Share

บทที่ 229

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ท่าน ท่าน”

หวังหยวนหลงตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืน

“ญาติผู้น้อง ตอนนี้ญาติผู้พี่ของเจ้าอายุไม่ใช่น้อยๆ แล้ว โบยสิบทีมากเกินไปกระมัง โบยครั้งนี้...”

“นักการ !”

หวังเจิ้งเต๋อยังพูดไม่จบ น้ำเสียงเย็นชาของปลัดอำเภอดังขึ้น “ปิดปากหวังเจิ้งเต๋อกับหวังหยวนหลงซะ”

หากไม่ใช่เพราะชายชรามีคำสั่ง ให้ควบคุมสติ เขาสั่งให้คนโบยยี่สิบทีแล้ว

อีกทั้งไม่ใช่แค่นางมั่ว แต่โบยทั้งตระกูล

ครอบครัวนี้ เห็นว่าเขายังเสี่ยงถูกปลดจากตำแหน่งไม่มากพอหรือ?

เวลานี้ หวังเจิ้งเต๋อรู้สึกถึงความผิดปกติ ชายชราสองคนข้างนอก...

น่าเสียดาย เขารู้ตัวช้าไป

หวังเจิ้งเต๋อรวมถึงหวังหยวนหลงที่ยังคงลุกไม่ขึ้นถูกปิดปาก

นางมั่วโดนลงโทษ ร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด เสียงดังไม่หยุด

ปลัดอำเภอเดินไปตรงหน้าเฉินฝานอีกครั้ง ประสานสองมือยื่นตราคำสั่งสีเงินให้เขา “เสี่ยวฝาน นายท่านข้างนอกให้ข้าเอาให้เจ้า”

“ให้ข้าหรือขอรับ?” เฉินฝานมองตราคำสั่งในมือปลัดอำเภอ ไม่ได้รับไว้ในทันที

ชายชราสองคนข้างนอก ร้ายกาจยิ่งนัก

หรือว่า นี่เป็นหลุมพรางของพวกเขา

“ใช่!” ปลัดอำเภอพยักหน้าด้วยความรีบร้อน “นายท่านยังบอกอีกว่า หากวันหน้าเสี่ยวฝานพบเจอปัญหา นำตร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นายประสิทธิ์ สอนสุข
มันเกินไปทำกันเกินไปแล้วนะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 230

    เหล่าสาวใช้และแม่นมของตระกูลหวังต่างเห็นกับตาตอนที่เฉินฝานกับเฉินจินเซียงกลับมา คนในตระกูลหวังยืนอยู่ทุกคนและวางมาดอย่างโอหังแต่เวลาผ่านไปเพียงครึ่งวัน ตอนนี้คนในตระกูลหวังที่อยู่ข้างหน้าเฉินฝานกับเฉินจินเซียง นอนราบอยู่สองคนและยืนอยู่หนึ่งคนหวังเจิ้งเต๋อที่ยืนอยู่ สภาพไม่ได้ดีเท่าไหร่เมื่อนักการในศาลาว่าการปิดปากเขา เขาทำการขัดขืน ภายใต้คำสั่งของปลัด อำเภอนักการในศาลาว่าการจึงทุบตีไปหนึ่งยกอย่างรุนแรง ตอนนี้ใบหน้าและจมูกของเขาทั้งบวมทั้งช้ำหมดสภาพนายท่านแห่งตระกูลหวังดั่งเคยไปอย่างสิ้นเชิงปลัดอำเภอเดินไปอยู่ข้าง ๆ เฉินจินเซียง “ตั้งแต่นี้ไป เมื่อเห็นฮูหยินผู้นี้เสมือนได้เห็นข้า หากไม่เคารพนางก็เท่ากับไม่เคารพข้า!”เดิมทีปลัดอำเภอต้องการยืนข้างเฉินฝานแล้วพูดแต่เฉินฝานมอบป้ายแขวนเอวให้กับเฉินจินเซียง“ท่านอา ท่านบ้าไปแล้วหรือ?”ใบหน้าของหวังหยวนหลงเต็มไปด้วยความตกใจและไม่แปลกใจหากเป็นเช่นนั้น จากนี้ไปเฉินจินเซียงผู้นี้ก็จะอยู่บนหัวเขาน่ะสิ?“เข้ามา หวังหยวนหลงดูหมิ่นข้า โบยยี่สิบที”“ใต้เท้า!”หวังเจิ้งเต๋อคุกเข่าลงกับพื้นดังฟุบ “ตอนนี้หยวนหลงบาดเจ็บเช่นนี้แล้ว โบย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 231

    เห็นเฉินฝานเดินออกไปข้างนอก ปลัดอำเภอรีบตามไป "เสี่ยวฝาน เมื่อครู่ได้ยินอาของเจ้าบอกว่า เจ้าเดินมา ข้ามีม้าตัวหนึ่ง เจ้าขี่กลับไปได้"ชายชราสองคนข้างนอกเห็นความสำคัญของเฉินฝานมากขนาดนั้น เขาต้องฉวยโอกาสนี้ตีสนิทเฉินฝานเขาเป็นปลัดอำเภอมานานเกือบยี่สิบปีแล้ว ยังอยู่ที่เดิม เพราะไม่มีเบื้องบนสนับสนุนไม่ใช่หรือ?บางทีเฉินฝานอาจจะเป็นโอกาสในการเลื่อนขั้นของเขาก็ได้"ขอบคุณใต้เท้าขอรับ แต่ว่าข้าขี่ม้าไม่เป็น"เฉินฝานทั้งปฏิเสธและพูดความจริงเขาที่ทะลุมิติมาจากยุคปัจจุบัน ขี่ม้าไม่เป็นจริงๆปลัดอำเภออยากใช้เขาเป็นเครื่องมือเพื่อใกล้ชิดกับชายชราสองคนข้างนอก ข้อนี้เฉินฝานรู้ดีไม่ว่าชายชราสองคนข้างนอกจะเป็นใครมาจากไหน เขาไม่อยากรู้ครั้งนี้พวกเขาช่วยตน เช่นนั้นเขาก็จะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ หลังจากนี้ทั้งสองฝ่ายไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาประสบการณ์ในยุคปัจจุบันบอกกับเขาว่า คนคนหนึ่งอยากอยู่ในสังคมอย่างมั่นคงนั้น สุดท้ายต้องพึ่งตนเองอาศัยคนอื่นไม่ยืนยาว ทั้งยังถูกควบคุม"เช่นนั้นข้าให้คนส่งเจ้ากลับไป หมู่บ้านต้ากู่ไกลจากหมู่บ้านซานเหอ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว เจ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 232

    เฉินจินเซียงยังอยากส่งเฉินฝานไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน แต่เฉินฝานปฏิเสธอากาศหนาวจัดและสุขภาพของนางเดิมทีก็ไม่แข็งแรง ก่อนหน้านี้ได้รับการปฏิบัติอย่างโหดร้ายจากตระกูลหวังและมีแผลเปื่อยมากมายที่มือและเท้า“ใช่!”เฉินฝานมองผ่านเฉินจินเซียง สายตาตกอยู่ที่หลิ่วหรูเยียนผู้อยู่ตรงมุมเหมือนนกกระทา“ท่านป้า อย่าใจอ่อนนะขอรับ กลับไปแล้วก็ขายนางทิ้งซะ”เฉินจินเซียงเป็นภรรยาใหญ่ และหลิ่วหรูเยียนเป็นภรรยาน้อยภรรยาคนโตมีสิทธิ์ที่จะขับไล่หรือขายภรรยาน้อยได้“เสี่ยวฝาน หลานวางใจเถิด ข้าจะทำเช่นนั้น” เฉินจินเซียงจ้องหลิ่วหรูเยียนและกล่าวอย่างเกลียดชังหลิ่วหรูเยียนรังแกนางก็มากพอแล้ว แต่กลับกล้ารังแกบุตรสาวของนางด้วย นางไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ แน่“ท่านป้าขอรับ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน เย่ว์โหรวและคนอื่น ๆ ยังรอข้าอยู่ที่เรือน”เฉินฝานเพิ่งกล่าวลากับเฉินจินเซียงเสร็จ รถม้าของชายชราก็ขวางตรงหน้าเขาชายชราเปิดม่านหน้าต่างรถม้า เขามองเฉินฝานพร้อมยิ้มกล่าว “เจ้าหนุ่ม ทำธุระเรียบร้อยแล้วรึ”“อืม”เฉินฝานไม่เกรงใจชายชรา เขาตอบอืมเสร็จก็กระโดดขึ้นรถม้าของชายชราทันที“นี่ ทำไมขึ้นรถม้าของข้าล่ะ ข้ายังไม่ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 233

    “เมื่อครู่นี้ข้าคงพูดไม่ชัดเจนพอ ที่ข้าพูดว่าข้าเก่ง ข้าหมายถึงในราชวงศ์ต้าชิ่งทั้งหมด รวมถึงท่านอ๋อง ผู้ที่มีอายุมากกว่าข้ามีไม่เกินสิบคน”ชายชราพยายามอธิบาย บนใบหน้ามีความวิตกกังวลเล็กน้อย“อ่อ!” สีหน้าของเฉินฝานเปลี่ยนไปและกลายเป็นจริงจัง “ในราชวงศ์ต้าชิ่งทั้งหมด รวมถึงท่านอ๋อง ผู้ที่มีอายุมากกว่าข้ามีไม่เกินสิบคน?”“ใช่ ไม่เกินสิบคน” เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินฝานเปลี่ยนไป ชายชราก็เย่อหยิ่งและเชิดหน้าเฉินฝานยื่นนิ้วโป้งให้ชายชรา “ถ้าเช่นนั้นท่านสุดยอดมาก”หัวข้อสนทนาพลันเปลี่ยนกะทันหัน “แต่มัน ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!”“......” ชายชราเข้ารับราชการเมื่ออายุยี่สิบปี อยู่ในตำแหน่งหลายสิบปีคนประเภทใด สถานการณ์เช่นไร ไม่มีสิ่งใด ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อนแต่ทว่า......คนอย่างเฉินฝานเช่นนี้ สถานการณ์แบบนี้เขาไม่เคยเห็นหรือมีประสบการณ์มาก่อนจริง ๆเขาเป็นตัวแทนของอำนาจ เป็นตัวแทนของความมั่งคั่งในโลกนี้ใครไม่รักอำนาจ ไม่รักเงินทอง?อำนาจ เงินทอง คงเป็นเรื่องโกหกหากบอกว่าเฉินฝานไม่รักเพียงแต่ว่าเขามีจิตวิญญาณของคนสมัยใหม่ ความคิดและแนวความคิดของเขาก็แตกต่างจากคนในราชวงศ์ต้าชิ่ง ท้ายท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 234

    “เจ้าหนุ่มนั่นล่ะเป็นคนเขียน”“ไม่ใช่ข้าจริง ๆ”“หยุดถ่อมตัวเถอะน่า!”“ข้าไม่ได้ถ่อมตัว”“เจ้าถ่อมตัว”“......” เฉินฝานเพิ่งตระหนักได้ว่า ข้อแก้ตัวของเขาไม่มีประโยชน์“เจ้าหนุ่ม เจ้าสมัครสอบฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแล้วหรือยัง?” ชายชราถามเฉินฝานส่ายหัว “ยัง ตอนนี้ข้าไม่อยากสอบเท่าไหร่”“ไม่สอบได้อย่างไรเล่า เจ้าต้องไปสอบ!”ชายชราพลันส่งเสียงดังจนเฉินฝานยังตกใจไม่ใช่แค่เสียงดัง แต่ยังใจร้อนด้วยท่าทางของชายชราทำให้เฉินฝานนึกถึงพ่อในยุคปัจจุบันของเขาตอนที่เรียนมัธยมต้น มีช่วงหนึ่งที่เขาหัวรั้นและไม่อยากไปโรงเรียน พ่อของเขาก็ตะโกนใส่เขาด้วยสีหน้าร้อนใจเช่นนี้: เธอไม่ไปโรงเรียนได้ยังไง? เธอต้องไปเมื่อมาใช้ชีวิตในอีกโลกหนึ่ง พลันมีคนคนหนึ่งเป็นห่วงตนเองเช่นนี้ เฉินฝานรู้สึกประทับใจเล็กน้อยแต่ทว่า ที่นี่ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน เขาไม่ใช่วัยรุ่นสิบกว่าปีเหมือนในตอนนั้นเส้นทางของอนาคตควรเดินอย่างไร เขาจะตัดสินใจเองหากให้เขาทำงานร่วมกับนักเรียนหน้าซื่อใจคดเหล่านั้น เขายอมอยู่ในหมู่บ้านซานเหอไปตลอดชีวิตและใช้ชีวิตอย่างอิสระ มีความสุขกับภรรยาและลูก ๆ บนเตียงเตาอุ่นยังดีกว่า“ไม่สอบหรอก ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 235

    “ความจริงแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าก็ได้ ถ้าเจ้าไม่ไปสอบเพราะข้า ราชสำนักของเราสูญเสียผู้มีความสามารถไปหนึ่งคน สิ่งนี้คงทำให้ข้ารู้สึกผิดต่อฝ่าบาทและแผ่นดิน”พอได้แล้ว ๆถึงกระทั่งเล่นละครน้ำเน่าท่านเล่นบทเจ้าน้ำตาได้ คิดว่าข้าทำไม่เป็นรึ“เฮ้อ ข้าน้อยซาบซึ้งในความเอ็นดูของท่านขอรับ สิ่งที่ข้าพูดเมื่อครู่นี้แท้จริงแล้วเพราะข้าเป็นคนใจเสคนใจเซาะ ท่านก่วาะ ท่านอาวุโสขอรับ ข้าพูดความจริงกับท่านแล้วกัน ข้าเป็นแค่คนขายปลา ตัวหนังสือก็เขียนไม่ดี แล้วข้าจะสอบติดขุนนางได้อย่างไร?”“เจ้าหนุ่มช่างพูดเกินไป เจ้าแต่งบทกวีได้ไพเราะถึงเพียงนี้ จะเขียนหนังสือไม่เก่งได้อย่างไร?”“บทกวีที่ข้าพูดไปเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้เป็นผู้ประพันธ์ ข้าพบในหนังสือเล่มหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ แต่ข้าเป็นคนความจำดี หลังจากอ่านแล้วข้าก็ท่องจำได้เลย”“ข้าไม่เชื่อ!”“ไม่เชื่อ เช่นนั้นข้าจะเขียนให้ท่านดู”“เอาไป!”ชายชรายื่นพู่กันให้เฉินฝานเฉินฝานไม่ได้ตั้งใจปิดบังเหมือนกัน เขาเขียนตามปกติครั้งนี้เขาเขียนบทกวีที่มีชื่อว่า 《เหม่อมองยามวสันต์ฤดู》 ของนักกวีตู้ฝู่เฉินฝานวางพู่กันแล้วกล่าว “นี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 236

    “รับทราบขอรับ”“จา!” คนใช้ฟาดแส้ รถม้าพลางวิ่งไปยังอำเภอผิงอันด้วยความรวดเร็วเมื่อผ่านสี่แยกที่เฉินฝานเดิน คนใช้ฉีกยิ้มจิ้งจอกน้อย อย่างไรเสียเจ้าก็สู้จิ้งจอกเฒ่าในรถม้าไม่ได้หรอกเพียงแต่ว่า เขาอยากเห็นผลลัพธ์เช่นนี้หลังจากนี้ เมื่อสุนัขจิ้งจอกตัวใหญ่และตัวเล็กต่อสู้กัน บรรยากาศคงน่าตื่นเต้นมาก……หลังจากกลับจากหมู่บ้านต้ากู่แล้ว ชีวิตของเฉินฝานก็ดำเนินต่อไปเหมือนเดิมเรียบง่ายแต่มีความสุขบางครั้งก็ได้ยินข้างเรือนดุด่าดุด่าเฉินจินเซียงดุด่าว่านางแต่งงานกับครอบครัวที่ดี แต่ลืมครอบครัวที่เลี้ยงดูนาง เป็นเด็กเนรคุณเพราะไม่ว่าเฉินฝูให้คนไปแจ้งเฉินจินเซียงกี่ครั้ง เฉินจินเซียงก็ไม่เคยกลับมาแม้ว่าเฉินฝูไปที่หมู่บ้านต้ากู่ด้วยตนเอง แต่เขาก็ไม่ได้รับสิ่งที่เฉินเจียงต้องการอาจเป็นเพราะสิ่งที่เฉินฝูพูดในหมู่บ้านต้ากู่แย่เกินไป เฉินจินเซียงจึงพูดโดยตรงว่า หลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ นางก็จะไม่กลับมาอวยพรปีใหม่วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าคนทั้งหมู่บ้านซานเหอ ยุ่งมากขึ้นกว่าเดิม ทุกคนต่างเร่งรีบครั้งสุดท้ายภายในเรือนของเฉินฝานก็ไม่ต่างออกไปในวันนี้ สามพี่น้องตระกูลฉินตื่นเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 237

    “ต่อให้กระดาษแก้วตัดของข้าน้อยสวยแค่ไหน ก็มิสู้กลอนคู่ที่นายท่านเขียนเจ้าค่ะ กลอนคู่บทนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของท่าน”“ตราบใดที่ท่านพยายามเต็มที่ แม้เพียงเล็กน้อยในทุก ๆ วัน ข้าน้อยก็ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างท่าน ติดตามท่านอยู่ข้างหลังและสนับสนุนท่านตลอดไป”เฉินฝานยืนอยู่ด้านข้างฉินเย่ว์โหรว เขามองนางและฟังความคิดของนางอย่างเงียบสงบแท้จริงแล้ว คำพูดของภรรยาไม่ได้รู้สึกน่ารำคาญเสมอไป แต่ยังรู้สึกมีความสุขอีกด้วยหลังจากติดกลอนคู่เสร็จไม่นาน ครอบครัวของเฉินผิงก็มาถึงแล้ววันนี้ทั้งสองครอบครัวกินอาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกันและเฝ้าปีพร้อมกัน เมื่อมีความคึกคักเช่นนี้ บรรยากาศของเทศกาลก็พลอยเข้มข้นไปด้วยเฉินผิงกับภรรยาทำหน้าที่จัดการเนื้อไก่ เป็ดและปลาฉินเย่ว์โหรวกับเฉินต้ายาพาเด็กสองคนด้าข้างทำหน้าที่ห่อเกี๊ยวตอนที่เฉินฝานกลับมาจากหมู่บ้านต้ากู่ เขาเดินผ่านเกษตรกรเลี้ยงแกะจึงซื้อแกะกลับมาหนึ่งตัวเขากับฉินเย่ว์เจียวทำหน้าที่ย่างแกะทั้งตัวนอกจากเฉินฝาน ไม่มีใครเคยเห็นการย่างแกะทั้งตัวผู้ใหญ่ยังคงมีสมาธิและยุ่งอยู่กับงานของตนเอง แต่เด็กสองคนเหนื่อยล้าทนไม่ไหว

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status