Share

บทที่ 233

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
“เมื่อครู่นี้ข้าคงพูดไม่ชัดเจนพอ ที่ข้าพูดว่าข้าเก่ง ข้าหมายถึงในราชวงศ์ต้าชิ่งทั้งหมด รวมถึงท่านอ๋อง ผู้ที่มีอายุมากกว่าข้ามีไม่เกินสิบคน”

ชายชราพยายามอธิบาย บนใบหน้ามีความวิตกกังวลเล็กน้อย

“อ่อ!” สีหน้าของเฉินฝานเปลี่ยนไปและกลายเป็นจริงจัง “ในราชวงศ์ต้าชิ่งทั้งหมด รวมถึงท่านอ๋อง ผู้ที่มีอายุมากกว่าข้ามีไม่เกินสิบคน?”

“ใช่ ไม่เกินสิบคน” เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินฝานเปลี่ยนไป ชายชราก็เย่อหยิ่งและเชิดหน้า

เฉินฝานยื่นนิ้วโป้งให้ชายชรา “ถ้าเช่นนั้นท่านสุดยอดมาก”

หัวข้อสนทนาพลันเปลี่ยนกะทันหัน “แต่มัน ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า!”

“......” ชายชราเข้ารับราชการเมื่ออายุยี่สิบปี อยู่ในตำแหน่งหลายสิบปี

คนประเภทใด สถานการณ์เช่นไร ไม่มีสิ่งใด ไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

แต่ทว่า......

คนอย่างเฉินฝานเช่นนี้ สถานการณ์แบบนี้

เขาไม่เคยเห็นหรือมีประสบการณ์มาก่อนจริง ๆ

เขาเป็นตัวแทนของอำนาจ เป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง

ในโลกนี้ใครไม่รักอำนาจ ไม่รักเงินทอง?

อำนาจ เงินทอง คงเป็นเรื่องโกหกหากบอกว่าเฉินฝานไม่รัก

เพียงแต่ว่าเขามีจิตวิญญาณของคนสมัยใหม่ ความคิดและแนวความคิดของเขาก็แตกต่างจากคนในราชวงศ์ต้าชิ่ง ท้ายท
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 234

    “เจ้าหนุ่มนั่นล่ะเป็นคนเขียน”“ไม่ใช่ข้าจริง ๆ”“หยุดถ่อมตัวเถอะน่า!”“ข้าไม่ได้ถ่อมตัว”“เจ้าถ่อมตัว”“......” เฉินฝานเพิ่งตระหนักได้ว่า ข้อแก้ตัวของเขาไม่มีประโยชน์“เจ้าหนุ่ม เจ้าสมัครสอบฤดูใบไม้ผลิปีหน้าแล้วหรือยัง?” ชายชราถามเฉินฝานส่ายหัว “ยัง ตอนนี้ข้าไม่อยากสอบเท่าไหร่”“ไม่สอบได้อย่างไรเล่า เจ้าต้องไปสอบ!”ชายชราพลันส่งเสียงดังจนเฉินฝานยังตกใจไม่ใช่แค่เสียงดัง แต่ยังใจร้อนด้วยท่าทางของชายชราทำให้เฉินฝานนึกถึงพ่อในยุคปัจจุบันของเขาตอนที่เรียนมัธยมต้น มีช่วงหนึ่งที่เขาหัวรั้นและไม่อยากไปโรงเรียน พ่อของเขาก็ตะโกนใส่เขาด้วยสีหน้าร้อนใจเช่นนี้: เธอไม่ไปโรงเรียนได้ยังไง? เธอต้องไปเมื่อมาใช้ชีวิตในอีกโลกหนึ่ง พลันมีคนคนหนึ่งเป็นห่วงตนเองเช่นนี้ เฉินฝานรู้สึกประทับใจเล็กน้อยแต่ทว่า ที่นี่ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน เขาไม่ใช่วัยรุ่นสิบกว่าปีเหมือนในตอนนั้นเส้นทางของอนาคตควรเดินอย่างไร เขาจะตัดสินใจเองหากให้เขาทำงานร่วมกับนักเรียนหน้าซื่อใจคดเหล่านั้น เขายอมอยู่ในหมู่บ้านซานเหอไปตลอดชีวิตและใช้ชีวิตอย่างอิสระ มีความสุขกับภรรยาและลูก ๆ บนเตียงเตาอุ่นยังดีกว่า“ไม่สอบหรอก ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 235

    “ความจริงแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าก็ได้ ถ้าเจ้าไม่ไปสอบเพราะข้า ราชสำนักของเราสูญเสียผู้มีความสามารถไปหนึ่งคน สิ่งนี้คงทำให้ข้ารู้สึกผิดต่อฝ่าบาทและแผ่นดิน”พอได้แล้ว ๆถึงกระทั่งเล่นละครน้ำเน่าท่านเล่นบทเจ้าน้ำตาได้ คิดว่าข้าทำไม่เป็นรึ“เฮ้อ ข้าน้อยซาบซึ้งในความเอ็นดูของท่านขอรับ สิ่งที่ข้าพูดเมื่อครู่นี้แท้จริงแล้วเพราะข้าเป็นคนใจเสคนใจเซาะ ท่านก่วาะ ท่านอาวุโสขอรับ ข้าพูดความจริงกับท่านแล้วกัน ข้าเป็นแค่คนขายปลา ตัวหนังสือก็เขียนไม่ดี แล้วข้าจะสอบติดขุนนางได้อย่างไร?”“เจ้าหนุ่มช่างพูดเกินไป เจ้าแต่งบทกวีได้ไพเราะถึงเพียงนี้ จะเขียนหนังสือไม่เก่งได้อย่างไร?”“บทกวีที่ข้าพูดไปเหล่านั้นเมื่อครู่นี้ ข้าไม่ได้เป็นผู้ประพันธ์ ข้าพบในหนังสือเล่มหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ แต่ข้าเป็นคนความจำดี หลังจากอ่านแล้วข้าก็ท่องจำได้เลย”“ข้าไม่เชื่อ!”“ไม่เชื่อ เช่นนั้นข้าจะเขียนให้ท่านดู”“เอาไป!”ชายชรายื่นพู่กันให้เฉินฝานเฉินฝานไม่ได้ตั้งใจปิดบังเหมือนกัน เขาเขียนตามปกติครั้งนี้เขาเขียนบทกวีที่มีชื่อว่า 《เหม่อมองยามวสันต์ฤดู》 ของนักกวีตู้ฝู่เฉินฝานวางพู่กันแล้วกล่าว “นี่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 236

    “รับทราบขอรับ”“จา!” คนใช้ฟาดแส้ รถม้าพลางวิ่งไปยังอำเภอผิงอันด้วยความรวดเร็วเมื่อผ่านสี่แยกที่เฉินฝานเดิน คนใช้ฉีกยิ้มจิ้งจอกน้อย อย่างไรเสียเจ้าก็สู้จิ้งจอกเฒ่าในรถม้าไม่ได้หรอกเพียงแต่ว่า เขาอยากเห็นผลลัพธ์เช่นนี้หลังจากนี้ เมื่อสุนัขจิ้งจอกตัวใหญ่และตัวเล็กต่อสู้กัน บรรยากาศคงน่าตื่นเต้นมาก……หลังจากกลับจากหมู่บ้านต้ากู่แล้ว ชีวิตของเฉินฝานก็ดำเนินต่อไปเหมือนเดิมเรียบง่ายแต่มีความสุขบางครั้งก็ได้ยินข้างเรือนดุด่าดุด่าเฉินจินเซียงดุด่าว่านางแต่งงานกับครอบครัวที่ดี แต่ลืมครอบครัวที่เลี้ยงดูนาง เป็นเด็กเนรคุณเพราะไม่ว่าเฉินฝูให้คนไปแจ้งเฉินจินเซียงกี่ครั้ง เฉินจินเซียงก็ไม่เคยกลับมาแม้ว่าเฉินฝูไปที่หมู่บ้านต้ากู่ด้วยตนเอง แต่เขาก็ไม่ได้รับสิ่งที่เฉินเจียงต้องการอาจเป็นเพราะสิ่งที่เฉินฝูพูดในหมู่บ้านต้ากู่แย่เกินไป เฉินจินเซียงจึงพูดโดยตรงว่า หลังผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ นางก็จะไม่กลับมาอวยพรปีใหม่วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าคนทั้งหมู่บ้านซานเหอ ยุ่งมากขึ้นกว่าเดิม ทุกคนต่างเร่งรีบครั้งสุดท้ายภายในเรือนของเฉินฝานก็ไม่ต่างออกไปในวันนี้ สามพี่น้องตระกูลฉินตื่นเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 237

    “ต่อให้กระดาษแก้วตัดของข้าน้อยสวยแค่ไหน ก็มิสู้กลอนคู่ที่นายท่านเขียนเจ้าค่ะ กลอนคู่บทนี้แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของท่าน”“ตราบใดที่ท่านพยายามเต็มที่ แม้เพียงเล็กน้อยในทุก ๆ วัน ข้าน้อยก็ยินดีที่จะอยู่เคียงข้างท่าน ติดตามท่านอยู่ข้างหลังและสนับสนุนท่านตลอดไป”เฉินฝานยืนอยู่ด้านข้างฉินเย่ว์โหรว เขามองนางและฟังความคิดของนางอย่างเงียบสงบแท้จริงแล้ว คำพูดของภรรยาไม่ได้รู้สึกน่ารำคาญเสมอไป แต่ยังรู้สึกมีความสุขอีกด้วยหลังจากติดกลอนคู่เสร็จไม่นาน ครอบครัวของเฉินผิงก็มาถึงแล้ววันนี้ทั้งสองครอบครัวกินอาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วยกันและเฝ้าปีพร้อมกัน เมื่อมีความคึกคักเช่นนี้ บรรยากาศของเทศกาลก็พลอยเข้มข้นไปด้วยเฉินผิงกับภรรยาทำหน้าที่จัดการเนื้อไก่ เป็ดและปลาฉินเย่ว์โหรวกับเฉินต้ายาพาเด็กสองคนด้าข้างทำหน้าที่ห่อเกี๊ยวตอนที่เฉินฝานกลับมาจากหมู่บ้านต้ากู่ เขาเดินผ่านเกษตรกรเลี้ยงแกะจึงซื้อแกะกลับมาหนึ่งตัวเขากับฉินเย่ว์เจียวทำหน้าที่ย่างแกะทั้งตัวนอกจากเฉินฝาน ไม่มีใครเคยเห็นการย่างแกะทั้งตัวผู้ใหญ่ยังคงมีสมาธิและยุ่งอยู่กับงานของตนเอง แต่เด็กสองคนเหนื่อยล้าทนไม่ไหว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 238

    นางเจิ้งโบกมือให้ฉินเย่ว์ฉู่อย่างมีความสุข “เย่ว์ฉู่ ลุงกับป้าก็มีเงินปีใหม่ให้เจ้าเช่นกัน”ฉินเย่ว์ฉู่มองนางเจิ้งอย่างไม่กล้าเดินเข้ามา“ท่านป้าให้ เจ้าก็รับไว้เถอะ”ทันทีที่เฉินฝานพูดจบ ฉินเย่ว์ฉู่ก็วิ่งเตาะแตะเข้ามา“ขอบคุณท่านป้าเจ้าค่ะ ปีใหม่นี้ขอให้ท่านลุงกับท่านป้าสุขภาพแข็งแรง ทุกสิ่งสมปรารถนา ร่ำรวยเงินทองเจ้าค่ะ!”“ท่านแม่ ทำไมถึงมอบให้แต่พี่เย่ว์ฉู่ล่ะเจ้าคะ ไม่มีของข้าหรือเจ้าคะ?” เอ้อร์ยาทำหน้าบูดบึ้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ยัยเด็กคนนี้ จะไม่มีของเจ้าได้อย่างไรเล่า” นางเจิ้งหยิบเงินปีใหม่ออกมาอีกสองอันจากกระเป๋าเสื้อ “อ่ะ นี่คือของพ่อและแม่……”นางเจิ้งยังพูดไม่จบ เงินปีใหม่ในมือถูกเอ้อร์ยาเอาไปเรียบร้อย “ขอบคุณท่านพ่อ ขอบคุณท่านแม่!”“ต้ายา มีของเจ้าเหมือนกันนะ”“ขอบคุณท่านพ่อ ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ!” เฉินต้ายาแสดงสีหน้าเขินอาย“อย่ามัวแต่ขอบคุณพวกเราอีกเลย พวกเจ้าสองพี่น้องควรขอบคุณพี่เสี่ยวฝานมากที่สุด หากไม่มีพี่เสี่ยวฝานของเจ้า พวกเราจะมีเงินปีใหม่มอบให้พวกเจ้าได้อย่างไร?”“เสี่ยวฝาน ขอบคุณนะ!” เฉิงผิงที่เงียบมาตลอด กล่าวขอบคุณเฉินฝานด้วยใบหน้าซาบซึ้งใจอ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 239

    วันนี้ลมแรงและหนาวเป็นพิเศษเฉินฝานยกมือขึ้นปัดผมที่กระจัดกระจายบนใบหน้าของฉินเย่ว์เจียวออกไปทันใดนั้นใบหน้าแดงก่ำของฉินเย่ว์เจียวก็แสดงขึ้นต่อหน้าเฉินฝานไม่ได้หน้าแดง แต่แดงเพราะความเย็นเฉินฝานมองแล้วเอ็นดูมาก เขาจึงถอดหมวกออกแล้วสวมให้ฉินเย่ว์เจียวขณะที่จัดหมวกบนหัวของฉินเย่ว์เจียว เขาพลางสั่ง “วันนี้หนาวเกินไป เจ้าไม่ต้องรออยู่ที่นี่ กลับไปก่อนแล้วกลับมาอีกทีหลังเลิกเรียนนะ”“อืม ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะนายท่าน”ฉินเย่ว์เจียวผู้มีกล่องเสียงใหญ่ เสียงพูดในเวลานี้เบาดุจเสียงลูกแมวแม้ว่าปกตินางดูเป็นคนเรื่อยเฉื่อย แต่ในเรื่องของชายหญิง นางมีความเขินอายมากกว่าฉินเย่ว์โหรวอีกมีภรรยาของปัญญาชนมากมายอยู่ใกล้ ๆ และพวกเขากำลังมองมา“อันธพาลมาร่ำเรียน ก็ยังเป็นอันธพาลไม่เปลี่ยน ไม่รู้จักกาลเทศะเอาซะเลย”“ต่อหน้าสาธารณชน ทำตัวหนุงหนิงอย่างนั้น ช่างหน้าไม่อายเสียจริง”“มันไร้ยางอายจริง ๆ เห็นว่าตนเองมีรูปลักษณ์ที่ดีหน่อยงั้นรึ? ไม่มองสักหน่อยเลยหรือว่าที่นี่คือที่ไหน”“ใช่ นางคิดว่านางมีความสุขนั้นหรือ นั่นขัดต่อศีลธรรมต่างหาก”ผู้หญิงเหล่านั้นภายนอกเหมือนดูถูก แต่ความจริงในใจนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 240

    เฉินฝานหันกลับไปพบว่าเป็นเฉียนหย่งเหนียน“คำพูดพวกนั้น เจ้าอย่าเอามาใส่เลยนะ”“พี่หย่งเหนียนไม่ต้องกังวล ข้าไม่เก็บใส่ใจหรอก ปากอยู่บนตัวผู้อื่น ข้าคงปิดปากพวกเขาไม่ได้หรอก”“เจ้าคิดแบบนี้ก็ดีแล้ว”ขณะที่เฉียนหยงเหนียนพูด เขาพลางหยิบพู่กันด้ามใหม่ออกมาจากกระเป๋าไม้ไผ่แล้วมอบให้เฉินฝาน “อ่ะ นี่คือของขวัญปีใหม่สำหรับเจ้า”เฉินฝานรีบผลักมือของเฉียนหย่งเหนียนออกไป “พี่หย่งเหนียน วันก่อนพี่ก็ให้ของขวัญมากมายแก่ข้าแล้ว ข้ารับไม่ได้แล้วจริง ๆ”“สองสามวันก่อนนั่นพ่อข้าเป็นคนเตรียมให้เจ้า ตอนนี้เป็นของที่ข้าให้เจ้า”“พี่หย่ง......”“รับไปเถอะ อาจารย์มาแล้ว”ทันทีที่อาจารย์เฉียนมาถึง สถานศึกษาที่คึกคักในตอนแรกพลันเงียบลงทันใดเช่นเดียวกับทุกปีที่ผ่านมา วันแรกของการเปิดเรียน คือการคุกเข่านมัสการนักบุญหลีหลังจากบูชานักบุญเสร็จ อาจารย์เฉียนก็ประกาศเรื่องหนึ่งต่อทันทีนายอำเภอเพิ่งออกคำสั่งหนึ่งฉบับ ปัญญาชนที่อยู่ในรายชื่อปีนี้ทุกคนต้องเข้ารับการสอบขุนนางเหตุผลก็คือจำนวนผู้เข้ารับการสอบขุนนางในอำเภอผิงอัน ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอำเภออื่นต้องการเข้าร่วมการสอบ แต่จ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 241

    เฉินเจียงในวันนี้แต่งกายด้วยชุดชิงจินตัวใหม่ ชุดของเขาช่วยทำให้เขาดูสง่างามมากเป็นพิเศษเขาเดินมาตรงหน้าของเฉินฝานด้วยท่าทีอ่อนโยนและมีเมตตาเหมือนกับที่เขาแสดงกับท่านอา“เสี่ยวฝาน หากเจ้ายังมีสิ่งใดไม่เข้าใจหรือไม่รู้คำไหน เจ้ามาถามข้าที่บ้านได้ ข้าจะบอกทุกอย่างที่ข้ารู้กับเจ้า”“นี่เป็นการสอบครั้งแรกของเจ้า หากสอบไม่ผ่านย่อมเป็นเรื่องปกติ เจ้าเพิ่งศึกษาได้ไม่นาน สอบได้ที่สุดท้ายก็ย่อมเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเจ้าอย่าได้กดดันตัวเองมากเกินไป”การสอบยังไม่เริ่มด้วยซ้ำ เฉินเจียงกลับเอ่ยปลอบใจแล้วเขาคิดว่าเฉินฝานคงสอบไม่ผ่าน และคงจะรั้งท้ายของห้อง“เสี่ยวฝาน!”เฉียนหย่งเหนียนเดินมาตรงหน้าของเฉินฝาน “อย่ากลัว!ในห้องเรียนยังมีอีกหลายคนที่เหมือนกับเจ้า ทุกคนต่างก็สอบกันเป็นครั้งแรก แม้แต่เฉินเจียงอาของเจ้าก็ยังสอบเป็นครั้งแรก”เฉินเจียงสะบัดแขนเสื้อ เอามือไพล่หลัง และกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ข้าไม่เหมือนกับคนอื่น การสอบในฤดูใบไม้ผลิ สำหรับข้ามันเป็นเรื่องง่าย”“ข้าเองก็คิดว่าเฉินเจียงทำได้”“ใช่ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนพระคัมภีร์หรือถามตอบ เฉินเจียงโดดเด่นมากอยู่แล้ว”“ส่วนตัวข้าคิดว่าเฉินเจ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status