Share

บทที่ 230

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เหล่าสาวใช้และแม่นมของตระกูลหวังต่างเห็นกับตา

ตอนที่เฉินฝานกับเฉินจินเซียงกลับมา คนในตระกูลหวังยืนอยู่ทุกคนและวางมาดอย่างโอหัง

แต่เวลาผ่านไปเพียงครึ่งวัน ตอนนี้คนในตระกูลหวังที่อยู่ข้างหน้าเฉินฝานกับเฉินจินเซียง นอนราบอยู่สองคนและยืนอยู่หนึ่งคน

หวังเจิ้งเต๋อที่ยืนอยู่ สภาพไม่ได้ดีเท่าไหร่

เมื่อนักการในศาลาว่าการปิดปากเขา เขาทำการขัดขืน ภายใต้คำสั่งของปลัด อำเภอนักการในศาลาว่าการจึงทุบตีไปหนึ่งยกอย่างรุนแรง ตอนนี้ใบหน้าและจมูกของเขาทั้งบวมทั้งช้ำ

หมดสภาพนายท่านแห่งตระกูลหวังดั่งเคยไปอย่างสิ้นเชิง

ปลัดอำเภอเดินไปอยู่ข้าง ๆ เฉินจินเซียง “ตั้งแต่นี้ไป เมื่อเห็นฮูหยินผู้นี้เสมือนได้เห็นข้า หากไม่เคารพนางก็เท่ากับไม่เคารพข้า!”

เดิมทีปลัดอำเภอต้องการยืนข้างเฉินฝานแล้วพูด

แต่เฉินฝานมอบป้ายแขวนเอวให้กับเฉินจินเซียง

“ท่านอา ท่านบ้าไปแล้วหรือ?”

ใบหน้าของหวังหยวนหลงเต็มไปด้วยความตกใจและไม่แปลกใจ

หากเป็นเช่นนั้น จากนี้ไปเฉินจินเซียงผู้นี้ก็จะอยู่บนหัวเขาน่ะสิ?

“เข้ามา หวังหยวนหลงดูหมิ่นข้า โบยยี่สิบที”

“ใต้เท้า!”

หวังเจิ้งเต๋อคุกเข่าลงกับพื้นดังฟุบ “ตอนนี้หยวนหลงบาดเจ็บเช่นนี้แล้ว โบย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 231

    เห็นเฉินฝานเดินออกไปข้างนอก ปลัดอำเภอรีบตามไป "เสี่ยวฝาน เมื่อครู่ได้ยินอาของเจ้าบอกว่า เจ้าเดินมา ข้ามีม้าตัวหนึ่ง เจ้าขี่กลับไปได้"ชายชราสองคนข้างนอกเห็นความสำคัญของเฉินฝานมากขนาดนั้น เขาต้องฉวยโอกาสนี้ตีสนิทเฉินฝานเขาเป็นปลัดอำเภอมานานเกือบยี่สิบปีแล้ว ยังอยู่ที่เดิม เพราะไม่มีเบื้องบนสนับสนุนไม่ใช่หรือ?บางทีเฉินฝานอาจจะเป็นโอกาสในการเลื่อนขั้นของเขาก็ได้"ขอบคุณใต้เท้าขอรับ แต่ว่าข้าขี่ม้าไม่เป็น"เฉินฝานทั้งปฏิเสธและพูดความจริงเขาที่ทะลุมิติมาจากยุคปัจจุบัน ขี่ม้าไม่เป็นจริงๆปลัดอำเภออยากใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อใกล้ชิดกับชายชราสองคนข้างนอก ข้อนี้เฉินฝานรู้ดีไม่ว่าชายชราสองคนข้างนอกจะเป็นใครมาจากไหน เขาไม่อยากรู้ครั้งนี้พวกเขาช่วยตน เช่นนั้นเขาก็จะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ หลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาประสบการณ์ในยุคปัจจุบันบอกกับเขาว่า คนคนหนึ่งอยากอยู่ในสังคมอย่างมั่นคงนั้น สุดท้ายต้องพึ่งตนเองอาศัยคนอื่นไม่ยืนยาว ทั้งยังถูกควบคุม"เช่นนั้นข้าให้คนส่งเจ้ากลับไป หมู่บ้านต้ากู่ไกลจากหมู่บ้านซานเหอ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว เจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 232

    เฉินจินเซียงยังอยากส่งเฉินฝานไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน แต่เฉินฝานปฏิเสธอากาศหนาวจัดและสุขภาพของนางเดิมทีก็ไม่แข็งแรง ก่อนหน้านี้ได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้ายจากตระกูลหวังและมีแผลเปื่อยมากมายที่มือและเท้า“ใช่!”เฉินฝานมองผ่านเฉินจินเซียง สายตาตกอยู่ที่หลิ่วหรูเยียนผู้อยู่ตรงมุมเหมือนนกกระทา“ท่านป้า อย่าใจอ่อนนะขอรับ กลับไปแล้วก็ขายนางทิ้งซะ”เฉินจินเซียงเป็นภรรยาใหญ่ และหลิ่วหรูเยียนเป็นภรรยาน้อยภรรยาคนโตมีสิทธิ์ที่จะขับไล่หรือขายภรรยาน้อยได้“เสี่ยวฝาน หลานวางใจเถิด ข้าจะทำเช่นนั้น” เฉินจินเซียงจ้องหลิ่วหรูเยียนและกล่าวอย่างเกลียดชังหลิ่วหรูเยียนรังแกนางก็มากพอแล้ว แต่กลับกล้ารังแกบุตรสาวของนางด้วย นางไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ แน่“ท่านป้าขอรับ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน เย่ว์โหรวและคนอื่น ๆ ยังรอข้าอยู่ที่เรือน”เฉินฝานเพิ่งกล่าวลากับเฉินจินเซียงเสร็จ รถม้าของชายชราก็ขวางตรงหน้าเขาชายชราเปิดม่านหน้าต่างรถม้า เขามองเฉินฝานพร้อมยิ้มกล่าว “เจ้าหนุ่ม ทำธุระเรียบร้อยแล้วรึ”“อืม”เฉินฝานไม่เกรงใจชายชรา เขาตอบอืมเสร็จก็กระโดดขึ้นรถม้าของชายชราทันที“นี่ ทำไมขึ้นรถม้าของข้าล่ะ ข้ายังไม่ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 233

    “เมื่อครู่นี้ข้าคงพูดไม่ชัดเจนพอ ที่ข้าพูดว่าข้าเก่ง ข้าหมายถึงในราชวงศ์ต้าชิ่งทั้งหมด รวมถึงท่านอ๋อง ผู้ที่มีอายุมากกว่าข้ามีไม่เกินสิบคน”ชายชราพยายามอธิบาย บนใบหน้ามีความวิตกกังวลเล็กน้อย“อ่อ!” สีหน้าของเฉินฝานเปลี่ยนไปและกลายเป็นจริงจัง “ในราชวงศ์ต้าชิ่งทั้งหมด รวมถึงท่านอ๋อง ผู้ที่มีอายุมากกว่าข้ามีไม่เกินสิบคน?”“ใช่ ไม่เกินสิบคน” เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินฝานเปลี่ยนไป ชายชราก็เย่อหยิ่งและเชิดหน้าเฉินฝานยื่นนิ้วโป้งให้ชายชรา “ถ้าเช่นนั้นท่านสุดยอดมาก”หัวข้อสนทนาพลันเปลี่ยนกะทันหัน “แต่มัน ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!”“......” ชายชราเข้ารับราชการเมื่ออายุยี่สิบปี อยู่ในตำแหน่งหลายสิบปีคนประเภทใด สถานการณ์เช่นไร ไม่มีสิ่งใด ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อนแต่ทว่า......คนอย่างเฉินฝานเช่นนี้ สถานการณ์แบบนี้เขาไม่เคยเห็นหรือมีประสบการณ์มาก่อนจริง ๆเขาเป็นตัวแทนของอำนาจ เป็นตัวแทนของความมั่งคั่งในโลกนี้ใครไม่รักอำนาจ ไม่รักเงินทอง?อำนาจ เงินทอง คงเป็นเรื่องโกหกหากบอกว่าเฉินฝานไม่รักเพียงแต่ว่าเขามีจิตวิญญาณของคนสมัยใหม่ ความคิดและแนวความคิดของเขาก็แตกต่างจากคนในราชวงศ์ต้าชิ่ง ท้ายท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 234

    “เจ้าหนุ่มนั่นล่ะเป็นคนเขียน”“ไม่ใช่ข้าจริง ๆ”“หยุดถ่อมตัวเถอะน่า!”“ข้าไม่ได้ถ่อมตัว”“เจ้าถ่อมตัว”“......” เฉินฝานเพิ่งตระหนักได้ว่า ข้อแก้ตัวของเขาไม่มีประโยชน์“เจ้าหนุ่ม เจ้าสมัครสอบฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแล้วหรือยัง?” ชายชราถามเฉินฝานส่ายหัว “ยัง ตอนนี้ข้าไม่อยากสอบเท่าไหร่”“ไม่สอบได้อย่างไรเล่า เจ้าต้องไปสอบ!”ชายชราพลันส่งเสียงดังจนเฉินฝานยังตกใจไม่ใช่แค่เสียงดัง แต่ยังใจร้อนด้วยท่าทางของชายชราทำให้เฉินฝานนึกถึงพ่อในยุคปัจจุบันของเขาตอนที่เรียนมัธยมต้น มีช่วงหนึ่งที่เขาหัวรั้นและไม่อยากไปโรงเรียน พ่อของเขาก็ตะโกนใส่เขาด้วยสีหน้าร้อนใจเช่นนี้: เธอไม่ไปโรงเรียนได้ยังไง? เธอต้องไปเมื่อมาใช้ชีวิตในอีกโลกหนึ่ง พลันมีคนคนหนึ่งเป็นห่วงตนเองเช่นนี้ เฉินฝานรู้สึกประทับใจเล็กน้อยแต่ทว่า ที่นี่ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน เขาไม่ใช่วัยรุ่นสิบกว่าปีเหมือนในตอนนั้นเส้นทางของอนาคตควรเดินอย่างไร เขาจะตัดสินใจเองหากให้เขาทำงานร่วมกับนักเรียนหน้าซื่อใจคดเหล่านั้น เขายอมอยู่ในหมู่บ้านซานเหอไปตลอดชีวิตและใช้ชีวิตอย่างอิสระ มีความสุขกับภรรยาและลูก ๆ บนเตียงเตาอุ่นยังดีกว่า“ไม่สอบหรอก ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 235

    “ความจริงแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าก็ได้ ถ้าเจ้าไม่ไปสอบเพราะข้า ราชสำนักของเราสูญเสียผู้มีความสามารถไปหนึ่งคน สิ่งนี้คงทำให้ข้ารู้สึกผิดต่อฝ่าบาทและแผ่นดิน”พอได้แล้ว ๆถึงกระทั่งเล่นละครน้ำเน่าท่านเล่นบทเจ้าน้ำตาได้ คิดว่าข้าทำไม่เป็นรึ“เฮ้อ ข้าน้อยซาบซึ้งในความเอ็นดูของท่านขอรับ สิ่งที่ข้าพูดเมื่อครู่นี้แท้จริงแล้วเพราะข้าเป็นคนใจเสคนใจเซาะ ท่านก่วาะ ท่านอาวุโสขอรับ ข้าพูดความจริงกับท่านแล้วกัน ข้าเป็นแค่คนขายปลา ตัวหนังสือก็เขียนไม่ดี แล้วข้าจะสอบติดขุนนางได้อย่างไร?”“เจ้าหนุ่มช่างพูดเกินไป เจ้าแต่งบทกวีได้ไพเราะถึงเพียงนี้ จะเขียนหนังสือไม่เก่งได้อย่างไร?”“บทกวีที่ข้าพูดไปเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้เป็นผู้ประพันธ์ ข้าพบในหนังสือเล่มหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ แต่ข้าเป็นคนความจำดี หลังจากอ่านแล้วข้าก็ท่องจำได้เลย”“ข้าไม่เชื่อ!”“ไม่เชื่อ เช่นนั้นข้าจะเขียนให้ท่านดู”“เอาไป!”ชายชรายื่นพู่กันให้เฉินฝานเฉินฝานไม่ได้ตั้งใจปิดบังเหมือนกัน เขาเขียนตามปกติครั้งนี้เขาเขียนบทกวีที่มีชื่อว่า 《เหม่อมองยามวสันต์ฤดู》 ของนักกวีตู้ฝู่เฉินฝานวางพู่กันแล้วกล่าว “นี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 236

    “รับทราบขอรับ”“จา!” คนใช้ฟาดแส้ รถม้าพลางวิ่งไปยังอำเภอผิงอันด้วยความรวดเร็วเมื่อผ่านสี่แยกที่เฉินฝานเดิน คนใช้ฉีกยิ้มจิ้งจอกน้อย อย่างไรเสียเจ้าก็สู้จิ้งจอกเฒ่าในรถม้าไม่ได้หรอกเพียงแต่ว่า เขาอยากเห็นผลลัพธ์เช่นนี้หลังจากนี้ เมื่อสุนัขจิ้งจอกตัวใหญ่และตัวเล็กต่อสู้กัน บรรยากาศคงน่าตื่นเต้นมาก……หลังจากกลับจากหมู่บ้านต้ากู่แล้ว ชีวิตของเฉินฝานก็ดำเนินต่อไปเหมือนเดิมเรียบง่ายแต่มีความสุขบางครั้งก็ได้ยินข้างเรือนดุด่าดุด่าเฉินจินเซียงดุด่าว่านางแต่งงานกับครอบครัวที่ดี แต่ลืมครอบครัวที่เลี้ยงดูนาง เป็นเด็กเนรคุณเพราะไม่ว่าเฉินฝูให้คนไปแจ้งเฉินจินเซียงกี่ครั้ง เฉินจินเซียงก็ไม่เคยกลับมาแม้ว่าเฉินฝูไปที่หมู่บ้านต้ากู่ด้วยตนเอง แต่เขาก็ไม่ได้รับสิ่งที่เฉินเจียงต้องการอาจเป็นเพราะสิ่งที่เฉินฝูพูดในหมู่บ้านต้ากู่แย่เกินไป เฉินจินเซียงจึงพูดโดยตรงว่า หลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ นางก็จะไม่กลับมาอวยพรปีใหม่วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าคนทั้งหมู่บ้านซานเหอ ยุ่งมากขึ้นกว่าเดิม ทุกคนต่างเร่งรีบครั้งสุดท้ายภายในเรือนของเฉินฝานก็ไม่ต่างออกไปในวันนี้ สามพี่น้องตระกูลฉินตื่นเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 237

    “ต่อให้กระดาษแก้วตัดของข้าน้อยสวยแค่ไหน ก็มิสู้กลอนคู่ที่นายท่านเขียนเจ้าค่ะ กลอนคู่บทนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของท่าน”“ตราบใดที่ท่านพยายามเต็มที่ แม้เพียงเล็กน้อยในทุก ๆ วัน ข้าน้อยก็ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างท่าน ติดตามท่านอยู่ข้างหลังและสนับสนุนท่านตลอดไป”เฉินฝานยืนอยู่ด้านข้างฉินเย่ว์โหรว เขามองนางและฟังความคิดของนางอย่างเงียบสงบแท้จริงแล้ว คำพูดของภรรยาไม่ได้รู้สึกน่ารำคาญเสมอไป แต่ยังรู้สึกมีความสุขอีกด้วยหลังจากติดกลอนคู่เสร็จไม่นาน ครอบครัวของเฉินผิงก็มาถึงแล้ววันนี้ทั้งสองครอบครัวกินอาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกันและเฝ้าปีพร้อมกัน เมื่อมีความคึกคักเช่นนี้ บรรยากาศของเทศกาลก็พลอยเข้มข้นไปด้วยเฉินผิงกับภรรยาทำหน้าที่จัดการเนื้อไก่ เป็ดและปลาฉินเย่ว์โหรวกับเฉินต้ายาพาเด็กสองคนด้าข้างทำหน้าที่ห่อเกี๊ยวตอนที่เฉินฝานกลับมาจากหมู่บ้านต้ากู่ เขาเดินผ่านเกษตรกรเลี้ยงแกะจึงซื้อแกะกลับมาหนึ่งตัวเขากับฉินเย่ว์เจียวทำหน้าที่ย่างแกะทั้งตัวนอกจากเฉินฝาน ไม่มีใครเคยเห็นการย่างแกะทั้งตัวผู้ใหญ่ยังคงมีสมาธิและยุ่งอยู่กับงานของตนเอง แต่เด็กสองคนเหนื่อยล้าทนไม่ไหว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 238

    นางเจิ้งโบกมือให้ฉินเย่ว์ฉู่อย่างมีความสุข “เย่ว์ฉู่ ลุงกับป้าก็มีเงินปีใหม่ให้เจ้าเช่นกัน”ฉินเย่ว์ฉู่มองนางเจิ้งอย่างไม่กล้าเดินเข้ามา“ท่านป้าให้ เจ้าก็รับไว้เถอะ”ทันทีที่เฉินฝานพูดจบ ฉินเย่ว์ฉู่ก็วิ่งเตาะแตะเข้ามา“ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ ปีใหม่นี้ขอให้ท่านลุงกับท่านป้าสุขภาพแข็งแรง ทุกสิ่งสมปรารถนา ร่ำรวยเงินทองเจ้าค่ะ!”“ท่านแม่ ทำไมถึงมอบให้แต่พี่เย่ว์ฉู่ล่ะเจ้าคะ ไม่มีของข้าหรือเจ้าคะ?” เอ้อร์ยาทำหน้าบูดบึ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ยัยเด็กคนนี้ จะไม่มีของเจ้าได้อย่างไรเล่า” นางเจิ้งหยิบเงินปีใหม่ออกมาอีกสองอันจากกระเป๋าเสื้อ “อ่ะ นี่คือของพ่อและแม่……”นางเจิ้งยังพูดไม่จบ เงินปีใหม่ในมือถูกเอ้อร์ยาเอาไปเรียบร้อย “ขอบคุณท่านพ่อ ขอบคุณท่านแม่!”“ต้ายา มีของเจ้าเหมือนกันนะ”“ขอบคุณท่านพ่อ ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ!” เฉินต้ายาแสดงสีหน้าเขินอาย“อย่ามัวแต่ขอบคุณพวกเราอีกเลย พวกเจ้าสองพี่น้องควรขอบคุณพี่เสี่ยวฝานมากที่สุด หากไม่มีพี่เสี่ยวฝานของเจ้า พวกเราจะมีเงินปีใหม่มอบให้พวกเจ้าได้อย่างไร?”“เสี่ยวฝาน ขอบคุณนะ!” เฉิงผิงที่เงียบมาตลอด กล่าวขอบคุณเฉินฝานด้วยใบหน้าซาบซึ้งใจอ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1022

    ลักพาตัวอ๋องแคว้นจ้าวต่อหน้าต่อตาองครักษ์หนึ่งหมื่นกว่าคน และยังสามารถทำให้เขายอมถอยทัพแต่โดยดี จะต้องมิใช่การประเมินศัตรูต่ำไปเพียงอย่างเดียวแน่นอนใต้เท้าด้านนอกผู้นั้นจะต้องมีวรยุทธ์และสติปัญญาเหนือมนุษย์เป็นแน่ได้ยินว่า เขามีสิ่งของที่เป็นเหล็กปลายแหลมสามารถโจมตีได้ น่าหวาดกลัวอย่างมาก สามารถต่อกรกับศัตรูจำนวนมหาศาลได้ด้วยตัวคนเดียวดังนั้น เฉินฝานต้องมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมจึงมาเยือนต่อให้มิมีความมั่นใจว่าจะชนะได้ ทว่าพวกเขาก็ต้องมั่นใจว่าตนเองจะสามารถถอยกลับได้อย่างปลอดภัยแน่นอนหากล่าถอยไปแล้วกลับมาอีกครั้ง คงจะมิได้มีเพียงสองคน แต่เป็นกองกำลังจำนวนมหาศาลพื้นที่ธารน้ำอันคับแคบจะสามารถต่อต้านกองกำลังมหาศาลได้อย่างไร?“เสี่ยวฝาน เจ้าดูสิ!”อ๋องตวนตะโกนด้วยความตื่นตกใจทันที เขาชี้ไปร่างเงาตรงโพรงหญ้า “โจรป่าเหล่านั้นออกมาแล้ว และยังมาจำนวนมหาศาลอีกด้วย ตอนนี้น่าจะประมาณหนึ่งพันคน”“ฮี่ ๆ ๆ!”อ๋องตวนฉีกยิ้ม มองเฉินฝานด้วยความนับถือ“เสี่ยวฝาน เจ้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ เจ้าบอกว่าขอแค่พวกเราสองคนมา โจรป่าจะต้องออกมาแน่นอน”“มิใช่ว่าข้าคาดการณ์ได้ดั่งเทพ นี่คือจิตวิทยา” เฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1021

    ผู้ที่เสนอตัวขอออกรบก่อนคือ หัวหน้าสามกั้วเจียงหลงชื่อที่โหดเหี้ยมปานนี้ มิใช่เพราะเขาเก่งกาจแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะตอนยังเด็กเขาซุกซนจนถูกแม่ไล่ตี ตอนที่หน้าสิ่วหน้าขวาน จึงกระโดดลงแม่น้ำว่ายไปฝั่งตรงข้ามเพื่อหนีแม่ของตนเองจึงเป็นที่มาของชื่อกั้วเจียงหลง“ออกไปรบงั้นรึ? กำจัดพวกเขาให้สิ้นซากรึ?” หัวหน้าใหญ่เหอหรันถีบกั้วเจียงหลงด้วยความโมโหทันที “เจ้าเก่งกว่ากองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวรึ?”“หัวหน้าใหญ่ ข้าคิดว่าเจ้าระแวงเกินไป หัวหน้าสามพูดถูก ควรจะออกไปสู้!”เสียงเคร่งขรึมดูมีอายุดังขึ้น ชายชราผมหงอกทั้งหัวเดินเข้ามาจากด้านนอก“ท่านอาจารย์!”เมื่อเห็นชายชราผู้นั้น เหอหรันรีบทำมือเคารพอย่างลนลาน คนอื่นก็พากันทำตามเมื่อชายชราเห็นด้วย กั้วเจียงหลงจึงเงยหน้าทันที “หัวหน้าใหญ่ ท่านอาจารย์ยังคิดว่าท่านระแวงเกินไป พวกเรามิได้เป็นแบบกองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าวเสียหน่อย”กั้วเจียงหลงพูดจบ ชายชรารีบพูดต่อทันที “หัวหน้าใหญ่ หัวหน้าสามพูดถูกแล้ว พวกเรามิใช่กองกำลังรักษาพระองค์แคว้นจ้าว สาเหตุที่พวกเขาพ่ายแพ้เพราะประเมินศัตรูต่ำและอวดดีเกินไป ตอนนี้ผู้ที่อวดดีและประเมินศัตรูต่ำ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1020

    “ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องออกจากเมืองไปแล้ว พวกเขาไม่ได้กลับเมืองหลวง แต่ว่ามุ่งหน้าไปยังพื้นที่ต้าเฮยแล้วขอรับ!”พื้นที่ต้าเฮยก็คือรังของพวกโจร“เช่นนั้นพวกเราก็รีบตามไป ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ๋องให้หลี่ฉวินไปด้วยหรือไม่”หลี่ฉวินเป็นนายกองพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวง เป็นแม่ทัพของกองทัพพิทักษ์เมืองเฟิ่งหวงเมืองเฟิ่งหวงเป็นเพียงเมืองป้อมปราการภายใต้เมืองเหอตู ไม่ควรมีนายกอง แต่เนื่องจากเมืองเฟิ่งหวงอยู่ติดชายแดน ดังนั้นจึงมีกองทัพพิทักษ์เมือง มีนายกองเช่นกันเพียงแต่ว่าต้าชิ่งขาดแคลนชายฉกรรจ์ เมืองป้อมปราการติดชายแดนที่ยากจนข้นแค้นอย่างเมืองเฟิ่งหวงยิ่งมีชายฉกรรจ์น้อยลงไปอีก กอปรกับก่อนหน้านี้ต่อสู้ต้านทานกองทหารของแคว้นจ้าว ตอนนี้กำลังพลในมือหลี่ฉวินจึงมีไม่ถึงสามร้อยนายเหอจื้อเฟยวิ่งกลับไปที่ห้องหยิบรองเท้าของตนขึ้นมา สวมพลางเดินออกไป “พวกเราก็รีบตามไปด้วย!” “ใต้เท้า!” เวลานี้เองหลี่ฉวินก็มาถึงแล้วเช่นกัน“หลี่ฉวิน?” เหอจื้อเฟยมองหลี่ฉวินด้วยความประหลาดใจ “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร? ตอนนี้เจ้าควรไปที่พื้นที่ต้าเฮยกับท่านอัครเสนาบดีมิใช่หรือ?”“ใต้เท้า ท่านอัครเสนาบดีกับท่านอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1019

    สิ่งปลูกสร้างที่ดีที่สุดในเมืองกลับเป็นราชนิเวศน์ที่ฮ่องเต้จ้าวพำนักก่อนหน้านี้ ราชนิเวศน์นั้นยังเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาหลังจากที่แคว้นจ้าวยึดครองเมืองเฟิ่งหวงอีกด้วยก่อนหน้านี้เฉินฝานรู้สึกว่าการได้เป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายนั้นเก่งกาจมากแล้ว มีอำนาจล้นฟ้า แม้แต่เสิ่นหมิงหยวนก็ไม่อาจแตะต้องเขาได้ตามใจชอบตอนนี้เขาถึงค่อยรู้สึกว่ายิ่งมีอำนาจบนตัวมาก ภาระบนบ่าก็ยิ่งหนักมากต้าชิ่งยังคงยากจนข้นแค้นมากเมื่อเห็นเฉินฝานอารมณ์หดหู่มากถึงเพียงนั้น อ๋องตวนก็ไม่กล้าลากเขาไปดื่มเหล้าทายตัวเลขแล้ว เขาอยู่ทางด้านข้าง แม้แต่เสียงดื่มเหล้าก็ยังเบามาก“เฮ้อ นี่มันปัญหาใหญ่จริง ๆ!”อ๋องตวนที่ดื่มจนเมากรึ่มแล้ววางไหเหล้าลงข้าง ๆ พิงกำแพงเมืองอย่างเอียงเอน“เสี่ยวฝาน เจ้าคิดว่าโจรพวกนี้ยังควรจะปราบหรือไม่?”“โจรย่อมต้องถูกปราบอยู่แล้ว!” เฉินฝานเอ่ยอย่างหนักแน่น“แล้วบุตรชายของเหอจื้อเฟยจะจัดการอย่างไร? เขาถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เป็นหัวหน้าโจรที่ดื้อรั้นเสียแล้ว”“เหอจื้อเฟยฆ่าบุตรชายกับมือไปแล้วหนึ่งคน หากสังหารอีกคน ดูเหมือนว่า...”อ๋องตวนยกไหเหล้าจากทางด้านข้างขึ้นมากรอกอีกคำแล้วค่อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1018

    ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าเหอเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความสิ้นหวัง“ความเมตตาของสวรรค์ก็ไม่อาจทนต่อความโหดร้ายในโลกนี้ได้ ตอนที่ลูกชายของข้าออกไปปราบโจรครั้งที่ห้า โจรพวกนั้นฉวยโอกาสบุกเข้ามาในเมือง และเอาหลานชายฝาแฝดที่เพิ่งเกิดมาได้ไม่นานของข้า...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮูหยินผู้เฒ่าเหอก็สะอื้นไม่หยุด ริมฝีปากอ้าอยู่หลายครั้งแต่ก็พูดไม่ออก“หลานชายฝาแฝดของเจ้าถูกโจรพวกนั้นฆ่าไปแล้วหรือ?”อ๋องตวนถามขึ้น ความจริงไม่ต้องให้ฮูหยินผู้เฒ่าตอบ อ๋องตวนก็นึกคำตอบได้แล้ว เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วส่งเสียงดังกร๊อบ“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องสังหารหัวหน้าโจรเหล่านั้นให้หมดอย่างแน่นอน!”“ท่านอ๋อง!”ฮูหยินผู้เฒ่าเหอคุกเข่าลงอีกครั้ง “ทหารแคว้นจ้าวถูกขับไล่ไปแล้ว ขอร้องท่านกลับไปยังเมืองหลวงเสียเถิด”“หญิงชราผู้นี้เป็นอะไรไป?” อ๋องตวนโกรธจัดจนเต้นเร่า ๆ แล้ว“พวกเจ้าบอกว่าโจรส่วนมากล้วนเป็นลูกชายของชาวบ้านเหล่านี้ ข้าจะไม่ฆ่าโจรทั่วไป จะฆ่าแค่หัวหน้าของพวกมันก็ไม่ได้หรือ?”“ท่านอ๋อง!” เฉินฝานดึงอ๋องตวนไว้"ผู้อาวุโส" เฉินฝานก้มตัวประคองนางเหอให้ลุกขึ้นมา“โจรให้หลานชายฝาแฝดของพวกท่านเป็นหัวหน้าแล้วใช่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1017

    “พวกสตรีชั่วช้าอยากจะฆ่าอัครเสนาบดีก็เหมือนก่อกบฏอย่างไม่ต้องสงสัย เจ้ายังจะขอร้องแทนพวกนางอีกหรือ?”อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยด้วยความเดือดดาลเหอจื้อเฟยคลานขึ้นมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานต่อเพื่อขอร้องแทนสตรีเหล่านั้น “พวกนางก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน ลูกชายของพวกนางล้วนอยู่ในกำมือของโจรพวกนั้น หลายคนถูกจับตัวไปตั้งแต่ที่ยังเด็กมาก ๆ พวกเขากลายเป็นโจรก็เพราะถูกบีบบังคับ”“เพราะว่าหากพวกเขาไม่ยอมเข้าร่วมฝึกฝนกลายเป็นโจร หัวหน้าโจรเหล่านั้นก็จะสังหารมารดาของพวกเขาแทน”เหอจื้อเฟยเอ่ยคำพูดสองประโยคนี้ก็มีเสียงร้องไห้ดังขึ้นทั่วบริเวณแม้ว่าเฉินฝานจะคาดเดาคำตอบได้แล้ว แต่เมื่อได้ยินเองกับหูถึงสิ่งที่เหอจื้อเฟยพูดออกมา เขาก็ยังรู้สึกสะเทือนใจมาก แม่กลัวลูกต้องตาย จึงห้ามไม่ให้ทางการส่งทหารออกไปปราบโจรลูกกลัวแม่ต้องตาย จึงฝึกฝนสุดชีวิตเพื่อเป็นโจรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต้องยอมรับว่าหัวหน้าโจรพวกนั้นเฉลียวฉลาดมาก“นั่นเป็นเพราะเจ้าบกพร่องต่อหน้าที่!” อ๋องตวนเตะเหอจื้อเฟยอีกครั้ง “หากเจ้าส่งคนไปกำจัดโจรพวกนี้ตั้งแต่แรก จะมีผลที่ตามมาเยอะถึงเพียงนี้หรือ?”ทันทีที่อ๋องตวนพูดจบก็มีสตรีผู้หนึ่งออก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1016

    “เมื่อครู่ข้าได้ยินชัดเจนว่าเจ้าแค่สั่งให้เหอจื้อเฟยไปปราบโจรเท่านั้น เหตุใดถึงไปทำร้ายลูกของพวกเขา...”อ๋องตวนพลันหยุดชะงัก“โจร?!” อ๋องตวนร้องอุทานขึ้นมา “หรือว่าโจรพวกนั้นก็คือลูกชายของพวกนาง?”“ข้าคิดว่ามีความเป็นไปได้แปดเก้าส่วน” เฉินฝานพยักหน้าเช่นกัน“พวกเขาไม่ใช่โจรร้าย ขุนนางใหญ่สูงส่งอย่างพวกท่านจะไปเข้าใจอะไร?” บทสนทนาระหว่างอ๋องตวนกับเฉินฝานทำให้สตรีเหล่านั้นอารมณ์ร้อนมาก แต่ละคนเหมือนกับไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วก็ไม่ปาน ผลักดันเบียดเสียดกันห้อมล้อมนักการในศาลาว่าการข้างกายเฉินฝานกับอ๋องตวนไว้ เมื่อเห็นว่าผลักไม่ได้แล้ว ก็ใช้มีดหั่นผักในมือฟันใส่ทันที“เพล้ง!”อ๋องตวนโยนไหเหล้าในมือลงกับพื้น“พวกสตรีชั่วช้า พอพยัคฆ์ไม่แสดงบารมี พวกเจ้าก็เห็นว่าเป็นแมวป่วยใช่หรือไม่?” พวกนางคิดว่าข้าเป็นแมวป่วยหรืออย่างไร? ถ้าเสือไม่คำราม พวกเจ้าไม่เห็นรัศมีหรืออย่างไร?”อ๋องตวนก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เตะสตรีหลายคนจนกระเด็นไปทันทีอย่างไรก็ตามแม้สตรีหลายคนจะถูกถีบกระเด็น แต่ก็ไม่เกิดผลให้หวาดกลัวใด ๆ เลย สตรีเหล่านั้นกลับฮึกเหิมมากยิ่งขึ้น ปากตะโกนว่าจะให้พวกเฉินฝานตายไปพร้อมกั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1015

    หญิงชราวัยประมาณหกสิบปีผู้หนึ่งขวางหน้าเหอจื้อเฟยไว้“ท่านแม่ ลูกต้องไปทำงาน ท่านอย่าขัดขวางลูกเลย” เหอจื้อเฟยเอ่ยด้วยความเจ็บปวดใจคนที่ยืนขวางเหอจื้อเฟยไม่ให้เหอจื้อเฟยไปทำร้ายโจร ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นมารดาของเขาเองนางเหอเหลือบมองดาบในมือของเหอจื้อเฟยแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า “งานของเจ้าอยู่ในที่ว่าการไม่ใช่หรือ? เจ้าเป็นขุนนาง ไม่อยู่ในที่ว่าการ ถือดาบวิ่งออกมา นี่จะไปทำสิ่งใด? เจ้าเป็นเพชฌฆาตหรือไร? เจ้าเป็นคนฆ่าสัตว์หรือไร?”“ท่านแม่ ลูกมีงานราชการเร่งด่วนจริง ๆ ใครก็ได้!”เหอจื้อเฟยพูดพลางหันหน้าไปสั่งนักการในศาลาว่าการที่อยู่ข้างหลังเสียงดัง “พาฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน!” “ใครกล้าแตะต้องข้า!”นางเหอหยิบกรรไกรออกมาทันที แล้วชี้ไปยังนักการในศาลาว่าการที่เดินมาหานางหลังจากที่นักการในศาลาว่าการหยุดเดินไม่กล้าเดินข้างหน้า นางเหอก็ใช้กรรไกรจ่อคอตัวเองทันที“เหอจื้อเฟย เจ้าอย่าคิดว่าแม่แก่แล้วหูตาฟ้าฟาง ไม่รู้ว่าเจ้าจะไปที่ใด หากเจ้าไปสังหารโจรก็สังหารแม่ก่อน หลังจากนั้นค่อยข้ามศพของแม่ไป”“ท่านแม่ นี่ท่านทำอะไร?” ใบหน้าของเหอจื้อเฟยเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและอับจนปัญญาอ๋องตวนถ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1014

    โจรเข้ามาในเมืองกันหมดแล้ว แต่เหอจื้อเฟยกลับทำเป็นไม่มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นเมื่อครู่สตรีวัยกลางคนยังบอกว่าเหอจื้อเฟยเป็นขุนนางที่ดี หรือว่าจะไม่กล้าพูดความจริงเฉินฝานบอกลาครอบครัวของสตรีวัยกลางคน แล้วรีบรุดไปยังที่ว่าการเมืองเฟิ่งหวงด้านนอกศาลาว่าการ เฉินฝานยังจงใจมองรอบหนึ่ง มีชายหลายคนเดินป้วนเปี้ยนอยู่ด้านนอกศาลาว่าการจริง ๆ ดวงตาชำเลืองมองศาลาว่าการของเมืองเฟิ่งหวงเป็นครั้งคราวสายตาของชายเหล่านั้นดูอำมหิตดุดัน มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาพวกเขาน่าจะเป็นโจรที่สตรีวัยกลางคนพูดถึงโจรป่าคอยนั่งเฝ้าอยู่หน้าประตูที่ว่าการช่างอุกอาจนัก!เฉินฝานสาวเท้ายาว ๆ เข้าไปในที่ว่าการ“ท่านอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย!”เมื่อเห็นเฉินฝาน เหอจื้อเฟยก็วิ่งเข้ามาหาทันทีเฉินฝานเองก็ก้าวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปหาเช่นกัน เมื่ออยู่ห่างจากเหอจื้อเฟยไม่ถึงห้าเมตร...“เคร้ง!”เฉินฝานชักดาบคู่กายของนักการในศาลาว่าการคนหนึ่งออกมาอย่างฉับไว“ตะ ใต้...”ขณะที่นักการในศาลาว่าการพูดติดอ่าง เฉินฟานก็ถือดาบชี้ไปที่เหอจื้อเฟยแล้วเหอจื้อเฟยมองเฉินฟานอย่างตกตะลึง สุดท้ายก็คุกเข่าลงอย่างเงียบงัน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status