Share

บทที่ 254

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
คนที่พูด คือหลี่เจิ้ง ขณะที่เขาตำหนินางหลิว เขาก็คว้ามือของเถียนเสี่ยวอวี่ ดึงตัวนางกลับเข้าไปในรถม้า

นี่เป็นการออกเรือนครั้งแรกของเถียนเสี่ยวอวี่

หลี่เจิ้งพานางออกมา เพื่อให้เฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่เจอหน้ากัน อยากตกลงเรื่องการแต่งงานระหว่างเฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่ล่วงหน้า

เฉินเจียงเข้าร่วมการสอบฤดูวสันต์ในครั้งนี้ หากผ่านการสอบระดับอำเภอและการสอบระดับมณฑล เช่นนั้นต้องมีคนมากมายแย่งกันอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียงแน่นอน

เมื่อถึงเวลา หากมีตระกูลที่กว่าตระกูลของหลี่เจิ้งอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียง เถียนเสี่ยวอวี่ก็ไม่มีโอกาสแล้ว

เถียนเสี่ยวอวี่อายุเยอะกว่าฉินเย่ว์เจียวหนึ่งปี ปีนี้อายุสิบเก้า

ในยุคสมัยนี้ อายุสิบเก้ายังไม่ออกเรือนถือว่าแก่แล้ว

ตลอดหลายปีมานี้ หลี่เจิ้งอยากใช้เถียนเสี่ยวอวี่เป็นเครื่องมือในการเลื่อนยศของเขา อยากให้นางแต่งงานกับตระกูลใหญ่ๆ มาโดยตลอด

แต่ตอนนี้บุรุษน้อยหญิงมาก หญิงสาวในตระกูลที่ดีกว่านี้ ก็มีมากมาย ดังนั้นตระกูลที่หลี่เจิ้งหมายตาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ชายตามองลูกสาวของเขา ในทางตรงกันข้ามตระกูลที่หมายตาลูกสาวของเขา เขาก็รังเกียจที่ตระกู
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 255

    มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ ท่ามกลางคำสรรเสริญเกินจริงเป็นบ่อเกิดให้หลงทางการอ่านบทกลอนไม่อาจเติมเต็มความมั่นใจที่ทะลักออกมาของบรรดาปัญญาชนอีกต่อไปมีคนเสนอ พวกเขาแต่งกลอนในศาลานี้ อนาคตหากสอบผ่าน ศาลาแห่งนี้ต้องการเป็นสถานที่สักการะของปัญญาชนแน่นอนราชวงศ์ต้าชิ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือสถานที่ที่จอหงวน ปั๋งเหยี่ยนและถังฮวาเคยหยุดพัก ปีถัดไปผู้เข้าสอบมากมายจะไปกราบไหว้บูชาที่นั่นหวังจะได้รับความโชคดีของคนที่สอบผ่าน หวังว่าตนจะเป็นเหมือนพวกเขา ทำข้อสอบได้เป็นอย่างดีเพียงคิดว่าอนาคตตนอาจจะกลายเป็นคนที่ปัญญาชนให้ความนับถือ พวกปัญญชนเลือดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที แย่งกันสะบัดพู่กันเช่นเดียวกับตอนอ่านบทกลอน กลอนบทหนึ่งถูกแต่งขึ้นมา จะมีคนวิจารณ์ หลังจากนั้นก็ชื่นชมกันใหญ่โต คล้ายว่าทุกคนกลายเป็นจอหงวนกันหมดอย่างไรอย่างนั้นแท้จริงแล้วกลอนที่พวกเขาแต่ง ธรรมดายิ่งนัก บางบทกลอนถึงขั้นไม่คล้องจองเสียงหึ่งดังก้องในหูไม่หยุด ฟังแล้วช่างน่าเบื่อและไม่น่าสนใจ“เย่ว์เจียว พวกเราไปกันเถอะ” เฉินฝานลุกขึ้นกำลังจะเดินไป“พี่ชาย จะไปแล้วหรือ?”เฉินฝานกำลังจะก้าวเดิน ก็มีคนร้องเรียกเขา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 256

    เฉินฝานเพียงกวาดตามองปัญญาชนที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยแววตาเย็นชาพวกเขาเป็นใคร ทำไมตนต้องแต่งกลอนให้พวกเขาฟัง“ทุกท่านอย่าทำให้หลานชายของข้าลำบากใจเลย เพิ่งท่องคัมภีร์สามอักษรได้ไม่นาน แล้วจะแต่งกลอนกวีได้อย่างไร”เฉินเจียงก้าวออกมาแสดงเป็นคนดี ทั้งยังฉวยโอกาสนี้แสดงด้านที่มีคุณธรรมและจริยธรรมของตน“เฮ้อ คนเป็นอาอย่างท่าน ว่าหลานชายตนเองแบบนี้ได้อย่างไร?”เมื่อพวกเขาได้ยินเฉินเจียงบอกว่า เฉินฝานเพิ่งท่องคัมภีร์สามอักษรจบไม่นานและแต่งกลอนไม่เป็น พวกเขาก็ยิ่งมีความสุข“พี่ชาย เมื่อปีก่อนเฉินเซวี่ยจื่อจากอำเภอตูอัน คาดว่าท่านน่าจะเคยได้ยิน เขาเพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบไม่นานก็เข้าร่วมการสอบ แต่เมื่อปีกลายเขาสอบผ่านถงเซิง ทั้งยังสกุลเฉินเหมือนท่านอีกด้วย”“เขาทำได้ท่านก็ทำได้ แต่งสักบทเร็วเข้า พวกข้ารอคำชี้แนะจากท่านอยู่"ถ้อยคำนี้พูดให้ถูกต้องก็คือ เขียนเร็ว พวกข้าแทบจะทนรอหัวเราะเยาะไม่ไหวมองคนตรงหน้าที่รอหัวเราะเยาะตน เฉินฝานไม่โมโหแต่กลับหัวเราะคิดอยากจะเล่นใช่ไหม เช่นนั้นเขาจะเล่นด้วยเองเฉินฝานให้ความร่วมมือกับพวกเขา เกาศีรษะด้วยความประหม่าแล้วพูด “ข้าแต่งกลอนไม่เป็นจริงๆ”“

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 257

    ทว่านั่งรถม้าเข้าเมืองอย่างเฉินฝาน กลับต้องจ่ายสามเหวินจ่ายเงินหมายถึงเข้าไปทำธุระในอำเภอ ปล่อยให้นำสินค้าเข้าไปได้ ก่อนหน้านี้เข้าไปขายปลาและส่งปลาเป็นประจำ ขั้นตอนนี้ฉินเย่ว์เจียวชำนาญเป็นอย่างดีวันนี้ฉินเย่ว์เจียวแจ้งว่าเฉินฝานเข้าไปในอำเภอเพื่อทำการสอบ ทหารประจำประตูอำเภอคืนเงินสามเหวินให้นาง ท่าทีที่ปฏิบัติต่อนางก็ดีกว่าเมื่อก่อนมากเมื่อฉินเย่ว์เจียวถามจึงเพิ่งรู้ว่า ปัญญาชนที่มาทำการสอบ ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าอำเภอด้านหลังเฉินฝานก็มีปัญญาชนอีกหลายคนที่เดินทางมาสอบเช่นเดียวกัน ตอนพวกเขาผ่านประตูอำเภอ ทหารประจำประตูอำเภอก็ไม่เก็บค่าผ่านประตูเช่นเดียวกัน ทั้งยังเคารพพวกพวกเขามากหลังจากรอให้พวกปัญญาชนที่เดินทางมาสอบเข้าไปแล้ว พวกทหารประจำประตูอำเภอก็กลับมาหยิ่งเหมือนเดิม ตะคอกคนเดินทางเข้าอำเภอยามเจอคนชักช้า พวกเขาถึงขั้นลงไม้ลงมือเมื่อก่อนตอนส่งปลา ไม่ได้รู้สึกอะไร ครั้งนี้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เฉินฝานเข้าใจถ้อยคำนี้ในหนังสือประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน ‘การศึกษา มีค่าเหนือสรรพสิ่ง’ไม่แปลกที่ปัญญาชนเหล่านั้น เชิดหน้า วางตัวอยู่เหนือผู้อื่นทุกวันเมื่อเข้าไปในอำเภอ หลี่ซ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 258

    “กระถางธูปนี้จุดเครื่องหอมใดเจ้าคะ? หอมเหลือเกิน”“มองลงไปจากตรงนี้ เห็นน้ำตกจำลองด้วยเจ้าค่ะ งดงามยิ่งนัก”“หากอนาคตพวกเราได้อยู่บ้านแบบนี้ทุกวันก็คงจะดี”เฉินฝานมองฉินเย่ว์เจียวที่กระโดดโลดเต้นไปทั่วห้องด้วยความดีใจ อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “สักวันหนึ่งเราจะได้อยู่บ้านแบบนี้”นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเรื่องจริงความจริง หากไม่ใช่เพราะถูกบังคับให้เข้าร่วมการสอบขุนนางในครั้งนี้ เขาขยายธุรกิจของตนแล้วฉินเย่ว์เจียวที่เกาะหน้าต่างอยู่นั้น หันกลับมายิ้มให้เฉินฝาน“เจ้าค่ะ ข้าเชื่อนายท่าน”แสงแดดยามอัสดง ตกกระทบร่างบาง สะท้อนแสงสีทองอ่อนโยนงดงาม ทั้งยังมีเสน่ห์เย้ายวนความงดงามของฉินเย่ว์เจียว แตกต่างกับฉินเย่ว์โหรวอย่างสิ้นเชิงฉินเย่ว์โหรวให้ความรู้สึกอ่อนโยนฉินเย่ว์เจียวทำให้หัวใจเต้นแรง“นายท่านเจ้าคะ?”ใบหน้างดงามของฉินเย่ว์เจียว ขยายใหญ่ตรงหน้าเฉินฝานกะทันหันเฉินฝานตกใจ “เย่ว์เจียว เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”เมื่อครู่นางยิ้มให้เขาจากริมหน้าต่าง เหตุใดเพียงชั่วพริบตาก็มาอยู่ตรงหน้าเขา“ข้าเห็นท่านยืนเหม่อ ข้าคุยกับท่าน ท่านก็ไม่ได้ยิน จึงเดินมาหาเจ้าค่ะ”“…”“นายท่าน เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 259

    เฉินฝานกอดตัวเอง ร่างกายสั่นเทา “หนาวยิ่งนัก จู่ๆ ข้าก็รู้สึกหนาวยิ่งนัก”“เจ้าคะ? ยังหนาวอีกหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวโน้มตัวลงมองเฉินฝานด้วยความกังวล“อื้” เฉินฝานพยักหน้าด้วยความน่าสงสารแม่เจ้าโว้ย ช่างน่าอายยิ่งนัก เขาแกล้งทำตัวน่าสงสารเนี่ยนะแต่ว่า หากไม่แกล้งทำตัวน่าสงสารก็ไม่อาจกลืนกินเด็กโง่ตรงหน้าได้ “ข้าห่มให้ท่านอีกหนึ่งชั้น” ฉินเย่ว์เจียวรีบห่มผ้าให้เฉินฝานอีกหนึ่งผืน“ผ้าห่มไม่มีประโยชน์” เฉินฝานที่อยู่บนเตียงยังคงน่าสงสารผ้าห่มไม่มีประโยชน์จริงๆหนักมากทั้งยังร้อนมาก!“เช่นนั้นทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวกระวนกระวาย “หรือว่า ข้าตามหมอดีไหมเจ้าคะ”“ไม่ต้อง!” เฉินฝานเอามือออกมาจากผ้าห่มอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าตัวฉินเย่ว์เจียวที่กำลังจะเดินออกไปตามคน“เจ้าขึ้นมานี่ มาอุ่นให้ข้าก็พอแล้ว”“เช่นนี้ก็ได้แล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ?”“ได้แล้วจริงๆ!”แกะน้อยกำลังจะเข้าปากสุนัขจิ้งจอก เฉินฝานไม่อาจจะแสดงละครอีกต่อไปแล้ว “ผ้าห่มที่เจ้าอุ่นให้ตอนอยู่ที่เรือน อุ่นและสบายที่สุดแล้ว”“…เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวเลิกผ้าห่มเตรียมขึ้นเตียง“ก๊อกๆ!” จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 260

    หลังพูดคำว่าดีเจ้าค่ะจบ ฉินเย่ว์เจียวอุ้มผ้าห่มสองผืนลงจากเตียง ความเร็วของนางเร็วจนเฉินฝานตั้งตัวไม่ทันฉินเย่ว์เจียวปูผ้าห่มไว้บนพื้นติดกับเตียงเฉินฝาน “เจ้า...”ฉินเย่ว์เจียว “นายท่าน ท่านนอนบนเตียง ข้านอนบนพื้นเจ้าค่ะ”“หื้ม? เหตุใดต้องนอนบนพื้น ไม่ใช่ว่าไม่มีเตียงเสียหน่อย?”เฉินฝานเลิกคิ้วขึ้น หรือว่าก่อนหน้านี้นางแกล้งไร้เดียงสา นางรู้แต่แรกแล้วว่าเขาคิดอยากจะทำสิ่งใด?“อ่อ!” ฉินเย่ว์เจียวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ปูเตียงบนพื้นต่อ “ก่อนออกเดินทาง ท่านย่าให้คนส่งข่าวมาบอก ระยะนี้ห้ามไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับนายท่านยามค่ำคืนเจ้าค่ะ”“เพราะเหตุใด? ตอนอยู่ที่เรือนพวกเราก็นอนตั่งเดียวกันไม่ใช่หรือ?”“ท่านย่าบอกว่า ไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ ตั่งมีขนาดใหญ่กว่า เตียงค่อนข้างเล็ก ใกล้ชิดกับนายท่านเกินไป ท่านย่ายังบอกอีกว่า ก่อนสอบขุนนางห้ามไม่ให้นายท่านสูญเสียพลังงาน ดังนั้นจึงกำชับข้า ไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับท่านเจ้าค่ะ”ว่าแต่!” จู่ๆ ฉินเย่ว์เจียวก็เอาคางเกยขอบเตียง ดวงตากลมโต มองเฉินฝานอย่างเป็นประกาย“นายท่านเจ้าคะ เหตุใดท่านย่าจึงพูดแบบนี้ ข้าไม่ใช่ปีศาจ แล้วจะทำให้ท่านสูญเสียพลังง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 261

    เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรตระกูลหลี่มีกิจการใหญ่โตในอำเภอผิงอัน หลายสิ่งหลายอย่างจึงไม่จำเป็นต้องให้หลี่ซานไปทำด้วยตัวเองช่วงคาบเกี่ยวที่ว่านั้น เป็นแค่เรื่องตลกของเฉินฝานการร่วมมือในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เขาพบว่าแม้หลี่ซานเป็นนายน้อยของหอนางโลมอี๋ชุนย่วนที่รายล้อมไปด้วยสาวงามทุกวัน แต่เขาก็มีความคิดชัดเจน ทำสิ่งใดก็ล้วนอยู่ในความประพฤติ ไม่ใช่คนรวยไร้สมองที่เอาแต่ดื่มด่ำอยู่ในความอบอุ่นมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลี่ซานเป็นแน่และเป็นได้สูงมากว่าเป็นปัญหาเป็นเรื่องแบบไหน ที่ทำให้หัวหน้าตระกูลหลี่ถึงกับตกอยู่ในความลำบาก?เฮ้อ!เฉินฝานส่ายหัวและยิ้มกับตัวเองหลี่ซานเป็นถึงงูเจ้าถิ่นในอำเภอผิงอัน ส่วนเขาเป็นเพียงชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอ ทำไมเขาต้องกังวลแทนหลี่ซานด้วย?ตั้งแต่เมื่อวาน ห้องพักแขกก็อยู่ในสถานะแขกพักเต็ม ส่วนใหญ่ก็เป็นปัญญาชนที่เร่งจะไปสอบเฉินเจียงลุงขี้อวดของเฉินฝานก็พักอยู่ที่นี่เช่นกันแน่นอนว่าเขามีกำลังเข้าพักห้องธรรมดาชั้นสองเท่านั้นหลังจากที่ปัญญาชนเหล่านี้เข้าพัก ห้องโถงต้อนรับแขกก็คึกคักขึ้น ปัญญาชนที่กินอาหารเช้าเสร็จมารวมตัวกันแข่งประพันธ์บทกวีเมื่อเฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 262

    “พี่น้องทุกท่าน เพื่อนร่วมชั้นทุกท่าน!” ร่างร่างหนึ่งลงมาจากชั้นสอง ก้าวเท้าอย่างเร็วมาถึงตรงหน้าปัญญาชนเหล่านั้นผู้ที่เดินมาคือเฉินเจียงวันนี้เขาสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินกรมท่า ยืนที่นั่นด้วยท่าทางสง่างาม เขาโค้งคำนับต่อปัญญาชนเหล่านั้น“ข้าน้อยมาจากหมู่บ้านซานเหอมีนามว่าเฉินเจียง เฉินฝานและภรรยาผู้นี้คือหลานชายและหลานสะใภ้ของข้าน้อยเอง”“ณ ที่นี้!” เฉินเจียงประสานมือโค้งคำนับต่อเหล่าปัญญาชนอีกครั้ง “ข้าน้อยขออภัยทุกท่านด้วย”“ปกติหลานชายและหลานสะใภ้ของข้าขายปลาเป็นส่วนใหญ่ พี่น้องและเพื่อนร่วมชั้นทุกท่านต่างซึมซับจากอาจารย์หลีทั้งนั้น ย่อมมีความแตกต่างจากหลานชายและหลานสะใภ้ของข้า ข้าน้อยหวังว่าพี่น้องและเพื่อนร่วมชั้นทุกท่านจะไม่ถือสาพวกเขาขอรับ”สิ่งที่เฉินเจียงกล่าว หมายถึงเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียวเป็นเพียงพ่อค้าขายปลาที่โง่เขลา และปัญญาชนเหล่านี้คือผู้ที่รู้วิชาการหนังสือ เฉินฝานจะเทียบกับพวกเขาได้อย่างไรนี่คือความร้ายกาจของเฉินเจียงเขาไม่เพียงแต่มอบแท่นบันได[footnoteRef:1]ให้กับปัญญาชนเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังเหยียบย่ำเฉินฝานอย่างหนักด้วย แต่เฉินฝานไม่สามารถดุด่าเขา แต่ยังต้อ

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status