Share

บทที่ 330

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“เพราะว่า……”

หูของฉินเย่ว์โหรวหยุดแดงกะทันหันและไม่เขินอีก บนใบหน้าเล็กที่เคร่งขรึมแสดงสีหน้าไม่เชื่อไว้ด้วย “จริง ๆ แล้ว เฉินเจียงเป็นคนใส่ข้อสอบเข้าไปในกล่องไม้เจ้าค่ะ”

เฉินเจียง?

ความเยือกเย็นแวบผ่านดวงตาของเฉินฝาน และกลับสู่ความเรียบนิ่งอย่างรวดเร็ว

เขานี่เอง เฉินฝานไม่แปลกใจมากนัก

ทำเรื่องแบบนี้ได้ ก็สอดคล้องกับตัวตนที่หลอกลวงจอมปลอมของเฉินเจียงดี

เขาได้อันดับหนึ่ง ส่วนเขาสอบตก ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง ก็ไม่ใช่เฉินเจียง

“แม้ว่าปกติ เราสองครอบครัวก็มีความสัมพันธ์ต่อกันไม่ดีเท่าไหร่นัก เฉินเจียงก็ดูถูกเรามาตลอด แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร นายท่านก็เป็นหลานชายของเขา เขาทำเช่นนี้ได้อย่างไร!”

เดิมทีร่างกายของฉินเย่ว์โหรวดูเพรียวบางอยู่แล้วเมื่อสวมเสื้อผ้า แต่พอถอดออกก็ยังมีน้ำมีนวล วิจิตรงดงามยิ่งนัก นางพูดจารุนแรงเพียงนั้น ร่างกายก็ขยับไม่หยุด

จนเฉินฝานไม่อาจละสายตาออกไปได้

ดวงตาของเขากำลังลุกไหม้

เฉินฝานเริ่มปล่อยตัวเอง

“นายท่าน......”

ฉินเย่ว์โหรถึงกระทั่งสะดุ้ง นางตกใจและเขินอายพลางยกกำปั้นขึ้นทุบตีเฉินฝาน “คนบ้า คนบ้า”

“หืม?”

ริมฝีปากของเฉินฝานแนบชิดกับหูของฉินเย่ว์โหรว “เจ้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 331

    ปกติแล้วเด็กสาวคนนี้จะค่อนข้างสุภาพเยือกเย็นและอ่อนโยน แต่วันนี้กลับสร้างความประหลาดใจให้เขาอย่างมาก“อื้อ?” เฉินฝานเลิกคิ้วสูงและยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง “อยากมีบุตรชาย หญิงสาวควรทำอย่างไร?”“ข้า....” ฉินเย่ว์โหรวที่นั่งอยู่บนตักของเฉินฝานมีท่าทีเขินอายและกังวลใจคล้ายกับมดน้อยที่อยู่บนหม้อไฟ นางร้อนใจแต่กลับไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกันแล้วเมื่อคืนก่อน แต่นั่นคือเหตุการณ์หลังจากที่นางเมาฤทธิ์สุราแล้ว ฉินเย่ว์โหรวในตอนนั้นกำลังสับสนและคุมสติไม่อยู่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นการนำพาของเฉินฝานทั้งสิ้นตอนนี้เขาอยากให้นางเป็นฝ่ายรุกก่อน ซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน“นายท่าน” ฉินเย่ว์โหรวมองเฉินฝานด้วยแววตาอ้อนวอน “นายท่านสอนข้าได้หรือไม่?”เฉินฝานส่ายหน้า “ครั้งนี้เจ้าอยากมีบุตรชาย แล้วข้าจะสอนได้อย่างไร?”การรุกจากหญิงสาวผู้อ่อนโยน นับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง เขาอยากเห็นมันสักครั้ง“นายท่าน นายท่าน....” ฉินเย่ว์โหรวก้มหน้าลงอย่างจนปัญญา มือเล็ก ๆ ที่ขาวเนียนคล้ายกับต้นหอมถูไปมาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของนางแด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 332

    ถึงอกถึงใจนะ แต่ก็ไม่ได้ถึงอกถึงใจขนาดนั้นเฉินฝานใจร้ายมาก เขาผลักคนที่อยู่ในอ้อมกอดจะไม่ผลักออกก็ไม่ได้ เพราะเสียงของนายอำเภอหลูเฉิงกวงดังขึ้นนอกบ้านทันทีที่เฉินฝานเดินออกมาจากในห้อง หลูเฉิงกวงก็วิ่งปรี่เข้ามาหาเขา โดยมีนักการในศาลาว่าการและขุนนางจากอำเภอผิงอันหลุ่มหนึ่งตามหลังเขามาติด ๆ “เสี่ยวฝาน เจ้าตื่นแล้วหรือ?” บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่นตามวัยของหลูเฉิงกวงกำลังฉีกยิ้มกว้างเรื่องที่เฉินฝานพลิกล็อกเอาชนะเริ่นรุ่ยฟ่านผู้โด่งดังในวงการวรรณกรรมได้อย่างสันติด้วยวัยสิบเก้าปี ไม่เพียงแต่จะแพร่กระจายไปทั่วอำเภอผิงอันเท่านั้น ทั้งยังแพร่กระจายไปทั่วหรงตูอีกด้วยท่านเจ้าเมืองจึงส่งคนมาตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบจนแน่ใจแล้วเขาก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข และยังรู้สึกอนิจจังที่เมืองของตัวเองมีอัจฉริยะเกิดขึ้นอีกแล้ว หลังจากมอบรางวัลให้กับเฉินฝานแล้ว หลูเฉิงกวงก็ยังได้อาศัยบารมีของอีกฝ่ายจนทำให้เขาได้รับคำชื่นชมจากเจ้าเมืองมากมายทันทีที่คนของท่านเจ้าเมืองจากไป นายอำเภอจากอำเภออื่นก็ทยอยกันส่งข้อความมาแสดงความยินดีในขณะที่ผู้คนกำลังแสดงความยินดีนั้น หลูเฉิงกวงก็ยังดูปกติ ทันท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 333

    หลังจากที่หลูเฉิงกวงกล่าวจบ สีหน้าจริงจังของเขาก็พลันหายไป เปลี่ยนมาเป็นรอยยิ้มประจบประแจงแทนเขาวิ่งมาตรงหน้าของเฉินฝานเฉินฝานแค่ชำเลืองตามองอีกฝ่าย ก่อนจะเอื้อมมือออกไปยกกาเพื่อรินชาโดยไม่ได้สนใจหลูเฉิงกวงแต่อย่างใด“ข้าเอง ข้าเอง!” มือของเฉินฝานยังไม่ทันได้แตะโดนกา หลูเฉิงกวงก็ชิงคว้ากาไปเสียก่อนหลูเฉิงกวงยกกาขึ้นมาดมเล็กน้อย แล้วส่ายหน้า จากนั้นก็หันไปสั่งนักการที่อยู่ในลานกว้าง “ไปที่เกี้ยวของข้า แล้วหยิบกล่องชาของข้ามาให้ข้าเดี๋ยวนี้”“เสี่ยวฝาน นี่คือชาหลงหูในฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ รสชาติเข้มข้นกำลังดี เจ้าลองชิมสิ หากเจ้าชอบ กลับไปข้าจะให้คนนำมาส่งให้เจ้า”หลูเฉิงกวงที่นำใบชาติดตัวมาได้ลงมือชงชาด้วยตัวเอง จากนั้นก็ยื่นไปตรงหน้าของเฉินฝานชาสามถ้วยนั้นล้วนแต่เป็นฝีมือการชงชาของหลูเฉิงกวงทั้งสิ้น เขายื่นถ้วยชาไปตรงหน้าของเฉินฝานอีกครั้งเฉินฝานแค่ดื่มอย่างเงียบ ๆ แต่เขาดื่มชาติดต่อกันสามถ้วยแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่เอ่ยสิ่งใด แต่สีหน้านั้นดีขึ้นกว่าเมื่อครู่ไม่น้อยคนที่รับตำแหน่งขุนนางแล้วล้วนแต่เป็นคนที่เจนต่อโลก แวบเดียวที่เห็นสีหน้าอ่อนโยนของเฉินฝาน หลูเฉิงกวงก็รีบเอ่ยทันใด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 334

    “วันนี้ท่านผู้พิพากษาได้ออกประกาศเกณฑ์ทหารฉบับหนึ่งออกมา โดยในประกาศฉบับนั้นมีชื่อพ่อของข้าด้วย ตอนนี้พ่อของข้าอายุสี่สิบปีแล้ว ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก หากจะให้เขาลงสนามรบ เขาคงไม่มีวันได้กลับมาอย่างไม่ต้องสงสัย!”ทันทีที่กล่าวจบ เฉินต้ายาก็ร้องไห้อย่างเงียบ ๆ “พ่อของเจ้าจ่ายภาษีแล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงยังมีชื่อของเขาอีกล่ะ?” เฉินฝานโค้งตัวลงไปเอ่ยถามเฉินต้ายา“ข้าถามขุนนางที่มาติดประกาศเมื่อครู่แล้ว ไม่เพียงแต่พ่อของข้า ดูเหมือนว่าชายใดที่มีอายุเท่าพ่อของข้า หากยังไม่มีบุตรสาวล้วนแต่ต้องไปเป็นทหารทั้งสิ้น หากคิดเลี่ยงเกณฑ์ทหาร พวกเขาจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน”“ต้องจ่ายเงินหนึ่งร้อยตำลึงภายในหนึ่งเดือนหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวที่เดินออกมาจากห้องและได้ยินเรื่องนี้ก็ถึงกับโกรธฉุนเฉียว “ข้ายังคิดอยู่เลยว่าสกุลหลูเป็นขุนนางที่ดี ที่แท้ก็เป็นแค่ขุนนางรับใช้คนหนึ่ง ต้องจ่ายเงินหนึ่งร้อยตำลึงภายในหนึ่งเดือน ทำไมเขาถึงไม่มารับคนด้วยตัวเอง?” ครอบครัวชาวนาธรรมดา ต่อให้พวกเขาจะไม่ดื่มไม่กินเลยตลอดหนึ่งปี แต่ก็ใช่ว่าจะหาเงินได้หนึ่งร้อยตำลึง“เช่นนั้นเราควรทำอย่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 335

    การค้า?เกี่ยวข้องกับการประกาศเกณฑ์ทหารอย่างนั้นหรือ?“ใต้เท้า!” เฉินฝานไล่ตามไปติด ๆ แม้ว่าเขาจะไม่เคยทำการค้ามาก่อน แต่ในฐานะที่เขาเป็นคนสมัยใหม่ที่ข้ามเวลามา เคยเห็นธุรกิจการค้าของปัญญาชนมามาก หากคนโบราณคิดอยากเปรียบเทียบกับเขา ถือว่ายังล้าหลังอยู่มากระหว่างทางไปตัวอำเภอผิงอัน จางเจิ้งห้าวได้เล่าสถานการณ์ให้เฉินฝานฟังโดยประมาณหลี่ซานถูกเจี่ยงหงเหวินใส่ร้าย ทรัพย์สมบัติของตระกูลหลี่ส่วนใหญ่ตกมาอยู่ในมือของตระกูลเจี่ยงเจี่ยงหงเหวิน?เฉินฝานได้ยินมากับหูว่าเขาเป็นคุณชายของตระกูลเจี่ยงที่เปิดการค้าใหญ่โตที่สุดของอำเภอ ทั้งยังได้ยินอีกว่ากระบวนการวางแผนของเขานั้นยอดเยี่ยมอีกด้วย คนคนนี้ดูภายนอกดูดี แต่ภายในกลับคิดไม่ซื่อ และยังมีจิตใจโหดเหี้ยมตระกูลหลี่ในตอนนี้เหลือเพียงหอนางโลมอี๋ชุนย่วนแห่งเดียวหอนางโลมอี๋ชุนย่วนแห่งนี้ไม่ได้ตกอยู่ในมืองของตระกูลเจี่ยงตั้งแต่แรก แต่หลี่ซานดันไปตอบตกลงข้อเสนอของเจี่ยงหงเหวินคือการให้เขาใส่ร้ายเฉินฝานว่าขโมยข้อสอบถึงจะรักษาไว้ได้ ตอนนี้เจี่ยงหงเหวินกลับคำพูด เขาใช้ใบแจ้งหนี้ที่มีรอยประทับนิ้วมือของหลี่ซานมาใช้ยึดหอนางโลมอี๋ชุนย่วนสามวัน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 336

    “ดูแล้วเหมือนว่าเจ้าจะไม่พอใจอย่างมาก” ลวี่เหลียงเจ๋ออยู่ในลักษณะยืนอยู่เหนือมวลชน เขาจ้องไปที่หลูเฉิงกวง “ข้าลวี่เหลียงเจ๋อก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้ใจจืดใจดำ”ตอนที่ลวี่เหลียงเจ๋อกำลังพูด ก็กวาดสายตามองกลุ่มพ่อค้าด้านหลังตนเองกลุ่มนั้น “พวกเจ้าพูดสินะ? พวกเราให้โอกาสพวกเขาอีกครั้ง ให้พวกเขาประลองฝีมือกับพวกเราอีกรอบ”“ท่านลวี่ฉลาดล้ำเลิศ ท่านลวี่จิตใจเมตตากรุณา!”มวลเสียงประจบแจง ทำให้ลวี่เหลียงเจ๋อเหลิงลอยละลิ่วขึ้นไปอีก“เจ้าอยากประลองเยี่ยงไร? ประลองอะไร ?” หลูเฉิงกวงถามด้วยเสียงทุ้มต่ำลวี่เหลียงเจ๋อยกคางขึ้นสูงไปทางหลูเฉิงกวง ใช้น้ำเสียงในการให้ทานพูดว่า “ในเมื่อเรื่องเกี่ยวกับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนและการค้า พวกพ่อค้าเชี่ยวชาญ เช่นนั้นก็ให้พวกเขาประลองกันในด้านการค้า”“ใต้เท้า!” เจี่ยงหงเหวินทำความเคารพให้กับลวี่เหลียงเจ๋อ “เกี่ยวกับการประลอง ข้าน้อยมีข้อเสนอแนะ”ลวี่เหลียงเจ๋อผายมือ “เจ้าว่ามา!”“ขอบคุณใต้เท้า” เจี่ยงหงเหวินพูดต่อ “ช่วงก่อนข้าน้อยซื้อที่ดินหมู่บ้านเซี่ยกู่ของด้านนอกอำเภอผิงอัน หลังจากที่ยึดหอนางโลมอี๋ชุนย่วน ข้าน้อยวางแผนที่จะปิดหอนางโลมอี๋ชุนย่วนแล้ว จะเปิดหอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 337

    “ไม่มีใครยอมออกมาจริงๆหรือ?” หลูเฉิงกวงบังคับความโกรธไว้ในใจ น้ำเสียงนุ่มนวลความหมายของเขาชัดเจนมากแล้ว ขอเพียงแค่มีคนกล้าออกมาก็ใช้ได้แล้ว เขาไม่สนว่าผลแพ้ชนะสายตาของหลูเฉิงกวงผาดผ่านมวลหมู่พ่อค้าไปมาสามครั้งเต็มๆ ก็ยังไม่มีใครกล้าออกมาเส้นเลือดบนหน้าผากหลูเฉิงกวงปูดขึ้น แววตาของเขาเริ่มดุร้าย “ได้ พวกเจ้าแต่ละคนไม่มีใครกล้าออกมาใช่ไหม!”พวกพ่อค้าตกใจจนตัวสั่นเล็กน้อย ไม่กล้าหายใจดัง ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังไม่มีใครกล้ารับคำท้าลวี่เหลียงเจ๋อสีหน้าเยาะเย้ย “หลูเฉิงกวง ข้าเคยให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว ทว่า... ” ลวี่เหลียงเจ๋อกางมือออกสองข้าง สีหน้าหยิ่งผยองหาสิ่งใดเปรียบมิได้ “ในอำเภอผิงอันของเจ้าไม่มีใครสามารถรับคำท้าได้ เฮ้อ น่าเหนื่อยใจ!”ลวี่เหลียงเจ๋อพูดจบ คิดไม่ถึงว่าจะไปนั่งบนตำแหน่งที่นั่งนายอำเภอของหลูเฉิงกวงตำแหน่งที่นั่งของนายอำเภอ นอกจากตัวนายอำเภอเองแล้ว มีเพียงขุนนางที่ยศสูงกว่านายอำเภอเท่านั้นถึงจะนั่งได้ถึงแม้ว่าจะเป็นแบบนี้ ปกติขุนนางที่มาถึงที่ ต่อให้ตำแหน่งสูงกว่านายอำเภอ เป็นการให้เกียรติก็จะไม่ไปนั่งตำแหน่งหลักทว่าไปนั่งตำแหน่งเสริมข้างๆแทนตอนนี้ลว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 338

    ผู้คนต่างพากันมองไปด้านนอกที่ว่าการ เห็นชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยชุดสีม่วงอ่อน ก้าวเท้าเข้ามาอย่างมั่นคงเนื่องจากย้อนแสง ชายหนุ่มมายืนต่อหน้ามวลชน พวกเขาถึงจะใบหน้าของชายหนุ่มชัดเจน“เฉินฝาน เป็นเจ้าได้อย่างไร?”ในน้ำเสียงที่ตกใจของมวลชน แฝงไปด้วยความรู้สึกจิตตกอันเข้มข้นเฉินฝานเรียนหนังสือเก่งกาจ และยังชนะบัณฑิตใหญ่เริ่นรุ่ยฟ่าน ทว่าเรียนหนังสือกับทำการค้าขายมันคนละเรื่องกันอย่าว่าแต่ในอำเภอผิงอันเลย ทั้งรัชสมัยต้าชิ่ง ก็ไม่เคยได้ยินว่าคนที่เรียนหนังสือเก่งค้าขายก็เก่งด้วย“เสี่ยวฝาน” หลูเฉิงกวงเดินไปอย่างมีความหวัง ปลัดอำเภอด้านหลังเฉินฝานส่ายหน้าให้หลูเฉิงกวง บอกใบ้ว่าเฉินฝานไม่ใส่ป้ายเงินมา“เจ้าเป็นใคร? ความหมายของเจ้าเมื่อครู่ คือเจ้าจะออกมาแข่งขันกับข้า?”เจี่ยงหงเหวินใช้สายตาสืบเสาะมองไปที่เฉินฝานในฐานะที่เป็นพ่อค้า คนอาชีพเดียวกัน เขาจำได้เกือบจะทุกคน ชายหนุ่มคนนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเจอ“นายท่านเจี่ยง หรือว่าท่านก็มีช่วงเวลาที่ตามข่าวสารไม่ทันด้วยสินะ เฉินฝานไง คนสอบอันแรกของการสอบระดับมณฑลอำเภอผิงอัน!”เมื่อคำพูดนี่ออกไป ศาลาที่ว่าที่เดิมทีก็ถือว่าเงียบงันก็เจี๊ย

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status