Share

อดีตของย่าหนาน

จางหลงบ้วนน้ำชาทิ้งก่อนจะลุกจากแท่นนอน เสี่ยวซานลงไปนอนแทนที่ทันที ใช้ผ้าห่มคลุมร่างจนมิดเหมือนกำลังหลับสนิท

จางหลงเปลี่ยนอาภรณ์เป็นชุดขันที เร้นกายออกมายืนแทนที่เสี่ยวซาน

ซูจินกลับมาอีกครั้ง จางหลงก้มหน้าประสานมือแต่ไม่เอ่ยคำใด

“ฝ่าบาทหลับไปแล้วใช่หรือไม่”

พยักหน้าก่อนจะผายมือเชิญ

“เจ้าไปนอนได้แล้ววันนี้ข้านำสนมคนใหม่มาถวายตัวปรนนิบัติฝ่าบาท เรื่องในห้องบรรทมให้เป็นหน้าที่ของสนมเซียงอี๋”

จางหลงพยักหน้าประสานมือก่อนจะหลบออกมา ประตูถูกเปิดออกช้าๆ

“เซียงอี๋ เจ้าปรนนิบัติฝ่าบาทให้ดีพรุ่งนี้เช้า ข้าตกรางวัลให้อย่างงามเข้าไปได้แล้ว”

“ฮองเฮา เซียงอี๋..เอ่อๆๆ ”

“ไม่ต้องกลัวสิ่งใด ฝ่าบาทแต่เดิมก็ ...ไม่เคยสนใจอะไรอยู่แล้วเจ้าเพียงแต่ทำให้ฝ่าบาทลืมเจียงซินเฟยได้…. ก็พอ”

จางหลงส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะก้าวขาออกจากตำหนักไปยังตำหนักเย็น

ตำหนักเย็น

“เขาเป็นผู้เดียวที่ข้าไว้ใจและรักดุจลูกในไส้ แต่ในตอนนั้นข้าถูกฮองเฮาลงทัณฑ์

เพราะโดนกล่าวหาว่าปรุงยาให้กับจางหลงจนเป็นเหตุให้อยู่qไท่จือในตอนนั้นทรงพระประชวรหนัก ด้วยจางหลงมีพลานามัยอ่อนแออยู่เป็นทุนเดิม ข้ารักเขาเพียงนั้นพวกเจ้าคิดว่าข้าจะปรุงยาพิษให้เขาหรือไร”

“แล้วทำไมถึง ไม่บอกความจริง”

“ความจริงหึหึ ความจริงใดกันในเมื่อองค์ไท่จือที่ข้ารักดุจชีวิต กลับเป็นผู้กล่าวหาว่าข้าบังคับให้กินยาที่ทำให้รู้สึกไม่สบายกว่าเดิม ฮองเฮาแม่ของไท่จือในตอนนั้น รักลูกดังไข่ในหิน ไม่พูดพร่ำทำเพลงสั่งให้ประหารข้า ทั้งๆที่ตอนนั้นข้ากำลังตั้งครรภ์น้องของจางหลงที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของฮ่องเต้ในตอนนั้น”

ซินเฟย รู้สึกเจ็บที่ใจอีกทั้งสงสารย่าหนานจนน้ำตาเกือบจะหลั่งริน

“ความจริงหากจางหลงจะช่วยข้าเขาเพียงแต่บอกว่าเป็นยาบำรุงที่ข้าให้เขากินเขากลับบอกฮองเฮาว่าย่าที่ข้าให้กินทำเขารู้สึกแย่”

“แล้วฮ่องเต้ในตอนนั้นไม่ได้ช่วยอะไรท่านบ้างเลยหรือ”

จิวซัวถามขึ้นดังๆ ด้วยโทสะ

“ฮ่องเต้ออกประภาสป่าล่าสัตว์ ข้าอีกไม่กี่วันถึงจะคลอด ในที่สุดก็คลอดก่อนกำหนดเพราะถูกโบยถึงห้าสิบไม้แทนการประหารเพราะไทฮองไทเฮาทนดูไม่ไหวให้ลดโทษ และสั่งให้ยุติการโบยแต่ก็หาช่วยชีวิตลูกข้าได้ไม่ ลูกข้าแม้จะเป็นหญิงก็ไม่อาจลืมตาดูโลกด้วยความริษยาของฮองเฮา”

“อาวุโสก็เลยไม่สู้ชอบใจจางหลงนัก”

จิวซัวถาม

“ข้าเลี้ยงดูเขาประดุจลูกเพราะฮองเฮาไม่มีน้ำนมข้าจึงได้เข้ามาเป็นแม่นมของเขา ความสัมพันธ์กับฮ่องเต้ก็หาได้ยินยอมไม่ ข้าไม่ได้เต็มใจปละไม่เคยเต็มใจ แต่ในเมื่อพลาดไปแล้วลูกในท้องอย่างไรก็ลูก ข้าก็ย่อมต้องเสียใจเมื่อเขาจากไป ข้าอุ้มศพของลูกสาวข้าไว้แนบอกถึงสามวันสามคืน จึงตระหนักได้ว่าเขาจากไปแล้ว”

ซินเฟยปาดน้ำตาเศร้าใจยิ่งนัก

“แล้วฮ่องเต้ …ไม่ได้ทำการไต่สวนหรือไร”

“เมื่อฮ่องเต้กลับมาก็สั่งให้มีการไต่สวน แต่คนในวังหลวงเป็นคนของฮองเฮาทั้งสิ้น แม้ทีหลังจางหลงจะบอกกับฝ่าบาทว่ายาที่กินเข้าไปทำให้รู้สึกแย่ในตอนต้นเพราะขับพิษในร่างกายออกมา หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกดีขึ้นอย่างมากเพราะการออกฤทธิ์ของยามักจะเป็นอย่างนั้นเสมอ และตั้งแต่นั้นมาเขาก็หายป่วยในทันที ฝ่าบาทสั่งให้พาข้ากลับเข้าไปในวังหลวง แต่มันสายไปเสียแล้ว ข้าไม่อยากกลับไปที่นั่นอีก ที่ที่โหดร้าย และแกร่งแย่งทารุณ ถึงแม้จางหลงจะขึ้นครองราชย์ แล้วมาตามข้าที่นี่ถึงสองครั้งข้าก็ไม่อาจกลับไปได้อีก แม้จะไม่มีฮองเฮาแล้วก็ตาม”

“ชีวิตของอาวุโสช่างน่าสงสาร”

ย่าหนานโอบรอบตัวซินเฟย

“เราสองคนไม่ต่างกัน ข้าเองก็เป็นเพียงสามัญชน มิได้เป็นคุณหนูจากตระกูลไหนจึงถูกรังแกง่ายดาย หากว่าจางหลงไท่จื่อในตอนนั้นรักข้าอย่างที่ข้ารักเขา ก็คงไม่กล่าวโทษข้าต่อหน้าฮองเฮา”

“แต่ เรื่องเช่นนี้ข้าขอพูดในฐานะคนกลางข้าคิดว่าหากฮองเฮาจะเอาเรื่องท่าน แม้จางหลงจะพูดอย่างไร ฮองเฮาก็จะหาเรื่องลงทัณฑ์ท่านอยู่ดี ท่านคงกำลังโกรธจึงมองจางหลงผิดไป หลังจากนั้นเขาก็ยังทูลฮ่องเต้เสียใหม่เพื่อช่วยท่าน จะใจร้ายไปหน่อยหากท่านจะคิดเช่นนั้น”

จิวซัวมองอย่างเป็นกลาง

“ข้า อยากจะโกรธเขาแต่เมื่อเห็นหน้าเขาทีไรก็มักจะใจอ่อนจึงไม่อยากเห็นหน้าเขาอีก วันนั้นจึงได้ใช้อุบายให้เขาสัญญา ว่าจะไม่มาที่นี่อีก”

ซินเฟยกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น

“ข้าเห็นว่าท่านควรอภัยให้เขาปรับความเข้าใจกันเสีย”

จิวซัว ออกความเห็น

“เจ้า คนถ่อยไม่ต้องมายุ่ง กลับไปที่ของเจ้าได้แล้ว คืนนี้อย่าได้มายืนเกะกะลูกตาข้าอีก”

ออกปากไล่จริงจัง ซินเฟยอมยิ้ม

“ไว้พรุ่งนี้จึงมาใหม่วันนี้ดึกแล้วเกรงว่าจะเกิดอันตราย”

“ได้ยินที่ แม่นางน้อยกล่าวหรือยังกลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ข้าอยากกินไก่เป็นอาหารเย็น อย่าลืมหิ้วมันมาฝากข้า ตอนนี้ซินเฟยกำลังต้องการอาหารดีดีเพื่อจะได้หายจากอาการบาดเจ็บ เจ้าช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ตลอด”

จิวซัวลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ประสานมือตรงหน้า

“น้อมบัญชา พระสนมทั้งสอง”

สัพยอกท้้งสองคนพร้อมกัน ซินเฟยถอนหายใจยาว ส่วนย่าหนานอมยิ้มนึกขำกับท่าทีทะเล้นของจิวซัว

จางหลงทะยานขึ้นไปบนหลังคาในชุดขันทีนั่งรับลมอยู่บนหลังคาจ้องมองซินเฟยที่นั่งอยู่ตรงลานหน้าตำหนักเย็น

ซินเฟยยกมือบางขึ้นลูบท้องเบาๆ ด้วยความเคยชินว่าเคยมีสิ่งหนึ่งอยู่ในท้อง น้ำตาไหลพรากด้วยความรู้สึกเศร้าสลด ย่าหนานถอนหายใจส่ายหน้าไปมาสงสารซินเฟยจับใจ เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นซินเฟยเข้มแข็งอย่างที่สุดไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องที่เสียลูกไป แต่เพราะวันนี้ย่าหนานเราอดีตของตัวให้ซินเฟยฟังนางจึงหวนคิดถึงมันอีกครั้งหรือว่ายังไม่เคยลืม เรื่องเช่นนี้มีเพียงแต่ผู้สูญเสียเท่านั้นจึงจะเข้าใจ เสี่ยวถ้านถือเสื้อคลุมมาคลุมไหล่ให้กันหนาว

“พระสนม กลับเข้าไปข้างในเถิด”

ซินเฟยปาดน้ำตา จางหลงเหม่อมองเศร้าเสียใจไม่แพ้กัน อยากจะปลอบใจนางแต่จะทำได้อย่างไรในเมื่อสัญญากับย่าหนานว่าจะไม่ย่างกรายเข้ามา แต่เป็นเสี่ยวซานที่บอกให้เขาใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นจากกำแพงแทนที่จะย่างกราย หากโดนย่าหนานจับได้ก็แค่เพียง เฉไฉว่าเขาไม่ได้ย่างกรายไปที่ตำหนักเย็นทางประตู แต่ใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นไปบนหลังคาแทน แม้ย่าหนานจับได้ก็คงไม่ถึงกับฆ่าแกง

แม้จะคิดว่าเป็นวิธีที่สิ้นคิด แต่ทั้งวันเขากลับคิดถึงแต่ซินเฟย เสี่ยวซานบอกว่าแค่ได้เห็นหน้านางอาการนี้ก็จะหายไป ตอนนี้เขาอยากเถียงจริงๆว่า ไม่หายไปเลยแม้แต่น้อย แต่ยิ่งทรมานอยากจะเข้าใกล้ซินเฟยมากกว่านี้ อยากปลอบใจนางอย่างที่เขาต้องการจะทำในตอนนี้แต่ไม่อาจทำ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status