Share

บทที่ 253

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“อย่าพูดเช่นนี้ ไม่แน่เขาอาจจะสอบผ่านก็ได้?”

“เขาสอบผ่านเนี่ยนะ? เจ้าไม่รู้ใช่ไหมว่าเขาเป็นใคร?”

“เขาเป็นใคร?”

“เฉินฝาน!”

“เฉินฝานคนที่เรียนมานานครึ่งปี เพิ่งศึกษาคัมภีร์สามอักษรจบ ลายมือไม่ต่างจากเด็กน้อยคนนั้นหรือ?”

เรื่องที่เฉินฝานเพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบ ลายมืออัปลักษณ์ แพร่สะพัดไปทั่วนานแล้ว

อีกทั้งปากต่อปากหนึ่งไปสิบ สิบไปร้อย ทั้งที่เขาเข้าเรียนไม่ถึงสองเดือน ข่าวลือกลับบอกว่าเขาเรียนมาครึ่งปีแล้ว

“เขาคนนี้แหละ!”

“หึๆ ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ บ้าไปแล้ว”

“หากไม่บ้า แล้วจะมีหน้าไปร่ำเรียนในสถานศึกษาได้อย่างไร”

“คนไร้ยางอายอย่างเขา แม้จะสอบได้อันดับสุดท้าย ผิวหน้าก็ไม่สะเทือนกระมัง”

“เป็นไปได้ พ่อค้าไร้ยางอายที่สุด”

หลังจากทุกคนดูถูกเฉินฝานเสร็จ ก็ไม่มีใครมองเขาอีก ต่างหันไปประจบเฉินเจียง

แน่นอน คนเหล่านี้คิดไม่ถึงว่า

แม้เฉินฝานจะส่งกระดาษเปล่า ก็ไม่มีทางสอบได้อันดับสุดท้าย

ชายชราเชื่อมั่นในตัวเขาเช่นนั้น หากเฉินฝานส่งกระดาษเปล่า ไม่แน่อาจจะให้เขาอันดับหนึ่งก็ได้

“เสี่ยวฝาน?”

เสียงนุ่มนวลหนึ่งดังขึ้น

เสียงนี้ไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย

เฉินฝานมองไปตามเสียง

หญ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 254

    คนที่พูด คือหลี่เจิ้ง ขณะที่เขาตำหนินางหลิว เขาก็คว้ามือของเถียนเสี่ยวอวี่ ดึงตัวนางกลับเข้าไปในรถม้านี่เป็นการออกเรือนครั้งแรกของเถียนเสี่ยวอวี่ หลี่เจิ้งพานางออกมา เพื่อให้เฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่เจอหน้ากัน อยากตกลงเรื่องการแต่งงานระหว่างเฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่ล่วงหน้าเฉินเจียงเข้าร่วมการสอบฤดูวสันต์ในครั้งนี้ หากผ่านการสอบระดับอำเภอและการสอบระดับมณฑล เช่นนั้นต้องมีคนมากมายแย่งกันอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียงแน่นอนเมื่อถึงเวลา หากมีตระกูลที่กว่าตระกูลของหลี่เจิ้งอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียง เถียนเสี่ยวอวี่ก็ไม่มีโอกาสแล้วเถียนเสี่ยวอวี่อายุเยอะกว่าฉินเย่ว์เจียวหนึ่งปี ปีนี้อายุสิบเก้าในยุคสมัยนี้ อายุสิบเก้ายังไม่ออกเรือนถือว่าแก่แล้วตลอดหลายปีมานี้ หลี่เจิ้งอยากใช้เถียนเสี่ยวอวี่เป็นเครื่องมือในการเลื่อนยศของเขา อยากให้นางแต่งงานกับตระกูลใหญ่ๆ มาโดยตลอดแต่ตอนนี้บุรุษน้อยหญิงมาก หญิงสาวในตระกูลที่ดีกว่านี้ ก็มีมากมาย ดังนั้นตระกูลที่หลี่เจิ้งหมายตาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ชายตามองลูกสาวของเขา ในทางตรงกันข้ามตระกูลที่หมายตาลูกสาวของเขา เขาก็รังเกียจที่ตระกู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 255

    มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ ท่ามกลางคำสรรเสริญเกินจริงเป็นบ่อเกิดให้หลงทางการอ่านบทกลอนไม่อาจเติมเต็มความมั่นใจที่ทะลักออกมาของบรรดาปัญญาชนอีกต่อไปมีคนเสนอ พวกเขาแต่งกลอนในศาลานี้ อนาคตหากสอบผ่าน ศาลาแห่งนี้ต้องการเป็นสถานที่สักการะของปัญญาชนแน่นอนราชวงศ์ต้าชิ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือสถานที่ที่จอหงวน ปั๋งเหยี่ยนและถังฮวาเคยหยุดพัก ปีถัดไปผู้เข้าสอบมากมายจะไปกราบไหว้บูชาที่นั่นหวังจะได้รับความโชคดีของคนที่สอบผ่าน หวังว่าตนจะเป็นเหมือนพวกเขา ทำข้อสอบได้เป็นอย่างดีเพียงคิดว่าอนาคตตนอาจจะกลายเป็นคนที่ปัญญาชนให้ความนับถือ พวกปัญญชนเลือดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที แย่งกันสะบัดพู่กันเช่นเดียวกับตอนอ่านบทกลอน กลอนบทหนึ่งถูกแต่งขึ้นมา จะมีคนวิจารณ์ หลังจากนั้นก็ชื่นชมกันใหญ่โต คล้ายว่าทุกคนกลายเป็นจอหงวนกันหมดอย่างไรอย่างนั้นแท้จริงแล้วกลอนที่พวกเขาแต่ง ธรรมดายิ่งนัก บางบทกลอนถึงขั้นไม่คล้องจองเสียงหึ่งดังก้องในหูไม่หยุด ฟังแล้วช่างน่าเบื่อและไม่น่าสนใจ“เย่ว์เจียว พวกเราไปกันเถอะ” เฉินฝานลุกขึ้นกำลังจะเดินไป“พี่ชาย จะไปแล้วหรือ?”เฉินฝานกำลังจะก้าวเดิน ก็มีคนร้องเรียกเขา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 256

    เฉินฝานเพียงกวาดตามองปัญญาชนที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยแววตาเย็นชาพวกเขาเป็นใคร ทำไมตนต้องแต่งกลอนให้พวกเขาฟัง“ทุกท่านอย่าทำให้หลานชายของข้าลำบากใจเลย เพิ่งท่องคัมภีร์สามอักษรได้ไม่นาน แล้วจะแต่งกลอนกวีได้อย่างไร”เฉินเจียงก้าวออกมาแสดงเป็นคนดี ทั้งยังฉวยโอกาสนี้แสดงด้านที่มีคุณธรรมและจริยธรรมของตน“เฮ้อ คนเป็นอาอย่างท่าน ว่าหลานชายตนเองแบบนี้ได้อย่างไร?”เมื่อพวกเขาได้ยินเฉินเจียงบอกว่า เฉินฝานเพิ่งท่องคัมภีร์สามอักษรจบไม่นานและแต่งกลอนไม่เป็น พวกเขาก็ยิ่งมีความสุข“พี่ชาย เมื่อปีก่อนเฉินเซวี่ยจื่อจากอำเภอตูอัน คาดว่าท่านน่าจะเคยได้ยิน เขาเพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบไม่นานก็เข้าร่วมการสอบ แต่เมื่อปีกลายเขาสอบผ่านถงเซิง ทั้งยังสกุลเฉินเหมือนท่านอีกด้วย”“เขาทำได้ท่านก็ทำได้ แต่งสักบทเร็วเข้า พวกข้ารอคำชี้แนะจากท่านอยู่"ถ้อยคำนี้พูดให้ถูกต้องก็คือ เขียนเร็ว พวกข้าแทบจะทนรอหัวเราะเยาะไม่ไหวมองคนตรงหน้าที่รอหัวเราะเยาะตน เฉินฝานไม่โมโหแต่กลับหัวเราะคิดอยากจะเล่นใช่ไหม เช่นนั้นเขาจะเล่นด้วยเองเฉินฝานให้ความร่วมมือกับพวกเขา เกาศีรษะด้วยความประหม่าแล้วพูด “ข้าแต่งกลอนไม่เป็นจริงๆ”“

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 257

    ทว่านั่งรถม้าเข้าเมืองอย่างเฉินฝาน กลับต้องจ่ายสามเหวินจ่ายเงินหมายถึงเข้าไปทำธุระในอำเภอ ปล่อยให้นำสินค้าเข้าไปได้ ก่อนหน้านี้เข้าไปขายปลาและส่งปลาเป็นประจำ ขั้นตอนนี้ฉินเย่ว์เจียวชำนาญเป็นอย่างดีวันนี้ฉินเย่ว์เจียวแจ้งว่าเฉินฝานเข้าไปในอำเภอเพื่อทำการสอบ ทหารประจำประตูอำเภอคืนเงินสามเหวินให้นาง ท่าทีที่ปฏิบัติต่อนางก็ดีกว่าเมื่อก่อนมากเมื่อฉินเย่ว์เจียวถามจึงเพิ่งรู้ว่า ปัญญาชนที่มาทำการสอบ ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าอำเภอด้านหลังเฉินฝานก็มีปัญญาชนอีกหลายคนที่เดินทางมาสอบเช่นเดียวกัน ตอนพวกเขาผ่านประตูอำเภอ ทหารประจำประตูอำเภอก็ไม่เก็บค่าผ่านประตูเช่นเดียวกัน ทั้งยังเคารพพวกพวกเขามากหลังจากรอให้พวกปัญญาชนที่เดินทางมาสอบเข้าไปแล้ว พวกทหารประจำประตูอำเภอก็กลับมาหยิ่งเหมือนเดิม ตะคอกคนเดินทางเข้าอำเภอยามเจอคนชักช้า พวกเขาถึงขั้นลงไม้ลงมือเมื่อก่อนตอนส่งปลา ไม่ได้รู้สึกอะไร ครั้งนี้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เฉินฝานเข้าใจถ้อยคำนี้ในหนังสือประวัติศาสตร์อย่างชัดเจน ‘การศึกษา มีค่าเหนือสรรพสิ่ง’ไม่แปลกที่ปัญญาชนเหล่านั้น เชิดหน้า วางตัวอยู่เหนือผู้อื่นทุกวันเมื่อเข้าไปในอำเภอ หลี่ซ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 258

    “กระถางธูปนี้จุดเครื่องหอมใดเจ้าคะ? หอมเหลือเกิน”“มองลงไปจากตรงนี้ เห็นน้ำตกจำลองด้วยเจ้าค่ะ งดงามยิ่งนัก”“หากอนาคตพวกเราได้อยู่บ้านแบบนี้ทุกวันก็คงจะดี”เฉินฝานมองฉินเย่ว์เจียวที่กระโดดโลดเต้นไปทั่วห้องด้วยความดีใจ อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “สักวันหนึ่งเราจะได้อยู่บ้านแบบนี้”นี่ไม่ใช่ความฝัน แต่เป็นเรื่องจริงความจริง หากไม่ใช่เพราะถูกบังคับให้เข้าร่วมการสอบขุนนางในครั้งนี้ เขาขยายธุรกิจของตนแล้วฉินเย่ว์เจียวที่เกาะหน้าต่างอยู่นั้น หันกลับมายิ้มให้เฉินฝาน“เจ้าค่ะ ข้าเชื่อนายท่าน”แสงแดดยามอัสดง ตกกระทบร่างบาง สะท้อนแสงสีทองอ่อนโยนงดงาม ทั้งยังมีเสน่ห์เย้ายวนความงดงามของฉินเย่ว์เจียว แตกต่างกับฉินเย่ว์โหรวอย่างสิ้นเชิงฉินเย่ว์โหรวให้ความรู้สึกอ่อนโยนฉินเย่ว์เจียวทำให้หัวใจเต้นแรง“นายท่านเจ้าคะ?”ใบหน้างดงามของฉินเย่ว์เจียว ขยายใหญ่ตรงหน้าเฉินฝานกะทันหันเฉินฝานตกใจ “เย่ว์เจียว เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”เมื่อครู่นางยิ้มให้เขาจากริมหน้าต่าง เหตุใดเพียงชั่วพริบตาก็มาอยู่ตรงหน้าเขา“ข้าเห็นท่านยืนเหม่อ ข้าคุยกับท่าน ท่านก็ไม่ได้ยิน จึงเดินมาหาเจ้าค่ะ”“…”“นายท่าน เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 259

    เฉินฝานกอดตัวเอง ร่างกายสั่นเทา “หนาวยิ่งนัก จู่ๆ ข้าก็รู้สึกหนาวยิ่งนัก”“เจ้าคะ? ยังหนาวอีกหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวโน้มตัวลงมองเฉินฝานด้วยความกังวล“อื้” เฉินฝานพยักหน้าด้วยความน่าสงสารแม่เจ้าโว้ย ช่างน่าอายยิ่งนัก เขาแกล้งทำตัวน่าสงสารเนี่ยนะแต่ว่า หากไม่แกล้งทำตัวน่าสงสารก็ไม่อาจกลืนกินเด็กโง่ตรงหน้าได้ “ข้าห่มให้ท่านอีกหนึ่งชั้น” ฉินเย่ว์เจียวรีบห่มผ้าให้เฉินฝานอีกหนึ่งผืน“ผ้าห่มไม่มีประโยชน์” เฉินฝานที่อยู่บนเตียงยังคงน่าสงสารผ้าห่มไม่มีประโยชน์จริงๆหนักมากทั้งยังร้อนมาก!“เช่นนั้นทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” ฉินเย่ว์เจียวกระวนกระวาย “หรือว่า ข้าตามหมอดีไหมเจ้าคะ”“ไม่ต้อง!” เฉินฝานเอามือออกมาจากผ้าห่มอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าตัวฉินเย่ว์เจียวที่กำลังจะเดินออกไปตามคน“เจ้าขึ้นมานี่ มาอุ่นให้ข้าก็พอแล้ว”“เช่นนี้ก็ได้แล้วจริงๆ หรือเจ้าคะ?”“ได้แล้วจริงๆ!”แกะน้อยกำลังจะเข้าปากสุนัขจิ้งจอก เฉินฝานไม่อาจจะแสดงละครอีกต่อไปแล้ว “ผ้าห่มที่เจ้าอุ่นให้ตอนอยู่ที่เรือน อุ่นและสบายที่สุดแล้ว”“…เจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวเลิกผ้าห่มเตรียมขึ้นเตียง“ก๊อกๆ!” จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงเคาะประตูดั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 260

    หลังพูดคำว่าดีเจ้าค่ะจบ ฉินเย่ว์เจียวอุ้มผ้าห่มสองผืนลงจากเตียง ความเร็วของนางเร็วจนเฉินฝานตั้งตัวไม่ทันฉินเย่ว์เจียวปูผ้าห่มไว้บนพื้นติดกับเตียงเฉินฝาน “เจ้า...”ฉินเย่ว์เจียว “นายท่าน ท่านนอนบนเตียง ข้านอนบนพื้นเจ้าค่ะ”“หื้ม? เหตุใดต้องนอนบนพื้น ไม่ใช่ว่าไม่มีเตียงเสียหน่อย?”เฉินฝานเลิกคิ้วขึ้น หรือว่าก่อนหน้านี้นางแกล้งไร้เดียงสา นางรู้แต่แรกแล้วว่าเขาคิดอยากจะทำสิ่งใด?“อ่อ!” ฉินเย่ว์เจียวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ปูเตียงบนพื้นต่อ “ก่อนออกเดินทาง ท่านย่าให้คนส่งข่าวมาบอก ระยะนี้ห้ามไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับนายท่านยามค่ำคืนเจ้าค่ะ”“เพราะเหตุใด? ตอนอยู่ที่เรือนพวกเราก็นอนตั่งเดียวกันไม่ใช่หรือ?”“ท่านย่าบอกว่า ไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ ตั่งมีขนาดใหญ่กว่า เตียงค่อนข้างเล็ก ใกล้ชิดกับนายท่านเกินไป ท่านย่ายังบอกอีกว่า ก่อนสอบขุนนางห้ามไม่ให้นายท่านสูญเสียพลังงาน ดังนั้นจึงกำชับข้า ไม่ให้ข้านอนเตียงเดียวกับท่านเจ้าค่ะ”ว่าแต่!” จู่ๆ ฉินเย่ว์เจียวก็เอาคางเกยขอบเตียง ดวงตากลมโต มองเฉินฝานอย่างเป็นประกาย“นายท่านเจ้าคะ เหตุใดท่านย่าจึงพูดแบบนี้ ข้าไม่ใช่ปีศาจ แล้วจะทำให้ท่านสูญเสียพลังง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 261

    เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรตระกูลหลี่มีกิจการใหญ่โตในอำเภอผิงอัน หลายสิ่งหลายอย่างจึงไม่จำเป็นต้องให้หลี่ซานไปทำด้วยตัวเองช่วงคาบเกี่ยวที่ว่านั้น เป็นแค่เรื่องตลกของเฉินฝานการร่วมมือในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา เขาพบว่าแม้หลี่ซานเป็นนายน้อยของหอนางโลมอี๋ชุนย่วนที่รายล้อมไปด้วยสาวงามทุกวัน แต่เขาก็มีความคิดชัดเจน ทำสิ่งใดก็ล้วนอยู่ในความประพฤติ ไม่ใช่คนรวยไร้สมองที่เอาแต่ดื่มด่ำอยู่ในความอบอุ่นมีบางอย่างเกิดขึ้นกับหลี่ซานเป็นแน่และเป็นได้สูงมากว่าเป็นปัญหาเป็นเรื่องแบบไหน ที่ทำให้หัวหน้าตระกูลหลี่ถึงกับตกอยู่ในความลำบาก?เฮ้อ!เฉินฝานส่ายหัวและยิ้มกับตัวเองหลี่ซานเป็นถึงงูเจ้าถิ่นในอำเภอผิงอัน ส่วนเขาเป็นเพียงชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอ ทำไมเขาต้องกังวลแทนหลี่ซานด้วย?ตั้งแต่เมื่อวาน ห้องพักแขกก็อยู่ในสถานะแขกพักเต็ม ส่วนใหญ่ก็เป็นปัญญาชนที่เร่งจะไปสอบเฉินเจียงลุงขี้อวดของเฉินฝานก็พักอยู่ที่นี่เช่นกันแน่นอนว่าเขามีกำลังเข้าพักห้องธรรมดาชั้นสองเท่านั้นหลังจากที่ปัญญาชนเหล่านี้เข้าพัก ห้องโถงต้อนรับแขกก็คึกคักขึ้น ปัญญาชนที่กินอาหารเช้าเสร็จมารวมตัวกันแข่งประพันธ์บทกวีเมื่อเฉ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status