แชร์

บทที่ 248

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เจ้าเด็กคนนี้...

เฉินฝานถูกฉินเย่ว์โหรวทำให้ทั้งโมโหและซาบซึ้ง

“ลำดับของข้าจะต้องต่ำ? ดูถูกนายท่านของเจ้าแบบนี้หรือกระไร?”

“นายท่าน ท่านรู้ว่าข้าน้อยไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น ข้าน้อยแค่กังวลว่าในกรณีที่สอบออกมาไม่ดี เอ้ย ไม่ใช่ ความหมายของข้าน้อย ถ้าหากสอบไม่ได้อย่างที่หวังไว้ ถุย ถุย...”

ฉินเย่ว์โหรวที่ลุกลี้ลุกลน ยิ่งอธิบายยิ่งเละเทะ ร้อนใจจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาแล้ว

“ไม่เป็นไรนะ!” เฉินฝานยิ้มปลอบโยน “นายท่านของเจ้าไม่ได้แย่ขนาดนั้น สอบติดแน่นอนอันนี้ข้าไม่กล้าพูด ทว่าไม่ใช่ที่โหล่แน่นอน”

“นายท่าน น้องสี่ พวกท่านกำลังทำอะไรกัน?”

เสียงของฉินเย่ว์โหรว ดึงดูดสายตาของฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์ฉู่ให้จับจ้องไปที่จุดเดียว

สายตาอันแหลมคมของฉินเย่ว์ฉู่ ต่อให้ไฟสลัว นางมองปราดเดียวก็เห็นน้ำตาตรงหางตาของฉินเย่ว์โหรว “พี่สี่ร้องไห้ทำไมกัน เมื่อครู่เหมือนข้าได้ยินเรื่องอะไรสักอย่าง”

“ไม่ ไม่มีอะไร” ฉินเย่ว์โหรวรีบร้อนเช็ดน้ำตาตรงหางตา

“ไม่มีอะไรจริงๆ ก็แค่เย่ว์เจียวนับจำนวนเงินวันนี้ผิด นางกำลังร้อนใจอยู่”

เฉินฝานอธิบายมาแล้ว ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่ถึงจะวางใจ

น้องสี่ชอบจริงจังเกินเหตุ จำ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (4)
goodnovel comment avatar
สุระปัญญา พรชัย
ผมก็คิดว่างั้นก็พอจ่ายเงินแล้วเริ่มงอแงครับ
goodnovel comment avatar
Narisa
งื้ออ รออ่านต่อไป
goodnovel comment avatar
วิจารย์ แก้ววิเชียร
เริ่มน้อยลง เรื่อย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 249

    แม้กระทั่งตัวฉินเย่ว์โหรวเองก็ไม่แน่ใจว่าจะค้างอยู่ท่านี้ไปอีกนานแค่ไหน?ต่อให้คอจะเมื่อยจะชาแล้ว ก็อาลัยอาวรณ์ที่จะแยกจากตอนกลางวันให้ความกล้าหาญนางสิบอัน นางก็ไม่มีความกล้าที่จะมองเฉินฝานในระยะใกล้เช่นนี้ มีเพียงเวลาแบบนี้เท่านั้นที่นางถึงจะสามารถมองเขาตามอำเภอใจได้“เฮ้อ!”ในที่สุดฉินเย่ว์โหรวก็ทนไม่ไหวแล้ว นางถอนหายใจออกมาเบาๆ พูดกระซิบ “นายท่านรูปงามเสียจริง”“อืม เช่นนั้นเจ้ามองมานานขนาดนี้ ควรจะจ่ายเงินแล้วหรือไม่?”ตอนแรกฉินเย่ว์โหรวคิดว่าตัวเองหลอนไปเอง นางจ้องเฉินฝานที่ลืมตาแล้วทั้งสองข้าง ชื่นชมอย่างไม่หยุดหย่อน“ดูสิ ดวงตาคู่นี้ ลึกซึ้ง สุกสกาวอะไรเช่นนี้ ทำให้ใจของข้ามัน...”ขนตาที่ขยับเล็กน้อยทำให้ฉินเย่ว์โหรวสังเกตเห็นความผิดปกติไม่ใช่ว่านายท่านควรจะหลับไปแล้วหรอกหรือ? ขนตาของเขาขยับได้อย่างไรกัน?และยังมี ดวงตาเวลาที่นอนหลับทำไม...ร่างกายของฉินเย่ว์โหรวแข็งทื่อทันที! !“ใจของเจ้าเป็นอะไร?”เสียงทุ้มใสดังขึ้นที่ข้างหูของฉินเย่ว์โหรวเสียงที่มีความสงสัยเช่นนี้ ฉินเย่ว์โหรวคุ้นเคยเป็นอย่างมาก“นาย นายท่าน... อ๊าก!”ฉินเย่ว์โหรวที่แอบมองถูกจับได้ อายจนไม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 250

    ตอนที่กลับมา ในมือของนางมีกะละมังล้างหน้าเพิ่มมาหนึ่งใบ“นานๆทีนายท่านจะได้นอนหลับอย่างเต็มที่ น้องสี่เจ้านี่จริงๆเลย พอตื่นก็โวยวายรบกวนให้นายท่านตื่นไปด้วย”ฉินเย่ว์เจียวกำลังยกกะละมังล้างหน้า ตำหนิฉินเย่ว์โหรวไปพลางเดินไปทางเฉินฝาน“ไม่ใช่นะพี่สาม นายท่านจะเข้าเรียนสายแล้ว”“พี่สี่ ข้าว่าพี่นอนจนเบลอแล้ว”เสียงใสแจ๋วเจื้อยแจ้วดังตามมา ม่านประตูถูกเปิดขึ้น ใบหน้ารูปไข่น้อยๆของฉินเย่ว์ฉู่โผล่เข้ามาจากด้านหน้าบนใบหน้ารูปไข่น้อยๆก็ยังมีหยาดเหงื่อ คิดว่าคงจะเพิ่งจะกลับมาจากไปเล่นข้างนอกมาซักสักพัก“เมื่อวานพวกปัญญาชนทะเลาะกับเมียตัวเองไม่ใช่หรือ อาจารย์เฉียนโมโห วันนี้หยุดเรียน“โอ้”ฉินเย่ว์โหรวตบหน้าผาก ดูข้าสิ ลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกัน”“ข้าว่าพี่ก็ดูไม่กระปรี้กระเปร่า ราวกับว่าเมื่อคืนไม่ได้นอนไปทำอะไรไม่ดีอย่างนั้น”“ใช่ที่ไหนกัน!” ฉินเย่ว์โหรวจ้องเขม็งไปที่ฉินเย่ว์ฉู่ “เมื่อคืนวานข้านอนหลับสนิทจะตายไป!”เฉินฝานมองอย่างเย้ยหยันพลางกล่าว “ก็ใช่น่ะสิ เมื่อคืนวานเย่ว์โหรวหลับสนิทมาก น้ำลายแทบจะไหลมาที่บนหน้าข้าแล้ว”เฉินฝานไม่ได้พูดเกินจริง ฉินเย่ว์โหรวมองเขาจนน้ำลายแท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 251

    “หึ เจ้าคนขโมยลูกท้อของชาวบ้าน”ฉินเย่ว์ฉู่เบ้ปาก ถลึงตามองเฉินเจียงที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธรรม“อยากยิงธนูสักดอกเพื่อเป็นการสั่งสอนเขาจริงๆ” ฉินเย่ว์เจียวกัดฟันแน่นเฉินฝานมองสาวน้อยข้างกายทั้งสองคนที่กำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา “เพิ่งออกมาไม่นาน พวกเจ้าลืมสิ่งที่เย่ว์โหรวกำชับแล้วหรือ? ประเดี๋ยวกลับไปข้าจะบอกนาง...”“นายท่าน อย่าเจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์ฉู่รีบอ้อนวอน พวกนางต่างมีสิ่งที่ต้องการเย่ว์เจียวอยากได้ลูกศรคันใหม่ เย่ว์ฉู่คิดถึงเบี้ยเลี้ยงของนาง…วันเวลาหมุนผ่าน ไวดั่งยิงธนูราชวงศ์ต้าชิ่ง การสอบฤดูวสันต์ที่จัดขึ้นปีละครั้งกำลังจะเริ่มต้นแล้วการสอบฤดูวสันต์แบ่งเป็นการสอบระดับอำเภอ การสอบระดับมณฑลและการสอบราชสำนักการสอบระดับอำเภอ การสอบระดับมณฑล ล้วนจัดขึ้นในอำเภอ โดยมีนายอำเภอเป็นผู้คุมสอบ หลังจากผ่านการสอบระดับอำเภอจึงจะเข้าร่วมการสอบราชสำนักได้หลังจากผ่านการสอบมณฑล ก็จะเป็นถงเซิง มีเพียงถงเซิงเท่านั้นที่จะเข้าร่วมการสอบราชสำนักได้การสอบราชสำนักต้องสอบในสนามที่ใหญ่กว่าอำเภอ ซึ่งก็คือเมือง ผู้คุมสอบของการสอบราชสำนักคือท่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 252

    เฉินฝานตื่นนอนไม่นาน เฉินผิงและครอบครัวก็มาเยือน เฉียนลิ่ว จูจื้ออันและชาวบ้านที่ช่วยเฉินฝานจับปลาก็มาเช่นเดียวกันพวกเขามาส่งเฉินฝานลานบ้านเฉินฝาน ครึกครื้นเล็กน้อยแต่ว่า เรือนข้างๆ อย่างเฉินเจียง ครึกครื้นยิ่งกว่าชาวบ้านในหมู่บ้านซานเหอ และหมู่บ้านอื่น ผู้คนมากมายมาส่งเฉินเจียง ลานบ้านเฉินเจียงถึงขั้นไม่มีที่ยืน บางคนต้องยืนข้างนอกคนเหล่านี้อยากให้เฉินเจียงคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขา หวังว่าอนาคตเฉินเจียงจะจำพวกเขาได้ แม้ไม่อาจตักตวงผลประโยชน์ แต่อนาคตก็สามารถพูดคุยกันได้ครุ่นคิด หากวันข้างหน้าเฉินเจียงเป็นขุนนาง เช่นนั้นอนาคตยามพวกเขาพูดคุยกับคนอื่น ก็สามารถบอกได้ว่าตนรู้จักขุนนางใหญ่ เมื่อครั้นเขาเข้าร่วมการสอบฤดูวสันต์ ตนมีโอกาสได้ไปส่งเขานี่เป็นเรื่องที่มีเกียรติยิ่งนักแม้กระทั่งหลี่เจิ้งก็มา เฉินเจียงไม่มีรถม้า เขานำรถม้ามาสองคัน คันหนึ่งตนนั่ง อีกคันหนึ่งในเฉินเจียงนั่งเฉินเจียงถูกผู้คนล้อมรอบกระทั่งเดินถึงหน้าประตู“ขอบคุณทุกคน ขอบคุณทุกคน”ก่อนขึ้นรถม้า เฉินเจียงวางตัวมีมารยาท ถ่อมตัวอย่างมาก เขาประสานมือคารวะชาวบ้านที่มาส่งเขา“หากครั้งนี้ข้าสอบผ่าน กลับมาจะจัดง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 253

    “อย่าพูดเช่นนี้ ไม่แน่เขาอาจจะสอบผ่านก็ได้?”“เขาสอบผ่านเนี่ยนะ? เจ้าไม่รู้ใช่ไหมว่าเขาเป็นใคร?”“เขาเป็นใคร?”“เฉินฝาน!”“เฉินฝานคนที่เรียนมานานครึ่งปี เพิ่งศึกษาคัมภีร์สามอักษรจบ ลายมือไม่ต่างจากเด็กน้อยคนนั้นหรือ?”เรื่องที่เฉินฝานเพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบ ลายมืออัปลักษณ์ แพร่สะพัดไปทั่วนานแล้วอีกทั้งปากต่อปากหนึ่งไปสิบ สิบไปร้อย ทั้งที่เขาเข้าเรียนไม่ถึงสองเดือน ข่าวลือกลับบอกว่าเขาเรียนมาครึ่งปีแล้ว“เขาคนนี้แหละ!”“หึๆ ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ บ้าไปแล้ว”“หากไม่บ้า แล้วจะมีหน้าไปร่ำเรียนในสถานศึกษาได้อย่างไร”“คนไร้ยางอายอย่างเขา แม้จะสอบได้อันดับสุดท้าย ผิวหน้าก็ไม่สะเทือนกระมัง”“เป็นไปได้ พ่อค้าไร้ยางอายที่สุด”
หลังจากทุกคนดูถูกเฉินฝานเสร็จ ก็ไม่มีใครมองเขาอีก ต่างหันไปประจบเฉินเจียงแน่นอน คนเหล่านี้คิดไม่ถึงว่าแม้เฉินฝานจะส่งกระดาษเปล่า ก็ไม่มีทางสอบได้อันดับสุดท้ายชายชราเชื่อมั่นในตัวเขาเช่นนั้น หากเฉินฝานส่งกระดาษเปล่า ไม่แน่อาจจะให้เขาอันดับหนึ่งก็ได้“เสี่ยวฝาน?”เสียงนุ่มนวลหนึ่งดังขึ้นเสียงนี้ไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อยเฉินฝานมองไปตามเสียงหญ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 254

    คนที่พูด คือหลี่เจิ้ง ขณะที่เขาตำหนินางหลิว เขาก็คว้ามือของเถียนเสี่ยวอวี่ ดึงตัวนางกลับเข้าไปในรถม้านี่เป็นการออกเรือนครั้งแรกของเถียนเสี่ยวอวี่ หลี่เจิ้งพานางออกมา เพื่อให้เฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่เจอหน้ากัน อยากตกลงเรื่องการแต่งงานระหว่างเฉินเจียงกับเถียนเสี่ยวอวี่ล่วงหน้าเฉินเจียงเข้าร่วมการสอบฤดูวสันต์ในครั้งนี้ หากผ่านการสอบระดับอำเภอและการสอบระดับมณฑล เช่นนั้นต้องมีคนมากมายแย่งกันอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียงแน่นอนเมื่อถึงเวลา หากมีตระกูลที่กว่าตระกูลของหลี่เจิ้งอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับเฉินเจียง เถียนเสี่ยวอวี่ก็ไม่มีโอกาสแล้วเถียนเสี่ยวอวี่อายุเยอะกว่าฉินเย่ว์เจียวหนึ่งปี ปีนี้อายุสิบเก้าในยุคสมัยนี้ อายุสิบเก้ายังไม่ออกเรือนถือว่าแก่แล้วตลอดหลายปีมานี้ หลี่เจิ้งอยากใช้เถียนเสี่ยวอวี่เป็นเครื่องมือในการเลื่อนยศของเขา อยากให้นางแต่งงานกับตระกูลใหญ่ๆ มาโดยตลอดแต่ตอนนี้บุรุษน้อยหญิงมาก หญิงสาวในตระกูลที่ดีกว่านี้ ก็มีมากมาย ดังนั้นตระกูลที่หลี่เจิ้งหมายตาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ชายตามองลูกสาวของเขา ในทางตรงกันข้ามตระกูลที่หมายตาลูกสาวของเขา เขาก็รังเกียจที่ตระกู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 255

    มนุษย์ก็เป็นเช่นนี้ ท่ามกลางคำสรรเสริญเกินจริงเป็นบ่อเกิดให้หลงทางการอ่านบทกลอนไม่อาจเติมเต็มความมั่นใจที่ทะลักออกมาของบรรดาปัญญาชนอีกต่อไปมีคนเสนอ พวกเขาแต่งกลอนในศาลานี้ อนาคตหากสอบผ่าน ศาลาแห่งนี้ต้องการเป็นสถานที่สักการะของปัญญาชนแน่นอนราชวงศ์ต้าชิ่งมีธรรมเนียมปฏิบัติอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือสถานที่ที่จอหงวน ปั๋งเหยี่ยนและถังฮวาเคยหยุดพัก ปีถัดไปผู้เข้าสอบมากมายจะไปกราบไหว้บูชาที่นั่นหวังจะได้รับความโชคดีของคนที่สอบผ่าน หวังว่าตนจะเป็นเหมือนพวกเขา ทำข้อสอบได้เป็นอย่างดีเพียงคิดว่าอนาคตตนอาจจะกลายเป็นคนที่ปัญญาชนให้ความนับถือ พวกปัญญชนเลือดพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที แย่งกันสะบัดพู่กันเช่นเดียวกับตอนอ่านบทกลอน กลอนบทหนึ่งถูกแต่งขึ้นมา จะมีคนวิจารณ์ หลังจากนั้นก็ชื่นชมกันใหญ่โต คล้ายว่าทุกคนกลายเป็นจอหงวนกันหมดอย่างไรอย่างนั้นแท้จริงแล้วกลอนที่พวกเขาแต่ง ธรรมดายิ่งนัก บางบทกลอนถึงขั้นไม่คล้องจองเสียงหึ่งดังก้องในหูไม่หยุด ฟังแล้วช่างน่าเบื่อและไม่น่าสนใจ“เย่ว์เจียว พวกเราไปกันเถอะ” เฉินฝานลุกขึ้นกำลังจะเดินไป“พี่ชาย จะไปแล้วหรือ?”เฉินฝานกำลังจะก้าวเดิน ก็มีคนร้องเรียกเขา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 256

    เฉินฝานเพียงกวาดตามองปัญญาชนที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยแววตาเย็นชาพวกเขาเป็นใคร ทำไมตนต้องแต่งกลอนให้พวกเขาฟัง“ทุกท่านอย่าทำให้หลานชายของข้าลำบากใจเลย เพิ่งท่องคัมภีร์สามอักษรได้ไม่นาน แล้วจะแต่งกลอนกวีได้อย่างไร”เฉินเจียงก้าวออกมาแสดงเป็นคนดี ทั้งยังฉวยโอกาสนี้แสดงด้านที่มีคุณธรรมและจริยธรรมของตน“เฮ้อ คนเป็นอาอย่างท่าน ว่าหลานชายตนเองแบบนี้ได้อย่างไร?”เมื่อพวกเขาได้ยินเฉินเจียงบอกว่า เฉินฝานเพิ่งท่องคัมภีร์สามอักษรจบไม่นานและแต่งกลอนไม่เป็น พวกเขาก็ยิ่งมีความสุข“พี่ชาย เมื่อปีก่อนเฉินเซวี่ยจื่อจากอำเภอตูอัน คาดว่าท่านน่าจะเคยได้ยิน เขาเพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบไม่นานก็เข้าร่วมการสอบ แต่เมื่อปีกลายเขาสอบผ่านถงเซิง ทั้งยังสกุลเฉินเหมือนท่านอีกด้วย”“เขาทำได้ท่านก็ทำได้ แต่งสักบทเร็วเข้า พวกข้ารอคำชี้แนะจากท่านอยู่"ถ้อยคำนี้พูดให้ถูกต้องก็คือ เขียนเร็ว พวกข้าแทบจะทนรอหัวเราะเยาะไม่ไหวมองคนตรงหน้าที่รอหัวเราะเยาะตน เฉินฝานไม่โมโหแต่กลับหัวเราะคิดอยากจะเล่นใช่ไหม เช่นนั้นเขาจะเล่นด้วยเองเฉินฝานให้ความร่วมมือกับพวกเขา เกาศีรษะด้วยความประหม่าแล้วพูด “ข้าแต่งกลอนไม่เป็นจริงๆ”“

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status