Share

อ้อนวอน2

“รอให้หมอหลวงมาดูอาการอีกทีตอนนี้เจ้าพึ่งจะฟื้นขึ้นมาหากเป็นอะไรไปอยู่ที่ตำหนักเย็น ข้าคงไม่อาจดูแลเจ้า”

ซินเฟยหลับตาไล่หยาดน้ำตาที่ไหลรินก่อนจะหันหลังให้จางหลงเเกรงว่าเสียงสะอื้นจะเล็ดลอดออกไปให้เขาได้ยิน

“ข้าส่งคนแจ้งข่าวกับย่าหนานว่าเจ้าฟื้นแล้วเพื่อนางจะได้ไม่ต้องห่วง”

“ฝ่าบาทหม่อมฉันอยากกลับไปที่ตำหนักเย็น”

คำพูดหนักแน่นจริงจัง จางหลงถอนหายใจ นางยังโกรธเขาอยู่ ก็ไม่น่าแปลกกับสิ่งที่เขาให้นางเผชิญเพียงลำพังตลอดหลายเดือนมานี้

“เอาไว้หมอหลวงมาดูอาการเจ้าข้าสัญญาว่าจะไม่รั้งเจ้าไว้…..”

คำพูดหายไปในลำคอ ใจหายอย่างที่สุดแต่ไม่อาจบอกนางว่าเขาไม่อยากให้นางจากไป เขากับนางจะสิ้นวาสนากัน แค่นี้เช่นนั้นหรือ 

ในเมื่อเขาสัญญากับย่าหนานว่าจะไม่ย่างกรายไปที่ตำหนักเย็นอีกแล้วหากจะให้นางออกมานางจะยอมทำตามบัญชาเขาหรือไม่ในเมื่อความสัมพันธ์ของเขาและซินเฟยช่างเปราะบางหากเขากดดันนางโดยอาศัย อำนาจใจมือ แล้วหากนางหนีเขาไปเล่าเขาจะทำอย่างไร ไหนจะคนผู้นั้นที่ไม่ทราบที่มาที่ไปคนนั้นผู้ที่ห่วงใยนางเกินใคร เมื่อเขามองสายตาของคนผู้นั้นออกว่ามีนางในใจไม่ต่างจากเขา ลุกขึ้นเดินจากไป

ซินเฟยหลับตาลงช้าๆ พยายามไล่ความคิดสับสนในใจ หากไม่ต้องได้พบเขาอีก ไม่ต้องมาพบเจอกันอย่างนี้ไม่นานบาดแผลทั้งร่างกายและจิตใจของซินเฟยอาจหายดี ซินเฟยคิดไว้ว่าสักวันต้องออกจากตำหนักเย็น ไปหาที่พำนักที่อื่นในเมื่อบิดาตัดพ่อตัดลูกกับซินเฟยไปแล้ว คงไม่กลับไปทำให้บิดาต้องเดือดร้อน อีกทั้งจะอยู่ในวังหลวงก็จะอยู่ในฐานะอะไร ตำหนักเย็นก็เป็นเพียงที่พักพิงชั่วคราวก็เท่านั้น เช่นนั้นก็ไม่ควรจะกลับมาเจอกับเขาอีก ซินเฟยจะต้องเข้มแข็งแล้วพาตัวเองออกห่างจากคนผู้นี้เสีย

เสี่ยวซานยกเครื่องเสวยมา จางหลงเดินสวนออกไปทันทีเสี่ยวซานส่ายหน้างงงันกับท่าทีบึ้งตึงของจางหลง เมื่อครู่ยังมีน้ำเสียงสดใส

“พระสนม เครื่องเสวยมาแล้วมีแต่ของอร่อย”

เสี่ยวซานยิ้มกว่้างอย่างเป็นมิตร

“ข้าไม่ใช่พระสนม ท่านเลิกเรียกข้าแบบนั้นได้แล้วแต่เดิมข้าเป็นเพียง ลูกขุนนางต่ำต้อยใต้เท้าเป็นถึง ขันทีข้างกายฝ่าบาท”

“ไม่ไมได้ พระสนมจะถ่อมตัวแบบนั้นไม่ได้ เห็นกันอยู่ว่าฝ่าบาททรงห่วงใยพระสนมเกินใคร อุ้มพระสนมมาไว้ถึงห้องบรรทม ระดมหมอทั่วแคว้นหาทางรักษาพระสนม อีกทั้ง...ยังยอม คุกเข่าต่อหน้าย่าหนาน เพื่อให้ย่าหนานเจียดยาบำรุงเลือดมาให้พระสนม แล้วอีกอย่างฝ่าบาทยังไม่ได้มีบัญชาปลดพระสนมเป็นสามัญชน ข้าน้อยจึงไม่บังควร”

“คุกเข่า”

ซินเฟยไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เสี่ยวซานพยักหน้า

“ฝ่าบาทฐานะสูงส่งเพียงใด แต่เพื่อยาของพระสนมจึงลงทุนคุกเข่าต่อหน้าย่าหนาน”

“..............”นางกำนัลเข้ามาด้านใน

“ถวายพระพรพระสนม หม่อมฉันเสี่ยวถ้านรับบัญชาฝ่าบาทต่อจากนี้ให้คอยปรนนิบัติพระสนม”

ยกชามข้าวต้มร้อนๆ มาป้อน ซินเฟยด้วยความนอบน้อม

เสี่ยวซานมองซินเฟยเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็หยุดคำพูดไว้แค่นั้น เดินออกจากห้องปิดประตูอย่างเบามือ

จางหลงยืนอยู่ที่หน้าระเบียงยาวของตำหนัก ทอดสายตามองเหม่อ เสี่ยวซานเดินไปหยุดใกล้ๆ

“เสี่ยวซาน อิสตรีช่างเข้าใจยากเย็น เจ้าว่าจริงไหม”

“พวกนางไม่ได้เข้าใจยากเย็นอย่างที่ฝ่าบาทเข้าใจแต่เป็นเพราะฝ่าบาทอ่อนประสบการณ์ ไม่คุ้นชินกับพวกนางอีกทั้งไม่เคยลองที่จะสานสัมพันธ์กับพวกนางต่างหาก”

อยากจะพูดเหลือเกินว่าจางหลงอ่อนหัดเรื่องผู้หญิง

“แล้วข้าต้องทำเช่นไรถึงจะสานสัมพันธ์กับนาง”

เสี่ยวซานยิ้ม

“ที่ฝ่าบาททำอยู่ก็นับว่าไม่เลวสำหรับการเริ่มต้น แต่...ต้องจริงใจกว่านี้และอีกอย่างคราวหลังฝ่าบาทอย่าได้หนีหน้านาง ในเมื่ออยากอยู่ใกล้ เหตุใดต้องหนีหน้านางด้วยเล่า”

จางหลงทำสีหน้าเหลอหลา ด้วยความเขินอายเมื่อเสี่ยวซานจับได้ว่าอยากอยู่ใกล้ซินเฟย เขาไม่เคยแม้กระทั่งเอ่ยคำหวานกับหญิงใดมาก่อนแล้วเช่นนั้นจะให้ช่ำซองได้อย่างไร ตั้งแต่จำความได้ มีเพียงงานในราชสำนักเท่านั้นที่เข้าใจถ่องแท้ ส่วนเรื่องรักใคร่ มีเพียงเรื่องบนแท่นนอน หาต้องใช้คำหวานนำทางไม่

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status