เสียงหนึ่งดังสะท้อนดังเข้ามาในหัวอย่างช่วยไม่ได้ มันเป็นเหตุผลข้อแรก ๆ ที่ทำให้เธอหงุดหงิด ไม่เข้าใจว่าทำไมนักธุรกิจพันล้านอย่างปัถฐกรถึงว่างมาเป่าหูเธอตั้งแต่เมื่อวานก่อนนี้ ก่อนจะมาจ๊ะเอ๋เข้ากับอาจารย์ป้อง
“แล้ว... เนยอยากได้กลิ่นอะไร?”
“เนยไม่ให้ค่ะ ไม่อยากได้สักกลิ่น...” ในน้ำเสียงเด็ดขาด มือเรียวรวบช้อนส้อมพร้อมความรู้สึกเบื่อผัดกะเพราขึ้นมา เธอยกจาน แก้วน้ำไปล้างให้โดยไม่ยอมคุยกับเขา อีกคนก็เดินตามไปรวบเอวบางไว้ในอ้อมแขน
“ปล่อยเนยค่ะ ไปไหนก็ไปเลยไปไกล ๆ” เธอไล่เขาทันที ขณะตาคมหลุบมองตามใบหน้าสดสวยบึ้งตึงหนัก เกยคางไว้บนไหล่มนอย่างออดอ้อน
“มาทำเป็นงอน... ถามอะไรก็ไม่ค่อยจะพูดมาตั้งแต่เมื่อวานเพราะอย่างนี้นี่เอง มีคนมาเป่าหูเนย”
“ไม่มีค่ะ เนยไม่ใช่ผู้หญิงหูเบา”
เธอตั้งหน้าตั้งตาล้างจาน ใจนึกอยากฟาดฝ่ามือพิฆาตบนหน้าระรื่นนั่นให้หายเจ็บแค้น! ตัดพ้อต่อว่าถามเขาว่าทำไมต้องมีความลับกับเธอ แต่ขนาดปัถฐกรทำร้ายเธออย่างสาหัสสากรรจ์กว่าหลายเท่า สาวน้ำใจงามอย่างเณศรายังไปจัดเค้กงานแต่งให้หน้าตาเฉย
“อย่าโกรธพี่เลยนะ พี่กลัวที่สุดคือเนยเมินพี่... ถ้าพี่ทำอะไรผิด พี่ทำให้เนยไม่พอใจ... ขอโทษนะครับเนย ขอโทษ...”
หญิงสาวผ่อนลมหายใจออกมา “แล้วทำไมเนยต้องให้อภัยทุกคนที่ทำร้ายเนยด้วยคะ? อยากรู้เหตุผลสักข้อ...”
“พี่บอกไปแล้ว ที่จริงไม่อยากพูดให้คนอื่นฟังเลย” เขาผลัดถอนหายใจตามคนตัวเล็ก เธอเลื่อนสายตาจากจานแก้วสีขาวในน้ำใสสะอาด เอี้ยวคอหาผู้ชายตัวโต
“พี่นั่งตรงนั้นมานานแค่ไหนกัน แอบปลื้มสาวคนนึงแม้ว่าเธอจะมีแฟนแล้วมานานแค่ไหน เนยไม่เคยเห็นพี่ในสายตา ขนาดนายปัดยังบอกว่าพี่ควรจะนั่งโง่ ๆ ตรงนั้นต่อไป”
ใบหน้าสดสวยเห่อร้อนเพราะถ้อยคำที่ได้ยิน ความรู้สึกหลายอย่างปนเปกันไปหมด ทว่ามันก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ
“เลิกพูดเรื่องเก่าได้แล้วค่ะ เนยจะไปรู้ไหมล่ะคะ?”
“พี่ถึงต้องบอกอีกหลาย ๆ รอบไงครับ เนยจะได้ไม่ไปฟังคนอื่นพูดมากกว่าฟังพี่”
เรียวปากหนาหยักได้รูปขยับยิ้ม ก่อนที่วงหน้าหล่อเหลาจะโน้มลงประกบริมฝีปากอิ่ม เณศราไม่ได้ขัดขืนแต่ปิดตาลงเขย่งปลายเท้าตามเหมือนกับว่าเธอกำลังรอคอยจูบนี้ รับรู้รสชาติอ่อนหวานผ่านริมฝีปากหนาที่ผละออกไปช้า ๆ โดยมีเธอเป็นฝ่ายไล่ตามคนจากไป
ป้องเกียรติลูบศีรษะน้อยเบา ๆ ปลอบประโลมเธออีกครั้ง เขาจูบไรขมับและเส้นผมนุ่มหอม ประคองใบหน้าของเธอไว้ในอุ้งมือ ค่อยโน้มตัวลงกระซิบ
“อย่าหงุดหงิดอาจารย์ป้องเลยนะครับ”
หัวใจดวงน้อยสั่นไหว เหลวละลายไม่มีชิ้นดี ไม่ต่างจากฟองสีขาวในมือที่กำลังแตกตัวคราถูกสายน้ำไหลผ่าน เณศราเชื่อว่าเขาไม่ได้โกหก เมื่อเขาส่งยิ้มหวาน เก็บจัดจานเรียบร้อยโดยไม่ปล่อยให้เธอทำแล้วพาไปนั่งลงที่บนเก้าอี้ตัวเดิม
“เนยไม่อยากยุ่งกับคนบ้านนั้นตั้งแต่พวกเขาแต่งงานกัน เนยอโหสิกรรมให้แต่ว่าต่างคนต่างอยู่ ตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งไม่เฉียดใกล้อีก ถึงเนยจะเป็นคนใจกว้าง ใครทำร้ายเนยไม่เคยว่า...”
“พี่ก็ไม่ได้สนิทกับที่บ้าน พี่ออกมาอยู่ของพี่เองตั้งนานแล้ว แต่พี่กลัวเนยไม่คุยกับพี่เลยไม่กล้าบอกเรื่องนี้”
“แต่พวกเขาดูถูกเนย... พ่อแม่เนย”
“พี่จะไม่ให้ใครทำแบบนั้นกับเนยอีกต่อให้เป็นพ่อแม่พี่ เนยเชื่อใจพี่นะครับ”
นัยน์ตาคู่หวานคมใต้แว่นกรอบหนาเอ่อคลอน้ำหยดใส ร่างสูงในเชิ้ตสีเข้มหล่อเหลานั่งยองลงกับพื้น จับมือเปียกน้ำเช่นเดียวกับมือของเขามากุมไว้ เหมือนคนจะคุกเข่าขอแต่งงาน ดราม่าพระเอกเกาหลีในซีรีส์ยังชิดซ้าย!
“เนยครับ...”
“เนยเข้าใจแล้วค่ะไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไม่จำเป็นต้องขอโทษด้วยเพราะว่าพี่ไม่ได้ทำอะไรผิด พรุ่งนี้เช้าเราค่อยเจอกันนะ วันนี้เนยจะกลับบ้านไปนอนกับแม่”
“ไม่โกรธพี่จริง ๆ ใช่ไหมครับ?”
หญิงสาวเพียงฝืนยิ้มออกมา “ไม่โกรธเลยค่ะ... ไม่โกรธเลย”
“ขอบคุณครับเนย... แต่พี่...” เสียงเข้มขึ้นทำอึกอัก จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนใจไม่พูด “ไม่มีอะไรครับ ไปกันเถอะ พี่ไปส่ง...”
“เนยกลับเอง...”
“ไม่ได้ครับดึกแล้วอันตราย... พี่จะขับรถไปส่ง”
บางเรื่องที่เขาไม่ยอมนั้นเณศราคงไม่สามารถขัดใจ เธอเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายในเล็กขึ้นพาดบ่ารอให้เจ้าของห้องหยิบกุญแจรถยนต์เพื่อไปส่งเธอที่บ้าน
คนบอกว่าไม่โกรธแต่ทำหน้าตาบึ้งตึงใส่ ไลน์ไปก็ไม่ตอบบอกว่านอน ลึก ๆ แล้วเธออาจมีเรื่องค้างคาใจเกี่ยวกับครอบครัวของเขา ป้องเกียรติไม่สบายใจ ตื่นแต่เช้ามืดมาชะโงกคอมองหาแฟนสาว หน้าประตูบ้านที่เปิดอ้าออกกว้างด้วยระบบอัตโนมัติ รอจนกระทั่งลูกสาวเจ้าของบ้านเดินออกมา ยกกระเป๋าสะพายใบโปรดพาดบ่า
ในเดรสความยาวประหัวเข่า คอเสื้อทรงสี่เหลี่ยมเผยให้เห็นเนินอกเนียน ที่คาดผมน่ารักเป็นแบบผูกข้าง ผมสีน้ำตาลเป็นลอนเข้ากับเครื่องสำอางอ่อนสีชมพูทำให้เธอสวยหวานเหมือนตุ๊กตา
คนขับรถอดทนข่มอารมณ์ไว้ภายใน ขณะทำหน้าที่สุภาพบุรุษเปิดปิดประตูให้เรียบร้อย วางกระเป๋าของเธอไว้ข้างหลัง ใจดีคาดเข็มขัดนิรภัยให้ ถัดจากที่นั่งของเขา
“ขยันแต่งตัวสวยไปไหนทุกวันครับ”
“ไปทำงานค่ะ เป็นสาวเป็นนางสวยไว้ก่อนมีชัย แม่บอกว่างี้” เธอจงใจกวนประสาท ถึงรู้ว่าอีกคนขี้หวงขนาดไหน เมื่อรถเคลื่อนตัวจากหมู่บ้านไปช้า ๆ
“บ้านเนยสวยจัง... เสียดายคุณพ่อคุณแม่ไปทำงานแล้วพี่ไม่ได้เข้าไปไหว้ เมื่อวานมาส่งก็นอนกันหมดละ”
“บ้านเนยไม่มีอะไรหรอกค่ะ พ่อแม่พี่ปัดเคยบอกว่าบ้านเนยเล็กเท่ารูหนู พ่อแม่พี่ก็... ไม่ได้ชอบเนยเท่าไรนะคะ เนยเจอพวกเขาที่งานแต่งค่ะ”“พี่ขอโทษแทนคุณพ่อคุณแม่พี่ด้วยนะ พี่ไม่สบายใจเลย”“ไม่เป็นไรค่ะเนยเข้าใจ”เป็นตรงกันข้ามเลยต่างหาก เณศราไม่รู้ว่าควรเข้าหน้ากับทางบ้านของฝ่ายชายยังไง เธอรู้สึกอึดอัดนอนก่ายหน้าผากมาทั้งคืน เขาก็น่าจะรู้จึงไลน์ถามไม่เลิก“คือพี่ไม่สนิทกับพ่อแม่ครับ ออกจากบ้านมาอยู่คนเดียว หัวเดียวกระเทียมลีบ ตอนไปเมืองนอกพี่ก็ทำงานหาค่าขนมเอง ทุกวันนี้ใช้หนี้ทุน ไม่เคยขอเงินใครสักบาท”“พี่ไปเมืองนอกเมื่อไรหรือคะ?”“ประมาณเรียนตรีปีสองได้ทุนครับ แล้วสอบต่อยาว ๆ เลย พี่เรียนเก่ง เรียนอย่างเดียวจริง ๆ นะไม่ว่อกแว่ก พวกเขาน่ะมีเงินแต่ว่าเขาไม่ให้ พ่อบอกว่าต้องทำธุรกิจที่บ้านเท่านั้นถึงมีสิทธิ์ใช้เงินที่บ้าน แต่น้องสาวพี่ก็ไม่เห็นจะทำอะไรนะ เรียนหนังสือไม่จบ ลอยไปลอยมา มีวิยอมแต่งงานให้พ่อ ส่วนปลาน้องสาวคนเล็กยังไม่แต่ง รับปากกับพ่อว่าจะแต่งให้ ถ้าหาเขยเข้าบ้านอีกสักคนได้ล่ะมั้ง”น่าสงสาร... แก้ตัวเป็นชุด พูดไฟแล่บเชียว“เนยเสียใจด้วยนะคะกับเรื่องนี้”“ไม่เป็นไร พี่ชินแล้วครับ
“ห้ามซนนะคะอาจารย์ป้อง สำรวจได้ทุกซอกมุม แตะได้ทุกอย่างในห้องนี้... ยกเว้นตัวเนย ลูกน้องขึ้นมาเห็นเข้าจะไม่งามค่ะ อดทนหน่อยนะคะ”“แล้วจะขึ้นมายืนเปลี่ยวกันสองคนกับขนมปังทำไมล่ะเนี่ย... เซ็ง”“เนยชักไม่แน่ใจแล้วว่าโดนหลอกหรือเปล่า” ว่าพลางหยิบกล่องพลาสติกจากชั้นวางของเพื่อห่อกลับไปทานที่บ้าน เธอใส่ขนมคุกกี้ลงไปหลายชิ้น แววตาคู่คมปลาบประกายหลงใหลทั้งคนทั้งขนมอยากจับกินให้หมด!มีหรือเณศราจะไม่รู้...“พี่ชอบเนยพี่ก็อยากกอดอยากจับอยากจูบ พี่รู้สึกดี แต่ถ้าเนยบอกให้หยุดพี่หยุดทุกครั้ง... เป็นผู้ชายคนอื่นเนยโดนปล้ำไปละครับ”“อายุเท่านี้อยากมีครอบครัวคงไม่แปลกค่ะ ถ้าไม่อยากมีน่ะสิแปลก เรื่องหื่นนี่ก็ไม่แปลก...”ถึงปากต่อว่าสารพัดเรื่องของคนหื่น! เธอยังนึกถึงปากท้องผู้ชายที่เอาหัวใจดวงน้อย ๆ ไป“วันนี้พี่อยากกินอะไรคะตอนบ่าย เนยทำกับข้าวใส่กล่องไปให้ไหมคะ? หรือจะกินด้วยกันก่อนพี่ไปสอน”ป้องเกียรติยิ้มกว้างแค่นึกถึงอาหารฝีมือว่าที่ภรรยา “ผัดผักหรืออะไรดีนะ... เอ...”แล้วเขาก็ขัดคำสั่งห้ามในห้องทำงานอันทรงเกียรติ เข้าไปโอบคนตัวเล็กทั้งร่าง ซุกปลายจมูกบนไรผมหอม ซึ่งหญิงสาวมองตาขวางในทันที“กินเนย
เณศราใจกว้างมากพอยอมรับเรื่องที่อาจารย์ป้องเป็นพี่ชายของรวิตา เธอยังยินดีที่จะไปบ้านของเขาด้วย แม้มีความขุ่นข้องหมองใจคงเก็บไว้ภายใน“ขอบคุณนะครับ... พี่นึกว่าเนยจะไม่มาหาพี่แล้ว”“ต้องมาสิคะ เนยเชื่อว่าพี่ป้องคงมีเหตุผลของตัวเอง อยากทำอะไรเอาตามใจพี่เถอะ เนยอยู่เพราะอยากอยู่” แต่ถ้าไปก็จะไปด้วยตัวเอง... ประโยคหลังนั้นเธอไม่ได้พูดไปให้อีกคนไม่สบายใจ ขณะที่สีหน้าของเขาไม่ค่อยดี คิ้วเข้มหนาเรียงชิดติดกันตรงหว่างกลางหน้าผากผูกเป็นปม“เนยหิวเนยกินก่อนเลยนะ พี่ว่าจะนอนหน่อย ปวดหัว...”“เป็นอะไรไหมคะ ไปหาหมอไหม?” ถามอย่างเป็นห่วง พอผู้ชายตัวโตทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาตัวนุ่ม วางศีรษะลงนอนหนุนตักนิ่มแทนหมอน เธอหรี่ตาเล็กลงจนเหยียดตรงอย่างไม่ไว้วางใจ“ไม่ได้เป็นโรคสำออยแน่นะคะ?”“ไมเกรนครับ... เวลาจ้องคอมฯนาน ๆ นอนน้อยติดกันหลายวันพี่ปวดหัวประจำ”ป้องเกียรติไม่ถือสาเรื่องที่เธอหาว่าเขาสำออยหรอกเพราะเขาก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ขณะมือหนาเลื่อนขึ้นคว้ามือเรียวขาวมาวางไว้บนหน้าอก ฉีกยิ้มกว้างหวานเหมือนไม่เป็นอะไร“ผู้ชายคนนี้ชอบเรียกร้องความสนใจ... ไม่น่าเชื่อนะคะว่าจะป่วยเป็น”“พี่จะป่วยมากกว่านี้อีกครับถ้
กลับมาถึงบ้านสักพักแล้วเธอก็ยังนึกถึง...ท่อนเนื้อหน้าตาประหลาดที่ผลุบเข้าออกจากปาก มันแข็งใหญ่หนาเทอะทะ เส้นเลือดปูดโปนเต็มไปหมด รสชาติก็ไม่ค่อยจะดีเวลาทะลวงไปถึงคอหอย ทว่าพอสบสีหน้าเร่าร้อนของคนที่กัดกรามส่งเสียงคำรามลั่น ทำน้ำสีขาวขุ่นเลอะเทอะไปทั้งหน้าทั้งตัวเธอ หัวใจกลับเต้นรัวแรง“ผู้ชายอะไรบ้ากามที่สุด คนอุตส่าห์เป็นห่วง...” แต่เธอก็ยอมทำเรื่องแบบนั้นให้เขาเนี่ยนะ หน้าไม่อาย!ใบหน้าสดสวยแดงก่ำเพราะอารมณ์ประหลาดรุมเร้า พอ ๆ กับความโกรธตัวเองที่ใจอ่อนยอมเขาเหมือนทุกครั้ง มือสับเนื้อไก่ไม่ยั้งจนมันเละละเอียดก่อนโยนลงหม้อระบายอารมณ์ แกงกะทิเดือดผุดสาดกระเซ็นทันที นั่นทำให้เธอก้มหน้าลงมองหยดน้ำบนเสื้อ และพื้นเปรอะเปื้อน...กรี๊ดดดด! ทำไมฉันต้องทำแกงข่าไก่! เณศราได้แต่กรีดร้องในใจ แล้วก็คิดเข้าไปอีก!“ไม่ทำกับข้าวดี ๆ คะ? คุณลูก แม่เห็นนะ... เช็ดให้เรียบร้อยล่ะที่ทำพื้นเปื้อนน่ะ”คุณแม่กำลังรดน้ำต้นไม้ เดินมาบ่นว่าลูกสาวที่ฉีกยิ้มกว้างหวาน“ค่ะแม่ เดี๋ยวเนยจัดการเองค่ะ”จากนั้นเธอค่อยสงบสติอารมณ์ทำกับข้าวมื้อเย็น หุงข้าวสุกสวย ตักอาหารวางใส่จาน คลุมไว้ด้วยฝาครอบบนโต๊ะรับประทานอาหารท
“คบกันมานานหรือยังล่ะ?”“ผมตามจีบน้องมาสี่เดือนแล้วครับ”“เอ๊ะ... พอดีกับที่เลิกกับตาปัดหรือเปล่า?”“ครับ แต่ผมเจอน้องก่อนหน้านั้นนานมาก ๆ ครับแค่ไม่กล้าเข้าไปทัก”คุณแม่มองดูอาจารย์หนุ่มหน้าตาดีมีภูมิฐาน ท่าทางมีการศึกษา แม้ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอ ก็ต้องช่วยกันกันคุณพ่อที่นั่งทำหน้าเป็นยักษ์อยู่ตรงหัวโต๊ะ“อ้อแล้ว... อาจารย์เป็นข้าราชการหรือคะ? บรรจุนานหรือยัง หรือว่ามาสอนชั่วคราวคะ?”“ผมทำงานใช้ทุนก.พ.ครับ เป็นหนี้เขาเยอะทั้งตรี โท เอก บรรจุข้าราชการแล้ว ทำงานมาหลายปีแล้วครับ กำลังจะขอรองศาสตราจารย์ปีหน้า...”คนถูกยิงคำถามรัว ๆ ยังเจริญอาหารดี มาถึงนี่ก็ต้องรีบทำคะแนน ผู้ใหญ่ถามอะไรเขาก็ตอบมีแค่เรื่องครอบครัว ที่ยังไม่มีใครถามเพราะเรื่องราวของตัวเขาเองค่อนข้างจะเยอะยาวเล่ากันได้หลายวันอาหารหน้าตาน่ารับประทานทั้งหมดบนโต๊ะมีแกงข่าไก่ ไข่ยัดไส้ ไก่ทอดเกลือ ต้มยำปลากะพงฝีมือเณศรานั้นถูกปากทุกคน นั่งชมไม่ขาดว่าอร่อย ทว่าตัวคนทำกลับทานไม่ได้เยอะ คล้ายกับว่าเธอกลัวอะไรสักอย่าง“เป็นอาจารย์ก็ดีนะครับ สาว ๆ มหา’ลัยเยอะสิ”“ตาผมไม่ดี สายตาสั้นมากเลยมองไม่ค่อยเห็นสาว ๆ เท่าไร ทุกวันนี้ไม่เห็นใค
หลังผ่านการยอมรับของคุณพ่อคุณแม่ ป้องเกียรติไม่รีรอทำคะแนนว่าที่ลูกเขย มาทานข้าวเย็นที่บ้านเป็นประจำ ขณะที่ปัถฐกรรีบบึ่งรถขอโทษทุกคนพร้อมบอกเหตุผลที่จำเป็นต้องแต่งงานด้วยท่าทางสำนึกผิดจากใจจริงเป็นปัญหาครอบครัวใครก็ของคนนั้น ไม่เกี่ยวกับบ้านนี้แล้วแม้เคยสนิทสนมกัน คุณแม่เองก็หนักใจเมื่อชายหนุ่มยังขอเป็นเพื่อนของเณศราต่อไป ไหนจะมีเรื่องของอาจารย์ป้องว่าเขาเป็นลูกใคร อย่างไรคงหนีกันไม่พ้น“ผมคงดูใจร้ายที่ยอมไม่กลับบ้าน แต่อะไรที่น้องมีผมไม่เคยได้ เรื่องอะไรที่ผมไม่ผิด ผมก็ต้องผิด... ขนาดน้องเดินมาตบหน้าผม ผมก็ผิด...” เสียงทุ้มบอกผู้ใหญ่ทั้งสองให้เข้าใจเหตุผลของเขาบ้าง ก่อนจะเอี้ยวคอมองคนข้างหลัง“เนยคงไม่ตบพี่ใช่ไหมครับ?”“โธ่... อาจารย์ป้องน่ารักน่าสงสารขนาดนี้ ใครจะตบลงคะ เนยไม่กล้าทำร้ายพี่หรอกค่ะ” พูดพลางวางพักมือไว้บนบ่ากว้าง ส่งยิ้มหวานให้อาจารย์หนุ่มที่เงยหน้าขึ้นหา เธอยืนอยู่ข้างหลังผู้ชายตัวโตหลังนำน้ำขนมมาเสิร์ฟแขกบริเวณม้าหินในสวนหย่อมหลังบ้านบรรยากาศร่มรื่น บ้านหลังใหญ่มีน้ำพุและบ่อปลา สวนหย่อมเล็ก ๆ เต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีฝีมือคุณพ่อ ต่างคนนั่งทานขนมคุกกี้ บัตเตอร์เค้กของเ
ขึ้นรถแล้วเณศราเผลอหลับไปพักใหญ่ เธอรู้สึกตัวตื่นตอนได้ยินเสียงคลื่น ได้กลิ่นของไอน้ำเค็ม คนขับถึงบอกว่าพรุ่งนี้มีสัมมนาแต่เช้าเลยพาเธอมาด้วย เขาพาเธอเช็คอินเข้าที่พักรีสอร์ตที่พักอากาศดีติดริมทะเล ลากกระเป๋ามาถึงห้องนอนแบ่งเป็นสัดส่วนแยกกับห้องครัว ห้องรับแขก ทั่วทั้งห้องตกแต่งด้วยไม้สีน้ำตาลเข้มคล้ายบ้านสไตล์ไทยประยุกต์แนวโมเดิร์น“จะพาเนยมาเซอร์ไพรส์ทำไมไม่บอกคะ? เนยจะได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย”อาจารย์หนุ่มส่ายหน้าพรืด “ฮื้อออ! ต้องใส่ที่ไหนเล่าเสื้อผ้าน่ะ แล้วเซอร์ไพรส์มันก็ต้องเป็นความลับสิครับ”“พี่ป้อง… มาทำหื่นใส่เนยอีกแล้วนะ” เธอกัดริมฝีปากทำตาเขียวใส่คนที่ฉีกยิ้มกว้างหวาน เข้ามากอดหอมฟอดใหญ่ค่อยปล่อยเธอไปเณศราอยู่ในกางเกงยีนขาดเสื้อยืดสีชมพูหวาน ผ่านแผ่นหลังกว้างในเชิ้ตสีขาวครีม ก้ม ๆ เงย ๆ เก็บกระเป๋าเข้าตู้ไม้สำหรับเก็บของ แขวนเดรสตัวสวยลายดอกไม้ เสื้อผ้าชุดใหม่มีเสื้อคอกลมทรงกระโปรงเหมือนชุดคลุมท้องแต่ดูท่าทางว่าจะสวมสบายทรงเดียวกับชุดนอนลายหมีที่บ้าน“ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้เนยอีกแล้วหรือคะ? ซักรึยัง...”“ซักแล้ว ซื้อมาอีกสองสามชุดครับ รองเท้าด้วย น่ารักดี”รองเท้าแตะหูหนีบมี
แสงจันทร์นวลสลัวส่องผ่านหน้าต่างกระจกบานสูงใหญ่ ตกกระทบลงบนแก้มแดงซ่าน ในภาพพร่าเลือนเมื่อไร้แว่นกรอบหนา คงไม่มีอะไรชัดเจนสักอย่างนอกเสียจากความโกรธงอนบนวงหน้าหวานงามป้องเกียรติสติขาดผึง! ตั้งแต่เธอดึงเขาเข้าไปตะบมจูบอย่างดูดดื่มแล้ว ทว่าในวงแขนเล็กอันทรงพลัง คนไร้เหตุผลอย่างเขายอมหยุดและฟัง...“พี่ป้องขา...”“ครับเนย...”เธอเรียกเขาก็มักจะตอบอย่างรวดเร็วเสมอ ท่ามกลางเสียงคลื่นลมซัดเข้าหาฝั่ง กลิ่นอายของท้องทะเลและบรรยากาศเป็นใจ คนเล็กตัวประทับริมฝีปากบางบนกรามแกร่งอย่างแสนรัก เอ่ยน้ำเสียงอ้อนหวาน“เนยไม่ได้อยากเป็นคุณนาย เนยแค่อยากตื่นเช้ามาอบเค้กทุกวัน มีชีวิตแสนเรียบง่ายกับรอยยิ้มของลูกค้าที่บอกว่าเค้กอร่อย กับอาจารย์ป้อง... อืม... ตอนนี้เนยมีความสุขจัง ตอนพี่ป้องไม่งอแงกับเนยเนี่ย”“พี่อยู่คนเดียวมาตลอด... พี่เบื่อ... พี่กลัวเนยกลับไปหาเขาแค่ไหนเนยไม่รู้...”“เนยก็เบื่อค่ะ เบื่อเวลาพี่ป้องพูดไม่รู้เรื่อง น้อยใจอะไรนักหนา เนยมีแต่พี่นะ”“ไม่ได้น้อยใจ”“น้อยใจอยู่นี่ไงคะ หัวก็ยังไม่ล้านประหลาดคน เรื่องอนาคตมันยังไม่เกิด คิดไปปวดหัวเปล่าค่ะ”ข้อเท็จจริงนั้นอีกคนคงไม่เห็นด้วยเพราะเขา
งานหมั้นเช้าแต่งเย็นดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ด้วยความที่บ่าวสาวไม่ได้มีญาติเยอะ มีแขกมาร่วมงานไม่ถึงห้าสิบคน รวมเพื่อนร่วมชั้นสมัยเรียนอีกไม่กี่คน เรียกได้ว่าเป็นงานผูกข้อมือเล็ก ๆ ไม่ใช่งานแต่งเอิกเกริกซุ้มประตูดอกไม้ เพลงรักยอดฮิตในยุค 70s เคล้าคลอไปกับเสียงคลื่นลมของรีสอร์ตริมทะเล แม้แต่อาหารและสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กก้อนโตยังตามใจคู่บ่าวสาว เดรสลายลูกไม้ชายลากยาวบนผืนทรายเข้ารูปทรงสมส่วน เสื้อสีขาวสะอาดคอลึกผ่าหลังเผยให้เห็นผิวขาวสวยทำเจ้าบ่าวตากระตุกน้อย ๆ ทว่าอาจารย์หนุ่มก็ลืมมันไปได้ เมื่อวันนี้เป็นวันสำคัญวันที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในชีวิตใบหน้าหวานงามแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อนใต้รอยยิ้มเอียงอายที่มีให้ชายเพียงคนเดียว หน้าท้องเนินนูนเพียงเล็กน้อยคงไม่มีใครสังเกตเห็น ป้องเกียรติกำลังพึงพอใจกับบรรยากาศนี้ ขณะที่เธอบอกกับทุกคนผ่านไมโครโฟนว่ามากันสามคน พ่อแม่ลูก “เธอเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด เป็นคุณแม่ที่ผมรักที่สุด ขอบคุณทุกคนที่มาร่วมอวยพรให้ผมกับเนยนะครับ”เสียงปรบมือดังในลานกว้าง เธอสวย... ขนาดที่เขาละวางตาไปไม่ได้เสียเลย เขาจับจูงมือเธอไปบอกลาทุกคนหลังงานเลี้ยงสิ้นสุดลงญาติทา
เหตุการณ์สะเทือนขวัญยังหลอกหลอนยามหลับฝัน บางคืนเธอยังสะดุ้งตื่นกลางดึกด้วยความหวาดกลัว ทว่าพอพบสบตาคม อ้อมแขนอุ่นกลิ่นหอมสะอาด กลับแน่ใจถึงความปลอดภัยว่าไม่มีใครมาทำร้ายเธอได้ “พี่ป้อง... ตัวหอมจังค่ะ ตัวพี่อุ่นมาก เนยนอนหลับสบายจัง” “เนยก็หอมครับ ทำพี่หลับไม่สบายสักวันถ้าไม่ได้อึ้บเมีย” เงียบไป ใต้รอยยิ้มกรุ้มกริ่ม มือหนาลูบศีรษะน้อย ลากวนเข้าไปในเส้นผมสีน้ำตาลสลวยอย่างย่ามใจ ในความเงียบงันของห้องอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ต่างคนไร้เสื้อผ้าแม้สักชิ้นห่อหุ้มกาย คลุมไว้ด้วยผ้านวมหนาในอ้อมกอดกัน เป็นเรื่องปกติที่เธอจะปรารถนาในตัวเขามากขึ้นทุกวัน ยิ่งเป็นคุณแม่ท้องอ่อนฮอร์โมนทำร้าย “เนยต้องพักผ่อนนะ เดี๋ยวลูกไม่โตทำไง” “โตซี พี่ฉีดสารเร่งโตให้ทุกวัน” คนทะลึ่งก็อย่างนั้น เขาก้มหน้าลงประทับจุมพิตบนขมับเนียน ผุดรอยยิ้มกว้างหวานเต็มวงหน้าใต้โคมไฟสลัว “เอ... ตัวเล็ก... ผู้หญิงหรือผู้ชายนะ?” “จะรู้ไหมคะ? คงเป็น... ผู้ชายมั้ง...” “พี่อยากให้ชื่อฟ่อน เงินฟ่อน ชิฟฟ่อน ชื่อเล่นนะเจ้าลูกฟ่อน... ถ้า
เพราะมีคนเผลอทำตัวเปิ่น ๆ ในโรงพยาบาล ส่งเสียงดังลั่นห้องฉุกเฉินให้คุณพยาบาลหัวเราะกันยกใหญ่ แต่ก็เข้ามาแสดงความยินดีพร้อมผลตรวจของคุณหมอ เซ็นอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านอย่างสบายใจ เณศราไม่รู้เอาหน้าไปไว้ที่ไหน เธอดีใจที่จะได้เป็นคุณแม่ มีลูกน่ารัก ๆ สักคนกับว่าที่สามีไม่สนเรื่องแต่งก่อนแต่งหลังหรอก ในขณะที่ยังมีเรื่องไม่สบายใจพอได้ยินบางคนโทรไปด่าน้องสาวยกใหญ่ ผ่านลำโพงในรถยนต์ สายประชุมครบพ่อแม่พี่น้อง แม้แต่พ่อแม่ของเธอเองเขาโทรบอกให้ทุกคนรับทราบวีรกรรมของคนคนเดียว ที่ไม่สมควรได้รับการให้อภัย“ก็ให้ท้ายกันไงครับถึงได้โตมาสันดานแบบนี้ ผมไม่ยอมแล้วผมจะไม่ถอนฟ้องแทนเมีย ไม่รับค่าเสียหาย ให้อีสองคนนั้นไปนอนคุกอย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วทำได้ทุกอย่าง ผมมีเพื่อนเป็นทนาย นักโซเชียลเยอะเหมือนกัน ดี... จะได้เอาปี๊บคลุมหัวกันให้หมดทั้งบ้านเวลาออกไปข้างนอก ขอให้หุ้นตก บริษัทฉิบหายย่อยยับนะครับ”เป็นชุด! มากกว่านี้ยังมีเรื่องของหุ้นส่วน เงินหมกเม็ด ภาษีที่จ่ายไม่ครบ คนขุดได้ก็ขุดมาทั้งเรื่องและเขาพร้อมจะแฉทุกอย่างให้พินาศย่อยยับ จนคุณพ่อขอไกล่เกลี่ยยอมขอว่าเขาอยากได้อะไร คนปากหนัก
ห้องเงียบเชียบให้ความรู้สึกเงียบเหงากว่าทุกวัน อาจารย์หนุ่มรออาหารมื้อเย็นจากแม่ครัวที่ยังไม่กลับบ้านสักที แต่งตัวเรียบร้อยด้วยเชิ้ตสีดำสนิทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเครื่องใหญ่ งานสอนก็ค่อนข้างยุ่ง ต้องตรวจงานนักศึกษาไปด้วยระหว่างอธิบายการเขียนคำสั่งคอมพิวเตอร์ หลายอย่างวนเวียนในหัว ขมวดคิ้วมุ่นตั้งใจทำงานตลอดเวลาหลายคนในคลาสตั้งใจเรียนผิดปกติจนหมดชั่วโมงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแสบ ทำขยิบตาผ่านกล้องเหมือนมีปัญหาสักอย่างแต่ไม่กล้าพูด ส่งเป็นข้อความมาบอกแทน...‘She’s in Danger!’บอกใบ้มาเป็นภาษาอังกฤษให้ตีความอีกต่างหาก คนเป็นอาจารย์สงสัยอยู่พักหนึ่ง นึกหงุดหงิดคนส่งข้อความมาให้เป็นปริศนาคาใจ ก่อนตกใจเป็นอย่างมากแทบทำห้องเรียนล่ม เรื่องใหญ่กว่าคือคาบสอนนี้เป็นบันทึกเทปย้อนหลังซึ่งเขาไม่สามารถปิดโทรศัพท์กลางกลางคันได้เป็นโชคดีที่แก๊งนายเปี๊ยกดันออกจากห้องเรียนไปก่อน ส่วนคนสอนทำได้แต่นับเวลาถอยหลัง ภาวนาให้บันทึกการสอนจบเร็ว ๆ พูดจาติดขัดเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อตัวป้องเกียรติพอคาดการณ์ได้ว่าเกิดเรื่องอะไร ด้วยความที่เขาคอยดูพฤติกรรมของอีกคนอยู่ตลอด เธอมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อคืนนี้ ทำท่
ถ้าผัวฉันย่องไปหาแกที่ร้านอีกครั้งเดียว แกได้เจอฉันตัวเป็น ๆ แน่นังเนย เมมเบอร์นี้ไว้ด้วยนะเพราะฉันไม่เตือนใครเป็นครั้งที่สอง‘รวิตา’เณศราได้รับข้อความจากคนที่ไม่รู้ว่าเอาเบอร์ของเธอมาจากไหน เธอไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครจึงใจคอไม่ค่อยดี นอนพลิกไปพลิกมาบนท่อนแขนอุ่นที่หนุนนอนต่างหมอนทุกคืน หน้าตาครุ่นคิดด้วยความเป็นกังวล ตื่นมาแล้วออกไปทำธุระประปรัง เดินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ กลับเข้าบ้านมาสติไม่อยู่กับเนื้อตัวนัก ขณะที่คนเก่าส่งข้อความมาบอกกับเธอแค่...‘พี่อยากคุยกับเนยนะ’ทั้งที่บอกชวนผ่านเพื่อนสาวเรื่องงานผูกข้อมือมะรืนนี้ ประเด็นอื่นขอไม่พูดคุยกันอีก แปลกที่คนมีเหตุผลเป็นนักธุรกิจ เป็นลูกชายที่ดีของบ้านมาโดยตลอดกลับไม่พยายามเข้าใจเสียเลยจะอย่างไร เธอก็มีไม้กันหมาที่ดี ติดกว่าคนนี้ไม่มีแล้วในชุดคลุมอาบน้ำบนร่างกำยำส่งกลิ่นหอมอ่อน ลอยผ่านจมูกไป อาจารย์หนุ่มหุ่นล่ำคอยเดินยั่วยวน อวดสรีระเรือนกายของเขาที่อุตสาหะทำมาอย่างยากลำบาก บริโภคอกไก่ปั่นด้วยท่าทางกล้ำกลืนฝืนทน ซึ่งคนอยู่ด้วยกันยังไม่รู้ว่าเขาจะทำมันไปเพื่ออะไร ในเมื่อเธอยังไงก็รักเขาหมดใจไปแล้วอ้วนพุงพลุ้ย ก็ยังรัก หัวล้านแก
คนอยู่ด้วยกันทุกวันคงสังเกตเห็น เธอแค่ไม่รู้ว่าเขาจับอะไรตลอดเวลา“เนยต้องใส่ไว้ก่อนนะ คนเขาจะได้รู้ว่ามีเจ้าของแล้ว พี่ไม่ชอบเวลาใครมองเนย พี่หวง...”“แต่เนยชอบค่ะ เวลาพี่ป้องทำตาเขียว ๆ น่ะ”“ชอบโดนจัดหนักด้วยใช่ไหม?”“ไม่รู้ค่ะ...” เสียงหัวเราะคิกคักดัง หัวใจดวงน้อยเต้นรัวแรง เมื่อเขาบรรจงสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้าย ชักชวนให้ดูลอยสลักบริเวณรอบตัวแหวนN & P ดูจะเป็นไอเท็มคู่รักแนวแฟชั่นมากกว่าแหวนเพชรเม็ดโตในงานแต่งอลังการ ที่เคยเห็นบ่าวสาวสวมให้กัน“ขอบคุณนะคะพี่ป้อง... เนยจะรักษามันให้ดีทั้งสองชิ้นนี้ สร้อยกับแหวนของพี่... ชอบมากเลยค่ะ”เธอชอบมันที่สุด... ชอบผู้ชายคนนี้ที่สุดเณศราเม้มปิดริมฝีปากของเธอสนิทแน่น หยดน้ำใสเอ่อคลออย่างอดกลั้นไม่ไหว ก่อนที่ร่างสูงในเชิ้ตสีดำสนิทจะโน้มตัวลงหาเธอเชื่องช้า ประกบเรียวปากอิ่มงามแผ่วเบาแล้วผละออกประทับจุมพิตบนขมับเนียน“พี่รักเนยนะ”คนมีความรักมักหน้าเด็กทุกคน มองอะไรก็เป็นสีชมพู เห็นจะจริงกล่องข้าวน่ารักในแต่ละวันของเณศราประดิดประดอยด้วยผักหลากสีสัน เธอใช้ตราปั๊มลายตุ๊กตาในการทำอาหารเช่นข้าวญี่ปุ่นหุงร้อนเป็นหมีน้อย ห่มคลุมด้วยไข่เจียว ราดน้ำซอส
ป้องเกียรติไม่ทำให้คนตัวเล็กผิดหวัง แม้แต่ช้อนตัวเบา ๆ เข้าออกช่องทางอ่อนนุ่มที่โอบรัดแก่นกาย มันกลืนกินตัวตนของเขาได้ดีเยี่ยมไม่ต่างจากว่าเป็นครั้งแรกของกันและกันบางครั้งก็ดิบเถื่อน! เมื่อร่างกายได้รับการเติมเต็มหลังห่างหายกันไปไม่กี่วัน แต่ยังคงอ่อนหวาน สอดประสานหลังมือเรียวที่จิกกำแน่น หลังแอ่นก้นรอรับความแข็งขึง ขยันขยับสะโพกสอบถี่ระรัว ปล่อยให้มังกรร้ายผลุบเข้าออกอย่างไม่ละวางจังหวะลง จะให้คนใต้ร่างได้หายใจหายคอยังไม่มีเณศราได้รับจุมพิตจากเขาที่ไม่เคยรู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย หน้าขาสั่นเทากระแทกกับขอบโต๊ะ หากว่าเธอทำท่าจะลุก คงถูกผลักลงให้นอนราบบนกินข้าว มือหนาปัดป่ายของกระเด็นไปคนละทิศละทาง ทั้งถุงพลาสติก ขวดแม็กกี้ เขาไม่สน! ว่าอะไรจะหล่นเละเทะเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาแรมปีแววตาคู่สวยเอ่อคลอหยดน้ำใส ช่องท้องวูบไหวตามเสียงเสียบสับของเนื้อกระทบกันพาอารมณ์ของเธอถึงขีดสุด ถึงว่าที่สามีจะดุดันป่าเถื่อนสักหน่อย เธอกลับนึกชอบพอในความเป็นตัวเขา สะโพกงามงอนจิกเกร็ง“พี่ป้องขา... เนยไม่ไหวค่ะ!”“ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย... ทำไมเสร็จไวจังครับ อืม... อูยส์ เนยรัดพี่แรงแบบนี้ไม่ดีนะ”คนพูดจาทะล
ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงเหมือนโกรธงอนกันสักเรื่องซึ่งเขารู้ จึงผละจากคนตัวเล็กไปคว้าผ้าเปียกหมาดบนเคาน์เตอร์ครัวมาโยนลงบนโต๊ะรับประทานอาหารอย่างเอาเรื่องเอาราว“เอาหน่อยสิ แต่ว่าต้องทำงานให้เนี้ยบกว่านี้นะ ทำไมเช็ดโต๊ะเช็ดครัวไม่สะอาด ยังมีคราบแม็กกี้เนี่ย...”“ไหนคะ?” ถามหน้ายุ่ง มือหยิบผ้าสีขาวได้ก็ส่ายคอมองตามปลายนิ้ว เพื่อหารอยคราบบนผ้าปูโต๊ะลายดอกไม้น่ารัก เณศราซื้อมาคลุมโต๊ะให้เจ้าของห้องเองเพราะมันสามารถมองหาคราบเปื้อนได้ง่ายแต่ในเมื่อมันไม่มี...“ตรงนั้นไง เมื่อกี้พี่เช็ดไปแล้วเนยดู...”“ไม่เห็นมีเลย เนยว่าเนยเช็ดหมดแล้วนะ”“ก้มต่ำ ๆ ดูให้ดีครับ”ก้มต่ำ! เธอหันขวับมองคนข้างหลังทันที แต่พอจะอ้าปากต่อว่า ผู้ชายตัวโตคว้าหมับจับสันคอเธอกดลงบนโต๊ะไม่ต่างจากว่าเธอเป็นผู้ร้าย ปลายเท้าเรียวทั้งสองจิกลงบนพื้นพยายามเขย่งตัว หน้าอกอวบอัดและแก้มของเธอเบียดบี้ไปกับกระจกเย็นเฉียบ“พี่ป้อง... ทำอะไรคะ?”“ช่วยเมียเช็ดโต๊ะ ตรงนั้นไง...”“...”มือเรียวกำผ้าเปียกหมาดแน่นจนน้ำกระเซ็นเปื้อนบนโต๊ะอีกระลอก และก็คงจะไม่ได้เช็ด ทันทีที่แผ่นหลังบางเย็นวาบตามอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ เธอได้ยินเสียงปลดซิบไว ๆ
ฉีกยิ้มกว้างหวานให้เห็นไรฟันขาวครบทุกซี่ คนขับหันไปมองรอยยิ้มที่ตกเขาได้ตั้งแต่แรกเห็นนั่นแหละ แต่ปากดันไม่ตรงกับใจยังทำหน้าแหยง“ไม่สวยเลยอี๋... วันหลังอย่าให้ชุดนี้อีกนะเดี๋ยวนี้อ้วนพุงออกอะครับ คนเขามองพุงรู้ไหมเขาไม่ได้มองเจ้าของร้านสวย สงสัยว่าทำไมอ้วนขึ้นต่างหาก”“ฮะ? เนยอ้วนเหรอ...” เณศราเริ่มก้มหน้าดูสรีระตัวเอง หน้าท้องของเธอคงไม่ได้ยื่นยาวขนาดเขาว่า แค่โผล่ออกมาเล็กน้อยหลังรับประทานอาหารตามธรรมชาติคนทั่วไปแค่นั้น แต่นั่นก็ทำคนรักสวยรักงามเสียความมั่นใจสำเร็จ“เมื่อก่อนผอมกว่านี้นะ น้ำหนักขึ้นหรือเปล่า?”“อืม... ใส่สเตรย์รัดหน้าท้องก็น่าจะได้นะ ชุดแบบพอง ๆ หน่อยคงไม่เห็นว่ามีพุงมากมาย”“ไม่เอาลายดอก”“ตัวอื่นก็ได้ค่ะ วุ่นวายกับเสื้อผ้าเนยจริงนะ” ว่าตาขวาง เมื่อมาถึงจุดหมายในอีกไม่นานลานจอดรถโล่งเงียบในช่วงหัวค่ำ ชั้นใต้ดินไม่มีรถจอดมากนัก คนขับก็เลือกทำเลได้ดีห่างจากลิฟต์ไปเล็กน้อย นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนาประกายวูบวาบพาไรขนลุกชูชัน เธอกำมือทั้งสองบนหน้าตักอย่างเกร็ง ๆ เพราะว่าเขาไม่ปลดล็อกประตูรถยังไม่ดับเครื่องยนต์“พี่ป้อง... จะทำอะไรคะ?”“ทำอะไรก็ได้ครับไม่มีคนหรอก... ท