Home / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๔)

Share

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๔)

last update Last Updated: 2024-12-31 00:42:08

“อื้อ... ตรงนั้นมัน” เธอเปล่งเสียงครวญครางน่าเย้าใจ เพราะความรู้สึกทั้งมวลนั้นเต็มอิ่ม สยิวจนหายใจแทบมิทัน แก้มที่แดงระเรื่อถูกสัมผัสด้วยริมฝีปากหยัก ก่อนที่กลีบปากและเรียวลิ้นเล็กของมธุรสจะถูกช่วงชิงเป็นอย่างถัดไป

มธุรสถูกยักษ์หนุ่มกำราบได้เพราะเพียงรสจูบครั้งที่สอง ดูดดื่มและมัวเมา ตัวเล็กๆ ของเธออ่อนปวกเปียกแทบละลายคาอกหนา ทรวงถูกหยอกเย้าจนแดงแจ๋ ทั้งบี้ทั้งคลึงเสียจนเธอเสร็จสมคาตักแกร่ง จึงได้เวลาที่ยักษ์หนุ่มต้องรุกรานสรีระด้านล่างเสียบ้าง

มธุรสกัดกลีบปากของตนแน่น ร่างกายมิเป็นดั่งใจเอาเสียเลย ราวกับว่าเมื่อบุรุษตรงหน้าสัมผัสเธอที่ตรงใด ก็จะร้อนผ่าวและทิ้งความกรุ่นร้อนอยู่ตามผิวส่วนนั้น มือหนาใหญ่ที่อบอุ่น จับนั่นแตะนี่เพียงพึงใจ เลื่อนลงมาที่เอวคอดและสะดือสวย ลูบไล้ไปตามกายาที่เป็นสัดส่วนโค้งเว้าอย่างสตรีของนาง

จนปลดผ้าซิ่นสีหมากสุกของเธอได้ ผ้าผ่อนสีสดหล่นตุบไปกองลงกับพื้น มธุรสหน้าแดงก่ำ เปิดเปลือยอวดดอกไม้งามที่มีน้ำหวานชุ่มฉ่ำเล็กน้อยตรงเกสร เชิญชวนให้ภมรตัวยักษ์อย่างสุวรรณราพณ์ได้เชยชม

แม้นี่จะมิใช่ร่างกายของเธอก็จริง แต่เพราะวิญญาณจุติมาเกิดในร่างนี้แล้ว เลยรู้สึกเหมือนกับว่านี่คือร่างของตนเองไปแล้ว

ไอ้ความรู้สึกเสียวขยี้แทบขาดใจนี่ก็ด้วย ทุกอย่างมันเหมือนของจริงมาก!

ปลายมชฺฌิมา (นิ้วกลาง) ไล่ระดับลงมายังแอ่งแกนเกสรสวย มันเป็นสีขาวอมชมพูและกลีบงามนั้นปิดสนิทราวกับเด็กสาวแรกแย้ม ไรขนน้อยๆ ขึ้นเป็นอุ้งแซมๆ พอน่าดูชม

งดงามไปทั้งตัว ทั้งหอม ทั้งเย้ายวน กลิ่นกายสาปสาวมันหอมหวานราวกับรสทิพย์จากสวรรค์ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ มิเคยได้เสพกลิ่นหอมของสนมนางไหนแล้วปรีเปรมดิ์เช่นนี้มาก่อน

ไม่แคล้ว เจ้าจันทร์คงเป็นนางสวรรค์ที่จุติมาเกิดบนโลกนี้เป็นแน่แท้

สุวรรณราพณ์ชื่นชมดอกบัวงามที่ผลิบานอยู่ในอุ้งมือหยาบหนาของเขา รู้ดีว่าตนเป็นเพียงแค่ยักษ์ เผ่าพันธุ์อสุรกายที่ไม่ควรสมสู่กับมนุษย์ ยิ่งมนุษย์สูงศักดิ์และงดงามเช่นนาง ยิ่งไม่ควรแตะต้องให้หมองหม่นในเกียรติ

แต่ทว่า... สุวรรณราพณ์นั้นมีจิตสีทมิฬที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอยู่มาก ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นนางฟ้านางสวรรค์ หรือพระธิดาที่งดงามบริสุทธิ์ของกษัตริย์พระองค์ใด

เขารู้ว่านางคือคู่ชะตาชีวิตของเขาเมื่อชาติปางก่อนเท่านั้น

นางคือสาวน้อยหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ที่ช่วยเหลืออสุรกายมิมีวันมอดม้วยมรณาเช่นเขา แม้จักรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่มนุษย์ หญิงสาวก็ไม่ได้รังเกียจ เธอยอมตกเป็นเมียของยักษ์กายอัปลักษณ์ตนนั้น เพราะนางรักเขาอย่างมากล้น

ชาตินี้คู่ชะตาของเขากลับมาเกิดใหม่ เป็นสาวนงเยาว์ที่สวยสดงดงามตามบุญที่สร้างมา ซ้ำยังมีบิดาเป็นกษัตริย์ ต่างจากชาติก่อนที่นางเป็นเพียงแค่สาวชาวบ้านขี้ริ้วธรรมดา

ในขณะที่เขากลับมาเกิดใหม่ในพระครรภ์ของพระมารดาที่เป็นกษัตริย์เมืองยักษาแห่งนี้ เกิดมาเป็นกษัตริย์อสุราผู้โหดเหี้ยม บ้าหญิง หลายสนม และเสพมนตร์ขลัง รวมถึงระลึกชาติได้

แม้ว่าจะแตกต่างกันสักแค่ไหน แม้ว่าคู่ชะตาของนางในชาตินี้อาจไม่ใช่เขา

สุวรรณราพณ์ก็จะสาบานตนว่าจะตามหาเธอเรื่อยไป จนกว่าจะได้กลับมาอยู่กินร่วมกันอีกครา

และในเพลานี้... ดอกบัวงามดอกนี้ ตกอยู่ในกำมือของเขาเสียแล้ว

“อะ... อื้อ คุณสุวรรณราพณ์” เสียงหวานหวีดหวิวพอทำให้กระชุ่มใจยิ่งนัก ดวงใจของเธอถูกบดบี้ผ่านเนื้อนุ่ม ผ้าซิ่นหลุดออกจากกายเสียแล้ว กำไลข้อเท้าส่งเสียงกรุ้งกริ้งเมื่ออีกฝ่ายยกเรียวขางามขึ้นเพื่อจะได้สำรวจแกนเกสรได้ถนัด

ท่าทางของเธอและเขาในเวลานี้ช่างเรทอาร์เสียจริง โดยเฉพาะกับความรู้สึกตรงแอ่งเกสร ที่กำลังถูกปลายมชฺฌิมา (นิ้วกลาง) ชอนไช สะบัดปลายนิ้วหยอกล้อกับเมล็ดพันธุ์ของเธอที่บวมเต่งสุกใส ความซาบซ่านบังเกิดจนทำให้แน่งน้อยขนลุกซู่ บิดเกร็งไปมาด้วยความสยิวเกินทานทน

“เพรียกเพียงชื่อข้าก็พอ... เจ้าจันทร์” สุ้มเสียงทระนงแต่กลับขยี้อารมณ์สวาทดังข้างริมหู กดริมฝีปากจูบเบาๆ ที่สันกรามสวยของเธอ ดวงใจดวงน้อยสั่นเร้าจนแทบหลุดลงมากองกับพื้น

“อ๊ะ... คุณ อื้ออออ” ปลายนิ้วแทรกผ่านแกนเกสรสัมผัสความนุ่มนวลด้านใน เข้าออกอย่างเชื่องช้าเพราะแน่นขนัดเหลือทน สาวเจ้าแอ่นกายร้องครวญอย่างสิเหน่หา ยามเมื่อมชฺฌิมาพัดแรงขึ้น น้ำหวานก็ทะลักออกมาจากแกนกลางดอกบัวงามจนชุ่มฝ่ามือ

“แฮ่ก...” มธุรสหอบหายใจราวกับไปวิ่งมาราธอนมาก็ไม่ปาน ดวงใจสั่นตุบตับๆ เหมือนจังหวะรัวกลองในอก เชิญชวนให้กายาใหญ่นั้นกระตุกยิ้มยวน ยกฝ่ามือใหญ่ที่เปียกชุ่มจ้องมองน้ำหวานบนอุ้งมืออย่างหลงใหล

“หวานสมกับกายเจ้า” สุรเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างกกหูอีกครั้ง พร้อมกับลิ้มรสน้ำหวานในอุ้งมืออย่างเปี่ยมล้นไปด้วยไฟราคะในดวงจิต “หอมและหวาน ราวกับข้าได้ชิมน้ำผึ้งก็มิปาน”

เขาหยอกเย้าด้วยการโอ้โลมตัวนาง ร่างกายของนาง รวมถึงรสชาติของนางเช่นกัน

มธุรสกัดริมฝีปากแน่น เธอหอบหายใจ สั่นกระตุกเป็นระยะ รู้สึกราวกับว่าเพิ่งผ่านสงครามอันหนักหน่วงมา

“ฮึก... คุณสุวรรณราพณ์ใจร้าย” เธอเบ้หน้าร้องไห้ออกมาทันทีเมื่อคืนสติ ปล่อยให้พญายักษานิ่งตะลึงงั้นกับท่าทีที่เปลี่ยนไป เจ้าตัวน้อยนั้นปาดหลังมือกับดวงตาที่เอ่อล้นด้วยหยาดน้ำใส สะอึกสะอื้นราวกับเด็กน้อย “หนูกลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว ฮึก”

“...”

“ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว”

ว่ากันว่า... มธุรสนั้นเป็นเด็กสาวที่ไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแม่ตั้งแต่เล็ก จนเธอโหยหาความรักมาก ชีวิตที่แสนน่าเวทนา และต้องตายลงในอายุขัยแค่ยี่สิบห้าปีโดยมิได้ทำอันใดที่สมควรจะทำ ไม่สมควรได้เสพสุขสันต์ในสิ่งที่ควรจะมี ดวงจิตก่อนตายในครั้งสุดท้าย นอกจากจะขอผัวแล้ว ก็อยากให้ตัวเองกลับมารู้สึกดั่งเช่นสาวรุ่นเยาว์อีกครา จนได้จุติมาเกิดในร่างของเด็กสาวเยาว์วัยคนนี้

ช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ถูกแต่งแต้มแค่เพียงความหงอยเหงา โดดเดี่ยว และไร้มิตรของเธอนั้น

อาจจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในโลกนี้ก็เป็นได้

ในนิมิต มธุรสมองเห็นตัวเธอในอายุสิบเจ็ดปี ที่นั่งอยู่เดียวดายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก

หญิงสาวผอมเพรียวไร้สัดส่วนโค้งเว้า สวมแว่นสายตาหนาเตอะ นั่งทำการบ้านกองโตของตนเองเพียงลำพัง ไร้พ่อแม่เคียงข้าง ไร้ไออุ่น เนื่องจากพอจาตุรงค์เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังอายุเพียงแค่สิบสองปี ส่วนแม่ก็ตรอมใจจากการตายของสามี กลายเป็นโรคซึมเศร้าต้องรับประทานยากดประสาททุกวัน ส่วนลูกสาวในอายุสิบเจ็ดปี ก็ได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวตั้งแต่ยังน้อย

เธอทำทุกอย่างที่พอจะทำให้เป็นเงินได้ แม่ที่ไร้ความสามารถที่จะเลี้ยงดูจุนเจือครอบครัวเพราะจิตใจแปรปรวนนั้นทำให้มธุรสเติบโตมาด้วยลำแข้งของตัวเองเพียงลำพัง ไม่มีเพลาจักไปหาคนรักหรือคู่ครองของตัวเองเลย

เธอเป็นผู้ใหญ่ที่ยังคงจมอยู่กับโลก 2D และโลกเสมือนจริง บางครั้งก็ชอบทำตัวเหมือนเด็กจนน่าระอา

มธุรสชื่นชอบโลกของวรรณกรรม นวนิยาย เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอหนีออกจากโลกความเป็นจริงได้ชั่วคราว โลกที่เต็มไปด้วยความสวยงาม สามารถรังสรรค์ได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา ไม่ใช่โลกที่เธอนั้นดำเนินชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว

ใบหน้าของสาวเจ้าหมองเศร้า เบือนสายตาหนีจากภาพอันอ้างว้างนั้นอย่างไม่อยากดู ตรงหน้าของเธอจึงฉายเป็นภาพมอนิเตอร์ของตัวเจ้าจันทร์ในฝันของเธอ

‘ชะตาของเจ้าถูกกำหนดขึ้นมาเช่นนี้แล้ว เจ้าจักกลายเป็นเจ้าจันทร์ ส่วนเจ้าจันทร์นั้นไซร้คือกายเนื้อของเจ้า’

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๕) จบตอน

    เสียงทุ้มน่ากังขากังวานมาตามลม มธุรสพยายามหันรีหันขวางเพื่อมองหาต้นตอของสุรเสียงดังกล่าว แต่หาได้พบเจอใคร มีเพียงความมืดโอบรอบกาย ตรงหน้าเป็นเพียงภาพจอมอนิเตอร์อันสว่างโร่เท่านั้นภาพตรงหน้ากลายเป็นภาพของหญิงสาวนามว่าเจ้าจันทร์ที่เธออยู่ในร่างของนาง สวมสไบงดงาม แต่นางท้องโตโยเย และลูบท้องกลมอย่างรักใคร่นั่นคืออะไร...!“เฮือก!”สิ้นภาพนั้น มธุรสก็ลืมตาตื่นขึ้นในห้องบรรทมห้องเดิมกับครั้งที่เธอเสร็จสมใจกับยักษ์ที่มีนามว่าสุวรรณราพณ์ตนนั้น ดวงตากลมโตกวาดตามองไปรอบๆ ห้องแปลว่าเมื่อสักครู่นี้คือฝัน แต่เป็นฝันที่ซ้อนฝันอีกที เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนยังอยู่ในความฝันก่อนจะสลบไสลไป แสดงว่านี่ก็คือความจริงว่าแล้วก็ก้มลงมองร่างกายของตัวเองที่บัดนี้เปลือยเปล่าล้อนจ้อน“คุณพระ!” ยกมือทาบอก ฮะหรือ ฮะหรือ ฮะหรือว่าเธอจะเสร็จสมดั่งใจหมายกับยักษ์ตนนั้นเสียแล้ว!“มิต้องหวั่นเกรงไปดอก เจ้ายังมิได้ตกเป็นเมียข้า” สุ้มเสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินครั้งแรกก็ไม่รู้ลืมว่าเป็นใครดังขึ้นแกมรู้ทัน สาวเจ้ารีบคว้าผ้าห่มมาคลุมกาย หันไปป้องสายตาเข้ากับแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยอักขระขอมโบราณ มัดกล้ามที่แค่มองเพียงด้านหลั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๑)

    รุ่งสางของวันถัดมา นางสนมทั้งสิบเอ็ดนางนั่งอยู่ขนาบข้างบัลลังก์ทอง กษัตริย์อสุรานั่งมองความสวยความงามของหญิงสาวทั้งสิบเอ็ดนางที่เขาลงทุนลงแรงไปชิงมาด้วยการรุกรานเมืองของกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์จนแตกพ่ายไปหลายเมือง เนื่องด้วยพละกำลังวังชา รวมถึงคาถาอาคมแก่กล้าไม่เท่ายักษาที่ดำรงอยู่มาถึงร้อยปีเช่นเขาช่วยไม่ได้... ถึงแม้จะหลงใหลเจ้าจันทร์สักเพียงใด แต่สำหรับบุรุษเพศ เมียเดียวนั้นไซร้คงจะไม่พอ“ท่านสุวรรณราพณ์เพคะ มิพาสนมมาอีกได้หรือไม่เพคะ”ตองนวล หญิงสาวที่งดงามรองลงมาจากเจ้าจันทร์ ซึ่งในระหว่างที่รอคอยจะชิงใจเจ้าจันทร์นั้น นางเคยเป็นสนมที่งามและเป็นที่โปรดปราณที่สุด เป็นที่เลื่องลือในกรุงยักษาว่ามินานจะต้องได้ขึ้นเป็นชายาเคียงคู่ท่านเป็นแน่ ตองนวลหลงใหลในตัวสุวรรณราพณ์นัก เธอเอื้อนเอ่ยสุ้มเสียงกังวานใสเว้าวอนผู้เป็นสามีของตนไม่ชอบใจนักที่พานังเด็กสาวนั่นมาแถมหมางเมินนางซึ่งเป็นคู่เคียงหลับนอนประจำของท่าน ดวงใจดวงน้อยเต็มไปด้วยความริษยาชิงชัง นังเด็กนั่นหน้าตาสะสวยจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ตรงกับสตรีที่ท่านสุวรรณราพณ์ชื่นชมเมื่อคืนก็ชิงสนมมาอีกหนึ่ง แต่มิได้แวะเวียนไปร่วมลงหอกับนาง ปกติถ้าวันไ

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๒)

    “ก็จักชำระกายร่วมกับเมีย ผิดด้วยรึ?” สาวเจ้ามุ่ยหน้า ชีกอ ขี้โชว์ไม่พอ ยังเก่งเรื่องการคิดเองเออเองอีกต่างหาก ครบสูตรหลัวชั่วแห่งราชอาณาจักรเสียจริง“หนูยังไม่ได้เป็นเมียคุณสักหน่อย” โฉมตรูสะบัดหน้า ขัดใจนักเชียวพ่อยักษ์จอมเจ้าเล่ห์ ถึงจะเป็นสาวเวอร์จิ้น แต่ก็เลือกนะยะ“เรื่องนั้นพี่มิสนใจ” บุรุษตัวใหญ่กว่าเอื้อมฝ่ามือหนามาไล้แก้มเธอ “อยู่ในเมืองของพี่ ในเรือนของพี่ สักวันก็จักได้เป็นอยู่ดี”แหม! ช่างพูดช่างจา เกี้ยวพาราสีสาวได้คล่องแคล่วเชียวนะแก“หนูไม่อาบน้ำกับคุณหรอกค่ะ เชิญอาบไปคนเดียวเลย หนูจะกลับไปนอนที่เรือน” สาวเจ้าพูดพลางเชิดหน้าหนีอุ้งมือใหญ่ ไม่ต้องมาโชว์กล้ามเนื้อตรงนี้จะได้หรือปะ ถึงชาติที่เป็นมธุรสจะบ้ากล้ามหน้าท้องผู้ชายและบ้าหนุ่มกล้ามปูสักเพียงใด แต่จะมิหลงกลพ่อยักษ์กะล่อนนี่เด็ดขาด ความหล่อเหลามันทานไม่ได้! “แล้วเรือนอยู่ทางไหนคะ หนูจำทางกลับเรือนไม่ได้”โว้ย น่าสมเพชจริงอีนังมธุรส เรื่องหลงๆ ลืมๆ เส้นทางของหล่อนนี่ยังเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าจริงๆสาวเจ้าบ่นอุบใส่ตนเอง ไม่มีทางเลือกต้องหมุนตัวพลิกลิ้นกลับไปพึ่งพาเจ้าของบ้านอย่างเขาอย่างเสียมิได้อสุราหนุ่มแย้มยิ้มพราย

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๓)

    “มิมีปากมีเสียงเช่นนี้ สำแดงว่าที่ตัวพี่เอ่ยเป็นอันถูกต้อง” ยักษ์ว่าเช่นนั้น เข้าใจว่านางคงอายหากมีใครมาเห็นเขาและนางล่อนจ้อนกอดกันในสระบัวเช่นนี้ จะว่าพิกลไม่ได้ เพราะเจ้าหล่อนนั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่นั่นเองคิดได้เช่นนั้น อสุราหนุ่มจึงร่ายคาถา สร้างต้นไม้ใหญ่รกครึ้มรอบๆ สระบัวในทันทีมธุรสอ้าปากค้าง เมื่ออยู่ดีๆ รอบสระบัวก็ปรากฎต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นรอบๆ กลายเป็นป่าละม่อมขนาดย่อมเธองเหลียวกลับไปจ้องหน้าอสุราหนุ่มอย่างตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เคยรู้เลยว่ายักษ์จะร่างเวทมนตร์คาถาเสกต้นไม้ได้ด้วย นี่เหมือนหล่อนกำลังอ่านแฮรี่ พ็อตเตอร์ของเจ. เค. โรว์ลิ่งอยู่เลยอ่ะ“เท่านี้ก็มิมีปัญหาแล้วใช่หรือไม่” ยังมิวายก้มหน้าลงมาถามหล่อนด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์นั่นอีก“มะ... มันก็ดีอยู่หรอกค่ะ” ก็ทหารของเขายืนอยู่ตรงนู้นนี่หว่า เมื่อเกิดป่ารกทึบรอบสระบัวแบบนี้ ก็คงไม่มีชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธออีก “แต่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”ท้ายประโยคสาวเจ้าบ่นอุบอิบ น่าพิกลจริงที่สุวรรณราพณ์ตามใจเธอแบบนี้“พี่ตามใจเมียทุกคนของพี่นั่นแล” หากแต่คำตอบก็พอทำให้หญิงสาวรู้ว่าทำไม ได้แต่มุ่ยหน้าตามประสาเด็กสาวที่หมั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๔) จบตอน

    “พระสนมเจ้าคะ ข้าว่ากลับเรือนเถอะเจ้าค่ะ แดดเริ่มแรง เดี๋ยวพระสนมจักเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน” สาวรับใช้ประจำตนเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง รู้ดีว่าพระสนมของตนนั้นหลงใหลท่านผู้นั้น ยอมตกเป็นของท่านหลายคราเพียงเพื่อได้หัวใจของท่าน แม้เพียงแค่ชายตาแลก็ยังดีแต่ในขณะเดียวกันสาวรับใช้นางนั้นก็รู้ดีเพราะว่ารับใช้กษัตริย์กรุงยักษามามากกว่าสองร้อยปี ว่าท่านผู้นั้นเฝ้ารอคู่ชะตามานานเพียงใด แม้ท่านจะมีเมียมากตามประสากษัตริย์ แต่ทว่ากลับไม่เคยมีครั้งใดที่ไม่พร่ำบ่นคิดถึงคู่ชะตาถึงร้อยกว่าปีนั่นเลยสักคราเมื่อได้คู่ชะตามาอยู่ในกำมือของตน จึงไม่แปลกหากท่านจะเอาแต่สนใจท่านหญิงผู้นั้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา“เมื่อใดกันสูรย์ตรี เมื่อใดกันที่ข้าจักได้อยู่ในพระเนตรของท่านบ้าง” ตองนวลเอ่ยกับสาวรับใช้ของตนอย่างแสนเศร้า เนื่องจากสุวรรณราพณ์ไม่คิดเชื่อใจผู้ใดนอกจากคนของตน จึงออกคำสั่งให้สูรย์ตรีมาเป็นสาวรับใช้ของตองนวลแทนสาวรับใช้ในเมืองเก่าที่นางจากมา เพราะฉะนั้นสาวรับใช้ของสนมทุกคนของท่านจึงเป็นเผ่าพันธุ์ยักษ์ทั้งสิ้น“พระสนม...” สาวรับใช้ร่างใหญ่เอื้อนเอ่ยเรียกชื่อพระสนมของตนเสียงอ่อน เอื้อมมือไปคว้าฝ่ามือนวลมากุมไ

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๑)

    สุวรรณราพณ์ยักษาเคลื่อนกายปราศจากอาภรณ์เข้ามาภายในเรือนใหญ่ของตนอย่างไม่นึกอายบ่าวรับใช้ที่หมอบกราบหน้าสลอนกันแม้แต่เพียงนิด แต่สาวร่างใหญ่เหล่านั้นคุ้นชินกับอุปนิสัยนายของตนเสียแล้ว จึงตบแต่งกายาอาภรณ์ให้ท่านแต่โดยง่าย สูรย์เกล้าที่เป็นบ่าวประจำท่านยกสังวาลและทับทรวงให้สูรย์มนตราซึ่งเป็นบ่าวรับใช้อีกนาง หล่อนแต่งโฉมให้กษัตริย์กรุงยักษาได้ดั่งเช่นทุกวันสุวรรณราพณ์ตรวจทานตนในคันฉ่อง รูปโฉมเขาในชาตินี้งดงาม ไม่แปลกที่จักมีสนมถึงสิบสองคน แม้สนมคนที่สิบเอ็ดจักไม่ได้ต้องใจเขาเช่นสนมคนอื่นๆ ก็ตามจะว่าไป บุศยาสนมคนที่สิบสองที่ไปชิงมาจากเมืองหัสดีเมื่อคืนวาน ยังไม่ได้เข้าไปทักทายพูดคุยกันเลยดอกหนา“บุศยาอยู่ที่ใด” ท่านเหลียวไปถามสูรย์เกล้าด้วยสุ้มเสียงทรงอำนาจ นางหมอบกราบท่าน แล้วตอบคำถามโดยง่าย“เรือนหอนอนประจำของนางทางปีกซ้ายเพคะ”“ข้าจักไปหานาง เร่งไปบอกสูรย์เสียงให้ตบแต่งนางให้พึงใจข้าโดยเร็ว”“เพคะท่านผู้มากศักดา” นางยกท่านขึ้นเหนือศีรษะ คำยกย่องนั้นเป็นปกติของกรุงยักษาแห่งนี้ที่มักใช้เยินยอกษัตริย์หรือพระมเหสีผู้ทรงศักดิ์ สูรย์เกล้าย่อเท้าเกือบชิดพื้นออกไปจากห้องหับของเขาอย่างยำเกรงส

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๒)

    บุศยานิ่งอึ้งอย่างตกตะลึง ตั้งแต่จำความได้ หล่อนเกิดมาพร้อมกับคำสาป ลายสักที่กลางหลังจักปรากฎขึ้นเมื่อมีผู้มีคาถาอาคมแก่กล้าเปิดเผยมัน พระโหราธิบดีทำนายทายทักว่าจักมีอมนุษย์รูปงามช่วยนางให้พ้นจากคุณไสยที่ตามหลอกหลอน พระบิดาจึงส่งหล่อนให้ตกเป็นเมียของท่านผู้นี้ตั้งแต่อายุยังมิครบจักออกเรือนมินึกรู้ว่าท่านจักไหว้วานยักษาตนนี้ให้รักษาหล่อน“เสด็จพ่อตรัสเช่นนั้นกับท่านหรือเพคะ” บุศยากุมทรวงเล็ก ซ่อนไว้ใต้ผ้ารัดอกที่ถูกดึงออก ท้วงถามด้วยความฉงนใจ“ตามที่ข้าพูดนั่นแล” สุวรรณราพณ์ให้คำตอบ นางจึงระบายยิ้มบางออกมา อย่างน้อยเสด็จพ่อผู้เย็นชาผู้นั้นก็ยังห่วงหาอาทรในตัวนาง แม้นตั้งแต่จำความได้ ท่านจักมิเคยแลเห็นหรือให้ความสำคัญในตัวพระธิดาคนสุดท้องเช่นนางเลยก็ตาม“... เช่นนั้น” สุ้มเสียงเล็กผุดคำถามขึ้นมาอีกครา “ท่านจักมิทำอันใดข้าแล้วใช่หรือไม่”“เจ้ายังเยาว์วัยเกินไปนัก ข้ามินิยมชมชอบสมสู่กับผู้เยาว์ดอกหนา”แม้นจักเป็นคำพูดที่แสบสันในทรวงนัก แต่เจ้าหล่อนกลับระบายยิ้มกว้างออกมามากกว่าเดิม“ขอบพระทัยในความใจบุญของท่านนักเพคะ” หล่อนประนมมือจรดอก และก้มลงกราบอสุราหนุ่มที่ทรงเมตตากับนาง ที่นอกจากจั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๓)

    แม้รู้ดีว่ามันช่างน่าละอาย ไม่เหมาะไม่ควรจักเป็นกิริยางามของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ แต่ขอเพียงแค่ได้แนบชิดกับกายแกร่งนั้นอีกสักคราเป็นพอ ให้ท่านรับรู้กับความรักเปี่ยมล้นจากกายาของนางทุกอณู“กลับเรือนเจ้าไปเถิด” อสุราหนุ่มปฏิเสธอย่างมิใยดี ใบหน้านงคราญชาดิกเสียจนมิรู้สึกอะไร “ข้ามิมีธุระจักร่วมรักกับเจ้า”“แล้วท่านจักต้องเสียพระทัยที่ทำกับข้าเช่นนี้” หญิงสาวพูดปนสะอื้นไห้ หลบหลีกออกไปจากหอนอนของท่านอย่างเสียหน้าในทันใดดวงหน้าคมคายเหลียวไปมองยังประตูที่นางหลีกออกไป ก่อนจะหันไปส่องตนในคันฉ่อง มิได้จะนึกอยากชมเชยรูปร่างของตนเสียทีเดียว แต่ในชาตินี้เขารูปงามถึงขนาดมีสนมถึงสิบคนไม่มีกระไรที่ขาดพร่องเหมือนชาติก่อนอีก“อีขวัญยอดรักของพี่... พี่จักช่วยเจ้าเอง”ความเจ็บปวดพระทัยที่มิอาจช่วยนางให้รอดพ้นจากความตายในชาติก่อนได้ ทำให้ชาตินี้เขาจำเป็นต้องมีนางอยู่ในกำมือตัดไปที่ด้านมธุรสแน่งน้อย นางสัมผัสได้ถึงสายตาด้านนอกหน้าต่างมาสักพัก เหมือนจักโดนสตอล์กเกอร์แต่ก็ไม่มีใครในหอนอนนี้นอกจากนางเลยหันขวับไปมองหลังจากที่นั่งๆ นอนๆ ในหอนอนนี้อยู่นานสองนาน ด้านนอกมีเพียงต้นสักที่แผ่กิ่งก้านสาขา ไร้ผู้ใดน

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๒)

    อ้อมกอดแห่งครุฑสีชาตินั้นทำให้นางยากจักถอนกายออก ความอบอุ่นที่ไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดชายผู้นี้ถึงได้เลือกนางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด กรรณิกาอัปสรไม่คิดหวังให้ท้าวไกรสิงห์ใฝ่รักใฝ่หานาง หล่อนหมดหวังไปตั้งแต่พระสวามีคนก่อนแล้วสุวรรณราพณ์มองกรรณิกาที่อยู่ในร่างของเจ้าจันทร์เป็นเพียงแค่ตัวแทนหญิงที่ห่างกายเขาไปเมื่อนานมาแล้ว เขามักตัดพ้อรำพันทุกค่ำคืนว่าหญิงในอดีตชาตินั้นร้างรักเขาเนื่องจากเป็นอสูรรูปชั่ว แม้นมียศถาบรรดาศักดิ์มากมาย ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจนางได้หารู้ไม่ว่าทุกอย่างนั้นคือบ่วงกรรมที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องเผชิญ ฝ่ายท้าวไกรสิงห์นั้นไม่สามารถระลึกชาติก่อนได้ แต่เขามีสะพานกรรมที่ต้องวนเวียนชดใช้ อดีตชาติของท้าวไกรสิงห์ก่อนจักมาเกิดเป็นครุฑนั้น คืออดีตพรานบุญที่หลงรักมธุรสวดี อัปสราสาวที่ลงมาล้อเล่นน้ำอาบแสงจันทร์กลางป่าหิมพานต์ในสระอโนดาต แลเสพสมกับหล่อนกลางสระงาม โดยที่หล่อนเมามายรสน้ำเงาจันทร์ ทำให้หลงลืมคิดว่าพรานบุญนั้นคือสามีของตนเฉกเช่นทศกุมภัณฑ์เมื่อทศกุมภัณฑ์มาพบการก่อกบถเข้า จึงทำการฆ่าพรานบุญคนนั้นจนตายในชาติก่อน ชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก พรานบุญนั้นสาปแช่งก่อนตายตกว่าชาติ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๑)

    ก่อนพบรักกับอัปสรมธุรสวดี ทศกุมภัณฑ์เคยมีภรรยาเป็นยักษีรูปร่างงดงามสะสวย นางเสวยทิพย์มิกินเนื้อคนต่างจากเขาผู้เป็นสวามี นางถูกตบแต่งกับเขาเพียงเพื่อสานไมตรี ทศกุมภัณฑ์อัปลักษณ์หากแต่มียศศักดิ์บริวารมาก ตระกูลยักษ์ฝั่งนั้นจึงส่งนางปารตีเป็นเมียกำนัล การตบแต่งที่มิได้เริ่มต้นด้วยความรัก สุดท้ายทศกุมภัณฑ์กลับหลงรูปโฉมอัปสราจนทิ้งนางน้ำตาตกในตลอดมานางยักษ์ปารตีเองก็มิได้เหลียวแลเนื่องจากสวามีนั้นโหดเหี้ยมทานแต่เนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อสัตว์เนื้อมนุษย์ไม่ขาดปาก นางที่เป็นยักษ์เสวยทิพย์ชั้นสูง จึงตีตนออกห่าง จนเป็นช่องโหว่ให้อีกฝ่ายนั้นไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย อยู่ของนางดีๆ ก็ต้องมารับรู้ว่าสวามีของตนนั้นได้ลิ้มรสเชยชมนางอัปสรชั้นสูง พร้อมกับเอานางอัปสรมธุรสวดีเข้ามากกกอดถึงในรังนอนนิมมานเทพเองต้องการดวงตาของนางยักษ์ปารตี เนื่องจากดวงตาของนางเป็นดวงตาที่สาม สามารถเปิดโลกแห่งความตายทั้งปวงได้ การมีดวงตาของนางเอาไว้ในครอบครอง มิว่าจักเป็นนรกภูมิหรือสรวงสวรรค์ เขาจักเป็นชายผู้มากศักดาจนมีแต่คนอยากคบหาพาที เขาจึงส่งนางอัปสรมธุรสวดีเข้าหาทศกุมภัณฑ์หวังยั่วยวนหาโอกาสฆ่าชิงดวงตาที่สามของนางปารตี แต่นางอั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๕) จบตอน

    “เมื่อเจ้าเติบใหญ่กว่านี้ พ่อจักบอกทุกอย่าง อดทนรอแล้วทำตามที่พ่อเอ่ยได้หรือไม่” แน่นอนว่าพระสุวรรณราพณ์รู้ดีถึงพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของบุตรแฝด แต่เนื่องจากอินมุกแลจันทร์ดายังมิมีวุฒิภาวะหรือการเผชิญหน้ากับโลกภายนอกมากพอที่จะเข้าใจเรื่องราวในอดีตชาติของตน เขาจึงอยากรอให้ลูกทั้งสองเติบโตมากกว่านี้ก่อน“ไม่! ท่านควักดวงตาแม่แท้ๆ ของข้า แลยังขับไสไล่ส่งแม่ที่แท้จริงของพวกเราไปไกลบ้านไกลเมือง หากมิรักใคร่เนื่องจากพวกเราเป็นสายเลือดมนุษย์ ท่านพ่อก็บอกข้ามาตามตรงเถิด!” จันทร์ดาได้ฟังพี่ชายว่าเช่นนั้นก็ใจตกไปอยู่แทบตาตุ่ม ยืนร่ำไห้กอดอินมุกที่หยัดยืนสู้ตัวน้อยๆ ประจันหน้ากับกษัตริย์เมืองยักษ์ที่ถือเป็นบิดาแท้ๆ ของตน ตั้งแต่เกิดมาบิดาไม่เคยพูดดีด้วยนอกเสียจากมองเขาเป็นตัวปัญหา แม้นจักเป็นลูกของสตรีที่มิได้รัก แต่ก็มีหัวจิตหัวใจเช่นกัน“ควักดวงตา? หมายความว่าเช่นไร” สีหน้าของพระสุวรรณราพณ์นั้นสับสน ชวนให้สองเด็กแฝดชะงักไป“พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๔)

    “ไสหัวไปเสีย ก่อนที่กูจักบั่นคอมึงให้ดับดิ้นอยู่ตรงนี้” พอได้ยินอีกฝ่ายตีฝีปากกลับอย่างมั่นอกมั่นใจเช่นนั้นอสุราหนุ่มยิ่งพิโรธเหลือ เขารู้เรื่องราวทุกอย่างที่หล่อนลงมาแลแปลงกายเป็นอัปสรเพื่อเข้ามาเป็นสนมคนที่สิบสาม แต่เขาไม่สามารถล่วงรู้ได้ถึงช่วงที่นางดำรงอยู่บนสรวงสวรรค์กับนิมมานเทพ มิอาจรู้ได้ว่ามันได้เป่าหูกระไรนางไว้บ้าง“อย่าลืมเสีย สุวรรณราพณ์... ไม่สิ ไอ้ทศกุมภัณฑ์เอ๋ย”“...!”“มธุรสวดีจักไม่มีวันตกเป็นของมึง แม้นชาตินี้หรือชาติไหน กูจักตามราวีมึงทุกชาติไป เพื่อให้ได้มาซึ่งหญิงที่กูหมายครอง”ไวกว่าความคิด พระสุวรรณราพณ์เขวี้ยงดาบทมิฬตรงไปยังร่างตรงหน้าหวังฟาดฟันด้วยความเกรี้ยวโกรธสุดกำลัง แต่ร่างนั้นกลับสลายหายไปเป็นเพียงไอหมอกเย็นเยียบโอบล้อมรอบดาบดำมืดก่อนที่จักถึงตัว พระสุวรรณราพณ์เรียกดาบทมิฬกลับมาสู่ฝ่ามือใหญ่ กวาดสายตามองไปรอบๆ พลางขบฟันกรอดอย่างขัดเคืองมาทั้งที ก็ทิ้งเพลิงกัลป์ไว้เลยสิหนา“ทะ... ท่านพ่อ ข้า...” อินมุกมีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อผู้เป็นพ่อหมุนตัวใหญ่โตหันกลับมา ดวงตาสีชาดหรี่ลงมองบุตรชายที่ยืนตัวสั่น พระสุวรรณราพณ์ทำได้เพียงเดินนำหน้าลูกไปเท่านั้น“ตามพ่อมา อิ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๓)

    “พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว่ากรรณิกา”“!!!” ทั้งอินมุกแลจันทร์ดาเบิกตากว้าง เป็นจริงดั่งสัญชาตญาณที่ว่ามารดาของตนนั้นไม่อยู่ที่นี่ ตัวจริงนั้นอยู่เมืองจันทร์ ส่วนตัวปลอมที่แปลงเป็นมารดาของพวกเขานั้นคือหนึ่งในสนมที่เป็นนางสวรรค์แต่ยิ่งหดหู่ใจไปกว่านั้น... คือเรื่องที่บิดาเลือกที่จะควักลูกตาของพระมารดาไป เนื่องจากไม่เป็นที่โปรดปรานดั่งเช่นสนมที่เป็นนางอัปสร มันช่างน่าเศร้านัก นี่ท่านพ่อไม่มีความรักต่อแม่เราเลยหรือ“... ว่าต่อได้หรือไม่” ท้ายที่สุดเด็กชายก็อดรนทนไม่ได้ ด้วยความอยากรู้เรื่องราวของแม่ที่แท้จริงจึงเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากเมื่อครู่“จงมอบความเชื่อใจให้แก่ข้าเสียก่อน จึงจักเล่าต่อได้” นิมมานเทพถือโอกาสออกกลอุบายดึงบุตรของพระสุวรรณราพณ์มาเป็นพวกด้วยค่าของเรื่องราวของหญิงที่เขามินึกใส่ใจอย่างธิดาเจ้าจันทร์“ข้าแลน้องสาวจักเชื่อใจเจ้า”“อินมุก... เจ้ามิรักพระบิดาหรือ เจ้าเชื่อใจข้ามากกว่าพระบิดาหรือ ทั้งๆ ที่มันอาจจักเป็นคำโก

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๒)

    มิรู้ดอกว่าแปลงกายมาหลอกพ่อด้วยเหตุอันใด แต่จักมิยอมญาติดีกับแม่อัปสรสวรรค์นั่นเด็ดขาด“ข้ามิพูดคุยหรือทำดีต่อนาง ยัยนั่นมิใช่แม่ของข้า แม่ของข้าชื่อเจ้าจันทร์ ข้าจำกลิ่นไอของแม่ข้าได้ดี!”“อินมุก จริงๆ แล้วแม่ของเจ้า...”“เลิกพยายามจักโป้ปดข้า หาความดีความชอบมาสู่นังอัปสรนั่นเสียที ท่านพ่อรักหลงนางจนมิเห็นหัวข้าแลน้องจันทร์ดาเลยด้วยซ้ำ!” ว่าพลางก็กัดฟันข่มความรู้สึกโกรธแค้นนางอัปสรนั่น ฉุดแขนจันทร์ดาที่ยืนมองท่านพ่อกับพี่ชายต่อล้อต่อเถียงกันและวิ่งตามแรงจับจูงของพระเชษฐาไปอย่างว่าง่ายอินมุกวิ่งมาจนถึงบึงบัว กำหมัดแน่นในข้างที่ไม่ได้จูงฝ่ามือเล็กของน้องสาว จันทร์ดาเอียงคอมองพี่ชายฝาแฝดที่บัดนี้น้ำตาหยดลงสู่ผิวแก้มสุกปลั่ง“พี่อินมุก โอ๋ โอ๋ พี่อินมุกอย่าร่ำไห้เลยเจ้าค่ะ” เสียงหวานปลอบประโลมพี่ชายเพียงแผ่วเบา ตระกองกอดพี่ชายแนบแน่นเท่าที่จำความได้ อินมุกกับจันทร์ดามีสูรย์วันบ่าวยักษีตนหนึ่งคอยดูแลเป็นแม่นมให้ตั้งแต่เล็ก สายใยอบอุ่นระหว่างพวกเขาและพระมารดาแน่นแฟ้น อินมุกและจันทร์ดาเชื่อว่ามารดาคลอดตนด้วยความรักใคร่ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ถามถึงแม่ของตนที่มีนามว่าเจ้าจันทร์นางสูรย์

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๑)

    “มิมีสาส์นตอบรับส่งมาจากเมืองครุฑเลยพะย่ะค่ะฝ่าบาท... จนบัดนี้แล้ว”เหล่าทหารกราบทูลกับพระสุวรรณราพณ์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ใหญ่มหึมา ได้ความว่าสาส์นท้ารบนั้นอาจส่งไปถึงเมืองครุฑ แต่ฝ่ายไอ้ท้าวไกรสิงห์อาจยังเล่นตุกติกมิยอมส่งสาส์นกลับมา ทำตัวยั่วโมโหเก่งจริงๆพระสุวรรณราพณ์เข้าใจว่ามันนึกแค้นเคืองที่ในอดีตชาติต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ยักษ์เช่นทศกุมภัณฑ์ (ซึ่งก็คือตัวเขาเองนั่นแล) นั้นเข่นฆ่าฉีกเนื้อเทือหนังครุฑอย่างโหดร้ายเพียงเพื่อชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก แม้นจักมาเจอเมียในร่างไร้วิญญาณก็ตาม แถมในอดีตก่อนเจอคู่ชะตา สังวรีราพณ์ก็ได้ไปบุกเมืองครุฑด้วยความหิวกระหายเนื้อสดหลังจากจำศีลไม่กินเนื้อมาเกือบห้าสิบปีจนตบะแตกด้วยดวงจิตทมิฬที่สอง สุดท้ายก็ฆ่าพวกครุฑแลครุฑีไปเกินครึ่ง แถมยังกินจนเหลือแต่กองกระดูกนกให้ดูต่างหน้าอีกด้วยเรียกได้ว่าเขาเองก็เป็นตัวการที่ทำให้ฝั่งไอ้ท้าวครุฑนั้นมีความอาฆาตแค้นจนต้องชิงสิ่งสำคัญออกไปอย่างเช่นภาชนะอย่างธิดาเมืองจันทร์ที่มีดวงจิตมธุรสวดีอยู่ในนั้น แม้นสุดท้ายจะสู้พลังวังชาของพระสุวรรณราพณ์ไม่ได้ก็ตามที่ส่งสาส์นท้ารบไป เพื่อจักให้มันจบมันสิ้นไป ให้มันได้ระบายอาร

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๕) จบตอน

    แต่พระมเหสีเจ้าจันทร์กลับต่างออกไป ตลอดสามวันหลังคลอดเด็ก นางแวะมาแอบดูเด็กทั้งสองแลพยายามเข้าหาอยู่หลายครา แต่เด็กแฝดปฏิเสธการเข้าหาของแม่ สูรย์วันคิดว่าวันเดียวเธอคงล้มเลิกแล้ว เพราะคงมิมีใครอยากมีลูกกับยักษ์ สนมทุกคนที่ท่านนำพา ก็ล้วนแต่มิเต็มใจตกเป็นเมียทั้งสิ้นแต่นางกลับไม่เคยยอมแพ้ ยังแวะมาขอกอดขออุ้มอยู่ทุกวันแม้จักรู้ว่าเด็กทั้งสองจักต้องกระจองอแงแลผลักไสนางด้วยเดียดฉันท์เลือดมนุษย์“พระมเหสีทรงอยากอุ้มบุตรธิดาหรือเพคะ”“อะ... อื้อ” สาวเจ้าพยักหน้าหงึกหงัก ดวงหน้าซีดเซียว อาจเพราะยังป่วยอยู่“ท่านอินมุกแลท่านจันทร์ดายังมิคุ้นชินนัก แต่สักวันคงจักคุ้นได้แน่” นางว่าด้วยความหวังดี ฝ่ายกรรณิกาเองก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่จากทุกวันที่โดนลูกปฏิเสธ มันออกจักฝังใจมิน้อยแต่อย่าหวังว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอจักมีเพียงแค่นี้หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เด็กหัวจุกทั้งสอง ค่อยๆ ยกจันทร์ดาขึ้นมาก่อนเพราะลูกหญิงมักอ่อนโยนกว่าคนพี่เล็กน้อย พร้อมกับยกบุตรสาวที่ทำตาโตมาแนบอกอิ่ม“จันทร์ดา... นี่แม่เองนะ”“...”“จันทร์ดา แม่รักหนู... แม้จักเป็นช่วงเพลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม”หมับ!“อึก...!” แต่ยั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๔)

    ทำเป็นไม่รู้ต่อไป เพื่อรักษานางไว้ รวมถึงรักษาสัมพันต่อสรวงสวรรค์ มิเช่นนั้นทุกอย่างจักยากขึ้นเกือบเท่าตน ทั้งการสัญจร รวมถึงพันธะสงบศึกที่มีมาตั้งแต่อดีตชาติระหว่างสรวงสวรรค์แลโลกอสูรเป็นเพียงอสูร มีอำนาจมากมายเพียงไหน สุดท้ายยังถูกชิงไปได้ด้วยเทวดาอยู่ดีส่วนเด็กสาวผู้มิรู้ประสากระไรทั้งนั้น ได้แต่สั่นสะเทือนอยู่บนกายใหญ่เนื่องจากร่างกายเล็กจ้อยแสนเปราะบาง นางครางครวญเสียงสะท้านหวามไหว กอบโกยอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ท่าทางนี้มองเห็นดวงหน้าของยักษาได้ถนัด เขากำลังจ้องมองหล่อนอย่างเปรมปรีดิ์ รบกวนจิตใจเหลือเกินทำมาเป็นจ้องมองเหมือนรักเหมือนหลงยิ่งนัก จักทำให้ร่างน้อยๆ นี่เป็นของโปรดของเจ้าให้ได้เลยเชียวว่าพลางก็พยายามขยับบั้นเอวน้อยเพื่อคลึงความใหญ่โต แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ถึงร่างกายจะแปลงตนเป็นอัปสร แต่ก็รับความรู้สึกได้ทุกอณูไม่ต่างกับร่างกายมนุษย์จนเริ่มชักไม่แน่ใจ ว่าตนเองเป็นอัปสร หรือมนุษย์กันแน่หรือนางหลอมรวมกับร่างเจ้าจันทร์ไปแล้ว?คิดเพ้อฝันพลางส่ายหัว ร่างนั้นจำแลงเป็นการเวกกลับสู่เมืองจันทร์ไปแล้ว สุวรรณราพณ์ตกเป็นของนางแทนที่เจ้าจันทร์แล้ว นี่ล่ะค

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status