Share

บทที่ 1 แสนชัง02

Author: r.mustang
last update Last Updated: 2025-03-19 23:54:19

เสียงที่หลุดออกมาจากริมปากหยักได้รูป ทำให้ภาธรกระตุกยิ้มอย่างได้ใจ

ไม่นานอาภรณ์ที่อยู่บนตัวของปวริศาก็ค่อยๆหลุดออกมาจากตัวทีละชิ้น แม้จะต่อต้าน ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ

ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เธอดันไหล่กว้างให้ออกห่าง กลับถูกแนบชิดมากกว่าเก่า

เสียงจากริมฝีปากเล็กถูกปล่อยออกมาไม่หยุด ไม่ต่างจากภาธรที่หลุดคำรามออกมาเสียงต่ำเมื่อได้เข้าชิดจนเป็นหนึ่ง

การแสดงออกของเขามันเร่าร้อนราวกับต้องการเผาร่างเล็กให้ไหม้เป็นจุณ สะโพกยังขยับเคลื่อนไหวอยู่ตลอด มันร้ายยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด หยาดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าของคนทั้งคู่

ถึงมันจะอบอวลด้วยความหอมหวานในบางขณะ แต่บางครั้งก็อยากจะร้องไห้ เนื่องจากบทรักของเขามันร้าย ที่สำคัญมันดึงศักดิ์ศรีของหล่อนให้พังพินาศลงไปหมด

ในวินาทีนี้ความเสียใจจึงคืบคลานเข้าหาและปวริศาไม่รู้ว่าพายุลูกนี้จะจบลงอย่างไร

กว่าเปลือกตาบางจะกะพริบถี่และเปิดขึ้นก็เป็นช่วงสายของเช้าวันใหม่ ในห้องนี้เหลือไว้แต่ความมืดเพราะม่านสีทึบยังถูกปิดและทิ้งกลิ่นจางๆของควันบุหรี่ ซึ่งคงมาจากเขา

“ฮึก…”

ปวริศาริมฝีปากสั่นระริกอย่างคนพ่ายแพ้ น้ำตาที่เหือดแห้งไปมันกลับมาอีกหน ครั้งนี้หนักกว่าเก่า เพราะในครั้งนี้เหมือนเขากำลังเอาใจของหล่อนมาเขย่าเล่นอย่างนึกสนุก ไม่ได้แคร์ความรู้สึกกันแม้สักนิด

หญิงสาวพาใจที่ช้ำลงจากเตียงแล้วเข้าไปในห้องน้ำ สักยี่สิบนาทีก็ออกมาในชุดเดิมและมองหากระเป๋าใบย่อมที่ติดตัวมา ตอนนี้ไม่รู้อยู่ที่ใด

วินาทีที่ต้องพึ่งแสงสว่างก็ทำให้ใจชาหนึบ บางสิ่งที่ไม่อยากจะเห็นกลับปรากฏเด่นชัดในสายตาและความรู้สึก เพราะมันมีอยู่ทั่วมุมห้อง

ความรู้สึกในวินาทีนี้ละม้ายคล้ายมีคนเอาเข็มมาตอกลงกลางใจ ในห้องนี้ล้วนมีรูปคนสำคัญของเขาความริษยาพุ่งขึ้นมาเป็นริ้วๆ น้ำตาอุ่นร้อนกำลังจะร่วงหล่น ทว่ามือนุ่มก็ปาดมันทิ้ง เนื่องจากร้องไห้ไปก็เปล่าประโยชน์

ปวริศาหลุดออกจากภวังค์เนื่องด้วยมีสายเรียกเข้าและปลายสายก็คือบุคคลสำคัญ

“หนูหวาน ฝากบอกเจ้าธรหน่อย พ่อติดต่อเจ้าธรไม่ได้ พ่ออยากให้ธรกินข้าวด้วยกันเย็นนี้”

ปลายสายเอ่ยบอก เพราะโทร.ไปก็ไม่มีการรับสายจากคนเป็นลูก

ปวริศาเงียบไป ริมฝีปากเม้มแน่น เพราะอยากจะปฏิเสธ การเลี่ยงให้ท่านไม่เจอกับลูกชายในตอนนี้คงจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นหัวใจของท่านอาจจะระบมไม่ต่างจากเธอ แต่หล่อนจะปฏิเสธมันได้อย่างไร ในเมื่อพ่ออยากเจอหน้าลูกชาย

หญิงสาวเศร้าละอายต่อบุญคุณที่ท่านมีให้ ความหวังเล็กๆ ที่จะเป็นกำลังใจให้สรวิศมีชีวิตบั้นปลายอย่างมีความสุข ที่ฝากให้ทำให้สำเร็จ แต่เธอกลับทำมันไม่ได้

แถมตอนนี้หล่อนก็ไม่กล้าจะทำร้ายจิตใจของสรวิศ

“ไม่สะดวกหรือเปล่าหนูหวาน”

“เปล่าค่ะ เดี๋ยวตอนเที่ยงหวานจะไปบอกคุณธรให้นะคะ” แย้งกลับเพราะไม่อยากให้คิดมาก

“ขอบคุณจ้ะหนูหวาน”

น้ำเสียงของสรวิศดีขึ้น เพราะเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอบุตรชาย เนื่องจากตนต้องไปอยู่ต่างประเทศ ด้วยสาเหตุหนึ่งที่ยังไม่คิดจะบอกให้คนใกล้ตัวได้ล่วงรู้

“ค่ะ”

แม้จะตอบรับไป ปวริศาก็ยังไม่รู้ว่าจะทำได้สำเร็จหรือไม่ และคิดว่าเขาอาจจะมีข้อแลกเปลี่ยนที่ร้ายกาจ ซึ่งเธอคงจะปฏิเสธมันไม่ได้

หญิงสาวเร่งรีบออกไปแล้วกลับไปที่ห้องเช่าซึ่งย้ายมาอยู่ตั้งแต่สถานะสมรสกลายเป็นหย่าร้าง เพื่อเปลี่ยนชุดใหม่และไปเริ่มงาน

“พี่ฝนคะหวานมาขอพบคุณธรค่ะ”

ปวริศาแจ้งความประสงค์กับเลขาฯ สุดเก่งของภาธร พร้อมกับระบายยิ้มทักทายตามประสาคนร่วมงานกัน

“สักครู่นะคะน้องหวาน” อรณิชาต่อสายเข้าไปแจ้งเจ้านายฉับไวและชั่วครู่ต่อมาก็ได้คำตอบ “คุณธรบอกให้น้องหวานนั่งรอก่อนค่ะ พอดีคุณธรคุยอยู่กับ...คนสำคัญ”

ปวริศาถอยเท้ามานั่งรอที่หน้าห้อง โดยไม่ได้เอะใจกับคำว่าคนสำคัญ จนกระทั่งบานประตูห้องนั้นถูกเปิดออก คนที่ออกมากลับไม่ใช่ภาธร และนั่นทำให้ปวริศานิ่งงันไป ไม่ต่างจากใจที่เต้นช้าลงซึ่งมาพร้อมกับความเจ็บแปลบ

คนที่ออกมาก็ชะงักไปเช่นกัน สุดท้ายก็เลือกจะเดินผ่านหน้าของปวริศาไป โดยที่ไม่ได้ทักทาย

ส่วนปวริศาหลุบตาต่ำพร้อมกับความละอายในหัวใจ ต่อให้มีอะไรมากลบเกลื่อนก็ไม่สามารถสู้กับความรู้สึกนี้ได้ เพราะเธอคือตัวต้นเหตุที่ผลักไสใครคนนี้ให้ชีวิตดิ่งลงเหว

เมื่อเสียงฝีเท้าพ้นผ่านไป หญิงสาวก็เหลือบไปมองหน้าเจ้าของห้องซึ่งเดินตามออกมา พบว่าภาธรกำลังมองมาเช่นกัน สีหน้าคมนั้นเจือไปด้วยความขุ่นเคือง

ชายหนุ่มเดินผ่านหน้าเธอไปยังทางหนีไฟ แม้ว่าหญิงสาวอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลก็ทำไม่ได้ เพราะความหวังที่สรวิศฝากไว้อยู่ในมือ

ชายหนุ่มหยิบมวนบุหรี่มวนหนึ่งขึ้นมาจุดไฟ ก่อนจะอัดมันเข้าปอดเพราะความเครียด ที่แห่งนี้คือที่ประจำของเขา สายตาคู่ขุ่นมัวมองออกไปนอกหน้าต่าง

ปวริศาเห็นความตึงเครียดทั้งจากทางสีหน้าและแววตาของคนตรงหน้าแม้จะมาหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้ว หญิงสาวก็ยังเงียบเพราะกำลังรวบรวมความกล้า

ก่อนจะเห็นว่าเขาพยายามจะกระชากเนกไทให้คลายออกมาแล้วปลดกระดุมเสื้อเล็กน้อย ราวกับเขาร้อน หล่อนว่าเขาคงร้อนรุ่มเพราะ…คนสำคัญ

ชั่วอึดใจต่อมาก็ได้ยินชายหนุ่มเค้นเสียงเข้มออกมา “ธุระ”

ฟังจากน้ำเสียงก็รู้ได้ว่าอกเขาใกล้จะระเบิด เพียงไม่รู้ว่าเรื่องใด

“คุณท่านให้มาชวนไปทานข้าวเย็นค่ะ ท่านติดต่อคุณธรไม่ได้เลยขอให้หวานมาบอก”

“ทำหน้าที่เป็นตัวสื่อกลาง?” พอได้ฟังธุระที่ว่า ภาธรก็นึกขันกับความพยายามของคนด้านหลังที่ทำมาตลอดสองปี แม้ผลลัพธ์จะไม่เคยสำเร็จก็ตาม

“ค่ะ ไปหาท่านหน่อยนะคะ หวานขอ”

“ขอ?”ภาธรหันมาถาม วางสีหน้าเรียบ “คงให้ไม่ได้ มีอะไรมาแลกหรือเปล่า”

“หัวใจหวานที่จะให้คุณเหยียบ”

“ให้ขนาดนั้น?”

ปวริศาพยักหน้า เพราะตอนนี้มันก็เหมือนโดนเหยียบย้ำที่หัวใจอยู่แล้ว เพิ่มไปอีกนิด ก็คงไม่ตายหรอก

“อืม เอาสิ ฉันจะไป”

“ค่ะ”

ปวริศาหมุนตัวกลับ ประโยคถัดมาจากเขานั้นรั้งให้หญิงสาวต้องหยุด ซึ่งมาพร้อมกับใจที่ระบม

“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าป่านมาทำไม” ป่าน หรือมาติกา คนสำคัญคนเดียวที่สามารถเข้าไปอยู่ในใจดวงร้ายๆของคนพูดได้ และเป็นเจ้าของภาพทุกภาพที่อยู่ในคอนโดฯ เขา

คนพูดช่างใจมืดดำ เขาถามเพื่อให้เธอเจ็บ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 1 แสนชัง03

    ดวงตาของปวริศาฉายแววตัดพ้อ แต่ก็ไม่ได้หันกลับไป เพราะมันคงไม่สามารถแทงทะลุทะลวงเข้าไปข้างในใจของภาธรได้ ปวริศาเลือกที่จะเดินต่อไปแถมยังก้าวเร็วๆภาธรกดยิ้มร้ายก่อนจะหมุนตัวกลับไปมองยังนอกหน้าต่างอีกหน พร้อมความเครียดที่ผ่านเข้ามาในหัวให้ต้องคิดทบทวนอีกรอบถึงแม้ภาธรจะยอมรับข้อตกลงแล้ว ปวริศาก็ยังอดกังวลไม่ได้ เนื่องจากกลัวว่าเขาจะไม่มา หญิงสาวมาชะเง้อคอยที่หน้าบ้าน ในตอนนี้อาหารทุกอย่างได้ปรุงเสร็จอย่างเรียบร้อยแล้วรอยยิ้มบางๆผุดขึ้นเมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามาในบ้านแล้ว ยอมรับว่าโล่งใจเป็นที่สุด แต่มันก็เป็นแค่เปลาะแรกเท่านั้น“ทำไมวันนี้ไม่รับโทรศัพท์พ่อเลยเจ้าธร”ใบหน้าของสรวิศมีรอยยิ้มขณะเข้าไปทักทายลูกชาย แม้ประโยคที่ถามจะน้อยใจ มันก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์ จากความสัมพันธ์พ่อและลูกที่ไม่ได้คืบหน้าภาธรไม่ตอบได้แต่วางสีหน้าเรียบเฉยด้วยไม่อยากให้สถานการณ์ตึงเครียด ผู้เป็นพ่อจึงหยุดการซักถาม “ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้หนูหวานทำของโปรดของแกไว้ให้”บทสนทนาบนโต๊ะอาหารมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสรวิศที่พูดอยู่คนเดียว มีภาธรขานรับในบางคำถามเท่านั้นส่วนปวริศาก็ภาวนา

    Last Updated : 2025-03-19
  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 2 เงา

    “มีอะไรมาแลกเปลี่ยนล่ะ หัวใจเธอไม่เอาแล้วนะ มันไม่มีราคา” ถ้อยคำนี้ยิ่งกว่ามีคนเอาค้อนมาทุบศีรษะเสียอีก เขากำลังเปรียบว่าหัวใจเธอไร้ค่าสินะ“อยากได้อะไร หวานให้หมด”ภาธรนึกขันยิ่งนัก การยื้อเวลามันเปล่าประโยชน์ บุรุษตัวโตถอยห่างโดยไม่ได้ตอบอะไร พร้อมนึกสนุกกับสิ่งที่ร่างบางคิดจะทำเมื่อถึงเวลากลับ สรวิศก็เดินมาส่งลูกชายถึงหน้าบ้าน“ถ้าเป็นเยอะไปหาหมอนะเจ้าธร อย่าปล่อยไว้” ถึงจะวางสีหน้าเรียบ ครั้งนี้ภาธรขานรับ“ครับ”แล้วคนสูงอายุที่สุดก็หันไปหาลูกสะใภ้“หนูหวานจะอยู่ค้างที่นี่หรือ” เพราะแทนที่จะไปยืนข้างลูกชาย เจ้าหล่อนกลับมายืนข้างๆเขาแทนเหมือนมายืนส่ง“ค่ะ”“ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนลุงหรอก กลับไปดูแลเจ้าธรที่บ้านเถอะ”ถึงอยากจะแย้ง ทว่าดูจากสถานการณ์แล้วทำตามคงดีที่สุด เพื่อไม่ให้ท่านสงสัยได้ หญิงสาวเดินตามภาธรมาขึ้นรถและนั่งเงียบจนใกล้จะถึงที่หล่อนต้องการลง“หวานจะขอลงตรงปากซอย” เพราะตอนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว ที่สำคัญมันก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องทนนั่งอึดอัดไปตลอดทาง และเธอก็ไม่อยากให้เขารู้ที่อยู่ปัจจุบันด้วย“ไม่อยากจะกลับบ้านฉันแล้วหรือ…ไปทำหน้าที่ที่พ่อฉันอยากให้ทำ”“

    Last Updated : 2025-03-27
  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่2เงา 02

    “เสร็จแล้วก็กลับไป”แทนที่ได้รับเอกสารนั้นคืนแล้วจะกลับ ปวริศากลับยังไม่ยอมขยับเท้า ตอนนี้เขาต้องการจะล้มตัวลงนอนเป็นที่สุด เพราะใกล้จะพยุงตัวเองไม่ได้แล้วที่ปวริศายังไม่ไป เพราะใจเจ้ากรรมดันอยากจะถามถึงอาการเขาเสียงนั้นก็ต้องกลืนหายไปในลำคอเพราะมีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา ทำเอาใจเซล้ม“ใครมาหรือคะธร”“พนักงานเอาเอกสารมาให้เซ็นครับ” ถึงภาธรจะไม่เอ่ยชื่อ เสียงที่หวานปานระฆังแก้วแบบนี้หล่อนจำได้แม่นว่าคือ มาติกา…อดีตคนที่เขารักและคงยังรักจนถึงปัจจุบันเนื้อตัวและหัวใจของหญิงสาวชาไปทั่ว พร้อมกับคำสบถที่ก่อขึ้นในใจ เธอยังเจ็บไม่จำ อยากจะไปห่วงหาเขาทั้งที่เขาไม่เคยต้องการ เธอมันโง่เองไม่ได้เจ็บแค่นั้น สถานะที่เขาให้ก็เจ็บไม่แพ้กัน พนักงานส่งเอกสารหรือ...“หรืออยากจะเข้ามา” ไม่พูดเปล่า ภาธรยังคว้าข้อมือเล็กทำท่าจะดึงให้เข้าห้อง สีหน้าแววตาของเขาดูกรุ้มกรุ่มด้วยความร้ายอย่างไม่อาจจะคาดเดาได้“หวานไม่เข้า”หล่อนสะบัดมือออกแล้วรีบเดินหนี เธอก้าวไปให้ไว้ที่สุดและทันทีที่พ้นจากสายตาเขา หญิงสาวก็เกือบจะทรงตัวไม่อยู่เจ้าหล่อนก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วบอกตัวเองว่าอย่าให้เขาชนะ เพราะรู้ว่าบุรุษใจร้ายต้อง

    Last Updated : 2025-03-27
  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่2เงา 03

    “ในเมื่อเลือกจะทำให้หวานเจ็บแล้ว ก็ช่วยดูแลตัวเองดีๆ หน่อยได้ไหมคะ”“ห่วงฉัน อยากให้ฉันหาย?” เขาถามพร้อมเลิกคิ้วขึ้น และคำตอบก็คือการพยักหน้าของปวริศาไม่นานนัยน์ตาดำขลับของภาธรก็วาวขึ้น ก่อนจะก้มลงไปแนบชิดใบหน้าหวานละมุนแต่ติดเศร้าพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของเจ้าหล่อน“งั้นช่วยเป็นป่านให้ฉันสักวันสิ”ไม่พอยังจงใจยิ้มยั่ว ซึ่งประโยคนี้มีพลังทำลายล้างได้เป็นอย่างดี“จะทำลายหัวใจของหวานไปถึงไหน” แทบน้ำตาไหล ดีที่ห้ามมันอยู่“จนกว่าจะมอดไหม้” ภาธรสวนกลับอย่างไม่ไยดียิ่งเงยหน้าสบตาปวริศาก็ยิ่งเจ็บลึก บางทีก็นึกอยากจะเอามีดมากรีดแหวกหัวใจภาธรดูว่ายังเต้นหรือไม่ ทำไมถึงใจร้ายเยี่ยงนี้“เลือกมา ไม่งั้นก็กลับไป”“ถ้านี่คือการชดใช้ คืนนี้หวานจะเป็นคุณป่านให้คุณ”“ตกลง”เพียงจบคำ

    Last Updated : 2025-03-28
  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 3 ใจปลิว

    “หวานขอโทษที่ยังอยู่ให้เห็นค่ะ”ตะกอนอารมณ์นั้นคงเป็นเพราะเธอ พร้อมกับเร่งชักเท้าเดินตรงไปที่ประตู ภาธรกลับมาขวาง แถมพอขยับหนีก็ถูกเขารวบตัวไว้“จะทำอะไรหวานคะ ปล่อยหวานนะ หวานไม่เป็นคุณป่านให้คุณแล้ว” ปวริศาต่อต้านและทำสุดความสามารถที่จะหลุดจากอ้อมกอดที่มีแต่ทำให้เจ็บ“แสลงใจ?” เสียงเข้มร้องถาม สีหน้าวาววับไปด้วยเล่ห์กล แต่ก็มีความเยาะหยันออกมาให้เห็น“ค่ะ”เธอไม่คิดจะปฏิเสธในเมื่อมันคือความจริง ใครบ้างหากเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะไม่แสลงใจ “ถ้าพอใจคำตอบแล้วปล่อยหวานด้วยค่ะ การเป็นตัวแทนของหวานมันจบลงแล้ว”“ฮือ จบหรือ ไม่จบหรอก…ถ้าฉันยังไม่ยอม”“แต่หวานไม่เล่นด้วยแล้ว ปล่อยหวานค่ะ หวานจะกลับ” คราวนี้หล่อนเสียงแข็ง เพราะรู้แล้วว่าใช้ไม้อ่อนหรือน้ำเสียงวอนขอยังไง คนอย่างภาธรก็ไม่มีทางเห็นใจ“ก่อนกลับ ฟังอีกข่าวก่อนนะ งานแต่งกำลังถูกเลื่อนขึ้นให้เร็วกว่าเดิม” ถ้อยคำยืดยาวนี้เองที่ทำให้ร่างเล็กหยุดกึกไม่ต่างจากสวิตช์ไฟที่ถูกปิด

    Last Updated : 2025-03-29
  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทนำ

    บทนำ “พรุ่งนี้แล้วสินะที่ฉันจะหลุดพันธะนี้”เจ้าของเสียงอย่างภาธรก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างกายคนที่พูดด้วย ซึ่งนั่นก็คือ ปวริศา ภรรยาที่ได้มาด้วยความไม่เต็มใจหญิงสาวเม้มปากแน่น พร้อมกับต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ หล่อนรู้ถึงสิ่งที่ภาธรกำลังจะบอกดี ในเมื่อวันพรุ่งนี้คือ วันที่เขาและเธอจะหย่าขาดจากกันปวริศาเหลือบมองใบหน้าของคนพูด ก่อนก้อนสะอื้นจะวิ่งมาจุกอยู่ที่คอ เพราะทั้งน้ำเสียงและแววตาของภาธร มันสื่อได้ว่าเขาดีใจที่ได้เปลี่ยนสถานะเป็นวิวาห์ร้างไม่ได้มีความลังเลอยู่เลยสักนิดหญิงสาวยกยิ้มอย่างชอกช้ำ และเจ็บไม่ต่างจากมีฝูงมดมารุมกัดกิน ก่อนจะตอบเสียงสั่น“ค่ะ”“ยังอยากจะทำหน้าที่เมียอีกไหม ฉันจะได้ทนทำให้คืนนี้” พูดจบก็มีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏที่มุมปาก พร้อมกับสายตาเบนไปที่เตียงหญิงสาวส่ายศีรษะปฏิเสธพร้อมกัดปากแน่นกว่าเดิมจนรู้สึกได้ถึงความเจ็บ นั่นคงไม่ได้เจ็บมากไปกว่าหัวใจซึ่งบีบรัดตัวอย่างรุนแรง เพราะรู้ว่าเขากำลังสื่อถึงอะไร ทั้งแววตาและน้ำเสียงมันมีแต่ความเหยียดหยาม“ทำไมล่ะ ไม่ชอบหรือ หน้าที่นั้น”“คุณธรอย่าใจร้ายกับหวานสักวันจะได้ไหมคะ”“ใจร้าย…ฉันเคยทำแบบนั้นหรือหวาน…” ไม่เพียงพูดน้ำเสีย

    Last Updated : 2025-03-19
  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 1 แสนชัง

    บทที่ 1แสนชัง“ลาออก?”หลังจากอ่านรายละเอียดในจดหมายที่ถูกยื่นมาจากมือของปวริศา ภาธรก็ร้องถามและเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าไม่ได้ดูตระหนกตกใจราวกับคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้น“ค่ะ”“ไม่อยากอยู่ข้างฉันแล้วหรือหวาน” ชายหนุ่มถามอีกประโยคก่อนจะลอบยิ้มออกมา แววตาคมกริบฉายความร้าย“อีกไม่นานคนของคุณจะมาเริ่มงาน”เสียงสั่นตอบไปตามจริงและรู้ว่าชายหนุ่มรู้ถึงสิ่งที่หล่อนจะหมายถึง หญิงสาวไม่อยากอยู่ใกล้ให้ใจเจ็บ เพราะการถูกแทนที่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะทำใจได้ในเร็ววัน และการถอยห่างให้เขามีความสุขมันก็ถูกต้องแล้วที่สำคัญไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากชายหนุ่ม แม้กระทั่งหัวใจ เพราะรู้ว่าแม้ข้างๆ ใจของเขาก็ไม่ได้มีไว้ให้“กลัวจะบาดใจ?”ปวริศาเงียบ เพราะเขาพูดถูกเธอกลัวจะทนรั้งใจให้ไม่อิจฉาไม่ไหวตลอดสองปีที่อยู่ข้างเขาได้รับความเย็นชาและเงียบขรึม มันว่าเจ็บมากแล้ว ยิ่งตอนนี้ไร้สถานะ มันคงไม่ต่างจากไร้ตัวตน คงเหมือนมีมีดมาปักกลางอก“ฉันอนุมัติให้ไม่ได้หรอก แล้วใครจะสอนงานคนของฉันล่ะ”“หวานรู้ว่าคุณธรไม่ได้อยากให้หวานสอนงาน แต่จะทำให้หวานเจ็บ” หล่อนสบตาคู่คมกริบเพราะอยากมองให้เห็นถึงความจริงพานใ

    Last Updated : 2025-03-19

Latest chapter

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 3 ใจปลิว

    “หวานขอโทษที่ยังอยู่ให้เห็นค่ะ”ตะกอนอารมณ์นั้นคงเป็นเพราะเธอ พร้อมกับเร่งชักเท้าเดินตรงไปที่ประตู ภาธรกลับมาขวาง แถมพอขยับหนีก็ถูกเขารวบตัวไว้“จะทำอะไรหวานคะ ปล่อยหวานนะ หวานไม่เป็นคุณป่านให้คุณแล้ว” ปวริศาต่อต้านและทำสุดความสามารถที่จะหลุดจากอ้อมกอดที่มีแต่ทำให้เจ็บ“แสลงใจ?” เสียงเข้มร้องถาม สีหน้าวาววับไปด้วยเล่ห์กล แต่ก็มีความเยาะหยันออกมาให้เห็น“ค่ะ”เธอไม่คิดจะปฏิเสธในเมื่อมันคือความจริง ใครบ้างหากเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วจะไม่แสลงใจ “ถ้าพอใจคำตอบแล้วปล่อยหวานด้วยค่ะ การเป็นตัวแทนของหวานมันจบลงแล้ว”“ฮือ จบหรือ ไม่จบหรอก…ถ้าฉันยังไม่ยอม”“แต่หวานไม่เล่นด้วยแล้ว ปล่อยหวานค่ะ หวานจะกลับ” คราวนี้หล่อนเสียงแข็ง เพราะรู้แล้วว่าใช้ไม้อ่อนหรือน้ำเสียงวอนขอยังไง คนอย่างภาธรก็ไม่มีทางเห็นใจ“ก่อนกลับ ฟังอีกข่าวก่อนนะ งานแต่งกำลังถูกเลื่อนขึ้นให้เร็วกว่าเดิม” ถ้อยคำยืดยาวนี้เองที่ทำให้ร่างเล็กหยุดกึกไม่ต่างจากสวิตช์ไฟที่ถูกปิด

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่2เงา 03

    “ในเมื่อเลือกจะทำให้หวานเจ็บแล้ว ก็ช่วยดูแลตัวเองดีๆ หน่อยได้ไหมคะ”“ห่วงฉัน อยากให้ฉันหาย?” เขาถามพร้อมเลิกคิ้วขึ้น และคำตอบก็คือการพยักหน้าของปวริศาไม่นานนัยน์ตาดำขลับของภาธรก็วาวขึ้น ก่อนจะก้มลงไปแนบชิดใบหน้าหวานละมุนแต่ติดเศร้าพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูของเจ้าหล่อน“งั้นช่วยเป็นป่านให้ฉันสักวันสิ”ไม่พอยังจงใจยิ้มยั่ว ซึ่งประโยคนี้มีพลังทำลายล้างได้เป็นอย่างดี“จะทำลายหัวใจของหวานไปถึงไหน” แทบน้ำตาไหล ดีที่ห้ามมันอยู่“จนกว่าจะมอดไหม้” ภาธรสวนกลับอย่างไม่ไยดียิ่งเงยหน้าสบตาปวริศาก็ยิ่งเจ็บลึก บางทีก็นึกอยากจะเอามีดมากรีดแหวกหัวใจภาธรดูว่ายังเต้นหรือไม่ ทำไมถึงใจร้ายเยี่ยงนี้“เลือกมา ไม่งั้นก็กลับไป”“ถ้านี่คือการชดใช้ คืนนี้หวานจะเป็นคุณป่านให้คุณ”“ตกลง”เพียงจบคำ

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่2เงา 02

    “เสร็จแล้วก็กลับไป”แทนที่ได้รับเอกสารนั้นคืนแล้วจะกลับ ปวริศากลับยังไม่ยอมขยับเท้า ตอนนี้เขาต้องการจะล้มตัวลงนอนเป็นที่สุด เพราะใกล้จะพยุงตัวเองไม่ได้แล้วที่ปวริศายังไม่ไป เพราะใจเจ้ากรรมดันอยากจะถามถึงอาการเขาเสียงนั้นก็ต้องกลืนหายไปในลำคอเพราะมีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา ทำเอาใจเซล้ม“ใครมาหรือคะธร”“พนักงานเอาเอกสารมาให้เซ็นครับ” ถึงภาธรจะไม่เอ่ยชื่อ เสียงที่หวานปานระฆังแก้วแบบนี้หล่อนจำได้แม่นว่าคือ มาติกา…อดีตคนที่เขารักและคงยังรักจนถึงปัจจุบันเนื้อตัวและหัวใจของหญิงสาวชาไปทั่ว พร้อมกับคำสบถที่ก่อขึ้นในใจ เธอยังเจ็บไม่จำ อยากจะไปห่วงหาเขาทั้งที่เขาไม่เคยต้องการ เธอมันโง่เองไม่ได้เจ็บแค่นั้น สถานะที่เขาให้ก็เจ็บไม่แพ้กัน พนักงานส่งเอกสารหรือ...“หรืออยากจะเข้ามา” ไม่พูดเปล่า ภาธรยังคว้าข้อมือเล็กทำท่าจะดึงให้เข้าห้อง สีหน้าแววตาของเขาดูกรุ้มกรุ่มด้วยความร้ายอย่างไม่อาจจะคาดเดาได้“หวานไม่เข้า”หล่อนสะบัดมือออกแล้วรีบเดินหนี เธอก้าวไปให้ไว้ที่สุดและทันทีที่พ้นจากสายตาเขา หญิงสาวก็เกือบจะทรงตัวไม่อยู่เจ้าหล่อนก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วบอกตัวเองว่าอย่าให้เขาชนะ เพราะรู้ว่าบุรุษใจร้ายต้อง

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 2 เงา

    “มีอะไรมาแลกเปลี่ยนล่ะ หัวใจเธอไม่เอาแล้วนะ มันไม่มีราคา” ถ้อยคำนี้ยิ่งกว่ามีคนเอาค้อนมาทุบศีรษะเสียอีก เขากำลังเปรียบว่าหัวใจเธอไร้ค่าสินะ“อยากได้อะไร หวานให้หมด”ภาธรนึกขันยิ่งนัก การยื้อเวลามันเปล่าประโยชน์ บุรุษตัวโตถอยห่างโดยไม่ได้ตอบอะไร พร้อมนึกสนุกกับสิ่งที่ร่างบางคิดจะทำเมื่อถึงเวลากลับ สรวิศก็เดินมาส่งลูกชายถึงหน้าบ้าน“ถ้าเป็นเยอะไปหาหมอนะเจ้าธร อย่าปล่อยไว้” ถึงจะวางสีหน้าเรียบ ครั้งนี้ภาธรขานรับ“ครับ”แล้วคนสูงอายุที่สุดก็หันไปหาลูกสะใภ้“หนูหวานจะอยู่ค้างที่นี่หรือ” เพราะแทนที่จะไปยืนข้างลูกชาย เจ้าหล่อนกลับมายืนข้างๆเขาแทนเหมือนมายืนส่ง“ค่ะ”“ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนลุงหรอก กลับไปดูแลเจ้าธรที่บ้านเถอะ”ถึงอยากจะแย้ง ทว่าดูจากสถานการณ์แล้วทำตามคงดีที่สุด เพื่อไม่ให้ท่านสงสัยได้ หญิงสาวเดินตามภาธรมาขึ้นรถและนั่งเงียบจนใกล้จะถึงที่หล่อนต้องการลง“หวานจะขอลงตรงปากซอย” เพราะตอนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว ที่สำคัญมันก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องทนนั่งอึดอัดไปตลอดทาง และเธอก็ไม่อยากให้เขารู้ที่อยู่ปัจจุบันด้วย“ไม่อยากจะกลับบ้านฉันแล้วหรือ…ไปทำหน้าที่ที่พ่อฉันอยากให้ทำ”“

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 1 แสนชัง03

    ดวงตาของปวริศาฉายแววตัดพ้อ แต่ก็ไม่ได้หันกลับไป เพราะมันคงไม่สามารถแทงทะลุทะลวงเข้าไปข้างในใจของภาธรได้ ปวริศาเลือกที่จะเดินต่อไปแถมยังก้าวเร็วๆภาธรกดยิ้มร้ายก่อนจะหมุนตัวกลับไปมองยังนอกหน้าต่างอีกหน พร้อมความเครียดที่ผ่านเข้ามาในหัวให้ต้องคิดทบทวนอีกรอบถึงแม้ภาธรจะยอมรับข้อตกลงแล้ว ปวริศาก็ยังอดกังวลไม่ได้ เนื่องจากกลัวว่าเขาจะไม่มา หญิงสาวมาชะเง้อคอยที่หน้าบ้าน ในตอนนี้อาหารทุกอย่างได้ปรุงเสร็จอย่างเรียบร้อยแล้วรอยยิ้มบางๆผุดขึ้นเมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามาในบ้านแล้ว ยอมรับว่าโล่งใจเป็นที่สุด แต่มันก็เป็นแค่เปลาะแรกเท่านั้น“ทำไมวันนี้ไม่รับโทรศัพท์พ่อเลยเจ้าธร”ใบหน้าของสรวิศมีรอยยิ้มขณะเข้าไปทักทายลูกชาย แม้ประโยคที่ถามจะน้อยใจ มันก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะรู้ดีว่าเขาไม่มีสิทธิ์ จากความสัมพันธ์พ่อและลูกที่ไม่ได้คืบหน้าภาธรไม่ตอบได้แต่วางสีหน้าเรียบเฉยด้วยไม่อยากให้สถานการณ์ตึงเครียด ผู้เป็นพ่อจึงหยุดการซักถาม “ไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้หนูหวานทำของโปรดของแกไว้ให้”บทสนทนาบนโต๊ะอาหารมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสรวิศที่พูดอยู่คนเดียว มีภาธรขานรับในบางคำถามเท่านั้นส่วนปวริศาก็ภาวนา

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 1 แสนชัง02

    เสียงที่หลุดออกมาจากริมปากหยักได้รูป ทำให้ภาธรกระตุกยิ้มอย่างได้ใจไม่นานอาภรณ์ที่อยู่บนตัวของปวริศาก็ค่อยๆหลุดออกมาจากตัวทีละชิ้น แม้จะต่อต้าน ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จครั้งนี้ก็เหมือนกัน เธอดันไหล่กว้างให้ออกห่าง กลับถูกแนบชิดมากกว่าเก่าเสียงจากริมฝีปากเล็กถูกปล่อยออกมาไม่หยุด ไม่ต่างจากภาธรที่หลุดคำรามออกมาเสียงต่ำเมื่อได้เข้าชิดจนเป็นหนึ่งการแสดงออกของเขามันเร่าร้อนราวกับต้องการเผาร่างเล็กให้ไหม้เป็นจุณ สะโพกยังขยับเคลื่อนไหวอยู่ตลอด มันร้ายยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด หยาดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้าของคนทั้งคู่ถึงมันจะอบอวลด้วยความหอมหวานในบางขณะ แต่บางครั้งก็อยากจะร้องไห้ เนื่องจากบทรักของเขามันร้าย ที่สำคัญมันดึงศักดิ์ศรีของหล่อนให้พังพินาศลงไปหมดในวินาทีนี้ความเสียใจจึงคืบคลานเข้าหาและปวริศาไม่รู้ว่าพายุลูกนี้จะจบลงอย่างไรกว่าเปลือกตาบางจะกะพริบถี่และเปิดขึ้นก็เป็นช่วงสายของเช้าวันใหม่ ในห้องนี้เหลือไว้แต่ความมืดเพราะม่านสีทึบยังถูกปิดและทิ้งกลิ่นจางๆของควันบุหรี่ ซึ่งคงมาจากเขา“ฮึก…”ปวริศาริมฝีปากสั่นระริกอย่างคนพ่ายแพ้ น้ำตาที่เหือดแห้งไปมันกลับมาอีกหน ครั้งนี้หนักกว่าเก่า เพราะในครั้

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทที่ 1 แสนชัง

    บทที่ 1แสนชัง“ลาออก?”หลังจากอ่านรายละเอียดในจดหมายที่ถูกยื่นมาจากมือของปวริศา ภาธรก็ร้องถามและเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าไม่ได้ดูตระหนกตกใจราวกับคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้น“ค่ะ”“ไม่อยากอยู่ข้างฉันแล้วหรือหวาน” ชายหนุ่มถามอีกประโยคก่อนจะลอบยิ้มออกมา แววตาคมกริบฉายความร้าย“อีกไม่นานคนของคุณจะมาเริ่มงาน”เสียงสั่นตอบไปตามจริงและรู้ว่าชายหนุ่มรู้ถึงสิ่งที่หล่อนจะหมายถึง หญิงสาวไม่อยากอยู่ใกล้ให้ใจเจ็บ เพราะการถูกแทนที่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะทำใจได้ในเร็ววัน และการถอยห่างให้เขามีความสุขมันก็ถูกต้องแล้วที่สำคัญไม่คิดจะเรียกร้องอะไรจากชายหนุ่ม แม้กระทั่งหัวใจ เพราะรู้ว่าแม้ข้างๆ ใจของเขาก็ไม่ได้มีไว้ให้“กลัวจะบาดใจ?”ปวริศาเงียบ เพราะเขาพูดถูกเธอกลัวจะทนรั้งใจให้ไม่อิจฉาไม่ไหวตลอดสองปีที่อยู่ข้างเขาได้รับความเย็นชาและเงียบขรึม มันว่าเจ็บมากแล้ว ยิ่งตอนนี้ไร้สถานะ มันคงไม่ต่างจากไร้ตัวตน คงเหมือนมีมีดมาปักกลางอก“ฉันอนุมัติให้ไม่ได้หรอก แล้วใครจะสอนงานคนของฉันล่ะ”“หวานรู้ว่าคุณธรไม่ได้อยากให้หวานสอนงาน แต่จะทำให้หวานเจ็บ” หล่อนสบตาคู่คมกริบเพราะอยากมองให้เห็นถึงความจริงพานใ

  • เจ้าสาวในรอยชัง   บทนำ

    บทนำ “พรุ่งนี้แล้วสินะที่ฉันจะหลุดพันธะนี้”เจ้าของเสียงอย่างภาธรก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างกายคนที่พูดด้วย ซึ่งนั่นก็คือ ปวริศา ภรรยาที่ได้มาด้วยความไม่เต็มใจหญิงสาวเม้มปากแน่น พร้อมกับต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ หล่อนรู้ถึงสิ่งที่ภาธรกำลังจะบอกดี ในเมื่อวันพรุ่งนี้คือ วันที่เขาและเธอจะหย่าขาดจากกันปวริศาเหลือบมองใบหน้าของคนพูด ก่อนก้อนสะอื้นจะวิ่งมาจุกอยู่ที่คอ เพราะทั้งน้ำเสียงและแววตาของภาธร มันสื่อได้ว่าเขาดีใจที่ได้เปลี่ยนสถานะเป็นวิวาห์ร้างไม่ได้มีความลังเลอยู่เลยสักนิดหญิงสาวยกยิ้มอย่างชอกช้ำ และเจ็บไม่ต่างจากมีฝูงมดมารุมกัดกิน ก่อนจะตอบเสียงสั่น“ค่ะ”“ยังอยากจะทำหน้าที่เมียอีกไหม ฉันจะได้ทนทำให้คืนนี้” พูดจบก็มีรอยยิ้มจางๆ ปรากฏที่มุมปาก พร้อมกับสายตาเบนไปที่เตียงหญิงสาวส่ายศีรษะปฏิเสธพร้อมกัดปากแน่นกว่าเดิมจนรู้สึกได้ถึงความเจ็บ นั่นคงไม่ได้เจ็บมากไปกว่าหัวใจซึ่งบีบรัดตัวอย่างรุนแรง เพราะรู้ว่าเขากำลังสื่อถึงอะไร ทั้งแววตาและน้ำเสียงมันมีแต่ความเหยียดหยาม“ทำไมล่ะ ไม่ชอบหรือ หน้าที่นั้น”“คุณธรอย่าใจร้ายกับหวานสักวันจะได้ไหมคะ”“ใจร้าย…ฉันเคยทำแบบนั้นหรือหวาน…” ไม่เพียงพูดน้ำเสีย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status