แชร์

บทที่ 363

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“สวรรค์ ท่านสร้างแม่น้ำแล้ว เหตุใดยังต้องสร้างมนุษย์อีก?”

“เสี่ยวทิง คำกล่าว....ของเจ้ามันหมายความว่าอย่างไร?”

“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ!” ฟางทิงไม่ได้ตอบคำถามของลวี่เหลียงเจ๋อ แต่กลับหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมาแทน

หลังจากหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้ว เขาก็เริ่มพึมพำประโยคที่ว่า “สวรรค์ ท่านสร้างแม่น้ำแล้ว เหตุใดยังสร้างมนุษย์อีก?” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไป ฟางทิงก็ยังพูดย้ำอยู่อย่างนั้น ไม่ว่าลวี่เหลียงเจ๋อหรือคนอื่นจะเรียกเขาอย่างไร เขาก็ไม่ตอบสนอง

สุดท้ายฟางทิงก็ต้องไปหาหมอ

หมอบอกว่าฟางทิงทนรับผลกระทบไม่ไหม สมองก็เลยผิดเพี้ยนไป

กล่าวได้ว่าฟางถิงเป็นบ้าไปแล้ว!

บ้าหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร? หมอกำมะลอ เจ้าเป็นหมอกำมะลอ!”

ลวี่เหลียงเจ๋อเตะหมอคนนั้นออกจากห้องไปอย่างรุนแรง

“มัวอึ้งทำไม ยังไม่รีบไปเชิญหมอมาอีก!” ลวี่เหลียงเจ๋อตวาดใส่ลูกน้องข้างกาย

“ขอรับ ใต้เท้า!” ลูกน้องคนนั้นรีบวิ่งออกไปอย่างรีบร้อน

“ช้าก่อน เจ้าห้ามไปเชิญหมอที่อยู่ในอำเภอผิงอันมาเด็ดขาด กลับไปที่อำเภอตูอันของเรา แล้วเชิญหมอเยี่ยน หมอเหอและหมอหลี่ทั้งหมดมาที่นี่”

คนของลวี่เหลียงเจ๋อได้นำพาหมอจำนวนหลายสิบคนจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 364

    เจี่ยงหงเหวินและติงลั่วหันมองลวี่เหลียงเจ๋อพร้อมกันพอไม่ได้หอนางโลมอี๋ชุนย่วน ก็ต้องได้เรือนแขกสำราญสุขและร้านขายเนื้อ เช่นนี้เท่ากับเชือดเนื้อของพวกเขาชัด ๆ พวกเขาจะยอมได้อย่างไรเมื่อเห็นสถานการณ์นี้ รู้ม่านตาของหลูเฉิงกวงหดลง “ทำไม? ใต้เท้าลวี่ พวกท่านจะผิดสัจจะหรือ?”“ไม่มีทาง ไม่มีทาง!” ลวี่เหลียงเจ๋อโบกมือไปมา “เป็นขุนนาง จะผิดสัจจะได้อย่างไร หากพวกเขาชนะ โฉนดของเรือนแขกสำราญสุขและร้านขายเนื้อจะถูกส่งมอบให้ทันที”หลูเฉิงกวงขมวดคิ้วแน่น “ลวี่เหลียงเจ๋อ ท่านกล่าวเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ทุกคนก็เห็นว่าบ่ายวันนี้เรือนแขกสำราญสุขไม่ได้เงินเลย วันนี้ทั้งวันเค้กของเฉินฝานขายได้จำนวนเงินห้าร้อยสามสิบเก้าเหรียญเงิน รายได้รวมสามวันของเรือนแขกสำราญสุขมีไม่ถึงสามร้อยด้วยซ้ำ แต่รายได้รวมหนึ่งวันของเรานำหน้ารายได้รวมสามวันของเรือนแขกสำราญสุข เช่นนี้ถือว่าพวกเราชนะแล้วไม่ใช่หรือ?”“จากการคำนวณของน้องลวี่ พวกเจ้าชนะ” ลวี่เหลียงเจ๋อคลี่ยิ้มที่ชวนเกลียดชัง“แต่....”สีหน้าของลวี่เหลียงเจ๋อคล้ายกับท้องฟ้าในเดือนหก บอกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนทันที “ใครบอกเจ้า เรือนแขกสำราญสุขมีรายได้รวมสามวันเป็

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 365

    “เจี่ยงหงเหวินจะตกรางวัลเป็นจำนวนห้าร้อยเหรียญ!”“ทำเช่นนี้ได้หรือ ไร้ยางอายสิ้นดี”“เพื่อชัยชนะ ถึงกับต้องใช้วิธีที่ต่ำช้าเพียงนี้”“ไม่ใช่สิ รางวัลนี้นับด้วยหรือ? อีกอย่างคนที่ตกรางวัลให้ก็ยังเป็นเจี่ยงหงเหวินอีก”ในจุดพักม้าเวลานี้ เหล่าขุนนางและพ่อค้าจากอำเภอผิงอันทยอยกันด่าทอพวกเขาเสียงดังด้วยความโกรธเคือง“ลวี่เหลียงเจ๋อ อำเภอตูอันชักจะต่ำช้าเกินไปแล้ว?” หลูเฉิงกวงกล่าวกับลวี่เหลียงเจ๋อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ต่ำช้า?” ท่าทางของลวี่เหลียงเจ๋อยังคงนิ่งสงบเหมือนในตอนแรก ไม่รู้สึกละอายใจสักนิด ทั้งยังลำพองใจมากด้วย “พี่ลวี่ เหตุใดท่านถึงกล่าวเช่นนี้ แขกในร้านต้องมีความสุขหลังจากที่ได้กินอาหารฝีมือเสี่ยวทิงสิ รางวัลห้าร้อยเหรียญ มันน่าแปลกใจตรงไหน”“พี่ลวี่ ได้กินอาหารอร่อย ก็ต้องตกรางวัลให้คนทำไม่ใช่หรือ?”ลวี่เหลียงเจ๋อชำเลืองมองหลูเฉิงกวงและถามกลับหลูเฉิงกวงกลั้วหัวเราะ เขาเคยชินกับสิ่งนี้ ทุกครั้งที่ออกไปกินอาหาร หากเขาได้กินของอร่อย เขาจะตกรางวัลให้กับคนทำอาหารเป็นเศษเงินนิสัยของเขา ใคร ๆ ก็รู้“การแข่งขันในครั้งนี้ เป็นการแข่งขันระหว่างฟางทิงกับเฉินฝาน ฟางทิงได้ราง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 366

    “เปลี่ยนวิธีการประลอง?”หลูเฉิงกวงและลวี่เหลียงเจ๋อที่เวลาปกติแข่งกันให้ตายไปข้างหนึ่ง เป็นครั้งแรกที่พูดพร้อมกัน“ใช่ รอบที่สามก็ประลองแข่งรถม้าแล้วกัน แบบนี้ยุติธรรมกับพวกเจ้าทั้งสองฝ่าย”การแข่งรถม้า เป็นกิจกรรมการแข่งขันที่นิยมชมชอบของราษฎรทั้งรัชสมัยต้าชิ่งตั้งแต่เมืองหลวงลงมายันตำบล ทุกปีทุกที่ก็มีการแข่งรถม้าทั้งนั้น“ได้ แข่งรถม้า ตกลงตามนี้แล้วกัน!”ลวี่เหลียงเจ๋อปริปากก่อน เขาเพิ่งจะพูดจบ เจี่ยงหงเหวินรีบพูดต่อทันที “รอบที่สามข้าจะประลองเอง!”นอกเหนือจากการค้าขายแล้ว เจี่ยงหงเหวินรักการแข่งรถม้าอย่างมาก มักจะเข้าร่วมการแข่งขันด้วยตนเองเสมอ นี่เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วไป“ใต้เท้า ข้ารับคำท้าเอง!”ชางเฟยอวี่ที่อยู่ด้านหลังหลูเฉิงกวงลุกตามขึ้นมา เขาก็รักในการแข่งรถม้าเหมือนกับเจี่ยงหงเหวิน และมักจะเข้าร่วมการแข่งขันบ่อยๆ ระดับฝีมือของเขากับเจี่ยงหงเหวินพอๆกันสองรอบก่อนเฉินฝานเฉิดฉายโดดเด่นสุดๆ รอบนี้เขาไม่สามารถปล่อยให้เฉินฝานเฉิดฉายได้อีก“เจ้างั้นรึ?”เจี่ยงหงเหวินยกมุมปากขึ้น“ มิคู่ควร!”“เจ้าว่าไงนะ?”ชางเฟยอวี่จ้องเขม็งเจี่ยงหงเหวินด้วยความโกรธ เจี่ยงหงเหวิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 367

    “ทวดเจ้าสิ!”“เย่ว์เจียว....” เฉินฝานอยากจะห้ามแต่ก็ไม่ทันแล้วตามเสียงที่ดุดันงดงาม ทรวดทรงองค์เอวที่งดงามก็ปรากฏต่อหน้าผู้คนเฉินฝานส่ายหัว ฉินเย่ว์เจียวดีทุกอย่าง แต่หุนหันพลันแล่นเกินไป โดยเฉพาะเวลาที่ได้ยินคนพูดจาเสียๆหายๆเกี่ยวกับเขา ราวกับแม่ไก่ตัวน้อยที่โกรธเคือง ปกป้องสามี!ได้ยินพวกเจี่ยงหงเหวินพูดจาให้เขาอับอายขายขี้หน้าเช่นนี้ นางจะทนได้อย่างไร?“ไอ้คนแซ่เจียง ข้าจะแข่งกับเจ้าแทนนายท่านเอง!”“ฮ่าฮ่า!” เจี่ยงหงเหวินหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง เขาชี้ไปทางเฉินฝาน “ว่าเจ้าเป็นไอขี้ขลาดตาขาว เจ้าก็ขี้ขลาดตาขาวจริงๆด้วย คิดไม่ถึงว่าจะให้ผู้หญิงมาแข่งแทนเจ้า!”“ผู้หญิงแล้วมันทำไม หรือไม่เจ้าไม่กล้าแข่งกับข้า?” ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้น พูดอย่างมีความแค้นเคืองเต็มอก“ปัก!” เจี่ยงหงเหวินตบโต๊ะข้างกายอย่างแรง ชี้ไปที่ฉินเย่ว์เจียวดุด่าด้วยความโกรธ “ผู้ชายพูดอยู่ เจ้าแหกปากพูดแทรกหาพระแสงอะไร!”“ใต้เท้า!” เจี่ยงหงเหวินหันหน้าไปพูดกับลวี่เหลียงเจ๋อ “ได้โปรดลงโทษนางหญิงวาจาสามหาวคนนี้ด้วยเถอะ”ตามกฎหมายต้าชิ่ง ตอนที่ผู้ชายพูด ผู้หญิงพูดแทรก ผู้ชายต้องถูกไต่สวน โทษเบาถูกโบยไม้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 368

    “มีม้าแบบนี้ด้วย?” ฉินเย่ว์โหรวเอียงหัวเล็กน้อย ในความอ่อนโยนก็แฝงไปด้วยความน่ารักเล็กๆเฉินฝานอดไม่ได้ที่จะยีหัวของนาง “มีสิ!”“อยู่ที่ใดกัน? ทำไมข้าไม่เคยเห็น”“อยู่ที่ร้านช่างตีเหล็ก เพิ่งจะทำเสร็จ มันก็แน่อยู่แล้วที่เจ้าจะไม่เคยเห็น”“ร้านช่างตีเหล็ก ทำไมม้าไปอยู่ร้านช่างตีเหล็ก? และยังเพิ่งทำเสร็จ? ม้าเป็นสิ่งที่ทำออกได้งั้นรึ?”ณ ตอนนี้ คนที่ประหลาดใจไม่ได้ทีเพียงฉินเย่ว์โหรวแล้ว ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่ก็ประหลาดใจมากเช่นกัน“แน่นอนว่าได้!” เฉินฝานพูดยืนยันพูดไปแล้วนี่มันเป็นเรื่องบังเอิญเสียจริง!ช่วงปีใหม่ช่วงนั้น อยู่บ้านรู้สึกเบื่อหน่าย เขาวาดของสิ่งหนึ่งขึ้นมาเอาไปให้ช่างตีเหล็กทำ เมื่อวานช่างตีเหล็กไหว้วานให้คนมาบอกเขา ของที่เขาสั่งทำเสร็จเรียบร้อย เขาสามารถไปรับได้ทุกเมื่อในการกลับอำเภอ เฉินฝานไม่ได้รีบร้อนกลับไปที่พักอาศัยปัจจุบันของเขา ทว่าไปหาหลี่ซานที่คุกครั้งนี้คู่ปรับคือเจี่ยงหงเหวินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจี่ยงหงเหวิน เขาได้ยินมาพอสมควร ถ้าไม่ใช่เล่ห์เหลี่ยมจัด ก็ใช้วิธีการที่โหดเหี้ยมหลี่ซานเคยประมือกับเจี่ยงหงเหวิน เขาอยากไปฟังว่าหลี่ซานจะว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 369

    แรกเข้าวสันตฤดู ครอบครัวมหาเศรษฐีล้วนแต่ต้องซื้อข้าวสารและผ้าพับขนานใหญ่ ดังนั้นทุกครั้งที่เวลาวนมาถึงช่วงนี้ พวกพ่อบ้านของครอบครัวมหาเศรษฐี ล้วนต้องไปเฟ้นหาข้าวสารที่คุณภาพดีจากที่ต่างๆครอบครัวมหาเศรษฐีของหรงตูเทียบไม่ได้กับครอบครัวเหล่านั้นที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีในอำเภอผิงอัน เมื่อพวกเขาซื้อทีหนึ่ง ก็ซื้อข้าวสองสามหาบถึงขั้นซื้อสิบกว่าหาบก็มีข้าวหนึ่งหาบหนึ่งร้อยชั่ง สองสามหาบจนไปถึงสิบกว่าหาบก็คือสองสามร้อยจนไปถึงหนึ่งพันชั่งซื้อผ้าพับอย่างไม่เสียดายเงินยิ่งกว่า ล้วนแต่ซื้อทีละสิบยี่สิบกว่าพับไปแล้วกลุ่มหนึ่ง ก็มาอีกกลุ่มหนึ่งตอนที่คนกลุ่มที่สามมาถึง ข้าวสารและผ้าพับในร้านตระกูลหลี่ก็ไม่พอขายแล้วพวกลูกค้าที่มาจากหรงตูเหล่านั้น เพื่อที่จะแย่งชิงข้าวสารและผ้าจึงเกิดการทะเลาะเบาะแว้งจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกันในร้านเสียอย่างนั้นหลี่ซานทำได้เพียงออกหน้าไปห้ามปราม ทว่าไม่ได้ผลแม้แต่น้อย หลังจากที่หลี่ซานรับปากว่าจะนำสินค้าเข้ามาเพิ่มให้มากกว่านี้ ลูกค้าเหล่านั้นถึงจะยอมหยุด หลังจากนั้นก็ให้หลี่ซานสัญญาว่าจะนำสินค้าเข้ามาเยอะๆยุ้งฉางโล่งโจ้งแล้ว นอกจากสินค้าที่ต้องส่งให้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 370

    ในยุ้งฉางมีสินค้ามีปัญหาขายไม่ออกค้างอยู่จำนวนมาก ลูกค้าจากหรงตูพวกนั้นก็จะให้หลี่ซานชดเชยให้สามเท่าตามกฎอีกในช่วงเวลาสั้นๆหลี่ซานจะชดเชยไหวได้อย่างไร หวังว่าลูกค้าพวกนั้นจะผ่อนผันให้เขาบนโลกนี้จะมีคนพูดง่ายๆแบบนั้นที่ไหนกัน เริ่มแรกลูกค้าพวกนั้นแย่งสินค้ากันอย่างดุดัน ตอนที่พูดดีขนาดไหนตอนนี้ก็พวกเขาก็เร่งเร้าขนาดนั้นยังข่มขู่อีกว่า ถ้าหลี่ซานไม่ชดเชยให้พวกเขาทันที พวกเขาจะไปฟ้องร้องหลี่ซานกับทางราชการ และไม่ใช่ฟ้องร้องกับอำเภอผิงอัน แต่ไปฟ้องร้องกับเจ้าเมืองหรงตูถ้าไปฟ้องร้องที่เจ้าเมืองนั้นชดเชยไม่ไหว หลี่ซานต้องติดคุกแน่นอนความจริงแล้วการติดคุก สำหรับหลี่ซานแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร รัชสมัยต้าชิ่งผู้ชายน้อยผู้หญิงเยอะ ตอนนี้เขายังสามารถให้กำเนิดลูก อย่างมากถูกคุมขังปีครึ่งก็ออกมาได้แล้วปัญหาก็คือเมื่อฟ้องร้องไปถึงเจ้าเมืองหรงตูแล้ว ชื่อเสียงการค้าของตระกูลหลี่ก็รักษาไว้ไม่ได้แน่นอนถ้าไม่มีชื่อเสียงการค้า ก็ไม่พูดถึงร้านข้าวสาร แม้แต่หอนางโลมอี๋ชุนย่วน เรือนแขกสำราญสุขก็รักษาไว้ไม่ได้เหมือนกันเพื่อที่จะรวบรวมเงินชดเชยให้เพียงพอ รักษาชื่อเสียงการค้าของตระกูลหลี่เอา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 371

    เหตุเพราะเป็นพื้นที่ที่ทั้งสามอำเภอไม่เข้ามาดูแล จึงแทบไม่มีใครสนใจ เจ้าเมืองหรงตูมีคำสั่งปราบโจรหลายครั้ง ทว่าแต่ละอำเภอกลับผลักความรับผิดชอบ มีเพียงหลูเฉิงกวงเท่านั้นที่เคยส่งคนไปปราบโจร มังกรตาเดียวจึงออกปล้นอำเภอผิงอันเป็นประจำหลังจากหลูเฉิงกวงพ่ายแพ้ เจ้าเมืองส่งคนมาปราบโจรด้วยตนเอง แต่ว่าภูเขาวิฬาร์อันตราย ป้องกันง่ายและยากในการโจมตีบวกกับโจรส่วนมากหนีออกมาจากค่ายทหาร พวกโจรเหล่านี้ต่อสู้เก่งและเหี้ยมโหดอย่างมาก กองทหารเข้าปราบโจรสามสี่หนทว่าไม่สำเร็จ“อ่อ!” เฉินฝานลูบศีรษะของตนเอง เผยให้เห็นรอยยิ้มแห้งๆ ประจำตัวของเขา “หลังจากตกหน้าผา ข้าหลงลืมไปหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ต้องสนใจข้า ท่านพูดต่อได้เลย”“ตอนหลัง...” หลี่ซานพูดต่อตอนหลัง เขาเพิ่งรู้ว่า โจรไม่เพียงปล้นภรรยาของเจี่ยงหงเหวินไปได้ แต่ยังรวมถึงภรรยาและลูกสาวของผู้ส่งสินค้าชื่อเสียงในด้านคุณภาพและราคาที่ดีของข้าวสาร เส้นหมี่และผ้าตระกูลหลี่ดังไปถึงหรงตู ทำให้ลูกค้าจำนวนมากของหรงตูแย่งกันซื้อ และนี่ก็เป็นแผนการที่เจี่ยงหงเหวินวางไว้ให้หลี่ซาน ลูกค้าเหล่านี้ แท้จริงแล้วเจี่ยงหงเหวินเป็นคนหามาพวกเขารู้ว่าข้าวสาร เส้

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status