แชร์

บทที่ 246

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“หลานฝาน!” เฉินเจียงขัดคำพูดของเฉินฝานอย่างดุดัน

“หลานอยู่นี้” เฉินฝานยิ้มบางๆมองเฉินเจียง

มองว่าเขาเป็นคนโง่จริงๆหรือกระไร?

เขาสามารถวางแผนใช้อำนาจคุกคามได้ เขาก็ไม่ทำ?

“อาเจียง ท่านเห็นด้วยที่จะสอนกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับให้หลานหรือไม่?”

บทสนทนาของเฉินฝานกับเฉินเจียง ดึงดูดสายของพวกปัญญาชนให้จับจ้องไปที่เดียวกัน

อาหลานคู่นี้กำลังพูดอะไรกัน

แสร้งปล่อยเพื่อจับอะไร เงินทองอะไร โง่เขลาอะไรอีก ต้องการจับใครแล้วปล่อยใครอีก

“หลานฝาน ถึงแม้เจ้าจะเรียนตัวอักษรไปบ้างแล้ว ทว่าไม่สามารถใช้มั่วซั่ว!”

น้ำเสียงผู้อาวุโสสั่งสอนเด็กรุ่นหลังของเฉินเจียง ในน้ำเสียงฉุกละหุกของเขามีความลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย

เจ้าหนุ่มพูดต่อไป พวกปัญญาชนเหล่านี้ก็คงสังเกตได้แน่

พวกปัญญาชนที่มีความสงสัยเหลืออยู่เป็นทุนเดิม เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเจียงก็ผ่อนคลายทันที

“ที่จริงแล้ว เฉินฝานสามารถรู้จักแสร้งปล่อยเพื่อจับสี่อักษรนี้ได้ก็ใช้ได้แล้ว เฉินเจียง ท่านก็อย่าตำหนิเขาเยอะเกินไป”

“ขอบคุณพี่จื่อหมิง” เฉินฝานกล่าวขอบคุณทันควัน “สี่ตัวอักษรท่านอาจารย์เพิ่งจะสอนข้าวันนี้ ตอนที่เลิกเรียนอาจารย์ยังชมว่าแค่วันเดียวก็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Narisa
อัพเร็วๆ นะคะ รออ่านคร่าาา
goodnovel comment avatar
PhoungMim
กี่ตอนจบคะ อัพเดตเร็วนะคะ
goodnovel comment avatar
วิจารย์ แก้ววิเชียร
อัพเดท น้อย มาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 247

    กลัวจะรบกวนเฉินฝานพักผ่อน ฉินเย่ว์โหรวอยากจะห้ามพวกนาง ถูกเฉินฝานดึงไว้ตั้งแต่ที่ไปเป็นเพื่อนเขาเข้าเรียน ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์ฉู่ก็ประสบทุกข์กับการหัวเราะเยาะและคำพูดกระทบกระเทียบของผู้หญิงพวกนั้นมาโดยตลอด ท่าทางการพูดนี้พวกนางเก็บกดไว้ในใจมานมนานแล้ววันนี้ไม่ง่ายเลยที่จะเอาอารมณ์บูดนี้พ่นออกมา ก็ให้พวกนางมีความสุขนานอีกนิดเถอะ“นายท่าน” เสียงอันอ่อนหวานของฉินเย่ว์โหรวดังขึ้นที่ข้างหูตอนนี้เวลานอนตอนกลางคืน ถึงแม้ว่าเฉินฝานนอนอีกฝั่ง สามพี่น้องจะนอนอีกฝั่ง ทว่าระยะห่างระหว่างกลางของพวกเขาก็ไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนดั่งเมื่อก่อนแล้วระยะห่างของสามพี่น้องและเฉินฝาน เพียงแค่ประมาณหนึ่งเมตร“หืม?”เฉินฝานขานรับ กลับพบว่าฉินเย่ว์โหรวไม่ได้พูดต่อ กำลังจะถามว่าเป็นอะไรไป ข้างกายก็มีเสียงกรอบแกรบดังขึ้นหันไปดูเห็นว่าฉินเย่ว์โหรวตะแคงข้างมาด้านเขาฉินเย่ว์ฉู่เคยถูกขังอยู่ในก้นบ่อน้ำแห้งขอดที่ไม่มีแสงเล็ดลอดเข้าไปแม้แต่น้อย ตอนนี้นางเป็นโรคกลัวความมืดขอเพียงแค่เริ่มดับไฟตะเกียง กลางดึกนางจะต้องฝันร้ายเป็นแน่ ดังนั้นตั้งแต่ที่ฉินเย่ว์ฉู่กลับมา ตะเกียงบ้านเฉินฝานก็จุดยันไฟสว่างแสงส

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 248

    เจ้าเด็กคนนี้...เฉินฝานถูกฉินเย่ว์โหรวทำให้ทั้งโมโหและซาบซึ้ง“ลำดับของข้าจะต้องต่ำ? ดูถูกนายท่านของเจ้าแบบนี้หรือกระไร?”“นายท่าน ท่านรู้ว่าข้าน้อยไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ข้าน้อยแค่กังวลว่าในกรณีที่สอบออกมาไม่ดี เอ้ย ไม่ใช่ ความหมายของข้าน้อย ถ้าหากสอบไม่ได้อย่างที่หวังไว้ ถุย ถุย...”ฉินเย่ว์โหรวที่ลุกลี้ลุกลน ยิ่งอธิบายยิ่งเละเทะ ร้อนใจจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาแล้ว“ไม่เป็นไรนะ!” เฉินฝานยิ้มปลอบโยน “นายท่านของเจ้าไม่ได้แย่ขนาดนั้น สอบติดแน่นอนอันนี้ข้าไม่กล้าพูด ทว่าไม่ใช่ที่โหล่แน่นอน”“นายท่าน น้องสี่ พวกท่านกำลังทำอะไรกัน?”เสียงของฉินเย่ว์โหรว ดึงดูดสายตาของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์ฉู่ให้จับจ้องไปที่จุดเดียวสายตาอันแหลมคมของฉินเย่ว์ฉู่ ต่อให้ไฟสลัว นางมองปราดเดียวก็เห็นน้ำตาตรงหางตาของฉินเย่ว์โหรว “พี่สี่ร้องไห้ทำไมกัน เมื่อครู่เหมือนข้าได้ยินเรื่องอะไรสักอย่าง”“ไม่ ไม่มีอะไร” ฉินเย่ว์โหรวรีบร้อนเช็ดน้ำตาตรงหางตา“ไม่มีอะไรจริงๆ ก็แค่เย่ว์เจียวนับจำนวนเงินวันนี้ผิด นางกำลังร้อนใจอยู่”เฉินฝานอธิบายมาแล้ว ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่ถึงจะวางใจน้องสี่ชอบจริงจังเกินเหตุ จำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 249

    แม้กระทั่งตัวฉินเย่ว์โหรวเองก็ไม่แน่ใจว่าจะค้างอยู่ท่านี้ไปอีกนานแค่ไหน?ต่อให้คอจะเมื่อยจะชาแล้ว ก็อาลัยอาวรณ์ที่จะแยกจากตอนกลางวันให้ความกล้าหาญนางสิบอัน นางก็ไม่มีความกล้าที่จะมองเฉินฝานในระยะใกล้เช่นนี้ มีเพียงเวลาแบบนี้เท่านั้นที่นางถึงจะสามารถมองเขาตามอำเภอใจได้“เฮ้อ!”ในที่สุดฉินเย่ว์โหรวก็ทนไม่ไหวแล้ว นางถอนหายใจออกมาเบาๆ พูดกระซิบ “นายท่านรูปงามเสียจริง”“อืม เช่นนั้นเจ้ามองมานานขนาดนี้ ควรจะจ่ายเงินแล้วหรือไม่?”ตอนแรกฉินเย่ว์โหรวคิดว่าตัวเองหลอนไปเอง นางจ้องเฉินฝานที่ลืมตาแล้วทั้งสองข้าง ชื่นชมอย่างไม่หยุดหย่อน“ดูสิ ดวงตาคู่นี้ ลึกซึ้ง สุกสกาวอะไรเช่นนี้ ทำให้ใจของข้ามัน...”ขนตาที่ขยับเล็กน้อยทำให้ฉินเย่ว์โหรวสังเกตเห็นความผิดปกติไม่ใช่ว่านายท่านควรจะหลับไปแล้วหรอกหรือ? ขนตาของเขาขยับได้อย่างไรกัน?และยังมี ดวงตาเวลาที่นอนหลับทำไม...ร่างกายของฉินเย่ว์โหรวแข็งทื่อทันที! !“ใจของเจ้าเป็นอะไร?”เสียงทุ้มใสดังขึ้นที่ข้างหูของฉินเย่ว์โหรวเสียงที่มีความสงสัยเช่นนี้ ฉินเย่ว์โหรวคุ้นเคยเป็นอย่างมาก“นาย นายท่าน... อ๊าก!”ฉินเย่ว์โหรวที่แอบมองถูกจับได้ อายจนไม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 250

    ตอนที่กลับมา ในมือของนางมีกะละมังล้างหน้าเพิ่มมาหนึ่งใบ“นานๆทีนายท่านจะได้นอนหลับอย่างเต็มที่ น้องสี่เจ้านี่จริงๆเลย พอตื่นก็โวยวายรบกวนให้นายท่านตื่นไปด้วย”ฉินเย่ว์เจียวกำลังยกกะละมังล้างหน้า ตำหนิฉินเย่ว์โหรวไปพลางเดินไปทางเฉินฝาน“ไม่ใช่นะพี่สาม นายท่านจะเข้าเรียนสายแล้ว”“พี่สี่ ข้าว่าพี่นอนจนเบลอแล้ว”เสียงใสแจ๋วเจื้อยแจ้วดังตามมา ม่านประตูถูกเปิดขึ้น ใบหน้ารูปไข่น้อยๆของฉินเย่ว์ฉู่โผล่เข้ามาจากด้านหน้าบนใบหน้ารูปไข่น้อยๆก็ยังมีหยาดเหงื่อ คิดว่าคงจะเพิ่งจะกลับมาจากไปเล่นข้างนอกมาซักสักพัก“เมื่อวานพวกปัญญาชนทะเลาะกับเมียตัวเองไม่ใช่หรือ อาจารย์เฉียนโมโห วันนี้หยุดเรียน“โอ้”ฉินเย่ว์โหรวตบหน้าผาก ดูข้าสิ ลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกัน”“ข้าว่าพี่ก็ดูไม่กระปรี้กระเปร่า ราวกับว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนไปทำอะไรไม่ดีอย่างนั้น”“ใช่ที่ไหนกัน!” ฉินเย่ว์โหรวจ้องเขม็งไปที่ฉินเย่ว์ฉู่ “เมื่อคืนวานข้านอนหลับสนิทจะตายไป!”เฉินฝานมองอย่างเย้ยหยันพลางกล่าว “ก็ใช่น่ะสิ เมื่อคืนวานเย่ว์โหรวหลับสนิทมาก น้ำลายแทบจะไหลมาที่บนหน้าข้าแล้ว”เฉินฝานไม่ได้พูดเกินจริง ฉินเย่ว์โหรวมองเขาจนน้ำลายแท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 251

    “หึ เจ้าคนขโมยลูกท้อของชาวบ้าน”ฉินเย่ว์ฉู่เบ้ปาก ถลึงตามองเฉินเจียงที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธรรม“อยากยิงธนูสักดอกเพื่อเป็นการสั่งสอนเขาจริงๆ” ฉินเย่ว์เจียวกัดฟันแน่นเฉินฝานมองสาวน้อยข้างกายทั้งสองคนที่กำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา “เพิ่งออกมาไม่นาน พวกเจ้าลืมสิ่งที่เย่ว์โหรวกำชับแล้วหรือ? ประเดี๋ยวกลับไปข้าจะบอกนาง...”“นายท่าน อย่าเจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่รีบอ้อนวอน พวกนางต่างมีสิ่งที่ต้องการเย่ว์เจียวอยากได้ลูกศรคันใหม่ เย่ว์ฉู่คิดถึงเบี้ยเลี้ยงของนาง…วันเวลาหมุนผ่าน ไวดั่งยิงธนูราชวงศ์ต้าชิ่ง การสอบฤดูวสันต์ที่จัดขึ้นปีละครั้งกำลังจะเริ่มต้นแล้วการสอบฤดูวสันต์แบ่งเป็นการสอบระดับอำเภอ การสอบระดับมณฑลและการสอบราชสำนักการสอบระดับอำเภอ การสอบระดับมณฑล ล้วนจัดขึ้นในอำเภอ โดยมีนายอำเภอเป็นผู้คุมสอบ หลังจากผ่านการสอบระดับอำเภอจึงจะเข้าร่วมการสอบราชสำนักได้หลังจากผ่านการสอบมณฑล ก็จะเป็นถงเซิง มีเพียงถงเซิงเท่านั้นที่จะเข้าร่วมการสอบราชสำนักได้การสอบราชสำนักต้องสอบในสนามที่ใหญ่กว่าอำเภอ ซึ่งก็คือเมือง ผู้คุมสอบของการสอบราชสำนักคือท่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 252

    เฉินฝานตื่นนอนไม่นาน เฉินผิงและครอบครัวก็มาเยือน เฉียนลิ่ว จูจื้ออันและชาวบ้านที่ช่วยเฉินฝานจับปลาก็มาเช่นเดียวกันพวกเขามาส่งเฉินฝานลานบ้านเฉินฝาน ครึกครื้นเล็กน้อยแต่ว่า เรือนข้างๆ อย่างเฉินเจียง ครึกครื้นยิ่งกว่าชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอ และหมู่บ้านอื่น ผู้คนมากมายมาส่งเฉินเจียง ลานบ้านเฉินเจียงถึงขั้นไม่มีที่ยืน บางคนต้องยืนข้างนอกคนเหล่านี้อยากให้เฉินเจียงคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขา หวังว่าอนาคตเฉินเจียงจะจำพวกเขาได้ แม้ไม่อาจตักตวงผลประโยชน์ แต่อนาคตก็สามารถพูดคุยกันได้ครุ่นคิด หากวันข้างหน้าเฉินเจียงเป็นขุนนาง เช่นนั้นอนาคตยามพวกเขาพูดคุยกับคนอื่น ก็สามารถบอกได้ว่าตนรู้จักขุนนางใหญ่ เมื่อครั้นเขาเข้าร่วมการสอบฤดูวสันต์ ตนมีโอกาสได้ไปส่งเขานี่เป็นเรื่องที่มีเกียรติยิ่งนักแม้กระทั่งหลี่เจิ้งก็มา เฉินเจียงไม่มีรถม้า เขานำรถม้ามาสองคัน คันหนึ่งตนนั่ง อีกคันหนึ่งในเฉินเจียงนั่งเฉินเจียงถูกผู้คนล้อมรอบกระทั่งเดินถึงหน้าประตู“ขอบคุณทุกคน ขอบคุณทุกคน”ก่อนขึ้นรถม้า เฉินเจียงวางตัวมีมารยาท ถ่อมตัวอย่างมาก เขาประสานมือคารวะชาวบ้านที่มาส่งเขา“หากครั้งนี้ข้าสอบผ่าน กลับมาจะจัดง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 253

    “อย่าพูดเช่นนี้ ไม่แน่เขาอาจจะสอบผ่านก็ได้?”“เขาสอบผ่านเนี่ยนะ? เจ้าไม่รู้ใช่ไหมว่าเขาเป็นใคร?”“เขาเป็นใคร?”“เฉินฝาน!”“เฉินฝานคนที่เรียนมานานครึ่งปี เพิ่งศึกษาคัมภีร์สามอักษรจบ ลายมือไม่ต่างจากเด็กน้อยคนนั้นหรือ?”เรื่องที่เฉินฝานเพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบ ลายมืออัปลักษณ์ แพร่สะพัดไปทั่วนานแล้วอีกทั้งปากต่อปากหนึ่งไปสิบ สิบไปร้อย ทั้งที่เขาเข้าเรียนไม่ถึงสองเดือน ข่าวลือกลับบอกว่าเขาเรียนมาครึ่งปีแล้ว“เขาคนนี้แหละ!”“หึๆ ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ บ้าไปแล้ว”“หากไม่บ้า แล้วจะมีหน้าไปร่ำเรียนในสถานศึกษาได้อย่างไร”“คนไร้ยางอายอย่างเขา แม้จะสอบได้อันดับสุดท้าย ผิวหน้าก็ไม่สะเทือนกระมัง”“เป็นไปได้ พ่อค้าไร้ยางอายที่สุด”
หลังจากทุกคนดูถูกเฉินฝานเสร็จ ก็ไม่มีใครมองเขาอีก ต่างหันไปประจบเฉินเจียงแน่นอน คนเหล่านี้คิดไม่ถึงว่าแม้เฉินฝานจะส่งกระดาษเปล่า ก็ไม่มีทางสอบได้อันดับสุดท้ายชายชราเชื่อมั่นในตัวเขาเช่นนั้น หากเฉินฝานส่งกระดาษเปล่า ไม่แน่อาจจะให้เขาอันดับหนึ่งก็ได้“เสี่ยวฝาน?”เสียงนุ่มนวลหนึ่งดังขึ้นเสียงนี้ไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อยเฉินฝานมองไปตามเสียงหญ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 254

    คนที่พูด คือหลี่เจิ้ง ขณะที่เขาตำหนินางหลิว เขาก็คว้ามือของเถียนเสี่ยวอวี่ ดึงตัวนางกลับเข้าไปในรถม้านี่เป็นการออกเรือนครั้งแรกของเถียนเสี่ยวอวี่ หลี่เจิ้งพานางออกมา เพื่อให้เฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่เจอหน้ากัน อยากตกลงเรื่องการแต่งงานระหว่างเฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่ล่วงหน้าเฉินเจียงเข้าร่วมการสอบฤดูวสันต์ในครั้งนี้ หากผ่านการสอบระดับอำเภอและการสอบระดับมณฑล เช่นนั้นต้องมีคนมากมายแย่งกันอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียงแน่นอนเมื่อถึงเวลา หากมีตระกูลที่กว่าตระกูลของหลี่เจิ้งอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียง เถียนเสี่ยวอวี่ก็ไม่มีโอกาสแล้วเถียนเสี่ยวอวี่อายุเยอะกว่าฉินเย่ว์เจียวหนึ่งปี ปีนี้อายุสิบเก้าในยุคสมัยนี้ อายุสิบเก้ายังไม่ออกเรือนถือว่าแก่แล้วตลอดหลายปีมานี้ หลี่เจิ้งอยากใช้เถียนเสี่ยวอวี่เป็นเครื่องมือในการเลื่อนยศของเขา อยากให้นางแต่งงานกับตระกูลใหญ่ๆ มาโดยตลอดแต่ตอนนี้บุรุษน้อยหญิงมาก หญิงสาวในตระกูลที่ดีกว่านี้ ก็มีมากมาย ดังนั้นตระกูลที่หลี่เจิ้งหมายตาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ชายตามองลูกสาวของเขา ในทางตรงกันข้ามตระกูลที่หมายตาลูกสาวของเขา เขาก็รังเกียจที่ตระกู

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1022

    ลักพาตัวอ๋องแคว้นจ้าวต่อหน้าต่อตาองครักษ์หนึ่งหมื่นกว่าคน และยังสามารถทำให้เขายอมถอยทัพแต่โดยดี จะต้องมิใช่การประเมินศัตรูต่ำไปเพียงอย่างเดียวแน่นอนใต้เท้าด้านนอกผู้นั้นจะต้องมีวรยุทธ์และสติปัญญาเหนือมนุษย์เป็นแน่ได้ยินว่า เขามีสิ่งของที่เป็นเหล็กปลายแหลมสามารถโจมตีได้ น่าหวาดกลัวอย่างมาก สามารถต่อกรกับศัตรูจำนวนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวดังนั้น เฉินฝานต้องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจึงมาเยือนต่อให้มิมีความมั่นใจว่าจะชนะได้ ทว่าพวกเขาก็ต้องมั่นใจว่าตนเองจะสามารถถอยกลับได้อย่างปลอดภัยแน่นอนหากล่าถอยไปแล้วกลับมาอีกครั้ง คงจะมิได้มีเพียงสองคน แต่เป็นกองกำลังจำนวนมหาศาลพื้นที่ธารน้ำอันคับแคบจะสามารถต่อต้านกองกำลังมหาศาลได้อย่างไร?“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ!”อ๋องตวนตะโกนด้วยความตื่นตกใจทันที เขาชี้ไปร่างเงาตรงโพรงหญ้า “โจรป่าเหล่านั้นออกมาแล้ว และยังมาจำนวนมหาศาลอีกด้วย ตอนนี้น่าจะประมาณหนึ่งพันคน”“ฮี่ ๆ ๆ!”อ๋องตวนฉีกยิ้ม มองเฉินฝานด้วยความนับถือ“เสี่ยวฝาน เจ้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ เจ้าบอกว่าขอแค่พวกเราสองคนมา โจรป่าจะต้องออกมาแน่นอน”“มิใช่ว่าข้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ นี่คือจิตวิทยา” เฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1021

    ผู้ที่เสนอตัวขอออกรบก่อนคือ หัวหน้าสามกั้วเจียงหลงชื่อที่โหดเหี้ยมปานนี้ มิใช่เพราะเขาเก่งกาจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะตอนยังเด็กเขาซุกซนจนถูกแม่ไล่ตี ตอนที่หน้าสิ่วหน้าขวาน จึงกระโดดลงแม่น้ำว่ายไปฝั่งตรงข้ามเพื่อหนีแม่ของตนเองจึงเป็นที่มาของชื่อกั้วเจียงหลง“ออกไปรบงั้นรึ? กำจัดพวกเขาให้สิ้นซากรึ?” หัวหน้าใหญ่เหอหรันถีบกั้วเจียงหลงด้วยความโมโหทันที “เจ้าเก่งกว่ากองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวรึ?”“หัวหน้าใหญ่ ข้าคิดว่าเจ้าระแวงเกินไป หัวหน้าสามพูดถูก ควรจะออกไปสู้!”เสียงเคร่งขรึมดูมีอายุดังขึ้น ชายชราผมหงอกทั้งหัวเดินเข้ามาจากด้านนอก“ท่านอาจารย์!”เมื่อเห็นชายชราผู้นั้น เหอหรันรีบทำมือเคารพอย่างลนลาน คนอื่นก็พากันทำตามเมื่อชายชราเห็นด้วย กั้วเจียงหลงจึงเงยหน้าทันที “หัวหน้าใหญ่ ท่านอาจารย์ยังคิดว่าท่านระแวงเกินไป พวกเรามิได้เป็นแบบกองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวเสียหน่อย”กั้วเจียงหลงพูดจบ ชายชรารีบพูดต่อทันที “หัวหน้าใหญ่ หัวหน้าสามพูดถูกแล้ว พวกเรามิใช่กองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าว สาเหตุที่พวกเขาพ่ายแพ้เพราะประเมินศัตรูต่ำและอวดดีเกินไป ตอนนี้ผู้ที่อวดดีและประเมินศัตรูต่ำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1020

    “ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องออกจากเมืองไปแล้ว พวกเขาไม่ได้กลับเมืองหลวง แต่ว่ามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้าเฮยแล้วขอรับ!”พื้นที่ต้าเฮยก็คือรังของพวกโจร“เช่นนั้นพวกเราก็รีบตามไป ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องให้หลี่ฉวินไปด้วยหรือไม่”หลี่ฉวินเป็นนายกองพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวง เป็นแม่ทัพของกองทัพพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวงเมืองเฟิ่งหวงเป็นเพียงเมืองป้อมปราการภายใต้เมืองเหอตู ไม่ควรมีนายกอง แต่เนื่องจากเมืองเฟิ่งหวงอยู่ติดชายแดน ดังนั้นจึงมีกองทัพพิทักษ์เมือง มีนายกองเช่นกันเพียงแต่ว่าต้าชิ่งขาดแคลนชายฉกรรจ์ เมืองป้อมปราการติดชายแดนที่ยากจนข้นแค้นอย่างเมืองเฟิ่งหวงยิ่งมีชายฉกรรจ์น้อยลงไปอีก กอปรกับก่อนหน้านี้ต่อสู้ต้านทานกองทหารของแคว้นจ้าว ตอนนี้กำลังพลในมือหลี่ฉวินจึงมีไม่ถึงสามร้อยนายเหอจื้อเฟยวิ่งกลับไปที่ห้องหยิบรองเท้าของตนขึ้นมา สวมพลางเดินออกไป “พวกเราก็รีบตามไปด้วย!” “ใต้เท้า!” เวลานี้เองหลี่ฉวินก็มาถึงแล้วเช่นกัน“หลี่ฉวิน?” เหอจื้อเฟยมองหลี่ฉวินด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ตอนนี้เจ้าควรไปที่พื้นที่ต้าเฮยกับท่านอัครเสนาบดีมิใช่หรือ?”“ใต้เท้า ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1019

    สิ่งปลูกสร้างที่ดีที่สุดในเมืองกลับเป็นราชนิเวศน์ที่ฮ่องเต้จ้าวพำนักก่อนหน้านี้ ราชนิเวศน์นั้นยังเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาหลังจากที่แคว้นจ้าวยึดครองเมืองเฟิ่งหวงอีกด้วยก่อนหน้านี้เฉินฝานรู้สึกว่าการได้เป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายนั้นเก่งกาจมากแล้ว มีอำนาจล้นฟ้า แม้แต่เสิ่นหมิงหยวนก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้ตามใจชอบตอนนี้เขาถึงค่อยรู้สึกว่ายิ่งมีอำนาจบนตัวมาก ภาระบนบ่าก็ยิ่งหนักมากต้าชิ่งยังคงยากจนข้นแค้นมากเมื่อเห็นเฉินฝานอารมณ์หดหู่มากถึงเพียงนั้น อ๋องตวนก็ไม่กล้าลากเขาไปดื่มเหล้าทายตัวเลขแล้ว เขาอยู่ทางด้านข้าง แม้แต่เสียงดื่มเหล้าก็ยังเบามาก“เฮ้อ นี่มันปัญหาใหญ่จริง ๆ!”อ๋องตวนที่ดื่มจนเมากรึ่มแล้ววางไหเหล้าลงข้าง ๆ พิงกำแพงเมืองอย่างเอียงเอน“เสี่ยวฝาน เจ้าคิดว่าโจรพวกนี้ยังควรจะปราบหรือไม่?”“โจรย่อมต้องถูกปราบอยู่แล้ว!” เฉินฝานเอ่ยอย่างหนักแน่น“แล้วบุตรชายของเหอจื้อเฟยจะจัดการอย่างไร? เขาถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เป็นหัวหน้าโจรที่ดื้อรั้นเสียแล้ว”“เหอจื้อเฟยฆ่าบุตรชายกับมือไปแล้วหนึ่งคน หากสังหารอีกคน ดูเหมือนว่า...”อ๋องตวนยกไหเหล้าจากทางด้านข้างขึ้นมากรอกอีกคำแล้วค่อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status