Share

บทที่ 267

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ท่าน!”

มัคนายกพลันลุกขึ้นแล้วโน้มไปทางเฉินฝานเล็กน้อย

“......โอ้สวรรค์! เกิดอะไรขึ้น? มัคนายกลุกขึ้นยืนงั้นรึ?”

“ข้ามาที่วัดนักปราชญ์หลีแห่งนี้เป็นเวลาสิบปี ไม่เคยเห็นมัคนายกลุกขึ้นเลย”

“ท่านยังโน้มตัวให้กับพี่ชายคนนั้นด้วย คงไม่ใช่เซียมซีดีเลิศในปฐพีหรอกกระมัง?”

“อาจเป็นไปได้”

“พี่ชายคนนี้เป็นใคร? มาจากหมู่บ้านอะไร?”

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของฝูงชน มัคนายกก็กล่าว “เซียมซีของท่าน…...”

“นี่ พวกท่านอย่าส่งเสียงดัง มัคนายกจะพูดแล้ว”

ห้องโถงทำนายที่เสียงดังโหวกเหวกในเดิมทีพลันเงียบสงบในทันใด แต่ละคนกลั้นหายใจและเงี่ยหูฟัง

มัคนายกคืนป้ายให้เฉินฝาน “ข้าขออภัย เซียมซีนี้ข้าไม่อาจทำนายได้”

“……”

“!!!”

“???”

ทุกคนในห้องโถงทำนายไม่มีใครไม่มองหน้ากันด้วยสีหน้าว่างเปล่า ล้วนกลัวว่าหูของตัวเองผิดปกติและฟังผิด

“เจ้าได้ยินหรือไม่? มัคนายกบอกว่าเขาทำนายไม่ได้”

“ข้า เหมือนได้ยินเหมือนกัน”

หลายปีมานี้ ผู้คนเคยได้ยินแต่เป็นคำทำนายดีเลิศในปฐพีกับไม่ดีมาก พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าทำนายไม่ได้

สิ่งสำคัญคือมัคนายกอ่านทำนายที่นี่มาแล้วหลายทศวรรษ แล้วมีเซียมซีแบบใดที่เขาไม่อาจทำนายได้อีก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 268

    “เขาเป็นใคร?”สายตาของคนเหล่านั้นมองกลับมาที่เฉินฝานอีกครั้ง“ข้ามองแล้วรู้สึกว่าเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่มีอะไรพิเศษ!”“อ้อ ข้าจำเขาได้แล้วเหมือนกัน เขาคือเฉินฝานจากหมู่บ้านซานเหอ”“อ่อ เขานั่นเอง!”หลายคนทำหน้าเหมือนเข้าใจแน่นอนว่า มีคนอีกจำนวนมากที่ไม่เข้าใจและพากันเอ่ยถามคนที่รู้จักเฉินฝาน “เฉินฝานผู้นี้คือใครรึ ดูเหมือนว่ามีชื่อเสียงมาก”“เขามีชื่อเสียงจริง ๆ…...”ผู้คนเริ่มแข่งกันพูดถึงการกระทำของเฉินฝานในสถานศึกษาอย่างกลัวจะน้อยหน้าคนอื่น“ฮ่า ๆ นั่นกลอนคู่อะไรกัน?”“ฮ่า ๆ ๆ”ภายในห้องอธิบายคำทำนาย มีเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นพัก ๆ“เมื่อครู่นี้พวกเราเข้าใจผิดมัคนายกแล้วจริง ๆ เซียมซีของคนเช่นนี้ จะอธิบายอย่างไรได้”“ใช่ หากเป็นเซียมซีดีเลิศ เมื่อมีการประกาศอันดับของเขาออกมา เขาก็ต้องมาต่อว่ามัคนายกที่โกหกเขาน่ะสิ หากเป็นเซียมซีไม่ดี ก็ทำร้ายจิตใจมากเกินไป”“มัคนายกมีเจตนาดีจริง ๆ เขาเป็นมัคนายกที่ดีคนหนึ่ง”ภายในห้องอธิบายคำทำนายมีภาพแห่งความสันติเกิดขึ้น ปัญญาชนเหล่านี้รู้สึกสบายใจขึ้นพวกเขามีความคิดแบบเดียวกับปัญญาชนของอาจารย์เฉียนมีคนช่วยอยู่อันดับล่างแทนพว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 269

    เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีขาว ทั้งอำเภอผิงอันก็คึกคักขึ้นมาวันนี้เป็นวันเริ่มต้นของการสอบฤดูใบไม้ผลิประจำปียังมีเวลาอีกพักหนึ่งก่อนที่การสอบจะเริ่มขึ้น เรือนแขกสำราญสุขตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สอบ จึงไม่จำเป็นต้องรีบเร่งเขานั่งจิบชาพักผ่อนอยู่บนม้านั่งริมหน้าต่าง จิบชาได้เพียงครึ่งแก้ว เขาสุดจะทนจึงวางถ้วยชาแล้วเอ่ยถาม“พู่กันก็มีอยู่สามแท่ง แท่นหมึกหนึ่งอันกับหมึกอีกหนึ่งกล่อง ทำไมเจ้านับมันซ้ำแล้วซ้ำอีก นับซ้ำหลายครั้งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นงั้นรึ?”ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งที่หกที่ฉินเย่ว์เจียวนับของในตะกร้าไม้ไผ่ระหว่างที่เฉินฝานเอ่ยถาม ฉินเย่ว์เจียวเทของในตะกร้าไม้ไผ่ออกมาแล้วนับอีกครั้งพร้อมกับพึมพำกับตนเอง “ตอนออกเดินทาง พี่สี่บอกว่าข้าเป็นคนความจำไม่ดีและทำชอบของหาย เพราะฉะนั้นให้นับยืนยันหลาย ๆ ครั้ง จะได้ไม่ลืมของเจ้าค่ะ”เพิ่งใส่กลับเข้าไปในตะกร้าไม้ไผ่ จากนั้นนางก็เทออกมาอีกครั้งเฉินฝานทนดูไม่ไหวต่อไป จึงลุกขึ้นแล้วเดินไปอยู่ข้างฉินเย่ว์เจียวพร้อมกับจับมือนาง “ตรงนี้ ให้ข้าจัดเก็บเองเถอะ เจ้าไปเตรียมผ้าห่ม น้ำหนึ่งกา ผลไม้และของว่างให้ข้ารองท้องหน่อย”การสอบขุนนางขอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 270

    เหลือเวลาเข้าสนามสอบอีกเพียงเวลาธูปครึ่งก้านข้างนอกสนามสอบยืนเต็มไปด้วยปัญญาชนที่มาสอบนี่เป็นการสอบที่ส่งผลถึงชะตากรรมที่เหลือของชีวิต บางคนตื่นเต้น บางคนวิตกกังวล บางคนมั่นใจบางคนยังถือหนังสือและท่องจำ บางคนพนมมือและพึมพำในปาก ได้โปรดนักปราชญ์หลีช่วยคุ้มครองด้วย ดาวเหวินฉวี่ซิง[footnoteRef:1] บนฟ้าโปรดช่วยคุ้มครองด้วย [1: ดาวเหวินฉวี่ซิง คือ ชื่อของดวงดาวอันดับที่สี่ในกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ (กลุ่มดาวจระเข้) เชื่อว่าเป็นดวงดาวแห่งการศึกษา สติปัญญา] เมื่อเวลาเข้าสนามสอบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฉินฝานสังเกตเห็นร่างกายของฉินเย่ว์เจียวที่อยู่ข้างๆ สั่นรุนแรงตอนที่อยู่ข้างบนภูเขาหัวเสือ เมื่อเห็นเสือแต่ไม่เห็นนางตัวสั่น“ใจเย็นนะ ๆ!” เฉินฝานใช้มือบีบไหล่ของนาง“นายท่าน ข้าเพียงแค่ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ มันสั่นไปหมดเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวประสานมือเข้าด้วยกันแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ให้นิ่งแต่ยิ่งพยายามสงบสติอารมณ์เท่าไรก็ยิ่งสงบสติอารมณ์ยากขึ้นเท่านั้น“เจ้ากำลังตื่นเต้น อย่าตื่นเต้นเลยนะ คนที่เข้าไปในสนามสอบคือข้าไม่ใช่เจ้า”“ข้ารู้ แต่ข้าตื่นเต้นนี่”“ถ้าเจ้ายังตื่นเต้นเช่นนี้มัน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 271

    ในสนามสอบของทุกวันจะมีผู้คุมสอบคอยเรียกชื่อ อุปกรณ์การเข้าสอบของผู้สอบจะมีแค่ตะกร้าสานไม้ไผ่เพราะตะกร้าสานไม้ไผ่เป็นสิ่งของที่ฉ้อโกงได้ยากที่สุดแล้วในตะกร้าสานนั้นนอกจากอุปกรณ์เครื่องเขียนแล้ว ก็ยังมีประวัติส่วนตัว การลงนามในเอกสารราชการและการลงนามร่วมกันประวัติส่วนตัวจะประกอบไปด้วยชื่อ อายุ ภูมิลำเนา เป็นต้นการลงนามร่วมจะประกอบไปด้วยผู้เข้าสอบจำนวนห้าคน ใบรับประกันของผู้เขียนข้อสอบจำนวนห้าฉบับ และพวกสิบแปดมงกุฎจำนวนห้าคนมานั่งด้วยกัน เงื่อนไขนี้มีไว้เพื่อป้องกันการทุจริต หากเจ้ากล้าทุจริต สี่คนที่เหลือก็จบเห่ไปด้วยการลงนามในเอกสารราชการก็คือหนังสือรับรองของผู้ค้ำประกัน โดยปกติแล้วผู้ค้ำประกันจะมีสองคน นั้นก็คือผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านและอาจารย์ในสำนักศึกษาเนื่องจากนักเรียนทั้งอำเภอต่างพากันลงสอบในปีนี้ จำนวนคนจึงค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องจัดการล่วงหน้า โดยแบ่งเป็นแถว แถวละสิบคน ในลานกว้างจะมีโคมไฟกระดาษแขวนอยู่ ง่ายต้องการมองเห็น พวกเขาจะทยอยกันเขียนชื่อและลงสนามปากทางเข้า จะมีขุนนางคอยตรวจสอบตะกร้าสานของผู้เข้าสอบ รวมถึงสิ่งของที่จะนำเข้าไปการตรวจสอบค่อนข้างเข้มงวด เสื้อผ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 272

    การสอบระดับอำเภอจะใช้เวลาในการสอบหกชั่วโมง ในระหว่างนี้ไม่อนุญาตให้ออกจากห้องสอบ หากอยากเข้าห้องน้ำ ก็แค่ยกมือส่งสัญญาณ จะมีขุนนางที่คุมสอบเดินไปด้วยไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เฉินฝานก็เขียนเสร็จไปเกินครึ่งแล้วหากไม่ใช่เพราะต้องใช้พู่กันที่ไม่ถนัดมือ เขาคงเขียนคำตอบเสร็จตั้งแต่ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยามการสอบครั้งนี้ไม่มีความท้ายเลยสักนิด ระหว่างที่เฉินฝานกำลังเขียนคำตอบนั้น เปลือกตาของเขาเริ่มหนักคล้ายกับทองคำหนึ่งพันเหรียญ อยากจะฝืนแต่ก็ฝืนไม่ไหวเริ่มสอบวันนี้ แต่ฉินเย่ว์เจียวตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืน นางนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนพื้นข้างเตียง เสียงดังจนเขานอนไม่หลับช่างเถอะเฉินฝานวางพู่กันลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวฝืนไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน นอนสักตื่นละกันเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่ายังเหลือเวลาอีกสองชั่วยามถึงจะหมดเวลาสอบเฉินฝานมองไปรอบ ๆ ตัว เหล่านักศึกษาข้างกายเขาต่างก็เริ่มพากันขมวดคิ้วและเกาหัวเมื่อนักศึกษาที่ขมวดคิ้วและเกาหัวเหล่านั้นเห็นเฉินฝานมองมาที่พวกเขาก็พากันแสดงสีหน้าโล่งใจคำถามนั้นยากมาก ทั้งยังยากกว่าคำถามของพวกเขาด้วยซ้ำ หลังจากสอบไปได้ไม่นาน เขา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 273

    เฉินฝานที่กำลังหลงไหลอยู่กับแผ่นหลังที่งดงามของฉินเย่ว์เจียว จึงไม่ได้ป้องกันตัวทันใดนั้นเสียง ‘ตุ๊บ’ ก็ดังขึ้น ใบหน้าของเฉินฝานเต็มไปด้วยเศษหญ้าสิ่งที่ฟาดหน้าของเฉินฝานเมื่อครู่คือเศษหญ้าถุงใหญ่“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวรีบเข้ามาปัดเศษหญ้าบนหน้าของเฉินฝานทันที นางปัดออกอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะหันกลับไปถลึงตาใส่คนที่ใช้ถุงเศษหญ้าฟาดหน้าเฉินฝาน “พวกเจ้าทำอะไร? นายท่านของข้าเดินมาอยู่ดี ๆ เขาไปรุกรานพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”“ไร้การศึกษาสิ้นดี! เป็นสาวเป็นนางต่อหน้าบุรุษเจ้าพูดแทรกเช่นนี้ได้อย่างไร?”คนที่สั่งสอนฉินเย่ว์เจียวคือสวีจื่อหมิง และคนที่ใช้ถุงเศษหญ้าโยนใส่เฉินฝานเมื่อครู่ก็คือสวีจื่อหมิงนักศึกษาในสำนักศึกษาของหมู่บ้านซานเหอที่เขาพาเข้ามาได้ยืนล้อมรอบเฉินฝานอยู่ในห้องโถงกลางของเรือนแขก“พวกเจ้าใช่สิ่งนี้โยนใส่หน้าของนายท่านก่อน”“นังผู้หญิงไร้การศึกษา หากเจ้ายังปากมากอีก ก็อย่ามาหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”“ข้ากลัวพวกเจ้าตายล่ะ!”ใบหน้าเรียวเล็กละคนคมเข้มของฉินเย่ว์เจียวแดงระเรื่อด้วยความโกรธ จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบคันธนู“เย่ว์เจียว ถอยไป!”เฉินฝานดุฉินเย่ว์เจียว กฎระเบียบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 274

    “เย่ว์เจียว เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ”เมื่อเห็นว่าฉินเย่ว์เจียวกำลังขุ่นมัว เฉินฝานจึงคว้ามือของนางขึ้นไปชั้นบน“นี่ เสี่ยวฝาน สมุนไพร ๆ!”เฉินเจียงถือสมุนไพรห่อนั้นเดินตามขึ้นไป ฉินเย่ว์เจียวรับไป ก่อนจะโยนใส่ตัวของเฉินเจียง“อยากดื่มก็ดื่มเองสิ”เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้นทันทีที่ฉินเย่ว์เจียวปิดประตูเฉินเจียงที่ไล่ตามขึ้นมาไม่ทันระวัง สันจมูกของเขาเกือบกระแทกกับประตู“เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน นังเด็กไร้การศึกษา!”เฉินเจียงที่โดนปิดประตูใส่หน้า ก็ได้แต่ยืนด่าด้วยความโกรธฉุนเฉียวและอับอายเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียวไม่สนใจเขา หลังจากด่าเสร็จแล้วเขาก็เดินจากไปอย่างเบื่อหน่ายการสอบวันที่สาม เฉินฝานก็ยังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะเช่นเดิมช่วยไม่ได้ เวลาในการสอบช่างนานและน่าเบื่อ จะไม่ให้ง่วงก็คงไม่ได้สวีจื่อหมิงโกรธมาก เขาตะโกนไล่ด่าเฉินฝานที่กำลังเดินไปยังสำนักศึกษา “พี่หมิง!” มีคนคว้าตัวเขาไว้ “ถึงอย่างไรก็เป็นวันสุดท้ายแล้ว จะไปจู้จี้กับเด็กโง่นั้นอีกทำไม หลังจากประกาศรายชื่อผู้ที่สอบผ่าน เฉินฝานก็ต้องถูกคัดออกเดินคอตกกลับบ้านอยู่แล้ว ปีนี่เขาหลับในสนามสอบ ไม่มีทางได้ลงสอบระดับอำเภอในปีหน้าอย่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 275

    “คงจะชื่อเหมือนกัน ไม่มีทางเป็นเฉินฝานจากหมู่บ้านซานเหอคนนั้นอย่างแน่นอน”“ไม่!” ผู้จัดอันดับยกนิ้วขึ้นสูง และขยับไปมาอยู่ตรงหน้าของผู้พูด “เจ้ากล่าวผิดแล้ว เฉินฝานที่อยู่ในแผ่นประกาศนั้นก็คือเฉินฝานจากหมู่บ้านซานเหอนั่นแหละ”“นี่ เถ้าแก่ซาง!” จู่ ๆ ก็มีคนตะโกนเสียงดังท่ามกลางฝูงชน “หรือว่าปีนี้เถ้าแก่จะเมตตากรุณา อยากให้แข่งขันกันน้อยลง”นางมือยังคงแกว่งนิ้วของเขาต่อไป “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ เดิมพันปีนี้คืออันดับหนึ่งของระดับซานหยวนและรายชื่ออันดับสุดท้าย”“จะลงเดิมพันอันดับสุดท้ายอย่างนั้นหรือ?”“ใช่ ! ยังคงเป็นห้าเหรียญต่อหนึ่งเดิมพัน รีบวางเร็วสิ ซื้อเยอะยิ่งได้เยอะ”“เช่นนี้!” แววตาของสวีจื่อหมิงเปล่งประกายทันใด “เถ้าแก่ซาง ข้าขอวางเดิมพันอีกสี่ร้อยเหรียญ ทุ่มให้เชิญฝานหมดตัว”“ข้าขอเดิมพันสิบเหรียญ”“ข้าขอเดิมพันห้าสิบเหรียญ!”ทุกคนต่างลงเดิมพันว่าเฉินฝานจะได้อันดับสุดท้าย เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ความนิยมของเฉินฝานนั้นเป็นที่ต้องการกว่าเฉินเจียงหลายเท่าเมื่อเห็นสถานการณ์นี้ เฉินฝานก็อดยิ้มไม่ได้ผู้จัดอันดับปีนี้คงจะหาเงินได้เยอะกว่าที่คาดการณ์ไว้เฉินเจียงมองไปทางเฉิน

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status