Share

บทที่ 269

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีขาว ทั้งอำเภอผิงอันก็คึกคักขึ้นมา

วันนี้เป็นวันเริ่มต้นของการสอบฤดูใบไม้ผลิประจำปี

ยังมีเวลาอีกพักหนึ่งก่อนที่การสอบจะเริ่มขึ้น เรือนแขกสำราญสุขตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่สอบ จึงไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง

เขานั่งจิบชาพักผ่อนอยู่บนม้านั่งริมหน้าต่าง จิบชาได้เพียงครึ่งแก้ว เขาสุดจะทนจึงวางถ้วยชาแล้วเอ่ยถาม

“พู่กันก็มีอยู่สามแท่ง แท่นหมึกหนึ่งอันกับหมึกอีกหนึ่งกล่อง ทำไมเจ้านับมันซ้ำแล้วซ้ำอีก นับซ้ำหลายครั้งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นงั้นรึ?”

ถ้าเขาจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งที่หกที่ฉินเย่ว์เจียวนับของในตะกร้าไม้ไผ่

ระหว่างที่เฉินฝานเอ่ยถาม ฉินเย่ว์เจียวเทของในตะกร้าไม้ไผ่ออกมาแล้วนับอีกครั้งพร้อมกับพึมพำกับตนเอง “ตอนออกเดินทาง พี่สี่บอกว่าข้าเป็นคนความจำไม่ดีและทำชอบของหาย เพราะฉะนั้นให้นับยืนยันหลาย ๆ ครั้ง จะได้ไม่ลืมของเจ้าค่ะ”

เพิ่งใส่กลับเข้าไปในตะกร้าไม้ไผ่ จากนั้นนางก็เทออกมาอีกครั้ง

เฉินฝานทนดูไม่ไหวต่อไป จึงลุกขึ้นแล้วเดินไปอยู่ข้างฉินเย่ว์เจียวพร้อมกับจับมือนาง “ตรงนี้ ให้ข้าจัดเก็บเองเถอะ เจ้าไปเตรียมผ้าห่ม น้ำหนึ่งกา ผลไม้และของว่างให้ข้ารองท้องหน่อย”

การสอบขุนนางขอ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
นายประสิทธิ์ สอนสุข
น่าเบื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 270

    เหลือเวลาเข้าสนามสอบอีกเพียงเวลาธูปครึ่งก้านข้างนอกสนามสอบยืนเต็มไปด้วยปัญญาชนที่มาสอบนี่เป็นการสอบที่ส่งผลถึงชะตากรรมที่เหลือของชีวิต บางคนตื่นเต้น บางคนวิตกกังวล บางคนมั่นใจบางคนยังถือหนังสือและท่องจำ บางคนพนมมือและพึมพำในปาก ได้โปรดนักปราชญ์หลีช่วยคุ้มครองด้วย ดาวเหวินฉวี่ซิง[footnoteRef:1] บนฟ้าโปรดช่วยคุ้มครองด้วย [1: ดาวเหวินฉวี่ซิง คือ ชื่อของดวงดาวอันดับที่สี่ในกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ (กลุ่มดาวจระเข้) เชื่อว่าเป็นดวงดาวแห่งการศึกษา สติปัญญา] เมื่อเวลาเข้าสนามสอบใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฉินฝานสังเกตเห็นร่างกายของฉินเย่ว์เจียวที่อยู่ข้างๆ สั่นรุนแรงตอนที่อยู่ข้างบนภูเขาหัวเสือ เมื่อเห็นเสือแต่ไม่เห็นนางตัวสั่น“ใจเย็นนะ ๆ!” เฉินฝานใช้มือบีบไหล่ของนาง“นายท่าน ข้าเพียงแค่ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ มันสั่นไปหมดเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวประสานมือเข้าด้วยกันแน่น พยายามสงบสติอารมณ์ให้นิ่งแต่ยิ่งพยายามสงบสติอารมณ์เท่าไรก็ยิ่งสงบสติอารมณ์ยากขึ้นเท่านั้น“เจ้ากำลังตื่นเต้น อย่าตื่นเต้นเลยนะ คนที่เข้าไปในสนามสอบคือข้าไม่ใช่เจ้า”“ข้ารู้ แต่ข้าตื่นเต้นนี่”“ถ้าเจ้ายังตื่นเต้นเช่นนี้มัน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 271

    ในสนามสอบของทุกวันจะมีผู้คุมสอบคอยเรียกชื่อ อุปกรณ์การเข้าสอบของผู้สอบจะมีแค่ตะกร้าสานไม้ไผ่เพราะตะกร้าสานไม้ไผ่เป็นสิ่งของที่ฉ้อโกงได้ยากที่สุดแล้วในตะกร้าสานนั้นนอกจากอุปกรณ์เครื่องเขียนแล้ว ก็ยังมีประวัติส่วนตัว การลงนามในเอกสารราชการและการลงนามร่วมกันประวัติส่วนตัวจะประกอบไปด้วยชื่อ อายุ ภูมิลำเนา เป็นต้นการลงนามร่วมจะประกอบไปด้วยผู้เข้าสอบจำนวนห้าคน ใบรับประกันของผู้เขียนข้อสอบจำนวนห้าฉบับ และพวกสิบแปดมงกุฎจำนวนห้าคนมานั่งด้วยกัน เงื่อนไขนี้มีไว้เพื่อป้องกันการทุจริต หากเจ้ากล้าทุจริต สี่คนที่เหลือก็จบเห่ไปด้วยการลงนามในเอกสารราชการก็คือหนังสือรับรองของผู้ค้ำประกัน โดยปกติแล้วผู้ค้ำประกันจะมีสองคน นั้นก็คือผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านและอาจารย์ในสำนักศึกษาเนื่องจากนักเรียนทั้งอำเภอต่างพากันลงสอบในปีนี้ จำนวนคนจึงค่อนข้างเยอะ จำเป็นต้องจัดการล่วงหน้า โดยแบ่งเป็นแถว แถวละสิบคน ในลานกว้างจะมีโคมไฟกระดาษแขวนอยู่ ง่ายต้องการมองเห็น พวกเขาจะทยอยกันเขียนชื่อและลงสนามปากทางเข้า จะมีขุนนางคอยตรวจสอบตะกร้าสานของผู้เข้าสอบ รวมถึงสิ่งของที่จะนำเข้าไปการตรวจสอบค่อนข้างเข้มงวด เสื้อผ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 272

    การสอบระดับอำเภอจะใช้เวลาในการสอบหกชั่วโมง ในระหว่างนี้ไม่อนุญาตให้ออกจากห้องสอบ หากอยากเข้าห้องน้ำ ก็แค่ยกมือส่งสัญญาณ จะมีขุนนางที่คุมสอบเดินไปด้วยไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม เฉินฝานก็เขียนเสร็จไปเกินครึ่งแล้วหากไม่ใช่เพราะต้องใช้พู่กันที่ไม่ถนัดมือ เขาคงเขียนคำตอบเสร็จตั้งแต่ยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยามการสอบครั้งนี้ไม่มีความท้ายเลยสักนิด ระหว่างที่เฉินฝานกำลังเขียนคำตอบนั้น เปลือกตาของเขาเริ่มหนักคล้ายกับทองคำหนึ่งพันเหรียญ อยากจะฝืนแต่ก็ฝืนไม่ไหวเริ่มสอบวันนี้ แต่ฉินเย่ว์เจียวตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืน นางนอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนพื้นข้างเตียง เสียงดังจนเขานอนไม่หลับช่างเถอะเฉินฝานวางพู่กันลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวฝืนไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืน นอนสักตื่นละกันเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่ายังเหลือเวลาอีกสองชั่วยามถึงจะหมดเวลาสอบเฉินฝานมองไปรอบ ๆ ตัว เหล่านักศึกษาข้างกายเขาต่างก็เริ่มพากันขมวดคิ้วและเกาหัวเมื่อนักศึกษาที่ขมวดคิ้วและเกาหัวเหล่านั้นเห็นเฉินฝานมองมาที่พวกเขาก็พากันแสดงสีหน้าโล่งใจคำถามนั้นยากมาก ทั้งยังยากกว่าคำถามของพวกเขาด้วยซ้ำ หลังจากสอบไปได้ไม่นาน เขา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 273

    เฉินฝานที่กำลังหลงไหลอยู่กับแผ่นหลังที่งดงามของฉินเย่ว์เจียว จึงไม่ได้ป้องกันตัวทันใดนั้นเสียง ‘ตุ๊บ’ ก็ดังขึ้น ใบหน้าของเฉินฝานเต็มไปด้วยเศษหญ้าสิ่งที่ฟาดหน้าของเฉินฝานเมื่อครู่คือเศษหญ้าถุงใหญ่“นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวรีบเข้ามาปัดเศษหญ้าบนหน้าของเฉินฝานทันที นางปัดออกอย่างฉุนเฉียว ก่อนจะหันกลับไปถลึงตาใส่คนที่ใช้ถุงเศษหญ้าฟาดหน้าเฉินฝาน “พวกเจ้าทำอะไร? นายท่านของข้าเดินมาอยู่ดี ๆ เขาไปรุกรานพวกเจ้าอย่างนั้นหรือ?”“ไร้การศึกษาสิ้นดี! เป็นสาวเป็นนางต่อหน้าบุรุษเจ้าพูดแทรกเช่นนี้ได้อย่างไร?”คนที่สั่งสอนฉินเย่ว์เจียวคือสวีจื่อหมิง และคนที่ใช้ถุงเศษหญ้าโยนใส่เฉินฝานเมื่อครู่ก็คือสวีจื่อหมิงนักศึกษาในสำนักศึกษาของหมู่บ้านซานเหอที่เขาพาเข้ามาได้ยืนล้อมรอบเฉินฝานอยู่ในห้องโถงกลางของเรือนแขก“พวกเจ้าใช่สิ่งนี้โยนใส่หน้าของนายท่านก่อน”“นังผู้หญิงไร้การศึกษา หากเจ้ายังปากมากอีก ก็อย่ามาหาว่าพวกเราไม่เกรงใจ!”“ข้ากลัวพวกเจ้าตายล่ะ!”ใบหน้าเรียวเล็กละคนคมเข้มของฉินเย่ว์เจียวแดงระเรื่อด้วยความโกรธ จากนั้นก็เอื้อมมือไปหยิบคันธนู“เย่ว์เจียว ถอยไป!”เฉินฝานดุฉินเย่ว์เจียว กฎระเบียบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 274

    “เย่ว์เจียว เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ”เมื่อเห็นว่าฉินเย่ว์เจียวกำลังขุ่นมัว เฉินฝานจึงคว้ามือของนางขึ้นไปชั้นบน“นี่ เสี่ยวฝาน สมุนไพร ๆ!”เฉินเจียงถือสมุนไพรห่อนั้นเดินตามขึ้นไป ฉินเย่ว์เจียวรับไป ก่อนจะโยนใส่ตัวของเฉินเจียง“อยากดื่มก็ดื่มเองสิ”เสียง ‘ปัง’ ดังขึ้นทันทีที่ฉินเย่ว์เจียวปิดประตูเฉินเจียงที่ไล่ตามขึ้นมาไม่ทันระวัง สันจมูกของเขาเกือบกระแทกกับประตู“เด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอน นังเด็กไร้การศึกษา!”เฉินเจียงที่โดนปิดประตูใส่หน้า ก็ได้แต่ยืนด่าด้วยความโกรธฉุนเฉียวและอับอายเฉินฝานและฉินเย่ว์เจียวไม่สนใจเขา หลังจากด่าเสร็จแล้วเขาก็เดินจากไปอย่างเบื่อหน่ายการสอบวันที่สาม เฉินฝานก็ยังฟุบหลับอยู่บนโต๊ะเช่นเดิมช่วยไม่ได้ เวลาในการสอบช่างนานและน่าเบื่อ จะไม่ให้ง่วงก็คงไม่ได้สวีจื่อหมิงโกรธมาก เขาตะโกนไล่ด่าเฉินฝานที่กำลังเดินไปยังสำนักศึกษา “พี่หมิง!” มีคนคว้าตัวเขาไว้ “ถึงอย่างไรก็เป็นวันสุดท้ายแล้ว จะไปจู้จี้กับเด็กโง่นั้นอีกทำไม หลังจากประกาศรายชื่อผู้ที่สอบผ่าน เฉินฝานก็ต้องถูกคัดออกเดินคอตกกลับบ้านอยู่แล้ว ปีนี่เขาหลับในสนามสอบ ไม่มีทางได้ลงสอบระดับอำเภอในปีหน้าอย่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 275

    “คงจะชื่อเหมือนกัน ไม่มีทางเป็นเฉินฝานจากหมู่บ้านซานเหอคนนั้นอย่างแน่นอน”“ไม่!” ผู้จัดอันดับยกนิ้วขึ้นสูง และขยับไปมาอยู่ตรงหน้าของผู้พูด “เจ้ากล่าวผิดแล้ว เฉินฝานที่อยู่ในแผ่นประกาศนั้นก็คือเฉินฝานจากหมู่บ้านซานเหอนั่นแหละ”“นี่ เถ้าแก่ซาง!” จู่ ๆ ก็มีคนตะโกนเสียงดังท่ามกลางฝูงชน “หรือว่าปีนี้เถ้าแก่จะเมตตากรุณา อยากให้แข่งขันกันน้อยลง”นางมือยังคงแกว่งนิ้วของเขาต่อไป “ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ เดิมพันปีนี้คืออันดับหนึ่งของระดับซานหยวนและรายชื่ออันดับสุดท้าย”“จะลงเดิมพันอันดับสุดท้ายอย่างนั้นหรือ?”“ใช่ ! ยังคงเป็นห้าเหรียญต่อหนึ่งเดิมพัน รีบวางเร็วสิ ซื้อเยอะยิ่งได้เยอะ”“เช่นนี้!” แววตาของสวีจื่อหมิงเปล่งประกายทันใด “เถ้าแก่ซาง ข้าขอวางเดิมพันอีกสี่ร้อยเหรียญ ทุ่มให้เชิญฝานหมดตัว”“ข้าขอเดิมพันสิบเหรียญ”“ข้าขอเดิมพันห้าสิบเหรียญ!”ทุกคนต่างลงเดิมพันว่าเฉินฝานจะได้อันดับสุดท้าย เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ความนิยมของเฉินฝานนั้นเป็นที่ต้องการกว่าเฉินเจียงหลายเท่าเมื่อเห็นสถานการณ์นี้ เฉินฝานก็อดยิ้มไม่ได้ผู้จัดอันดับปีนี้คงจะหาเงินได้เยอะกว่าที่คาดการณ์ไว้เฉินเจียงมองไปทางเฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 276

    “ภรรยาหลวงของหลี่เจิ้ง เป็นตำแหน่งที่มีหน้ามีตาขนาดนั้นเชียวนะ เป็นฝ่ายขอหย่าก่อน จุ๊ๆๆ คงเสียสติไปแล้วจริงๆ“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลี่เจิ้งหัวเราะถากถางดังลั่น “ได้! คำไหนคำนั้น! เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าอย่ามาร้องไห้ไปทั่วหาว่าข้าทรยศต่อเจ้า!”“แม่!”เถียนเสี่ยวอวี่พรวดพราดไปด้านหน้านางหลิว “ลูกขอร้องท่านล่ะ ท่านอย่าทำแบบนี้”เสื้อคลุมสีขาว ชุดกระโปรงผ้าไหมสีชมพู ร่างกายที่ผอมกะหร่อง ดวงตากลมโต สายตาแห่งความกลัดกลุ้มใจ ขนตาที่กะพริบปริบๆอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวของเดือนสอง เถียนเสี่ยวอวี่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมดูผอมและอ่อนแอเป็นพิเศษ ทำให้รู้สึกสงสารจับใจเสียจริง“เสี่ยวอวี่ เจ้าไม่ต้องโน้มน้าวแล้ว แม่ตัดสินใจดีแล้ว” ในสายตาที่อบอุ่นของนางหลิว แผ่รังสีสว่างโชติช่วงที่แน่วแน่หาสิ่งใดเปรียบมิได้“ป้าหลิว ท่านทำแบบนี้มันไม่เหมาะสมไปหน่อยจริงๆ ขอโทษหลี่เจิ้งดีๆเรื่องนี้ก็ผ่านไปได้แล้ว”เฉินฝานก็ปริปากพูดโน้มน้าวนางหลิวการสอบระดับอำเภอเขาสอบผ่านได้แน่นอน ทว่าเขาเองก็ไม่อยากให้นางหลิวเลิกกับหลี่เจิ้งเพราะตนเองในสมัยต่อให้หย่าร้าง ผู้หญิงหลังจากที่หย่าร้างก็ถูกคนนินทาลับหลัง ทั้งชีวิตก็ไม่ม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 277

    เสียงนี้เพิ่งเปล่งออกไป เสียงคนด้านล่างก็จอแจวุ่นวายทันทีผู้คนวิ่งบอกต่อกันไปมา ช่วงเวลาพริบตาเดียว ทั้งตัวอำเภอผิงอันราวกับน้ำหยดหนึ่งที่หล่นในหม้อน้ำมันเดือดปุดๆโกลาหลวุ่นวาย!“ติดประกาศแล้ว! นายท่าน เร็ว พวกเรารีบไป!”เฉินฝานที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ถูกฉินเย่ว์เจียวลากให้ยืนขึ้น เด็กสาวพละกำลังมหาศาล ทำให้หนังสือที่อยู่มือของเฉินฝานตกลงไปที่พื้น“อ่ะ ตำราของข้า!”“นายท่าน อย่าเพิ่งใส่ใจกับตำรา พวกเราไปดูประกาศก่อน”ฉินเย่ว์เจียวดึงเฉินฝานออกมาจากห้องส่วนตัว วิ่งตรงไปด้านล่างพวกปัญญาชนและนักเรียนของเรือนแขกทั้งหมดต่างคนก็พากันเคลื่อนกายาออกมาจากบ้านความตื่นเต้นกังวลของแต่ละคนพรั่งพรู คนที่รู้สึกว่าตัวเองสอบได้ดี สีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง รู้สึกว่าสอบออกมาไม่ดี ในใจก็รู้สึกกระวนกระวายไปต่างๆนานา ภาวนาขอไม่ให้ชื่อของตนเองอย่าอยู่ลำดับหลังๆเกินไปอย่างเงียบๆที่ติดประกาศก็อยู่ที่ทางเข้าของสนามสอบตอนที่พวกเฉินฝานมาถึง ที่ติดประกาศก็เป็นลักษณะที่ผู้คนเบียดเสียดมืดฟ้ามัวดินมีพวกปัญญาชนและนักเรียนที่เข้าร่วมการสอบระดับอำเภอ ทว่าที่เยอะกว่าเป็นพวกมวลชนที่เข้าร่วมการทายผ

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status