Home / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๒)

Share

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๒)

last update Last Updated: 2024-12-31 00:43:52

“ก็จักชำระกายร่วมกับเมีย ผิดด้วยรึ?” สาวเจ้ามุ่ยหน้า ชีกอ ขี้โชว์ไม่พอ ยังเก่งเรื่องการคิดเองเออเองอีกต่างหาก ครบสูตรหลัวชั่วแห่งราชอาณาจักรเสียจริง

“หนูยังไม่ได้เป็นเมียคุณสักหน่อย” โฉมตรูสะบัดหน้า ขัดใจนักเชียวพ่อยักษ์จอมเจ้าเล่ห์ ถึงจะเป็นสาวเวอร์จิ้น แต่ก็เลือกนะยะ

“เรื่องนั้นพี่มิสนใจ” บุรุษตัวใหญ่กว่าเอื้อมฝ่ามือหนามาไล้แก้มเธอ “อยู่ในเมืองของพี่ ในเรือนของพี่ สักวันก็จักได้เป็นอยู่ดี”

แหม! ช่างพูดช่างจา เกี้ยวพาราสีสาวได้คล่องแคล่วเชียวนะแก

“หนูไม่อาบน้ำกับคุณหรอกค่ะ เชิญอาบไปคนเดียวเลย หนูจะกลับไปนอนที่เรือน” สาวเจ้าพูดพลางเชิดหน้าหนีอุ้งมือใหญ่ ไม่ต้องมาโชว์กล้ามเนื้อตรงนี้จะได้หรือปะ ถึงชาติที่เป็นมธุรสจะบ้ากล้ามหน้าท้องผู้ชายและบ้าหนุ่มกล้ามปูสักเพียงใด แต่จะมิหลงกลพ่อยักษ์กะล่อนนี่เด็ดขาด ความหล่อเหลามันทานไม่ได้! “แล้วเรือนอยู่ทางไหนคะ หนูจำทางกลับเรือนไม่ได้”

โว้ย น่าสมเพชจริงอีนังมธุรส เรื่องหลงๆ ลืมๆ เส้นทางของหล่อนนี่ยังเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าจริงๆ

สาวเจ้าบ่นอุบใส่ตนเอง ไม่มีทางเลือกต้องหมุนตัวพลิกลิ้นกลับไปพึ่งพาเจ้าของบ้านอย่างเขาอย่างเสียมิได้

อสุราหนุ่มแย้มยิ้มพราย “พี่มิบอกน้องดอก”

“เอ้ะ ทำไมคะ!”

“ชำระกายในสระบัวร่วมกันกับพี่สิ เดี๋ยวขึ้นจากท่าแล้วค่อยกลับไปด้วยกัน” มธุรสเผยอปากค้าง หนอยแน่ ไอ้ยักษ์จอมเจ้าเล่ห์ เขาใช้ประโยชน์จากการจำทางของหล่อนไม่ได้เพื่อมัดตัวให้เธอสมยอมอาบน้ำด้วย

อย่างนี้ก็แปลว่า... ต้องเปลือยเปล่าเคียงใกล้กับผู้ชายในสระบัวน่ะสิ!

มธุรสจะเป็นลม

“มะ... ไม่ถอดเสื้อได้มั้ยอ่ะ?” เธอป้องตัวอย่างหวงแหนเมื่อถูกยักษ์รูปงามจดจ้องร่างกายราวกับกำลังสแกนสัดส่วนใต้อาภรณ์นั่นก็ไม่ปาน ที่สำคัญตอนนี้เหลือแค่เพียงผ้าด้านล่างที่กำลังจะหลุดไม่หลุดแหล่รอบเอวสอบของเขาเท่านั้น มธุรสแอบเห็นไรขนแสนทระนงนั่งด้วย เส้นเลือดพาดตรงใต้สะดือต่ำลงไปเรื่อยๆ นั่นอีก! “มะ ไม่เอาอ่ะ ไม่ถอดอาบน้ำได้มั้ยคะ นุ่งกระโจมอกก็ได้”

“เช่นนั้นจักสะอาดได้เยี่ยงไร” สุวรรณราพณ์ใช้อุบายล่อลวงหญิงสาว รั้งเอวคอดกิ่วเข้าชิดใกล้ ปลดสไบและสังวาลย์ของเธอด้วยตนเองเสียเลย

“คุณสุวรรณราพณ์!” เธอไม่สามารถขัดขืนผู้ชายอกสามศอกแถมยังเป็นยักษ์เช่นเขาได้ ผลักอกหนาราวกับภูผานั่นยังไงก็ไม่ต่างกับเอาแรงลมเอื่อยๆ ไปสู้ อีกฝ่ายใช้แรงถอด ถอด ถอดไม่กี่ครั้ง ผ้าผ่อนผ้าซิ่นทุกชิ้นรวมถึงของมีค่าก็ลงไปกองกับพื้นหญ้าซะแล้ว

มธุรสในร่างเจ้าจันทร์ล่อนจ้อนอย่างสมบูรณ์

นี่มันอีกครั้งแล้วนะ อีกครั้งแล้วที่สุวรรณราพณ์เห็นนางในสภาพน่าอับอายเช่นนี้

มธุรสอยากจะกรี๊ดใส่หน้าเขาดังๆ

แต่นั่นยังคงสร้างความอับอายให้นางไม่พอ ยังคงไม่พอใจเขา เพราะต่อมาอสุราหนุ่มก็ปลดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของตัวเองลงต่อหน้านางนี่เอง

พรึ่บ!

ล่อนจ้อนด้วยกันโดยสมบูรณ์

โอ้ บร๊ะ เจ้า

ภาพตรงหน้าช่างแปลกใหม่ ถึงจะโคตรสัปดนแต่ก็ชวนมองอย่างปฏิเสธไม่ได้ มธุรสอ้าปากค้างทาบอกอยู่ตรงหน้าบุรุษผู้เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ปิดบังกาย อวดโฉมความองอาจตรงนั้นเอง

ก้นแน่น ขาวดี แถมยัง... ตาเถร!! นั่นลึงค์หรือปลัดขิกกันแน่คะเนี่ย

รู้สึกเหมือนเลือดลมจะไหลเวียนขึ้นมาที่หน้าซะแล้วสิ

เพราะเป็นหน่วยพิสูจน์อักษรมาก่อน จึงรู้ลึกถึงคำว่าลึงค์ (อวัยวะเพศชาย) นั้นว่าคืออะไร หากแต่ลึงค์ของอีกฝ่ายนั้นไซร้... ดูแปลกตากว่าชายฝรั่งมังค่าในเว็บพอร์นฮับที่เคยดูนักหนา

เพราะมันใหญ่มาก ขนาดยักษ์สมกับตัวใหญ่ๆ นั่น จะพูดว่าคล้ายๆ ศิวลึงค์ที่บูชากันก็ไม่เกินจริง

“ทะ... ทำไมมันชี้หน้าหนูแบบนี้ล่ะ!” สาวเจ้ารีบเอามือน้อยๆ ปิดตาตนเองอย่างไวว่องเมื่อหรี่ตาไปเห็นว่าท่อนลึงค์ยักษ์นั่นกำลังตั้งจรวดพร้อมรบใส่หน้าเธอ บุรุษที่เปลือยเปล่าพร้อมๆ กับมธุรสนั้นหน้าด้านหน้าทนจริงๆ มีอย่างที่ไหนจับสาวถอดผ้าถอดผ่อน แล้วก็ปลดอาภรณ์ตนเองเช่นนี้ นี่มันกลางแจ้งนะ ไม่อับอายบ้างเลยหรือ

“ปกติของมัน น้องมิจำเป็นต้องปิดตาดอก” สุ้มเสียงดุดันพูดแกมขบขัน สุวรรณราพณ์สนุกสนานนักที่เห็นว่าเจ้าหล่อนหน้าแดงปิดหน้าปิดตาสะเทิ้นอายกับกายาล่อนจ้อนของเขา “อีกมินาน มันก็จักได้เข้าไปอยู่ในกายเจ้า”

อสุราหนุ่มเอ่ยประโยคสองแง่สองง่าม หวังเย้าสาวเจ้าให้อับอายยิ่งขึ้น

“คุณสุวรรณราพณ์ทะลึ่งโคตร!” มธุรสปรามาสบุรุษตรงหน้า หากแต่ก็อดไม่ได้ต้องแหวกแง่งนิ้วน้อยๆ แอบลอบดูสรีระชวนใจสั่นของอีกฝ่ายไปด้วยอย่างย้อนแย้งในตนเอง

ไม่เคยพบไม่เคยเจอ ลึงค์ที่พี่เจนว่ามันเป็นอย่างนี้นี่เอง

จนมารู้สึกตัวอีกที บุรุษหนุ่มก็ค่อยๆ ก้าวขาลงไปในน้ำใสเย็นๆ กลางแจ้ง กายาด้านล่างค่อยๆ จมหายไปจนเกือบครึ่งเอวสอบ เรียกได้ว่าตัวใหญ่ขนาดนั้น ถ้าลงน้ำไปแล้วได้ถึงขนาดนี้ คงลึกอยู่พอตัว

อสุราเอื้อมมือหนาให้เธอที่ยืนลดละมือมาปกป้องทรวงอกของตนที่กำลังเปิดเผยสู่ผู้ชายเป็นคราที่สอง แม้ว่านี่จะไม่ใช่ร่างกายของเธอ แต่เป็นร่างของโฉมตรูในอดีตชาติที่มธุรสมาสิงร่างอยู่ก็ตาม หากแต่ก็หวงแหนราวกับเป็นร่างกายของตัวเอง

สาวเจ้าส่ายหน้าหวือ ลึกขนาดนั้นจะให้ลงไปทั้งตัวได้ยังไง

“พี่จักประคองน้องไว้เอง มิต้องเป็นกังวล” บุรุษยักษ์ใหญ่เอ่ยคำมั่น เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่น จะให้ทำเช่นไรก็ไม่รู้วิธีสวมใส่อาภรณ์ในสมัยโบราณซะด้วย แต่จะให้เดินกลับเรือนทั้งที่ยังเปลือยเปล่าล่อนจ้อนแบบนี้ คงได้ลือกันไปถึงไหนต่อไหน

ถึงจะไม่หวั่นกลัว แต่ก็ไม่อยากถูกครหาว่าเป็นชีเปลือยล่อนจ้อนเดินโทงเทงท่ามกลางยุคโบราณแบบนี้หรอกนะ

ที่นี่ไม่ใช่โลกที่เธอเคยอยู่ ดังนั้นการทำตามเจ้าของบ้านคงเป็นทางออกที่ดีที่สุด

แน่งน้อยค่อยๆ ก้าวขาที่สั่นเทาไปชิดขอบสระบัว ยื่นฝ่ามือเล็กจ้อยไปจับมือของสุวรรณราพณ์อย่างกล้าๆ กลัวๆ ซึ่งต่อมาก็ถูกรั้งลงไปในสระบัวด้วยกัน น้ำเย็นเฉียบจนนงคราญสั่นระริก ผวากอดกายใหญ่โตของอีกฝ่ายไว้เพราะกลัวว่าจะจมลงไป

ฝูงปลาสีเผือกแหวกว่ายมาตอดปลายเท้าของเจ้าหล่อน จั๊กจี้เหลือทนจนต้องหัวเราะคิกคักออกมา ท่ามกลางอ้อมแขนหนาของยักษ์หนุ่ม สาวเจ้าแหงนหน้าขึ้นมองเขาที่ทอดสายตาลงมาที่ร่างกายเปลือยเปล่าของนางใต้อกหนา รีบเบือนหน้าหนีทันที

“พี่จักลูบตัวให้” บุรุษหนุ่มฉีกยิ้มพราย ค่อยๆ วักน้ำเย็นเข้ามือใหญ่ ปาดลูบเนื้อลูบตัวเนียนนวลขาวลออของสาวเจ้าอย่างพึงใจ

“นะ... หนูลูบเองได้น่ะ คุณแค่อุ้มหนูไว้ก็พอ” เธอใช้ฝ่ามือเล็กจ้อยดันมือใหญ่ของเขาออก หน้าแดงก่ำราวกับผลมะเดื่อสุก นำมาซึ่งรอยยิ้มยวนของอีกฝ่ายที่เหนือกว่าเธอ

“อายงั้นหรือ” พระพักตร์ใหญ่เอียงไปกระซิบข้างริมหูของหญิงสาว พร้อมกับวงแขนแกร่งที่โอบรัดเอวคอดของนางแน่นถนัดขึ้น “เพราะที่นี่เป็นกลางแจ้งงั้นหรือ จึงป้องตนไว้เช่นนั้น”

มธุรสฟังแล้วก็เลยได้แต่ก้มลงมองตนเอง เพราะตั้งแต่ที่ถูกดึงลงมาในสระบัว เจ้าหล่อนก็ใช้แขนปกป้องกายาเพื่อมิให้แนบชิดเขาเกินจำเป็นมาโดยตลอด

จะว่าใช่มันก็ใช่ จะว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่

ไหนๆ ก็ไม่ใช่ตัวมธุรสจริงๆ อยู่แล้วนี่

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๓)

    “มิมีปากมีเสียงเช่นนี้ สำแดงว่าที่ตัวพี่เอ่ยเป็นอันถูกต้อง” ยักษ์ว่าเช่นนั้น เข้าใจว่านางคงอายหากมีใครมาเห็นเขาและนางล่อนจ้อนกอดกันในสระบัวเช่นนี้ จะว่าพิกลไม่ได้ เพราะเจ้าหล่อนนั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่นั่นเองคิดได้เช่นนั้น อสุราหนุ่มจึงร่ายคาถา สร้างต้นไม้ใหญ่รกครึ้มรอบๆ สระบัวในทันทีมธุรสอ้าปากค้าง เมื่ออยู่ดีๆ รอบสระบัวก็ปรากฎต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นรอบๆ กลายเป็นป่าละม่อมขนาดย่อมเธองเหลียวกลับไปจ้องหน้าอสุราหนุ่มอย่างตกตะลึงพรึงเพริด ไม่เคยรู้เลยว่ายักษ์จะร่างเวทมนตร์คาถาเสกต้นไม้ได้ด้วย นี่เหมือนหล่อนกำลังอ่านแฮรี่ พ็อตเตอร์ของเจ. เค. โรว์ลิ่งอยู่เลยอ่ะ“เท่านี้ก็มิมีปัญหาแล้วใช่หรือไม่” ยังมิวายก้มหน้าลงมาถามหล่อนด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์นั่นอีก“มะ... มันก็ดีอยู่หรอกค่ะ” ก็ทหารของเขายืนอยู่ตรงนู้นนี่หว่า เมื่อเกิดป่ารกทึบรอบสระบัวแบบนี้ ก็คงไม่มีชายคนไหนได้เห็นเรือนร่างของเธออีก “แต่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”ท้ายประโยคสาวเจ้าบ่นอุบอิบ น่าพิกลจริงที่สุวรรณราพณ์ตามใจเธอแบบนี้“พี่ตามใจเมียทุกคนของพี่นั่นแล” หากแต่คำตอบก็พอทำให้หญิงสาวรู้ว่าทำไม ได้แต่มุ่ยหน้าตามประสาเด็กสาวที่หมั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๒ โฉมตรูผู้หยิ่งผยอง (๔) จบตอน

    “พระสนมเจ้าคะ ข้าว่ากลับเรือนเถอะเจ้าค่ะ แดดเริ่มแรง เดี๋ยวพระสนมจักเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน” สาวรับใช้ประจำตนเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง รู้ดีว่าพระสนมของตนนั้นหลงใหลท่านผู้นั้น ยอมตกเป็นของท่านหลายคราเพียงเพื่อได้หัวใจของท่าน แม้เพียงแค่ชายตาแลก็ยังดีแต่ในขณะเดียวกันสาวรับใช้นางนั้นก็รู้ดีเพราะว่ารับใช้กษัตริย์กรุงยักษามามากกว่าสองร้อยปี ว่าท่านผู้นั้นเฝ้ารอคู่ชะตามานานเพียงใด แม้ท่านจะมีเมียมากตามประสากษัตริย์ แต่ทว่ากลับไม่เคยมีครั้งใดที่ไม่พร่ำบ่นคิดถึงคู่ชะตาถึงร้อยกว่าปีนั่นเลยสักคราเมื่อได้คู่ชะตามาอยู่ในกำมือของตน จึงไม่แปลกหากท่านจะเอาแต่สนใจท่านหญิงผู้นั้นอย่างไม่ลืมหูลืมตา“เมื่อใดกันสูรย์ตรี เมื่อใดกันที่ข้าจักได้อยู่ในพระเนตรของท่านบ้าง” ตองนวลเอ่ยกับสาวรับใช้ของตนอย่างแสนเศร้า เนื่องจากสุวรรณราพณ์ไม่คิดเชื่อใจผู้ใดนอกจากคนของตน จึงออกคำสั่งให้สูรย์ตรีมาเป็นสาวรับใช้ของตองนวลแทนสาวรับใช้ในเมืองเก่าที่นางจากมา เพราะฉะนั้นสาวรับใช้ของสนมทุกคนของท่านจึงเป็นเผ่าพันธุ์ยักษ์ทั้งสิ้น“พระสนม...” สาวรับใช้ร่างใหญ่เอื้อนเอ่ยเรียกชื่อพระสนมของตนเสียงอ่อน เอื้อมมือไปคว้าฝ่ามือนวลมากุมไ

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๑)

    สุวรรณราพณ์ยักษาเคลื่อนกายปราศจากอาภรณ์เข้ามาภายในเรือนใหญ่ของตนอย่างไม่นึกอายบ่าวรับใช้ที่หมอบกราบหน้าสลอนกันแม้แต่เพียงนิด แต่สาวร่างใหญ่เหล่านั้นคุ้นชินกับอุปนิสัยนายของตนเสียแล้ว จึงตบแต่งกายาอาภรณ์ให้ท่านแต่โดยง่าย สูรย์เกล้าที่เป็นบ่าวประจำท่านยกสังวาลและทับทรวงให้สูรย์มนตราซึ่งเป็นบ่าวรับใช้อีกนาง หล่อนแต่งโฉมให้กษัตริย์กรุงยักษาได้ดั่งเช่นทุกวันสุวรรณราพณ์ตรวจทานตนในคันฉ่อง รูปโฉมเขาในชาตินี้งดงาม ไม่แปลกที่จักมีสนมถึงสิบสองคน แม้สนมคนที่สิบเอ็ดจักไม่ได้ต้องใจเขาเช่นสนมคนอื่นๆ ก็ตามจะว่าไป บุศยาสนมคนที่สิบสองที่ไปชิงมาจากเมืองหัสดีเมื่อคืนวาน ยังไม่ได้เข้าไปทักทายพูดคุยกันเลยดอกหนา“บุศยาอยู่ที่ใด” ท่านเหลียวไปถามสูรย์เกล้าด้วยสุ้มเสียงทรงอำนาจ นางหมอบกราบท่าน แล้วตอบคำถามโดยง่าย“เรือนหอนอนประจำของนางทางปีกซ้ายเพคะ”“ข้าจักไปหานาง เร่งไปบอกสูรย์เสียงให้ตบแต่งนางให้พึงใจข้าโดยเร็ว”“เพคะท่านผู้มากศักดา” นางยกท่านขึ้นเหนือศีรษะ คำยกย่องนั้นเป็นปกติของกรุงยักษาแห่งนี้ที่มักใช้เยินยอกษัตริย์หรือพระมเหสีผู้ทรงศักดิ์ สูรย์เกล้าย่อเท้าเกือบชิดพื้นออกไปจากห้องหับของเขาอย่างยำเกรงส

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๒)

    บุศยานิ่งอึ้งอย่างตกตะลึง ตั้งแต่จำความได้ หล่อนเกิดมาพร้อมกับคำสาป ลายสักที่กลางหลังจักปรากฎขึ้นเมื่อมีผู้มีคาถาอาคมแก่กล้าเปิดเผยมัน พระโหราธิบดีทำนายทายทักว่าจักมีอมนุษย์รูปงามช่วยนางให้พ้นจากคุณไสยที่ตามหลอกหลอน พระบิดาจึงส่งหล่อนให้ตกเป็นเมียของท่านผู้นี้ตั้งแต่อายุยังมิครบจักออกเรือนมินึกรู้ว่าท่านจักไหว้วานยักษาตนนี้ให้รักษาหล่อน“เสด็จพ่อตรัสเช่นนั้นกับท่านหรือเพคะ” บุศยากุมทรวงเล็ก ซ่อนไว้ใต้ผ้ารัดอกที่ถูกดึงออก ท้วงถามด้วยความฉงนใจ“ตามที่ข้าพูดนั่นแล” สุวรรณราพณ์ให้คำตอบ นางจึงระบายยิ้มบางออกมา อย่างน้อยเสด็จพ่อผู้เย็นชาผู้นั้นก็ยังห่วงหาอาทรในตัวนาง แม้นตั้งแต่จำความได้ ท่านจักมิเคยแลเห็นหรือให้ความสำคัญในตัวพระธิดาคนสุดท้องเช่นนางเลยก็ตาม“... เช่นนั้น” สุ้มเสียงเล็กผุดคำถามขึ้นมาอีกครา “ท่านจักมิทำอันใดข้าแล้วใช่หรือไม่”“เจ้ายังเยาว์วัยเกินไปนัก ข้ามินิยมชมชอบสมสู่กับผู้เยาว์ดอกหนา”แม้นจักเป็นคำพูดที่แสบสันในทรวงนัก แต่เจ้าหล่อนกลับระบายยิ้มกว้างออกมามากกว่าเดิม“ขอบพระทัยในความใจบุญของท่านนักเพคะ” หล่อนประนมมือจรดอก และก้มลงกราบอสุราหนุ่มที่ทรงเมตตากับนาง ที่นอกจากจั

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๓)

    แม้รู้ดีว่ามันช่างน่าละอาย ไม่เหมาะไม่ควรจักเป็นกิริยางามของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ แต่ขอเพียงแค่ได้แนบชิดกับกายแกร่งนั้นอีกสักคราเป็นพอ ให้ท่านรับรู้กับความรักเปี่ยมล้นจากกายาของนางทุกอณู“กลับเรือนเจ้าไปเถิด” อสุราหนุ่มปฏิเสธอย่างมิใยดี ใบหน้านงคราญชาดิกเสียจนมิรู้สึกอะไร “ข้ามิมีธุระจักร่วมรักกับเจ้า”“แล้วท่านจักต้องเสียพระทัยที่ทำกับข้าเช่นนี้” หญิงสาวพูดปนสะอื้นไห้ หลบหลีกออกไปจากหอนอนของท่านอย่างเสียหน้าในทันใดดวงหน้าคมคายเหลียวไปมองยังประตูที่นางหลีกออกไป ก่อนจะหันไปส่องตนในคันฉ่อง มิได้จะนึกอยากชมเชยรูปร่างของตนเสียทีเดียว แต่ในชาตินี้เขารูปงามถึงขนาดมีสนมถึงสิบคนไม่มีกระไรที่ขาดพร่องเหมือนชาติก่อนอีก“อีขวัญยอดรักของพี่... พี่จักช่วยเจ้าเอง”ความเจ็บปวดพระทัยที่มิอาจช่วยนางให้รอดพ้นจากความตายในชาติก่อนได้ ทำให้ชาตินี้เขาจำเป็นต้องมีนางอยู่ในกำมือตัดไปที่ด้านมธุรสแน่งน้อย นางสัมผัสได้ถึงสายตาด้านนอกหน้าต่างมาสักพัก เหมือนจักโดนสตอล์กเกอร์แต่ก็ไม่มีใครในหอนอนนี้นอกจากนางเลยหันขวับไปมองหลังจากที่นั่งๆ นอนๆ ในหอนอนนี้อยู่นานสองนาน ด้านนอกมีเพียงต้นสักที่แผ่กิ่งก้านสาขา ไร้ผู้ใดน

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๔)

    หนุมานเองก็เลี่ยงคำถามของเธอด้วยการถามกลับเช่นกัน สาวเจ้าชะงักกึก เพราะถ้าหากเป็นเมืองลับแลอย่างกรุงยักษาเช่นนี้ การที่จะมีหญิงสาวสักคนรู้จักพระรามพระลักษณ์ที่ในขณะนั้นไม่ได้เป็นกษัตริย์ปกครองเมืองอโยธยาเนื่องจากโดนเนรเทศไปอยู่ป่าเป็นเวลาสิบสี่ปี ก็ค่อนข้างแปลกพิกลอยู่ไม่อยากให้ใครในโลกยุคนี้มารู้หรอกนะว่าเป็นสาวยุคดิจิตอลที่อ่านวรรณคดียุคอโยธยาผ่านตาเป็นสิบเรื่องในตำราเรียนมาเกิดใหม่ (ถึงสุดท้ายจะอ่านไม่จบเพราะทนตรรกะในเรื่องไม่ได้ก็ตาม)แต่เอ้ะ ถ้าหนุมานมาเป็นพรรคพวกของพระรามพระลักษณ์ได้ ก็แปลว่าเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงช่วงที่เริ่มทำศึกกับทศกัณฐ์แล้วสิเจ้าหล่อนคิดในดวงจิต เนื่องจากมิได้อ่านรามายณะอย่างละเอียดจึงไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ในเนื้อเรื่องจุดไหนกันแน่เปลี่ยนเรื่องเอาละกันวะ คิดมากปวดหัวตาย“แล้วมาทำอะไรที่นี่ล่ะ” หนุมานเอียงคอ ส่ายหางยาวๆ ไปมาเมื่อเห็นว่าสาวเจ้าท่าทางล่กๆ เลิ่นๆ ไม่เป็นผู้เป็นคน ท่าทางจะมีอะไรในใจแต่คงไม่กล้าพูดออกมา แต่เอาเถอะ เขาไม่ใช่คนที่ใจร้ายใจดำที่จะเค้นคออีกฝ่ายให้ได้มาซึ่งสิ่งที่อยากรู้อยู่แล้วยิ่งฝ่ายนู้นเป็นแม่สาวโฉมสะคราญ ยิ่งทำใจร้ายไม่ลง“ข้าเพีย

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๓ สวาท (๕) จบตอน

    หากแต่อาการสำแดงการปกป้องอีกฝ่ายของนางทำให้อีกฝ่ายยิ่งโกรธเกรี้ยว อสุราหนุ่มหันมาปรามาสหล่อนถึงกลิ่นกายที่หอมหวนราวกับกลิ่นบุปผาสวรรค์“ก็ทำลายไปเลยสิคะ ไม่ได้อยากเกิดมาตัวหอมจนมีผู้ชายมาหาอยู่แล้ว!” นางท้าทายผู้เป็นสามี (ไม่จริง) ของตนอย่างเดือดดาล ไม่มีเหตุผลเอาซะเลยพ่อ หึงหวงหน้ามืดไม่เข้าท่า ทำเหมือนเพราะกลิ่นกายหล่อนไปยั่วอารมณ์ชายอื่นเอาซะได้ แบบนี้มันแพ้แล้วพาลชัดๆสุวรรณราพณ์ขบกรามแน่นเมื่อหญิงสาวตรงหน้าท้าทายเขาอย่างมิมีท่าทางจักกลัวเกรง มิสำนึกผิดเลยสักนิดว่าเพราะความหอมยั่วยวนของหล่อนจักทำให้อมนุษย์มิว่าหน้าไหนหลงใหลแค่เพียงได้กลิ่นกายของนางเท่านั้นเจ้าจันทร์เกิดมามีกลิ่นพิเศษที่จักทำให้อมนุษย์หรืออสุรกายเข้าหาเธอแค่เพียงได้กลิ่น นั่นคือที่มาของคำว่า ‘กลิ่นบุปผาคลั่ง’ ที่ไอ้หนุมานมันว่าเพราะกลิ่นนี้ด้วยเช่นกันที่ทำให้ทุกคราที่อยู่ใกล้ เขามักจักอดใจมิให้สัมผัสนางไม่เคยไหวก็แค่ดับกลิ่นมันไป เท่านี้ก็จักมิมีอมนุษย์เพศผู้ตนใดมาเข้าใกล้ผกากรองเช่นนางอีกแล้ว“งั้นรึ ก็ดี งั้นข้าจักทำให้เจ้าเหม็นโฉ่เสียจนมิมีผู้ได้กล้าเข้าใกล้เลยทีเดียว” ไม่ว่าเปล่า อสุราหนุ่มบริกรรมคาถาในดวงจิ

    Last Updated : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๔ มิพึงใจนางผู้นั้น (๑)

    ทำไมคำพูดคำจามันไม่เหมือนเมื่อคืนเลยวะ แต่ช่างเถอะ“หนูรู้ดี แต่คุณพี่ไม่ควรโกรธแล้วมาพาลที่หนูแบบเมื่อวานนะคะ” ถึงมธุรสจะคิดว่าอีกฝ่ายดูแปลกไปจากพ่อยักษ์ผู้ดุดันเมื่อคืน แต่ได้โอกาสแล้วเลยเอ็ดเขาไปเสียดอกหนึ่ง ชายในฝัน อย่างแรกเลยคือต้องมีเหตุมีผล เมื่อวานอาจจักเพราะเป็นหนุมานด้วย เขาเลยโกรธซะขนาดนั้น (เพราะอีกฝ่ายก็ขึ้นชื่อเรื่องได้เมียไปเรื่อยด้วย)แต่ไม่ได้นึกพิศวาสใดๆ พ่อยักษ์ตนนี้หรอก แค่เพียงอยากให้เขาประพฤติตนในแบบเจนเทิลแมนที่ฮอตฮิตติดชาร์ทในยุคปัจจุบันที่เธอจากมาก็เท่านั้นเพราะยังไงฝ่ายนี้ก็เจ้าชู้ประตูดินไม่ต่างกัน มีเมียเป็นสิบเลย ถึงจะน้อยกว่าหนุมานแค่เพียงเศษเสี้ยว แต่ก็ถือว่าไม่ได้รักเดียวใจเดียวอยู่ดียอมรับว่าหมั่นไส้ และไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ด้วย“ที่พี่เปลี่ยนกลิ่นน้อง แค่เพียงยื้อเวลาให้พวกอมนุษย์ตนใดไม่มากล้ำกราย เจ้าอยากกลายเป็นเมียอมนุษย์ครบทุกประเภทหรือไร” สุวรรณราพณ์ปากไม่ดีใส่เธอเล็กน้อย เนื่องจากอีกฝ่ายไม่รู้เลยว่ากลิ่นสาปบุปผาคลั่งของนางสร้างความลาภปากอยากรสสาวจากอสูรด้วยกันมากเพียงใดมธุรสเอียงคอสงสัย“ก็แค่กลิ่นตัว คงไม่ขนาดนั้นรึเปล่าคะ” เธอพูดไปตามความรู

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๓) จบตอน

    เช้าตรู่วันต่อมา มธุรสตื่นขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตานางค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ผิวเนียนนุ่มมีแต่กลิ่นสมุนไพรฉุนจมูก เจ้าตัวจ้อยค่อยๆ ใช้หลังมือนวลปาดน้ำตาของตนเอง พลางค่อยๆ วางเท้าลงบนพื้นกระดาน หยัดยืนขึ้นเต็มความสูง“... พี่สูรย์จันทร์” เธอเรียกชื่อของบ่าวอสุรีประจำกายตน เมื่อคืนพอหัวถึงหมอนก็ร้องไห้จนหลับไปเลย โดยมีพี่สูรย์จันทร์ค่อยลูบเนื้อลูบตัว ทำแผลหายาทาให้อยู่ไม่ห่างในยุคนี้ คนที่ใจดีไปมากกว่าพี่สูรย์จันทร์... คงไม่มีอีกแล้วแม้แต่เจ้ายักษ์นั่นที่เกือบจะไว้ใจ ก็ทำร้ายเราจนเจ็บใจ เจ็บกายไปหมด“... ต้องหนี” มธุรสพึมพำกับตนเองใช่ ต้องหนีไปจากที่นี่ เพราะเธอไม่สามารถทนอยู่เพื่อประสบพบหน้ากับชายผู้นั้นได้อีกแล้วมธุรสคิดพลางห่มกายที่เปลือยเปล่ากับผ้าแพรยาวคลุมได้ทั้งตัว พลางค่อยๆ ลับๆ ล่อๆ เดินกะเผลกๆ ลงไปตามกระไดเรือน มองซ้ายมองขวา เลือกไปในที่ที่ทหารอารักขามองไม่เห็นพอเข้าไปในป่าละม่อมนางก็วิ่ง วิ่งจนสุดชีวิต วิ่งโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง จนเข้ามาในเขตป่าใหญ่ที่ติดกับป่าละม่อมรอบสระบัว นางมองไปด้านหลังเห็นวังมรกตอยู่ลิบๆคนตัวเล็กหอบแฮ่ก พลางล้มตัวลงนั่งกลางป่า เสียงนกและเสีย

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๒)

    มธุรสพยายามดิ้นรนทั้งที่บัดนี้กายสาวเปลือยเปล่า ผิวขาวผ่องสะท้อนแสงจันทร์เปล่งประกายสุกใส ผิดแผกจากสาวงามที่สังวรีราพณ์เคยลิ้มรสผ่านกายาของไอ้สุวรรณราพณ์ เนื้อนวลเปล่งสีทองประกาย สาวงามเช่นหล่อน เมื่อชาติก่อนคงทำบุญมามาก ชาตินี้จึงเกิดมาด้วยรูปโฉมงดงามราวกับนางอัปสรเช่นนี้“อยากรู้เสียจริงว่าไฉนไอ้สุวรรณราพณ์ถึงหวงแหนเจ้านัก ข้าจักลิ้มรสเจ้ามิให้เหลือ ให้มันได้รู้ซึ้งว่าข้านี่แหละที่ควรจักครองร่างนี้”สุวรรณราพณ์พร่ำพูดคำที่มธุรสไม่สามารถทำความเข้าใจได้ กายาใหญ่ยามสะท้อนแสงจันทร์ พร้อมกับดวงตาสีชาดที่แลดูหมายมั่นว่าจักเอาหล่อนมารวบหัวรวบหางให้ได้ทำให้มธุรสหวีดร้องในลำคอ นางพลิกตัวเพื่อคลานลงจากเตียง หากแต่ก็ถูกรั้งข้อเท้าเอาไว้ แลถูกลากให้นอนราบคว่ำหน้าบนเตียงสังวรีราพณ์คว้าสะโพกนางให้ยกเชยขึ้น สำรวจความงามของบั้นท้ายขาวผ่อง ตรงใจกลางกลีบดอกลำดวนนั้นช่างงดงาม เป็นสีชมพูอ่อนแลสั่นระริกจากเนื้อตัวของนางปลายตชฺชะนี (นิ้วชี้) แลมชฺฌิมา (นิ้วกลาง) แหวกกลีบเนื้อนวลที่ปิดสนิทแนบชิดกันออก เผยโพรงแคบแน่นขนัดที่เต้นตุบๆ ด้านในเป็นสีชมพูเข้ม งดงามเมื่อได้เชยชมดวงหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้บั้นท้า

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๑)

    “คุณพี่เรียกข้าหรือ”เสียงกังวานใสของตองนวลดังภายในหอนอนปีกขวาในยามราตรีกาล นางกำลังนั่งผัดหน้า แต้มนิดแต้มหน่อยอย่างพึงใจสูรย์ตรีแย้มยิ้มเมื่อเห็นว่าพระสนมดูสุขีดี พลางหมอบกราบอย่างนอบน้อม“เจ้าค่ะพระสนม ดูองค์เหนือหัวต้องการท่านมากทีเดียว”“ข้าควรจักทำสีหน้าเช่นไรดีล่ะ” วันเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม หลังจากที่รับนางเด็กเจ้าจันทร์นั้นมา คุณพี่ก็มีรับสั่งเรียกเธอจนได้ แม้นว่าก่อนหน้าจักเห็นตามติดเจ้าจันทร์อยู่เสียหลายวัน รู้มั้ยว่านางต้องทนหนาวเหน็บกายายามค่ำคืน ไร้อ้อมกอดอบอุ่นของท่านมานานเพียงไหน“พระสนมเพียงทำสีหน้าปรกติ ก็งามเกินกว่าใครมาเปรียบแล้วเจ้าค่ะ”“ปากหวานเหลือเกินหนา” นางผินหน้าสะเทิ้นอายรับคำชม ตองนวลเม้มปากกับกระดาษสีชาด ริมฝีปากเต่งตึงฉาบด้วยสีสัน นางแต้มมือกับกลีบปากให้เนื้อสีดูนวลชวนเย้ายวนตาขึ้นเพียงนิด จึงค่อยๆ หยัดกายลุกจากโต๊ะเครื่องแป้ง“ข้าจักรีบไปหาคุณพี่ประเดี๋ยวนี้”ในหอนอน เรือนที่ใหญ่โตโอ่อ่าปรากฏเป็นวังมรกตที่สวยงาม ร่างสะโอดสะองในชุดไทยโบราณงามวิจิตรค่อยๆ ย่างก้าวเข้าไปภายใน ประตูไม้ถูกแง้มไว้แต่พอดี นางจึงค่อยๆ แอบมองลอดดูด้านในอย่างตื่นเต้น“เข้ามาสิตองนว

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๔) จบตอน

    ‘น้องจันทร์แจ้งว่านางมิพร้อมจักร่วมหลับนอนกับข้า อดทนรอได้ฤาไม่’ถ้ากูมิได้เสพสมกับหญิงสาวตนใดในเพลานี้ กูจักอาละวาดและยึดร่างกายเจ้า จับสนมทุกนางกินให้หมดเสีย!‘มิได้ เจ้าจำต้องรับฟังคำขอของข้าด้วย’เสียงดื้อดึงในหัวของเขาเงียบลงไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะหัวเราะขบขันได้สิ หากแต่... มึงต้องเรียกตองนวลมาให้กูเสพสังวาสกับนางในคืนนี้ มึงทำเพื่อแลกกับชีวิตของสนมทุกคนได้หรือไม่?เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผากของบุรุษยักษา เขาคืออสุราผู้บำเพ็ญตบะและสั่งสมอาคมอันแก่กล้ามานานหลายร้อยปี และถือพรหมจารีย์ เพื่อจักได้มีชีวิตรักเคียงข้างคู่ชะตาของเขาเพียงเท่านั้นแต่ถ้าเป็นความบ้าคลั่งในกายเขา ที่ถูกเพรียกชื่อว่า ‘สังวรีราพณ์’ นั้น เขามิแน่พระทัยนักเขามีชีวิตและห่วงหาแต่เจ้าจันทร์เพียงเท่านั้น หญิงอื่นเขาหาได้สนใจไม่‘ข้าจักเรียกนางมาให้เจ้า ในคืนนี้’สังวรีราพณ์ นั้นคือยักษาที่เร้นกายในความมืดมิดภายใต้ดวงจิตของสุวรรณราพณ์มาตลอดร้อยปีที่เขาถือกำเนิดขึ้น ดวงจิตอันมืดมิด เผยเป็นยักษาขนาดมหึมา กายาสีทมิฬกับห้าสิบหัตถ์ รอยอักขระสีทองคำเต็มทั่วกายา ไฟสุมกายมันท่ามกลางบัลลังก์กองกระดูกมนุษย์แลความมืดมิดที่ย

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๓)

    “คิกๆ ดูท่านจักอยากได้เจ้าเป็นเมียนักเชียว ถึงได้มาบ่นรำพึงกับข้าที่บึงอยู่บ่อยๆ แถมครานี้ยังมอบคาถาให้ข้าพูดคุยโต้ตอบได้เสียด้วย” บุรุษปลาบู่หัวเราะคิกคักท่าทางมีเลศนัย “ไยเจ้าไม่ไปถามท่านผู้นั้นเองเล่า ว่าเจ้าควรทำเช่นไร”“เอ้ะ คุณปู่ปลา ก็หนูมาถามคุณปู่เพราะหนูเองก็ไม่กล้าไปถามเขาตรงๆ ยังไงล่ะคะ” อีกฝ่ายยกมือข้างหนึ่งที่ไม่ได้ค้ำสะพานไม้ขึ้นมาท้าวสะเอว “แล้วเขามาแอบดูเราอย่างนี้ หนูจะต้องทำอย่างไรต่อดี”“เผชิญหน้าไปตรงๆ ซิ ท่านน่าจักอยากพูดคุยบางอย่างกับเจ้านะ”“แต่หนู...”“ไยมานั่งหมอบตรงนี้อยู่คนเดียวหรือน้อง?”“ว้ายตาเถร!” มธุรสสะดุ้งโหยง ตกใจเสียงทุ้มต่ำที่มาประชิดด้านหลังราวกับว่าอีกฝ่ายเดินเข้ามาเฉียดใกล้เมื่อไหร่มิอาจทราบได้ และเพราะตนกำลังชะเง้อคอลงไปชิดกับผิวน้ำอยู่นั่นเอง นางจึงเผลอหกคะเมนหัวทิ่มหัวตำลงไปในสระบัวตามที่อุทานไว้จริงๆบุ๋งๆเสียงนางหายใจเป็นฟองอากาศใต้น้ำ เพราะหัวทิ่มลงมาในท่าที่ไม่ถูกต้องนัก เส้นเลยยึดตรงหัวเข่า ทำให้นางปวดขามิสามารถตีขาในน้ำว่ายขึ้นไปรับอากาศได้ ทำได้แค่เพียงค่อยๆ ร่วงหล่นลงสู่ก้นบึงอย่างน่าอนาถแต่ทว่าดวงตาที่พร่ามัวมองเห็นกายาใหญ่โตกำลั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๒)

    เขารำพันออกมาถึงเรื่องราวของตน มิได้อยากสัปดนจนโดนสาวเจ้ารังเกียจรังงอน หากแต่นี่คือประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาของต้นตระกูลยักษ์ เนื่องจากว่าขนาดอันใหญ่โตที่จักทำให้อีกฝ่ายเจ็บร้าวเอาได้ จึงจำต้องมีน้ำอมฤตไว้ผ่อนคลายจิตใจ พิศดูดีๆ ก็อาจคล้ายกับยาเสียสาวนั่นแลฝ่ายบุรุษมัจฉาก็นิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมา“ข้าเป็นเพียงแค่ปลาในสระบัวของท่าน มิรู้เรื่องกระไรเช่นนี้ดอก”“ข้าจักต้องทำเช่นไร ให้นางยอมรับสิ่งที่เป็นข้า”“...”“หรือเพราะนางเป็นมนุษย์ที่ยังถือพรหมจารีย์ ถึงยังมิคุ้นชินกับประเพณีเช่นนี้?”“ข้าคิดว่าเช่นนั้นนายเหนือหัว ท่านควรเข้าหานางด้วยความเยือกเย็น มิจำเป็นต้องวู่วาม”“เช่นนั้นเองหรือ” สุวรรณราพณ์ยักษาทอดมองภาพกายาอันใหญ่โตและใบหน้ารูปงามของตนเองที่ปรากฎบนผิวน้ำ มันบิดเบี้ยวบึ้งบูดพอๆ กับในฤทัยของเขา รวบรวมความกล้าเหลือเกินกว่าที่จักแปลงกายไปดูนางสีฟันกับกิ่งข่อย จนเห็นนางอ้างว้างหนาวเหน็บจึงเข้าไปโอบกอดอย่างทนดูมิได้ภักดีรอนางมาร้อยกว่าปี จนเกิดใหม่เป็นยักษารูปงามชน ก็อยากจักครองราชย์ สร้างเนื้อสร้างตัว สร้างเมืองให้อุดมสมบูรณ์ หากแต่พันธะสัญญาที่ท่านมอบไว้กับฤาษีต

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๕ คุณพี่ผู้เจ้าชู้ประตูดิน (๑)

    “ได้สิ จักให้พิศดูจนพอใจเลยเชียว”อสุราหนุ่มว่า หย่อนท่อนขาแกร่งลงนั่งขัดสมาธิแบบไม่เรียบร้อยนัก เปิดเผยส่วนที่ผงาดแข็งขืนราวกับท่อนซุงจะจะตรงหน้าหล่อนตอนที่สระบัวที่เคยเห็น ช่วงบนบกก่อนที่จะถูกพาลงน้ำที่เขาถอดจนชีเปลือยล่อนจ้อนมันยังหดตัวอยู่ แต่แค่นั้นก็ใหญ่โตมโหฬารเหลือคณา สาวเจ้ากลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ พลิกตัวกลับไปนั่งคุกเข่าอย่างเกร็งตัว ประจันหน้ากับสิ่งมหัศจรรย์อย่างมิหวั่นเกรงที่ไหนกัน หล่อนตัวสั่นริกๆ ยามเมื่อแสงจันทร์ต้องกับส่วนปลายหัวที่โค้งมน มันเงาวับและมีเส้นเลือดเป็นปล้อง ส่วนปลายบานเหมือนดอกบัวตูมสีออกชมพูหม่นเล็กๆ ขนาดส่วนท่อนแข็งนั้นราวกับท่อนซุงสีเนื้อที่ผงาดชูชันอยู่ตรงหน้าเธออีแบบนี้... จักเข้าไปได้หรือ ไม่ทะลวงไส้ทะลวงพุงหล่อนหรือไร“ใหญ่โตใช่หรือไม่” อีกฝ่ายเองก็ยืดอกผาย ภาคภูมิใจในขนาดของตนเอง “อย่าได้กลัวไป ธุลีในน้ำของพี่ช่วยให้น้องผ่อนคลายได้ ดื่มมันก่อนแล้วน้องจะครอบครองพี่ได้ทั้งหมด”“ประเดี๋ยวก่อนค่ะ” เธอยังปะติดปะต่อกระไรมิได้ความสักเท่าใดนัก เลยนั่งเรียบเรียงอยู่ “ธุลีใต้น้ำ... อสุจิ”หรือว่า“นี่คุณพี่จะต้องทำเรื่องวิตถารต่อหน้าเด็ก แล้วหนูต้องกินน้ำค

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๔ มิพึงใจนางผู้นั้น (๔) จบตอน

    หากแต่อสุราหนุ่มกลับระบายยิ้มบางข้างมุมปาก เกลี่ยเส้นผมสีดำสลวยงดงามของเจ้าหล่อนไปทัดยังใบหูเล็ก ฝ่ามือใหญ่เกลี่ยพวงแก้มใสของนางเบาบาง“หนูจะรู้อะไรล่ะคะ” หากแต่เจ้าตัวเล็กยังย้อนสู้“สาเหตุที่ข้าชมชอบเจ้ายิ่งกว่าสนมอื่นใด”“แต่หนูไม่ได้ชอบคุณ” มธุรสนั้นจำเป็นต้องพูดออกมาตามตรง เธอไม่ได้รู้จักเขาดี ตามที่เคยบอกกับตองนวลว่าไม่ชอบชายที่รุกรานคุกคามร่างกายในวันแรกที่เจอกัน มธุรสเป็นสาวสมัยใหม่ ไม่ได้นึกคล้อยตามโดยง่ายตามสาวในยุคก่อนเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนตรงหน้าเป็นตัวละครจากวรรณคดีเรื่องไหน ไม่ได้รู้จักกันพอที่จพตกลงปลงใจ เพิ่งเจอะเจอกันได้สองสามวัน จะหวังให้นางมาหลงมารักมาชอบเขา คงยาก ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะหน้าตาดีในแบบฉบับอมนุษย์ก็ตามอย่างน้อย... ก็ต้องเข้าหาอย่างถูกต้อง และรู้จักมักจี่กันให้มากกว่านี้ซะก่อนสิ“ข้ารู้ ข้ามิบังคับขู่ใจเจ้าดอก” บุรุษยักษายังคงป้องแก้มเล็กมาชิดใกล้ เขามิได้หมายใจจักทำกระไรไปมากกว่าการขอโอบกอดร่างกายเล็กจ้อยนี้ไว้เพื่อให้นางปลอดความหนาว ถึงจักเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่งที่ว่านางมิได้ชมชอบเขาอย่างที่ลั่นวาจาออกมา เนื่องจากเขาค่อนข้างมั่นพระทัยในตน ว่ารูปงามยิ่งกว่า

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๔ มิพึงใจนางผู้นั้น (๓)

    ไม่อยากเชื่อสายตา ว่าจะทำกันได้ลงขนาดนี้มธุรสนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ในหอนอนของนาง เอนกายพิงกับโต๊ะเครื่องแป้งราวกับว่าจิตวิญญาณจะหลุดออกจากร่างแล้วเป็นครั้งแรกเลยก็ได้ที่ได้เห็นมารยายั่วสวาทจากสาวในยุคก่อนเต็มๆ สองตา ตองนวลทั้งสอนตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ แถมเป็นเรือรบที่ทำให้นวลนางแทบแดดิ้น เมื่ออีกฝ่ายพรรณนาถึงการมีเสก (?) กับคุณพี่ของนาง ไม่ว่าจะเป็นท่าไหน ก็แทบทำให้มธุรสอายจนแทบแทรกแผ่นดินถึงสมัยเป็นมธุรสที่ไร้เสน่ห์ นางจะเคยอ่านโดจินหรือนิยายยาโอยมาบ้างก็ตาม แต่อะไรที่สุดจัดปลัดบอกแถมเอ็กซ์คลูสซีฟที่เมดอินจากสมัยอโยธยามาร่ายบทอัศจรรย์ตรงหน้าแบบนี้ ก็ถึงกับระบบสมองรวนจนรับข้อมูลต่อไม่ได้ไม่ได้สันทัดอะไรด้านนี้ รู้แค่ทฤษฎีไม่เคยปฏิบัติ มาเจอแบบนี้ไปต่อไม่เป็นเลยแต่จะให้เปลือยเปล่าแล้วขย่มขยี้ต่อหน้าชายชีกอคนนั้น เธอทำไม่ลงคิดแล้วก็นับถือใจตองนวลจัง แม้ว่าหล่อนจะดูหน้าเฉี่ยวตามแบบฉบับนางร้ายตามท้องเรื่อง ขี้เหวี่ยง แถมดูจะขี้หึงขี้หวงพ่อสุวรรณราพณ์เหลือเกิน แต่ก็ยังยอมสอนให้เธอปรนเปรอเขาได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องจะว่าไปก็น่าเอ็นดูนะเนี่ย เทียบกับมธุรสในอายุขัยจริงๆ ตองนวลก็ถื

DMCA.com Protection Status