บทที่ 60 ไว้ทุกข์ 3 ปีงานศพของฮูหยินผู้เฒ่าของจวนเจ้าเมืองผ่านไปหลายวันแล้ว ในห้องพักของเขาท่านเจ้าเมืองฉินเจิ้ง เขาค่อยๆ หยิบรองเท้าและของเล่นเด็กที่เขาเคยซื้อมาก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายในครอบครัวของเขา จากนั้นเขานึกถึงลูกสาวตัวน้อยของเขา เขามองของเหล่านั้นด้วยความรู้สึกอ่อนแอและเต็มไปด้วยความคิดถึงฉากหนึ่งในความทรงจำของเขา ย้อนกลับไปเมื่อเขาได้พบกับมังกรทองชิงหลงในช่วงที่เขาเกือบเสียชีวิต มังกรทองชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดมากมายของเขา ท่ามกลางเปลวแสงทองอันเจิดจ้า มังกรชิงหลงจ้องตรงไปยังฉินเจิ้งด้วยสายตาคมกริบ"เจ้ารู้หรือไม่ว่าความผิดพลาดของเจ้าคืออะไร?" มังกรทองเอ่ยด้วยเสียงดังก้องที่ทำให้ฉินเจิ้งรู้สึกเล็กลง"ข้ารู้ว่าข้าเคยผิดพลาดมากมาย ข้าทำหลายสิ่งโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา" ฉินเจิ้งตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิดมังกรทองพยักหน้า "เจ้าคิดได้เช่นนั้นก็ถูกแล้ว เจ้าทำให้ลูกเมียของเจ้าต้องทนทุกข์เพราะความไม่รอบคอบของเจ้า"คำพูดของมังกรทองเหมือนคมดาบที่แทงเข้ามาในใจของฉินเจิ้ง เขารู้ดีว่ามันคือความจริงทุกประการ"แต่ข้ายังให้โอกาสเจ้า เพราะเจ้ามีความดีในตัว เจ้าเป็นบุตรกตัญญูที่ยังคง
บทที่ 61 ข่าวลือ / ลงพนัน ep 1 ท่านแม่ทัพซู่หลิงได้รับราชโองการที่ให้ตระกูลเฟิงจากเมืองอวี้ไห่เข้าพบองค์ฮ่องเต้ในเมืองหลวงเขาไม่รีรอ รีบเดินออกมาทันทีและตรงไปยังม้าทั้งสามตัวของเขา เจ้าม้านิลมังกรและเจ้าไป่หลิวและไป่อวิ่นนั้นดูทรงพลังและพร้อมเสมอสำหรับการเดินทางไกล เมื่อเขาควบม้ากลับสู่เมืองอวี้ไห่ เจ้าไป่หลิวและไป่อวิ่นที่เคยลากเกลือขนาดหนักมาก่อนคราวนี้ไม่มีของหนักให้ลาก เขาคิดว่าการเดินทางกลับรวดเร็วกว่าที่คาดไว้อย่างแน่นอนก่อนที่จะกลับถึงเมืองอวี้ไห่ ท่านแม่ทัพซู่หลิงแวะที่จวนของตนเองในเมืองหลวง ซึ่งเป็นจวนที่องค์ฮ่องเต้ประทานให้แก่เขาเมื่อครั้งที่เขาตีเอาดินแดนทางตะวันออกของแคว้นโจวที่ถูกชนเผ่านอกด้านพยายามเข้ามายึดครอง เขาใช้เวลาเพียงสามวันและแทบจะไม่เสียเลือดเนื้อของนายทหารเลยก็สามารถบุกยึดดินแดนกลับมาได้ โดยที่ชนเผ่านอกด้านนั้นโดนตีจนกระจุยกระจาย แทบจะไม่สามารถรวมตัวกันได้อีก และเขายังจับตัวหัวหน้าเผ่ากลับมาเป็นเชลยด้วย โดยบอกพวกเขาว่าหากว่ายังมารุกรานวุ่นวายดินแดนของแคว้นต้าโจวอีกเขาจำนำศีรษะของหัวหน้าเผ่ากลับไป และจะไล่ล่าพวกเขาทุกคนไม่เว้นแม้แต่ลูกเล็กเด็กแดง เขาจะฆ่าและ
บทที่ 62 ข่าวลือ / ลงพนัน ep 2ภายในราชวังนั้นก็สนุกสนานกันเต็มที่ส่วนด้านนอกวังประชาชนที่ได้รับข่าวลือนั้นต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันสนุก มีทั้งฝ่ายที่รับสารจากข่าวลือ มาแล้วเชื่อทันทีโดยไม่มีการ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ และฝ่ายที่ทันเกมส์รู้ว่านี่เป็นเพียงแผนการหนึ่งของเสนาบดีเจียงเฉินที่จะทำให้ตัวเองดูดี และยังเป็นการล้างมลทินให้กับอดีตฮูหยินเอกเจียงซิ่วเหยาด้วยนั้นเอง"เจ้ารู้หรือไม่ ข่าวลือนี้ทำให้ข้านึกถึงตำนานรักของท่านบัณฑิตหนุ่มรูปงามกับสาวงามที่เผชิญกับอุปสรรคมากมายในชีวิต ข้ารู้สึกเสียใจที่เรื่องราวของท่านเสนาบดีจบลงเช่นนี้" ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเสียดาย ขณะที่นั่งอยู่ในโรงน้ำชาเล็กๆ ในตลาดกลางเมืองหลวง"เสียใจอะไรกั้น!!! เจ้าไม่เห็นหรือว่ามันเป็นแค่การจัดฉากเพราะอยากให้นางกลับมา ข้าได้ยินข่าวเล็ดลอดออกมาจากข้างในวังว่า เขาต้องการสูตรเกลือเกล็ดหิมะขาวของตระกูลของนางนั่นต่างหาก" อีกคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงขำขัน และเอ่ยออกมาอย่างผู้รู้จริง ข้อมูลวงในนั้นแน่นมากประหนึ่งไปนั่งอยู่ข้างบัลลังก์ของฮ่องเต้ อย่างไรอย่างนั้น“เล่ามาข้าออกท้องที่เลยตกข่าวไปเรื่องราวมันเป็นมาอ
บทที่ 63 ราชโองการท่านแม่ทัพซู่หลิงใช้เวลาเดินทางวันกว่าๆ ก็ถึงเมืองอวี้ไห่แล้ว ขณะที่เขาขี่ม้านิลมังกรเข้าสู่ตัวเมือง เขาเห็นทัศนียภาพที่ต่างไปจากเดิมอย่างมากพอสมควร บ้านเมืองที่เคยเต็มไปด้วยฝุ่นและเศษขยะ บัดนี้กลับสะอาดสะอ้าน ชาวบ้านชาวเมืองต่างก็กระตือรือร้นทำความสะอาดลานบ้านของตัวเอง บ้างกำลังกวาดถนน บ้างกำลังซ่อมแซมรั้วที่ผุพัง ส่วนเหล่าแม่บ้านต่างก็เริ่มหาต้นไม้ ดอกไม้มาปลูกหน้าบ้านของตัวเองทุกคนต่างทำงานด้วยความตั้งใจและมีรอยยิ้มบนใบหน้า"ช่างประหลาดจริง ๆ" ท่านแม่ทัพซู่หลิงพึมพำกับตัวเอง ขณะมองดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เขารู้สึกได้ถึงความสามัคคีและความมุ่งมั่นของชาวเมืองที่อยากเห็นบ้านเมืองของพวกเขาดีขึ้นเมื่อเขาเดินลึกเข้าไปในเมือง สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้นไปอีกคือ เขาเห็นที่ด้านหน้าเรือนของทุกบ้านจะมีถังไม้เล็กสองใบวางอยู่อย่างเป็นระเบียบ ถังหนึ่งเขียนว่า "ขยะแห้ง" และอีกถังเขียนว่า "ขยะเปียก" ท่านแม่ทัพซู่หลิงถึงกับต้องหยุดมองด้วยความประหลาดใจ"ขยะเปียก ขยะแห้ง? นี่มันอะไรกัน?"เขาเอ่ยกับตัวเองเบาๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้คิดต่อไป ชาวบ้านผู้หนึ่งที่กำลังกวาดลานหน้
บทที่ 64 ปีนหน้าต่างเข้าหา!!หลังจากท่านแม่ทัพซู่หลิงกลับมาถึงเมืองอวี้ไห่และมอบราชโองการเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถูกเชิญไปพักที่เรือนใหม่ที่คุณหนูเฟิงจัดสร้างไว้ห่างจากเรือนหลักของคฤหาสน์ตระกูลเฟิงค่อนข้างไกล เพื่อความเป็นส่วนตัวและสะดวกในการพักผ่อน แต่แท้จริงแล้ว เรือนนี้มีอีกความหมายหนึ่งเรือนของท่านแม่ทัพซู่หลิงถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตและหรูหรา พื้นไม้ถูกขัดจนมันวาว ราวกับสามารถสะท้อนเงาของผู้เดินผ่านได้ หลังคาสูงโค้งเป็นสถาปัตยกรรมแบบโบราณ มีลวดลายมังกรสลักอยู่ตามขื่อและเสา ภายในเรือนมีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเรียบง่าย แต่ทว่ากลับเต็มไปด้วยความสง่างาม โต๊ะและเก้าอี้ถูกแกะสลักด้วยลวดลายดอกไม้และสัตว์มงคล บ่งบอกถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้สร้าง สวนข้างเรือนถูกตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากสีที่บานสะพรั่ง ให้บรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและคิดทบทวนสิ่งต่างๆ อย่างสงบ แม่ทัพซู่มองไปรอบๆ ด้วยความพอใจ...ก่อนจะเดินเข้าไปเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย..คืนนี้เขามีเรื่องสำคัญต้องทำ จำเป็นต้องหอมและสะอาดที่สุดนั้นเอง....ค่ำคืนนั้น ป้าจวงนั่งอยู่ในห้องของตัวเอง นางเปิดหีบใบใ
บทที่ 65 จอมโจรชราเด็ดบุปผาแก่ NC hot hot!!แม่ทัพซู่หลิงปรายตามองคนใต้ร่างที่มีหยาดน้ำตาคลอหน่วงตางามของนาง ก่อนจะหลุบสายตาคมกริบมองที่หน้าอกอวบของนางแทน มือหนาข้างหนึ่งค่อยๆ เอื้อมมาบีบขยำหน้าอกสาวเต็มแรง แรงบีบทำให้ยอดอกสีอิงฮวาของนางสั่นระริก..ประหนึ่งว่ามันกำลังสั่นสู้มือใหญ่ของแม่ทัพซู่หลิงนั่นเองหน้าอกสาวอวบใหญ่ขาวผ่องอยู่ตรงหน้า เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะบีบขยำมันรุนแรงเพื่อเป็นการทักทาย ริมฝีปากร้อนฉ่าเลื่อนมาจูบที่ลำคอระหงอย่างรุนแรงจนนางต้องร้องเตือน“อ๊ะ ยะ อย่านะ..เจ้ากล้ามโต อย่าทำแรง เดี๋ยวเป็นรอย!!”ซู่หลิงเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งเขาคิดว่านางจะห้ามเสียอีก นี่เพียงบอกว่าไม่ให้ทำเป็นรอย แปลได้ว่าอนุญาตนั้นเอง เช่นนั้นแล้วละก็ลุยเลยก็แล้วกัน เพราะตอนนี้กลิ่นหอมของนางนั้นมันโอบล้อมเขาจนแข็งขึงไปหมดแล้ว ริมฝีปากร้อนฉ่ากดลงที่ซอกคอขาวเนียนละเอียดก่อนจะออกแรงดูดดึงขบเม้มมันรุนแรงจนหล่อนขนลุกเสียวสยิว“อ๊ะ.. อ่า…ซู่หลิง..”นางไม่สามารถหักห้ามใจที่เต็มไปด้วยความปรารถนาแรงกล้าที่มีต่อเขาได้เพียงแค่ถูกปลุกเร้าเล็กน้อยร่างบางกลับอ่อนระทวยพร้อมพรักให้เขาชักจูงอย่างง่ายดายเสียแล้วร่าง
บทที่ 66 ตาบอดหลังจากท่านแม่ทัพซู่หลิงได้พักที่เรือนที่ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว เรื่องราวระหว่างท่านแม่ทัพและป้าจวงก็ได้เริ่มแพร่กระจายไปในคฤหาสน์ เฟิงซิ่วเหยาและเฟิงหย่าเสวี่ยได้ยินเรื่องนี้จากบ่าวในเรือน ทำให้พวกนางต่างตกใจและตื่นเต้นอย่างยิ่งเฟิงหย่าเสวี่ยหันมามองท่านแม่ของนางด้วยแววตาเจ้าเล่ห์“ป้าจวง...นี่ป้าจวงของเรา สามารถรวบหัวรวบหางท่านแม่ทัพซู่หลิงได้แล้วหรือเจ้าคะ?” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น"เออ...ลูกรัก..ลูกแม่ คือว่าเป็นท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพปีนหน้าต่างเข้าหาป้าจวง แล้วจะเป็นป้าจวงรวบหัวรวบหางท่านแม่ทัพได้อย่างไรกัน" เฟิงซิ่วเหยาเอ่ยแก้ไขให้ลูกสาวของนาง"ฮ่าฮ่าฮ่า!! เหมือนกันนั่นแหละเจ้าค่ะ ท่านแม่ตอนนี้ท่านแม่ทัพซูหลิงก็อยู่ในกำมือของป้าจวงของเราแล้ว ป้าจวงของเราจะกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่แล้ว ท่านแม่ทัพซู่หลิงทั้งมีอำนาจและมีทรัพย์สินมากมาย ป้าจวงของเราจะกลายเป็นเหมือนมังกรจวงติดปีกเลยทีเดียว!”เฟิงซิ่วเหยาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เช่นนั้นป้าจวงคงไม่ต้องเฝ้าดูแลเราสองแม่ลูกตลอดเวลาอีกแล้ว... ข้ารู้สึกยินดีจริงๆ ที่เห็นป้าจวงได้พบคนที่คู่ควรกับนาง”ในขณะนั้นเอง หลินเหมยก็เดินเ
บทที่ 67 ตระกูลเฟิงเข้าเฝ้าฮ่องเต้ก่อนที่จะเดินทางไปเมืองหลวง ตระกูลเฟิงได้ตระเตรียมของที่จะนำไปถวายแด่องค์ฮ่องเต้ ครั้งนี้ป้าจวงแนะนำว่าให้คุณหนูเล็กสร้างแหวนมิติขึ้นมาอีกวงและใส่โสมอายุพันปี เห็ดหลินจือ และไข่มุกเข้าไป 2-3 เม็ด ซึ่งหากจะเทียบราคาของที่จะนำไปถวายนั้นมีมูลค่าถึง 15 ล้านตำลึงก็ว่าได้ หากเทียบกับการประมูลเช่นครั้งที่ผ่านมา เป็นการประกาศศักดาของตระกูลเฟิงแห่งเมืองอวี้ไห่อย่างแท้จริง การจัดเตรียมของถวายที่มีคุณค่าเหล่านี้ยังเป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีและการตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณขององค์ฮ่องเต้ที่มีแคว้นต้าโจว้และต่อเมืองอวี้ไห่ด้วยเช่นกันป้าจวงยืนมองการจัดเตรียมด้วยสีหน้าที่เข้มงวด นางเอ่ยกับเฟิงหย่าเสวี่ย "ของที่จะนำไปถวายนี้ต้องมีคุณค่าและแสดงถึงความจริงใจของพวกเรา ข้าคิดว่าแหวนมิตินี้เหมาะสมที่สุด คุณหนูเล็ก ท่านคิดว่าอย่างไร?"เฟิงหย่าเสวี่ยพยักหน้า "ข้าเห็นด้วยเจ้าค่ะป้าจวง ของเหล่านี้ล้วนเป็นของหายากและมีคุณค่า คงจะสร้างความประทับใจให้กับองค์ฮ่องเต้ได้แน่นอน"ป้าจวงยิ้มบางๆ ก่อนจะกล่าวต่อ "แต่ของมีค่าเหล่านี้ไม่ใช่เพียงเพื่อแสดงความร่ำรวยของพวกเราเท่านั้นนะหย่าเส
ตอนพิเศษ 3 บทส่งท้ายแห่งความสุข EP 2 NC...“…อา อื๊อ อี้หลง”เจิ้งอี้หลงใช้ความจัดเจนดูดดุนปลายลิ้นกับทรวงอกอวบสวยทำให้นางแอ่นหน้าอกขึ้นมาด้วยเสียวซ่าน ขณะที่มืออีกข้างก็เขี่ยคลึงเล่นไปที่ปลายถันที่ยังว่างอยู่จนยอดแข็งชันสู้มือหญิงสาวส่ายร่างบิดไปมาบนที่นอนด้วยด้วยความกระสันซ่าน อารมณ์ปรารถนาของนางถูกปลุกเร้าจนตื่นเพริศ เนื้อตัวเร่าร้อนไปหมดนางปรารถนาเขาจริงๆ ส่วนเจิ้งอี้หลงนั้น เมื่อหญิงสาวตอบสนองและไม่หวงเนื้อหวงตัว เขาจึงจัดเต็มตามอารมณ์ที่เก็บกดไว้ ริมฝีปากของเขาหยอกเย้าดูดดุนอยู่ที่ปลายถัน ส่วนมือก็บีบเค้นปทุมถันอวบใหญ่แรงขึ้นจนผิวขาวๆ เริ่มเป็นจ้ำสีแดงตามรอยมือและปาก จนเมื่อเขาละริมฝีปากจากปลายถันก็เล็มไล้ไต่ลงมาที่เนินหน้าท้อง แล้วซุกไซ้จมูกและปากอยู่ที่สะดือสวย ก่อนจะใช้นิ้วเลื่อนลูบไปที่เนินเนื้อโหนกนูนที่บิดส่ายอยู่ใต้ร่างเขา“อ๊า…อี้หลงค่ะ ฉัน..”หญิงสาวสะดุ้งเฮือกขึ้นมา แล้วจับข้อมือชายหนุ่มไว้ เจิ้งอี้หลงยกยิ้มที่มุมปากและค่อยดึงมือของเขาออก และยกมือของนางมาจูบและรวบดูดปลายนิ้วเล็กเรียวแสนสวยนั้นเสียเลย เฟิงหย่าเสวี่ยตัวอ่อนระรวย ไม่มีแรงที่จะห้ามปรามเขาเสียแล้ว… (เฮ้อช่าง
ตอนพิเศษ3 บทส่งท้ายแห่งความสุข ep 1ค่ำคืนอันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้ายามราตรีเหนือพระราชวังต้าหมิงสว่างไสวไปด้วยแสงประกายของดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นสูง สาดส่องท้องฟ้าด้วยสีสันอันตระการตา เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องดนตรีพื้นบ้านผสมผสานกับเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะของเหล่าประชาชนที่มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและความปลื้มปีติภายในพระราชวังงานเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีแห่งการครองราชย์ของฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงกำลังดำเนินไปอย่างยิ่งใหญ่ ท้องพระโรงอันวิจิตรตระการตาประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสี เสนาอำมาตย์และขุนนางจากทั้งแคว้นต้าหมิงและแคว้นต้าโจวต่างมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมแสดงความยินดีและสรรเสริญความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสองแคว้นฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงประทับบนบัลลังก์แกะสลักมังกร พระพักตร์เปี่ยมด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ ขณะที่เฟิงฮองเฮา หรือเฟิงหย่าเสวี่ยนั่งเคียงข้างพระสวามี สวมอาภรณ์สีเหลือทองประดับประดาอย่างงดงามสมเกียรติสะท้อนความงดงามหยดย้อยของนางอย่างชัดเจน แววตาของนางแสดงถึงความมุ่งมั่นและความรักและความเมตตาที่มีต่อแผ่นดินและประชาชน"กระหม่อมขอกราบบังคมทูล" เสนาบดีอาวุ
ตอนพิเศษ 2 สองสุดยอดแพทย์แห่งยุคภายในห้องผ่าตัดขนาดกลางที่ถูกดัดแปลงอย่างพิถีพิถัน แสงจากโคมไฟหลากดวงส่องรวมตรงกลาง เผยให้เห็นเตียงผ่าตัดที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บนเตียงมีชายชราผู้สูญเสียขาจากสงครามนอนหลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาชา รอบข้างเต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ดูแปลกตาสำหรับแพทย์จำนวนไม่น้อยในยุคนี้วันนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่หลายคนต่างพูดถึง เพราะจะมีการผ่าตัดเพื่อใส่ขาเทียมให้กับผู้ป่วยที่ขาพิการโดยผู้นำการผ่าตัดคือนายท่านเฟิงหยวนเจี๋ย คุณชายหมอเทวดาซึ่งกำลังมีชื่อเสียงขจรขจาย และถือเป็นคุณชายเนื้อหอมมากๆ ผู้หนึ่งของแคว้นต้าหมิง และอีกผู้ยิ่งใหญ่อีกผู้หนึ่งก็คือฮองเฮาเฟิงหย่าเสวี่ย ซึ่งแม้ร่างกายเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน แต่ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของนางก็ไม่เป็นสองรองใคร และการผ่าตัดในครั้งนี้ก็เป็นการที่นางต้องการที่จะทำด้วย และวาระสำคัญเช่นนี้ฮ่องเต้ของทั้งสองแคว้นนั้นไม่รอช้าที่จะส่งนายแพทย์มาเพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งฮองเฮาเฟิงนั้นก็ยินดีที่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้ในการผ่าตัดครั้งนี้ด้วยเหล่าแพทย์ของจากทั้งสองแคว้นคือแคว้นต้าโจวและต้าหมิงรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ทางด้านหลังเพื่อศึกษาขั้นตอนในก
ตอนพิเศษ ครอบครัวสุขสันต์หลังจากที่เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นคืนสติ ข่าวดีนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วตอนนี้ทั้งประชาชนแคว้นอวี้ไห่และประชาชนแคว้นต้าหมิงต่างก็ความสุขที่ได้รับรู้ว่าเฟิงฮองเฮานั้นได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เมืองอวี้ไห่ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ดอกเหมยท้อบานสะพรั่งทั้งสวนส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ภายในสวนที่จัดแต่งเอาไว้อย่างงดงามนั้นมีเสียงหัวเราะและบทบทสนทนาของคนในครอบครัวเฟิงที่นั่งล้อมวงคุยกันอยู่ เฟิงหย่าเสวี่ยหลังจากฟื้นก็ได้รับการดูแลอย่างดีทั้งจากอาจารย์ของนาง ท่านป้าจวงและเฟิงหยวนเจี๋ยที่มักจะนำยาบำรุงชั้นเลิศที่เขาคิดค้นขึ้นมาสำหรับนางโดยเฉพาะมาให้ดื่มเสมอ ทำให้ร่างก่ายของนางนั้นแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว สมกับที่นางนั้นได้ตกอยู่ในมือของเหล่าหมอเทวดาจริงๆ"ท่านแม่" เฟิงหย่าเสวี่ยเอ่ยเรียกเฟิงซิ่งเหยาที่กำลังนั่งปักรองเท้าอยู่ในสวนดอกไม้ "ท่านแม่ดูอิ่มเอิบขึ้นมากเลยนะเจ้าคะ" เฟิงซิ่งเหยายิ้มอายๆ ขณะที่มือลูบท้องน้อยที่เริ่มนูนขึ้น"เสด็จพ่อของเจ้านี่สิ... ตั้งแต่รู้ว่าข้าตั้งครรภ์บุตรคนนี้ก็เอาแต่แพ้ท้องแทนข้า กินไม่ได้นอนไม่หลับวิงเวียนอยู่ตลอดเ
บทที่ 163 จนกว่าจะพบกัน.. (จบบริบูรณ์)แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างโรงพยาบาลในยุคปัจจุบัน เฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวากลับสับสนเล็กน้อย ราวกับจิตวิญญาณของนางยังคงล่องลอย เธอมองเพดานสีขาวสะอาดและพยายามดึงความทรงจำที่กระจัดกระจายกลับคืนมาเธอถูกพาออกจากโลกแห่งยุคโบราณและกลับมายังยุคปัจจุบัน ร่างกายของนางอ่อนแอแต่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความทรงจำอันเจ็บปวด นางนึกถึงผู้คนที่นางได้ช่วยเหลือและเสียสละเพื่อพวกเขา นึกถึงท่านแม่และเจ้าเล็กหากว่าพวกเขารู้ข่าวจะเป็นอย่างไรนะ…คงจะเศร้าเสียใจอย่างแน่นอน..ไหนจะป้าจวงที่จะต้องรู้สึกผิดที่ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือนางได้ จากนั้นน้ำตาไหลของนางก็ออกมาเงียบๆ ขณะที่นางพึมพำชื่อคนที่คุ้นเคยจากโลกอีกใบหลังจากนั้น เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นตัวและกลับไปดำเนินชีวิตในฐานะจิตรกร นางใช้ศิลปะในการแสดงความรู้สึกและความทรงจำจากอดีต ทุกภาพที่นางวาดล้วนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการเสียสละและความหวัง นางกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง ผู้คนต่างหลงใหลในผลงานของนางโดยไม่รู้ว่านั่นคือเศษเสี้ยวของชีวิตที่นางเคยผ่านพ้นมา แต่ทว่าพู่กันชิงหลงที่เธอใช
บทที่ 162 พี่ใหญ่...ท่านผิดสัญญาเช่นนั้นหรือ?“จบแล้ว...” เฟิงหย่าเสวี่ยพึมพำ เสียงแผ่วบางราวกับสายลมที่พัดผ่านใบไม้ร่วง ร่างบางของนางค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นอย่างช้าๆ ราวกับวิญญาณที่กำลังหลุดลอยไปจากโลกนี้“คุณหลีหนิง!” เสียงของเจิ้งอี้หลงดังขึ้นด้วยความตกใจ พระองค์รีบพุ่งเข้ามาประคองร่างของนางไว้ในอ้อมพระกร พระพักตร์ซีดเผือด น้ำพระเนตรเอ่อคลอ “คุณหลีหนิง! ลืมตาขึ้นมา! อย่าทิ้งข้าไปแบบนี้!”ดวงตาของเฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก เปลือกตาที่หนักอึ้งเผยให้เห็นดวงตาที่แฝงไว้ด้วยความอ่อนล้าและเศร้าสร้อย ริมฝีปากซีดเผือดสั่นระริก “อี้หลง... ข้า... ข้าเหนื่อยเหลือเกิน...”“ไม่เป็นไร ข้าอยู่ตรงนี้” เจิ้งอี้หลงพูดด้วยน้ำเสียงสั่น มือหนาลูบใบหน้าซีดขาวของนางอย่างอ่อนโยน ราวกับพยายามปลอบประโลมความเจ็บปวดของนาง “เจ้าอย่าพูดแบบนี้ เจ้าจะไม่เป็นอะไร ข้าสัญญา...”เฟิงหย่าเสวี่ยพยายามยกมือที่อ่อนแรงขึ้นแตะใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเจิ่งอี้หลง มือที่เย็นเฉียบสั่นระริกจนเจิ้งอี้หลงรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง “ข้า... ใช้พลังทั้งหมดแล้ว... ทุกหยด... ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือน... เหมือนวิญญาณกำลังหลุดลอย
บทที่ 161 ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าอาจารย์ของข้าคือ จวงหลิวเฟิง!!!เฟิงหย่าเสวี่ยถูกกับไป่เหลียนใช้มีดจี้ที่คอและถูกจับเอาไว้ พยายามนิ่งมากที่สุดแม้ว่าตอนนี้นางแmบจะไม่มีแรงที่จะยืนแล้ว ขณะนั้นเองมือขวากำเข็มเงินแน่น สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของอีกตนที่ตอนนี้ทุกคนต่างก็ล้อมไป่เหลียนเอาไว้ ทุกทางส่วนกองทัพเด็กของนางนั้นต่างก็ถูกช่วยเหลือและพาออกจากสถานที่นี้แล้ว ทำให้ตอนนี้กลางลานนั้นมีเพียงนางเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่พร้อมกับตัวประกันของนางที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดด้วย"เจ้าคิดว่าตัวเองจะหยุดข้าได้หรือ?" ไป่เหลียนเอ่ยเสียงเย็น พลางหันมองดวงหน้าที่งดงามของนังเด็กบ้าผู้นี้…เหตุใดนางถึงได้งดงามเช่นนี้แม้ว่าตอนนี้หน้าของนางจะซีดเซียวมากก็ตาม ไป่เหลียนคิด ดวงตาฉายแววอำมหิตขึ้นมาอีกครั้ง "เด็กน้อยอย่างเจ้า ช่างงดงามเสียจริงหากว่าความงามของเจ้าเป็นของข้าคงจะดีไม่น้อย ฮ่าฮ่าฮ่า!" นางพูดขึ้นมา พลางพยักหน้ากับความคิดของตัวเอง และคิดหาทางที่จะใช้ประโยชน์จากความเยาว์วัยนี้ให้ได้"ข้ารู้ว่าท่านกำลังทำผิด" เฟิงหย่าเสวี่ยตอบเสียงมั่นคง มือยังคงกำเข็มเงินแน่น "ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การทำร้ายผู้บริสุท
บทที่ 160 เจ้าแพ้แล้ว!!จวงหลิวอวี้จ้องมองเหตุการณ์ที่เบื้องหน้าอย่างแน่นิ่ง สายตาของนางจับจ้องเฟิงหย่าเสวี่ยที่ยกพู่กันชิงหลงขึ้นมา เสียงหัวใจเต้นหนักหน่วงในอกบอกให้นางรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก นางรีบพุ่งตัวเข้าหาหลานสาวทันที มือแข็งแรงคว้ามือที่กำพู่กันไว้แน่นก่อนที่จะทันได้วาดอะไรลงในอากาศ“อะไรก็ตามที่เจ้าคิดจะทำและเสียสละ...จงหยุดมันเดี๋ยวนี้!!!” จวงหลิวอวี้เอ่ยเสียงดัง สายตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใยเฟิงหย่าเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองป้าจวง ดวงตาคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความรักและเคารพที่นางมีต่อผู้ที่คอยปกป้องและดูแลมาตลอด ทว่าในแววตานั้นกลับแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง“ท่านป้า...” เฟิงหย่าเสวี่ยพูดเสียงสั่น ดวงตาเริ่มเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา “ข้าขอโทษ...” คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความอาลัยจวงหลิวอวี้มองหลานสาวอย่างตกตะลึง นางยื่นมือไปจับใบหน้าของเฟิงหย่าเสวี่ย “เสวี่ยเออร์... เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เจ้าคือความหวังของตระกูลเฟิง! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเสียสละตัวเองเด็ดขาด เจ้านึกถึงท่านแม่และน้องชายของเจ้าสิพวกเขาจะเป็นอย่างไร หากว่า
บทที่ 159 ฉันขอทำหน้าที่ของฮองเฮาที่กล้าเสียสละเพื่อลูกหลาน"และนี่คือผลงานชิ้นเอกของข้า!" ไป่เหลียนผายมือไปที่เด็กๆ "พิษที่ไม่เพียงทำลายร่างกาย แต่ยังบดขยี้จิตวิญญาณ ทำให้พ่อแม่ต้องเห็นลูกของตัวเองกลายเป็นเครื่องมือสังหาร! ความทรมานทั้งผู้ใช้และผู้ถูกใช้ นี่คือสิคือสิ่งที่เรียกว่าพิษที่ดีที่สุดที่ที่ข้าสามารถสร้างขึ้นมาได้ ไม่เพียงทำลายหนึ่งแต่ทำลายได้ทั้งครอบครัวฮ่าฮ่าฮ่า!" เสียงหัวเราะของนางดังลั่นไปทั่วเฟิงซินซินร้องไห้จ้า มือน้อยๆ กำพู่กันแน่นดวงตาเล็กๆ ของนางมองไปที่เหล่าเด็กๆ ที่ถูกทำให้กลายเป็นหุ่นเชิดเป็นร่างที่ไร้ชีวิต"นางสละความเป็นมนุษย์... แลกกับพลังแห่งความชั่วร้าย ยิ่งมีผู้ถูกพิษตาย พิษก็ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งมีผู้ทุกข์ทรมาน พิษก็ยิ่งร้ายกาจ... วงจรแห่งความชั่วร้ายที่ไม่มีวันสิ้นสุด!"จวงหลิงเฟิงสะท้านเฮือก "นี่มัน... เกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะทำได้ไป่เหลียนเจ้านี่มันกู่ไม่กลับจริงๆ ไม่เคยสำนึกถึงความผิดของตัวเอง..""ฮ่าฮ่าฮ่า!!!นี่เจ้ารู้ได้อย่างไรเพื่อนรักว่าข้าไม่ใช่มนุษย์แล้ว!" ไป่เหลียนตะโกนก้องและหันมาจ้องมองเพื่อนรักในอดีตที่ได้กลายมาเป็นศัตรูคู่แค้น และเพราะความแค้น