เหตุเพราะเป็นพื้นที่ที่ทั้งสามอำเภอไม่เข้ามาดูแล จึงแทบไม่มีใครสนใจ เจ้าเมืองหรงตูมีคำสั่งปราบโจรหลายครั้ง ทว่าแต่ละอำเภอกลับผลักความรับผิดชอบ มีเพียงหลูเฉิงกวงเท่านั้นที่เคยส่งคนไปปราบโจร มังกรตาเดียวจึงออกปล้นอำเภอผิงอันเป็นประจำหลังจากหลูเฉิงกวงพ่ายแพ้ เจ้าเมืองส่งคนมาปราบโจรด้วยตนเอง แต่ว่าภูเขาวิฬาร์อันตราย ป้องกันง่ายและยากในการโจมตีบวกกับโจรส่วนมากหนีออกมาจากค่ายทหาร พวกโจรเหล่านี้ต่อสู้เก่งและเหี้ยมโหดอย่างมาก กองทหารเข้าปราบโจรสามสี่หนทว่าไม่สำเร็จ“อ่อ!” เฉินฝานลูบศีรษะของตนเอง เผยให้เห็นรอยยิ้มแห้งๆ ประจำตัวของเขา “หลังจากตกหน้าผา ข้าหลงลืมไปหลายสิ่งหลายอย่าง ไม่ต้องสนใจข้า ท่านพูดต่อได้เลย”“ตอนหลัง...” หลี่ซานพูดต่อตอนหลัง เขาเพิ่งรู้ว่า โจรไม่เพียงปล้นภรรยาของเจี่ยงหงเหวินไปได้ แต่ยังรวมถึงภรรยาและลูกสาวของผู้ส่งสินค้าชื่อเสียงในด้านคุณภาพและราคาที่ดีของข้าวสาร เส้นหมี่และผ้าตระกูลหลี่ดังไปถึงหรงตู ทำให้ลูกค้าจำนวนมากของหรงตูแย่งกันซื้อ และนี่ก็เป็นแผนการที่เจี่ยงหงเหวินวางไว้ให้หลี่ซาน ลูกค้าเหล่านี้ แท้จริงแล้วเจี่ยงหงเหวินเป็นคนหามาพวกเขารู้ว่าข้าวสาร เส้
คนที่นั่นไม่มีแนวคิดเรื่องบัณฑิต กสิกร กรรมกรและพ่อค้าวาณิชย์ ทุกคนเท่าเทียบกัน ไม่ว่าจะทำสิ่งใด ขอเพียงทำด้วยความสามารถของตนเอง คนอื่นก็จะให้ความเคารพหากคนอื่นได้ยิน ต้องหัวเราะแน่ ถึงขั้นหัวเราะเยาะเฉินฝานดื่มหนักจนเพ้อฝันแต่ว่า หลี่ซานไม่เหมือนคนอื่นเขาเชื่อเฉินฝาน เพราะก่อนร่วมงานกับเฉินฝาน เขารู้จักเฉินฝานเป็นอย่างดีเฉินฝานเป็นจอมขี้โกงที่โง่เขลาและขี้เกียจ หลังจากตื่นขึ้นมาจากตกหน้าผา ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน ไม่เพียงฉลาดขึ้น แต่ยังทำหลายอย่างที่พวกเขาทำไม่เป็น เป็นอีกด้วยหลี่ซานไม่เชื่อเรื่องผีสางเทวดา ไม่เชื่อเรื่องเทพเซียนสิ่งเดียวที่อธิบายการเปลี่ยนแปลงของเฉินฝานได้ ก็คือเขาในตอนนี้ไม่ใช่เฉินฝานคนนั้นอีกแล้วตอนหลังเฉินฝานบอกกับเขาว่า เฉินฝานจะเข้าร่วมการสอบขุนนางหลี่ซานสนับสนุนเต็มกำลัง ไม่เพียงส่งตำรา พู่กันและหมึกให้เฉินฝานเป็นประจำ ตอนเฉินฝานเข้าร่วมการสอบระดับอำเภอและระดับมณฑลในอำเภอผิงอัน เขาให้เฉินฝานพักห้องที่แพงที่สุดของเรือนแขกสำราญสุขห้องชั้นสามของเรือนสำราญสุข ความจริงมีทั้งหมดห้าห้อง กลัวอีกสี่ห้องรบกวนเฉินฝาน หลี่ซานถึงกับสั่งให้ผู้ดูแลไม่รับแขกเ
การแข่งขันสองครั้งก่อนหน้านี้ คนอื่นมองว่าเฉินฝานใช้แผนการสกปรกบ้าง โชคดีบ้าง แต่เจี่ยงหงเหวินกลับไม่มองแบบนั้นเจ้าหนุ่มคนนี้ ไม่เพียงทำอาหารที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนเช่นเค้กได้ แล้วยังมีทักษะในการค้าขายคนประเภทนี้ไม่ช้าก็เร็วต้องกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา จำต้องกำจัดทิ้ง ก่อนที่เฉินฝานจะเติบโตไปมากกว่านี้“เจ้าต้องระมัดระวังให้ดี เจ้าหนุ่มนั่นร้ายกาจมาก!” ลวี่เหลียงเจ๋อไม่วางใจเท่าใดนัก“ใต้เท้า ท่านวางใจเถอะขอรับ!” สีหน้าของเจี่ยงหงเหวินฉายความมั่นใจ “ชนแล้วไม่ตาย ข้ายังมีวิธีอื่น เขาไม่อาจมีชีวิตรอดพ้นวันแข่งขันแน่นอนขอรับ!”“หื้ม?” เมื่อได้ยินคำพูดของเจี่ยงหงเหวิน ดวงตาลวี่เหลียงเจ๋อทอประกายขึ้นมาทันที “เจ้ายังมีวิธีอื่นหรือ? เล่ามาสิ”“ใต้เท้า...” เจี่ยงหงเหวินขยับไปใกล้ลวี่เหลียงเจ๋อ พูดกระซิบข้างหูเขา“เจ้าจะใช้พวกเขา?” สีหน้าลวี่เหลียงเจ๋อเคร่งเครียดเล็กน้อย“ใต้เท้า คนของท่านกับข้าล้วนไม่อาจลงมือได้ มีเพียงพวกเขาเท่านั้น มีพวกเขาแล้ว แม้เทพเซียนจุติก็ไม่อาจช่วยเฉินฝานได้!”“แต่ว่า เจ้ารู้ผลลัพธ์ที่ตามมาในการใช้พวกเขาหรือไม่ หากถูกจับได้...”“ใต้เท้า แม้มีคนพบเจอ ก็ไ
“อย่าคิดว่าท่านเป็นพี่สาม แล้วข้าไม่กล้าตีท่าน!” ฉินเย่ว์ฉู่กำหมัดน้อยๆ ของนาง พุ่งตัวออกไป“เช่นนั้นเจ้าก็มาสิ เจ้าเตี้ย!”ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์ฉู่เถียงกันข้างหน้า ฉินเย่ว์โหรวคอยตำหนิอยู่ข้างหลัง “พี่สาม เสี่ยวฉู่ ตอนนี้พวกเจ้าออกเรือนแล้ว เหตุใดจึงยังทำตัวเหมือนเด็ก หยุดเดี๋ยวนี้!”“เย่ว์โหรว เฉินฝานจับมือฉินเย่ว์โหรว “อุตส่าห์มีความสุข ปล่อยพวกนางไปเถอะ”“นายท่าน ท่านตามใจพวกนางเกินไปแล้ว”“หืม?” เฉินฝานเคลื่อนมือไปโอบเอวฉินเย่ว์โหรว “เจ้ากำลังตำหนิข้าที่ตามใจแค่เย่ว์เจียวกับเย่ว์ฉู่ ไม่ตามใจเจ้าใช่ไหม?”ขณะพูด เฉินฝานก้มหน้าลงเล็กน้อย พูดกระซิบข้างหูนาง “เช่นนั้น คืนนี้ข้าจะรักเจ้าให้มากๆ”ตอนเฉินฝานพูดคำว่าคืนนี้ เขาเจตนาเน้นเสียงฉินเย่ว์โหรวที่อ่อนไหวง่าย พวงแก้มแดงระเรื่อทันที“ทำหน้าอะไรเนี่ย?”เฉินฝานชอบสีหน้าเหนียมอายเช่นนี้ของฉินเย่ว์โหรวมาก เขากระชับมือที่โอบฉินเย่ว์โหรวเอาไว้ร่างบางสั่นเทา นางรีบอธิบาย “ความหมายของข้าคือ ความหมายของข้าคือ ท่านตามใจพวกนางมากเกินไป พวกนางจึงไม่มีความเป็นศรีภรรยาแบบนี้!”“ต้องเป็นเช่นไรจึงจะมีความเป็นศรีภรรยา? ข้ารู้สึกว่าพ
พวกเขาคือโจรวิฬาร์ที่หลี่ซานบอกว่า ร่วมมือกับเจี่ยงหงเหวิน จับตัวภรรยาขของเขา บีบให้เขาใส่ร้ายตน อีกทั้งแม้กระทั่งท่านเจ้าเมืองก็ไม่อาจทำอะไรพวกเขาได้?พวกเขาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?เฉินฝานสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่า เส้นทางของโจรภูเขาวิฬาร์ตรงกับของตน จุดหมายของพวกเขาคือเรือนแขกสำราญสุขเช่นเดียวกันพวกเขาไปถึงเรือนแขกสำราญสุขก่อนตน“ลูกค้า ทานอาหารหรือเข้าพักขอรับ?”เฉินฝานได้ยินพนักงานในร้านเอ่ยถาม“เข้าพัก!”โจรคนแรก กิริยาวาจาสง่าผ่าเผย แต่งกายเรียบร้อย ทั้งยังสวมผ้าไหมชั้นดีหากฉินเย่ว์ฉู่จำไม่ได้ว่าพวกเขาคือโจรภูเขา เฉินฝานก็จะคิดว่าเขาเป็นคุณชายตระกูลใหญ่ ส่วนชายฉกรรจ์หน้าตาดุร้ายด้านหลังเป็นผู้คุ้มกันของเขากระทั่งพวกโจรตามพนักงานขึ้นไปบนชั้นสองของเรือนแขก เฉินฝานค่อยเข้าไป“คุณชาย!” เมื่อเห็นเฉินฝาน ผู้ดูแลมาต้อนรับด้วยตนเอง “ในที่สุดท่านก็มา ใต้เท้าหลูรอท่านบนห้องชั้นสาม ชั่วขณะหนึ่งแล้ว ข้าพาท่านไปเองขอรับ”ตอนผ่านชั้นสอง เฉินฝานกวาดตามองห้องเรียงรายเหล่านั้น พูดด้วยน้ำเสียงอิจฉา “ว้าว วันนี้ค้าขายดี ข้าเห็นห้องบนชั้นสองพักเต็มหมด เดือนนี้น่าจะได้เงินไม่น้อยกระมัง
ใต้เท้า ท่านมั่นใจว่านายท่านของข้าจะแพ้เช่นนั้นหรือ นายท่านของข้ามีพรสวรรค์ในการขี่ม้า” สีหน้าของฉินเย่ว์เจียวฉายความไม่สบอารมณ์นางไม่อาจทนฟังผู้อื่นบอกว่าเฉินฝานทำไม่ได้อีกทั้ง นางไม่ได้พูดด้วยความโมโห แต่เฉินฝานมีพรสวรรค์ในการขี่ม้าจริงๆ“ถูกต้อง!” เฉินฝานหัวเราะ พูดด้วยความผ่อนคลาย “ใต้เท้าวางใจให้ข้ารับผิดชอบก็พอแล้วขอรับ!”“เสี่ยวฝาน เจ้ามั่นใจแบบนี้ ข้าก็วางใจแล้ว”แม้หลูเฉิงกวงจะบอกว่าวางใจ แต่ความจริงเขาไม่ตั้งความหวังแม้แต่น้อย เฉินฝานฟังออกอย่างชัดเจนเฉินฝานไม่ได้พูดเรื่องโจรภูเขาให้หลูเฉิงกวงฟังประการแรกเป็นเพราะเวลานี้หลูเฉิงกวงคิดเพียงเรื่องการแข่งขัน บอกเขาแล้ว ใช่ว่าเขาจะเก็บมาใส่ใจประการที่สองหากหลูเฉิงกวงให้ความสำคัญจริงๆ ย่อมต้องทำการจับกุม เช่นนั้นจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเพื่อความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เรื่องน่าเศร้าที่หลี่ซานต้องเผชิญเกิดขึ้นกับตนอีกครั้งนับตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เฉินฝานให้สามพี่น้องตระกูลฉินน้องห้องเดียวกับตนเขาย้ายเตียงจากห้องข้างไปยังห้องหลัก วางเตียงสองหลังประกบกัน พวกเขาเหมือนตอนอยู่หมู่บ้านซานเหอ นอนในห้องเดียวกัน นอนบนตั่งเดี
วันนี้ ฟ้ายังไม่สว่าง ฉินเย่ว์เจียวก็ตื่นนอนแล้วอย่ามองว่าปกตินางโผงผาง แท้จริงแล้วความเป็นห่วงของนางที่มีต่อเฉินฝาน ไม่น้อยไปกว่าน้องสาวทั้งสองคนของตนนางตื่นแต่เช้า เพราะอยากไปดูม้าที่ลานก่อนเวลา“ตื่นแล้วหรือ? เหตุใดจึงไม่นอนต่ออีกสักหน่อย?”ฉินเย่ว์เจียวเพิ่งก้าวเท้าลงจากเตียง เสียงทุ้มต่ำด้วยความเป็นห่วงก็ดังขึ้นจากหน้าเตียงนางเงยหน้าขึ้น ก็เห็นเฉินฝานพอดีนอกห้อง ตะเกียงยังไม่มอดดับ เฉินฝานยืนย้อนแสง บวกกับเสียงที่ทุ้มต่ำไพเพราะของเขาเฉินฝานเวลานี้ ในสายตาของฉินเย่ว์เจียว ราวกับเทพเซียน“นายท่าน เหตุใดท่านก็ตื่นแต่เช้าเช่นเดียวกันเจ้าคะ?”“อ่อ! ข้าตื่นมาทำอาหารเช้า เมื่อคืนพวกเจ้านอนดึกมาก ตอนนี้ต้องง่วงแน่นอน จึงอยากทำอาหารเช้าให้พวกเจ้าก่อนการแข่งขัน”เฉินฝานเดินออกมาจากแสงไฟคิ้วกระบี่หนาเข้ม ใบหน้าหล่อเหลาสองถ้อยคำนี้ ฉายขึ้นมาในความคิดของฉินเย่ว์เจียวไม่เคยรู้เลยว่า นายท่านหล่อเหลาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดนายท่านไม่เพียงหล่อเหลา ทั้งยังใจดีกับพวกนางมาก ตนจะเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว ยังเป็นห่วงกลัวพวกนางนอนไม่อิ่มจึงตื่นมาทำอาหารเช้าให้ การได้เจอนายท่านแสนดีเช่นน
“ใต้เท้าจาง ตอนนี้อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลยขอรับ!” เฉินฝานกัดฟันแน่นตำหนิจางเจิ้งห้าว “รีบส่งคนไปยืมม้ากับพวกตระกูลใหญ่ในตัวเมืองเถอะขอรับ!”การแข่งม้าไม่อาจใช้ม้าทางการและท้าทหาร นี่เป็นข้อตกลง“เสี่ยวฝาน ข้าส่งคนไปแล้ว!” หลูเฉิงกวงก็เดินมา“ใต้เท้า!”ทางเข้าสนามซ้อม ชางเฟยอวี่กำลังพาพวกพ่อค้ามาอีกทั้งพวกเขายังมาพร้อมกับข่าวร้าย ม้าแข่งของพวกเขาล้มป่วยกันหมดคนที่หลูเฉิงกวงส่งไปก็กลับมาอย่างรวดเร็ว รายงานเดียวกันกับชางเฟยอวี่ม้าแข่งทั้งเมือง ล้มป่วย ในชั่วข้ามคืน“ต้องเป็นฝีมือของพวกลวี่เหลียงเจ๋อแน่นอน พวกเราไปคิดบัญชีกับพวกเขากันเถอะ!” เหออี้หมินที่กำลังโมโหเลือดขึ้นหน้าอยากพาคนไปหาลวี่เหลียงเจ๋อ“กลับมา!” หลูเฉิงกวงร้องตะโกนเสียงดัง ร้องเรียกเหออี้หมินแม้จะเป็นฝีมือของพวกลวี่เหลียงเจ๋อจริงๆ ตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีหลักฐาน เอาอะไรไปคิดบัญชีกับพวกเขา?ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้การแข่งขันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว“ใต้เท้า หรือว่า ข้ารีบออกนอกเมืองตอนนี้ ไปหมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุดในอำเภอดูว่ามีแม้แข่งหรือไม่” จางเจิ้งห้าวเสนอตัว“เฮ้อ!” หลูเฉิงกวงถอนหายใจ “ตอนนี้ทำได้เพียงแค่นี้”“ไม่ทั
เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ
เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั
“ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม
เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน
เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข
ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่
“สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ
“ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล
ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ