่อช่วยเหลือเด็กน้อยต้องถูกหยุดไว้ชั่วคร
ครืด ครืด ครืดโอนิกซ์ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมา ก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเห็นชื่อมารดาปรากฏที่หน้าจอ ก่อนจะต้องกดรับสายอย่างไม่มีทางเลือก(ลูก วันนี้อย่าลืมมางานเลี้ยงการกุศลที่โรงแรม คาเรน ฮิลล์ นะ)"ผมบอกตอนไหนว่าจะไปครับ"(ไม่ต้องบอก เพราะแม่ไม่ให้ทางเลือกจ๊ะ)"วาเขาเหนื่อย แม่ยังจะให้ลูกสะใภ้ไปเดินร่อนในงานอีกเหรอครับ"(หนูวาโอเค เธอรับปากแม่เมื่อวานเรียบร้อยจ้า แต่งตัวมาหล่อๆ สวยๆ แล้วเจอกัน 1 ทุ่ม รักลูกจ้า)"เดี๋ยว! แม่ครับ"โอนิกซ์ร้องเรียกมารดาเสียงดัง แต่คุณหญิงไปรยาก็ไม่อยู่รอฟังคำบ่นจากปากลูกชาย กดวางสายไปเสียก่อน โอนิกซ์จึงทำได้เพียงถอนหายใจ"วาไปรับปากแม่เหรอ ว่าจะไปงานเลี้ยงอะไรนั่น""ค่ะ คุณแม่โทรหาเมื่อวาน อยากให้เราสองคนไปร่วมงานด้วย""เฮ้อออ~ วาน่าจะปฏิเสธไป งานพวกนี้น่าเบื่อจะตาย ทำวาเหนื่อยเปล่าๆ""ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณแม่บอกเป็นงานประมูลเพื่อนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้เด็กด้อยโอกาส เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ถ้าวาช่วยได้ก็อยากจะช่วย" หญิงสาวอธิบายเพิ่มทำให้ผู้เป็นสามีหมดทางแย้งดูเหมือนมารดาจะจับทางถูก เข้าหาแพรวาก่อนเพื่อมัดมือชกให้เขาเข้าร่วมงานไปด้วย"เอาเถอะ
หลายวันต่อมาบริษัท JRV LOGISTICSภาพประธานหนุ่มแสนหล่อเหลาโอบประคองเอวบางของสาวสวยผมดำประบ่าเดินเคียงคู่กันเข้ามาในบริษัท สร้างความแตกตื่นให้กับเหล่าพนักงานเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างพยายามแย่งกันชะโงกดูใบหน้าหญิงสาวผู้โชคดีว่าเธอคือใครโอนิกซ์ไม่ได้เข้าบริษัทมาหลายเดือน แต่เมื่อกลับมาอีกทีก็พกสาวสวยมาด้วย จึงเป็นที่สนใจใคร่รู้ของพนักงานทุกคน"ใครอ่าแก สวยจังเลย""แฟนประธานหรือเปล่า ใช่คนเดียวกับที่มีคนเคยไปเจอไหม""ฉันว่าฉันคุ้นๆ หน้าผู้หญิงนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน ใช่ดารา นางแบบหรือเปล่า""แกดูที่เขามองกันสิ ขนาดยืนอยู่ตรงนี้ยังเห็นประกายความรักเลย""เฮอะ จะอยู่ได้นานแค่ไหน คนก่อนก็โผล่มาแป๊บเดียว ก็หายไปแล้ว""ยัยนี่! ประธานเราไม่ค่อยวุ่นวายกับผู้หญิงก็รู้กันอยู่ ฉันว่าคนนี้จริงจัง"เสียงซุบซิบแสดงความเห็นของกลุ่มพนักงานดังขึ้น หลังจากทั้งคู่ผ่านบริเวณนั้นไปแล้ว แม้จะอยากรู้ใจแทบขาด ว่าหญิงสาวคนนั้นคือใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปถาม ได้แต่คาดเดากันไปต่างๆ นานาทั้งสองขึ้นลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนสุดของตึกสำนักงานหรู เพียงออหญิงสาววัยกลางคนลุกขึ้นจากโต๊ะด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลนเมื่อเห็นสองหนุ
ทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง ริมฝีปากนุ่มทั้งสองก็พุ่งเข้ามาหากัน ชายหนุ่มรวบร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอด บดจูบร้อนแรงใส่เธอไม่หยุดหย่อน แพรวาก็ไม่น้อยหน้า ท่อนแขนเล็กโอบลำคอหนา เผยอริมฝีปากตอบกลับอย่างเร่าร้อนดุเดือดฝ่ามือร้อนไล่ตามแผ่นหลังลงไปบีบขยำสะโพกกลมกลึงของเธอหนักหน่วง พร้อมบดเบียดแก่นกายร้อนผ่าวที่แข็งดุนกางเกงออกมาเป็นลำชิดกายสาวเรียวลิ้นเปียกชื้นกระหวัดเกี่ยวพันสลับบดจูบดูดเม้ม ส่งผลให้น้ำลายสีใสไหลเลอะมุมปาก แต่อารมณ์ปรารถนาที่พุ่งสูงทำให้สองหนุ่มสาวที่ตกอยู่ในห้วงตัณหาไม่ได้ใส่ใจมันสักนิดติ๊ง~เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ยอมแยกจากกัน โอนิกซ์ดึงคนตัวเล็กออกมาโดยที่ริมฝีปากทั้งคู่ไม่ละห่างกันแม้เพียงเสี้ยววิมือน้อยสอดเข้าไปขยุ้มกลุ่มเส้นผมดกหนา แทรกลิ้นเข้าไปโพรงปากคนตัวสูง ดูดดุนปลายลิ้นสาก พลางลากมืออีกข้างสัมผัสกล้ามหน้าอกแกร่งใต้เสื้อเชิ้ตสีเข้มโอนิกซ์เหลือบตามองหมายเลขห้อง โชคดีที่ทั้งชั้นมีเพียงไม่กี่ห้องจึงไม่มีลูกค้าอื่นสัญจรเดินผ่านไปมาขัดจังหวะคนทั้งคู่คีย์การ์ดสีขาวในกระเป๋าเสื้อถูกล้วงออกมา แตะเข้าที่แผงวงจรประตูก็ได