Share

เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด
เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด
Author: เสี่ยวชิงเทียน

ความตาย

last update Last Updated: 2024-12-08 12:41:07

บทนำ

ความตาย

“เกือบสามสิบชั่วโมงแล้วที่ฉันถ่างตาอยู่ที่นี่ เหนื่อยชะมัด อยากตายจริง ๆ” หญิงสาวสวมเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดพูดขึ้น ใบหน้าแสดงความเหน็ดเหนื่อยจากการโหมงานหนัก อยู่ในแผนกฉุกเฉินแห่งนี้มาเกือบสามสิบชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพักเลย คงเพราะเมื่อวานเป็นวันสิ้นปีคนใช้รถใช้ถนนมากเกิดอุบัติเหตุใหญ่ แผนกฉุกเฉินแห่งนี้เลยเต็มไปด้วยเสียงร้องโอดโอย

“เธอไปพักเถอะหมอจินมาแล้วนั่นไง” พยาบาลสาวบอกเพื่อนสนิทที่หน้าตาอิดโรย ใต้ตาดำคล้ำ พร้อมพยักเพยิดไปทางคุณหมอหนุ่มที่เพิ่งเข้าเมาปลี่ยนเวร คราวนี้เธอจะได้พักสักที

“งั้นฉันไปล่ะไว้เจอกัน ลาก่อนนะคะหมอจิน” เธอโบกมือให้ทั้งสองคนแล้วรีบวิ่งออกไป เธอต้องการพักผ่อน เปลือกตาในตอนนี้ต่อให้เอารถเครนมาดึงไว้มันก็ยังจะปิดอยู่ดีเชื่อหรือเปล่า

หญิงสาววิ่งไปที่ห้องพัก ล้างหน้าล้างมือ ถอดเสื้อกาวน์กระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เธอต้องการปิดสวิตซ์ตัวเองสุด ๆ

พอขึ้นเตียงได้เปลือกตาที่หนักอึ้งก็ค่อย ๆ ปิดลง ลมหายใจก็เริ่มสม่ำเสมอ จากสม่ำเสมอเป็นเบาลง เบาลง จนในที่สุดอัตราการเต้นของหัวใจก็ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป...

“เมื่อยชะมัด นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้วเนี่ย ทำไมนาฬิกาไม่ปลุกเลย” คนบนเตียงพูดทั้งที่ยังหลับตาอยู่ มือก็ควานหาบางอย่างบนเตียง หาอยู่นานไม่เจอเลยผงกหัวขึ้นมาเปิดเปลือกตา พยายามหรี่ตามอง แต่ในห้องแสงจ้าเกินไป เธอจำได้ว่าปิดไฟไปหมดแล้วทำไมถึงยังสว่างได้ขนาดนี้

ภาพแรกหลังสายตาปรับโฟกัสได้ตรงหน้าคือผ้าแพรสีเขียวมันวาว ‘บ้าน่า ผ้าปูเตียงในห้องมันสีฟ้าไม่ใช่หรือไง หรือเธอตาบอดสีไปแล้ว’ หญิงสาวรีบถลึงตัวลุกจากเตียงด้วยความตกใจทันที เมื่อเห็นว่านี่ไม่ใช่ห้องพักแพทย์ในโรงพยาบาลแต่เป็นห้องนอนแบบโบราณห้องหนึ่ง

“บ้าไปแล้ว ฉันบ้าไปแล้ว ฝันหรือเปล่า” ฝ่ามือเรียวยกขึ้นมาหยิกแก้ม ก่อนจะพูดกับตัวเองเสียงดัง จนมีคนเปิดประตูห้องเข้ามา ผู้หญิงที่เข้ามาสวมชุดฮั่นฝูแบบโบราณสีชมพูดซีด คิดว่าคงเก่าพอสมควร ผมถูกเกล้าขึ้นไปจนหมด แต่นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจสักหน่อย อีกอย่างเธอไม่ได้ฝันไปภาพตรงหน้าเป็นความจริงทั้งหมด ตลกไปหน่อยมั้งก่อนหน้านี้เธอยังหลับอยู่ในห้องพักอยู่เลย

“คุณหนูท่านฟื้นแล้ว” พอเห็นหน้าเธอผู้หญิงคนนั้นก็ตะโกนเสียงดัง จากนั้นวิ่งออกไปอีกครั้งไม่รู้ว่าไปไหน แต่ท่าทางเหมือนจะไปตามใครสักคน

“อะไรเนี่ย ฉันย่อยไม่ทันแล้วนะ” เธอพึมพำก่อนจะลุกขึ้นหย่อนเท้าเหยียบไปบนพื้นห้องเย็น ๆ มองไปรอบห้องมองจนเสร็จแล้วก้มมองตัวเอง อยู่ในชุดสีขาวบางเล็กน้อยดูเหมือนชุดนอน ผมยาวถึงเอว ถ้าจำไม่ผิดผมเธอแค่ประบ่าเองเพราะไม่อยากต้องสระผม เป่าผมนาน นี่มันแปลกเกินไปแล้ว

“คงไม่ใช่ว่าฉันทะลุมิติ ข้ามเวลาอะไรพวกนั้นหรอกนะ แต่ฉันยังไม่ตายสักหน่อยหรือตายแล้ว เห้ย! นี่มันบ้าเกินไปแล้ว” เธอเดินดูรอบห้องไม่นานก็มีเสียงเหมือนคนกลุ่มใหญ่เดินมาทางนี้ กลุ่มใหญ่จริง ๆ มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย ถึงจะไม่เคยรู้จักคนพวกนี้แต่พอเห็นหน้าความทรงจำมากมายก็หลั่งไหลมาจากไหนไม่รู้

“อ้ายฉิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ผู้ชายแก่ที่สุดพูดขึ้น ในความทรงจำของเธอคน ๆ นี้คือพ่อ แต่พ่อของใครล่ะไม่ใช่ของเธอสักหน่อย

“ท่านพ่อถามเหตุใดเจ้าจึงไม่ตอบ” คนพูด ๆ อย่างหงุดหงิด เธอสวมชุดสีแดงคล้ายชุดแต่งงาน สายตาที่มองมาก็ไม่เป็นมิตร พอจะเดาได้ว่าเธอไม่ชอบเจ้าของร่าง ๆ นี้

“ก็ดี”

“อย่างไรคือก็ดี”

“ก็ดี ก็คือก็ดี ยังมีความหมายอื่นอีกหรือไง” เธอตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ มีสิทธิ์อะไรมาไม่พอใจ เธอยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย

“ท่านพี่ นางฟื้นก็ดีแล้ว รีบแต่งตัวให้นางเสีย”

“เสี่ยวหรง แต่งตัวให้นายเจ้าเสีย”

“อ้ายเหม่ยไปเปลี่ยนอาภรณ์เถอะ นางฟื้นแล้วเจ้าไม่ต้องแต่งแล้ว” ผู้หญิงแก่คนนั้นพูดจบทุกคนก็พากันอพยพออกไปจากห้อง เหลือสาวใช้เสี่ยวหรงเพียงคนเดียว เพื่อให้ช่วยเธอแต่งตัว เธอไม่คิดขัดขืนเพราะยังไม่รู้สถานการณ์นี้แน่ชัด เลยได้แต่ตามน้ำไปก่อน เกิดคิดว่าเธอเป็นปิศาจหรือผีจับเธอถ่วงน้ำขึ้นมา ซวยตายชัก

ตอนกำลังใช้ความคิดอยู่ภาพความทรงจำของเจ้าของร่างก็แวบเข้ามาในหัวเธอทันที เธอต้องเข้าพิธีแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้งเดียว หนำซ้ำความทรงจำของเธอยังบอกว่าผู้ชายคนนั้นตาบอด

เธอไม่ได้รังเกียจที่เขาตาบอดแต่รังเกียจครอบครัวของเจ้าของร่างมากกว่า เพียงเพราะไม่อยากให้ลูกสาวแต่งกับคนตาบอดถึงมาบังคับให้อ้ายฉิงคนนี้แต่งแทน และที่เธอนอนอยู่บนเตียงแบบนี้เพราะถูกพี่สาวคนนั้นทำร้ายจนถึงแก่ความตาย

อาจเป็นเพราะเธอฟื้นขึ้นมาในร่างผู้หญิงคนนี้พอดี อ้ายฉิงคนนี้เลยดูเหมือนยังมีชีวิตทั้งที่เธอตายไปแล้ว

“คุณหนูแต่งตัวกันเถิดนะเจ้าคะ”

“อืม ช่วยที” เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธงานแต่งงานครั้งนี้เพราะที่อ้ายฉิงคนเก่ารับปาก ก็เพื่อให้แม่แท้ ๆ ของเธอได้รับการรักษาจากหมอที่ดีที่สุด เธอทำลายความหวังเดียวของเจ้าของร่างไม่ได้

หากว่าผู้หญิงคนนั้นตายไปแล้วเธอจะใช้ชีวิตแทนอ้ายฉิงให้ดีที่สุด ไปอยู่ที่ไหนก็คงดีกว่านรกแห่งนี้ทั้งนั้น นี่เป็นจิตสำนึกสุดท้ายของอ้ายฉิงที่เธอรับรู้ได้

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ความทรงจำ

    1ความทรงจำระหว่างที่กำลังแต่งตัวในชุดเจ้าสาวแบบโบราณอยู่ หญิงสาวก็คิดถึงเรื่องในความทรงจำก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน“แม่เล็กท่านพักผ่อนให้ดี อ้ายฉิงต้มยาไว้ให้แล้วอีกเดี่ยวเสี่ยวหรงจะนำยากับโจ๊กมาให้ท่าน อ้ายฉิงต้องออกไปหาสมุนไพรก่อน” ร่างบอบบางอ่อนแอมองบุตรสาวด้วยความรัก เมื่อได้ยินเสียงหวานบอกกับนางเบา ๆ แม่เล็กของนางป่วยเรื้อรังมาเกือบแปดปีแล้ว เดิมทีมารดาของนางเป็นหมอสมุนไพรนางเรียนรู้วิชาสมุนไพรจากมารดาแต่เด็กเมื่อแม่เล็กล้มป่วยนางก็หาเก็บสมุนไพรมาขายเพื่อหาเงินรักษา เพราะฉีฮูหยินเกลียดแม่เล็กของนาง เบี้ยแต่ละเดือนก็แทบไม่พอใช้ หากนางไม่หาสมุนไพรเกรงว่าต้องขอทานกันกินแล้ว“แม่ขอโทษที่ทำให้เจ้าลำบากเช่นนี้”“หาใช่ความผิดท่านแม่ไม่ ท่านแม่ไม่ต้องห่วงลูกจะรักษาท่านให้หายให้ได้ นั่นไงเสี่ยวหรงมาแล้ว ลูกจะรีบกลับมาท่านแม่อย่าได้กังวล” นางรีบแอบออกนอกจวนตั้งแต่เช้าเพื่อไม่ให้ถูกพี่สาวร่วมบิดาจับได้ หากโดนจับได้ก่อนนางจะถูกลงโทษหลังจวนมีช่องทางลับเล็ก ๆ อยู่ หากเป็นบุรุษเกรงว่าคงรอดเข้าออกไม่ได้ ดีที่นางตัวเล็กจึงรอดเข้าออกได้ง่าย นางมักไปเก็บสมุนไพรที่ตีนเข้าด้านหลังบ้านเรือนนอกเขตตลาด

    Last Updated : 2024-12-08
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   คืนสมรส

    2คืนสมรสพิธีสมรสมิได้ใหญ่โตเลยทั้งที่เป็นพิธีสมรสของอ๋อง ยามนี้อ๋องอันมองไม่เห็นคงไม่อยากพบผู้ใดพิธีต่าง ๆ จึงถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงการกราบไหว้ฟ้าดิน หลังกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จนางก็ถูกพาเข้าห้องหอ“ท่านจะนอนเลยหรือเปล่า” เมื่อเข้าหอนางก็เปิดผ้าคลุมหน้าออกโดยไม่ต้องรอให้สามีเปิดให้ สุรามงคลก็มิได้ร่วมดื่มด้วยกัน หญิงสาวเดินไปหาสวามีที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง ในเมื่อเขาไม่เห็นนางจึงจำต้องเป็นผู้คอยดูแลปรนนิบัติถึงอย่างไรก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้ว“เจ้าไม่ต้องปรนนิบัติข้า อยากทำสิ่งใดก็ทำเถิดอย่างไรก็มิได้เต็มใจแต่ง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาเองก็ไม่ได้เต็มใจแต่งแต่เพราะเป็นโองการของบิดาไหนเลยจะปฏิเสธได้ ด้วยกลัวว่าเขาจะมีอำนาจมากขึ้นจึงได้ประทานสมรสให้กับบุตรสาวคนโตของหัวหน้าหอดูดาว ที่ไม่มีอำนาจแต่ถือว่ามีหน้ามีตาอยู่บ้างนางเองก็คงไม่เต็มใจ จะมีสตรีใดเล่าจะเต็มใจแต่งกับบุรุษพิการเช่นเขา“ไม่เต็มใจแต่งคือเรื่องจริง แต่ไหว้ฟ้าดินก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน เป็นสามีภรรยากันแล้วจะหมางเมินไม่สนใจกันได้อย่างไร” เสียงคุ้นหูดังอยู่ไม่ไกล เขาพยายามใช้ความคิดอยู่นาน

    Last Updated : 2024-12-08
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   พระชายาท่านอ๋อง

    3พระชายาท่านอ๋อง“จะตื่นเช้าขนาดนี้เพื่อ” ร่างเล็กขยับไปมาหลังรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแม้แต่ฟ้ายังไม่สว่าง ไม่รู้เพราะความเคยชินหรือไม่นางจึงรีบตื่นขึ้นมาเช่นนี้ สามีนางยังไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ ดวงตาคู่โตไล่มองใบหน้าผู้เป็นสามีที่นอนนิ่งอยู่ กระทั่งถึงดวงตาสองข้างนางจึงเอื้อมมือไปกดจุดชีพจรของเขา อาศัยช่วงเขายังไม่ตื่นตรวจดูว่ามีอาการเป็นอย่างไรแม้นางจะมีความรู้ด้านการแพทย์ แต่การแพทย์นั้นล้วนเป็นการแพทย์ที่ใช้ที่นี่ได้ยากยิ่ง จำต้องอาศัยความรู้จากความทรงจำของร่างนี้ โชคดีนางเป็นคนฉลาดขบคิดไม่นานก็เข้าใจจนแจ่มแจ้ง“ไม่ได้บอดถาวร แปลว่ายังมีโอกาสหาย ไม่ต้องห่วงในฐานะที่ฉันเป็นหมอ จะรักษาคุณให้หายเอง” มิใช่ว่าเขาไม่ได้ยินที่นางพูด เพียงแต่ไม่อยากแสดงตัวว่าตื่นแล้ว และยังอยากรู้ว่านางจะทำสิ่งใดต่อไปท่อนแขนแข็งแรงถูกจับไว้ที่เดิม ก่อนที่ผู้จับจะลุกขึ้นไปสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ในเมื่อตื่นแล้วก็คงหลับไม่ลงอีกนางจึงคิดว่าหาสิ่งใดทำคงดีกว่า“ถวายบังคมพระชายา” ชายหนุ่มที่ยืนเฝ้ายามอยู่หน้าห้องหอทักขึ้น เมื่อเห็นนายหญิงของจวนเดินออกมาจากห้องตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เขาเป็นทหารคนสนิทของอ๋องอันที่ร่วมสู้รบด้

    Last Updated : 2024-12-08
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   พระองค์ก็ไม่ต่างจากสตรีตั้งครรภ์

    4พระองค์ก็ไม่ต่างจากสตรีตั้งครรภ์โจ๊กผักของนางเสร็จพร้อมพระอาทิตย์ยามเช้าขึ้นพอดี เสี่ยวหรงเดินตามมาจนถึงห้องเครื่องหลังไปที่ห้องนอน แต่ทหารของท่านอ๋องบอกว่าพระชายาออกมาจากห้องนอนนานแล้ว จึงเดินมาตามเผื่อผู้เป็นนายจะมีสิ่งใดให้รับใช้“พระชายา มาทำสิ่งใดในนี้หรือเพคะ อยากกินสิ่งใดเหตุใด้ไม่ใช้บ่าวทำ”“ข้ามาเตรียมอาหารเช้าให้ท่านอ๋อง”“เหตุใดต้องทำเองเล่าเพคะ ที่จวนอ๋องก็มีพ่อครัว” สาวน้อยตรงหน้าถามเรื่อยเปื่อยด้วยความสงสัย จวนอ๋องก็ใช่ว่าจะขาดบ่าวไพร่เหตุใดพระชายาเช่นนางต้องลงมือทำเอง จริงอยู่ที่เพียงเท่านี้ไม่ได้ลำบากเท่าไรแต่ยามนี้นายของนางมิใช่คุณหนูรองตระกูลฉีอีกแล้ว แต่เป็นถึงพระชายาอ๋องอันที่มีชื่อเสียง“พ่อครัวก็รู้เพียงว่าทำอย่างไรให้อาหารรสดี แต่ไม่รู้ว่าทำอย่างไรอาหารจึงช่วยรักษาโรคได้” พระชายาฉีกล่าวกับสาวใช้ด้วยใบหน้าอ่อนโยน ไม่ได้นึกหงุดหงิดที่ถูกถามจี้ไปมาเช่นนี้“พระชายารู้หรือเพคะ”“รู้สิ หากไม่รู้ข้าจะมาทำสิ่งใดในนี้ ไปเถอะยกอาหารตามข้ามา” สั่งเสร็จก็ปัดมือสองสามทีแล้วเดินออกไปจากห้องเครื่อง โดยมีเสี่ยวหรงยกถาดไม้ที่มีชามโจ๊กผักวางอยู่“ถวายบังคมท่านอ๋อง”“ไม่ต้องมาก

    Last Updated : 2024-12-08

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   พระองค์ก็ไม่ต่างจากสตรีตั้งครรภ์

    4พระองค์ก็ไม่ต่างจากสตรีตั้งครรภ์โจ๊กผักของนางเสร็จพร้อมพระอาทิตย์ยามเช้าขึ้นพอดี เสี่ยวหรงเดินตามมาจนถึงห้องเครื่องหลังไปที่ห้องนอน แต่ทหารของท่านอ๋องบอกว่าพระชายาออกมาจากห้องนอนนานแล้ว จึงเดินมาตามเผื่อผู้เป็นนายจะมีสิ่งใดให้รับใช้“พระชายา มาทำสิ่งใดในนี้หรือเพคะ อยากกินสิ่งใดเหตุใด้ไม่ใช้บ่าวทำ”“ข้ามาเตรียมอาหารเช้าให้ท่านอ๋อง”“เหตุใดต้องทำเองเล่าเพคะ ที่จวนอ๋องก็มีพ่อครัว” สาวน้อยตรงหน้าถามเรื่อยเปื่อยด้วยความสงสัย จวนอ๋องก็ใช่ว่าจะขาดบ่าวไพร่เหตุใดพระชายาเช่นนางต้องลงมือทำเอง จริงอยู่ที่เพียงเท่านี้ไม่ได้ลำบากเท่าไรแต่ยามนี้นายของนางมิใช่คุณหนูรองตระกูลฉีอีกแล้ว แต่เป็นถึงพระชายาอ๋องอันที่มีชื่อเสียง“พ่อครัวก็รู้เพียงว่าทำอย่างไรให้อาหารรสดี แต่ไม่รู้ว่าทำอย่างไรอาหารจึงช่วยรักษาโรคได้” พระชายาฉีกล่าวกับสาวใช้ด้วยใบหน้าอ่อนโยน ไม่ได้นึกหงุดหงิดที่ถูกถามจี้ไปมาเช่นนี้“พระชายารู้หรือเพคะ”“รู้สิ หากไม่รู้ข้าจะมาทำสิ่งใดในนี้ ไปเถอะยกอาหารตามข้ามา” สั่งเสร็จก็ปัดมือสองสามทีแล้วเดินออกไปจากห้องเครื่อง โดยมีเสี่ยวหรงยกถาดไม้ที่มีชามโจ๊กผักวางอยู่“ถวายบังคมท่านอ๋อง”“ไม่ต้องมาก

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   พระชายาท่านอ๋อง

    3พระชายาท่านอ๋อง“จะตื่นเช้าขนาดนี้เพื่อ” ร่างเล็กขยับไปมาหลังรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแม้แต่ฟ้ายังไม่สว่าง ไม่รู้เพราะความเคยชินหรือไม่นางจึงรีบตื่นขึ้นมาเช่นนี้ สามีนางยังไม่ขยับเลยด้วยซ้ำ ดวงตาคู่โตไล่มองใบหน้าผู้เป็นสามีที่นอนนิ่งอยู่ กระทั่งถึงดวงตาสองข้างนางจึงเอื้อมมือไปกดจุดชีพจรของเขา อาศัยช่วงเขายังไม่ตื่นตรวจดูว่ามีอาการเป็นอย่างไรแม้นางจะมีความรู้ด้านการแพทย์ แต่การแพทย์นั้นล้วนเป็นการแพทย์ที่ใช้ที่นี่ได้ยากยิ่ง จำต้องอาศัยความรู้จากความทรงจำของร่างนี้ โชคดีนางเป็นคนฉลาดขบคิดไม่นานก็เข้าใจจนแจ่มแจ้ง“ไม่ได้บอดถาวร แปลว่ายังมีโอกาสหาย ไม่ต้องห่วงในฐานะที่ฉันเป็นหมอ จะรักษาคุณให้หายเอง” มิใช่ว่าเขาไม่ได้ยินที่นางพูด เพียงแต่ไม่อยากแสดงตัวว่าตื่นแล้ว และยังอยากรู้ว่านางจะทำสิ่งใดต่อไปท่อนแขนแข็งแรงถูกจับไว้ที่เดิม ก่อนที่ผู้จับจะลุกขึ้นไปสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ในเมื่อตื่นแล้วก็คงหลับไม่ลงอีกนางจึงคิดว่าหาสิ่งใดทำคงดีกว่า“ถวายบังคมพระชายา” ชายหนุ่มที่ยืนเฝ้ายามอยู่หน้าห้องหอทักขึ้น เมื่อเห็นนายหญิงของจวนเดินออกมาจากห้องตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เขาเป็นทหารคนสนิทของอ๋องอันที่ร่วมสู้รบด้

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   คืนสมรส

    2คืนสมรสพิธีสมรสมิได้ใหญ่โตเลยทั้งที่เป็นพิธีสมรสของอ๋อง ยามนี้อ๋องอันมองไม่เห็นคงไม่อยากพบผู้ใดพิธีต่าง ๆ จึงถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงการกราบไหว้ฟ้าดิน หลังกราบไหว้ฟ้าดินเสร็จนางก็ถูกพาเข้าห้องหอ“ท่านจะนอนเลยหรือเปล่า” เมื่อเข้าหอนางก็เปิดผ้าคลุมหน้าออกโดยไม่ต้องรอให้สามีเปิดให้ สุรามงคลก็มิได้ร่วมดื่มด้วยกัน หญิงสาวเดินไปหาสวามีที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะกลางห้อง ในเมื่อเขาไม่เห็นนางจึงจำต้องเป็นผู้คอยดูแลปรนนิบัติถึงอย่างไรก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้ว“เจ้าไม่ต้องปรนนิบัติข้า อยากทำสิ่งใดก็ทำเถิดอย่างไรก็มิได้เต็มใจแต่ง” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาเองก็ไม่ได้เต็มใจแต่งแต่เพราะเป็นโองการของบิดาไหนเลยจะปฏิเสธได้ ด้วยกลัวว่าเขาจะมีอำนาจมากขึ้นจึงได้ประทานสมรสให้กับบุตรสาวคนโตของหัวหน้าหอดูดาว ที่ไม่มีอำนาจแต่ถือว่ามีหน้ามีตาอยู่บ้างนางเองก็คงไม่เต็มใจ จะมีสตรีใดเล่าจะเต็มใจแต่งกับบุรุษพิการเช่นเขา“ไม่เต็มใจแต่งคือเรื่องจริง แต่ไหว้ฟ้าดินก็เป็นเรื่องจริงเหมือนกัน เป็นสามีภรรยากันแล้วจะหมางเมินไม่สนใจกันได้อย่างไร” เสียงคุ้นหูดังอยู่ไม่ไกล เขาพยายามใช้ความคิดอยู่นาน

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ความทรงจำ

    1ความทรงจำระหว่างที่กำลังแต่งตัวในชุดเจ้าสาวแบบโบราณอยู่ หญิงสาวก็คิดถึงเรื่องในความทรงจำก่อนหน้านี้หนึ่งเดือน“แม่เล็กท่านพักผ่อนให้ดี อ้ายฉิงต้มยาไว้ให้แล้วอีกเดี่ยวเสี่ยวหรงจะนำยากับโจ๊กมาให้ท่าน อ้ายฉิงต้องออกไปหาสมุนไพรก่อน” ร่างบอบบางอ่อนแอมองบุตรสาวด้วยความรัก เมื่อได้ยินเสียงหวานบอกกับนางเบา ๆ แม่เล็กของนางป่วยเรื้อรังมาเกือบแปดปีแล้ว เดิมทีมารดาของนางเป็นหมอสมุนไพรนางเรียนรู้วิชาสมุนไพรจากมารดาแต่เด็กเมื่อแม่เล็กล้มป่วยนางก็หาเก็บสมุนไพรมาขายเพื่อหาเงินรักษา เพราะฉีฮูหยินเกลียดแม่เล็กของนาง เบี้ยแต่ละเดือนก็แทบไม่พอใช้ หากนางไม่หาสมุนไพรเกรงว่าต้องขอทานกันกินแล้ว“แม่ขอโทษที่ทำให้เจ้าลำบากเช่นนี้”“หาใช่ความผิดท่านแม่ไม่ ท่านแม่ไม่ต้องห่วงลูกจะรักษาท่านให้หายให้ได้ นั่นไงเสี่ยวหรงมาแล้ว ลูกจะรีบกลับมาท่านแม่อย่าได้กังวล” นางรีบแอบออกนอกจวนตั้งแต่เช้าเพื่อไม่ให้ถูกพี่สาวร่วมบิดาจับได้ หากโดนจับได้ก่อนนางจะถูกลงโทษหลังจวนมีช่องทางลับเล็ก ๆ อยู่ หากเป็นบุรุษเกรงว่าคงรอดเข้าออกไม่ได้ ดีที่นางตัวเล็กจึงรอดเข้าออกได้ง่าย นางมักไปเก็บสมุนไพรที่ตีนเข้าด้านหลังบ้านเรือนนอกเขตตลาด

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ความตาย

    บทนำความตาย“เกือบสามสิบชั่วโมงแล้วที่ฉันถ่างตาอยู่ที่นี่ เหนื่อยชะมัด อยากตายจริง ๆ” หญิงสาวสวมเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดพูดขึ้น ใบหน้าแสดงความเหน็ดเหนื่อยจากการโหมงานหนัก อยู่ในแผนกฉุกเฉินแห่งนี้มาเกือบสามสิบชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพักเลย คงเพราะเมื่อวานเป็นวันสิ้นปีคนใช้รถใช้ถนนมากเกิดอุบัติเหตุใหญ่ แผนกฉุกเฉินแห่งนี้เลยเต็มไปด้วยเสียงร้องโอดโอย“เธอไปพักเถอะหมอจินมาแล้วนั่นไง” พยาบาลสาวบอกเพื่อนสนิทที่หน้าตาอิดโรย ใต้ตาดำคล้ำ พร้อมพยักเพยิดไปทางคุณหมอหนุ่มที่เพิ่งเข้าเมาปลี่ยนเวร คราวนี้เธอจะได้พักสักที“งั้นฉันไปล่ะไว้เจอกัน ลาก่อนนะคะหมอจิน” เธอโบกมือให้ทั้งสองคนแล้วรีบวิ่งออกไป เธอต้องการพักผ่อน เปลือกตาในตอนนี้ต่อให้เอารถเครนมาดึงไว้มันก็ยังจะปิดอยู่ดีเชื่อหรือเปล่าหญิงสาววิ่งไปที่ห้องพัก ล้างหน้าล้างมือ ถอดเสื้อกาวน์กระโดดขึ้นเตียงอย่างรวดเร็ว ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เธอต้องการปิดสวิตซ์ตัวเองสุด ๆพอขึ้นเตียงได้เปลือกตาที่หนักอึ้งก็ค่อย ๆ ปิดลง ลมหายใจก็เริ่มสม่ำเสมอ จากสม่ำเสมอเป็นเบาลง เบาลง จนในที่สุดอัตราการเต้นของหัวใจก็ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป...“เมื่อยชะมัด นี่ฉันหลับไปนานแค่ไหนแล้วเนี

DMCA.com Protection Status