Share

บทที่ 358

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ใต้เท้าจาง!” เฉินฝานยิ้ม เป็นใบหน้าไร้เดียงสาเหมือนเดิม “ตอนนี้ยังไม่รู้ผลสุดท้าย เร็วเกินไปที่จะกล่าวว่าฟางทิงพ่ายแพ้นะขอรับ”

“พอได้แล้ว คนหนุ่มอย่างเจ้า มักทำสายตาไร้เดียงสาเช่นนี้หลอกผู้คนอยู่เรื่อย!”

เสียงที่ดังลั่นของหลูเฉิงกวงดังขึ้น เรือนร่างอันอึกทึกของเขาคั่นกลางระหว่างเฉินฝานกับจางเจิ้งห้าว

“ใต้เท้า ท่านพูดเช่นนี้ได้อย่างไร ตอนนี้ผลสุดท้ายยังไม่มีการตัดสินจริงนี่ขอรับ!” เฉินฝานแสดงสีหน้าไม่ได้รับความยุติธรรม

“ตัดสินแล้ว!”

หลูเฉิงกวงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะเขาตัวสูง ท่าทางกระโดดโลดเต้นของเขาจึงดูตลก

เขากล่าวต่อ “เมื่อข้าหยิบฐานเค้กกับเสี่ยวฉู่เสร็จแล้ว ข้าจะออกไปดูเสียหน่อย มีรถม้ามารับของมากขึ้นกว่าเดิม”

เดิมทีหลูเฉิงกวงได้ขอให้ภรรยาและลูกสาวนักการในศาลาว่าการทุกคน รวมถึงภรรยาและลูกสาวของเขาให้มาช่วย แต่ตอนนี้ดูเหมือนทำไม่ทัน

“จะว่าไปแล้ว……” หลูเฉิงกวงเหลือบมองแถวด้านนอกร้านที่ไม่เห็นปลายทาง “เสี่ยวฝาน พ่อค้าจากอำเภออื่นรู้ได้อย่างไรว่าเจ้ามีเค้ก?”

“อ่อ เรื่องนี้!” เฉินฝานที่กำลังบรรจุพูดอย่างใจเย็น “ช่วงบ่ายของเมื่อวาน ข้าเอาเค้กไปยังอำเภอที่อยู่รอบ ๆ มาขอรับ”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (5)
goodnovel comment avatar
Panya Phanatho
คนรออ่านก็อยากอ่านต่อ แต่ว่าบางตอนก็สั้นบางทีก็อัพช้า สงสัยคงจะไม่ได้อ่านต่อ
goodnovel comment avatar
BAS HVER
ต่อหน่อยคับ
goodnovel comment avatar
Narumon Lalao
รออยู่นะคะ ขอตอนเยอะๆ ได้มัยคะ
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 359

    “เจ้าไปบอกคนเหล่านั้นว่าผู้ใดกล่าวเร่งจะไม่ยกอาหารให้”ฟางทิงทิ้งท้ายประโยคนี้เสร็จก็เปิดประตูห้องครัวที่ทะลุไปถึงสวนข้างหลัง เขาทำซอสมากมายขนาดนั้น อยากขึ้นไปพักผ่อนสักหน่อย“นายน้อย ไม่ใช่คนเยอะ แต่คือ…...ไม่มีคน!”ตอนที่คนใช้พูดว่าไม่มีคนสามคำนี้ เสียงของเขาแผ่วเบาและสั่นระริกอีกครู่เดียว คงไม่วายโดนต่อยและเตะแน่“อะไรนะ?”ฟางทิงปล่อยมือที่จับลูกบิดประตู พอหันกลับมาก็ตบหน้าคนใช้ทันที“ตระกูลฟางของข้าเลี้ยงดูเสียข้าวสุกมาตั้งหลายปีจริง ๆ พูดจากระฉับกระเฉงไม่เป็นรึ?”ไม่มีคน?พูดอะไรออกมา ฟางทิงเข้าครัวทำอาหารจะไม่มีคนมา?คนใช้ปิดหน้าที่ถูกตบแล้วกล่าวน้ำเสียงหวาดกลัว “นายน้อย ข้างนอกไม่มีคนจริง ๆ ขอรับ!”“ดูเหมือนว่าท่านแม่ของข้าจะใจดีกับพวกเจ้ามากไป ให้พวกเจ้ากินมากไปจนกลายเป็นคนโง่ไปแล้ว!”ฟางทิงยกฝ่ามือขึ้นอีกครั้งคนใช้รีบกุมหัว “นายน้อย ข้าน้อยไม่ได้โกหกขอรับ นายน้อยฟังดูก็ได้ขอรับว่ามีเสียงข้างนอกบ้างหรือไม่?”“พ่อครัวฟาง ข้างนอกดูเหมือนไม่มีเสียงจริง ๆ” พ่อครัวคนหนึ่งในครัวกล่าว“ไม่มีเสียงเลยจริง ๆ เมื่อวานและเมื่อวานก่อน ข้างนอกนั้นเสียงดังมาก”“พอพวกเจ้าพูดเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 360

    ตอนเห็นป้ายประกาศว่าฟางทิงคือพ่อครัวหลักของเรือนแขกสำราญสุขและลดครึ่งราคา หลูเฉิงกวงยังรู้สึกกังวลปรากฏว่าเวลาผ่านไปไม่นาน คนของลวี่เหลียงเจ๋อก็มาหาและกล่าวว่าเขาวางหมาก ไม่ให้แขกเข้าเรือนแขกสำราญสุขและให้เขาไปอธิบายกับลวี่เหลียงเจ๋อเดิมทีหลูเฉิงกวงรู้สึกโกรธอาจารย์ปู่ผู้ไม่มียศอย่างเป็นทางการใดแต่กล้าพูดกับเขาแบบนี้ แต่เมื่อได้ยินว่าเรือนแขกสำราญสุขไม่มีแขกเลย อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นทันใดเขาตอบอาจารย์ปู่ของลวี่เหลียงเจ๋อทันทีว่าจะไปอธิบายกับลวี่เหลียงเจ๋อเดี๋ยวนี้ลวี่เหลียงเจ๋อจ้องหลูเฉิงกวงอย่างเดือดพล่าน “เรือนแขกสำราญสุขทำไมถึงไม่มีแขก? ท่านในฐานะผู้เป็นนายอำเภอของอำเภอผิงอันรู้อย่างแจ่มแจ้งไม่ใช่รึ?”หลูเฉิงกวงส่ายศีรษะราวกับเคียดแค้นชิงชังเป็นอย่างยิ่ง “นั่นสิขอรับ เรือนแขกสำราญสุขที่มีใต้เท้าลวี่กับผู้จะได้เลือกเป็นพ่อครัวหลวงดูแลด้วยตนเองกลับไม่มีคน ข้าในฐานะปลัดอำเภอถือว่าปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง”“ท่านรู้ตัวย่อมดี ยังไม่รีบนำหมากที่วางไว้กลับไปโดยเร็วอีก!” ลวี่เหลียงเจ๋อยกคางขึ้นสูงมาก“ขอรับ!” หลูเฉิงกวงกล่าวตอบต่อทันทีหลังจากได้ยินคำตอบของหลูเฉิงกวง ลวี่เหลียงเจ๋อก็ก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 361

    แม้ว่าจะฟังดูเกินจริง แต่ก็มีคนยอมต่อแถว จองล่วงหน้าเป็นครึ่งวัน ถึงจะได้กินอาหารที่เขาทำในตอนนี้เองคนกลุ่มนี้ก็ได้กล่าวขึ้นว่า....อยากกินเค้กของเฉินฝาน ไม่ได้อยากกินอาหารของเฉินฝานเค้กหน้าแตกจะอร่อยจริง ๆ หรือ?บรรดาแขกในห้องโถงใหญ่ยังคงพูดคุยกันต่อ“นั่นนะสิ น่ารำคาญยิ่งนัก ข้าคิดว่าฟางทิงคนนั้นคงจะมีแค่ชื่อเสียงโด่งดังเท่านั้น เมื่อวานข้าชิมอาหารที่เขาทำแล้ว ก็งั้น ๆ” “ข้ามาตั้งแต่วันก่อน เป็นอย่างที่ใคร ๆ ก็ว่ากันจริง ๆ รสชาติเค้กจัดว่าดี พ่อครัวในวังหลวงก็ชื่นชอบ แต่เมื่อเทียบกับเค้กที่เฉินฝานทำ ข้าชอบเค้กของเฉินฝานมากกว่า”“พวกเจ้าได้กินเค้กแล้วใช่หรือไม่? วันนี้ข้าเดินไปหลายที่มาก เข้าแถวรอนานมาก ก็ยังไม่ได้กิน”“ข้าก็ยังไม่ได้กินเช่นกัน เด็ก ๆ ในบ้านก็เร่งเร้าข้า บอกว่าหากวันนี้ซื้อกลับไปไม่ได้ พวกเขาจะไม่รู้จักบิดาอย่างข้า”“ของเจ้าเป็นเด็ก ๆ บ่นเจ้า เจ้าตะคอกใส่คำสองคำก็ได้แล้ว แต่ของข้าเป็นมารดานี่สิ มารดาของข้าดันไปกินเค้กของเพื่อนบ้านเข้า เลยสั่งให้ข้าออกมาซื้อทันที และยังบอกอีกว่าหากวันนี้ข้าซื้อกลับไปไม่ได้ก็ไม่ต้องกลับบ้าน”คนที่ยังซื้อเค้กไม่ได้มักจะอิจฉาค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 362

    “คนหมู่บ้านเดียวกันที่เคยซื้อเค้กไปแล้วรอบนี้เสียสละให้คนที่ยังไม่ได้ซื้อเถอะ คุณชายจาง” หลูเฉิงกวงกล่าวด้วยรอยยิ้มกับเด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ตนที่สุด “ก่อนหน้านั้นท่านได้ซื้อไปแล้ว อีกทั้งข้าเห็นท่านซื้อไปแล้วสองชิ้น”“สองชิ้นไม่พอ ข้ามีบุตรสาวทั้งหมดสิบสองคน ชิ้นก่อนหน้าเป็นของมารดาและบุตรชายของข้า ข้า ภรรยา และบุตรสาวทั้งหมดยังไม่ได้กินเลย”“หากท่านพูดเช่นนี้ เช่นนั้นท่านไม่ต้องซื้ออย่างน้อยแปดถึงสิบชิ้นเลยหรือ ไม่ได้ ๆ!”คนที่อยู่ด้านหลังเบียดคุณชายจางไปอยู่อีกด้านเวลาล่วงเลยผ่านไปไม่นาน หลูเฉิงหวงก็ถูกฟาดหน้า เขาถูกคนที่มาแย่งซื้อเค้กฟาดหน้าด้วยตำลึงเงิน“อย่าแย่งกัน ได้ทุกคน หากไม่พอ ข้าจะให้เสี่ยวฝานเก็บไว้ให้พวกเจ้า” หลูเฉิงกวงถูกเงินเหล่านั้นฟาดหน้าจนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี“ตกลงกันแล้วนะ ว่าจะให้เฉินฝานเก็บไว้ให้ข้า ไม่อย่างนั้นเราได้เห็นดีกันแน่”นี่มันอะไรกันเนี่ย ประชาราษฎร์ข่มขู่นายอำเภอ นายอำเภอยังหัวเราะได้อยู่อีกสีหน้าของลวี่เหลียงเจ๋อหม่นหมองคล้ายกับฝนที่กำลังตก เขากวาดตามองไปยังฟางทิงที่มีสีหน้าแย่ไม่ต่างกับเขา“ทุกท่าน!ทุกท่าน!” ลวี่เหลียงเจ๋อก้าวขึ้นมา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 363

    “สวรรค์ ท่านสร้างแม่น้ำแล้ว เหตุใดยังต้องสร้างมนุษย์อีก?”“เสี่ยวทิง คำกล่าว....ของเจ้ามันหมายความว่าอย่างไร?”“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ!” ฟางทิงไม่ได้ตอบคำถามของลวี่เหลียงเจ๋อ แต่กลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมาแทนหลังจากหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้ว เขาก็เริ่มพึมพำประโยคที่ว่า “สวรรค์ ท่านสร้างแม่น้ำแล้ว เหตุใดยังสร้างมนุษย์อีก?” ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไป ฟางทิงก็ยังพูดย้ำอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าลวี่เหลียงเจ๋อหรือคนอื่นจะเรียกเขาอย่างไร เขาก็ไม่ตอบสนองสุดท้ายฟางทิงก็ต้องไปหาหมอหมอบอกว่าฟางทิงทนรับผลกระทบไม่ไหม สมองก็เลยผิดเพี้ยนไปกล่าวได้ว่าฟางถิงเป็นบ้าไปแล้ว!บ้าหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร? หมอกำมะลอ เจ้าเป็นหมอกำมะลอ!”ลวี่เหลียงเจ๋อเตะหมอคนนั้นออกจากห้องไปอย่างรุนแรง“มัวอึ้งทำไม ยังไม่รีบไปเชิญหมอมาอีก!” ลวี่เหลียงเจ๋อตวาดใส่ลูกน้องข้างกาย“ขอรับ ใต้เท้า!” ลูกน้องคนนั้นรีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน“ช้าก่อน เจ้าห้ามไปเชิญหมอที่อยู่ในอำเภอผิงอันมาเด็ดขาด กลับไปที่อำเภอตูอันของเรา แล้วเชิญหมอเยี่ยน หมอเหอและหมอหลี่ทั้งหมดมาที่นี่”คนของลวี่เหลียงเจ๋อได้นำพาหมอจำนวนหลายสิบคนจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 364

    เจี่ยงหงเหวินและติงลั่วหันมองลวี่เหลียงเจ๋อพร้อมกันพอไม่ได้หอนางโลมอี๋ชุนย่วน ก็ต้องได้เรือนแขกสำราญสุขและร้านขายเนื้อ เช่นนี้เท่ากับเชือดเนื้อของพวกเขาชัด ๆ พวกเขาจะยอมได้อย่างไรเมื่อเห็นสถานการณ์นี้ รู้ม่านตาของหลูเฉิงกวงหดลง “ทำไม? ใต้เท้าลวี่ พวกท่านจะผิดสัจจะหรือ?”“ไม่มีทาง ไม่มีทาง!” ลวี่เหลียงเจ๋อโบกมือไปมา “เป็นขุนนาง จะผิดสัจจะได้อย่างไร หากพวกเขาชนะ โฉนดของเรือนแขกสำราญสุขและร้านขายเนื้อจะถูกส่งมอบให้ทันที”หลูเฉิงกวงขมวดคิ้วแน่น “ลวี่เหลียงเจ๋อ ท่านกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ทุกคนก็เห็นว่าบ่ายวันนี้เรือนแขกสำราญสุขไม่ได้เงินเลย วันนี้ทั้งวันเค้กของเฉินฝานขายได้จำนวนเงินห้าร้อยสามสิบเก้าเหรียญเงิน รายได้รวมสามวันของเรือนแขกสำราญสุขมีไม่ถึงสามร้อยด้วยซ้ำ แต่รายได้รวมหนึ่งวันของเรานำหน้ารายได้รวมสามวันของเรือนแขกสำราญสุข เช่นนี้ถือว่าพวกเราชนะแล้วไม่ใช่หรือ?”“จากการคำนวณของน้องลวี่ พวกเจ้าชนะ” ลวี่เหลียงเจ๋อคลี่ยิ้มที่ชวนเกลียดชัง“แต่....”สีหน้าของลวี่เหลียงเจ๋อคล้ายกับท้องฟ้าในเดือนหก บอกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนทันที “ใครบอกเจ้า เรือนแขกสำราญสุขมีรายได้รวมสามวันเป็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 365

    “เจี่ยงหงเหวินจะตกรางวัลเป็นจำนวนห้าร้อยเหรียญ!”“ทำเช่นนี้ได้หรือ ไร้ยางอายสิ้นดี”“เพื่อชัยชนะ ถึงกับต้องใช้วิธีที่ต่ำช้าเพียงนี้”“ไม่ใช่สิ รางวัลนี้นับด้วยหรือ? อีกอย่างคนที่ตกรางวัลให้ก็ยังเป็นเจี่ยงหงเหวินอีก”ในจุดพักม้าเวลานี้ เหล่าขุนนางและพ่อค้าจากอำเภอผิงอันทยอยกันด่าทอพวกเขาเสียงดังด้วยความโกรธเคือง“ลวี่เหลียงเจ๋อ อำเภอตูอันชักจะต่ำช้าเกินไปแล้ว?” หลูเฉิงกวงกล่าวกับลวี่เหลียงเจ๋อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ต่ำช้า?” ท่าทางของลวี่เหลียงเจ๋อยังคงนิ่งสงบเหมือนในตอนแรก ไม่รู้สึกละอายใจสักนิด ทั้งยังลำพองใจมากด้วย “พี่ลวี่ เหตุใดท่านถึงกล่าวเช่นนี้ แขกในร้านต้องมีความสุขหลังจากที่ได้กินอาหารฝีมือเสี่ยวทิงสิ รางวัลห้าร้อยเหรียญ มันน่าแปลกใจตรงไหน”“พี่ลวี่ ได้กินอาหารอร่อย ก็ต้องตกรางวัลให้คนทำไม่ใช่หรือ?”ลวี่เหลียงเจ๋อชำเลืองมองหลูเฉิงกวงและถามกลับหลูเฉิงกวงกลั้วหัวเราะ เขาเคยชินกับสิ่งนี้ ทุกครั้งที่ออกไปกินอาหาร หากเขาได้กินของอร่อย เขาจะตกรางวัลให้กับคนทำอาหารเป็นเศษเงินนิสัยของเขา ใคร ๆ ก็รู้“การแข่งขันในครั้งนี้ เป็นการแข่งขันระหว่างฟางทิงกับเฉินฝาน ฟางทิงได้ราง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 366

    “เปลี่ยนวิธีการประลอง?”หลูเฉิงกวงและลวี่เหลียงเจ๋อที่เวลาปกติแข่งกันให้ตายไปข้างหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่พูดพร้อมกัน“ใช่ รอบที่สามก็ประลองแข่งรถม้าแล้วกัน แบบนี้ยุติธรรมกับพวกเจ้าทั้งสองฝ่าย”การแข่งรถม้า เป็นกิจกรรมการแข่งขันที่นิยมชมชอบของราษฎรทั้งรัชสมัยต้าชิ่งตั้งแต่เมืองหลวงลงมายันตำบล ทุกปีทุกที่ก็มีการแข่งรถม้าทั้งนั้น“ได้ แข่งรถม้า ตกลงตามนี้แล้วกัน!”ลวี่เหลียงเจ๋อปริปากก่อน เขาเพิ่งจะพูดจบ เจี่ยงหงเหวินรีบพูดต่อทันที “รอบที่สามข้าจะประลองเอง!”นอกเหนือจากการค้าขายแล้ว เจี่ยงหงเหวินรักการแข่งรถม้าอย่างมาก มักจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วยตนเองเสมอ นี่เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไป“ใต้เท้า ข้ารับคำท้าเอง!”ชางเฟยอวี่ที่อยู่ด้านหลังหลูเฉิงกวงลุกตามขึ้นมา เขาก็รักในการแข่งรถม้าเหมือนกับเจี่ยงหงเหวิน และมักจะเข้าร่วมการแข่งขันบ่อยๆ ระดับฝีมือของเขากับเจี่ยงหงเหวินพอๆกันสองรอบก่อนเฉินฝานเฉิดฉายโดดเด่นสุดๆ รอบนี้เขาไม่สามารถปล่อยให้เฉินฝานเฉิดฉายได้อีก“เจ้างั้นรึ?”เจี่ยงหงเหวินยกมุมปากขึ้น“ มิคู่ควร!”“เจ้าว่าไงนะ?”ชางเฟยอวี่จ้องเขม็งเจี่ยงหงเหวินด้วยความโกรธ เจี่ยงหงเหวิน

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status