แชร์

บทที่ 1045

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เวลามีค่า

เขาไม่เคยเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์

หากจะดั้นด้นมาถึงแคว้นจ้าวเพียงเพื่อจะมากวนประสาทใครสักคน เขาไม่ได้ไร้สาระและโง่เขลาเบาปัญญาถึงเพียงนั้น

“พรวด!”

จ้าวรุ่ยกระอักเลือดออกมาอีกคำ ตวาดด้วยความเดือดดาลว่า “ไป รีบให้พวกเขาไปเสีย”

เฉินฝานยักไหล่ ในเมื่อฮ่องเต้จ้าวไม่อยากทำการซื้อขายก้อนใหญ่นี้ เช่นนั้นก็ช่างเถิด

“ท่านอ๋อง พวกเราไปกันเถิด”

“นี่!” เซี่ยงเทียนหยินพลันร้องเรียกเสียงต่ำ รีบร้อนไล่ตามเฉินฝาน “ใต้เท้าเฉิน อย่าเพิ่งไป ๆ ถ่านหินของเมืองเฟิ่งหวง แคว้นจ้าวของเราจะซื้อ!”

ขณะที่จ้าวรุ่ยโกรธจนกระอักเลือด ขุนนางส่วนใหญ่ของแคว้นจ้าวก็เดือดดาลสุดขีด เฉินฝานหันหน้ากลับมา ยิ้มพลางมองเซี่ยงเทียนหยิน

“ใต้เท้าเซี่ยง แคว้นเจ้าไม่มีท่านคงไม่ไหวแน่!”

จ้าวรุ่ยที่ไม่เข้าใจเหตุผลในนั้นตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เซี่ยงเทียนหยิน แคว้นจ้าวของเราขาดฟืนขนาดนั้นเชียวหรือ?”

“ฝ่าบาท ขาดพ่ะย่ะค่ะ!”

เซี่ยงเทียนหยินตอบอย่างสงบนิ่ง

แคว้นจ้าวตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้งขาดฝน ภูเขาหัวโล้น ไม่มีป่าไม้อะไรเลย

หากมีถ่านหินของเมืองเฟิ่งหวงก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องกา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1046

    “ว้าว! เสี่ยวฝาน นี่เจ้ามอบผลประโยชน์ให้แคว้นจ้าวไปมากมายเลยนะ!”ระหว่างกลางทาง อ๋องตวนที่จู่ ๆ ก็เข้าใจเหตุผลว่าทำไมจ้าวรุ่ยถึงทำตัวสนิทสนมกับพวกเขาถึงเพียงนั้นก็ร้องว้าวเสียงดังขึ้นมา “เสี่ยวฝาน แม้ว่าปัญหาบุรุษน้อยสตรีมากของต้าชิ่งเรายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวแคว้นจ้าวแล้ว ไม่ควรให้ผลประโยชน์มากมายถึงเพียงนั้นเลย!” “สมควรทำแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวแคว้นจ้าว แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแคว้นจ้าว เพิ่มมิตรสหายมาอีกคน ดีกว่าเพิ่มศัตรูมาอีกคน การแข่งขันระหว่างสองแคว้น ไม่จำเป็นต้องสู้รบกันเสมอไป การประสานความร่วมมือกับภายนอก ใช้วิธีการทางเศรษฐกิจ ผลที่ได้ออกมาดียิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” เฉินฝานอธิบาย แคว้นจ้าวตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือ แคว้นจ้าวได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากทางต้าชิ่ง เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเป็นพวกเดียวกับต้าชิ่งแล้วแคว้นจ้าวใช้ประโยชน์จากถ่านหินในมือทำการค้ากับแคว้นอื่น เช่นนี้เอง นอกจากแคว้นหูแล้ว แคว้นทั่วทั้งตะวันตกเฉียงเหนือล้วนต่อต้านต้าชิ่งไม่ได้แล้ว เมื่อแคว้นหูเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ค่อนข้างมาก พวกเขาก็จะไม่กล้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1047

    เฉินฝานขมวดคิ้ว “ก็แค่ไฟป่าบนภูเขาไม่ใช่เหรอ? เหตุใดสวรรค์ถึงพิโรธเล่า?”“เฮ้อ ครั้งนี้ไม่ใช่ไฟป่าบนภูเขาธรรมดาหรอกนะ ทุกมณฑลทั่วทั้งแคว้นหลู่ล้วนถูกไฟไหม้แล้ว นอกจากนี้ไฟก็ไหม้ต่อเนื่องกันมาครึ่งเดือนแล้ว! เจ้าว่าหากไม่ใช่เพราะสวรรค์พิโรธ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ทุกมณฑลเกิดไฟไหม้กันหมด แถมดับอย่างไรก็ดับไม่สำเร็จ!”“ทุกมณฑล? ดับไม่ได้?”ความคิดแรกในใจของเฉินฝาน นี่คือไฟไหม้ที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์!“บังเอิญขนาดนั้นเชียว? นี่คงไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์หรอกกระมัง? แล้วองค์หญิงไม่ส่งคนมาตรวจสอบเลยหรือ”“ฝีมือมนุษย์อะไรกันเล่า เซียนหลายคนต่างบอกว่าแคว้นหลู่ทำให้สวรรค์พิโรธ ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นจากองค์หญิง...” “เพียะ!” สตรีที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มพลันตบหลังของเขาไปหนึ่งที “กล้าพูดเรื่ององค์หญิงที่นี่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร?” ชายหนุ่มพยักหน้าติดต่อกัน “เจ้าพูดถูก พูดไม่ได้แล้ว เมื่อครู่นี้ข้าลืมไปชั่วขณะ พี่ใหญ่ รีบกลับไปเร็ว ๆ เถิด อย่าเข้าไปในเมืองตงเจียวเลย ไฟลามเข้าไปในเมืองแล้ว” “เฮ้อ เจ้ารีบไปเถอะ!”ชายหนุ่มถูกภรรยาของเขาลากตัวไป เมื่อมองดูฝูงชนที่ผ่านไปมาอย่างอลหม่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1048

    “ไม่รู้สิ ข้านึกว่าเจ้ารู้”“ข้าเองก็นึกว่าเจ้ารู้เหมือนกัน? พวกเราบอกเขาไปแบบนี้ว่าองค์หญิงอยู่ที่ใด จะโดนตัดหัวได้นะ” “เจ้าอย่าขู่ตัวเองให้กลัวเลย น่าจะเป็นใต้เท้าสักท่านกระมัง องค์หญิงเสด็จมาแล้ว พวกใต้เท้าในราชสำนักก็มากันเจ็ดแปดส่วนแล้ว ทหารตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเราไม่รู้จักก็เป็นเรื่องปกติ!”“เจ้าพูดแบบนี้ก็ถูก”หลังจากที่ทหารทั้งสองพูดปลอบใจกันเองเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ยืนเฝ้ายามอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ“พวกเจ้าสองคน!”ทหารสองคนนั้นเพิ่งจะวางใจ ก็มีแม่ทัพสวมเกราะคนหนึ่งเดินเข้ามา“ท่านแม่ทัพ!”เมื่อเห็นคนผู้นั้น ทหารทั้งสองรีบก้มหน้าคารวะคนที่มาคือ อวิ๋นเฟิง รองแม่ทัพของอวิ๋นเต๋อ หน้าที่หลักของเขาคือรับผิดชอบความปลอดภัยของค่าย“เมืองกำลังถูกไฟเผาผลาญ เวลานี้รอบด้านโกลาหลวุ่นวาย เพื่อรักษาความปลอดภัยขององค์หญิง พวกเจ้าต้องระวังคนเข้าออกให้ดี” อวิ๋นเฟิงพูดพลางยื่นภาพวาดกองหนึ่งให้ทหารสองคนนั้น “บุคคลเหล่านี้คือบรรดาใต้เท้าที่ติดตามองค์หญิงมาในครั้งนี้ พวกเจ้าจงแยกแยะให้ด คนที่ไม่ได้อยู่บนภาพ ไม่ได้รับอนุญาตจากแม่ทัพใหญ่หรือองค์หญิง จะปล่อยให้เข้าค่ายไม่ได้เป็นอันขาด” “รั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1049

    “พวกเจ้าก็เฝ้าไว้ให้ดี ถามมากเพื่ออะไร?”ทันใดนั้นก็มือใหญ่ข้างหนึ่งก็ฟาดลงบนศีรษะของทหารร่างสูงและร่างเตี้ยอย่างแรงฟาดไปอีกสองที“เขาเป็นใครอีกเล่า?”ทหารทั้งสองมองอ๋องตวนที่ตามเฉินฝานเข้าไปในเมืองตงเจียว ก่อนจะทำสีหน้างุนงงวันนี้พวกเขาช่างโชคร้ายเสียจริง.....กระโจมของโอวหยางน่าหลัน“ฝานหลาง ฝานหลาง!”โอวหยางน่าหลันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นนางมองไปยังกระโจมที่ว่างเปล่าไม่มีผู้ใดสักคนที่อยู่เบื้องหน้า แล้วอดหัวเราะหยันกับตัวเองไม่ได้เมื่อครู่นางถึงกับคิดไปเองว่านางเห็นเฉินฝานตอนนั้น นางถูกควันไฟรมจนลืมตาไม่ขึ้น ลมหายใจก็รู้สึกลำบาก นางกุมหน้าอกรู้สึกทรมานมากจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้วในตอนนั้นเอง เขาก็วิ่งตรงมาหานางจากท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง ปกป้องนางไว้ในอ้อมแขนเสียงของเขาเร่งร้อนและโกรธเกรี้ยวมาก ตำหนินางไม่หยุดเฉินฝานตำหนิว่าอะไรไปบ้างนั้น โอวหยางน่าหลันจำไม่ได้แล้วเพราะในตอนนั้น นางมองเฉินฝานแล้วยิ้มอย่างโง่งมหลังจากนั้น...นางก็พบว่าตนเองนอนอยู่ในกระโจมโอวหยางน่าหลันส่ายหน้าหัวเราะหยันตนเองอีกครั้งไม่นึกเลยว่านางก็กลายเป็นหญิงสาวที่เฝ้าคิดถึงสามีทุกวี่วันไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1050

    ที่แท้นางไม่ได้คิดไปเอง เป็นเฉินฝาน เฉินฝานมาแล้วจริง ๆ“ท่านพี่ฝาน! ท่านพี่ฝาน!”โอวหยางน่าหลันตื่นเต้นจนวิ่งออกไปข้างนอก ผลปรากฏว่ายังเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกบรรดานางกำนัลขวางไว้ ไม่เพียงแต่นางกำนัลที่ขวางไว้ แม้แต่ทหารองครักษ์ข้างกายนางที่อยู่ด้านนอกกระโจมก็เข้ามาขวางไว้เช่นกัน“องค์หญิง ท่านอัครเสนาบดีบอกว่าท่านจะเข้าไปในเมืองไม่ได้!”“พวกเจ้ารีบหลีกไปนะ!”“ข้าเป็นองค์หญิง พวกเจ้าต้องเชื่อฟังข้า!”“พวกหม่อมฉันเชื่อฟังท่านอัครเสนาบดีเพคะ”“...”โอวหยางน่าหลันโกรธมาก แต่ในใจก็มีความรู้สึกปีติยินดีอย่างเต็มเปี่ยมนางที่เกิดในราชวงศ์แห่งแคว้นหลู่ เมื่อเกิดมาก็มีผู้คนรายล้อมมากมาย ทุกคนล้วนให้ความเคารพนาง ทุกคนปฏิบัติกับนางอย่างระมัดระวังและดียิ่ง กลัวนางจะชนหรือกระแทกแต่นางไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรักจากการปกป้องอย่างระมัดระวังเหล่านั้นเลยนางรู้ดีว่าที่คนเหล่านั้นปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดีก็เพราะฐานะของนาง เพราะเกรงกลัวนางไม่เคยมีใครกล้าพูดเสียงดังใส่นาง ไม่เคยมีใครกล้าห้ามไม่ให้นางออกไปไหนความแข็งกร้าวของเฉินฝานในตอนนี้ นางไม่เพียงไม่โกรธ ตรงกันข้ามในใจกลับรู้สึกอบอุ่น น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1051

    อัคคีภัยครั้งนี้ไร้หนทางยับยั้งแล้ว ทว่าคนเหล่านี้ยังยืนกรานที่จะดับไฟไม่ว่าโอวหยางน่าหลันจะอยู่ที่แห่งนี้หรือไม่ ฝูงชนมักจะเป็นเช่นนี้เสมอไม่ว่าเฉินฝานจะพูดเกลี้ยกล่อมอย่างไร ล้วนไม่มีผู้ใดฟังเขาและยังด่าเขาว่าหากเขากลัวตายก็ให้รีบหนีตายเหมือนคนที่ขี้ขลาดตาขาวเหล่านั้นไปเสียไฟมหึมาลุกลามขยายวงกว้างด้วยความรวดเร็วสุดขีด ทำให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ที่เข้าไปช่วยดับไฟริบหรี่ลงไปทุกทีไม่ได้มีเพียงเหล่าทหาร เสนาบดีจำนวนมากก็เข้าไปช่วยสาเหตุที่ฝูงชนทุ่มเทสุดชีวิต ถึงขั้นยอมสละชีพก็ต้องดับไฟให้ได้ปานนั้นเป็นเพราะทุกคนในแค้วนหลู่ล้วนคิดว่าเมืองตงเจียวเป็นอาณาบริเวณที่รากฐานการครองบัลลังก์ของแคว้นหลู่สถิตอยู่บรรพบุรุษที่ก่อตั้งแคว้นหลู่ เกิดที่เมืองตงเจียว แร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นหลู่ก็ถูกค้นพบที่เมืองตงเจียวเป็นที่แรกเช่นกันหากเมืองตงเจียวมอดไหม้ รากฐานของแคว้นหลู่ก็มอดไหม้เช่นกัน“ออกจากเมือง ทุกคนจงออกจากเมือง!”เฉินฝานที่ถือตราพยัคฆ์ออกคำสั่งทันที“เจ้าเป็นใครกันแน่? ไฉนจึงพร่ำกล่าวให้พวกเราออกจากเมืองอยู่ได้?”“หากขลาดกลัว ก็ออกไปเองสิ อยู่ที่นี้ไปก็เกะกะเปล่าๆ”เหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1052

    “ท่าน ท่าน ท่านอัครเสนาบดีงั้นรึ?”ขุนนางที่เร่งเร้าให้อวิ๋นเต๋อจัดการกับเฉินฝานเมื่อครู่ ขาอ่อนยวบทั้งสองข้างทรุดตัวลงไปทันที“เจ้านามว่าอันใด? ตำแหน่งอันใด?” อ๋องตวนเตะพลางกล่าวถามขุนนางที่ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นผู้นั้น“ข้า ข้าน้อยเป็นเลขาธิการกรมพิธีการเซี่ยซวินชางขอรับ!”“เสี่ยวฝาน” อ๋องตวนหันหน้าไปพูดกับเฉินฝาน “เลขาธิการกรมพิธีการทุกคนล้วนชอบเอะอะโวยวายหรือกระไร ควรจะจัดการดีหรือไม่?”“เอะอะโวยวายจริง ๆ” เฉินฝานกล่าวอย่างเรียบนิ่งตอนนี้เขายังไม่มีเวลามาจัดการกับเซี่ยซวินชาง ต้องให้ความสำคัญกับไฟไหม้ก่อน“อวิ๋นเต๋อ ข้าขอให้สั่งให้เจ้าอพยพคนออกจากเมืองตงเจียวทั้งหมด อย่าลืมล่ะ ต้องอพยพทุกคนที่อยู่ด้านในนั้นของเจ้าด้วย!”“ขอรับ ท่านอัครเสนาบดี!”อวิ๋นเต๋อเพิ่งจะหันกายไปเตรียมที่ออกคำสั่ง ฝูงชนกลับคุกเข่าตะโกนคัดค้านทันทีคนที่คุกเข่าขอร้องมีทั้งราษฎรเมืองตงเจียวและเสนาบดีในราชสำนัก“ท่านแม่ทัพ จะออกคำสั่งไม่ได้นะขอรับ หากพวกเราอพยพออกจะเมืองตงเจียวไปเมืองนี้ก็จะสูญสิ้นแล้ว”“หากสูญสิ้นเมืองตงเจียวแล้ว รากฐานการปกครองของแคว้นหลู่ของพวกเราก็สูญสิ้นเช่นกัน”“อัครเสนาบดี

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1053

    “ทุกคนฟังคำสั่ง จงออกจากเมืองเดี๋ยวนี้!”ในที่สุดอวิ๋นเต๋อก็ยอมฟังเฉินฝาน ออกคำสั่งอพยพอย่างแข็งกร้าวถึงแม้ว่าคนจำนวนมากจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมอพยพตามคำสั่งตอนที่อพยพออกจากเมือง สายตาของเหล่าราษฎรและพลทหารแคว้นหลู่ที่มองเฉินฝานซับซ้อนสุดขีดทั้งเคียดแค้นและหวาดกลัวเคียดแค้นเพราะเฉินฝานทำแคว้นหลู่ต้องทำผิดต่อสรวงสวรรค์หวาดกลัวเพราะเขาบอกว่าไฟจะลุกโชนมากกว่าเดิม ก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ บอกว่าโรงเตี๊ยมจะพังถล่มก็พังลงมาจริงๆ เขาไม่ต่างอันกับปีศาจที่จำแลงกายมาหลังจากที่ออกจากเมืองไปแล้ว เฉินฝานก็ออกคำสั่งที่สองทันที!“ทุกคน อย่ากลับไปที่ค่ายทหาร ต้องล่าถอยไปอีกสิบลี้ นี่คือคำสั่ง!”“อะไรกัน? แม้กระทั่งค่ายทหารยังกลับไม่ได้ และยังต้องล่าถอยไปอีกงั้นรึ?”“ความหมายของใต้เท้าคือเพราะไฟโหมลุกลามปานนี้แล้ว พวกเราต้องละทิ้งเมืองตงเจียวจริงๆแล้วงั้นรึ?”เมื่อได้ยินคำสั่งที่สองของเฉินฝาน เหล่าเสนาบดีก็รุดหน้าออกมาโต้แย้ง ไม่รู้เป็นเพราะอยู่ในสภาวะปลอดภัยชั่วคราวหรือไม่ การโต้แย้งครั้งนี้ของเหล่าเสนาบดีดุดันเป็นพิเศษ“ใต้เท้า ท่านจะออกคำสั่งส่งเดช เพียงเพราะท่านไม่ใช่คนแคว้นหลู่อย่างพวกเ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1074

    เมื่อคนเหล่านั้นคุกเข่าลง พวกเขาก็คุกเข่าตามเช่นกัน พวกเขายังนึกว่าเหมียวเหลียงจื้อเปลี่ยนวิธีการแล้ว“คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่มากับพวกเจ้าหรือ?” เหมียวเหลียงจื้อกระวนกระวายใจขึ้นเรื่อย ๆ คนผู้นั้นส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ขอรับ!” เหมียวเหลียงจื้อยิ่งร้อนรน “เช่นนั้นพวกเขามาจากที่ใด?”คนผู้นั้นส่ายศีรษะอีกครั้ง“ส่ายหัว ส่ายหัว นอกจากส่ายหัวแล้ว เจ้ายังทำอะไรเป็นอีกบ้าง?”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาแทบอยากจะฉีกคนทิ้ง ทว่าตอนนี้ผู้คนจ้องมองอยู่ เขาไม่กล้าระเบิดโทสะออกมาตรง ๆ “ท่านเทพเซียน ท่านเทพเซียน!”หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม เสียงคุกเข่ากราบไหว้ขอบคุณของชาวบ้านไม่เพียงไม่ลดลง ตรงกันข้ามกลับดังขึ้นเรื่อย ๆ“ไม่ใช่เทพเซียนอันใด ข้าเป็นคนธรรมดามีเลือดมีเนื้อเช่นเดียวกับพวกท่าน รีบลุกขึ้นเถิด รีบลุกขึ้นเถิด!” ขณะที่เฉินฝานเอ่ย เขายังโน้มตัวไปพวกประคองพวกชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นไม่ยอมเชื่อฟังเลย พอถูกประคองให้ลุกขึ้นก็รีบคุกเข่าลงมาอีกครั้งเฉินฝานบอกว่าครรภ์ขององค์หญิงใหญ่แล้ว ร่างกายไม่สะดวก เขาต้องประคององค์หญิงกลับไปก่อน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1073

    ฝูงชนที่เนืองแน่นเบื้องหน้าเฉินฝานต่างคุกเข่าลงบนพื้นกันหมด“อวิ๋นเต๋อสั่งให้ยิงธนูแล้วหรือ?” โอวหยางน่าหลันหันหน้าไปถามนางกำนัลข้างกาย “องค์หญิง แม่ทัพอวิ๋นเต๋อไม่ได้ออกคำสั่งให้ยิงธนูเพคะ หลังจากที่คนพวกนั้นพุ่งไปหาท่านอัครเสนาบดีเมื่อครู่นี้ จู่ ๆ ก็พากันคุกเข่าลงเพคะ” นางกำนัลตอบกลับทันที“ไม่ได้ยิงธนู คนพวกนั้นก็คุกเข่าเอง?”โอวหยางน่าหลันทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อโอวหยางน่าหลันเบิกตาโต มองอยู่หลายนาทีเต็ม ๆ ถึงค่อยกล้าเชื่อคำพูดของนางกำนัลแต่นางไม่เข้าใจ คนเหล่านี้บุกประตูวังโดยไม่คำนึงว่าต้องแลกด้วยอะไร บุกเข้ามาในวังโดยที่ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากนั้นกลับไม่ได้มาหาเรื่องเฉินฝาน แต่มาคุกเข่าแทน หรือว่าคนพวกนี้จะเปลี่ยนแผนการ ไม่กล่าวประณาม แต่มาขอร้องอ้อนวอนแทน?ขอให้เฉินฟานสละตำแหน่งอัครเสนาบดีหรือ?โอวหยางน่าหลันพลันอารมณ์ดิ่งลงอย่างถึงที่สุดนางรู้จักเฉินฝานดี เฉินฝานเป็นคนใจดีมีเมตตา รักและใส่ใจชาวประชา หากผู้คนต่อต้านเขาอย่างรุนแรง เขาไม่เพียงจะไม่ยอมทำตาม แต่ยังจะจับตัวผู้บงการออกมาด้วยแต่ถ้าคุกเข่าอ้อนวอน มีความเป็นไปได้สูงว่าเฉินฝานจะใจอ่อน สละตำแห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1072

    โจวหยางชิงลอบชูนิ้วโป้งให้เหมียวเหลียงจื้อ “ใต้เท้าเหมียว ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ จัดการเรื่องนี้ได้สวยจริง ๆ”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณใต้เท้าที่ชื่นชม นี่ไม่ใช่ความดีความชอบของข้า เป็นความโกรธแค้นของราษฎรเท่านั้น” เหมียวเหลียงจื้อปีติยินดี ขณะเดียวกันก็รู้สึกพิศวงด้วยเนื่องจากคนของเขาบอกเขาว่า ได้จัดเตรียมประชาชนราวห้าหมื่นคนให้มาประท้วง แต่ตอนนี้ดูน่าจะมากกว่าห้าหมื่นแล้ว ฝูงชนเนื่องแน่นสุดลูกหูลูกตา อย่างน้อยก็มีสองสามแสนคน“เขานี่แหละ!” มีคนด้านนอกวังชี้มาที่เฉินฝาน“เขาก็คือเฉินฝาน”เสียงของคนผู้นั้นยังไม่ทันสิ้นสุดลง ชาวบ้านที่อัดแน่นตรงหน้าประตูพระราชวังก็พุ่งมาหาเฉินฝานราวกับน้ำทะเลที่โหมกระหน่ำ“คุ้มกันใต้เท้า คุ้มกันใต้เท้า!”อวิ๋นเต๋อที่เป็นห่วงความปลอดภัยของเฉินฝาน ตะโกนเสียงดังพลางวิ่งมาหาเฉินฝานทหารรักษาพระองค์กว่าพันนายล้อมรอบเฉินฝานไว้ คุ้มกันด้านในสามชั้น ด้านนอกสามชั้นภายนอกเป็นราษฎร ภายในเป็นทหารรักษาพระองค์ ทางเข้าพระราชวังที่เดิมทีกว้างขวางมากเปลี่ยนเป็นแออัดในพริบตา แม้ว่ามีทหารรักษาพระองค์กว่าพันนาย แต่ราษฎรด้านนอกมีมากเกินไปจริง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1071

    เมื่อเฉินฝานออกคำสั่ง เหมียวเหลียงจื้อกับโจวหยางชิงก็ได้รับการปล่อยตัวออกมาพอดีเหล่าขุนนางที่ตามหลังพวกเฉินฝานต่างก้มหน้าพูดคุยแสดงความเห็นกันเบา ๆ “เปิดประตูเมืองโดยตรง เขากล้าดีอย่างไร ไม่กลัวชาวบ้านด้านนอกจะพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาหรือไร?”“ท่านอัครเสนาบดีมีความมั่นใจกระมัง”“มั่นใจเกินไปก็จะเป็นความทะนงตน”“ข้าเองก็คิดว่าเขาทระนงตนแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่พวกราษฎรอารมณ์อ่อนไหวถึงเพียงนั้น ขึ้นไปที่หอด้านบนประตูเมืองคงจะดีกว่า” “เอาไว้รอให้เปิดประตูแล้ว พวกเรายืนห่าง ๆ เสียหน่อยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย” “ท่านกล่าวได้ถูกต้อง”เมื่อฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาขุนนางโดยรอบ นัยน์ตาโจวหยางชิงก็ฉายแววทะมึน เขาหันหน้าไปถามเหมียวเหลียงจื้อเสียงต่ำว่า “เตรียมการเสร็จหมดแล้วหรือยัง?”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้า “เตรียมการเสร็จหมดแล้ว ส่วนมากผู้ที่มาล้วนเป็นช่างตีเหล็กและกรรมกรป่าไม้”“อืม” โจวหยางชิงพยักหน้า สายตาของเขาทอดมองไปที่เฉินฝานอีกครั้ง แววตาดูโหดเหี้ยมชั่วร้ายเฉินฝาน เจ้าอย่าโทษที่ข้าอำมหิตเลย หากจะโทษก็ได้แต่โทษที่เจ้าละโมบมากเกินไป อภิเษกกับองค์หญิงยังไม่พ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1070

    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดจึงกระวนกระวายเช่นนี้?”เมื่อเห็นคนคนนั้น อวิ๋นเต๋อรีบเดินไปถามทันที คนที่มาคือหัวหน้าทหารเวรรักษาพระองค์ในวันนี้“ผู้นำอวิ๋น จู่ๆ นอกวังหลวงก็มีชาวบ้านมากมายมา พวกเขาต้องการเข้าพบท่านอัครเสนาบดีขอรับ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอวหยางน่าหลันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรโมโหเล็กน้อย “เรื่องเล็กแค่นี้ กลับกระวนกระวายขั้นนี้ อวิ๋นเต๋อ เอาตัวเขาออกไป!”เมื่อครั้นโอวหยางน่าหลันเพิ่งครอบครองอำนาจ มักจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นโอวหยางน่าหลันจึงเคยชินแล้ว สำหรับนางนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ“องค์หญิง!”หัวหน้าทหารเวรคุกเข่าลง สีหน้าลำบากใจ“ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่ากระหม่อมจะใช้วิธีการใด พวกชาวบ้านก็ไม่ยอมไป ยิ่งไล่พวกเขาก็ยิ่งบุกเข้ามา กล่าวว่าแม้พวกเขาต้องตาย พวกเขาก็ต้องขอพบท่านอัครเสนาบดีให้ได้!”โอวหยางน่าหลันโบกมือด้วยความรำคาญ “เช่นนั้นก็ไล่ด้วยวิธีที่รุนแรงขึ้นอีก หากมีคนตาย เช่นนั้นก็ส่งอาหารสำหรับสามปีไปให้ครอบครัวเขา เจ้าไปจัดการด้วยตนเอง!”นี่คือวิธีการที่โอวหยางน่าหลันใช้เป็นประจำ เมื่อก่อนให้เงิน ตอนนี้ข้าวสารล้ำค่ากว่าเงิน เช

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1069

    เสียงฟิ้วดังขึ้นสองครั้ง โอวหยางกว่างเซวียนใช้หนังสติ๊กยิงก้อนหินออกไปแล้วสองก้อนเหตุเพราะเป็นการใช้หนังสติ๊กครั้งแรก ก้อนหินที่ยิงออกไป จึงไกลเพียงสองสามเมตรเท่านั้น“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?”ริมฝีปากของโอวหยางกว่างเซวียนจู๋เล็กน้อย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความไม่พอใจ ถามเฉินฝาน “เหตุใดท่านจึงยิงไกลเช่นนั้น”เฉินฝานยิ้ม “เพราะข้าใช้เป็นประจำ ยกหนังสติ๊กให้ท่านแล้ว วันข้างหน้าท่านฝึกฝนทุกวัน ต้องยิงได้ไกลแน่นอน”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนขมวดคิ้วเป็นปม “ท่านบอกให้ข้าใช้หนังสติ๊กยิงคนที่พูดถ้อยคำเหล่านั้นกับข้าไม่ใช่หรือ?”“ถูกต้อง แต่ข้าไม่ให้ท่านอยู่ห่างไกลเช่นนี้!”เฉินฝานยังพูดไม่จบ โอวหยางกว่างเซวียนก็พุ่งตัวออกมาราวกับฟ้าแลบเสียงฟิ้วดังขึ้นสองครั้งโอวหยางกว่างเซวียนใช้หนังสติ๊กยิงหัวหน้าเลขากรมขุนนางเหมียวเหลียงจื้อและราชครูโจวหยางชิง“พวกเจ้าสองคนนี่เอง ทหาร!”โอวหยางน่าหลันร้องตะโกนเสียงดัง“เอาตัวขุนนางชั่วพูดจาให้ร้ายผู้อื่น ทั้งสองคนออกไป จับพวกเขากักขังในคุกหลวง!”“องค์หญิง กระหม่อมถูกใส่ร้ายพ่ะย่ะค่ะ”เหมียวเหลียงจื้อและโจวหยางชิงคุกเข่าอ้อนวอนทันที“องค์หญิง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1068

    เฉินฝานโน้มตัวลง พูดกับโอวหยางกว่างเซวียนด้วยความอ่อนโยน “วังหลวงแคว้นหลู่คือบ้านของเซวียนเอ๋อร์ตลอดไป ข้าจะไล่ท่านออกไปได้อย่างไร?”“ข้าไม่เชื่อท่านหรอก พวกเขาบอกว่า แรกเริ่มท่านต้องพูดเช่นนี้กับข้าแน่นอน แต่หลังจากผ่านไปนานวันเข้า ท่านต้องเห็นว่าข้าขวางหูขวางตา แล้วไล่ข้าออกไปจากวังหลวง”“เซวียนเอ๋อร์ ถ้อยคำเหล่านี้ผู้ใดเป็นคนบอกเจ้า?” โอวหยางน่าหลันที่ยืนฟังอู่ข้างๆ ยิ่งฟังก็ยิ่งโมโห “เจ้าบอกพี่มา ข้าจะไปฉีกปากพวกเขา”“พวกเขา...” ทันใดนั้นเองโอวหยางกว่างเซวียนก็ปิดปากเงียบสนิท ไม่ว่าโอวหยางน่าหลันจะใช้ลูกไม้ได้ ถึงขั้นตำหนิ เขาก็ไม่อมพูดเฉินฝานเข้าใจแล้ว ทว่าเป็นเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำแม้โอวหยางกว่างเซวียนจะปัญญานิ่ม ทว่าเขาเป็นคนเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำราชวงศ์โอวหยางแคว้นหลู่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ล้วนเป็นคนเที่ยงตรงและกล้าคิดกล้าทำ ทว่าพวกเขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับสายเลือด ชอบให้ญาติมิตรสนิทชิดเชื้อแต่งงานกัน เมื่อถึงรุ่นของโอวหยางน่าหลัน มารดาของโอวหยางน่าหลัน มีลูกชายสามคนติดกัน สองคนแรกอายุไม่ถึงหนึ่งขวบก็สิ้นใจ ไม่ง่ายเลยอุตส่าห์เลี้ยงดูโอวหยางกว่างเซวียนจนเติบโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1067

    ท่านราชครูบอกให้เซวียนเอ๋อร์มาขอรับ”“ท่านราชครู? โจวหยางชิงบอกให้เจ้ามา”โจวหยางชิงเป็นราชครูของโอวหยางกว่างเซวียน และเคยสอนเหมียวเหลียงจื้อ ภรรยาเป็นชาวเมืองหลวงแคว้นต้าชิ่ง“ขอรับ!” โอวหยางกว่างเซวียนพยักหน้า “ท่านราชครูกล่าวว่า เซวียนเอ๋อร์เป็นจักรพรรดิแคว้นหลู่ อายุสิบสามแล้ว ควรค่อยๆ ศึกษาการปกครองแคว้นหลู่ อย่าให้ท่านพี่เหนื่อยเช่นนี้ แต่ว่า...”จู่ๆ โอวหยางกว่างเซวียนก็ทำหน้ามุ่ย สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเสียใจ“ฮือ!” โอวหยางกว่างเซวียนร้องไห้เสียงดัง แล้วกอดโอวหยางน่าหลัน “เซวียนเอ๋อร์ไม่อยากนั่งเก้าอี้ตัวนั้น เพราะเซวียนเอ๋อร์อยากไปชิ้งฉ่อง แต่ท่านราชครูบอกว่าไม่อาจไปได้หากยังไม่จบการประชุมราชสำนัก ทั้งยังไม่อาจเล่นกับแมลงได้”“ท่านพี่ ท่านรักเซวียนเอ๋อร์ที่สุด ท่านไปตำหนิราชครูได้หรือไม่ เซวียนเอ๋อร์ไม่อยากประชุมราชสำนักจริงๆ ขอรับ”โอวหยางกว่างเซวียนจับแขนเสื้อของโอวหยางน่าหลันแล้วอ้อนวอน สำหรับเขา ท่านแม่นอกจากใจดีกับเขาและท่านพ่อท่านแม่แล้ว ล้วนดุร้ายกับทุกคน อีกทั้งคนพวกนั้นก็กลัวท่านพี่มาก ขอเพียงท่านพี่ดุเล็กน้อย พวกเขาก็เชื่อฟังท่านพี่แล้วโอวหยางน่าหลันไม่ได้ตอบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1066

    “ท่านพี่ฝาน ท่านหมายความว่า...” โอวหยางน่าหลันเงยหน้าขึ้น “ชาวต้าชิ่งช่วยเขาคิดแผนการนี้หรือ?”“มีความเป็นไปได้สูง” แววตาของเฉินฝานเย็นยะเยือก “พุ่งเป้ามาที่ข้าได้ แต่เอาสตรีของข้าเข้ามาข้องเกี่ยว เอาชาวแคว้นหลู่มาข้องเกี่ยว เช่นนั้นไม่ได้”“ท่านพี่ฝาน ฟังจากที่ท่านพูดหมายความว่า...” แววตาของโอวหยางน่าหลันแปรเปลี่ยนเป็นเหี้ยมโหดเช่นเดียวกัน “ไฟป่าแคว้นหลู่ในครั้งนี้ มีคนตั้งใจทำให้เกิดขึ้น”เฉินฝานพยักหน้าตลอดสี่เดือนที่ผ่านมานี้ เขาวิ่งวุ่นไปทั่วทุกเมืองของแคว้นหลู่ ไฟป่าทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง เขาดับมามากมายกว่าพันแห่ง เขามั่นใจว่า ไฟป่าแคว้นหลู่ในครั้งนี้ เป็นฝีมือมนุษย์“ข้าจะมีราชโองการ ให้กรมยุติธรรมไปสืบเดี๋ยวนี้!”โอวหยางน่าหลันกำลังจะเอ่ยปาก ให้นางกำนัลคนสนิทนำม้วนหนังสือราชโองการ พู่กันและหมึกมา ก็ถูกเฉินฝานปราม“ต้องรีบสืบหาความจริง แต่ไม่อาจสืบหาเช่นนี้ ต้องดำเนินการอย่างลับๆ ท่านมีรับสั่งลับ ให้คนของอวิ๋นเต๋อไปสืบด้วยตนเอง”“ได้ ท่านพี่ฝาน ข้าฟังท่าน”ตอนโอวหยางน่าหลันมีรับสั่งลับ นางถามเฉินฝานอีกครั้ง “ท่านพี่ฝาน ท่านว่า เสิ่นหมิงหยวนจากแคว้นต้าชิ่งอยู่เบื้องหลัง

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status