Share

บทที่ 1046

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ว้าว! เสี่ยวฝาน นี่เจ้ามอบผลประโยชน์ให้แคว้นจ้าวไปมากมายเลยนะ!”

ระหว่างกลางทาง อ๋องตวนที่จู่ ๆ ก็เข้าใจเหตุผลว่าทำไมจ้าวรุ่ยถึงทำตัวสนิทสนมกับพวกเขาถึงเพียงนั้นก็ร้องว้าวเสียงดังขึ้นมา

“เสี่ยวฝาน แม้ว่าปัญหาบุรุษน้อยสตรีมากของต้าชิ่งเรายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวแคว้นจ้าวแล้ว ไม่ควรให้ผลประโยชน์มากมายถึงเพียงนั้นเลย!”

“สมควรทำแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวแคว้นจ้าว แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแคว้นจ้าว เพิ่มมิตรสหายมาอีกคน ดีกว่าเพิ่มศัตรูมาอีกคน การแข่งขันระหว่างสองแคว้น ไม่จำเป็นต้องสู้รบกันเสมอไป การประสานความร่วมมือกับภายนอก ใช้วิธีการทางเศรษฐกิจ ผลที่ได้ออกมาดียิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” เฉินฝานอธิบาย

แคว้นจ้าวตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือ แคว้นจ้าวได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากทางต้าชิ่ง เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเป็นพวกเดียวกับต้าชิ่งแล้ว

แคว้นจ้าวใช้ประโยชน์จากถ่านหินในมือทำการค้ากับแคว้นอื่น เช่นนี้เอง นอกจากแคว้นหูแล้ว แคว้นทั่วทั้งตะวันตกเฉียงเหนือล้วนต่อต้านต้าชิ่งไม่ได้แล้ว

เมื่อแคว้นหูเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ค่อนข้างมาก พวกเขาก็จะไม่กล้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1047

    เฉินฝานขมวดคิ้ว “ก็แค่ไฟป่าบนภูเขาไม่ใช่เหรอ? เหตุใดสวรรค์ถึงพิโรธเล่า?”“เฮ้อ ครั้งนี้ไม่ใช่ไฟป่าบนภูเขาธรรมดาหรอกนะ ทุกมณฑลทั่วทั้งแคว้นหลู่ล้วนถูกไฟไหม้แล้ว นอกจากนี้ไฟก็ไหม้ต่อเนื่องกันมาครึ่งเดือนแล้ว! เจ้าว่าหากไม่ใช่เพราะสวรรค์พิโรธ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ทุกมณฑลเกิดไฟไหม้กันหมด แถมดับอย่างไรก็ดับไม่สำเร็จ!”“ทุกมณฑล? ดับไม่ได้?”ความคิดแรกในใจของเฉินฝาน นี่คือไฟไหม้ที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์!“บังเอิญขนาดนั้นเชียว? นี่คงไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์หรอกกระมัง? แล้วองค์หญิงไม่ส่งคนมาตรวจสอบเลยหรือ”“ฝีมือมนุษย์อะไรกันเล่า เซียนหลายคนต่างบอกว่าแคว้นหลู่ทำให้สวรรค์พิโรธ ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นจากองค์หญิง...” “เพียะ!” สตรีที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มพลันตบหลังของเขาไปหนึ่งที “กล้าพูดเรื่ององค์หญิงที่นี่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร?” ชายหนุ่มพยักหน้าติดต่อกัน “เจ้าพูดถูก พูดไม่ได้แล้ว เมื่อครู่นี้ข้าลืมไปชั่วขณะ พี่ใหญ่ รีบกลับไปเร็ว ๆ เถิด อย่าเข้าไปในเมืองตงเจียวเลย ไฟลามเข้าไปในเมืองแล้ว” “เฮ้อ เจ้ารีบไปเถอะ!”ชายหนุ่มถูกภรรยาของเขาลากตัวไป เมื่อมองดูฝูงชนที่ผ่านไปมาอย่างอลหม่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1048

    “ไม่รู้สิ ข้านึกว่าเจ้ารู้”“ข้าเองก็นึกว่าเจ้ารู้เหมือนกัน? พวกเราบอกเขาไปแบบนี้ว่าองค์หญิงอยู่ที่ใด จะโดนตัดหัวได้นะ” “เจ้าอย่าขู่ตัวเองให้กลัวเลย น่าจะเป็นใต้เท้าสักท่านกระมัง องค์หญิงเสด็จมาแล้ว พวกใต้เท้าในราชสำนักก็มากันเจ็ดแปดส่วนแล้ว ทหารตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเราไม่รู้จักก็เป็นเรื่องปกติ!”“เจ้าพูดแบบนี้ก็ถูก”หลังจากที่ทหารทั้งสองพูดปลอบใจกันเองเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ยืนเฝ้ายามอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ“พวกเจ้าสองคน!”ทหารสองคนนั้นเพิ่งจะวางใจ ก็มีแม่ทัพสวมเกราะคนหนึ่งเดินเข้ามา“ท่านแม่ทัพ!”เมื่อเห็นคนผู้นั้น ทหารทั้งสองรีบก้มหน้าคารวะคนที่มาคือ อวิ๋นเฟิง รองแม่ทัพของอวิ๋นเต๋อ หน้าที่หลักของเขาคือรับผิดชอบความปลอดภัยของค่าย“เมืองกำลังถูกไฟเผาผลาญ เวลานี้รอบด้านโกลาหลวุ่นวาย เพื่อรักษาความปลอดภัยขององค์หญิง พวกเจ้าต้องระวังคนเข้าออกให้ดี” อวิ๋นเฟิงพูดพลางยื่นภาพวาดกองหนึ่งให้ทหารสองคนนั้น “บุคคลเหล่านี้คือบรรดาใต้เท้าที่ติดตามองค์หญิงมาในครั้งนี้ พวกเจ้าจงแยกแยะให้ด คนที่ไม่ได้อยู่บนภาพ ไม่ได้รับอนุญาตจากแม่ทัพใหญ่หรือองค์หญิง จะปล่อยให้เข้าค่ายไม่ได้เป็นอันขาด” “รั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1049

    “พวกเจ้าก็เฝ้าไว้ให้ดี ถามมากเพื่ออะไร?”ทันใดนั้นก็มือใหญ่ข้างหนึ่งก็ฟาดลงบนศีรษะของทหารร่างสูงและร่างเตี้ยอย่างแรงฟาดไปอีกสองที“เขาเป็นใครอีกเล่า?”ทหารทั้งสองมองอ๋องตวนที่ตามเฉินฝานเข้าไปในเมืองตงเจียว ก่อนจะทำสีหน้างุนงงวันนี้พวกเขาช่างโชคร้ายเสียจริง.....กระโจมของโอวหยางน่าหลัน“ฝานหลาง ฝานหลาง!”โอวหยางน่าหลันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นนางมองไปยังกระโจมที่ว่างเปล่าไม่มีผู้ใดสักคนที่อยู่เบื้องหน้า แล้วอดหัวเราะหยันกับตัวเองไม่ได้เมื่อครู่นางถึงกับคิดไปเองว่านางเห็นเฉินฝานตอนนั้น นางถูกควันไฟรมจนลืมตาไม่ขึ้น ลมหายใจก็รู้สึกลำบาก นางกุมหน้าอกรู้สึกทรมานมากจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้วในตอนนั้นเอง เขาก็วิ่งตรงมาหานางจากท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง ปกป้องนางไว้ในอ้อมแขนเสียงของเขาเร่งร้อนและโกรธเกรี้ยวมาก ตำหนินางไม่หยุดเฉินฝานตำหนิว่าอะไรไปบ้างนั้น โอวหยางน่าหลันจำไม่ได้แล้วเพราะในตอนนั้น นางมองเฉินฝานแล้วยิ้มอย่างโง่งมหลังจากนั้น...นางก็พบว่าตนเองนอนอยู่ในกระโจมโอวหยางน่าหลันส่ายหน้าหัวเราะหยันตนเองอีกครั้งไม่นึกเลยว่านางก็กลายเป็นหญิงสาวที่เฝ้าคิดถึงสามีทุกวี่วันไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1050

    ที่แท้นางไม่ได้คิดไปเอง เป็นเฉินฝาน เฉินฝานมาแล้วจริง ๆ“ท่านพี่ฝาน! ท่านพี่ฝาน!”โอวหยางน่าหลันตื่นเต้นจนวิ่งออกไปข้างนอก ผลปรากฏว่ายังเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกบรรดานางกำนัลขวางไว้ ไม่เพียงแต่นางกำนัลที่ขวางไว้ แม้แต่ทหารองครักษ์ข้างกายนางที่อยู่ด้านนอกกระโจมก็เข้ามาขวางไว้เช่นกัน“องค์หญิง ท่านอัครเสนาบดีบอกว่าท่านจะเข้าไปในเมืองไม่ได้!”“พวกเจ้ารีบหลีกไปนะ!”“ข้าเป็นองค์หญิง พวกเจ้าต้องเชื่อฟังข้า!”“พวกหม่อมฉันเชื่อฟังท่านอัครเสนาบดีเพคะ”“...”โอวหยางน่าหลันโกรธมาก แต่ในใจก็มีความรู้สึกปีติยินดีอย่างเต็มเปี่ยมนางที่เกิดในราชวงศ์แห่งแคว้นหลู่ เมื่อเกิดมาก็มีผู้คนรายล้อมมากมาย ทุกคนล้วนให้ความเคารพนาง ทุกคนปฏิบัติกับนางอย่างระมัดระวังและดียิ่ง กลัวนางจะชนหรือกระแทกแต่นางไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรักจากการปกป้องอย่างระมัดระวังเหล่านั้นเลยนางรู้ดีว่าที่คนเหล่านั้นปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดีก็เพราะฐานะของนาง เพราะเกรงกลัวนางไม่เคยมีใครกล้าพูดเสียงดังใส่นาง ไม่เคยมีใครกล้าห้ามไม่ให้นางออกไปไหนความแข็งกร้าวของเฉินฝานในตอนนี้ นางไม่เพียงไม่โกรธ ตรงกันข้ามในใจกลับรู้สึกอบอุ่น น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1051

    อัคคีภัยครั้งนี้ไร้หนทางยับยั้งแล้ว ทว่าคนเหล่านี้ยังยืนกรานที่จะดับไฟไม่ว่าโอวหยางน่าหลันจะอยู่ที่แห่งนี้หรือไม่ ฝูงชนมักจะเป็นเช่นนี้เสมอไม่ว่าเฉินฝานจะพูดเกลี้ยกล่อมอย่างไร ล้วนไม่มีผู้ใดฟังเขาและยังด่าเขาว่าหากเขากลัวตายก็ให้รีบหนีตายเหมือนคนที่ขี้ขลาดตาขาวเหล่านั้นไปเสียไฟมหึมาลุกลามขยายวงกว้างด้วยความรวดเร็วสุดขีด ทำให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ที่เข้าไปช่วยดับไฟริบหรี่ลงไปทุกทีไม่ได้มีเพียงเหล่าทหาร เสนาบดีจำนวนมากก็เข้าไปช่วยสาเหตุที่ฝูงชนทุ่มเทสุดชีวิต ถึงขั้นยอมสละชีพก็ต้องดับไฟให้ได้ปานนั้นเป็นเพราะทุกคนในแค้วนหลู่ล้วนคิดว่าเมืองตงเจียวเป็นอาณาบริเวณที่รากฐานการครองบัลลังก์ของแคว้นหลู่สถิตอยู่บรรพบุรุษที่ก่อตั้งแคว้นหลู่ เกิดที่เมืองตงเจียว แร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นหลู่ก็ถูกค้นพบที่เมืองตงเจียวเป็นที่แรกเช่นกันหากเมืองตงเจียวมอดไหม้ รากฐานของแคว้นหลู่ก็มอดไหม้เช่นกัน“ออกจากเมือง ทุกคนจงออกจากเมือง!”เฉินฝานที่ถือตราพยัคฆ์ออกคำสั่งทันที“เจ้าเป็นใครกันแน่? ไฉนจึงพร่ำกล่าวให้พวกเราออกจากเมืองอยู่ได้?”“หากขลาดกลัว ก็ออกไปเองสิ อยู่ที่นี้ไปก็เกะกะเปล่าๆ”เหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1052

    “ท่าน ท่าน ท่านอัครเสนาบดีงั้นรึ?”ขุนนางที่เร่งเร้าให้อวิ๋นเต๋อจัดการกับเฉินฝานเมื่อครู่ ขาอ่อนยวบทั้งสองข้างทรุดตัวลงไปทันที“เจ้านามว่าอันใด? ตำแหน่งอันใด?” อ๋องตวนเตะพลางกล่าวถามขุนนางที่ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นผู้นั้น“ข้า ข้าน้อยเป็นเลขาธิการกรมพิธีการเซี่ยซวินชางขอรับ!”“เสี่ยวฝาน” อ๋องตวนหันหน้าไปพูดกับเฉินฝาน “เลขาธิการกรมพิธีการทุกคนล้วนชอบเอะอะโวยวายหรือกระไร ควรจะจัดการดีหรือไม่?”“เอะอะโวยวายจริง ๆ” เฉินฝานกล่าวอย่างเรียบนิ่งตอนนี้เขายังไม่มีเวลามาจัดการกับเซี่ยซวินชาง ต้องให้ความสำคัญกับไฟไหม้ก่อน“อวิ๋นเต๋อ ข้าขอให้สั่งให้เจ้าอพยพคนออกจากเมืองตงเจียวทั้งหมด อย่าลืมล่ะ ต้องอพยพทุกคนที่อยู่ด้านในนั้นของเจ้าด้วย!”“ขอรับ ท่านอัครเสนาบดี!”อวิ๋นเต๋อเพิ่งจะหันกายไปเตรียมที่ออกคำสั่ง ฝูงชนกลับคุกเข่าตะโกนคัดค้านทันทีคนที่คุกเข่าขอร้องมีทั้งราษฎรเมืองตงเจียวและเสนาบดีในราชสำนัก“ท่านแม่ทัพ จะออกคำสั่งไม่ได้นะขอรับ หากพวกเราอพยพออกจะเมืองตงเจียวไปเมืองนี้ก็จะสูญสิ้นแล้ว”“หากสูญสิ้นเมืองตงเจียวแล้ว รากฐานการปกครองของแคว้นหลู่ของพวกเราก็สูญสิ้นเช่นกัน”“อัครเสนาบดี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1053

    “ทุกคนฟังคำสั่ง จงออกจากเมืองเดี๋ยวนี้!”ในที่สุดอวิ๋นเต๋อก็ยอมฟังเฉินฝาน ออกคำสั่งอพยพอย่างแข็งกร้าวถึงแม้ว่าคนจำนวนมากจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมอพยพตามคำสั่งตอนที่อพยพออกจากเมือง สายตาของเหล่าราษฎรและพลทหารแคว้นหลู่ที่มองเฉินฝานซับซ้อนสุดขีดทั้งเคียดแค้นและหวาดกลัวเคียดแค้นเพราะเฉินฝานทำแคว้นหลู่ต้องทำผิดต่อสรวงสวรรค์หวาดกลัวเพราะเขาบอกว่าไฟจะลุกโชนมากกว่าเดิม ก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ บอกว่าโรงเตี๊ยมจะพังถล่มก็พังลงมาจริงๆ เขาไม่ต่างอันกับปีศาจที่จำแลงกายมาหลังจากที่ออกจากเมืองไปแล้ว เฉินฝานก็ออกคำสั่งที่สองทันที!“ทุกคน อย่ากลับไปที่ค่ายทหาร ต้องล่าถอยไปอีกสิบลี้ นี่คือคำสั่ง!”“อะไรกัน? แม้กระทั่งค่ายทหารยังกลับไม่ได้ และยังต้องล่าถอยไปอีกงั้นรึ?”“ความหมายของใต้เท้าคือเพราะไฟโหมลุกลามปานนี้แล้ว พวกเราต้องละทิ้งเมืองตงเจียวจริงๆแล้วงั้นรึ?”เมื่อได้ยินคำสั่งที่สองของเฉินฝาน เหล่าเสนาบดีก็รุดหน้าออกมาโต้แย้ง ไม่รู้เป็นเพราะอยู่ในสภาวะปลอดภัยชั่วคราวหรือไม่ การโต้แย้งครั้งนี้ของเหล่าเสนาบดีดุดันเป็นพิเศษ“ใต้เท้า ท่านจะออกคำสั่งส่งเดช เพียงเพราะท่านไม่ใช่คนแคว้นหลู่อย่างพวกเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1054

    “เจ็บนะเจ้าคะ!” โอวหยางน่าหลันหน้านิ่วคิ้วขมวด“ข้าสั่งห้ามไว้แล้วมิใช่รึ? ใครอนุญาตให้เจ้าออกมา?” เฉินฝานแสร้งทำเป็นโกรธ“ท่านพี่ฝาน ท่านออกคำสั่งให้ล่าถอยไปอีกสิบลี้มิใช่หรือ? ข้าก็ต้องออกอยู่แล้วสิ!”“......ได้ ในเมื่อเจ้าออกมาแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็รีบออกคำสั่งเถอะ!”“ได้เจ้าค่ะ!”“จ๊วบ!”ก่อนที่จะลงจากอ้อมกอดเฉินฝานไปโอวหยางน่าหลันก็จูบเฉินฝานไปหนึ่งที“บัดสีบัดเถลิง ๆ!”การกระทำของโอวหยางน่าหลัน ทำให้ฝูงชนแตกตื่นโดยเฉพาะเหล่าคนที่อายุเยอะ ข่มอารมณ์จนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเฉินฝานลอบส่ายหน้าทั้ง ๆที่โอวหยางน่าหลันผู้นี้เป็นคนยุคโบราณแท้ ๆ กลับมีความคิดเปิดกว้างคล้ายคลึงกับคนยุคปัจจุบันอย่างมากดังนั้น ช่วงก่อนเฉินฝานลอบทดสอบโอวหยางน่าหลัน จงใจใช้ภาษาอังกฤษทักทายโอวหยางน่าหลัน ตอนที่นางรบเร้าให้เขาสอน ‘คาถา’ที่น่าสนุกให้ เฉินฝานจึงมั่นใจว่านางเป็นคนยุคโบราณอย่างแท้จริงเมื่อลงจากอ้อมอกเฉินฝานมาเผชิญกับเหล่าเสนาบดีและราษฎรที่ก้มคำนับ โอวหยางน่าหลันมิมีท่าทีออดอ้อนเหมือนกับตอนที่อยู่ต่อหน้าเฉินฝานแล้วสีหน้าของนางจริงจังแววตาเคร่งขรึม“หากข้าได้ยินใครพูดจาส่งเดชอีก มิว่าจะ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status