Share

บทที่ 1044

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“ฝ่าบาท โปรดทรงใจเย็นด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!” ขุนนางคนอื่น ๆ ก็คุกเข่าห้ามปรามเช่นกัน

“ฮึ!”

จ้าวรุ่ยสะบัดแขนเสื้อนั่งลงบนบัลลังก์มังกรอย่างฉุนเฉียว ปรากฏว่าลืมไปเลยว่าบั้นท้ายเพิ่งโดนไม้เรียวฟาดมาก่อน

“โอ๊ย!”

จ้าวรุ่ยลูบบั้นท้ายเจ็บจนแยกเขี้ยว ท่าทางดูน่าขันมาก

“ฮ่า ๆๆ!” อ๋องตวนที่ชมอย่างสนุกสนานพลันหัวเราะเสียงดัง

“ท่านอ๋อง ใต้เท้าเฉิน!”

เซี่ยงเทียนหยินเดินมาอยู่เบื้องหน้าอ๋องตวนและเฉินฝาน ก่อนจะประสานมือทำความเคารพ

ความเย่อหยิ่งทระนงตนที่เขาเคยปฏิบัติกับเฉินฝานในท้องพระโรงของต้าชิ่งเวลานั้นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยนานแล้ว

หลังจากที่เซี่ยงเทียนหยินกลับไปถึงแคว้นจ้าว เขาก็สังเกตสถานการณ์ของแคว้นหลู่กับแคว้นต้าชิ่งอย่างใกล้ชิด

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ แคว้นหลู่ที่ได้รับการสนับสนุนเสบียงอาหารจากต้าชิ่ง ทำให้ปัญหาความอดอยากส่วนใหญ่ในแคว้นได้รับการแก้ไขแล้ว กองทัพแคว้นหลู่ที่มีเสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ก็คือกองทัพปีศาจร้ายที่ยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว

บัดนี้แคว้นต้าชิ่งกับแคว้นหลู่เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว โอวหยางน่าหลันก็มารคลั่งรักปกป้องสามี

หากจ้าวรุ่ยสังหารเฉินฝาน คนแรกที่บุกสังหารเข้ามาย่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1045

    เวลามีค่า เขาไม่เคยเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์หากจะดั้นด้นมาถึงแคว้นจ้าวเพียงเพื่อจะมากวนประสาทใครสักคน เขาไม่ได้ไร้สาระและโง่เขลาเบาปัญญาถึงเพียงนั้น“พรวด!”จ้าวรุ่ยกระอักเลือดออกมาอีกคำ ตวาดด้วยความเดือดดาลว่า “ไป รีบให้พวกเขาไปเสีย”เฉินฝานยักไหล่ ในเมื่อฮ่องเต้จ้าวไม่อยากทำการซื้อขายก้อนใหญ่นี้ เช่นนั้นก็ช่างเถิด “ท่านอ๋อง พวกเราไปกันเถิด”“นี่!” เซี่ยงเทียนหยินพลันร้องเรียกเสียงต่ำ รีบร้อนไล่ตามเฉินฝาน “ใต้เท้าเฉิน อย่าเพิ่งไป ๆ ถ่านหินของเมืองเฟิ่งหวง แคว้นจ้าวของเราจะซื้อ!” ขณะที่จ้าวรุ่ยโกรธจนกระอักเลือด ขุนนางส่วนใหญ่ของแคว้นจ้าวก็เดือดดาลสุดขีด เฉินฝานหันหน้ากลับมา ยิ้มพลางมองเซี่ยงเทียนหยิน “ใต้เท้าเซี่ยง แคว้นเจ้าไม่มีท่านคงไม่ไหวแน่!” จ้าวรุ่ยที่ไม่เข้าใจเหตุผลในนั้นตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เซี่ยงเทียนหยิน แคว้นจ้าวของเราขาดฟืนขนาดนั้นเชียวหรือ?”“ฝ่าบาท ขาดพ่ะย่ะค่ะ!” เซี่ยงเทียนหยินตอบอย่างสงบนิ่งแคว้นจ้าวตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ พื้นที่ส่วนใหญ่แห้งแล้งขาดฝน ภูเขาหัวโล้น ไม่มีป่าไม้อะไรเลยหากมีถ่านหินของเมืองเฟิ่งหวงก็จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องกา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1046

    “ว้าว! เสี่ยวฝาน นี่เจ้ามอบผลประโยชน์ให้แคว้นจ้าวไปมากมายเลยนะ!”ระหว่างกลางทาง อ๋องตวนที่จู่ ๆ ก็เข้าใจเหตุผลว่าทำไมจ้าวรุ่ยถึงทำตัวสนิทสนมกับพวกเขาถึงเพียงนั้นก็ร้องว้าวเสียงดังขึ้นมา “เสี่ยวฝาน แม้ว่าปัญหาบุรุษน้อยสตรีมากของต้าชิ่งเรายังไม่ได้รับการแก้ไข แต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวแคว้นจ้าวแล้ว ไม่ควรให้ผลประโยชน์มากมายถึงเพียงนั้นเลย!” “สมควรทำแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องกลัวแคว้นจ้าว แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากแคว้นจ้าว เพิ่มมิตรสหายมาอีกคน ดีกว่าเพิ่มศัตรูมาอีกคน การแข่งขันระหว่างสองแคว้น ไม่จำเป็นต้องสู้รบกันเสมอไป การประสานความร่วมมือกับภายนอก ใช้วิธีการทางเศรษฐกิจ ผลที่ได้ออกมาดียิ่งกว่าการสู้รบเสียอีก” เฉินฝานอธิบาย แคว้นจ้าวตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือ แคว้นจ้าวได้รับผลประโยชน์มหาศาลจากทางต้าชิ่ง เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเป็นพวกเดียวกับต้าชิ่งแล้วแคว้นจ้าวใช้ประโยชน์จากถ่านหินในมือทำการค้ากับแคว้นอื่น เช่นนี้เอง นอกจากแคว้นหูแล้ว แคว้นทั่วทั้งตะวันตกเฉียงเหนือล้วนต่อต้านต้าชิ่งไม่ได้แล้ว เมื่อแคว้นหูเผชิญหน้ากับแรงกดดันที่ค่อนข้างมาก พวกเขาก็จะไม่กล้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1047

    เฉินฝานขมวดคิ้ว “ก็แค่ไฟป่าบนภูเขาไม่ใช่เหรอ? เหตุใดสวรรค์ถึงพิโรธเล่า?”“เฮ้อ ครั้งนี้ไม่ใช่ไฟป่าบนภูเขาธรรมดาหรอกนะ ทุกมณฑลทั่วทั้งแคว้นหลู่ล้วนถูกไฟไหม้แล้ว นอกจากนี้ไฟก็ไหม้ต่อเนื่องกันมาครึ่งเดือนแล้ว! เจ้าว่าหากไม่ใช่เพราะสวรรค์พิโรธ แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ทุกมณฑลเกิดไฟไหม้กันหมด แถมดับอย่างไรก็ดับไม่สำเร็จ!”“ทุกมณฑล? ดับไม่ได้?”ความคิดแรกในใจของเฉินฝาน นี่คือไฟไหม้ที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์!“บังเอิญขนาดนั้นเชียว? นี่คงไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์หรอกกระมัง? แล้วองค์หญิงไม่ส่งคนมาตรวจสอบเลยหรือ”“ฝีมือมนุษย์อะไรกันเล่า เซียนหลายคนต่างบอกว่าแคว้นหลู่ทำให้สวรรค์พิโรธ ซึ่งสาเหตุเกิดขึ้นจากองค์หญิง...” “เพียะ!” สตรีที่อยู่ข้างกายชายหนุ่มพลันตบหลังของเขาไปหนึ่งที “กล้าพูดเรื่ององค์หญิงที่นี่ ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไร?” ชายหนุ่มพยักหน้าติดต่อกัน “เจ้าพูดถูก พูดไม่ได้แล้ว เมื่อครู่นี้ข้าลืมไปชั่วขณะ พี่ใหญ่ รีบกลับไปเร็ว ๆ เถิด อย่าเข้าไปในเมืองตงเจียวเลย ไฟลามเข้าไปในเมืองแล้ว” “เฮ้อ เจ้ารีบไปเถอะ!”ชายหนุ่มถูกภรรยาของเขาลากตัวไป เมื่อมองดูฝูงชนที่ผ่านไปมาอย่างอลหม่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1048

    “ไม่รู้สิ ข้านึกว่าเจ้ารู้”“ข้าเองก็นึกว่าเจ้ารู้เหมือนกัน? พวกเราบอกเขาไปแบบนี้ว่าองค์หญิงอยู่ที่ใด จะโดนตัดหัวได้นะ” “เจ้าอย่าขู่ตัวเองให้กลัวเลย น่าจะเป็นใต้เท้าสักท่านกระมัง องค์หญิงเสด็จมาแล้ว พวกใต้เท้าในราชสำนักก็มากันเจ็ดแปดส่วนแล้ว ทหารตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเราไม่รู้จักก็เป็นเรื่องปกติ!”“เจ้าพูดแบบนี้ก็ถูก”หลังจากที่ทหารทั้งสองพูดปลอบใจกันเองเช่นนี้แล้ว พวกเขาก็ยืนเฝ้ายามอยู่ตรงนั้นอย่างสบายใจ“พวกเจ้าสองคน!”ทหารสองคนนั้นเพิ่งจะวางใจ ก็มีแม่ทัพสวมเกราะคนหนึ่งเดินเข้ามา“ท่านแม่ทัพ!”เมื่อเห็นคนผู้นั้น ทหารทั้งสองรีบก้มหน้าคารวะคนที่มาคือ อวิ๋นเฟิง รองแม่ทัพของอวิ๋นเต๋อ หน้าที่หลักของเขาคือรับผิดชอบความปลอดภัยของค่าย“เมืองกำลังถูกไฟเผาผลาญ เวลานี้รอบด้านโกลาหลวุ่นวาย เพื่อรักษาความปลอดภัยขององค์หญิง พวกเจ้าต้องระวังคนเข้าออกให้ดี” อวิ๋นเฟิงพูดพลางยื่นภาพวาดกองหนึ่งให้ทหารสองคนนั้น “บุคคลเหล่านี้คือบรรดาใต้เท้าที่ติดตามองค์หญิงมาในครั้งนี้ พวกเจ้าจงแยกแยะให้ด คนที่ไม่ได้อยู่บนภาพ ไม่ได้รับอนุญาตจากแม่ทัพใหญ่หรือองค์หญิง จะปล่อยให้เข้าค่ายไม่ได้เป็นอันขาด” “รั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1049

    “พวกเจ้าก็เฝ้าไว้ให้ดี ถามมากเพื่ออะไร?”ทันใดนั้นก็มือใหญ่ข้างหนึ่งก็ฟาดลงบนศีรษะของทหารร่างสูงและร่างเตี้ยอย่างแรงฟาดไปอีกสองที“เขาเป็นใครอีกเล่า?”ทหารทั้งสองมองอ๋องตวนที่ตามเฉินฝานเข้าไปในเมืองตงเจียว ก่อนจะทำสีหน้างุนงงวันนี้พวกเขาช่างโชคร้ายเสียจริง.....กระโจมของโอวหยางน่าหลัน“ฝานหลาง ฝานหลาง!”โอวหยางน่าหลันค่อย ๆ ลืมตาขึ้นนางมองไปยังกระโจมที่ว่างเปล่าไม่มีผู้ใดสักคนที่อยู่เบื้องหน้า แล้วอดหัวเราะหยันกับตัวเองไม่ได้เมื่อครู่นางถึงกับคิดไปเองว่านางเห็นเฉินฝานตอนนั้น นางถูกควันไฟรมจนลืมตาไม่ขึ้น ลมหายใจก็รู้สึกลำบาก นางกุมหน้าอกรู้สึกทรมานมากจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้วในตอนนั้นเอง เขาก็วิ่งตรงมาหานางจากท่ามกลางเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วง ปกป้องนางไว้ในอ้อมแขนเสียงของเขาเร่งร้อนและโกรธเกรี้ยวมาก ตำหนินางไม่หยุดเฉินฝานตำหนิว่าอะไรไปบ้างนั้น โอวหยางน่าหลันจำไม่ได้แล้วเพราะในตอนนั้น นางมองเฉินฝานแล้วยิ้มอย่างโง่งมหลังจากนั้น...นางก็พบว่าตนเองนอนอยู่ในกระโจมโอวหยางน่าหลันส่ายหน้าหัวเราะหยันตนเองอีกครั้งไม่นึกเลยว่านางก็กลายเป็นหญิงสาวที่เฝ้าคิดถึงสามีทุกวี่วันไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1050

    ที่แท้นางไม่ได้คิดไปเอง เป็นเฉินฝาน เฉินฝานมาแล้วจริง ๆ“ท่านพี่ฝาน! ท่านพี่ฝาน!”โอวหยางน่าหลันตื่นเต้นจนวิ่งออกไปข้างนอก ผลปรากฏว่ายังเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกบรรดานางกำนัลขวางไว้ ไม่เพียงแต่นางกำนัลที่ขวางไว้ แม้แต่ทหารองครักษ์ข้างกายนางที่อยู่ด้านนอกกระโจมก็เข้ามาขวางไว้เช่นกัน“องค์หญิง ท่านอัครเสนาบดีบอกว่าท่านจะเข้าไปในเมืองไม่ได้!”“พวกเจ้ารีบหลีกไปนะ!”“ข้าเป็นองค์หญิง พวกเจ้าต้องเชื่อฟังข้า!”“พวกหม่อมฉันเชื่อฟังท่านอัครเสนาบดีเพคะ”“...”โอวหยางน่าหลันโกรธมาก แต่ในใจก็มีความรู้สึกปีติยินดีอย่างเต็มเปี่ยมนางที่เกิดในราชวงศ์แห่งแคว้นหลู่ เมื่อเกิดมาก็มีผู้คนรายล้อมมากมาย ทุกคนล้วนให้ความเคารพนาง ทุกคนปฏิบัติกับนางอย่างระมัดระวังและดียิ่ง กลัวนางจะชนหรือกระแทกแต่นางไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรักจากการปกป้องอย่างระมัดระวังเหล่านั้นเลยนางรู้ดีว่าที่คนเหล่านั้นปฏิบัติกับนางเป็นอย่างดีก็เพราะฐานะของนาง เพราะเกรงกลัวนางไม่เคยมีใครกล้าพูดเสียงดังใส่นาง ไม่เคยมีใครกล้าห้ามไม่ให้นางออกไปไหนความแข็งกร้าวของเฉินฝานในตอนนี้ นางไม่เพียงไม่โกรธ ตรงกันข้ามในใจกลับรู้สึกอบอุ่น น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1051

    อัคคีภัยครั้งนี้ไร้หนทางยับยั้งแล้ว ทว่าคนเหล่านี้ยังยืนกรานที่จะดับไฟไม่ว่าโอวหยางน่าหลันจะอยู่ที่แห่งนี้หรือไม่ ฝูงชนมักจะเป็นเช่นนี้เสมอไม่ว่าเฉินฝานจะพูดเกลี้ยกล่อมอย่างไร ล้วนไม่มีผู้ใดฟังเขาและยังด่าเขาว่าหากเขากลัวตายก็ให้รีบหนีตายเหมือนคนที่ขี้ขลาดตาขาวเหล่านั้นไปเสียไฟมหึมาลุกลามขยายวงกว้างด้วยความรวดเร็วสุดขีด ทำให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ที่เข้าไปช่วยดับไฟริบหรี่ลงไปทุกทีไม่ได้มีเพียงเหล่าทหาร เสนาบดีจำนวนมากก็เข้าไปช่วยสาเหตุที่ฝูงชนทุ่มเทสุดชีวิต ถึงขั้นยอมสละชีพก็ต้องดับไฟให้ได้ปานนั้นเป็นเพราะทุกคนในแค้วนหลู่ล้วนคิดว่าเมืองตงเจียวเป็นอาณาบริเวณที่รากฐานการครองบัลลังก์ของแคว้นหลู่สถิตอยู่บรรพบุรุษที่ก่อตั้งแคว้นหลู่ เกิดที่เมืองตงเจียว แร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นหลู่ก็ถูกค้นพบที่เมืองตงเจียวเป็นที่แรกเช่นกันหากเมืองตงเจียวมอดไหม้ รากฐานของแคว้นหลู่ก็มอดไหม้เช่นกัน“ออกจากเมือง ทุกคนจงออกจากเมือง!”เฉินฝานที่ถือตราพยัคฆ์ออกคำสั่งทันที“เจ้าเป็นใครกันแน่? ไฉนจึงพร่ำกล่าวให้พวกเราออกจากเมืองอยู่ได้?”“หากขลาดกลัว ก็ออกไปเองสิ อยู่ที่นี้ไปก็เกะกะเปล่าๆ”เหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1052

    “ท่าน ท่าน ท่านอัครเสนาบดีงั้นรึ?”ขุนนางที่เร่งเร้าให้อวิ๋นเต๋อจัดการกับเฉินฝานเมื่อครู่ ขาอ่อนยวบทั้งสองข้างทรุดตัวลงไปทันที“เจ้านามว่าอันใด? ตำแหน่งอันใด?” อ๋องตวนเตะพลางกล่าวถามขุนนางที่ทรุดตัวคุกเข่าลงกับพื้นผู้นั้น“ข้า ข้าน้อยเป็นเลขาธิการกรมพิธีการเซี่ยซวินชางขอรับ!”“เสี่ยวฝาน” อ๋องตวนหันหน้าไปพูดกับเฉินฝาน “เลขาธิการกรมพิธีการทุกคนล้วนชอบเอะอะโวยวายหรือกระไร ควรจะจัดการดีหรือไม่?”“เอะอะโวยวายจริง ๆ” เฉินฝานกล่าวอย่างเรียบนิ่งตอนนี้เขายังไม่มีเวลามาจัดการกับเซี่ยซวินชาง ต้องให้ความสำคัญกับไฟไหม้ก่อน“อวิ๋นเต๋อ ข้าขอให้สั่งให้เจ้าอพยพคนออกจากเมืองตงเจียวทั้งหมด อย่าลืมล่ะ ต้องอพยพทุกคนที่อยู่ด้านในนั้นของเจ้าด้วย!”“ขอรับ ท่านอัครเสนาบดี!”อวิ๋นเต๋อเพิ่งจะหันกายไปเตรียมที่ออกคำสั่ง ฝูงชนกลับคุกเข่าตะโกนคัดค้านทันทีคนที่คุกเข่าขอร้องมีทั้งราษฎรเมืองตงเจียวและเสนาบดีในราชสำนัก“ท่านแม่ทัพ จะออกคำสั่งไม่ได้นะขอรับ หากพวกเราอพยพออกจะเมืองตงเจียวไปเมืองนี้ก็จะสูญสิ้นแล้ว”“หากสูญสิ้นเมืองตงเจียวแล้ว รากฐานการปกครองของแคว้นหลู่ของพวกเราก็สูญสิ้นเช่นกัน”“อัครเสนาบดี

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1078

    โอวหยางกว่างเซวียนมองโจวหยางชิง แล้วหันหน้ากลับไปมองโอวหยางน่าหลัน สีหน้าดูลำบากใจ“เซวียนเอ๋อร์ เจ้ายังลังเลอะไรอีก? สังหารขุนนางชั่วที่นำภัยมาสู่บ้านเมืองและราษฎรผู้นี้เสีย!”โอวหยางน่าหลันเร่งเร้า โจวหยางชิงก็เร่งเร้าเช่นกัน“ฝ่าบาท พระองค์รีบลงมือเถิดพ่ะย่ะค่ะ”“แต่ว่า...” โอวหยางกว่างเซวียนทำหน้านิ่ว ดูลำบากใจมากยิ่งขึ้นเสด็จพ่อเคยบอกเขาว่าเขาต้องเชื่อฟังคำพูดของพี่หญิงเขาเองก็ต้องเชื่อฟังคำพูดของท่านอาจารย์ด้วยแต่เพราะเหตุใดพี่หญิงถึงอยากฆ่าท่านอาจารย์ท่านอาจารย์ก็จะให้เขาฆ่าท่านอาจารย์ด้วยเขาไม่กลัวเจ็บเลยหรือไร?หลายวันมานี้ท่านอาจารย์เอาแต่พูดเรื่องความตายกับเขา ท่านอาจารย์บอกว่าตายแล้วก็จะไม่ได้พบคนผู้นั้นอีกตลอดกาลหากท่านอาจารย์ตายแล้ว เช่นนั้นเขาก็จะไม่ได้พบท่านอาจารย์ตลอดไปไม่ใช่หรือ?เขาไม่อยากไม่ได้เจอท่านอาจารย์ตลอดไป“....ขะ ข้ากลัวดาบ!”ในขณะที่โอวหยางน่าหลันกับโจวหยางชิงเร่งเร้าครั้งแล้วครั้งเล่า โอวหยางกว่างเซวียนก็เค้นคำพูดนี้ออกมาด้วยความร้อนรน“เจ้าเป็นฮ่องเต้ ฆ่าคนไยต้องให้เจ้าลงมือเองด้วยเล่า หลีกังหัวหน้าทหารรักษาพระองค์ก็อยู่ที่นี่ เจ้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1077

    โอวหยางน่าหลันเข้าใจความหมายของเฉินฝานทันที“ทหาร จงลากตัวโจวหยางชิงออกไปประหารเสีย!”ทหารรักษาพระองค์ที่ได้ยินคำสั่งก็เข้ามาในท้องพระโรง แต่ยังไม่ทันได้แตะต้องโจวหยางชิง โจวหยางชิงก็ตะโกนเสียงดังลั่น“ใครกล้าแตะต้องข้า!”“ข้าเป็นมหาราชครูของฮ่องเต้ มีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่ประหารข้าได้!”ในกฎหมายของแคว้นหลู่มีกฎข้อนี้จริง ๆมหาราชครูส่วนใหญ่ล้วนเริ่มติดตามฮ่องเต้ตั้งแต่ตอนที่พระองค์ไม่กี่ชันษา อยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานาน เป็นทั้งอาจารย์และบิดา ฮ่องเต้จึงค่อนข้างมีความผูกพันลึกซึ้งกับมหาราชครู ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่ เดิมทีพระองค์มีพรสวรรค์ในระดับทั่วไป แต่เป็นเพราะมีมหาราชครูที่โดดเด่นอยู่ข้างกาย พระองค์จึงปกครองแคว้นหลู่ได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การช่วยเหลือของมหาราชครูผู้นั้นทางด้านการทหาร เศรษฐกิจและวัฒนธรรมล้วนเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก ทำให้แคว้นหลู่ที่ยังเล็กและอ่อนแอมากในตอนนั้นมั่งคั่งแข็งแกร่งขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ ฮ่องเต้องค์ที่สองของแคว้นหลู่จึงประกาศว่ามีเพียงฮ่องเต้เท่านั้นที่สามารถตัดสินโทษตามกฎหมายกับมหาราชครูได้ เพราะว่ากฎหมายข้อนี้เอง โจวหยางชิงถึงได้กล้ายุยงเหมีย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1076

    “ตึง!”เสียงดังทุ้มมาจากในท้องพระโรง เหมียวเหลียงจื้อคุกเข่าลงกับพื้นอย่างหนักหน่วง หันหน้าไปทางเฉินฝาน“ท่านอัครเสนาบดี ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยไม่ควรหลงเชื่อคำพูดปรักปรำ!”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเสียใจ สำนึกแค้นใจตัวเองว่าเพราะเหตุใดถึงไม่เชื่อฟังคำสั่งเสียของบิดาก่อนที่เหมียวปิงจะสิ้นใจได้ดึงมือของเขาไว้แล้วกำชับเขาสองเรื่องเรื่องแรกก็คือสนับสนุนโอวหยางน่าหลัน หากโอวหยางน่าหลันต้องการแต่งงานกับเฉินฝาน ให้เขาเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ ห้ามคัดค้าน อีกทั้งยังต้องให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง หากเฉินฝานยอมตกลงเป็นอัครเสนาบดีของแคว้นหลู่ นั่นคือโชคอันใหญ่หลวงของแคว้นหลู่เรื่องที่สองก็คือให้เขาอยู่ให้ห่างจากโจวหยางชิงสองเรื่องที่เหมียวปิงกำชับ เขาทำทั้งหมด เพียงแต่ว่าทำตรงกันข้ามเท่านั้นโจวหยางชิงบอกกับเขาว่าเฉินฝานเป็นคนแคว้นต้าชิ่ง ไม่มีทางทุ่มเทใจทั้งหมดให้แคว้นหลู่ เขาจะต้องคิดหาวิธีปอกลอกแคว้นหลู่เพื่อไปช่วยเหลือต้าชิ่งอย่างแน่นอนแรกเริ่ม เหมียวเหลียงจื้อไม่ค่อยเห็นด้วยกับคำพูดของโจวหยางชิง บอกว่าตอนที่บิดาของเขายังมีชีวิตอยู่เคยบอกว่าเฉินฝานจะไม่ทำร้าย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1075

    “องค์หญิง!”เลขาธิการกรมพิธีการเซี่ยซวินชางชูหยกสมปรารถนาขึ้นพลางเดินออกมาจากในหมู่ขุนนางที่เรียงราย ก่อนจะยืนอยู่กลางท้องพระโรง “ฎีกาของแม่ทัพอวิ๋นจะต้องเขียนเรื่องที่เอื้อประโยชน์ต่อแคว้นหลู่ของเราอย่างแน่นอน องค์หญิง โปรดทรงอ่านเสียงดังออกมาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเองก็อยากสัมผัสความปีติยินดีนั้นด้วย!”ยามที่เซี่ยซวินชางเอ่ยคำพูดนี้ ร่างกายก็สั่นเล็กน้อย หากพิจารณาคำพูดนี้ของเขาให้ลึกลงไป มันก็คือการที่ขุนนางร้องขอให้ฮ่องเต้ทำตาม นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้หัวหลุดจากบ่าได้เลยแต่เขามีจุดอ่อนสำคัญที่ถูกโจวหยางชิงกุมไว้ในมือ ตอนที่พวกขุนนางกลับมายังท้องพระโรง โจวหยางชิงกับเมี่ยวเหลียงจื้อก็ถูกคุมตัวกลับมาที่ท้องพระโรงด้วย ขณะที่โอวหยางน่าหลันกำลังอ่านฎีกาของอวิ๋นเต๋อ โจวหยางชิงส่งสายตาเป็นนัยให้เซี่ยซวินชาง ทำให้เซี่ยซวินชางจำต้องออกมาถาม โอวหยางน่าหลันช้อนเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย สายตาเย็นชาทิ่มแทงไปบนร่างของเซี่ยซวินชางเซี่ยซวินชางตัวสั่นแรงมากขึ้น“มีอันใดต้องห้าม!” โอวหยางน่าหลันโบกมือทีหนึ่ง “อ่านออกเสียง!”หัวหน้าขันทีที่อยู่ไม่ไกลจากโอวหยางน่าหลันวิ่งเหยาะ ๆ เข้าม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1074

    เมื่อคนเหล่านั้นคุกเข่าลง พวกเขาก็คุกเข่าตามเช่นกัน พวกเขายังนึกว่าเหมียวเหลียงจื้อเปลี่ยนวิธีการแล้ว“คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่มากับพวกเจ้าหรือ?” เหมียวเหลียงจื้อกระวนกระวายใจขึ้นเรื่อย ๆ คนผู้นั้นส่ายศีรษะ “ไม่ใช่ขอรับ!” เหมียวเหลียงจื้อยิ่งร้อนรน “เช่นนั้นพวกเขามาจากที่ใด?”คนผู้นั้นส่ายศีรษะอีกครั้ง“ส่ายหัว ส่ายหัว นอกจากส่ายหัวแล้ว เจ้ายังทำอะไรเป็นอีกบ้าง?”ใบหน้าของเหมียวเหลียงจื้อเต็มไปด้วยความเดือดดาล เขาแทบอยากจะฉีกคนทิ้ง ทว่าตอนนี้ผู้คนจ้องมองอยู่ เขาไม่กล้าระเบิดโทสะออกมาตรง ๆ “ท่านเทพเซียน ท่านเทพเซียน!”หลังจากผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วยาม เสียงคุกเข่ากราบไหว้ขอบคุณของชาวบ้านไม่เพียงไม่ลดลง ตรงกันข้ามกลับดังขึ้นเรื่อย ๆ“ไม่ใช่เทพเซียนอันใด ข้าเป็นคนธรรมดามีเลือดมีเนื้อเช่นเดียวกับพวกท่าน รีบลุกขึ้นเถิด รีบลุกขึ้นเถิด!” ขณะที่เฉินฝานเอ่ย เขายังโน้มตัวไปพวกประคองพวกชาวบ้านที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมา อย่างไรก็ตามคนเหล่านั้นไม่ยอมเชื่อฟังเลย พอถูกประคองให้ลุกขึ้นก็รีบคุกเข่าลงมาอีกครั้งเฉินฝานบอกว่าครรภ์ขององค์หญิงใหญ่แล้ว ร่างกายไม่สะดวก เขาต้องประคององค์หญิงกลับไปก่อน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1073

    ฝูงชนที่เนืองแน่นเบื้องหน้าเฉินฝานต่างคุกเข่าลงบนพื้นกันหมด“อวิ๋นเต๋อสั่งให้ยิงธนูแล้วหรือ?” โอวหยางน่าหลันหันหน้าไปถามนางกำนัลข้างกาย “องค์หญิง แม่ทัพอวิ๋นเต๋อไม่ได้ออกคำสั่งให้ยิงธนูเพคะ หลังจากที่คนพวกนั้นพุ่งไปหาท่านอัครเสนาบดีเมื่อครู่นี้ จู่ ๆ ก็พากันคุกเข่าลงเพคะ” นางกำนัลตอบกลับทันที“ไม่ได้ยิงธนู คนพวกนั้นก็คุกเข่าเอง?”โอวหยางน่าหลันทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อโอวหยางน่าหลันเบิกตาโต มองอยู่หลายนาทีเต็ม ๆ ถึงค่อยกล้าเชื่อคำพูดของนางกำนัลแต่นางไม่เข้าใจ คนเหล่านี้บุกประตูวังโดยไม่คำนึงว่าต้องแลกด้วยอะไร บุกเข้ามาในวังโดยที่ไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากนั้นกลับไม่ได้มาหาเรื่องเฉินฝาน แต่มาคุกเข่าแทน หรือว่าคนพวกนี้จะเปลี่ยนแผนการ ไม่กล่าวประณาม แต่มาขอร้องอ้อนวอนแทน?ขอให้เฉินฟานสละตำแหน่งอัครเสนาบดีหรือ?โอวหยางน่าหลันพลันอารมณ์ดิ่งลงอย่างถึงที่สุดนางรู้จักเฉินฝานดี เฉินฝานเป็นคนใจดีมีเมตตา รักและใส่ใจชาวประชา หากผู้คนต่อต้านเขาอย่างรุนแรง เขาไม่เพียงจะไม่ยอมทำตาม แต่ยังจะจับตัวผู้บงการออกมาด้วยแต่ถ้าคุกเข่าอ้อนวอน มีความเป็นไปได้สูงว่าเฉินฝานจะใจอ่อน สละตำแห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1072

    โจวหยางชิงลอบชูนิ้วโป้งให้เหมียวเหลียงจื้อ “ใต้เท้าเหมียว ผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ จัดการเรื่องนี้ได้สวยจริง ๆ”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้าเล็กน้อย “ขอบคุณใต้เท้าที่ชื่นชม นี่ไม่ใช่ความดีความชอบของข้า เป็นความโกรธแค้นของราษฎรเท่านั้น” เหมียวเหลียงจื้อปีติยินดี ขณะเดียวกันก็รู้สึกพิศวงด้วยเนื่องจากคนของเขาบอกเขาว่า ได้จัดเตรียมประชาชนราวห้าหมื่นคนให้มาประท้วง แต่ตอนนี้ดูน่าจะมากกว่าห้าหมื่นแล้ว ฝูงชนเนื่องแน่นสุดลูกหูลูกตา อย่างน้อยก็มีสองสามแสนคน“เขานี่แหละ!” มีคนด้านนอกวังชี้มาที่เฉินฝาน“เขาก็คือเฉินฝาน”เสียงของคนผู้นั้นยังไม่ทันสิ้นสุดลง ชาวบ้านที่อัดแน่นตรงหน้าประตูพระราชวังก็พุ่งมาหาเฉินฝานราวกับน้ำทะเลที่โหมกระหน่ำ“คุ้มกันใต้เท้า คุ้มกันใต้เท้า!”อวิ๋นเต๋อที่เป็นห่วงความปลอดภัยของเฉินฝาน ตะโกนเสียงดังพลางวิ่งมาหาเฉินฝานทหารรักษาพระองค์กว่าพันนายล้อมรอบเฉินฝานไว้ คุ้มกันด้านในสามชั้น ด้านนอกสามชั้นภายนอกเป็นราษฎร ภายในเป็นทหารรักษาพระองค์ ทางเข้าพระราชวังที่เดิมทีกว้างขวางมากเปลี่ยนเป็นแออัดในพริบตา แม้ว่ามีทหารรักษาพระองค์กว่าพันนาย แต่ราษฎรด้านนอกมีมากเกินไปจริง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1071

    เมื่อเฉินฝานออกคำสั่ง เหมียวเหลียงจื้อกับโจวหยางชิงก็ได้รับการปล่อยตัวออกมาพอดีเหล่าขุนนางที่ตามหลังพวกเฉินฝานต่างก้มหน้าพูดคุยแสดงความเห็นกันเบา ๆ “เปิดประตูเมืองโดยตรง เขากล้าดีอย่างไร ไม่กลัวชาวบ้านด้านนอกจะพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาหรือไร?”“ท่านอัครเสนาบดีมีความมั่นใจกระมัง”“มั่นใจเกินไปก็จะเป็นความทะนงตน”“ข้าเองก็คิดว่าเขาทระนงตนแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่พวกราษฎรอารมณ์อ่อนไหวถึงเพียงนั้น ขึ้นไปที่หอด้านบนประตูเมืองคงจะดีกว่า” “เอาไว้รอให้เปิดประตูแล้ว พวกเรายืนห่าง ๆ เสียหน่อยจะดีกว่า จะได้ไม่ต้องพลอยรับเคราะห์ไปด้วย” “ท่านกล่าวได้ถูกต้อง”เมื่อฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาขุนนางโดยรอบ นัยน์ตาโจวหยางชิงก็ฉายแววทะมึน เขาหันหน้าไปถามเหมียวเหลียงจื้อเสียงต่ำว่า “เตรียมการเสร็จหมดแล้วหรือยัง?”เหมียวเหลียงจื้อพยักหน้า “เตรียมการเสร็จหมดแล้ว ส่วนมากผู้ที่มาล้วนเป็นช่างตีเหล็กและกรรมกรป่าไม้”“อืม” โจวหยางชิงพยักหน้า สายตาของเขาทอดมองไปที่เฉินฝานอีกครั้ง แววตาดูโหดเหี้ยมชั่วร้ายเฉินฝาน เจ้าอย่าโทษที่ข้าอำมหิตเลย หากจะโทษก็ได้แต่โทษที่เจ้าละโมบมากเกินไป อภิเษกกับองค์หญิงยังไม่พ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1070

    “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหตุใดจึงกระวนกระวายเช่นนี้?”เมื่อเห็นคนคนนั้น อวิ๋นเต๋อรีบเดินไปถามทันที คนที่มาคือหัวหน้าทหารเวรรักษาพระองค์ในวันนี้“ผู้นำอวิ๋น จู่ๆ นอกวังหลวงก็มีชาวบ้านมากมายมา พวกเขาต้องการเข้าพบท่านอัครเสนาบดีขอรับ!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอวหยางน่าหลันที่นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรโมโหเล็กน้อย “เรื่องเล็กแค่นี้ กลับกระวนกระวายขั้นนี้ อวิ๋นเต๋อ เอาตัวเขาออกไป!”เมื่อครั้นโอวหยางน่าหลันเพิ่งครอบครองอำนาจ มักจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้นโอวหยางน่าหลันจึงเคยชินแล้ว สำหรับนางนี่เป็นเพียงเรื่องเล็กๆ“องค์หญิง!”หัวหน้าทหารเวรคุกเข่าลง สีหน้าลำบากใจ“ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งพ่ะย่ะค่ะ ไม่ว่ากระหม่อมจะใช้วิธีการใด พวกชาวบ้านก็ไม่ยอมไป ยิ่งไล่พวกเขาก็ยิ่งบุกเข้ามา กล่าวว่าแม้พวกเขาต้องตาย พวกเขาก็ต้องขอพบท่านอัครเสนาบดีให้ได้!”โอวหยางน่าหลันโบกมือด้วยความรำคาญ “เช่นนั้นก็ไล่ด้วยวิธีที่รุนแรงขึ้นอีก หากมีคนตาย เช่นนั้นก็ส่งอาหารสำหรับสามปีไปให้ครอบครัวเขา เจ้าไปจัดการด้วยตนเอง!”นี่คือวิธีการที่โอวหยางน่าหลันใช้เป็นประจำ เมื่อก่อนให้เงิน ตอนนี้ข้าวสารล้ำค่ากว่าเงิน เช

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status