Share

บทที่ 259

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานกอดตัวเอง ร่างกายสั่นเทา “หนาวยิ่งนัก จู่ๆ ข้าก็รู้สึกหนาวยิ่งนัก”

“เจ้าคะ? ยังหนาวอีกหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวโน้มตัวลงมองเฉินฝานด้วยความกังวล

“อื้” เฉินฝานพยักหน้าด้วยความน่าสงสาร

แม่เจ้าโว้ย ช่างน่าอายยิ่งนัก เขาแกล้งทำตัวน่าสงสารเนี่ยนะ

แต่ว่า หากไม่แกล้งทำตัวน่าสงสารก็ไม่อาจกลืนกินเด็กโง่ตรงหน้าได้

 “ข้าห่มให้ท่านอีกหนึ่งชั้น” ฉินเย่ว์เจียวรีบห่มผ้าให้เฉินฝานอีกหนึ่งผืน

“ผ้าห่มไม่มีประโยชน์” เฉินฝานที่อยู่บนเตียงยังคงน่าสงสาร

ผ้าห่มไม่มีประโยชน์จริงๆ

หนักมาก

ทั้งยังร้อนมาก!

“เช่นนั้นทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวกระวนกระวาย “หรือว่า ข้าตามหมอดีไหมเจ้าคะ”

“ไม่ต้อง!” เฉินฝานเอามือออกมาจากผ้าห่มอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าตัวฉินเย่ว์เจียวที่กำลังจะเดินออกไปตามคน

“เจ้าขึ้นมานี่ มาอุ่นให้ข้าก็พอแล้ว”

“เช่นนี้ก็ได้แล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ?”

“ได้แล้วจริงๆ!”

แกะน้อยกำลังจะเข้าปากสุนัขจิ้งจอก เฉินฝานไม่อาจจะแสดงละครอีกต่อไปแล้ว “ผ้าห่มที่เจ้าอุ่นให้ตอนอยู่ที่เรือน อุ่นและสบายที่สุดแล้ว”

“…เจ้าค่ะ!”

ฉินเย่ว์เจียวเลิกผ้าห่มเตรียมขึ้นเตียง

“ก๊อกๆ!” จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 260

    หลังพูดคำว่าดีเจ้าค่ะจบ ฉินเย่ว์เจียวอุ้มผ้าห่มสองผืนลงจากเตียง ความเร็วของนางเร็วจนเฉินฝานตั้งตัวไม่ทันฉินเย่ว์เจียวปูผ้าห่มไว้บนพื้นติดกับเตียงเฉินฝาน “เจ้า...”ฉินเย่ว์เจียว “นายท่าน ท่านนอนบนเตียง ข้านอนบนพื้นเจ้าค่ะ”“หื้ม? เหตุใดต้องนอนบนพื้น ไม่ใช่ว่าไม่มีเตียงเสียหน่อย?”เฉินฝานเลิกคิ้วขึ้น หรือว่าก่อนหน้านี้นางแกล้งไร้เดียงสา นางรู้แต่แรกแล้วว่าเขาคิดอยากจะทำสิ่งใด?“อ่อ!” ฉินเย่ว์เจียวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ปูเตียงบนพื้นต่อ “ก่อนออกเดินทาง ท่านย่าให้คนส่งข่าวมาบอก ระยะนี้ห้ามไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับนายท่านยามค่ำคืนเจ้าค่ะ”“เพราะเหตุใด? ตอนอยู่ที่เรือนพวกเราก็นอนตั่งเดียวกันไม่ใช่หรือ?”“ท่านย่าบอกว่า ไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ ตั่งมีขนาดใหญ่กว่า เตียงค่อนข้างเล็ก ใกล้ชิดกับนายท่านเกินไป ท่านย่ายังบอกอีกว่า ก่อนสอบขุนนางห้ามไม่ให้นายท่านสูญเสียพลังงาน ดังนั้นจึงกำชับข้า ไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับท่านเจ้าค่ะ”ว่าแต่!” จู่ๆ ฉินเย่ว์เจียวก็เอาคางเกยขอบเตียง ดวงตากลมโต มองเฉินฝานอย่างเป็นประกาย“นายท่านเจ้าคะ เหตุใดท่านย่าจึงพูดแบบนี้ ข้าไม่ใช่ปีศาจ แล้วจะทำให้ท่านสูญเสียพลังง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 261

    เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรตระกูลหลี่มีกิจการใหญ่โตในอำเภอผิงอัน หลายสิ่งหลายอย่างจึงไม่จำเป็นต้องให้หลี่ซานไปทำด้วยตัวเองช่วงคาบเกี่ยวที่ว่านั้น เป็นแค่เรื่องตลกของเฉินฝานการร่วมมือในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เขาพบว่าแม้หลี่ซานเป็นนายน้อยของหอนางโลมอี๋ชุนย่วนที่รายล้อมไปด้วยสาวงามทุกวัน แต่เขาก็มีความคิดชัดเจน ทำสิ่งใดก็ล้วนอยู่ในความประพฤติ ไม่ใช่คนรวยไร้สมองที่เอาแต่ดื่มด่ำอยู่ในความอบอุ่นมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลี่ซานเป็นแน่และเป็นได้สูงมากว่าเป็นปัญหาเป็นเรื่องแบบไหน ที่ทำให้หัวหน้าตระกูลหลี่ถึงกับตกอยู่ในความลำบาก?เฮ้อ!เฉินฝานส่ายหัวและยิ้มกับตัวเองหลี่ซานเป็นถึงงูเจ้าถิ่นในอำเภอผิงอัน ส่วนเขาเป็นเพียงชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอ ทำไมเขาต้องกังวลแทนหลี่ซานด้วย?ตั้งแต่เมื่อวาน ห้องพักแขกก็อยู่ในสถานะแขกพักเต็ม ส่วนใหญ่ก็เป็นปัญญาชนที่เร่งจะไปสอบเฉินเจียงลุงขี้อวดของเฉินฝานก็พักอยู่ที่นี่เช่นกันแน่นอนว่าเขามีกำลังเข้าพักห้องธรรมดาชั้นสองเท่านั้นหลังจากที่ปัญญาชนเหล่านี้เข้าพัก ห้องโถงต้อนรับแขกก็คึกคักขึ้น ปัญญาชนที่กินอาหารเช้าเสร็จมารวมตัวกันแข่งประพันธ์บทกวีเมื่อเฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 262

    “พี่น้องทุกท่าน เพื่อนร่วมชั้นทุกท่าน!” ร่างร่างหนึ่งลงมาจากชั้นสอง ก้าวเท้าอย่างเร็วมาถึงตรงหน้าปัญญาชนเหล่านั้นผู้ที่เดินมาคือเฉินเจียงวันนี้เขาสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินกรมท่า ยืนที่นั่นด้วยท่าทางสง่างาม เขาโค้งคำนับต่อปัญญาชนเหล่านั้น“ข้าน้อยมาจากหมู่บ้านซานเหอมีนามว่าเฉินเจียง เฉินฝานและภรรยาผู้นี้คือหลานชายและหลานสะใภ้ของข้าน้อยเอง”“ณ ที่นี้!” เฉินเจียงประสานมือโค้งคำนับต่อเหล่าปัญญาชนอีกครั้ง “ข้าน้อยขออภัยทุกท่านด้วย”“ปกติหลานชายและหลานสะใภ้ของข้าขายปลาเป็นส่วนใหญ่ พี่น้องและเพื่อนร่วมชั้นทุกท่านต่างซึมซับจากอาจารย์หลีทั้งนั้น ย่อมมีความแตกต่างจากหลานชายและหลานสะใภ้ของข้า ข้าน้อยหวังว่าพี่น้องและเพื่อนร่วมชั้นทุกท่านจะไม่ถือสาพวกเขาขอรับ”สิ่งที่เฉินเจียงกล่าว หมายถึงเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียวเป็นเพียงพ่อค้าขายปลาที่โง่เขลา และปัญญาชนเหล่านี้คือผู้ที่รู้วิชาการหนังสือ เฉินฝานจะเทียบกับพวกเขาได้อย่างไรนี่คือความร้ายกาจของเฉินเจียงเขาไม่เพียงแต่มอบแท่นบันได[footnoteRef:1]ให้กับปัญญาชนเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังเหยียบย่ำเฉินฝานอย่างหนักด้วย แต่เฉินฝานไม่สามารถดุด่าเขา แต่ยังต้อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 263

    ขนลุกแรงกระตุ้นที่ประหลาดคิดอยาก คิดอยาก…...ฉินเย่ว์เจียวตกใจกับความคิดหนึ่งของตนเองนางอยากกอดเฉินฝานอย่างไม่คาดคิดมาก่อนในที่สาธารณะเช่นนี้ นางไม่คิดเลยว่าอยากกอดเฉินฝานนางมันบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริง ๆ!“นายท่าน ข้า…...”“มีอะไรหรือ?” เฉินฝานถามอย่างเป็นห่วง น้ำเสียงของเขาต่ำและทุ้มลึก เป็นเสียงที่มีเสน่ห์ถึงกระทั่งตายได้“เปล่า ไม่มีอะไร ขะ ข้ากลับห้องก่อนนะเจ้าคะ!”ฉินเย่ว์เจียววิ่งเร็วเหมือนกระต่ายและหายตัวไปในพริบตาเมื่อมองทางเดินที่ฉินเย่ว์เจียวหายตัวไป เฉินฝานพลางแสดงรอยยิ้มเขาตั้งใจทำเช่นนั้น เพื่ออยากเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวคนนี้เขาพอใจกับปฏิกิริยาของฉินเย่ว์เจียวมากบางที อาจมีความโชคดีเกิดขึ้นกับเขาในช่วงนี้ก็เป็นได้เฉินฝานลูบหน้าท้องที่แบนราบของเขา หิวแล้วจริง ๆ!“เป็นการดูหมิ่นความสุภาพ”“อนาจารและผิดศีลธรรม”“ไม่ต้องสนใจเขาหรอก เขาเป็นเพียงคนที่มาเพิ่มให้ถึงจำนวนน่ะ”“เขาเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิ คือการมาขายความตลก”เฉินฝานเดินผ่านท่ามกลางข้อกล่าวหาและการเยาะเย้ยมากมาย จากห้องโถงและเดินเข้าไปในห้องครัว“นายท่านฝาน ท่านมาแล้วหรือ!”บรรยากาศใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 264

    เท้าที่ก้าวออกไปแล้วของชายชรา ดึงกลับมาทันทีเขาหันกลับมาและยิ้ม “เจ้าพูดถูก ไม่ต้องไปสนใจเศษสวะพวกนั้น”ชายชรากระโดดขึ้นรถม้าและมองขึ้นไปที่ชั้นสามของเรือนแขกสำราญสุข “เจ้าคิดว่า เขาจะเดาออกหรือไม่ว่าเป็นความคิดของข้า ที่จะให้ปัญญาชนทุกคนในอำเภอผิงอันเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิ?”“ถ้าหาก......”คนใช้มองไปที่ชั้นสามของเรือนแขกสำราญสุขเหมือนกัน “เขาฉลาดอย่างที่นายท่านพูดจริง เขาคงคิดได้ขอรับ”“เช่นนั้น!”ชายชราลูบเคราตนเอง “เขาจะส่งกระดาษเปล่าหรือไม่?”คนใช้เลิกคิ้ว “ส่งกระดาษเปล่า? นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายท่านตั้งตารอหรือขอรับ?”“ใครบอกว่าข้าตั้งตารอ”ความคิดในใจถูกมองออกอย่างง่ายดาย ชายชรารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยหากเฉินฝานส่งกระดาษเปล่า เขาจะรู้ทันทีว่าใบไหนเป็นของเฉินฝานไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไร นายอำเภอก็ไม่กล้าพูดอะไรแต่เขาเป็นผู้กำหนดกฎการป้องกันฉ้อราษฎร์บังหลวงในตอนเริ่มต้น เขาคงไม่สามารถทำผิดกฎของตนเองต่อหน้านายอำเภอได้หรอกกระมัง“จริง ๆ แล้ว ข้าคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนายท่านตอนนี้ คือการดูลายมือของเพื่อนตัวน้อยคนนั้น เพื่อให้ง่ายต่อการระบุในภายหลังขอรับ”“เพราะว่าเรา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 265

    เฉินฝานยังไม่ทันพูด เฉินเจียงก็บากหน้าเดินเข้าไปก่อนนอกจากถือโอกาสกินข้าวแล้ว เฉินเจียงยังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์ นั่นคือมาดูห้องส่วนตัวของเรือนแขกสำราญสุขห้องส่วนตัวของเรือนแขกสำราญสุขมีชื่อเสียงในอำเภอผิงอันมาก มีเพียงห้าห้องเท่านั้นคนที่พักข้างใน ไม่ใช่คนรวยก็เป็นคนมียศถาบรรดาศักดิ์ปัญญาชนอย่างพวกเขา มีเงินก็เข้าพักไม่ได้ เว้นแต่สอบผ่านซิ่วไฉแล้วกล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้เฉินเจียงสอบผ่านซิ่วไฉ ถ้าไม่มีเงินก็เข้าพักไม่ได้เหมือนกันเมื่อเขารู้ว่าหลี่ซานให้เฉินฝานพักในห้องส่วนตัว เขารู้สึกอิจฉาตาแทบลุกเป็นไฟวินาทีที่เดินเข้ามาถึงในห้องส่วนตัว ดวงตาของเฉินเจียงก็เบิกกว้างความหรูหราของห้องส่วนตัวนี้ ดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้เป็นร้อยเท่าเจ้าหนุ่มนี่ เป็นแค่คนขายปลา ทำไมถึงมีบุญบารมีเพียงนี้หลี่ซานให้เฉินฝานเข้าพัก แต่ไม่ให้เขาเข้าพัก ช่างมีตาหามีแววไม่ คอยดูเถิด“เย่ว์เจียว ไปที่ห้องครัวแล้วหยิบถ้วยกับตะเกียบมาอีกคู่” เฉินฝานสั่งฉินเย่ว์เจียว“นายท่าน” ฉินเย่ว์เจียวไม่พอใจเล็กน้อย“ไปเถอะ!”ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นท่านลุงคนหนึ่ง เมื่อครู่นี้ก็ถือว่าช่วยเขาเอาไว้ จะให้อาหาร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 266

    เวลานี้ รอบตัวของมัคนายกรายล้อมไปด้วยปัญญาชนและนักเรียนที่จะเข้าร่วมการสอบในวันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากบั่นทอนความมั่นใจของเหล่าปัญญาชนในการสอบหรือเพราะอยากได้บริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัด เซียมซีที่คนส่วนใหญ่ได้คือดีหรือดีเลิศ แทบไม่มีปานกลางและไม่ดีอาจมีทั้งสองอย่างกระมังวัดได้ปัจจัยอุปถัมภ์วัด ปัญญาชนมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้เซียมซีดีหรือดีเลิศโจวอวี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกาย คนหนึ่งยอมเฆี่ยน อีกคนยอมให้เฆี่ยนเฉินเจียงซึ่งมักดูสุภาพเรียบร้อย พลันเปลี่ยนเป็นคนเก่งมากเป็นพิเศษ เวลาครู่เดียว เขาก็เบียดตัวเองไปอยู่ตรงหน้ามัคนายก“ดีเลิศ!”“ครั้งนี้ผู้บริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัด จะสอบผ่านและได้สิทธิการสอบถงเซิงอย่างแน่นอน!”ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองเฉินเจียงด้วยสายตาอิจฉาแม้จะได้เซียมซีดีหรือดีเลิศ แต่มัคนายกอย่างมากก็บอกเพียงว่า ดีเลิศ การสอบฤดูใบไม้ผลินี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ได้พูดดั่งคำที่ว่าจะสอบผ่านและได้สิทธิการสอบถงเซิง“ขอบคุณมัคนายก ขอบคุณมัคนายก!”เฉินเจียงขอบคุณมัคนายกอย่างล้นหลามและบริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัดจำนวนสามร้อยเหวินในคราวเดียว“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวหันมาหาเฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 267

    “ท่าน!”มัคนายกพลันลุกขึ้นแล้วโน้มไปทางเฉินฝานเล็กน้อย“......โอ้สวรรค์! เกิดอะไรขึ้น? มัคนายกลุกขึ้นยืนงั้นรึ?”“ข้ามาที่วัดนักปราชญ์หลีแห่งนี้เป็นเวลาสิบปี ไม่เคยเห็นมัคนายกลุกขึ้นเลย”“ท่านยังโน้มตัวให้กับพี่ชายคนนั้นด้วย คงไม่ใช่เซียมซีดีเลิศในปฐพีหรอกกระมัง?”“อาจเป็นไปได้”“พี่ชายคนนี้เป็นใคร? มาจากหมู่บ้านอะไร?”ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน มัคนายกก็กล่าว “เซียมซีของท่าน…...”“นี่ พวกท่านอย่าส่งเสียงดัง มัคนายกจะพูดแล้ว”ห้องโถงทำนายที่เสียงดังโหวกเหวกในเดิมทีพลันเงียบสงบในทันใด แต่ละคนกลั้นหายใจและเงี่ยหูฟังมัคนายกคืนป้ายให้เฉินฝาน “ข้าขออภัย เซียมซีนี้ข้าไม่อาจทำนายได้”“……”“!!!”“???”ทุกคนในห้องโถงทำนายไม่มีใครไม่มองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า ล้วนกลัวว่าหูของตัวเองผิดปกติและฟังผิด“เจ้าได้ยินหรือไม่? มัคนายกบอกว่าเขาทำนายไม่ได้”“ข้า เหมือนได้ยินเหมือนกัน”หลายปีมานี้ ผู้คนเคยได้ยินแต่เป็นคำทำนายดีเลิศในปฐพีกับไม่ดีมาก พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าทำนายไม่ได้สิ่งสำคัญคือมัคนายกอ่านทำนายที่นี่มาแล้วหลายทศวรรษ แล้วมีเซียมซีแบบใดที่เขาไม่อาจทำนายได้อีก

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status