Share

บทที่ 259

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เฉินฝานกอดตัวเอง ร่างกายสั่นเทา “หนาวยิ่งนัก จู่ๆ ข้าก็รู้สึกหนาวยิ่งนัก”

“เจ้าคะ? ยังหนาวอีกหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวโน้มตัวลงมองเฉินฝานด้วยความกังวล

“อื้” เฉินฝานพยักหน้าด้วยความน่าสงสาร

แม่เจ้าโว้ย ช่างน่าอายยิ่งนัก เขาแกล้งทำตัวน่าสงสารเนี่ยนะ

แต่ว่า หากไม่แกล้งทำตัวน่าสงสารก็ไม่อาจกลืนกินเด็กโง่ตรงหน้าได้

 “ข้าห่มให้ท่านอีกหนึ่งชั้น” ฉินเย่ว์เจียวรีบห่มผ้าให้เฉินฝานอีกหนึ่งผืน

“ผ้าห่มไม่มีประโยชน์” เฉินฝานที่อยู่บนเตียงยังคงน่าสงสาร

ผ้าห่มไม่มีประโยชน์จริงๆ

หนักมาก

ทั้งยังร้อนมาก!

“เช่นนั้นทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวกระวนกระวาย “หรือว่า ข้าตามหมอดีไหมเจ้าคะ”

“ไม่ต้อง!” เฉินฝานเอามือออกมาจากผ้าห่มอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าตัวฉินเย่ว์เจียวที่กำลังจะเดินออกไปตามคน

“เจ้าขึ้นมานี่ มาอุ่นให้ข้าก็พอแล้ว”

“เช่นนี้ก็ได้แล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ?”

“ได้แล้วจริงๆ!”

แกะน้อยกำลังจะเข้าปากสุนัขจิ้งจอก เฉินฝานไม่อาจจะแสดงละครอีกต่อไปแล้ว “ผ้าห่มที่เจ้าอุ่นให้ตอนอยู่ที่เรือน อุ่นและสบายที่สุดแล้ว”

“…เจ้าค่ะ!”

ฉินเย่ว์เจียวเลิกผ้าห่มเตรียมขึ้นเตียง

“ก๊อกๆ!” จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดั
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 260

    หลังพูดคำว่าดีเจ้าค่ะจบ ฉินเย่ว์เจียวอุ้มผ้าห่มสองผืนลงจากเตียง ความเร็วของนางเร็วจนเฉินฝานตั้งตัวไม่ทันฉินเย่ว์เจียวปูผ้าห่มไว้บนพื้นติดกับเตียงเฉินฝาน “เจ้า...”ฉินเย่ว์เจียว “นายท่าน ท่านนอนบนเตียง ข้านอนบนพื้นเจ้าค่ะ”“หื้ม? เหตุใดต้องนอนบนพื้น ไม่ใช่ว่าไม่มีเตียงเสียหน่อย?”เฉินฝานเลิกคิ้วขึ้น หรือว่าก่อนหน้านี้นางแกล้งไร้เดียงสา นางรู้แต่แรกแล้วว่าเขาคิดอยากจะทำสิ่งใด?“อ่อ!” ฉินเย่ว์เจียวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ปูเตียงบนพื้นต่อ “ก่อนออกเดินทาง ท่านย่าให้คนส่งข่าวมาบอก ระยะนี้ห้ามไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับนายท่านยามค่ำคืนเจ้าค่ะ”“เพราะเหตุใด? ตอนอยู่ที่เรือนพวกเราก็นอนตั่งเดียวกันไม่ใช่หรือ?”“ท่านย่าบอกว่า ไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ ตั่งมีขนาดใหญ่กว่า เตียงค่อนข้างเล็ก ใกล้ชิดกับนายท่านเกินไป ท่านย่ายังบอกอีกว่า ก่อนสอบขุนนางห้ามไม่ให้นายท่านสูญเสียพลังงาน ดังนั้นจึงกำชับข้า ไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับท่านเจ้าค่ะ”ว่าแต่!” จู่ๆ ฉินเย่ว์เจียวก็เอาคางเกยขอบเตียง ดวงตากลมโต มองเฉินฝานอย่างเป็นประกาย“นายท่านเจ้าคะ เหตุใดท่านย่าจึงพูดแบบนี้ ข้าไม่ใช่ปีศาจ แล้วจะทำให้ท่านสูญเสียพลังง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 261

    เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรตระกูลหลี่มีกิจการใหญ่โตในอำเภอผิงอัน หลายสิ่งหลายอย่างจึงไม่จำเป็นต้องให้หลี่ซานไปทำด้วยตัวเองช่วงคาบเกี่ยวที่ว่านั้น เป็นแค่เรื่องตลกของเฉินฝานการร่วมมือในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เขาพบว่าแม้หลี่ซานเป็นนายน้อยของหอนางโลมอี๋ชุนย่วนที่รายล้อมไปด้วยสาวงามทุกวัน แต่เขาก็มีความคิดชัดเจน ทำสิ่งใดก็ล้วนอยู่ในความประพฤติ ไม่ใช่คนรวยไร้สมองที่เอาแต่ดื่มด่ำอยู่ในความอบอุ่นมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลี่ซานเป็นแน่และเป็นได้สูงมากว่าเป็นปัญหาเป็นเรื่องแบบไหน ที่ทำให้หัวหน้าตระกูลหลี่ถึงกับตกอยู่ในความลำบาก?เฮ้อ!เฉินฝานส่ายหัวและยิ้มกับตัวเองหลี่ซานเป็นถึงงูเจ้าถิ่นในอำเภอผิงอัน ส่วนเขาเป็นเพียงชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอ ทำไมเขาต้องกังวลแทนหลี่ซานด้วย?ตั้งแต่เมื่อวาน ห้องพักแขกก็อยู่ในสถานะแขกพักเต็ม ส่วนใหญ่ก็เป็นปัญญาชนที่เร่งจะไปสอบเฉินเจียงลุงขี้อวดของเฉินฝานก็พักอยู่ที่นี่เช่นกันแน่นอนว่าเขามีกำลังเข้าพักห้องธรรมดาชั้นสองเท่านั้นหลังจากที่ปัญญาชนเหล่านี้เข้าพัก ห้องโถงต้อนรับแขกก็คึกคักขึ้น ปัญญาชนที่กินอาหารเช้าเสร็จมารวมตัวกันแข่งประพันธ์บทกวีเมื่อเฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 262

    “พี่น้องทุกท่าน เพื่อนร่วมชั้นทุกท่าน!” ร่างร่างหนึ่งลงมาจากชั้นสอง ก้าวเท้าอย่างเร็วมาถึงตรงหน้าปัญญาชนเหล่านั้นผู้ที่เดินมาคือเฉินเจียงวันนี้เขาสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินกรมท่า ยืนที่นั่นด้วยท่าทางสง่างาม เขาโค้งคำนับต่อปัญญาชนเหล่านั้น“ข้าน้อยมาจากหมู่บ้านซานเหอมีนามว่าเฉินเจียง เฉินฝานและภรรยาผู้นี้คือหลานชายและหลานสะใภ้ของข้าน้อยเอง”“ณ ที่นี้!” เฉินเจียงประสานมือโค้งคำนับต่อเหล่าปัญญาชนอีกครั้ง “ข้าน้อยขออภัยทุกท่านด้วย”“ปกติหลานชายและหลานสะใภ้ของข้าขายปลาเป็นส่วนใหญ่ พี่น้องและเพื่อนร่วมชั้นทุกท่านต่างซึมซับจากอาจารย์หลีทั้งนั้น ย่อมมีความแตกต่างจากหลานชายและหลานสะใภ้ของข้า ข้าน้อยหวังว่าพี่น้องและเพื่อนร่วมชั้นทุกท่านจะไม่ถือสาพวกเขาขอรับ”สิ่งที่เฉินเจียงกล่าว หมายถึงเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียวเป็นเพียงพ่อค้าขายปลาที่โง่เขลา และปัญญาชนเหล่านี้คือผู้ที่รู้วิชาการหนังสือ เฉินฝานจะเทียบกับพวกเขาได้อย่างไรนี่คือความร้ายกาจของเฉินเจียงเขาไม่เพียงแต่มอบแท่นบันได[footnoteRef:1]ให้กับปัญญาชนเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังเหยียบย่ำเฉินฝานอย่างหนักด้วย แต่เฉินฝานไม่สามารถดุด่าเขา แต่ยังต้อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 263

    ขนลุกแรงกระตุ้นที่ประหลาดคิดอยาก คิดอยาก…...ฉินเย่ว์เจียวตกใจกับความคิดหนึ่งของตนเองนางอยากกอดเฉินฝานอย่างไม่คาดคิดมาก่อนในที่สาธารณะเช่นนี้ นางไม่คิดเลยว่าอยากกอดเฉินฝานนางมันบ้าไปแล้ว บ้าไปแล้วจริง ๆ!“นายท่าน ข้า…...”“มีอะไรหรือ?” เฉินฝานถามอย่างเป็นห่วง น้ำเสียงของเขาต่ำและทุ้มลึก เป็นเสียงที่มีเสน่ห์ถึงกระทั่งตายได้“เปล่า ไม่มีอะไร ขะ ข้ากลับห้องก่อนนะเจ้าคะ!”ฉินเย่ว์เจียววิ่งเร็วเหมือนกระต่ายและหายตัวไปในพริบตาเมื่อมองทางเดินที่ฉินเย่ว์เจียวหายตัวไป เฉินฝานพลางแสดงรอยยิ้มเขาตั้งใจทำเช่นนั้น เพื่ออยากเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาวคนนี้เขาพอใจกับปฏิกิริยาของฉินเย่ว์เจียวมากบางที อาจมีความโชคดีเกิดขึ้นกับเขาในช่วงนี้ก็เป็นได้เฉินฝานลูบหน้าท้องที่แบนราบของเขา หิวแล้วจริง ๆ!“เป็นการดูหมิ่นความสุภาพ”“อนาจารและผิดศีลธรรม”“ไม่ต้องสนใจเขาหรอก เขาเป็นเพียงคนที่มาเพิ่มให้ถึงจำนวนน่ะ”“เขาเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิ คือการมาขายความตลก”เฉินฝานเดินผ่านท่ามกลางข้อกล่าวหาและการเยาะเย้ยมากมาย จากห้องโถงและเดินเข้าไปในห้องครัว“นายท่านฝาน ท่านมาแล้วหรือ!”บรรยากาศใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 264

    เท้าที่ก้าวออกไปแล้วของชายชรา ดึงกลับมาทันทีเขาหันกลับมาและยิ้ม “เจ้าพูดถูก ไม่ต้องไปสนใจเศษสวะพวกนั้น”ชายชรากระโดดขึ้นรถม้าและมองขึ้นไปที่ชั้นสามของเรือนแขกสำราญสุข “เจ้าคิดว่า เขาจะเดาออกหรือไม่ว่าเป็นความคิดของข้า ที่จะให้ปัญญาชนทุกคนในอำเภอผิงอันเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิ?”“ถ้าหาก......”คนใช้มองไปที่ชั้นสามของเรือนแขกสำราญสุขเหมือนกัน “เขาฉลาดอย่างที่นายท่านพูดจริง เขาคงคิดได้ขอรับ”“เช่นนั้น!”ชายชราลูบเคราตนเอง “เขาจะส่งกระดาษเปล่าหรือไม่?”คนใช้เลิกคิ้ว “ส่งกระดาษเปล่า? นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายท่านตั้งตารอหรือขอรับ?”“ใครบอกว่าข้าตั้งตารอ”ความคิดในใจถูกมองออกอย่างง่ายดาย ชายชรารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยหากเฉินฝานส่งกระดาษเปล่า เขาจะรู้ทันทีว่าใบไหนเป็นของเฉินฝานไม่ว่าเขาจะพูดหรือทำอะไร นายอำเภอก็ไม่กล้าพูดอะไรแต่เขาเป็นผู้กำหนดกฎการป้องกันฉ้อราษฎร์บังหลวงในตอนเริ่มต้น เขาคงไม่สามารถทำผิดกฎของตนเองต่อหน้านายอำเภอได้หรอกกระมัง“จริง ๆ แล้ว ข้าคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนายท่านตอนนี้ คือการดูลายมือของเพื่อนตัวน้อยคนนั้น เพื่อให้ง่ายต่อการระบุในภายหลังขอรับ”“เพราะว่าเรา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 265

    เฉินฝานยังไม่ทันพูด เฉินเจียงก็บากหน้าเดินเข้าไปก่อนนอกจากถือโอกาสกินข้าวแล้ว เฉินเจียงยังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์ นั่นคือมาดูห้องส่วนตัวของเรือนแขกสำราญสุขห้องส่วนตัวของเรือนแขกสำราญสุขมีชื่อเสียงในอำเภอผิงอันมาก มีเพียงห้าห้องเท่านั้นคนที่พักข้างใน ไม่ใช่คนรวยก็เป็นคนมียศถาบรรดาศักดิ์ปัญญาชนอย่างพวกเขา มีเงินก็เข้าพักไม่ได้ เว้นแต่สอบผ่านซิ่วไฉแล้วกล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้เฉินเจียงสอบผ่านซิ่วไฉ ถ้าไม่มีเงินก็เข้าพักไม่ได้เหมือนกันเมื่อเขารู้ว่าหลี่ซานให้เฉินฝานพักในห้องส่วนตัว เขารู้สึกอิจฉาตาแทบลุกเป็นไฟวินาทีที่เดินเข้ามาถึงในห้องส่วนตัว ดวงตาของเฉินเจียงก็เบิกกว้างความหรูหราของห้องส่วนตัวนี้ ดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้เป็นร้อยเท่าเจ้าหนุ่มนี่ เป็นแค่คนขายปลา ทำไมถึงมีบุญบารมีเพียงนี้หลี่ซานให้เฉินฝานเข้าพัก แต่ไม่ให้เขาเข้าพัก ช่างมีตาหามีแววไม่ คอยดูเถิด“เย่ว์เจียว ไปที่ห้องครัวแล้วหยิบถ้วยกับตะเกียบมาอีกคู่” เฉินฝานสั่งฉินเย่ว์เจียว“นายท่าน” ฉินเย่ว์เจียวไม่พอใจเล็กน้อย“ไปเถอะ!”ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นท่านลุงคนหนึ่ง เมื่อครู่นี้ก็ถือว่าช่วยเขาเอาไว้ จะให้อาหาร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 266

    เวลานี้ รอบตัวของมัคนายกรายล้อมไปด้วยปัญญาชนและนักเรียนที่จะเข้าร่วมการสอบในวันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากบั่นทอนความมั่นใจของเหล่าปัญญาชนในการสอบหรือเพราะอยากได้บริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัด เซียมซีที่คนส่วนใหญ่ได้คือดีหรือดีเลิศ แทบไม่มีปานกลางและไม่ดีอาจมีทั้งสองอย่างกระมังวัดได้ปัจจัยอุปถัมภ์วัด ปัญญาชนมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้เซียมซีดีหรือดีเลิศโจวอวี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกาย คนหนึ่งยอมเฆี่ยน อีกคนยอมให้เฆี่ยนเฉินเจียงซึ่งมักดูสุภาพเรียบร้อย พลันเปลี่ยนเป็นคนเก่งมากเป็นพิเศษ เวลาครู่เดียว เขาก็เบียดตัวเองไปอยู่ตรงหน้ามัคนายก“ดีเลิศ!”“ครั้งนี้ผู้บริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัด จะสอบผ่านและได้สิทธิการสอบถงเซิงอย่างแน่นอน!”ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองเฉินเจียงด้วยสายตาอิจฉาแม้จะได้เซียมซีดีหรือดีเลิศ แต่มัคนายกอย่างมากก็บอกเพียงว่า ดีเลิศ การสอบฤดูใบไม้ผลินี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ได้พูดดั่งคำที่ว่าจะสอบผ่านและได้สิทธิการสอบถงเซิง“ขอบคุณมัคนายก ขอบคุณมัคนายก!”เฉินเจียงขอบคุณมัคนายกอย่างล้นหลามและบริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัดจำนวนสามร้อยเหวินในคราวเดียว“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวหันมาหาเฉิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 267

    “ท่าน!”มัคนายกพลันลุกขึ้นแล้วโน้มไปทางเฉินฝานเล็กน้อย“......โอ้สวรรค์! เกิดอะไรขึ้น? มัคนายกลุกขึ้นยืนงั้นรึ?”“ข้ามาที่วัดนักปราชญ์หลีแห่งนี้เป็นเวลาสิบปี ไม่เคยเห็นมัคนายกลุกขึ้นเลย”“ท่านยังโน้มตัวให้กับพี่ชายคนนั้นด้วย คงไม่ใช่เซียมซีดีเลิศในปฐพีหรอกกระมัง?”“อาจเป็นไปได้”“พี่ชายคนนี้เป็นใคร? มาจากหมู่บ้านอะไร?”ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน มัคนายกก็กล่าว “เซียมซีของท่าน…...”“นี่ พวกท่านอย่าส่งเสียงดัง มัคนายกจะพูดแล้ว”ห้องโถงทำนายที่เสียงดังโหวกเหวกในเดิมทีพลันเงียบสงบในทันใด แต่ละคนกลั้นหายใจและเงี่ยหูฟังมัคนายกคืนป้ายให้เฉินฝาน “ข้าขออภัย เซียมซีนี้ข้าไม่อาจทำนายได้”“……”“!!!”“???”ทุกคนในห้องโถงทำนายไม่มีใครไม่มองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า ล้วนกลัวว่าหูของตัวเองผิดปกติและฟังผิด“เจ้าได้ยินหรือไม่? มัคนายกบอกว่าเขาทำนายไม่ได้”“ข้า เหมือนได้ยินเหมือนกัน”หลายปีมานี้ ผู้คนเคยได้ยินแต่เป็นคำทำนายดีเลิศในปฐพีกับไม่ดีมาก พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าทำนายไม่ได้สิ่งสำคัญคือมัคนายกอ่านทำนายที่นี่มาแล้วหลายทศวรรษ แล้วมีเซียมซีแบบใดที่เขาไม่อาจทำนายได้อีก

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status