Share

บทที่ 1039

Penulis: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“พวกเฉินฝานยังกลับไม่ถึงเมืองเฟิ่งหวง พวกเขาเห็นคนกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ที่ประตูเมือง

คนพวกนั้น พวกเขาล้วนเป็นเด็ก สตรีและคนชราของพื้นที่ต้าเฮย

แม้พวกเขาไม่ได้ตามไป แต่พวกเขาทราบเรื่องหินนิลดำสามารถนำมาเป็นฟืนแล้ว

เฉินฝานเพิ่งเดินเข้าไปใกล้ประตูเมือง ชาวบ้านที่อยู่ตรงนั้น ต่างคุกเข่าลง

เฉินฝานยังไม่ทันได้ตั้งตัว นางเหอที่คุกเข่าด้านหน้าสุดพูดเสียงดัง

“ท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย ท่านคือเทพเซียนลงมาจุติเมืองเฟิ่งหวงของเรา!”

“ท่านอัครเสนาบดีเบื้องซ้าย ท่านคือเทพเซียนผู้ช่วยเหลือชาวบ้านจากความยากลำบาก!”

“ขอบคุณใต้เท้า ชาวเมืองเฟิ่งหวง จะระลึกถึงบุญคุณของท่านใต้เท้า”

ชาวบ้านด้านหลังนางเหอก็กล่าวขอบคุณเฉินฝานตามนางเหอ

เห็นเด็กสตรีและคนชราคุกเข่าขอบคุณเฉินฝาน พวกชาวบ้านที่ตามไปพื้นที่ต้าเฮย รวมถึงเหอจื้อเฟย ต่างก็คุกเข่าเช่นเดียวกัน

ชั่วขณะหนึ่ง เสียงกล่าวขอบคุณเฉินฝาน ดังสนั่นหวั่นไหว

การขอบคุณที่เป็นทางการและยิ่งใหญ่เช่นนี้ กลับทำให้เฉินฝานรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

“ลุกขึ้น ลุกขึ้นกันเถอะ!”

เฉินฝานรีบเดินเข้าไปใกล้ โน้มตัวพยุงนางเหอ

“ตอนนี้เพียงค้นพบเชื้อเพลิง หลังจากนี้ยังต้องตีตลาดอีก
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1040

    อิจฉาเหอจื้อเฟยที่โชคดีเช่นนี้เฉินฝานยื่นเอกสารในมือให้เหอจื้อเฟย“เอกสารนี้เป็นความลับ มีแค่ท่านเท่านั้นที่อ่านได้”“หลังจากกลับไป ท่านศึกษาทุกวัน ทุกภาพในนี้ ทุกข้อที่เขียนไว้ ล้วนเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้เมืองเฟิ่งหวงของพวกท่านร่ำรวยที่สุดในแคว้นต้าชิ่ง”คำพูดของเฉินฝานเกินจริงเล็กน้อยประเด็นสำคัญคือการตลาดบางส่วนที่เขียนไว้ ทำให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะแค้นอื่นเห็นแล้วไม่สบายใจนอกเหนือจากนี้ เฉินฝานพูดเช่นนี้ เพราะอยากให้เหอจื้อเฟยเห็นความสำคัญ ทำตามสิ่งที่เขาต้องการอย่างเข้มงวด“ขอรับ ใต้เท้า ข้าจะทำตามขอรับ!”ตอนเหอจื้อเฟยรับเอกสารมาจากมือของเฉินฝาน มือของเขาสั่นเทาเล็กน้อยเนื้อความในกระดาษเหล่านี้ มีเคล็ดลับที่จะทำให้ชาวเมืองเฟิ่งหวงมีชีวิตที่ร่ำรวยช่วยให้ชาวเมืองเฟิ่งหวงมีชีวิตที่ดี คือปรารถนาสูงสุดในชีวิตของเหอจื้อเฟย“อีกเรื่องหนึ่ง”เหอจื้อเฟยกำลังจะคุกเข่าขอบคุณ เฉินฝานพูดขึ้นอีก “ปล่อยตตัวเหอหรันออกมา เขาชำนาญพื้นที่ต้าเฮย ถ่านหินของพื้นที่ต้าเฮยต้องการเขา ให้เขานำสหายก่อนหน้านี้ช่วยกันทำถ่านอัดก้อน ถือเป็นโอกาสให้เขาทำความดีชดเชยความผิด”“ท่านใต้เท้า”เหอจื้อเฟย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1041

    เหล่าขุนนางต่างก็หันหน้ามองไปทางด้านนอก นอกพระราชวังไม่มีเงาของเฉินฝานอยู่เลยจริง ๆฉินเย่ว์เหมยที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันไปมองหงอิงที่อยู่ทางด้านข้างหงอิงพยักหน้าเล็กน้อย บ่งบอกว่าเหอจื่อหลินกลับมาคนเดียวจริง ๆ“จื่อหลิน เกิดอะไรขึ้น? เจ้ากลับมาคนเดียวหรือ?”เมื่อเหอจื่อหลินเดินผ่านเหอกัง เหอกังก็ถามด้วยความร้อนอกร้อนใจ“แม่ทัพเหอ ท่านขัดพระบัญชา!”ทางฝั่งเหอจื่อหลินเพิ่งจะพยักหน้า ทางเสิ่นหมิงหยวนก็ซักถามเสียงดังทันที เหอจื่อหลินนำพระราชโองการไป แต่เขาไม่ได้พาเฉินฝานกลับมาก็คือการขัดพระบัญชา“ขุนนางเหอ เรื่องมันเป็นมาอย่างไรกันแน่?” ฉินเย่ว์เหมยถาม“ฝ่าบาท!” เหอจื่อหลินหยิบถ่านขนาดใหญ่สองก้อนออกมาจากตัว “ก็เหมือนกับที่ใต้เท้าเฉินพูดไว้ นี่เป็นอัญมณีล้ำค่าอย่างแท้จริงพ่ะย่ะค่ะ”“แม่ทัพเหอ ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านกำลังพูดอะไรอยู่? ฝ่าบาททรงถามท่าน ท่านก็ตอบดี ๆ สิ? เหตุใดถึงขัดพระบัญชา? เฉินฝานหวาดกลัวจนหลบหนีไปแล้วใช่หรือไม่? ท่านปกป้องเขาใช่หรือไม่?” เสิ่นหมิงหยวนบีบคั้นอย่างรุนแรงเหอจื่อหลินก็ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอเช่นกัน เขาตอกกลับไปทันทีว่า “หากไม่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1042

    “ขายถ่านหิน?” เหอจื่อหลินอึ้งไปครู่หนึ่ง “เรื่องเล็กเช่นนี้ เหตุใดพวกท่านยังต้องให้ใต้เท้าไปด้วยตัวเองเล่า?” เมื่อพูดถึงตรงนี้ เหอจื่อหลินก็รู้สึกฉุนเฉียวในใจเล็กน้อยเกิดอะไรขึ้นกับขุนนางเมืองเฟิ่งหวงแห่งนี้ จัดการเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้เลยหรือ?“ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยไปขวางแล้ว แต่ใต้เท้าบอกว่ามีลูกค้าสองรายที่เขาจำเป็นต้องไปด้วยตัวเองขอรับ” เหอจื้อเฟยกล่าว“ลูกค้ารายไหนถึงได้สำคัญเพียงนี้?”“แคว้นจ้าวขอรับ ใต้เท้าบอกว่าหากไม่มีฮ่องเต้แคว้นจ้าว เขาก็คงไม่ได้มาที่เมืองเฟิ่งหวง และก็คงไม่ได้ค้นพบว่าเมืองเฟิ่งหวงมีเหมืองถ่านหินปริมาณมหาศาลเร็วขนาดนี้ นอกจากนี้เงินทุนตั้งต้นสามสิบล้านตำลึงของธุรกิจเหมืองถ่านหินเมืองเฟิ่งหวงก็เป็นเงินที่ฮ่องเต้แคว้นจ้าวมอบให้อีกด้วย เขาย่อมต้องไปขอบคุณอีกเบื้อง” เหอจื่อหลิน “...”ทำร้ายคนแบบนี้เลยเหรอ?ทันใดนั้นเหอจื่อหลินก็ลอบเป็นห่วงฮ่องเต้แคว้นจ้าว กังวลว่าเขาจะกระอักเลือดออกมาแล้วสิ้นชีพไป “แล้วลูกค้ารายที่สองเล่า เป็นผู้ใด?”“ข้าน้อยไม่ทราบ ใต้เท้าไม่ได้บอกไว้ขอรับ” เหอจื้อเฟยส่ายศีรษะ“เอาละ ข้ารู้แล้ว”เฉินฝานทำงานเช่นนี้เสมอ ดูแปลกและไร้กฎเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1043

    “พวกเขาคนหนึ่งเป็นอัครเสนาบดีแห่งต้าชิ่ง อีกคนเป็นท่านอ๋องแห่งต้าชิ่ง หากพระองค์สังหารพวกเขาสองคนก็เท่ากับประกาศสงครามกับต้าชิ่งนะพ่ะย่ะค่ะ!”“ดูสิ ขุนนางของท่านยังรู้ความมากกว่าท่านเสียอีก!” เสียงที่แฝงไปด้วยการหยอกล้อดังเข้ามาตรงหน้าทางเข้าท้องพระโรงมีร่างเงายืนหันหลังให้กับแสงคนผู้นั้น...“จะ...จะ...เจ้า...”จ้าวรุ่ยที่อยู่บนบัลลังก์มังกรลุกพรวดขึ้นมา ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความหวาดกลัวหลังจากกลับมาถึงแคว้นจ้าว จ้าวรุ่ยที่ยังรู้สึกหวาดผวาได้สั่งให้คนเพิ่มการคุ้มกันของวังหลวงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นวังหลวงของแคว้นจ้าวในตอนนี้พูดได้ว่ามีกองกำลังทหารจำนวนมากเฝ้าปกป้องคุ้มกันเป็นชั้น ๆ อย่าว่าแต่คนเลย ต่อให้เป็นแมลงวันสักตัวก็ไม่อาจบินเข้ามาได้เฉินฝานเข้ามาได้อย่างไร?“โตขนาดนี้แล้ว แต่ไม่รู้ความ แถมยังพูดจาติดอ่าง ควรได้รับการสั่งสอน”เฉินฝานเพิ่งจะเอ่ยจบ จ้าวรุ่ยก็รู้สึกได้ว่าเหมือนมีแรงกดดันมหาศาลอยู่ข้างกายเมื่อหันหน้ากลับไป...“เพียะ!” จ้าวรุ่ยรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดอย่างรุนแรงส่งมาจากตรงบั้นท้าย “เจ้า...”จ้าวรุ่ยเอามือข้างหนึ่งกุมบั้นท้ายไว้ตามสัญชาตญา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1044

    “ฝ่าบาท โปรดทรงใจเย็นด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ขุนนางคนอื่น ๆ ก็คุกเข่าห้ามปรามเช่นกัน“ฮึ!”จ้าวรุ่ยสะบัดแขนเสื้อนั่งลงบนบัลลังก์มังกรอย่างฉุนเฉียว ปรากฏว่าลืมไปเลยว่าบั้นท้ายเพิ่งโดนไม้เรียวฟาดมาก่อน“โอ๊ย!”จ้าวรุ่ยลูบบั้นท้ายเจ็บจนแยกเขี้ยว ท่าทางดูน่าขันมาก “ฮ่า ๆๆ!” อ๋องตวนที่ชมอย่างสนุกสนานพลันหัวเราะเสียงดัง“ท่านอ๋อง ใต้เท้าเฉิน!”เซี่ยงเทียนหยินเดินมาอยู่เบื้องหน้าอ๋องตวนและเฉินฝาน ก่อนจะประสานมือทำความเคารพความเย่อหยิ่งทระนงตนที่เขาเคยปฏิบัติกับเฉินฝานในท้องพระโรงของต้าชิ่งเวลานั้นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยนานแล้วหลังจากที่เซี่ยงเทียนหยินกลับไปถึงแคว้นจ้าว เขาก็สังเกตสถานการณ์ของแคว้นหลู่กับแคว้นต้าชิ่งอย่างใกล้ชิด ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ แคว้นหลู่ที่ได้รับการสนับสนุนเสบียงอาหารจากต้าชิ่ง ทำให้ปัญหาความอดอยากส่วนใหญ่ในแคว้นได้รับการแก้ไขแล้ว กองทัพแคว้นหลู่ที่มีเสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ก็คือกองทัพปีศาจร้ายที่ยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวบัดนี้แคว้นต้าชิ่งกับแคว้นหลู่เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว โอวหยางน่าหลันก็มารคลั่งรักปกป้องสามีหากจ้าวรุ่ยสังหารเฉินฝาน คนแรกที่บุกสังหารเข้ามาย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1045

    เวลามีค่า เขาไม่เคยเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์หากจะดั้นด้นมาถึงแคว้นจ้าวเพียงเพื่อจะมากวนประสาทใครสักคน เขาไม่ได้ไร้สาระและโง่เขลาเบาปัญญาถึงเพียงนั้น“พรวด!”จ้าวรุ่ยกระอักเลือดออกมาอีกคำ ตวาดด้วยความเดือดดาลว่า “ไป รีบให้พวกเขาไปเสีย”เฉินฝานยักไหล่ ในเมื่อฮ่องเต้จ้าวไม่อยากทำการซื้อขายก้อนใหญ่นี้ เช่นนั้นก็ช่างเถิด “ท่านอ๋อง พวกเราไปกันเถิด”“นี่!” เซี่ยงเทียนหยินพลันร้องเรียกเสียงต่ำ รีบร้อนไล่ตามเฉินฝาน “ใต้เท้าเฉิน อย่าเพิ่งไป ๆ ถ่านหินของเมืองเฟิ่งหวง แคว้นจ้าวของเราจะซื้อ!” ขณะที่จ้าวรุ่ยโกรธจนกระอักเลือด ขุนนางส่วนใหญ่ของแคว้นจ้าวก็เดือดดาลสุดขีด เฉินฝานหันหน้ากลับมา ยิ้มพลางมองเซี่ยงเทียนหยิน “ใต้เท้าเซี่ยง แคว้นเจ้าไม่มีท่านคงไม่ไหวแน่!” จ้าวรุ่ยที่ไม่เข้าใจเหตุผลในนั้นตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เซี่ยงเทียนหยิน แคว้นจ้าวของเราขาดฟืนขนาดนั้นเชียวหรือ?”“ฝ่าบาท ขาดพ่ะย่ะค่ะ!” เซี่ยงเทียนหยินตอบอย่างสงบนิ่งแคว้นจ้าวตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้งขาดฝน ภูเขาหัวโล้น ไม่มีป่าไม้อะไรเลยหากมีถ่านหินของเมืองเฟิ่งหวงก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องกา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1046

    “ว้าว! เสี่ยวฝาน นี่เจ้ามอบผลประโยชน์ให้แคว้นจ้าวไปมากมายเลยนะ!”ระหว่างกลางทาง อ๋องตวนที่จู่ ๆ ก็เข้าใจเหตุผลว่าทำไมจ้าวรุ่ยถึงทำตัวสนิทสนมกับพวกเขาถึงเพียงนั้นก็ร้องว้าวเสียงดังขึ้นมา “เสี่ยวฝาน แม้ว่าปัญหาบุรุษน้อยสตรีมากของต้าชิ่งเรายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวแคว้นจ้าวแล้ว ไม่ควรให้ผลประโยชน์มากมายถึงเพียงนั้นเลย!” “สมควรทำแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวแคว้นจ้าว แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแคว้นจ้าว เพิ่มมิตรสหายมาอีกคน ดีกว่าเพิ่มศัตรูมาอีกคน การแข่งขันระหว่างสองแคว้น ไม่จำเป็นต้องสู้รบกันเสมอไป การประสานความร่วมมือกับภายนอก ใช้วิธีการทางเศรษฐกิจ ผลที่ได้ออกมาดียิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” เฉินฝานอธิบาย แคว้นจ้าวตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือ แคว้นจ้าวได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากทางต้าชิ่ง เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเป็นพวกเดียวกับต้าชิ่งแล้วแคว้นจ้าวใช้ประโยชน์จากถ่านหินในมือทำการค้ากับแคว้นอื่น เช่นนี้เอง นอกจากแคว้นหูแล้ว แคว้นทั่วทั้งตะวันตกเฉียงเหนือล้วนต่อต้านต้าชิ่งไม่ได้แล้ว เมื่อแคว้นหูเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ค่อนข้างมาก พวกเขาก็จะไม่กล้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1047

    เฉินฝานขมวดคิ้ว “ก็แค่ไฟป่าบนภูเขาไม่ใช่เหรอ? เหตุใดสวรรค์ถึงพิโรธเล่า?”“เฮ้อ ครั้งนี้ไม่ใช่ไฟป่าบนภูเขาธรรมดาหรอกนะ ทุกมณฑลทั่วทั้งแคว้นหลู่ล้วนถูกไฟไหม้แล้ว นอกจากนี้ไฟก็ไหม้ต่อเนื่องกันมาครึ่งเดือนแล้ว! เจ้าว่าหากไม่ใช่เพราะสวรรค์พิโรธ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ทุกมณฑลเกิดไฟไหม้กันหมด แถมดับอย่างไรก็ดับไม่สำเร็จ!”“ทุกมณฑล? ดับไม่ได้?”ความคิดแรกในใจของเฉินฝาน นี่คือไฟไหม้ที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์!“บังเอิญขนาดนั้นเชียว? นี่คงไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์หรอกกระมัง? แล้วองค์หญิงไม่ส่งคนมาตรวจสอบเลยหรือ”“ฝีมือมนุษย์อะไรกันเล่า เซียนหลายคนต่างบอกว่าแคว้นหลู่ทำให้สวรรค์พิโรธ ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นจากองค์หญิง...” “เพียะ!” สตรีที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มพลันตบหลังของเขาไปหนึ่งที “กล้าพูดเรื่ององค์หญิงที่นี่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร?” ชายหนุ่มพยักหน้าติดต่อกัน “เจ้าพูดถูก พูดไม่ได้แล้ว เมื่อครู่นี้ข้าลืมไปชั่วขณะ พี่ใหญ่ รีบกลับไปเร็ว ๆ เถิด อย่าเข้าไปในเมืองตงเจียวเลย ไฟลามเข้าไปในเมืองแล้ว” “เฮ้อ เจ้ารีบไปเถอะ!”ชายหนุ่มถูกภรรยาของเขาลากตัวไป เมื่อมองดูฝูงชนที่ผ่านไปมาอย่างอลหม่า

Bab terbaru

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status