แชร์

บทที่ 265

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-30 18:31:27
เฉินฝานยังไม่ทันพูด เฉินเจียงก็บากหน้าเดินเข้าไปก่อน

นอกจากถือโอกาสกินข้าวแล้ว เฉินเจียงยังมีอีกหนึ่งจุดประสงค์ นั่นคือมาดูห้องส่วนตัวของเรือนแขกสำราญสุข

ห้องส่วนตัวของเรือนแขกสำราญสุขมีชื่อเสียงในอำเภอผิงอันมาก มีเพียงห้าห้องเท่านั้น

คนที่พักข้างใน ไม่ใช่คนรวยก็เป็นคนมียศถาบรรดาศักดิ์

ปัญญาชนอย่างพวกเขา มีเงินก็เข้าพักไม่ได้ เว้นแต่สอบผ่านซิ่วไฉแล้ว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้เฉินเจียงสอบผ่านซิ่วไฉ ถ้าไม่มีเงินก็เข้าพักไม่ได้เหมือนกัน

เมื่อเขารู้ว่าหลี่ซานให้เฉินฝานพักในห้องส่วนตัว เขารู้สึกอิจฉาตาแทบลุกเป็นไฟ

วินาทีที่เดินเข้ามาถึงในห้องส่วนตัว ดวงตาของเฉินเจียงก็เบิกกว้าง

ความหรูหราของห้องส่วนตัวนี้ ดีกว่าที่เขาจินตนาการไว้เป็นร้อยเท่า

เจ้าหนุ่มนี่ เป็นแค่คนขายปลา ทำไมถึงมีบุญบารมีเพียงนี้

หลี่ซานให้เฉินฝานเข้าพัก แต่ไม่ให้เขาเข้าพัก ช่างมีตาหามีแววไม่ คอยดูเถิด

“เย่ว์เจียว ไปที่ห้องครัวแล้วหยิบถ้วยกับตะเกียบมาอีกคู่” เฉินฝานสั่งฉินเย่ว์เจียว

“นายท่าน” ฉินเย่ว์เจียวไม่พอใจเล็กน้อย

“ไปเถอะ!”

ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นท่านลุงคนหนึ่ง เมื่อครู่นี้ก็ถือว่าช่วยเขาเอาไว้ จะให้อาหาร
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
นายประสิทธิ์ สอนสุข
ว่าจะไม่พ฿ดแล้วนะไอ่5_10มุมซ้ายไม่แก่ไขแต่ก็เอามาโฆษะนาเสียความรู้สึกจริงๆเลยแสดงว่าไม่เคยประบปรุงแก่ไขให้มะนดีขึ้นเมื่อเขาแสดงให้เห็นแต่นี่กลับเมินเฉยสะงั้น
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 266

    เวลานี้ รอบตัวของมัคนายกรายล้อมไปด้วยปัญญาชนและนักเรียนที่จะเข้าร่วมการสอบในวันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเพราะไม่อยากบั่นทอนความมั่นใจของเหล่าปัญญาชนในการสอบหรือเพราะอยากได้บริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัด เซียมซีที่คนส่วนใหญ่ได้คือดีหรือดีเลิศ แทบไม่มีปานกลางและไม่ดีอาจมีทั้งสองอย่างกระมังวัดได้ปัจจัยอุปถัมภ์วัด ปัญญาชนมั่นใจมากขึ้นเมื่อได้เซียมซีดีหรือดีเลิศโจวอวี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกาย คนหนึ่งยอมเฆี่ยน อีกคนยอมให้เฆี่ยนเฉินเจียงซึ่งมักดูสุภาพเรียบร้อย พลันเปลี่ยนเป็นคนเก่งมากเป็นพิเศษ เวลาครู่เดียว เขาก็เบียดตัวเองไปอยู่ตรงหน้ามัคนายก“ดีเลิศ!”“ครั้งนี้ผู้บริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัด จะสอบผ่านและได้สิทธิการสอบถงเซิงอย่างแน่นอน!”ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองเฉินเจียงด้วยสายตาอิจฉาแม้จะได้เซียมซีดีหรือดีเลิศ แต่มัคนายกอย่างมากก็บอกเพียงว่า ดีเลิศ การสอบฤดูใบไม้ผลินี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่ได้พูดดั่งคำที่ว่าจะสอบผ่านและได้สิทธิการสอบถงเซิง“ขอบคุณมัคนายก ขอบคุณมัคนายก!”เฉินเจียงขอบคุณมัคนายกอย่างล้นหลามและบริจาคปัจจัยอุปถัมภ์วัดจำนวนสามร้อยเหวินในคราวเดียว“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวหันมาหาเฉิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 267

    “ท่าน!”มัคนายกพลันลุกขึ้นแล้วโน้มไปทางเฉินฝานเล็กน้อย“......โอ้สวรรค์! เกิดอะไรขึ้น? มัคนายกลุกขึ้นยืนงั้นรึ?”“ข้ามาที่วัดนักปราชญ์หลีแห่งนี้เป็นเวลาสิบปี ไม่เคยเห็นมัคนายกลุกขึ้นเลย”“ท่านยังโน้มตัวให้กับพี่ชายคนนั้นด้วย คงไม่ใช่เซียมซีดีเลิศในปฐพีหรอกกระมัง?”“อาจเป็นไปได้”“พี่ชายคนนี้เป็นใคร? มาจากหมู่บ้านอะไร?”ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน มัคนายกก็กล่าว “เซียมซีของท่าน…...”“นี่ พวกท่านอย่าส่งเสียงดัง มัคนายกจะพูดแล้ว”ห้องโถงทำนายที่เสียงดังโหวกเหวกในเดิมทีพลันเงียบสงบในทันใด แต่ละคนกลั้นหายใจและเงี่ยหูฟังมัคนายกคืนป้ายให้เฉินฝาน “ข้าขออภัย เซียมซีนี้ข้าไม่อาจทำนายได้”“……”“!!!”“???”ทุกคนในห้องโถงทำนายไม่มีใครไม่มองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า ล้วนกลัวว่าหูของตัวเองผิดปกติและฟังผิด“เจ้าได้ยินหรือไม่? มัคนายกบอกว่าเขาทำนายไม่ได้”“ข้า เหมือนได้ยินเหมือนกัน”หลายปีมานี้ ผู้คนเคยได้ยินแต่เป็นคำทำนายดีเลิศในปฐพีกับไม่ดีมาก พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าทำนายไม่ได้สิ่งสำคัญคือมัคนายกอ่านทำนายที่นี่มาแล้วหลายทศวรรษ แล้วมีเซียมซีแบบใดที่เขาไม่อาจทำนายได้อีก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 268

    “เขาเป็นใคร?”สายตาของคนเหล่านั้นมองกลับมาที่เฉินฝานอีกครั้ง“ข้ามองแล้วรู้สึกว่าเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีอะไรพิเศษ!”“อ้อ ข้าจำเขาได้แล้วเหมือนกัน เขาคือเฉินฝานจากหมู่บ้านซานเหอ”“อ่อ เขานั่นเอง!”หลายคนทำหน้าเหมือนเข้าใจแน่นอนว่า มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่เข้าใจและพากันเอ่ยถามคนที่รู้จักเฉินฝาน “เฉินฝานผู้นี้คือใครรึ ดูเหมือนว่ามีชื่อเสียงมาก”“เขามีชื่อเสียงจริง ๆ…...”ผู้คนเริ่มแข่งกันพูดถึงการกระทำของเฉินฝานในสถานศึกษาอย่างกลัวจะน้อยหน้าคนอื่น“ฮ่า ๆ นั่นกลอนคู่อะไรกัน?”“ฮ่า ๆ ๆ”ภายในห้องอธิบายคำทำนาย มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นพัก ๆ“เมื่อครู่นี้พวกเราเข้าใจผิดมัคนายกแล้วจริง ๆ เซียมซีของคนเช่นนี้ จะอธิบายอย่างไรได้”“ใช่ หากเป็นเซียมซีดีเลิศ เมื่อมีการประกาศอันดับของเขาออกมา เขาก็ต้องมาต่อว่ามัคนายกที่โกหกเขาน่ะสิ หากเป็นเซียมซีไม่ดี ก็ทำร้ายจิตใจมากเกินไป”“มัคนายกมีเจตนาดีจริง ๆ เขาเป็นมัคนายกที่ดีคนหนึ่ง”ภายในห้องอธิบายคำทำนายมีภาพแห่งความสันติเกิดขึ้น ปัญญาชนเหล่านี้รู้สึกสบายใจขึ้นพวกเขามีความคิดแบบเดียวกับปัญญาชนของอาจารย์เฉียนมีคนช่วยอยู่อันดับล่างแทนพว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 269

    เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีขาว ทั้งอำเภอผิงอันก็คึกคักขึ้นมาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นของการสอบฤดูใบไม้ผลิประจำปียังมีเวลาอีกพักหนึ่งก่อนที่การสอบจะเริ่มขึ้น เรือนแขกสำราญสุขตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สอบ จึงไม่จำเป็นต้องรีบเร่งเขานั่งจิบชาพักผ่อนอยู่บนม้านั่งริมหน้าต่าง จิบชาได้เพียงครึ่งแก้ว เขาสุดจะทนจึงวางถ้วยชาแล้วเอ่ยถาม“พู่กันก็มีอยู่สามแท่ง แท่นหมึกหนึ่งอันกับหมึกอีกหนึ่งกล่อง ทำไมเจ้านับมันซ้ำแล้วซ้ำอีก นับซ้ำหลายครั้งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นงั้นรึ?”ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งที่หกที่ฉินเย่ว์เจียวนับของในตะกร้าไม้ไผ่ระหว่างที่เฉินฝานเอ่ยถาม ฉินเย่ว์เจียวเทของในตะกร้าไม้ไผ่ออกมาแล้วนับอีกครั้งพร้อมกับพึมพำกับตนเอง “ตอนออกเดินทาง พี่สี่บอกว่าข้าเป็นคนความจำไม่ดีและทำชอบของหาย เพราะฉะนั้นให้นับยืนยันหลาย ๆ ครั้ง จะได้ไม่ลืมของเจ้าค่ะ”เพิ่งใส่กลับเข้าไปในตะกร้าไม้ไผ่ จากนั้นนางก็เทออกมาอีกครั้งเฉินฝานทนดูไม่ไหวต่อไป จึงลุกขึ้นแล้วเดินไปอยู่ข้างฉินเย่ว์เจียวพร้อมกับจับมือนาง “ตรงนี้ ให้ข้าจัดเก็บเองเถอะ เจ้าไปเตรียมผ้าห่ม น้ำหนึ่งกา ผลไม้และของว่างให้ข้ารองท้องหน่อย”การสอบขุนนางขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 270

    เหลือเวลาเข้าสนามสอบอีกเพียงเวลาธูปครึ่งก้านข้างนอกสนามสอบยืนเต็มไปด้วยปัญญาชนที่มาสอบนี่เป็นการสอบที่ส่งผลถึงชะตากรรมที่เหลือของชีวิต บางคนตื่นเต้น บางคนวิตกกังวล บางคนมั่นใจบางคนยังถือหนังสือและท่องจำ บางคนพนมมือและพึมพำในปาก ได้โปรดนักปราชญ์หลีช่วยคุ้มครองด้วย ดาวเหวินฉวี่ซิง[footnoteRef:1] บนฟ้าโปรดช่วยคุ้มครองด้วย [1: ดาวเหวินฉวี่ซิง คือ ชื่อของดวงดาวอันดับที่สี่ในกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ (กลุ่มดาวจระเข้) เชื่อว่าเป็นดวงดาวแห่งการศึกษา สติปัญญา] เมื่อเวลาเข้าสนามสอบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฉินฝานสังเกตเห็นร่างกายของฉินเย่ว์เจียวที่อยู่ข้างๆ สั่นรุนแรงตอนที่อยู่ข้างบนภูเขาหัวเสือ เมื่อเห็นเสือแต่ไม่เห็นนางตัวสั่น“ใจเย็นนะ ๆ!” เฉินฝานใช้มือบีบไหล่ของนาง“นายท่าน ข้าเพียงแค่ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ มันสั่นไปหมดเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวประสานมือเข้าด้วยกันแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ให้นิ่งแต่ยิ่งพยายามสงบสติอารมณ์เท่าไรก็ยิ่งสงบสติอารมณ์ยากขึ้นเท่านั้น“เจ้ากำลังตื่นเต้น อย่าตื่นเต้นเลยนะ คนที่เข้าไปในสนามสอบคือข้าไม่ใช่เจ้า”“ข้ารู้ แต่ข้าตื่นเต้นนี่”“ถ้าเจ้ายังตื่นเต้นเช่นนี้มัน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 271

    ในสนามสอบของทุกวันจะมีผู้คุมสอบคอยเรียกชื่อ อุปกรณ์การเข้าสอบของผู้สอบจะมีแค่ตะกร้าสานไม้ไผ่เพราะตะกร้าสานไม้ไผ่เป็นสิ่งของที่ฉ้อโกงได้ยากที่สุดแล้วในตะกร้าสานนั้นนอกจากอุปกรณ์เครื่องเขียนแล้ว ก็ยังมีประวัติส่วนตัว การลงนามในเอกสารราชการและการลงนามร่วมกันประวัติส่วนตัวจะประกอบไปด้วยชื่อ อายุ ภูมิลำเนา เป็นต้นการลงนามร่วมจะประกอบไปด้วยผู้เข้าสอบจำนวนห้าคน ใบรับประกันของผู้เขียนข้อสอบจำนวนห้าฉบับ และพวกสิบแปดมงกุฎจำนวนห้าคนมานั่งด้วยกัน เงื่อนไขนี้มีไว้เพื่อป้องกันการทุจริต หากเจ้ากล้าทุจริต สี่คนที่เหลือก็จบเห่ไปด้วยการลงนามในเอกสารราชการก็คือหนังสือรับรองของผู้ค้ำประกัน โดยปกติแล้วผู้ค้ำประกันจะมีสองคน นั้นก็คือผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านและอาจารย์ในสำนักศึกษาเนื่องจากนักเรียนทั้งอำเภอต่างพากันลงสอบในปีนี้ จำนวนคนจึงค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องจัดการล่วงหน้า โดยแบ่งเป็นแถว แถวละสิบคน ในลานกว้างจะมีโคมไฟกระดาษแขวนอยู่ ง่ายต้องการมองเห็น พวกเขาจะทยอยกันเขียนชื่อและลงสนามปากทางเข้า จะมีขุนนางคอยตรวจสอบตะกร้าสานของผู้เข้าสอบ รวมถึงสิ่งของที่จะนำเข้าไปการตรวจสอบค่อนข้างเข้มงวด เสื้อผ้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 272

    การสอบระดับอำเภอจะใช้เวลาในการสอบหกชั่วโมง ในระหว่างนี้ไม่อนุญาตให้ออกจากห้องสอบ หากอยากเข้าห้องน้ำ ก็แค่ยกมือส่งสัญญาณ จะมีขุนนางที่คุมสอบเดินไปด้วยไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เฉินฝานก็เขียนเสร็จไปเกินครึ่งแล้วหากไม่ใช่เพราะต้องใช้พู่กันที่ไม่ถนัดมือ เขาคงเขียนคำตอบเสร็จตั้งแต่ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยามการสอบครั้งนี้ไม่มีความท้ายเลยสักนิด ระหว่างที่เฉินฝานกำลังเขียนคำตอบนั้น เปลือกตาของเขาเริ่มหนักคล้ายกับทองคำหนึ่งพันเหรียญ อยากจะฝืนแต่ก็ฝืนไม่ไหวเริ่มสอบวันนี้ แต่ฉินเย่ว์เจียวตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืน นางนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนพื้นข้างเตียง เสียงดังจนเขานอนไม่หลับช่างเถอะเฉินฝานวางพู่กันลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวฝืนไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน นอนสักตื่นละกันเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่ายังเหลือเวลาอีกสองชั่วยามถึงจะหมดเวลาสอบเฉินฝานมองไปรอบ ๆ ตัว เหล่านักศึกษาข้างกายเขาต่างก็เริ่มพากันขมวดคิ้วและเกาหัวเมื่อนักศึกษาที่ขมวดคิ้วและเกาหัวเหล่านั้นเห็นเฉินฝานมองมาที่พวกเขาก็พากันแสดงสีหน้าโล่งใจคำถามนั้นยากมาก ทั้งยังยากกว่าคำถามของพวกเขาด้วยซ้ำ หลังจากสอบไปได้ไม่นาน เขา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 273

    เฉินฝานที่กำลังหลงไหลอยู่กับแผ่นหลังที่งดงามของฉินเย่ว์เจียว จึงไม่ได้ป้องกันตัวทันใดนั้นเสียง ‘ตุ๊บ’ ก็ดังขึ้น ใบหน้าของเฉินฝานเต็มไปด้วยเศษหญ้าสิ่งที่ฟาดหน้าของเฉินฝานเมื่อครู่คือเศษหญ้าถุงใหญ่“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวรีบเข้ามาปัดเศษหญ้าบนหน้าของเฉินฝานทันที นางปัดออกอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะหันกลับไปถลึงตาใส่คนที่ใช้ถุงเศษหญ้าฟาดหน้าเฉินฝาน “พวกเจ้าทำอะไร? นายท่านของข้าเดินมาอยู่ดี ๆ เขาไปรุกรานพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”“ไร้การศึกษาสิ้นดี! เป็นสาวเป็นนางต่อหน้าบุรุษเจ้าพูดแทรกเช่นนี้ได้อย่างไร?”คนที่สั่งสอนฉินเย่ว์เจียวคือสวีจื่อหมิง และคนที่ใช้ถุงเศษหญ้าโยนใส่เฉินฝานเมื่อครู่ก็คือสวีจื่อหมิงนักศึกษาในสำนักศึกษาของหมู่บ้านซานเหอที่เขาพาเข้ามาได้ยืนล้อมรอบเฉินฝานอยู่ในห้องโถงกลางของเรือนแขก“พวกเจ้าใช่สิ่งนี้โยนใส่หน้าของนายท่านก่อน”“นังผู้หญิงไร้การศึกษา หากเจ้ายังปากมากอีก ก็อย่ามาหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”“ข้ากลัวพวกเจ้าตายล่ะ!”ใบหน้าเรียวเล็กละคนคมเข้มของฉินเย่ว์เจียวแดงระเรื่อด้วยความโกรธ จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบคันธนู“เย่ว์เจียว ถอยไป!”เฉินฝานดุฉินเย่ว์เจียว กฎระเบียบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-30

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 902

    ตวนซินอ๋องมิอยากเชื่อสายตาของตนเอง เขายกกำปั้นไปด้านหน้าเฉินฝานทันที หลังนั้นก็ชูสามนิ้วออกไปชูสามนิ้วแล้วตะโกนพูดขึ้นหนึ่งประโยค“หนึ่งกฎเกณฑ์ สองสตรี สามเงินเหวิน!”เมื่อตะโกนจบก็จ้องไปที่เฉินฝาน สื่อความหมายว่าถึงตาเจ้าแล้วเฉินฝานรู้สึกหมดคำพูดอีกครั้ง ถูกพลทหารหนึ่งพันปิดล้อมมิสำคัญ จวนจะถูกตัดหัวประหารก็มิสำคัญเช่นกันสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ...เฉินฝานก็ยกกำปั้นขึ้นมาชูนิ้วยื่นไปด้านหน้าตวนซินอ๋องเช่นกัน“สี่ฤดูกาล ห้าปรมาจารย์ หกที่นั่ง!”ทหารหลวงที่ปิดล้อมเฉินฝานและตวนซินอ๋องไว้มึนงงในบัดดลแม้กระทั่งหลี่ชิ่งที่เป็นหัวหน้าของพวกเขายังกวาดสายตามองไปรอบข้าง เขากำลังสงสัยว่านี้เป็นสัญญาณลับระหว่างเฉินฝานและตวนซินอ๋องหรือไม่“ถูกต้องทั้งหมด ๆ!”ตวนซินอ๋องดีใจออกนอกหน้าเดินไปกอดเฉินฝาน “เจ้าพูดรหัสลับของการเล่นทายตัวเลขถูกทั้งหมด เจ้าเป็นลูกเขยที่แสนดีของข้าจริงๆด้วย เจ้ายังมีชีวิตดังคาดสินะ”กำปั้นแห่งความปีติของตวนซินอ๋อง ทุบไปหลังเฉินฝานครั้งแล้วครั้งเล่าเฉินฝานรู้สึกวิงเวียนศีรษะ เขาจวนจะถูกพ่อตาของตนเองตบหลังจนแทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว“ชาวบ้านใจกล้า ก่อความวุ่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 901

    “ตุ้บ!”หลี่ชิ่งที่แต่เดิมกำลังพยุงหลิวเกาจัวปล่อยมือออกทันทีหลิวเกาจัวที่หกล้มหน้าคะมำตะโกนร้องโอดโอย เห็นว่ามีเท้าสองข้างอยู่ด้านหน้าจึงคิดที่จะใช้เพื่อยันตัวลุกขึ้นปรากฏว่าเมื่อเขาสัมผัสเท้านั้น เจ้าของฝ่าเท้านั้นก็จงใจยกขึ้น จึงทำให้เขาลื่นล้มลงกับพื้นอีกครั้ง“บัณฑิตหลิว กลางวันแสกๆเช่นนี้ นักพรตชิงเฟิงก็กำลังทำพิธีอยู่ที่แห่งนี้ จะมีภูตผีตนใดกล้าออกมากัน?”ผู้ที่ถีบหลิวเกาจัวคือเลขาธิการกรมโยธาธิการหยางอวิ๋นหู่ เดิมทีหยางอวิ๋นหู่เป็นผู้เก่งกาจในการประจบประแจงคนหนึ่ง ก่อนที่หลิวเกาจัวจะทรยศซูซิวฉี เสิ่นหมิงหยวนให้ความสนใจกับหยางอวิ๋นหู่เป็นอย่างมาก ปรากฏว่าเมื่อหลิวเกาจัวปรากฏตัวขึ้นมา หยางอวิ๋นหู่ก็เทียบเคียงหลิวเกาจัวมิได้แม้แต่น้อยครั้งนี้สามารถทำให้เฉินฝานติดอยู่ในเมืองเซียนตูได้ เดิมทีก็เป็นความดีความชอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหยางอวิ๋นหู่ แต่เพราะสาเหตุที่ว่าเรือนเซียนผาสุกมิสามารถปิดตายเฉินฝานได้อย่างสมบูรณ์ หลิวเกาจัวก็คอยใส่สีตีไข่อยู่เสมอ หยางอวิ๋นหู่มิเพียงแต่มิได้รับรางวัลจากเสิ่นหมิงหยวนเท่านั้น กลับถูกตำหนิอย่างรุนแรงอีกด้วย“ใต้เท้าหยางพูดถูก ต่อให้เป็นกลางวั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 900

    เฉินฝานเดินออกมาจากห้องตั้งดวงวิญญาณ ก่อนจะเดินไปยังแท่นบูชาบนแท่นบูชายังมีคนกำลังทำพิธีอยู่นอกจากนี้คนบนแท่นบูชาผู้นี้แต่งกายงดงามกว่าหมอผีที่อยู่ในห้องตั้งดวงวิญญาณ เครื่องมืออุปกรณ์ก็ดูอลังการมากกว่าว้าวเฉินฝานอดลอบอุทานไม่ได้เสิ่นหมิงหยวนลงทุนสำหรับงานศพนี้ของเขาไปไม่น้อยเลยตรงพื้นที่เปิดโล่งใต้แท่นบูชา มีขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊คุกเข่ากันเต็มไปหมดหิมะเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้งเฉินฝานมองแวบเดียวก็เห็นอ๋องตวนที่ยืนอยู่หน้าขุนนางทั้งหมด อ๋องตวนไม่มีท่าทางเมามายเหมือนก่อนหน้านี้แล้วผมที่เดิมทีขาวแค่ครึ่งเดียว ตอนนี้ขาวโพลนไปหมดแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าลูกเขยจากไปแล้วท่ามกลางเพลิงไหม้อย่างรุนแรงเมื่อไม่กี่วันก่อน อีกทั้งยังสูญเสียบุตรีไปอีกสองคนนี่ก็คือคนผมขาวส่งศพคนผมดำสินะเฉินฝานเห็นแล้วรู้สึกประทับใจเล็กน้อยแม้ว่าพ่อตาที่โผล่มาตอนครึ่งทางผู้นี้ของเขา ปกติจะชอบดื่มเหล้า และเป็นคนที่ดูไม่น่าเชื่อถืออย่างมาก แต่ก็ปฏิบัติกับเขาดีมากจริง ๆ จนไม่มีอะไรจะพูด อีกไม่นาน อีกไม่นาน เขาก็ไม่ต้องเสียใจแล้วส่วนบนพระที่นั่งมังกรที่อยู่ไกล ๆ... ว่างเปล่าไม่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 899

    “วันที่แปดแล้วเจ้าค่ะ พรุ่งนี้เป็นวันสุดท้าย นายท่าน คนข้างนอกพวกนั้นด่าท่านมาแปดวันแล้ว ท่านยังอารมณ์ดีทนได้ แต่ข้าทนไม่ไหวแล้วนะเจ้าคะ”ฉินเย่ว์เจียวรู้สึกน้อยอกน้อยใจ นางกำหมัดแน่นมาหลายวันแล้ว แต่เฉินฝานสั่งให้เย่ว์หนูคอยดูแลนาง นางจึงทำได้เพียงงอนอยู่ที่บ้าน“เจ้าลดเสียงหน่อย จินเป่าเพิ่งจะหลับไปนะ!”เฉินฝานวางจินเป่าที่ไม่ง่ายเลยกว่าจะกล่อมให้นอนหลับลงบนเตียง จากนั้นก็เดินไปที่ริมหน้าต่าง ฟังเสียงด่าทอจากข้างนอกเสิ่นหมิงหยวนตั้งใจปล่อยให้ชาวบ้านในเซียนตูก่นด่าเฉินฝาน อยากจะทำให้เฉินฝานชื่อเสียงฉาวโฉ่เฉินฝานฟังชาวบ้านในเซียนตูด่าทอตนเอง เพื่อให้พวกเสิ่นหมิงหยวนสูญเสียความระแวดระวัง ชาวบ้านยิ่งด่ารุนแรงและยิ่งด่านานเท่าไร ความระแวดระวังของเสิ่นหมิงหยวนก็จะยิ่งหย่อนยานลง เชื่อว่าเขาตายไปแล้วจริง ๆแววตาของเฉินฝานเย็นชาขึ้นมาทีละนิด“พรุ่งนี้ข้าก็จะ ‘ถูกฝัง’ ได้แล้ว” พรุ่งนี้...ทุกอย่างจะกลับคืนสู่ที่ของมัน ไม่สิควรพูดว่าพรุ่งนี้เขาจะกลายเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของต้าชิ่งอย่างเป็นทางการหลังจากอยู่ในเมืองหลวงมาหนึ่งปีกว่า ในที่สุดเขาก็ได้ยืนอยู่บนตำแหน่งเดิมของซูซิว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 898

    “วันนั้นไฟไหม้ลานบ้านรุนแรงมากถึงเพียงนั้น รอบด้านถูกเราพวกเราห้อมล้อมไว้เป็นชั้น ๆ อย่าว่าแต่คนตายเลย ต่อให้เป็นมดสักตัวก็ไม่สามารถหนีออกมาจากลานบ้านนั้นได้ หรือว่าจู่ ๆ เฉินฝานจะกลายเป็นถู่สิงซุนขุดดินหนีออกไปแล้ว”“พรืด!” เลขาธิการกรมพิธีการหลิวเกาจัวที่ยืนอย่างเชื่อฟังอยู่ทางด้านข้างเหมือนกับสุนัขพลันอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เมื่อเสิ่นหมิงหยวนกับเสิ่นหยวนเลี่ยงมองมาทางเขา เขาก็รีบอธิบาย “ข้าน้อยคิดว่าต่อให้เฉินฝานกลายเป็นถู่สิงซุนขุดลงไปใต้ดิน เช่นนั้นก็คงโดนเผาจนสุกอยู่ดี ตอนนี้น่าจะเปลี่ยนจากถู่สิงซุนไปเป็นหนูสุกแล้วขอรับ” หลิวเกาจัวพูดประจบมากมายขนาดนั้น ในที่สุดครั้งนี้เขาก็ประจบถูกจุดแล้วเมื่อได้ยินคำพูดของหลิวเกาจัว เสิ่นหมิงหยวนก็อารมณ์ดีขึ้นในพริบตาใช่แล้ว ไฟไม้แรงขนาดนั้น ต่อให้เฉินฝานสามารถขุดลงไปใต้ดินได้ก็คงโดนเผาจนสุกไปแล้ว“เจ้าไปเถิด!” เสิ่นหมิงหยวนที่อารมณ์ดีมากยกมือขึ้นมาโบกทีหนึ่งแล้วพูดกับหลิวเกาจัวว่า “รัฐพิธีศพของท่านอัครมหาเสนาบดีเบื้องซ้ายจะหยุดไม่ได้ เจ้าไปเชิญนักพรตที่ดีที่สุดในเซียนตูมา จะต้องทำพิธีอุทิศส่วนกุศลดี ๆ ให้ท่านอัครมหาเสนาบดีเบื้องซ้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 897

    ...เฉินฝานไม่ทันได้รับคำตอบจากเมี่ยวอวี่ เขาก็รู้สึกว่ามีวัตถุร่วงลงมาบนฝ่ามือ จี้หยกในมือเมี่ยวอวี่หล่นลงมาบนฝ่ามือของเฉินฝาน“เมี่ยวอวี่ เมี่ยวอวี่!” ไม่ว่าเฉินฝานจะเรียกอย่างไร โฉมงามในอ้อมแขนก็ไม่มีการตอบสนองเลยตั้งแต่ต้นจนจบนางหลับตา มุมปากยังคงยกยิ้มเล็กน้อยราวกับเจ้าหญิงที่หลับใหลไปพร้อมกับความฝันอันงดงามในหนังสือนิทาน...“คุณหนู!” แม่นมชางร้องไห้พลางโผเข้ามา คุกเข่าอยู่ข้างกายเฉินฝาน ปากก็พึมพำซ้ำ ๆ ว่า “ท่านสาบานตั้งแต่เด็กว่าอยากจะสังหารบุรุษใน ใต้หล้าให้หมด สุดท้ายกลับยังคงตายเพื่อบุรุษ”จากคำพูดของแม่นมชาง เฉินฝานค่อย ๆ เข้าใจแล้วว่าตำหนักเซียวเหยาเป็นองค์กรที่สังหารบุรุษโดยเฉพาะ เดิมทีเฉินฝานอยากจับแม่นมชางเพื่อมาสอบสวน ผลปรากฏว่าแม่นมชางกินยาพิษฆ่าตัวตายไปก่อนแล้วตอนที่ขุดหลุมฝังศพเมี่ยวอวี่ เฉินฝานพลันนึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้“เจี้ยนหวง?” เฉินฝานหันหน้าไปถามเซียนเจี้ยนหวงที่อนู่ทางด้านข้าง “ท่านรู้เรื่องตำหนักเซียวเหยา และรู้ว่าตำหนักเซียวเหยาอยู่ที่ใดใช่หรือไม่?” “ขะ ข้า...” เซียนเจี้ยนหวงดึงรากหญ้าออกจากมุมปาก “ตำหนักเซียวเหยานั้นออกจะลึกลับ ข้าจะไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 896

    “นายท่าน...ถอดผ้าคลุมหน้า...ของข้าเถิด” เมี่ยวอวี่นอนอยู่ในอ้อมกอดของเฉินฝาน อ่อนแรงจนกระทั่งไม่มีแรงที่จะลืมตาแล้วแต่ดูออกได้จากแววตาที่ส่องประกายวิบวับ นางแทบจะรอไม่ไหวแล้ว ร้อนใจอยากจะเป็นภรรยาของเฉินฝานนางเคยคิดว่าบนโลกใบนี้นางคงจะหาบุรุษที่ถอดผ้าคลุมหน้าของนางไม่ได้แล้ว พระเจ้าช่วย สุดท้ายเขาก็ยังไม่ใจร้ายกับนางมากเกินไปนางรอคอยจนได้เจอกับบุรุษที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเฉินฝานถอนหายใจ “ถ้าเกิดโลกนี้มีการเวียนว่ายตายเกิดจริง ๆ หากชาติหน้ามีจริง เจ้าเจอข้าแล้วอย่าได้โง่งมแบบนี้อีก เข้าใจหรือไม่?” ในฐานะที่เป็นคนยุคปัจจุบัน เติบโตมาพร้อมกับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียุคปัจจุบัน เฉินฝานคิดว่าคำพูดนี้ของตัวเองน่าขันมากแต่ส่วนลึกภายในใจยังคงหวังว่าวิทยาศาสตร์จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ทุกสิ่ง หวังว่าจะมีการกลับชาติมาเกิดใหม่ “ได้!” เมี่ยวอวี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย เฉินฝานเอามือวางไว้ที่ด้านหลังหูของเมี่ยวอวี่ จากนั้นก็กระตุกเชือกสีแดงบนหูเบา ๆ ผ้าสีแดงที่ปกปิดใบหน้าครึ่งหนึ่งของเมี่ยวอวี่ก็เลื่อนหลุดลงมาสิ่งแรกที่ปรากฏเข้ามาในสายตาของเฉินฝานคือ ปลายจมูกอันงดงาม ดั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 895

    “เหตุใดเจ้าถึงได้โง่เง่าเช่นนี้? อะไรคือข้ารอดแล้วเจ้าต้องตาย!” เฉินฝานด่าอย่างรุนแรงมากเฉินฝานรำคาญกฎเกณฑ์ที่ว่ามีเจ้าไม่มีข้าเช่นนี้มากเลย คนเรามีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ก็เพื่อที่จะฝืนเปลี่ยนชะตาชีวิตต่อให้สุดท้ายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้จริง ๆ อย่างน้อยก็พยายามสู้ให้ถึงที่สุด ไม่ให้ตัวเองหลงเหลือความเสียใจเมี่ยวอวี่ผู้นี้ไม่มีแม้กระทั่งดิ้นรนต่อสู้เลยเขาโกรธมากจริง ๆหากเมี่ยวอวี่เชื่อใจเขาได้ บอกเรื่องราวทุกอย่างกับเขาตามความเป็นจริง นางจะเดินมาถึงเส้นทางนี้ได้อย่างไร ตั้งแต่ที่ติดอยู่ในกระท่อมหิมะ เขาก็ให้โอกาสนางสารภาพความจริงมาโดยตลอด แต่ไม่เคยคิดเลยว่านางจะเลือกเช่นนี้ตรงหน้าอกของเมี่ยวอวี่เป็นสีแดงเพลิง นั่นเป็นการย้อมจนเป็นสีแดงสด ผ้าแพรสีขาวที่ผูกไว้บนใบหน้าก็ถูกย้อมจนเป็นสีแดงเช่นเดียวกัน เลือดไหลออกมาจากในร่างกายเยอะมาก ซึมออกมาจากในปากของนางแล้ว ต้องเจ็บมากแน่ ๆ หางตาของเมี่ยวอวี่กลับยกขึ้นเล็กน้อย “อยู่ต่อหน้าเจ้า มีใครที่ไม่โง่ได้หรือ?”“แต่เจ้าก็ยังโง่ไม่พอ ภารกิจของเจ้าคือการลอบสังหารฆ่าไม่ใช่หรือ อยากจะฆ่าข้าให้ตายไม่ใช่หรือ? ฮึดสู้ขึ้นมาสิ!”เฉินฝา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 894

    “คุณหนู พวกเขา...”“นี่เป็นคำสั่ง!” เมี่ยวอวี่ตัดบทหญิงชราด้วยเสียงเฉียบขาด “เปิดเครือข่ายใต้ดินในเมืองเซียนตูเดี๋ยวนี้เลยนะ!”“ว้าว!”เซียนเจี้ยนหวงพุ่งปราดเข้าไป ถามเมี่ยวอวี่ด้วยความตื่นเต้นว่า “แม่หนูน้อย ในเมืองเซียนตูมีเครือข่ายใต้ดินตำหนักเซียวเหยาของพวกเจ้าจริง ๆ หรือ”ดวงตาของชายชราเปล่งประระยิบระยับ เขาเคยได้ยินมานานแล้วว่าตำหนักเซียวเหยามีเครือข่ายใต้ดินอยู่ในเมืองใหญ่มากมาย เขาสงสัยใคร่รู้มากจริง ๆ รีบร้อนอยากจะเห็นเมี่ยวอวี่ผงกศีรษะเล็กน้อย เสียงฟังดูล่องลอย “รบกวนท่านพาพวกเขาเข้ามาด้วย”“ได้เลย ๆ!”เซียนเจี้ยนหวงวิ่งไปหาเฉินฝานอย่างเบิกบานใจ “เจ้าหนู ยังจะอึ้งอยู่ทำไม? เมี่ยวอวี่จะเปิดเครือข่ายใต้ดินแล้ว พวกเรารอดแล้ว!” แม้ว่าในใจยังคงมีความสงสัย แต่ตอนนี้ไม่มีทางอื่นแล้ว เฉินฝานพาภรรยาและลูกตามหลังเซียนเจี้ยนหวงเข้าไปในห้องอีกครั้งหญิงชรากวาดตามองพวกเฉินฝาน ก่อนจะหันไปถามเมี่ยวอวี่อย่างจริงจังว่า “คุณหนู ท่านรู้ไหมว่าตอนนี้ท่านกำลังทำอะไรอยู่?”“ข้าจะทำอะไร?” เสียงของเมี่ยวอวี่ฟังดูคลุมเครือ แต่ว่ามีความเด็ดเดี่ยวอย่างยิ่ง “ไม่ต้องให้แม่นมชางมาเตือนหรอ

DMCA.com Protection Status