Home / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๓)

Share

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๓)

last update Last Updated: 2024-12-31 00:41:40

“... อื้อ เดี๋ยว!”

“ข้าหลงใหลเจ้าเหลือเกิน เจ้าที่บริสุทธิ์งดงามถึงเพียงนี้ ข้าจักมิทำร้ายเจ้าดอก” สิ้นคำนั้น ร่างกำยำก็เบียดชิดริมฝีปาก โลมเล้ามธุรสด้วยการรุกรานกลีบปากบาง เขาแค่แตะเบาๆ พอให้ใจของมธุรสกระสันต้องการมากกว่านี้

สัมผัสอุ่นวาบจากริมฝีปากบุรุษเพศนั้นทำให้สาวเจ้าอ่อนเคลิ้มตาม มธุรสนั้นในชาติก่อนยังอ่อนต่อโลกกับเรื่องเพศ ในขณะที่สุวรรณราพณ์นั้นมีหลายเมียจนช่ำชอง สนมหลายๆ คนของเขาเป็นงานยิ่งกว่าเธอนัก

แต่สุวรรณราพณ์กลับไม่ขัดข้องหมองใจกับความไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ผุดผ่องของแม่นกน้อยของเขาเลยแม้แต่เพียงนิด นั้นเพราะมันเป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ

เธอที่มีเขาเป็นผู้ชายคนแรก กับร้อยกว่าปีที่เขารอคอย มันวิเศษสุดๆ ไปเลยไม่ใช่หรือ

“อื้ม... คุณ เดี๋ยว อะ” เสียงหวานกังวานราวกับนกที่ร้องเรียกตัวผู้ในยามเช้า เสียงหวานใสเสียจนอยากเย้าหยอก สุวรรณราพณ์กดเรียวลิ้นลงไปเมื่อเธอเผลออ้าปากเรียกชื่อเขา และทำตราประทับร่างกายเธอผ่านรสจูบอันดุเดือด

รสชาติจูบของเขาทำให้มธุรสคิดอะไรมิออก ในสมองของเธอขาวโพลน เป็นความฝันที่สมจริงเหลือเกิน สัมผัสได้ถึงน้ำลายและปลายลิ้นหยอกเย้าในปาก พร้อมกับมือใหญ่ที่ค่อยๆ ปลดสไบของเธอออกอย่างแนบเนียน

“ดะ... เดี๋ยวค่ะ” เธอผลักแผงอกกำยำนั่นออกเมื่อเขาตั้งท่าจะปลดเกาะอกด้านในออกด้วย มือเล็กสัมผัสกับความแข็งแกร่งราวกับกำแพงยักษ์ของเขา ทำให้มือถึงกับสั่น “ฉะ... ฉันยังไม่พร้อม”

“ไม่พร้อมกระไรหรือ ในเมื่อสีหน้าของเจ้าช่างยวนใจข้าถึงเพียงนี้” คนตัวเล็กใต้ร่างใหญ่หน้าแดงก่ำเมื่อถูกบุรุษที่ชำนาญการกว่าเธอเย้า เธอเม้มริมฝีปากแน่น เพราะถึงจะเป็นความฝัน แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้จูบกับผู้ชาย (แถมเป็นผู้ชายที่ไม่ใช่มนุษย์ด้วย)

มันรู้สึกดีซซะจนมิอยากหยุด แต่เธอก็เป็นกังวลกับอะไรหลายๆ อย่าง

“ยะ... อย่างน้อย” มธุรสเอ่ยเสียงแกว่งๆ

“...”

“อย่างน้อยก่อนทำ ก็สวมถุงยางอนามัยก่อนได้มั้ยคะ?”

สุวรรณราพณ์ถึงกับอึ้งตะลึงงันเมื่อได้ยินภาษาถิ่นที่ไม่คุ้นเคย ถุงยางอนามัยนั้นคืออะไร ไม่เคยได้ยินผ่านหูผ่านตามาก่อนเลย

“เจ้าหมายถึงกระไรรึ” ถามด้วยสีหน้าสงสัย จะว่าไปเจ้าจันทร์ตั้งแต่ฟื้นพิษไข้ประหลาดก็ดูแปลกพิกลขึ้น พูดภาษาถิ่นเมืองเกิดของตนออกมาบ่อยๆ ทำให้รู้สึกสับสน

จริงด้วยสิ ถึงจะเป็นความฝันแต่ฉากก็เซ็ตมาอยู่ในยุควรรณคดี ถุงยางอนามัยในยุคนั้นคงยังไม่ผลิตหรอกมั้ง

มธุรสคิดในใจแล้วยิ้มอ่อน

“ท่านมีมาตราการป้องกันการมีเซ็กซ์จากอะไรบ้างเหรอคะ” หลังจากนั้นก็ถามคำถามเป็นทางการออกไป ถ้าให้สดไม่ป้องกันใดๆ มันอาจจะเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อตัวเธอมากกว่าเขา เผลอๆ อาจจะตั้งครรภ์เด็กตัวยักษ์เหมือนอีกฝ่าย จนเบ่งออกมาไม่ไหวโจ๊ะโม๊ะฉีกขาดจนตาย หรือไม่อย่างร้ายแรงที่สุดก็ติดเชื้อ

ก็ดูเขานุ่งลมห่มฟ้าสิ ไม่น่าจะมีกางเกงในกันความชื้นหรอก ท่าทางกลับจากสงครามตีเมือง (เพื่อล่อหญิง) ก็คงจะถอยทัพกลับมาเลย เนื้อตัวก็ยังไม่ได้อาบไม่ได้ทำความสะอาดอะไร คงมอมแมมไปด้วยฝุ่นดิน

ได้ยินมาว่าช่องคลอดของหญิงสาวนั้นบอบบางและติดเชื้อง่ายมาก ทางที่ดีที่สุดควรยืดอกพกถุงก่อนทุกครั้ง

“มาตราการ? เซ็กซ์? มันคือกระไร ข้ามิรู้จัก” คนตัวใหญ่เลิกคิ้วสงสัย มธุรสถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ช่างเถอะค่ะ” ก่อนจะหลับก็ไม่ได้พกถุงยางอนามัยวางไว้ใต้หมอนบนเตียงคนไข้ซะด้วย ถึงจะเป็นความฝันแต่ก็น่าเสียดาย คิดว่าจะได้ลิ้มรสชาติสุขสมฟีโรโมนคลั่งเป็นครั้งแรกแล้วเชียว “เรานอนกันเถอะค่ะ หรือยังไงถ้ามีเรือนเล็กๆ ให้ฉันนอนคนเดียวได้ก็ดี”

สุวรรณราพณ์ขมวดคิ้วตีสีหน้าดุดันทันที อุตส่าล่าถอยไม่ยอมเสพสังวาสกับสนมคนใหม่อีกคนเพื่อตรงมาหาเธอแต่เพียงผู้เดียว ใยจึงตัดรอนสัมพันธ์สวาทกันอย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้

“แต่ข้าปรารถนาเจ้าเหลือแสน เจ้าจันทร์ยอดรัก” แน่นอนว่ายักษ์หนุ่มไม่ยอมแพ้ เอื้อมมือหนาพลิกหลังมือไล้ไปตามเรียวแขนเปลือยของสาวเจ้าอย่างเว้าวอนกลายๆ “คืนนี้ถ้าไม่ได้ร่วมรักกับเจ้า ข้าคงแทบมอดมลาย”

อะไรจะเว่อร์ปานนั้น เจ้าจันทร์เบ้ปากคิดในใจแล้วชักไหล่หลบเพราะสยิวจนขนลุกซู่

“ขอโทษนะคะ แต่ฉันง่วงจริงๆ เดินทางมาก็ไกล เหนื่อยไม่ไหวจริงๆ ค่ะ” พูดพลางปิดปากแสร้งหาวหวอดไปหนึ่งกรุบ การอ้างว่าง่วงเป็นการกระทำที่สิ้นคิดอย่างมาก แต่เธอก็แอบคิดว่าดูอีกฝ่ายจะหลงใหลคนที่เธออยู่ในร่างถึงขนาดนี้ อย่างน้อยก็คงยินยอมไม่แตะต้องได้เพราะว่าสาวเจ้าง่วงหงาวหาวนอนไร้เรี่ยวแรงจะสานต่ออยู่แล้วละน่า

แต่มธุรสนั้นยังอ่อนประสบการณ์ที่จะเดาเชิงบุรุษเพศมากนัก โดยเฉพาะกับคนที่เลือดร้อนและเอาแต่ใจดั่งสุวรรณราพณ์ตนนี้

มิเคยมีหญิงสาวผู้ใดปฏิเสษยักษ์หนุ่มรูปงามเช่นเขา สนมที่ผ่านมา แค่เพียงโอ้โลมแค่นิดหน่อยก็ยินยอมเสียแล้ว แต่เจ้าจันทร์ที่เขารอคอยมาตลอดหลายปีกลับไม่มีทีท่าจะสมยอมเขาเลยแม้แต่นิด

“เจ้ามิควรปฏิเสธข้าตั้งแต่หนแรกแล้วเจ้าจันทร์ เจ้ามิมีสิทธิ์นั้น” สุ้มเสียงดุกร้าวเมื่อยักษ์หนุ่มหมดความอดทน เขาคว้าต้นแขนขาวแล้วบีบแน่นจนมธุรสต้องเบ้หน้า ขยายร่างใหญ่ขึ้นอีกพร้อมกับเคี้ยวโค้งงอ หวังข่มขู่อีกฝ่ายให้ร่วมเสพสวาทกับตน “เจ้าเป็นเพียงแค่เชลยของเมืองที่เจ้าจากมา บิดาของเจ้าขายเจ้าให้เป็นเมียข้า”

“...!!”

“เจ้ามีแต่สิ่งเดียวที่จะเปิดปากเอ่ยได้ นั่นคือเพรียกหาข้ายามที่อยู่ใต้เรือนกายของข้าเท่านั้น”

นี่มันไม่ต่างอะไรกับคำพูดก่อนจะเยเย้มารูโจ้ของพระเอกนิยาย SM เลยสักนิด!

“ว้าย!” สิ้นคำพูดนั้น ร่างกายที่เล็กและบอบบางอ้อนแอ้นก็ถูกยกขึ้นนั่งบนตักแกร่งของสุวรรณราพณ์ทันควัน สไบถูกถอดออกไปแล้ว พร้อมกับผ้ารัดอกที่ถูกถอดเป็นอย่างที่สอง หน้าอกขาวผ่องสล้างออกมาสัมผัสอากาศและกลิ่นอบอวลของเทียนหอม

เสียงจิ้งหรีดเรไรเป็นเสียงเดียวที่ดังอื้ออึงข้างกกหูของมธุรสในเพลานี้

ทรวงและปทุมถันคู่นั้น เป็นสีชมพูอ่อนงดงาม สุวรรณราพณ์สางผมสีดำขลับยาวตรงและนุ่มละมุนของเธออย่างอ้อยอิ่ง รั้งมาชิดปลายจมูกโด่งเป็นสันอย่างหลงใหลในเธอ จิตใจที่เดือดพล่านนั้นเย็นลงเมื่อได้เห็นของสวยงาม ริมฝีปากหยักได้รูปกดจูบข้างซอกคอใกล้สันกรามสวย

ส่วนมือใหญ่นั้นก็กอบกุมทรวงอกของเธอไว้ แล้วคลึงด้วยความปรารถนา

มธุรสหน้าแดงแจ๋ ทั้งที่เป็นความฝันแต่ทุกอย่างกลับชัดเจนตรงหน้าเธอ สัมผัสที่ทรวงอกนั้นก็รู้สึกได้เต็มอิ่มเหมือนกับว่านี่คือความจริง นิ้วมือใหญ่คลึงเคล้าเธออย่างละมุนละม่อมเพราะกลัวว่าถ้าบีบไปเต็มแรง อกนิ่มของเธออาจจะเละคาอุ้งมือเสียได้

นุ่มนวล กลิ่นกายหอมหวาน แทบจะทานทนมิไหว

สุวรรณราพณ์แลบลิ้นฉกชิมรสหวานจากซอกคอขาวและหอมกลิ่นดอกมะลิ มธุรสครางเสียงหวาน ปลายนิ้วยักษ์จึงบดบี้เม็ดบัวสีสวยเป็นอย่างถัดไป ความนุ่มละมุนในเรือนร่างแน่งน้อยเนื้อนิ่ม ทำให้เขาอยากลิ้มชิมใจแทบขาด

ตัวเล็กน่าพะเน้าพะนอ ใบหน้าสวยหวานดูเป็นกุลสตรี ผิวขาวจัดอมชมพู และผมยาวตรงสลวย

งดงามถึงเพียงนี้ ข้าถึงได้หมายปองเจ้ามานับร้อยปี

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๔)

    “อื้อ... ตรงนั้นมัน” เธอเปล่งเสียงครวญครางน่าเย้าใจ เพราะความรู้สึกทั้งมวลนั้นเต็มอิ่ม สยิวจนหายใจแทบมิทัน แก้มที่แดงระเรื่อถูกสัมผัสด้วยริมฝีปากหยัก ก่อนที่กลีบปากและเรียวลิ้นเล็กของมธุรสจะถูกช่วงชิงเป็นอย่างถัดไปมธุรสถูกยักษ์หนุ่มกำราบได้เพราะเพียงรสจูบครั้งที่สอง ดูดดื่มและมัวเมา ตัวเล็กๆ ของเธออ่อนปวกเปียกแทบละลายคาอกหนา ทรวงถูกหยอกเย้าจนแดงแจ๋ ทั้งบี้ทั้งคลึงเสียจนเธอเสร็จสมคาตักแกร่ง จึงได้เวลาที่ยักษ์หนุ่มต้องรุกรานสรีระด้านล่างเสียบ้างมธุรสกัดกลีบปากของตนแน่น ร่างกายมิเป็นดั่งใจเอาเสียเลย ราวกับว่าเมื่อบุรุษตรงหน้าสัมผัสเธอที่ตรงใด ก็จะร้อนผ่าวและทิ้งความกรุ่นร้อนอยู่ตามผิวส่วนนั้น มือหนาใหญ่ที่อบอุ่น จับนั่นแตะนี่เพียงพึงใจ เลื่อนลงมาที่เอวคอดและสะดือสวย ลูบไล้ไปตามกายาที่เป็นสัดส่วนโค้งเว้าอย่างสตรีของนางจนปลดผ้าซิ่นสีหมากสุกของเธอได้ ผ้าผ่อนสีสดหล่นตุบไปกองลงกับพื้น มธุรสหน้าแดงก่ำ เปิดเปลือยอวดดอกไม้งามที่มีน้ำหวานชุ่มฉ่ำเล็กน้อยตรงเกสร เชิญชวนให้ภมรตัวยักษ์อย่างสุวรรณราพณ์ได้เชยชมแม้นี่จะมิใช่ร่างกายของเธอก็จริง แต่เพราะวิญญาณจุติมาเกิดในร่างนี้แล้ว เลยรู้สึกเหมือนกับ

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๕) จบตอน

    เสียงทุ้มน่ากังขากังวานมาตามลม มธุรสพยายามหันรีหันขวางเพื่อมองหาต้นตอของสุรเสียงดังกล่าว แต่หาได้พบเจอใคร มีเพียงความมืดโอบรอบกาย ตรงหน้าเป็นเพียงภาพจอมอนิเตอร์อันสว่างโร่เท่านั้นภาพตรงหน้ากลายเป็นภาพของหญิงสาวนามว่าเจ้าจันทร์ที่เธออยู่ในร่างของนาง สวมสไบงดงาม แต่นางท้องโตโยเย และลูบท้องกลมอย่างรักใคร่นั่นคืออะไร...!“เฮือก!”สิ้นภาพนั้น มธุรสก็ลืมตาตื่นขึ้นในห้องบรรทมห้องเดิมกับครั้งที่เธอเสร็จสมใจกับยักษ์ที่มีนามว่าสุวรรณราพณ์ตนนั้น ดวงตากลมโตกวาดตามองไปรอบๆ ห้องแปลว่าเมื่อสักครู่นี้คือฝัน แต่เป็นฝันที่ซ้อนฝันอีกที เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนยังอยู่ในความฝันก่อนจะสลบไสลไป แสดงว่านี่ก็คือความจริงว่าแล้วก็ก้มลงมองร่างกายของตัวเองที่บัดนี้เปลือยเปล่าล้อนจ้อน“คุณพระ!” ยกมือทาบอก ฮะหรือ ฮะหรือ ฮะหรือว่าเธอจะเสร็จสมดั่งใจหมายกับยักษ์ตนนั้นเสียแล้ว!“มิต้องหวั่นเกรงไปดอก เจ้ายังมิได้ตกเป็นเมียข้า” สุ้มเสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินครั้งแรกก็ไม่รู้ลืมว่าเป็นใครดังขึ้นแกมรู้ทัน สาวเจ้ารีบคว้าผ้าห่มมาคลุมกาย หันไปป้องสายตาเข้ากับแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยอักขระขอมโบราณ มัดกล้ามที่แค่มองเพียงด้านหลั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๑)

    รุ่งสางของวันถัดมา นางสนมทั้งสิบเอ็ดนางนั่งอยู่ขนาบข้างบัลลังก์ทอง กษัตริย์อสุรานั่งมองความสวยความงามของหญิงสาวทั้งสิบเอ็ดนางที่เขาลงทุนลงแรงไปชิงมาด้วยการรุกรานเมืองของกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์จนแตกพ่ายไปหลายเมือง เนื่องด้วยพละกำลังวังชา รวมถึงคาถาอาคมแก่กล้าไม่เท่ายักษาที่ดำรงอยู่มาถึงร้อยปีเช่นเขาช่วยไม่ได้... ถึงแม้จะหลงใหลเจ้าจันทร์สักเพียงใด แต่สำหรับบุรุษเพศ เมียเดียวนั้นไซร้คงจะไม่พอ“ท่านสุวรรณราพณ์เพคะ มิพาสนมมาอีกได้หรือไม่เพคะ”ตองนวล หญิงสาวที่งดงามรองลงมาจากเจ้าจันทร์ ซึ่งในระหว่างที่รอคอยจะชิงใจเจ้าจันทร์นั้น นางเคยเป็นสนมที่งามและเป็นที่โปรดปราณที่สุด เป็นที่เลื่องลือในกรุงยักษาว่ามินานจะต้องได้ขึ้นเป็นชายาเคียงคู่ท่านเป็นแน่ ตองนวลหลงใหลในตัวสุวรรณราพณ์นัก เธอเอื้อนเอ่ยสุ้มเสียงกังวานใสเว้าวอนผู้เป็นสามีของตนไม่ชอบใจนักที่พานังเด็กสาวนั่นมาแถมหมางเมินนางซึ่งเป็นคู่เคียงหลับนอนประจำของท่าน ดวงใจดวงน้อยเต็มไปด้วยความริษยาชิงชัง นังเด็กนั่นหน้าตาสะสวยจิ้มลิ้มพริ้มเพรา ตรงกับสตรีที่ท่านสุวรรณราพณ์ชื่นชมเมื่อคืนก็ชิงสนมมาอีกหนึ่ง แต่มิได้แวะเวียนไปร่วมลงหอกับนาง ปกติถ้าวันไ

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๒)

    “ก็จักชำระกายร่วมกับเมีย ผิดด้วยรึ?” สาวเจ้ามุ่ยหน้า ชีกอ ขี้โชว์ไม่พอ ยังเก่งเรื่องการคิดเองเออเองอีกต่างหาก ครบสูตรหลัวชั่วแห่งราชอาณาจักรเสียจริง“หนูยังไม่ได้เป็นเมียคุณสักหน่อย” โฉมตรูสะบัดหน้า ขัดใจนักเชียวพ่อยักษ์จอมเจ้าเล่ห์ ถึงจะเป็นสาวเวอร์จิ้น แต่ก็เลือกนะยะ“เรื่องนั้นพี่มิสนใจ” บุรุษตัวใหญ่กว่าเอื้อมฝ่ามือหนามาไล้แก้มเธอ “อยู่ในเมืองของพี่ ในเรือนของพี่ สักวันก็จักได้เป็นอยู่ดี”แหม! ช่างพูดช่างจา เกี้ยวพาราสีสาวได้คล่องแคล่วเชียวนะแก“หนูไม่อาบน้ำกับคุณหรอกค่ะ เชิญอาบไปคนเดียวเลย หนูจะกลับไปนอนที่เรือน” สาวเจ้าพูดพลางเชิดหน้าหนีอุ้งมือใหญ่ ไม่ต้องมาโชว์กล้ามเนื้อตรงนี้จะได้หรือปะ ถึงชาติที่เป็นมธุรสจะบ้ากล้ามหน้าท้องผู้ชายและบ้าหนุ่มกล้ามปูสักเพียงใด แต่จะมิหลงกลพ่อยักษ์กะล่อนนี่เด็ดขาด ความหล่อเหลามันทานไม่ได้! “แล้วเรือนอยู่ทางไหนคะ หนูจำทางกลับเรือนไม่ได้”โว้ย น่าสมเพชจริงอีนังมธุรส เรื่องหลงๆ ลืมๆ เส้นทางของหล่อนนี่ยังเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าจริงๆสาวเจ้าบ่นอุบใส่ตนเอง ไม่มีทางเลือกต้องหมุนตัวพลิกลิ้นกลับไปพึ่งพาเจ้าของบ้านอย่างเขาอย่างเสียมิได้อสุราหนุ่มแย้มยิ้มพราย

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๓)

    “มิมีปากมีเสียงเช่นนี้ สำแดงว่าที่ตัวพี่เอ่ยเป็นอันถูกต้อง” ยักษ์ว่าเช่นนั้น เข้าใจว่านางคงอายหากมีใครมาเห็นเขาและนางล่อนจ้อนกอดกันในสระบัวเช่นนี้ จะว่าพิกลไม่ได้ เพราะเจ้าหล่อนนั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่นั่นเองคิดได้เช่นนั้น อสุราหนุ่มจึงร่ายคาถา สร้างต้นไม้ใหญ่รกครึ้มรอบๆ สระบัวในทันทีมธุรสอ้าปากค้าง เมื่ออยู่ดีๆ รอบสระบัวก็ปรากฎต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นรอบๆ กลายเป็นป่าละม่อมขนาดย่อมเธองเหลียวกลับไปจ้องหน้าอสุราหนุ่มอย่างตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เคยรู้เลยว่ายักษ์จะร่างเวทมนตร์คาถาเสกต้นไม้ได้ด้วย นี่เหมือนหล่อนกำลังอ่านแฮรี่ พ็อตเตอร์ของเจ. เค. โรว์ลิ่งอยู่เลยอ่ะ“เท่านี้ก็มิมีปัญหาแล้วใช่หรือไม่” ยังมิวายก้มหน้าลงมาถามหล่อนด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์นั่นอีก“มะ... มันก็ดีอยู่หรอกค่ะ” ก็ทหารของเขายืนอยู่ตรงนู้นนี่หว่า เมื่อเกิดป่ารกทึบรอบสระบัวแบบนี้ ก็คงไม่มีชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธออีก “แต่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”ท้ายประโยคสาวเจ้าบ่นอุบอิบ น่าพิกลจริงที่สุวรรณราพณ์ตามใจเธอแบบนี้“พี่ตามใจเมียทุกคนของพี่นั่นแล” หากแต่คำตอบก็พอทำให้หญิงสาวรู้ว่าทำไม ได้แต่มุ่ยหน้าตามประสาเด็กสาวที่หมั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๔) จบตอน

    “พระสนมเจ้าคะ ข้าว่ากลับเรือนเถอะเจ้าค่ะ แดดเริ่มแรง เดี๋ยวพระสนมจักเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน” สาวรับใช้ประจำตนเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง รู้ดีว่าพระสนมของตนนั้นหลงใหลท่านผู้นั้น ยอมตกเป็นของท่านหลายคราเพียงเพื่อได้หัวใจของท่าน แม้เพียงแค่ชายตาแลก็ยังดีแต่ในขณะเดียวกันสาวรับใช้นางนั้นก็รู้ดีเพราะว่ารับใช้กษัตริย์กรุงยักษามามากกว่าสองร้อยปี ว่าท่านผู้นั้นเฝ้ารอคู่ชะตามานานเพียงใด แม้ท่านจะมีเมียมากตามประสากษัตริย์ แต่ทว่ากลับไม่เคยมีครั้งใดที่ไม่พร่ำบ่นคิดถึงคู่ชะตาถึงร้อยกว่าปีนั่นเลยสักคราเมื่อได้คู่ชะตามาอยู่ในกำมือของตน จึงไม่แปลกหากท่านจะเอาแต่สนใจท่านหญิงผู้นั้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา“เมื่อใดกันสูรย์ตรี เมื่อใดกันที่ข้าจักได้อยู่ในพระเนตรของท่านบ้าง” ตองนวลเอ่ยกับสาวรับใช้ของตนอย่างแสนเศร้า เนื่องจากสุวรรณราพณ์ไม่คิดเชื่อใจผู้ใดนอกจากคนของตน จึงออกคำสั่งให้สูรย์ตรีมาเป็นสาวรับใช้ของตองนวลแทนสาวรับใช้ในเมืองเก่าที่นางจากมา เพราะฉะนั้นสาวรับใช้ของสนมทุกคนของท่านจึงเป็นเผ่าพันธุ์ยักษ์ทั้งสิ้น“พระสนม...” สาวรับใช้ร่างใหญ่เอื้อนเอ่ยเรียกชื่อพระสนมของตนเสียงอ่อน เอื้อมมือไปคว้าฝ่ามือนวลมากุมไ

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๑)

    สุวรรณราพณ์ยักษาเคลื่อนกายปราศจากอาภรณ์เข้ามาภายในเรือนใหญ่ของตนอย่างไม่นึกอายบ่าวรับใช้ที่หมอบกราบหน้าสลอนกันแม้แต่เพียงนิด แต่สาวร่างใหญ่เหล่านั้นคุ้นชินกับอุปนิสัยนายของตนเสียแล้ว จึงตบแต่งกายาอาภรณ์ให้ท่านแต่โดยง่าย สูรย์เกล้าที่เป็นบ่าวประจำท่านยกสังวาลและทับทรวงให้สูรย์มนตราซึ่งเป็นบ่าวรับใช้อีกนาง หล่อนแต่งโฉมให้กษัตริย์กรุงยักษาได้ดั่งเช่นทุกวันสุวรรณราพณ์ตรวจทานตนในคันฉ่อง รูปโฉมเขาในชาตินี้งดงาม ไม่แปลกที่จักมีสนมถึงสิบสองคน แม้สนมคนที่สิบเอ็ดจักไม่ได้ต้องใจเขาเช่นสนมคนอื่นๆ ก็ตามจะว่าไป บุศยาสนมคนที่สิบสองที่ไปชิงมาจากเมืองหัสดีเมื่อคืนวาน ยังไม่ได้เข้าไปทักทายพูดคุยกันเลยดอกหนา“บุศยาอยู่ที่ใด” ท่านเหลียวไปถามสูรย์เกล้าด้วยสุ้มเสียงทรงอำนาจ นางหมอบกราบท่าน แล้วตอบคำถามโดยง่าย“เรือนหอนอนประจำของนางทางปีกซ้ายเพคะ”“ข้าจักไปหานาง เร่งไปบอกสูรย์เสียงให้ตบแต่งนางให้พึงใจข้าโดยเร็ว”“เพคะท่านผู้มากศักดา” นางยกท่านขึ้นเหนือศีรษะ คำยกย่องนั้นเป็นปกติของกรุงยักษาแห่งนี้ที่มักใช้เยินยอกษัตริย์หรือพระมเหสีผู้ทรงศักดิ์ สูรย์เกล้าย่อเท้าเกือบชิดพื้นออกไปจากห้องหับของเขาอย่างยำเกรงส

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๒)

    บุศยานิ่งอึ้งอย่างตกตะลึง ตั้งแต่จำความได้ หล่อนเกิดมาพร้อมกับคำสาป ลายสักที่กลางหลังจักปรากฎขึ้นเมื่อมีผู้มีคาถาอาคมแก่กล้าเปิดเผยมัน พระโหราธิบดีทำนายทายทักว่าจักมีอมนุษย์รูปงามช่วยนางให้พ้นจากคุณไสยที่ตามหลอกหลอน พระบิดาจึงส่งหล่อนให้ตกเป็นเมียของท่านผู้นี้ตั้งแต่อายุยังมิครบจักออกเรือนมินึกรู้ว่าท่านจักไหว้วานยักษาตนนี้ให้รักษาหล่อน“เสด็จพ่อตรัสเช่นนั้นกับท่านหรือเพคะ” บุศยากุมทรวงเล็ก ซ่อนไว้ใต้ผ้ารัดอกที่ถูกดึงออก ท้วงถามด้วยความฉงนใจ“ตามที่ข้าพูดนั่นแล” สุวรรณราพณ์ให้คำตอบ นางจึงระบายยิ้มบางออกมา อย่างน้อยเสด็จพ่อผู้เย็นชาผู้นั้นก็ยังห่วงหาอาทรในตัวนาง แม้นตั้งแต่จำความได้ ท่านจักมิเคยแลเห็นหรือให้ความสำคัญในตัวพระธิดาคนสุดท้องเช่นนางเลยก็ตาม“... เช่นนั้น” สุ้มเสียงเล็กผุดคำถามขึ้นมาอีกครา “ท่านจักมิทำอันใดข้าแล้วใช่หรือไม่”“เจ้ายังเยาว์วัยเกินไปนัก ข้ามินิยมชมชอบสมสู่กับผู้เยาว์ดอกหนา”แม้นจักเป็นคำพูดที่แสบสันในทรวงนัก แต่เจ้าหล่อนกลับระบายยิ้มกว้างออกมามากกว่าเดิม“ขอบพระทัยในความใจบุญของท่านนักเพคะ” หล่อนประนมมือจรดอก และก้มลงกราบอสุราหนุ่มที่ทรงเมตตากับนาง ที่นอกจากจั

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๓) จบตอน

    เช้าตรู่วันต่อมา มธุรสตื่นขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตานางค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ผิวเนียนนุ่มมีแต่กลิ่นสมุนไพรฉุนจมูก เจ้าตัวจ้อยค่อยๆ ใช้หลังมือนวลปาดน้ำตาของตนเอง พลางค่อยๆ วางเท้าลงบนพื้นกระดาน หยัดยืนขึ้นเต็มความสูง“... พี่สูรย์จันทร์” เธอเรียกชื่อของบ่าวอสุรีประจำกายตน เมื่อคืนพอหัวถึงหมอนก็ร้องไห้จนหลับไปเลย โดยมีพี่สูรย์จันทร์ค่อยลูบเนื้อลูบตัว ทำแผลหายาทาให้อยู่ไม่ห่างในยุคนี้ คนที่ใจดีไปมากกว่าพี่สูรย์จันทร์... คงไม่มีอีกแล้วแม้แต่เจ้ายักษ์นั่นที่เกือบจะไว้ใจ ก็ทำร้ายเราจนเจ็บใจ เจ็บกายไปหมด“... ต้องหนี” มธุรสพึมพำกับตนเองใช่ ต้องหนีไปจากที่นี่ เพราะเธอไม่สามารถทนอยู่เพื่อประสบพบหน้ากับชายผู้นั้นได้อีกแล้วมธุรสคิดพลางห่มกายที่เปลือยเปล่ากับผ้าแพรยาวคลุมได้ทั้งตัว พลางค่อยๆ ลับๆ ล่อๆ เดินกะเผลกๆ ลงไปตามกระไดเรือน มองซ้ายมองขวา เลือกไปในที่ที่ทหารอารักขามองไม่เห็นพอเข้าไปในป่าละม่อมนางก็วิ่ง วิ่งจนสุดชีวิต วิ่งโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง จนเข้ามาในเขตป่าใหญ่ที่ติดกับป่าละม่อมรอบสระบัว นางมองไปด้านหลังเห็นวังมรกตอยู่ลิบๆคนตัวเล็กหอบแฮ่ก พลางล้มตัวลงนั่งกลางป่า เสียงนกและเสีย

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๒)

    มธุรสพยายามดิ้นรนทั้งที่บัดนี้กายสาวเปลือยเปล่า ผิวขาวผ่องสะท้อนแสงจันทร์เปล่งประกายสุกใส ผิดแผกจากสาวงามที่สังวรีราพณ์เคยลิ้มรสผ่านกายาของไอ้สุวรรณราพณ์ เนื้อนวลเปล่งสีทองประกาย สาวงามเช่นหล่อน เมื่อชาติก่อนคงทำบุญมามาก ชาตินี้จึงเกิดมาด้วยรูปโฉมงดงามราวกับนางอัปสรเช่นนี้“อยากรู้เสียจริงว่าไฉนไอ้สุวรรณราพณ์ถึงหวงแหนเจ้านัก ข้าจักลิ้มรสเจ้ามิให้เหลือ ให้มันได้รู้ซึ้งว่าข้านี่แหละที่ควรจักครองร่างนี้”สุวรรณราพณ์พร่ำพูดคำที่มธุรสไม่สามารถทำความเข้าใจได้ กายาใหญ่ยามสะท้อนแสงจันทร์ พร้อมกับดวงตาสีชาดที่แลดูหมายมั่นว่าจักเอาหล่อนมารวบหัวรวบหางให้ได้ทำให้มธุรสหวีดร้องในลำคอ นางพลิกตัวเพื่อคลานลงจากเตียง หากแต่ก็ถูกรั้งข้อเท้าเอาไว้ แลถูกลากให้นอนราบคว่ำหน้าบนเตียงสังวรีราพณ์คว้าสะโพกนางให้ยกเชยขึ้น สำรวจความงามของบั้นท้ายขาวผ่อง ตรงใจกลางกลีบดอกลำดวนนั้นช่างงดงาม เป็นสีชมพูอ่อนแลสั่นระริกจากเนื้อตัวของนางปลายตชฺชะนี (นิ้วชี้) แลมชฺฌิมา (นิ้วกลาง) แหวกกลีบเนื้อนวลที่ปิดสนิทแนบชิดกันออก เผยโพรงแคบแน่นขนัดที่เต้นตุบๆ ด้านในเป็นสีชมพูเข้ม งดงามเมื่อได้เชยชมดวงหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้บั้นท้า

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๑)

    “คุณพี่เรียกข้าหรือ”เสียงกังวานใสของตองนวลดังภายในหอนอนปีกขวาในยามราตรีกาล นางกำลังนั่งผัดหน้า แต้มนิดแต้มหน่อยอย่างพึงใจสูรย์ตรีแย้มยิ้มเมื่อเห็นว่าพระสนมดูสุขีดี พลางหมอบกราบอย่างนอบน้อม“เจ้าค่ะพระสนม ดูองค์เหนือหัวต้องการท่านมากทีเดียว”“ข้าควรจักทำสีหน้าเช่นไรดีล่ะ” วันเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม หลังจากที่รับนางเด็กเจ้าจันทร์นั้นมา คุณพี่ก็มีรับสั่งเรียกเธอจนได้ แม้นว่าก่อนหน้าจักเห็นตามติดเจ้าจันทร์อยู่เสียหลายวัน รู้มั้ยว่านางต้องทนหนาวเหน็บกายายามค่ำคืน ไร้อ้อมกอดอบอุ่นของท่านมานานเพียงไหน“พระสนมเพียงทำสีหน้าปรกติ ก็งามเกินกว่าใครมาเปรียบแล้วเจ้าค่ะ”“ปากหวานเหลือเกินหนา” นางผินหน้าสะเทิ้นอายรับคำชม ตองนวลเม้มปากกับกระดาษสีชาด ริมฝีปากเต่งตึงฉาบด้วยสีสัน นางแต้มมือกับกลีบปากให้เนื้อสีดูนวลชวนเย้ายวนตาขึ้นเพียงนิด จึงค่อยๆ หยัดกายลุกจากโต๊ะเครื่องแป้ง“ข้าจักรีบไปหาคุณพี่ประเดี๋ยวนี้”ในหอนอน เรือนที่ใหญ่โตโอ่อ่าปรากฏเป็นวังมรกตที่สวยงาม ร่างสะโอดสะองในชุดไทยโบราณงามวิจิตรค่อยๆ ย่างก้าวเข้าไปภายใน ประตูไม้ถูกแง้มไว้แต่พอดี นางจึงค่อยๆ แอบมองลอดดูด้านในอย่างตื่นเต้น“เข้ามาสิตองนว

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๔) จบตอน

    ‘น้องจันทร์แจ้งว่านางมิพร้อมจักร่วมหลับนอนกับข้า อดทนรอได้ฤาไม่’ถ้ากูมิได้เสพสมกับหญิงสาวตนใดในเพลานี้ กูจักอาละวาดและยึดร่างกายเจ้า จับสนมทุกนางกินให้หมดเสีย!‘มิได้ เจ้าจำต้องรับฟังคำขอของข้าด้วย’เสียงดื้อดึงในหัวของเขาเงียบลงไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะหัวเราะขบขันได้สิ หากแต่... มึงต้องเรียกตองนวลมาให้กูเสพสังวาสกับนางในคืนนี้ มึงทำเพื่อแลกกับชีวิตของสนมทุกคนได้หรือไม่?เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผากของบุรุษยักษา เขาคืออสุราผู้บำเพ็ญตบะและสั่งสมอาคมอันแก่กล้ามานานหลายร้อยปี และถือพรหมจารีย์ เพื่อจักได้มีชีวิตรักเคียงข้างคู่ชะตาของเขาเพียงเท่านั้นแต่ถ้าเป็นความบ้าคลั่งในกายเขา ที่ถูกเพรียกชื่อว่า ‘สังวรีราพณ์’ นั้น เขามิแน่พระทัยนักเขามีชีวิตและห่วงหาแต่เจ้าจันทร์เพียงเท่านั้น หญิงอื่นเขาหาได้สนใจไม่‘ข้าจักเรียกนางมาให้เจ้า ในคืนนี้’สังวรีราพณ์ นั้นคือยักษาที่เร้นกายในความมืดมิดภายใต้ดวงจิตของสุวรรณราพณ์มาตลอดร้อยปีที่เขาถือกำเนิดขึ้น ดวงจิตอันมืดมิด เผยเป็นยักษาขนาดมหึมา กายาสีทมิฬกับห้าสิบหัตถ์ รอยอักขระสีทองคำเต็มทั่วกายา ไฟสุมกายมันท่ามกลางบัลลังก์กองกระดูกมนุษย์แลความมืดมิดที่ย

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๓)

    “คิกๆ ดูท่านจักอยากได้เจ้าเป็นเมียนักเชียว ถึงได้มาบ่นรำพึงกับข้าที่บึงอยู่บ่อยๆ แถมครานี้ยังมอบคาถาให้ข้าพูดคุยโต้ตอบได้เสียด้วย” บุรุษปลาบู่หัวเราะคิกคักท่าทางมีเลศนัย “ไยเจ้าไม่ไปถามท่านผู้นั้นเองเล่า ว่าเจ้าควรทำเช่นไร”“เอ้ะ คุณปู่ปลา ก็หนูมาถามคุณปู่เพราะหนูเองก็ไม่กล้าไปถามเขาตรงๆ ยังไงล่ะคะ” อีกฝ่ายยกมือข้างหนึ่งที่ไม่ได้ค้ำสะพานไม้ขึ้นมาท้าวสะเอว “แล้วเขามาแอบดูเราอย่างนี้ หนูจะต้องทำอย่างไรต่อดี”“เผชิญหน้าไปตรงๆ ซิ ท่านน่าจักอยากพูดคุยบางอย่างกับเจ้านะ”“แต่หนู...”“ไยมานั่งหมอบตรงนี้อยู่คนเดียวหรือน้อง?”“ว้ายตาเถร!” มธุรสสะดุ้งโหยง ตกใจเสียงทุ้มต่ำที่มาประชิดด้านหลังราวกับว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาเฉียดใกล้เมื่อไหร่มิอาจทราบได้ และเพราะตนกำลังชะเง้อคอลงไปชิดกับผิวน้ำอยู่นั่นเอง นางจึงเผลอหกคะเมนหัวทิ่มหัวตำลงไปในสระบัวตามที่อุทานไว้จริงๆบุ๋งๆเสียงนางหายใจเป็นฟองอากาศใต้น้ำ เพราะหัวทิ่มลงมาในท่าที่ไม่ถูกต้องนัก เส้นเลยยึดตรงหัวเข่า ทำให้นางปวดขามิสามารถตีขาในน้ำว่ายขึ้นไปรับอากาศได้ ทำได้แค่เพียงค่อยๆ ร่วงหล่นลงสู่ก้นบึงอย่างน่าอนาถแต่ทว่าดวงตาที่พร่ามัวมองเห็นกายาใหญ่โตกำลั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๒)

    เขารำพันออกมาถึงเรื่องราวของตน มิได้อยากสัปดนจนโดนสาวเจ้ารังเกียจรังงอน หากแต่นี่คือประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาของต้นตระกูลยักษ์ เนื่องจากว่าขนาดอันใหญ่โตที่จักทำให้อีกฝ่ายเจ็บร้าวเอาได้ จึงจำต้องมีน้ำอมฤตไว้ผ่อนคลายจิตใจ พิศดูดีๆ ก็อาจคล้ายกับยาเสียสาวนั่นแลฝ่ายบุรุษมัจฉาก็นิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมา“ข้าเป็นเพียงแค่ปลาในสระบัวของท่าน มิรู้เรื่องกระไรเช่นนี้ดอก”“ข้าจักต้องทำเช่นไร ให้นางยอมรับสิ่งที่เป็นข้า”“...”“หรือเพราะนางเป็นมนุษย์ที่ยังถือพรหมจารีย์ ถึงยังมิคุ้นชินกับประเพณีเช่นนี้?”“ข้าคิดว่าเช่นนั้นนายเหนือหัว ท่านควรเข้าหานางด้วยความเยือกเย็น มิจำเป็นต้องวู่วาม”“เช่นนั้นเองหรือ” สุวรรณราพณ์ยักษาทอดมองภาพกายาอันใหญ่โตและใบหน้ารูปงามของตนเองที่ปรากฎบนผิวน้ำ มันบิดเบี้ยวบึ้งบูดพอๆ กับในฤทัยของเขา รวบรวมความกล้าเหลือเกินกว่าที่จักแปลงกายไปดูนางสีฟันกับกิ่งข่อย จนเห็นนางอ้างว้างหนาวเหน็บจึงเข้าไปโอบกอดอย่างทนดูมิได้ภักดีรอนางมาร้อยกว่าปี จนเกิดใหม่เป็นยักษารูปงามชน ก็อยากจักครองราชย์ สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างเมืองให้อุดมสมบูรณ์ หากแต่พันธะสัญญาที่ท่านมอบไว้กับฤาษีต

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๑)

    “ได้สิ จักให้พิศดูจนพอใจเลยเชียว”อสุราหนุ่มว่า หย่อนท่อนขาแกร่งลงนั่งขัดสมาธิแบบไม่เรียบร้อยนัก เปิดเผยส่วนที่ผงาดแข็งขืนราวกับท่อนซุงจะจะตรงหน้าหล่อนตอนที่สระบัวที่เคยเห็น ช่วงบนบกก่อนที่จะถูกพาลงน้ำที่เขาถอดจนชีเปลือยล่อนจ้อนมันยังหดตัวอยู่ แต่แค่นั้นก็ใหญ่โตมโหฬารเหลือคณา สาวเจ้ากลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ พลิกตัวกลับไปนั่งคุกเข่าอย่างเกร็งตัว ประจันหน้ากับสิ่งมหัศจรรย์อย่างมิหวั่นเกรงที่ไหนกัน หล่อนตัวสั่นริกๆ ยามเมื่อแสงจันทร์ต้องกับส่วนปลายหัวที่โค้งมน มันเงาวับและมีเส้นเลือดเป็นปล้อง ส่วนปลายบานเหมือนดอกบัวตูมสีออกชมพูหม่นเล็กๆ ขนาดส่วนท่อนแข็งนั้นราวกับท่อนซุงสีเนื้อที่ผงาดชูชันอยู่ตรงหน้าเธออีแบบนี้... จักเข้าไปได้หรือ ไม่ทะลวงไส้ทะลวงพุงหล่อนหรือไร“ใหญ่โตใช่หรือไม่” อีกฝ่ายเองก็ยืดอกผาย ภาคภูมิใจในขนาดของตนเอง “อย่าได้กลัวไป ธุลีในน้ำของพี่ช่วยให้น้องผ่อนคลายได้ ดื่มมันก่อนแล้วน้องจะครอบครองพี่ได้ทั้งหมด”“ประเดี๋ยวก่อนค่ะ” เธอยังปะติดปะต่อกระไรมิได้ความสักเท่าใดนัก เลยนั่งเรียบเรียงอยู่ “ธุลีใต้น้ำ... อสุจิ”หรือว่า“นี่คุณพี่จะต้องทำเรื่องวิตถารต่อหน้าเด็ก แล้วหนูต้องกินน้ำค

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๔ มิพึงใจนางผู้นั้น (๔) จบตอน

    หากแต่อสุราหนุ่มกลับระบายยิ้มบางข้างมุมปาก เกลี่ยเส้นผมสีดำสลวยงดงามของเจ้าหล่อนไปทัดยังใบหูเล็ก ฝ่ามือใหญ่เกลี่ยพวงแก้มใสของนางเบาบาง“หนูจะรู้อะไรล่ะคะ” หากแต่เจ้าตัวเล็กยังย้อนสู้“สาเหตุที่ข้าชมชอบเจ้ายิ่งกว่าสนมอื่นใด”“แต่หนูไม่ได้ชอบคุณ” มธุรสนั้นจำเป็นต้องพูดออกมาตามตรง เธอไม่ได้รู้จักเขาดี ตามที่เคยบอกกับตองนวลว่าไม่ชอบชายที่รุกรานคุกคามร่างกายในวันแรกที่เจอกัน มธุรสเป็นสาวสมัยใหม่ ไม่ได้นึกคล้อยตามโดยง่ายตามสาวในยุคก่อนเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าเป็นตัวละครจากวรรณคดีเรื่องไหน ไม่ได้รู้จักกันพอที่จพตกลงปลงใจ เพิ่งเจอะเจอกันได้สองสามวัน จะหวังให้นางมาหลงมารักมาชอบเขา คงยาก ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะหน้าตาดีในแบบฉบับอมนุษย์ก็ตามอย่างน้อย... ก็ต้องเข้าหาอย่างถูกต้อง และรู้จักมักจี่กันให้มากกว่านี้ซะก่อนสิ“ข้ารู้ ข้ามิบังคับขู่ใจเจ้าดอก” บุรุษยักษายังคงป้องแก้มเล็กมาชิดใกล้ เขามิได้หมายใจจักทำกระไรไปมากกว่าการขอโอบกอดร่างกายเล็กจ้อยนี้ไว้เพื่อให้นางปลอดความหนาว ถึงจักเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่งที่ว่านางมิได้ชมชอบเขาอย่างที่ลั่นวาจาออกมา เนื่องจากเขาค่อนข้างมั่นพระทัยในตน ว่ารูปงามยิ่งกว่า

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๔ มิพึงใจนางผู้นั้น (๓)

    ไม่อยากเชื่อสายตา ว่าจะทำกันได้ลงขนาดนี้มธุรสนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ในหอนอนของนาง เอนกายพิงกับโต๊ะเครื่องแป้งราวกับว่าจิตวิญญาณจะหลุดออกจากร่างแล้วเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่ได้เห็นมารยายั่วสวาทจากสาวในยุคก่อนเต็มๆ สองตา ตองนวลทั้งสอนตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ แถมเป็นเรือรบที่ทำให้นวลนางแทบแดดิ้น เมื่ออีกฝ่ายพรรณนาถึงการมีเสก (?) กับคุณพี่ของนาง ไม่ว่าจะเป็นท่าไหน ก็แทบทำให้มธุรสอายจนแทบแทรกแผ่นดินถึงสมัยเป็นมธุรสที่ไร้เสน่ห์ นางจะเคยอ่านโดจินหรือนิยายยาโอยมาบ้างก็ตาม แต่อะไรที่สุดจัดปลัดบอกแถมเอ็กซ์คลูสซีฟที่เมดอินจากสมัยอโยธยามาร่ายบทอัศจรรย์ตรงหน้าแบบนี้ ก็ถึงกับระบบสมองรวนจนรับข้อมูลต่อไม่ได้ไม่ได้สันทัดอะไรด้านนี้ รู้แค่ทฤษฎีไม่เคยปฏิบัติ มาเจอแบบนี้ไปต่อไม่เป็นเลยแต่จะให้เปลือยเปล่าแล้วขย่มขยี้ต่อหน้าชายชีกอคนนั้น เธอทำไม่ลงคิดแล้วก็นับถือใจตองนวลจัง แม้ว่าหล่อนจะดูหน้าเฉี่ยวตามแบบฉบับนางร้ายตามท้องเรื่อง ขี้เหวี่ยง แถมดูจะขี้หึงขี้หวงพ่อสุวรรณราพณ์เหลือเกิน แต่ก็ยังยอมสอนให้เธอปรนเปรอเขาได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องจะว่าไปก็น่าเอ็นดูนะเนี่ย เทียบกับมธุรสในอายุขัยจริงๆ ตองนวลก็ถื

DMCA.com Protection Status