Share

บทที่ 13 สองหนุ่มผู้คลั่งไคล้

last update Last Updated: 2024-11-28 12:15:26

             สถานที่สอบของอีเลนอยู่ห้องท้ายสุดของทางเดิน ซึ่งเขาต้องลอบผ่านกลุ่มนักเรียนซึ่งยืนรุมล้อมบุคคลทั้งสองโดยไม่ให้เชาว์สังเกตเห็น

            ‘เฮ้ออ อยากจะบ้าตาย เราไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้เนี่ยถึงเจอแต่เรื่องแบบนี้!!’ เจ้าตัวบ่นกับตัวเองในใจ คนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดคือเชาว์ แต่ยังโลกยังเหวี่ยงให้ได้พบกันอีกจนได้

            เด็กชายคิดว่าเจอกันครั้งนั้นแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเจ้าตัวจะมาสอบที่โรงเรียนเดียวกันอีก

            “นั่นแหละเอาเลย สายตาของนายมันกำลังทิ่มแทงความบริสุทธิ์ของผม ทำให้ผมดูน่าสมเพชมากกว่านี้อีกสิ อ๊า!”

            ขนาดอีเลนได้ยินยังรู้สึกรับไม่ได้กับคำพูดของเด็กหน้าสวย แล้วคนที่โดนพูดใส่ล่ะจะรู้สึกยังไง คิดได้ดังนั้นจึงลอบแอบมองสีหน้าของคนที่ยืนอยู่กลางวงสนทนา

            “คนอย่างนายมันน่าสะอิดสะเอียน”        

            เด็กแว่นพูดพร้อมทำสายตาว่างเปล่า เบ้ปากรับไม่ได้ขั้นสุดกับการกระทำของคนตรงหน้า ก่อนจะพยายามเดินหนีไปเข้าห้องสอบ

            เมื่อเชาว์เห็นดังนั้นจึงรีบยื่นมือเข้าไปจับแขนเสื้ออีกฝ่ายรั้งเอาไว้ เด็กชายกุหลาบพยายามระงับลมหายใจหอบถี่ด้วยความตื่นเต้นไปด้วย

            อีเลนได้จังหวะเขารีบเดินก้มตัวผ่านไปให้ไวที่สุด ในขณะนั้นเด็กแว่นหันตัวมาสะบัดมือเชาว์ออกอย่างไม่กลัวว่าคนจับจะเซล้ม

             หุ่นฟิกเกอร์กันดั้มในกระเป๋าสะพายที่เปิดซิปค้างไว้พลันกระเด็นร่วง กลิ้งมาโดนเท้าอีเลนเข้าพอดี

            “ก็บอกว่าอย่ามาจับไง!! นายโรคจิตแล้วยังหูหนวกอีกเหรอ!!”

             เด็กแว่นส่งสายตารังเกียจ จ้องข่มขู่เด็กหน้าสวยไม่ให้เข้ามาใกล้ ก่อนจะหยิบแอลกอฮอล์ฉีดลงไปที่แขน เช็ดบริเวณที่ถูกสัมผัสซ้ำอีกครั้ง

            เชาว์มองท่าทางของคนที่ผลักไสเขาอย่างตกตะลึง เจ้าตัวถูกสะบัดแขนจนล้มแต่ไม่มีท่าทีว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกผิดเข้ามาช่วยเลยสักนิด แถมซ้ำยังส่งสายตามาตอกย้ำไหนจะทำท่ารังเกียจอีก

            ‘อ่าไม่ไหวแล้ว ๆ สายตาอันน่าหลงใหลนี่มันคืออะไรกัน!! คนงดงามอย่างผมยังไม่เคยเจอใครที่ส่งสายตาดำมืดสนิทขนาดนี้ให้มาก่อนเลย!!’  เชาว์คิด ในใจเขาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง

             'อยากถูกจ้องมองอีกเยอะ ๆ เลย'  เด็กแว่นมองคนที่ล้ม  นั่งทำหน้ายิ้มปลื้มปริ่มอย่างไม่รู้สึกรู้สา เขาถอนหายใจแรงเบื่อหน่ายปนรังเกียจก่อนจะรีบเดินเพื่อหลีกหนีไปให้ไกลที่สุด!!

            เมื่อเด็กหน้าสวยเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเดินหนีไปเขาจึงรีบลุกขึ้นกะวิ่งตามไปเต็มที่!! แต่ดันถูกคนตัวโตมีกล้ามแน่นปึกรัดคอไว้เสียก่อน

            เชาว์เงยหน้ามองก็เห็นเป็นหน้าครูพละกรรมการคุมสอบห้องพิเศษสุดพรีเมี่ยมของตัวเอง

            “ถึงเวลาสอบแล้วเธอจะวิ่งไปไหนอีก” ครูพละเอ่ยเสียงเข้ม ทำหน้าโหดเหี้ยม เชาว์เห็นพลันยิ้มแย้มหน้าแดงหอบหายใจถี่  

            “สีหน้าครูบราโว่ ยอดเยี่ยม ทำให้หัวใจผมสั่นระรัวได้เลยครับครู”

             ครูกล้ามบึกถึงกับคิ้วกระตุก เขาถูกไหว้วานจากผู้ปกครองและผู้อำนวยการให้ดูแลเด็กคนนี้เป็นพิเศษ

            ตอนแรกก็คิดว่าจะให้มาจับตามองเด็กที่ชอบโอ้อวดหลงตัวเองไปทำไม แต่ตอนนี้พอจะเข้าใจสาเหตุแล้ว

            “เธอมานี่กับครู เธอต้องไปนั่งสอบในห้องคนเดียว!!!”

            “ม่ายยยย แต่ผมอยากนั่งอยู่ในห้องกับเพื่อน ๆ ให้พวกเขาได้ชมเชยความงดงามของผมนะครับครู๊ววววว”

            ครูพละลากคนแหกปากร้องลั่นไปตามทางเดิน ท่ามกลางสายตาเด็กนักเรียนมากมายที่มองตาเป็นมัน

             อีเลนเมื่อเห็นว่าตัวปัญหาถูกลากออกไปแล้วเขาจึงยืนตัวตรงตามเดิม ก่อนมุ่งหน้าเดินตรงไปยังห้องสอบ ระหว่างทางสายตาจ้องหุ่นกันดั้มในมือสีดำตัดทองมีปีกเหมือนรุ่นลิมิเต็ดหายากไปด้วย

            ช่วงเวลาหนึ่งเขาเห็นว่ามันหล่นมาจากกระเป๋าของเด็กคนนั้นไม่ผิดแน่ และเด็กนี่ก็เดินตรงไปทางเดียวกับห้องสอบของเขาซึ่งเป็นห้องท้ายสุดพอดี

          [ประกาศ ๆ ขณะนี้เหลือเวลาอีกห้านาทีขอให้นักเรียนทุกคนเข้าห้องสอบเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำข้อสอบด้วยค่ะ]

          [ประกาศ ๆ ขณะ…………….]

            เสียงประกาศดังไปทั่วโรงเรียน อีเลนตัดสินใจเก็บหุ่นกันดั้มลงในกระเป๋าสะพายข้าง เขาคิดว่าเข้าไปสอบให้เสร็จก่อนค่อยเอาไปส่งคืนตอนสอบเสร็จก็ยังไม่สาย

            คุณครูผู้หญิงคุมสอบในห้องเดินแจกข้อสอบไปตามแถวเรียงหมายเลขแต่ละโต๊ะ อีเลนได้นั่งอยู่หลังเด็กแว่นห่างกันไม่กี่โต๊ะ

             เขาเหลือบสายตามองเด็กที่นั่งร้อนรนหลังจากได้รับกระดาษข้อสอบจากครูสาว

             เด็กแว่นมีอาการอยู่ไม่สุข เหมือนคนที่อยากจะลุกวิ่งออกจากห้องตลอดเวลา ขาข้างหนึ่งของเขาขยับสั่นแทบตลอด

             อีเลนมองก็คาดเดาอาการได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายร้อนรนเพราะทำกันดั้มหายแน่ ๆ  ถึงแม้ใจจะอยากลุกขึ้นไปบอกว่าเขาเก็บกันดั้มได้แต่ก็ต้องตัดใจเพราะเสียงสัญญาณเริ่มทำข้อสอบดังขึ้นเสียก่อน

          [ประกาศ ขณะนี้เวลาแปดนาฬิกายี่สิบนาทีขอให้นักเรียนทั้งหมดเริ่มลงมือทำข้อสอบได้ค่ะ]

            เด็กชายกวาดสายตามองข้อสอบคณิตศาสตร์วิชาแรก เขานั่งติวกับเคียร์นมาทุกวี่ทุกวันมองแป๊บเดียวก็แก้โจทย์ได้แล้ว ก็อย่างที่บอกมันไม่ได้ยากสำหรับคนที่เรียนผ่านมอปลายมาแต่ก็ไม่ได้ง่ายเช่นกัน

            คนตั้งใจจับดินสอ ฝนลงกระดาษคำตอบข้อแล้วข้อเล่า ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ทำจนเสร็จก่อนจะวางเครื่องมือลง นอนเอาหน้าฟุบโต๊ะรอทำวิชาต่อไป

            เวลาไหลผ่านไปเรื่อย ๆ จนทุกคนทำวิชาสุดท้ายเสร็จก็หมดเวลาสำหรับทำข้อสอบพอดี ครูคุมสอบเริ่มเดินเก็บกระดาษคำตอบและใบโจทย์คืนไล่เรียงไปทีละโต๊ะ

             ทันทีที่ครูสาวเดินเก็บมาจนถึงโต๊ะเด็กแว่น เด็กชายพลันรีบลุกขึ้นยืนพูดขออนุญาตเสียงดัง

            “ผมท้องเสียมาก ๆ ขอตัวไปก่อนนะครับคุณครู!!”

            คูรสาวยังไม่ทันอนุมัติ เด็กแว่นก็วิ่งหน้าตั้งราวกับพายุหนีไปซะแล้ว ทุกคนในห้องรวมถึงอีเลนต่างนั่งอึ้งกันหมด

             คุณครูเมื่อตั้งสติได้เธอเดินมาเก็บกระดาษคำตอบของอีเลนต่อ พอเก็บเสร็จเขาก็รีบลุกขึ้นขออนุญาตออกจากห้องก่อนวิ่งออกไปตาม ๆ กันและเป็นอีกครั้งที่ครูสาวยังไม่ทันพูดอะไร

             เด็กนักเรียนก็ชิงวิ่งตัดหน้าเหมือนนักเรียนคนก่อนออกไปเสียแล้ว ทำให้เธอรู้สึกเสียหน้ามาก คิดเดือดดาลกับตัวเองอยู่ในใจ

            'เจ้าเด็กพวกนี้นี่!!"

            อีเลนหยิบกระเป๋าสะพายข้างรีบวิ่งไปตามทางเดินเพื่อหาเด็กแว่น เขากลัวอีกฝ่ายจะกลับบ้านไปก่อนจนไม่ได้คืนกันดั้มให้

             ระหว่างทางมองซ้ายมองขวาคาดคะเนว่าเด็กชายจะวิ่งไปทางไหน ประตูห้องหนึ่งก็ถูกเปิดออกพร้อมกับเจ้าของร่างเด็กชายหน้าสวยดูเจ้าสำอาง ผมสีบลอนด์สะดุดตากำลังยืนมองหน้าเขาอย่างอึ้ง ๆ

            “นะ นายคือคนที่กักขังผม!!!”

            ‘กักขังบ้าไรฟระ เขาเรียกมัดคนบ้า!!’

              อีเลนมองอีกฝ่ายกลับหน้าเจื่อนพลางคิดว่าพระเจ้าช่างกลั่นแกล้งเขาเสียเหลือเกิน คนที่อยากเจอกลับไม่ได้เจอ คนที่ไม่อยากเจอกลับเจอซะงั้น

            “มาเลย ครั้งนี้นายต้องอยากปู้ยี่ปู้ยำผมแน่!! ผมอุตส่าห์ฉีดน้ำหอมกลิ่นกุหลาบออกจากบ้านเพื่อวันนี้เลยนะ!!”

            ‘แล้วน้ำหอมกลิ่นกุหลาบมันเกี่ยวอะไร………'

            อีเลนคิดในใจพลันดันเชาว์ให้กลับเข้าไปในห้องสอบเดียวเหมือนเดิม ก่อนจะปิดประตูเบา ๆ แล้วรีบสาวเท้าวิ่งหนีคนตรงหน้าไปให้ไกลที่สุด!!! เชาว์ยัง งง ๆ กับสถานการณ์พลางกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะตั้งสติรีบเปิดประตูกะวิ่งตามอีเลนไป

            “เฮ้ยย อย่าวิ่งบนทางเดิน!!”

            ครูพละซึ่งคลุมสอบเชาว์อยู่ออกมาจากห้อง คว้าตัวเด็กตัวยุ่งไว้ไม่ให้ทำผิดระเบียบห้ามวิ่งบนระเบียง

            “ครูปล่อยผมมมม ผมจะไปหาผู้กักขังผมไว้ในกรงทอง!!”

            “พูดอะไรของเอง!!”

            เชาว์คิดถึงแม้เขาจะชอบสีหน้าโหดเหี้ยมของคุณครูพละมากแค่ไหน แต่ก็อดหน่ายใจไม่ได้อยู่ดีเพราะอีกฝ่ายเอาแต่ขัดขวางเจตนารมณ์โดนเด็ดกลีบทิ้งของเขาอยู่ได้!!

            อีเลนวิ่งจนเหนื่อย รีบหนีลงมาจนถึงชั้นล่าง ระหว่างทางก็ไม่ลืมมองหาตัวเจ้าของกันดั้มไปด้วยแต่กลับไร้วี่แวว

             'ไม่ใช่กลับบ้านไปแล้วนะ' คิดพลางค่อย ๆ เดินหันซ้ายหันขวา  เมื่อแน่ใจแล้วว่าคงไม่เจอจริง ๆ จึงตัดใจ

            ‘ค่อยเก็บไว้ให้เผื่อเจอตัวก็ได้ ถึงไม่รู้ว่าจะติดโรงเรียนเดียวกันไหมก็เถอะ’ จิตตั้งมั่นอย่างมีความหวัง เดินตามทางเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังจุดที่นัดเจอกับเคียร์น ระหว่างทางก็เห็นคนยืนถอดแว่นทรุดตัวกอดกระเป๋าร้องไห้อยู่คนเดียว

            “ฮรึก ๆ ฮือออออ ฮือออออ เจ้ากั้มดั้มรุ่นซีโร่ทูนัมเบอร์วันศูนย์ศูยน์ หนึ่งรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของฉันหาย ฮืออออ”

            อีเลนมองเด็กแว่นที่ไม่เหมือนเด็กแว่นนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างน่าสงสาร แม้ว่าเขาจะรู้สึกเข้าใจความรู้สึกอีกฝ่ายเพราะเป็นคนชอบอ่านนิยายและติดอนิเมะมากเหมือนกันแต่ไม่ถึงขนาดนี้จึงอดทำสีหน้าแปลกใจไม่ได้ไปแวบหนึ่ง

            “นายหานี่อยู่เหรอ”

             อีเลนหยิบตัวกันดั้มออกมาจากกระเป๋าสะพายข้าง เด็กแว่นเงยหน้ามองกันดั้มในมือคนตรงหน้าพลันดวงตาเบิกกว้าง

            “น่ะ นายมีมันได้ยังไง!!”

            “ฉันเห็นมันตกลงมาจากกระเป๋านายเลยเก็บไว้ให้น่ะ” อีเลนส่งกันดั้มในมือให้เด็กชายที่มีเบ้าตาแดงก่ำ เขายื่นมือสั่นเทามารับมันไป

            เด็กน้ำมูกน้ำตาไหลกอดมันไว้ในอ้อมแขนอย่างรักไคล้ นี่เป็นกันดั้มตัวแรกที่พี่ชายซื้อให้ก่อนจะเสียชีวิต

             พี่ชายให้ไว้เป็นตัวแทนของตัวเองและเพื่อนเล่นที่อยู่กับเขาแทนเด็กคนอื่น เพราะตอนเด็ก ๆ เขาเป็นโรค (mysophobia) โรคกลัวการสัมผัสตัวกับผู้อื่น เหตุเกิดเป็นเพราะวัยเด็กเกือบโดนขืนใจจากคนเป็นคุณครูแต่ก็รอดมาได้

             แม้จะไม่บาดเจ็บทางกายแต่ก็บอบช้ำทางใจขั้นรุงแรงทำให้ต้องส่งตัวเข้ารับการบำบัดเป็นระยะเวลานานอยู่หลายครั้ง

             เพราะเป็นโรคนี้เขาจึงไม่กล้าสัมผัสตัวผู้อื่นทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าตนรังเกียจเลยพากันตีตัวออกห่าง

            พี่ชายแสนดีเห็นแบบนั้น จึงมอบกันดั้มสุดแสนล้ำค่าที่ตนเก็บเงินซื้อให้น้องชายเอาไว้เป็นเพื่อนเล่นก่อนที่จะเสียไปเพราะอุบัติเหตุ

            ดังนั้นเขาจึงพกกันดั้มตัวนี้แทนพี่ชายไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา และกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้นักสะสมกันดั้มไปโดยปริยาย

            อีเลนเห็นเด็กแว่นกอดตัวกันดั้มอย่างทะนุถนอมไม่เหลือท่าทีเย็นชาส่งสายตารังเกียจเหมือนตอนอยู่กับเชาว์พลันเกิดความรู้สึกเอ็นดู

            เขานึกในใจว่าแบบนี้สิถึงจะสมกับเป็นเด็ก ไม่เหมือนกับเด็กตัวร้ายที่ตนอยู่ด้วยตลอดเวลาชอบให้ความรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่มากเกินไป

            “นายชื่ออะไรเหรอ”  คนกอดกันดั้มแน่น เช็ดน้ำตาพลางจ้องหน้าอีเลนดวงตาเป็นประกาย

            “ฉันอีเลน…..แล้วนายล่ะ” คนถูกถามรู้สึกสับสนกับท่าทางที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ตอบกลับ

            “ฉันชื่อ เพิร์ซ จากนี้ไปนายเป็นลูกพี่ฉันแล้ว”

            “หะ เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวก่อน!!” อีเลนงงว่าเด็กนี่พูดอะไร

            “นายเป็นลูกพี่ฉันแล้วเพราะนายช่วยพี่ชายฉันไว้ ฉันจะทำตามทุกอย่างที่นายสั่งเลย!!”

            “ไม่ใช่สิ ที่ฉันช่วยนายคือฉันอยากช่วยไม่ได้อยากให้นายมาเป็นลูกน้อง!!”

            “แต่ฉันเต็มใจ ฝากตัวด้วยครับลูกพี่!!”

            เพิร์ซโค้งตัวให้อีเลนเป็นการทำความเคารพ เด็กชายเกาหัว เขาคิดว่าเด็กนี่อยู่ในวัยจูนิเบียวหรือยังไง…..

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 14 เรื่องน่าปวดหัว

    หลังการสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัดเสร็จ ต้องรอการประกาศคะแนนประมาณสองอาทิตย์ ไม่นานผลสอบได้ถูกจัดตั้งขึ้นบนบอร์ดกลางโดมของโรงเรียนชื่อดัง รายชื่อนักเรียนตั้งแต่ลำดับแรกจนถึงลำดับสุดท้ายถูกจัดเรียงตามคะแนนสอบจากมากไปน้อย “เคียร์น มีรายชื่อนายไหม” อีเลนถามขณะยืนมองตัวเลขอันน่าภาคภูมิใจสมกับความพยายามของตนเอง “อืม มีแน่นอนอยู่แล้ว” คนถามหันหน้ามองเด็กมั่นหน้าอย่างหมั่นไส้ ‘เก่งแล้วยังอวดอีกเจ้าเด็กนี่!’ เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์ลอบยิ้มในแววตา รู้ว่าเพื่อนตัวน้อยกำลังคิดถึงอะไรอยู่ นึกเอ็นดูกับท่าทางของคนตรงหน้าก่อนน้ำเสียงทรงเสน่ห์จะเอ่ยขึ้น “ดูเหมือนเราจะได้อยู่ห้องเดียวกันนะ” เด็กตาน้ำเงินมองไปยังผลคะแนนสอบในแถว A ทางโรงเรียนจะจัดรายชื่อคะแนนของเด็กที่ได้ใกล้เคียงกันไล่ไปแต่ละแถวตามตัวอักษร แถว S คือเด็กอัจฉริยะที่ทำคะแนนรวมได้เกือบเต็มร้อยของคะแนนเต็ม แถว A ไล่ตั้งแต่คะแนนแปดสิบสองจนถึงเจ็ดสิบคะแนน และแถว B ไล่ตั้งแต่คะแนนเจ็ดสิบถึงหกสิบสองคะแนนลดหล

    Last Updated : 2024-11-28
  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 15 เปิดฉากการเรียนวันแรก

    เริ่มวันใหม่กับการเป็นเด็กมัธยมต้นครั้งแรกเมื่อผ่านพ้นการเรียนปรับพื้นฐานมาเป็นเวลากว่าสองอาทิตย์ อีเลนคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่มากที่มีเชาว์กับเพิร์ซเพิ่มเข้ามาในชีวิตประจำวัน แม้มันจะน่าปวดหัวมากแต่ก็สนุกดี ยิ่งได้เห็นสีหน้าซีดเซียวของครูอันผู้รับชะตากรรมแบบเดียวกับเขาแล้วทำให้มีแรงฮึดสู้ไปเรียนมากยิ่งขึ้น ด้วยความคิดว่าอย่างน้อยตนก็ไม่ได้โดนอยู่คนเดียว ยังมีครูอันเป็นเพื่อน!! “คิดอะไรอยู่” ดวงตาสีแซฟไฟร์ถามขณะจูงมือกับเพื่อนตัวน้อยเดินทางไปยังโรงเรียน คนโดนกุมมือมองปลายนิ้วที่ผสานกันพลางคิดว่าขึ้นมัธยมต้นแล้วยังต้องมาเดินจับมือกันเหมือนเมื่อก่อนอีกเหรอ ตอนเจอกันแรก ๆ เขายังไม่อะไรมากกับการสกินชิพของอีกฝ่ายเพราะยังไงก็ถือว่าเป็นเด็กอายุแค่สิบสองปี แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน พวกเขากำลังย่างเข้าสู่ช่วงวัยแตกเนื้อหนุ่ม การกระทำเช่นเดินจับมือถือแขนควรเว้นระยะห่างไว้บ้าง เมื่ออีเลนพยายามจะดึงมือหนีเคียร์นกลับยิ่งจับแน่นขึ้น “เคียร์น ฉันว่าเราควรเว้นระยะห่างกันไว้บ้างนะ” อีเลนพูดเตือน เขา

    Last Updated : 2024-11-28
  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 16 ยืนอยู่เฉย ๆ ปัญหาก็เข้ามา

    นักเรียนห้อง S ของโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัด ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้อยู่ห้องนี้ล้วนไม่ใช่เด็กธรรมดา บางคนสอบเข้ามาได้ด้วยคะแนนสูงสุดเกือบเต็มร้อยนับว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ บางคนพ่อแม่มีอำนาจทางการเมือง ใช้เงินยัดใต้โต๊ะหวังให้ลูกหลานมีภาพลักษณ์เด็กเก่งเรียนดีมีหน้าตาทางสังคม เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เกินครึ่งในห้อง S จึงล้วนเป็นเด็กที่สอบเข้ามาได้ด้วยเงิน มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่สอบเข้ามาได้ด้วยความสามารถของตัวเองจริง ๆ เด็กจิ้มลิ้มเขามีชื่อว่า เฮนรี่ เป็นเน็ตไอดอลชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมจากบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวด้วยหน้าตาสุดน่ารักน่าชัง ภาพลักษณ์ดูเป็นเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์อ่อนต่อโลก ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมหลงใหลไปกับความน่ารักไร้เดียงสา

    Last Updated : 2024-11-29
  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   (ตอนพิเศษ) พี่ชายที่แสนดี

    คำเตือน เนื้อเรื่องตอนนี้เป็นเพียงส่วนเสริมอดีตของเพิร์ซ ให้รู้ที่มาที่ไปของตัวละครเท่านั้น มีฉากล่วงละเมิดทางเพศ พรากผู้เยาว์ ความรุงแรง ดราม่า ใครรับไม่ได้โปรดข้ามไปอ่านตอนต่อไป เด็กน้อยวัยใสอายุเพียงหกขวบ เขาถูกเลี้ยงมาด้วยความรักความอบอุ่นจากครอบครัว ถูกประคบประหงมดั่งไข่ในหิน ชีวิตของเด็กชายไม่เคยขาดอะไรเลย ได้ทานอาหารที่ชอบทุกมื้อ มีพ่อแม่ที่รักมากสุดหัวใจและมีพี่ชายแสนดียืนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างดูแลแทบตลอดเวลา ด้วยความขาวตี๋ตัวเล็ก ผมสีดำขลับเรียบตรง ดวงตากลมวาวสดใส แก้มขาวอมชมพูป่องนิด ๆ ทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าชังรวมกับนิสัยเป็นมิตรของเพิร์ซวัยเด็กแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มักจะมีคนคอยเอ็นดูอยู่เสมอ “เพิร์ซ วันนี้ตอนเย็นอยากแวะที่ไหนไหมครับ” พี่ชายอายุวัยเพียงสิบห้าปีฉีกยิ้มหวาน เดินถือรองเท้านักเรียนสีดำเตรียมใส่ออกไปข้างนอกอยู่หน้าประตูบ้าน ผู้เป็นน้องชายสะพายกระเป๋ารูปกันดั้มสีน้ำเงินซึ่งพี่ชายเป็นคนเลือกให้วิ่งตามหลังมา เด็กชายอมยิ้มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ครับ! ผมอยากไปเล่นที่สนามกับเพื่อ

    Last Updated : 2024-12-02
  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 17 จงเป็นคนแปลกที่เก่งกาจ

    “เข้ามาสิ ฉันให้ขยะที่ยังไม่ถูกรีไซเคิลอย่างพวกนายเปิดก่อนเลย” เด็กแว่นพูดกวนโมโห ท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้ชายหน้าโหดฉุนจัดหอบหายใจกระฟัดกระเฟียด โกรธจนหน้าแดงกำหมัดแน่น “เอาเลยลูกพี่ มันท้าทายอำนาจลูกพี่ครับ” “อัดไอ้เด็กไม่เจียมกะลาหัวมันเลยครับลูกพี่!!” “เป็นแค่ไอ้จ้อยอย่าปากดีนักนะไอ้ลูกหมานี่ เดี๋ยวโดนลูกพี่กูอัดยับอย่ากลับบ้านไปร้องไห้ฟ้องแม่นะมึง” เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่ว เชาว์ยืนถือแว่นตาเพิร์ซ มองสถานการณ์ตอนนี้ด้วยสีหน้าซีดเผือด ใจเต้นระทึกไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ระแวงว่าเด็กตี๋ของตนจะถูกซ้อมยับ&n

    Last Updated : 2024-12-03
  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 18 ละครจบของโรงเรียน

    “ไปไหนมา เย็นปานนี้ทำไมไม่รีบกลับบ้าน!!” ผู้เป็นพ่อยืนเท้าเอวใบหน้าเคร่งขรึมน้ำเสียงจริงจังเปี่ยมอำนาจ เอ่ยถามลูกชายของตนที่นาน ๆ ทีจะเจอครั้งหนึ่ง พ่อของอีเลนเป็นทนายความชื่อดังวัน ๆ มีแต่งานสารพัดปัญหาเข้ามารุมล้อมไม่หยุด ทั้งต้องออกไปทำเรื่องว่าการให้พรรคการเมืองชื่อดัง ทั้งต้องขึ้นศาลให้ครอบครัวมหาเศรษฐี วันหนึ่งแทบไม่ได้หยุดพักอยู่บ้านดี ๆ เลยสักหน “พ่อกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เด็กชายเอ่ยถามคนได้ชื่อว่าเป็นพ่อตนตอนนี้ เขารู้สึกเกร็งนิดหน่อยเพราะไม่คุ้นเคยกับคนตรงหน้ามาก่อน แถมอีกฝ่ายยังมีท่าทางน่ากลัวทำให้รู้สึกชวนคุยด้วยลำบาก เขาเผลอบีบมือที่กุมเคียร์นไว้แน่นอย

    Last Updated : 2024-12-03
  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 19 บทละครจากนิทาน

    เมื่อทำการจับฉลากเป็นคู่ในกล่องสุ่มเรียบร้อยแล้ว ครูอันให้นักเรียนที่อาสาตัวช่วยละครจบของรุ่นพี่เข้าไปรวมตัวกันที่หอประชุม แถวในหอประชุมจะถูกแบ่งแยกไปตามห้องที่แต่ละคู่จับสุ่มได้ โดยมีตัวแทนของพวกรุ่นพี่ห้อง S-F ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเว้นระยะห่างหนึ่งช่วงแขน ให้พวกน้อง ๆ ที่จับฉลากได้ห้องไหนเข้ามายืนต่อแถวตอนห้องนั้น ใช้เวลาไม่นานนักเรียนอาสาของทุกห้องก็เดินเข้ามาเรียงแถวในหอประชุมกันจนครบ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยประธานนักเรียนชั้นมอห้าเดินขึ้นไปบนเวทียืนตรงแท่นโพเดียมก่อนจะทำการเทสเสียงไมค์แล้วเริ่มพูดเปิด “ฮัลโหล ๆ สวัสดีครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทั้งหลาย ผมมีชื่อว่า อเล็กซ์ เป็นประธานนักเรียนที่จะเข้ามาช่วยประสานงานให้พวกรุ่นพี่มอหกและน้องมอหนึ่งร่วมใจทำงานกันเป็นหนึ่งเดียวนะครับ อย่างที่ทุกคนรู้กันดีโรงเรียน………” ครั้งอเล็กซ์เริ่มอธิบายเกี่ยวกับงานส่งจบ นักเรียนบางส่วนล้วนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง อีเลนซึ่งยืนต่อแถวอยู่ห้อง F รู้สึกลำบากใจกับสายตาของเฮนรี่ ซึ่งมองมาจากแถวข้างหน้าตน “ไง ไม่เจอกันนานเลยนะครับ เคียร์น”

    Last Updated : 2024-12-07
  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 20 เนื้อเรื่องไม่คงเดิม

    “จะ จ๊างงงง!! เอาป้ายมาสิเชส” โจลี่สั่งให้เพื่อนซี้แน่นปึกยืนหันหลังพร้อมยกป้ายกระดาษหนาเท่าฟิวเจอร์บอร์ดขึ้นสูงเหนือหัว “ดูและฟังให้ดีนะคะน้อง ๆ นิทานที่พวกเราห้อง F ได้ก็คืออออ คือออออ” เด็กสาวลากเสียงยาวให้น้องมอหนึ่งทั้งหลายรู้สึกลุ้นระทึกกันอย่างสนุกสนาน น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้น “นิทานที่พวกเราได้คือ….. สโนว์ ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดค่ะ!! รีบตบมือกันเร็วเข้า!!” สิ้นสุดเสียงโจลี่ เชสทำการกลับป้ายเฉลยชื่อ ทีมซัพพอร์ตมอหกห้อง F ต่างช่วยกันส่งเสียงร้องเชียร์อย่างไม่มีใครยอมใคร บรรยากาศของรุ่นพี่ห้อง F ทำให้เหล่ารุ่นน้องที่น

    Last Updated : 2024-12-09

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 20 เนื้อเรื่องไม่คงเดิม

    “จะ จ๊างงงง!! เอาป้ายมาสิเชส” โจลี่สั่งให้เพื่อนซี้แน่นปึกยืนหันหลังพร้อมยกป้ายกระดาษหนาเท่าฟิวเจอร์บอร์ดขึ้นสูงเหนือหัว “ดูและฟังให้ดีนะคะน้อง ๆ นิทานที่พวกเราห้อง F ได้ก็คืออออ คือออออ” เด็กสาวลากเสียงยาวให้น้องมอหนึ่งทั้งหลายรู้สึกลุ้นระทึกกันอย่างสนุกสนาน น้ำเสียงร่าเริงดังขึ้น “นิทานที่พวกเราได้คือ….. สโนว์ ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดค่ะ!! รีบตบมือกันเร็วเข้า!!” สิ้นสุดเสียงโจลี่ เชสทำการกลับป้ายเฉลยชื่อ ทีมซัพพอร์ตมอหกห้อง F ต่างช่วยกันส่งเสียงร้องเชียร์อย่างไม่มีใครยอมใคร บรรยากาศของรุ่นพี่ห้อง F ทำให้เหล่ารุ่นน้องที่น

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 19 บทละครจากนิทาน

    เมื่อทำการจับฉลากเป็นคู่ในกล่องสุ่มเรียบร้อยแล้ว ครูอันให้นักเรียนที่อาสาตัวช่วยละครจบของรุ่นพี่เข้าไปรวมตัวกันที่หอประชุม แถวในหอประชุมจะถูกแบ่งแยกไปตามห้องที่แต่ละคู่จับสุ่มได้ โดยมีตัวแทนของพวกรุ่นพี่ห้อง S-F ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเว้นระยะห่างหนึ่งช่วงแขน ให้พวกน้อง ๆ ที่จับฉลากได้ห้องไหนเข้ามายืนต่อแถวตอนห้องนั้น ใช้เวลาไม่นานนักเรียนอาสาของทุกห้องก็เดินเข้ามาเรียงแถวในหอประชุมกันจนครบ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยประธานนักเรียนชั้นมอห้าเดินขึ้นไปบนเวทียืนตรงแท่นโพเดียมก่อนจะทำการเทสเสียงไมค์แล้วเริ่มพูดเปิด “ฮัลโหล ๆ สวัสดีครับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ทั้งหลาย ผมมีชื่อว่า อเล็กซ์ เป็นประธานนักเรียนที่จะเข้ามาช่วยประสานงานให้พวกรุ่นพี่มอหกและน้องมอหนึ่งร่วมใจทำงานกันเป็นหนึ่งเดียวนะครับ อย่างที่ทุกคนรู้กันดีโรงเรียน………” ครั้งอเล็กซ์เริ่มอธิบายเกี่ยวกับงานส่งจบ นักเรียนบางส่วนล้วนฟังบ้างไม่ฟังบ้าง อีเลนซึ่งยืนต่อแถวอยู่ห้อง F รู้สึกลำบากใจกับสายตาของเฮนรี่ ซึ่งมองมาจากแถวข้างหน้าตน “ไง ไม่เจอกันนานเลยนะครับ เคียร์น”

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 18 ละครจบของโรงเรียน

    “ไปไหนมา เย็นปานนี้ทำไมไม่รีบกลับบ้าน!!” ผู้เป็นพ่อยืนเท้าเอวใบหน้าเคร่งขรึมน้ำเสียงจริงจังเปี่ยมอำนาจ เอ่ยถามลูกชายของตนที่นาน ๆ ทีจะเจอครั้งหนึ่ง พ่อของอีเลนเป็นทนายความชื่อดังวัน ๆ มีแต่งานสารพัดปัญหาเข้ามารุมล้อมไม่หยุด ทั้งต้องออกไปทำเรื่องว่าการให้พรรคการเมืองชื่อดัง ทั้งต้องขึ้นศาลให้ครอบครัวมหาเศรษฐี วันหนึ่งแทบไม่ได้หยุดพักอยู่บ้านดี ๆ เลยสักหน “พ่อกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” เด็กชายเอ่ยถามคนได้ชื่อว่าเป็นพ่อตนตอนนี้ เขารู้สึกเกร็งนิดหน่อยเพราะไม่คุ้นเคยกับคนตรงหน้ามาก่อน แถมอีกฝ่ายยังมีท่าทางน่ากลัวทำให้รู้สึกชวนคุยด้วยลำบาก เขาเผลอบีบมือที่กุมเคียร์นไว้แน่นอย

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 17 จงเป็นคนแปลกที่เก่งกาจ

    “เข้ามาสิ ฉันให้ขยะที่ยังไม่ถูกรีไซเคิลอย่างพวกนายเปิดก่อนเลย” เด็กแว่นพูดกวนโมโห ท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้ชายหน้าโหดฉุนจัดหอบหายใจกระฟัดกระเฟียด โกรธจนหน้าแดงกำหมัดแน่น “เอาเลยลูกพี่ มันท้าทายอำนาจลูกพี่ครับ” “อัดไอ้เด็กไม่เจียมกะลาหัวมันเลยครับลูกพี่!!” “เป็นแค่ไอ้จ้อยอย่าปากดีนักนะไอ้ลูกหมานี่ เดี๋ยวโดนลูกพี่กูอัดยับอย่ากลับบ้านไปร้องไห้ฟ้องแม่นะมึง” เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มไปทั่ว เชาว์ยืนถือแว่นตาเพิร์ซ มองสถานการณ์ตอนนี้ด้วยสีหน้าซีดเผือด ใจเต้นระทึกไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ระแวงว่าเด็กตี๋ของตนจะถูกซ้อมยับ&n

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   (ตอนพิเศษ) พี่ชายที่แสนดี

    คำเตือน เนื้อเรื่องตอนนี้เป็นเพียงส่วนเสริมอดีตของเพิร์ซ ให้รู้ที่มาที่ไปของตัวละครเท่านั้น มีฉากล่วงละเมิดทางเพศ พรากผู้เยาว์ ความรุงแรง ดราม่า ใครรับไม่ได้โปรดข้ามไปอ่านตอนต่อไป เด็กน้อยวัยใสอายุเพียงหกขวบ เขาถูกเลี้ยงมาด้วยความรักความอบอุ่นจากครอบครัว ถูกประคบประหงมดั่งไข่ในหิน ชีวิตของเด็กชายไม่เคยขาดอะไรเลย ได้ทานอาหารที่ชอบทุกมื้อ มีพ่อแม่ที่รักมากสุดหัวใจและมีพี่ชายแสนดียืนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างดูแลแทบตลอดเวลา ด้วยความขาวตี๋ตัวเล็ก ผมสีดำขลับเรียบตรง ดวงตากลมวาวสดใส แก้มขาวอมชมพูป่องนิด ๆ ทำให้เจ้าตัวดูน่ารักน่าชังรวมกับนิสัยเป็นมิตรของเพิร์ซวัยเด็กแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็มักจะมีคนคอยเอ็นดูอยู่เสมอ “เพิร์ซ วันนี้ตอนเย็นอยากแวะที่ไหนไหมครับ” พี่ชายอายุวัยเพียงสิบห้าปีฉีกยิ้มหวาน เดินถือรองเท้านักเรียนสีดำเตรียมใส่ออกไปข้างนอกอยู่หน้าประตูบ้าน ผู้เป็นน้องชายสะพายกระเป๋ารูปกันดั้มสีน้ำเงินซึ่งพี่ชายเป็นคนเลือกให้วิ่งตามหลังมา เด็กชายอมยิ้มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ครับ! ผมอยากไปเล่นที่สนามกับเพื่อ

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 16 ยืนอยู่เฉย ๆ ปัญหาก็เข้ามา

    นักเรียนห้อง S ของโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัด ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้อยู่ห้องนี้ล้วนไม่ใช่เด็กธรรมดา บางคนสอบเข้ามาได้ด้วยคะแนนสูงสุดเกือบเต็มร้อยนับว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ บางคนพ่อแม่มีอำนาจทางการเมือง ใช้เงินยัดใต้โต๊ะหวังให้ลูกหลานมีภาพลักษณ์เด็กเก่งเรียนดีมีหน้าตาทางสังคม เด็กนักเรียนส่วนใหญ่เกินครึ่งในห้อง S จึงล้วนเป็นเด็กที่สอบเข้ามาได้ด้วยเงิน มีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่สอบเข้ามาได้ด้วยความสามารถของตัวเองจริง ๆ เด็กจิ้มลิ้มเขามีชื่อว่า เฮนรี่ เป็นเน็ตไอดอลชื่อดังที่กำลังได้รับความนิยมจากบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวด้วยหน้าตาสุดน่ารักน่าชัง ภาพลักษณ์ดูเป็นเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์อ่อนต่อโลก ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมหลงใหลไปกับความน่ารักไร้เดียงสา

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 15 เปิดฉากการเรียนวันแรก

    เริ่มวันใหม่กับการเป็นเด็กมัธยมต้นครั้งแรกเมื่อผ่านพ้นการเรียนปรับพื้นฐานมาเป็นเวลากว่าสองอาทิตย์ อีเลนคิดว่ามันก็ไม่ได้แย่มากที่มีเชาว์กับเพิร์ซเพิ่มเข้ามาในชีวิตประจำวัน แม้มันจะน่าปวดหัวมากแต่ก็สนุกดี ยิ่งได้เห็นสีหน้าซีดเซียวของครูอันผู้รับชะตากรรมแบบเดียวกับเขาแล้วทำให้มีแรงฮึดสู้ไปเรียนมากยิ่งขึ้น ด้วยความคิดว่าอย่างน้อยตนก็ไม่ได้โดนอยู่คนเดียว ยังมีครูอันเป็นเพื่อน!! “คิดอะไรอยู่” ดวงตาสีแซฟไฟร์ถามขณะจูงมือกับเพื่อนตัวน้อยเดินทางไปยังโรงเรียน คนโดนกุมมือมองปลายนิ้วที่ผสานกันพลางคิดว่าขึ้นมัธยมต้นแล้วยังต้องมาเดินจับมือกันเหมือนเมื่อก่อนอีกเหรอ ตอนเจอกันแรก ๆ เขายังไม่อะไรมากกับการสกินชิพของอีกฝ่ายเพราะยังไงก็ถือว่าเป็นเด็กอายุแค่สิบสองปี แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน พวกเขากำลังย่างเข้าสู่ช่วงวัยแตกเนื้อหนุ่ม การกระทำเช่นเดินจับมือถือแขนควรเว้นระยะห่างไว้บ้าง เมื่ออีเลนพยายามจะดึงมือหนีเคียร์นกลับยิ่งจับแน่นขึ้น “เคียร์น ฉันว่าเราควรเว้นระยะห่างกันไว้บ้างนะ” อีเลนพูดเตือน เขา

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 14 เรื่องน่าปวดหัว

    หลังการสอบเข้าโรงเรียนชื่อดังประจำจังหวัดเสร็จ ต้องรอการประกาศคะแนนประมาณสองอาทิตย์ ไม่นานผลสอบได้ถูกจัดตั้งขึ้นบนบอร์ดกลางโดมของโรงเรียนชื่อดัง รายชื่อนักเรียนตั้งแต่ลำดับแรกจนถึงลำดับสุดท้ายถูกจัดเรียงตามคะแนนสอบจากมากไปน้อย “เคียร์น มีรายชื่อนายไหม” อีเลนถามขณะยืนมองตัวเลขอันน่าภาคภูมิใจสมกับความพยายามของตนเอง “อืม มีแน่นอนอยู่แล้ว” คนถามหันหน้ามองเด็กมั่นหน้าอย่างหมั่นไส้ ‘เก่งแล้วยังอวดอีกเจ้าเด็กนี่!’ เจ้าของดวงตาสีแซฟไฟร์ลอบยิ้มในแววตา รู้ว่าเพื่อนตัวน้อยกำลังคิดถึงอะไรอยู่ นึกเอ็นดูกับท่าทางของคนตรงหน้าก่อนน้ำเสียงทรงเสน่ห์จะเอ่ยขึ้น “ดูเหมือนเราจะได้อยู่ห้องเดียวกันนะ” เด็กตาน้ำเงินมองไปยังผลคะแนนสอบในแถว A ทางโรงเรียนจะจัดรายชื่อคะแนนของเด็กที่ได้ใกล้เคียงกันไล่ไปแต่ละแถวตามตัวอักษร แถว S คือเด็กอัจฉริยะที่ทำคะแนนรวมได้เกือบเต็มร้อยของคะแนนเต็ม แถว A ไล่ตั้งแต่คะแนนแปดสิบสองจนถึงเจ็ดสิบคะแนน และแถว B ไล่ตั้งแต่คะแนนเจ็ดสิบถึงหกสิบสองคะแนนลดหล

  • เกิดใหม่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของตัวร้าย(คลั่งรัก)   บทที่ 13 สองหนุ่มผู้คลั่งไคล้

    สถานที่สอบของอีเลนอยู่ห้องท้ายสุดของทางเดิน ซึ่งเขาต้องลอบผ่านกลุ่มนักเรียนซึ่งยืนรุมล้อมบุคคลทั้งสองโดยไม่ให้เชาว์สังเกตเห็น ‘เฮ้ออ อยากจะบ้าตาย เราไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้เนี่ยถึงเจอแต่เรื่องแบบนี้!!’ เจ้าตัวบ่นกับตัวเองในใจ คนที่เขาไม่อยากเจอมากที่สุดคือเชาว์ แต่ยังโลกยังเหวี่ยงให้ได้พบกันอีกจนได้ เด็กชายคิดว่าเจอกันครั้งนั้นแค่ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเจ้าตัวจะมาสอบที่โรงเรียนเดียวกันอีก “นั่นแหละเอาเลย สายตาของนายมันกำลังทิ่มแทงความบริสุทธิ์ของผม ทำให้ผมดูน่าสมเพชมากกว่านี้อีกสิ อ๊า!” ขนาดอีเลนได้ยินยังรู้สึกรับไม่ได้กับคำพูดของเด็กหน้าสวย แล้วคนที่โดนพูดใส่ล่ะจะรู้สึกยังไง คิดได้ดังนั้นจึงลอบแอบมองสีหน้าของคนที่ยืนอยู่กลางวงสนทนา “คนอย่างนายมันน่าสะอิดสะเอียน” เด็กแว่นพูดพร้อมทำสายตาว่างเปล่า เบ้ปากรับไม่ได้ขั้นสุดกับการกระทำของคนตรงหน้า ก่อนจะพยายามเดินหนีไปเข้าห้องสอบ เมื่อเชาว์เห็นดังนั้นจึงรีบยื่นมือเข้าไปจับแขนเสื้ออีกฝ่ายรั้งเอาไว้ เด็กชายกุหลาบพยายามระงับลม

DMCA.com Protection Status