Share

อาหารก็เป็นยาได้

last update Last Updated: 2024-12-14 11:10:45

5

อาหารก็เป็นยาได้

“เสี่ยวหรงยกอาหารมาที” หลังพาอ๋องอันไปนั่งได้นางก็ขยับไปนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ เรียกชามโจ๊กจากสาวใช้ พอเปิดฝาชามโจ๊กออกกลิ่นโจ๊กที่มีสมุนไพรก็ลอยขึ้นมา กลิ่นหอมนี้ชวนให้อยากอาหารยิ่งนัก หลังถูกพิษอ๋องอันไม่เคยเสวยอาหารเกินห้าคำเลย ทั้งที่เมื่อก่อนโปรดปรานเนื้อสัตว์มาก

“นี่คือสิ่งใด”

“โจ๊กผักเพคะ”

“พระชายาทดสอบพิษก่อนดีหรือไม่” จื่ออี้เอ่ยถามขณะเห็นนางกำลังเป่าไอร้อนจากโจ๊กบนช้อนอยู่ คิดว่านางคงจะป้อนอ๋องอันเองเป็นแน่ ถึงนางจะเป็นพระชายาแต่อย่างไรเขาในฐานะองครักษ์สิ่งใดควรระวังก็ยังต้องทำอยู่

แม้จะทำให้นางโกรธก็จำต้องยอมถูกลงโทษ แต่สิ่งที่นางบอกทำเขางุนงงไม่น้อยเลย

“อ๋อ ได้สิ เช่นนั้นเจ้าลองตรวจดู” นางว่าจบก็วางช้อนใส่ชามไว้ แล้วยื่นให้องครักษ์หนุ่มน้อยผู้นั้นได้ตรวจสอบพิษตามใจอยาก จื่ออี้ค้อมตัวลงต่ำคล้ายกับกำลังขอประทานอภัยจากพระชายา นางมิได้คิดมากที่ถูกระแวงอย่างไรก็เพิ่งแต่งงาน เขาไม่ไว้ใจก็ไม่ผิดอันใดนางเข้าใจดี

“แต่จื่ออี้เจ้ารู้หรือไม่ว่าไม่ใช่พิษทุกชนิดจะตรวจได้ด้วยเข็มเงิน ข้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น หากไม่เชื่อแล้วส่งชามมาให้ข้าสิ” ในห้องบรรทมไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาอีกหลังฉีอ้ายฉิงว่าจบ จื่ออี้ชั่งใจสักครู่ไม่รู้ว่าตนเองควรทำอย่างไรจะดื้อดึงไม่ฟังนาง นางก็ถือเป็นพระชายาอยู่ดี

“ให้พระชายาเถอะจื่ออี้” อ๋องอันคงรู้ว่าองครักษ์ตนเองคิดอย่างไร จึงรับสั่งให้เขามอบชามนั่นให้นาง หากผู้เป็นนายทำเช่นนี้หมายความว่าทรงเชื่อพระทัยพระชายาอยู่มาก จื่ออี้ยื่นโจ๊กคืนให้นางค้อมตัวแล้วขยับไปยืนข้าง ๆ เสี่ยวหรง รอดูว่าสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้จะทำสิ่งใดต่อ

“เช่นนี้ก็ไม่ต้องทดสอบพิษแล้ว” นางหยิบช้อนอีกคันมาตักโจ๊กใส่ปากตนเองแล้วหันไปพูดกับจื่ออี้ สิ่งที่นางทำทำผู้คนพูดไม่ออกจริง ๆ ไม่มีผู้ใดเอ่ยสิ่งใดออกมาภายในห้องบรรทมที่เงียบอยู่แล้วจึงเงียบมากขึ้นไปอีก

“มีสิ่งใดกันหรือ” ชายหนุ่มที่มองไม่เห็นรู้สึกว่าบรรยากาศรอบข้างแปลกไป เขาเอ่ยถามทหารคนสนิท ฉีอ้ายฉิงยิ้มรับแล้วมองหน้าจื่ออี้อย่างอารมณ์ดี

“พระชายาทรงกินโจ๊กทดสอบพิษด้วยองค์เองพ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

“เห็นหรือไม่ข้าไม่ตายแปลว่าโจ๊กนี้ไม่มีพิษ ข้าไม่มีเหตุผลให้วางยาพิษท่านอ๋องของเจ้าไม่ต้องห่วง”

“ปล่อยให้นางทำเถอะ นางอยากทำสิ่งใดก็ทำ พวกเจ้าไม่ต้องขัดนาง”

“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”

“เช่นนั้นข้ากินได้หรือยัง” อาหารก็ถูกทดสอบพิษแล้วอ๋องอันจึงทรงตรัสถามหาอาหารของตน แม้จะไม่หิวแต่ถึงอย่างไรนางก็ตั้งใจทำมาให้

“ได้เพคะ หม่อมฉันได้ยินจากสาวใช้ว่าพระองค์ไม่ทรงโปรดผักทุกชนิดเลย อ้าปากเพคะ” นางพูดขณะตักโจ๊กขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากของพระสวามี อ๋องอันยกมือขึ้นมาแตะข้อมือนางเบา ๆ ราวกับกำลังห้ามปราม

“ข้าตาบอดแต่ไม่ได้พิการ กินเองได้”

“พระองค์ไม่ได้ตาบอดเพคะ พระองค์แค่เพียงมองไม่เห็นชั่วคราวเท่านั้น หากทรงยิ่งพูดเช่นนั้น พระองค์ก็ทรงท้อแท้พระทัย ไม่มีจิตใจอยากหาย ยิ่งพระองค์หดหู่พระองค์ก็จะยิ่งมีโอกาสหายน้อยลงนะเพคะ หม่อมฉันรู้ว่าพระองค์ไม่อยากให้ผู้ใดคิดว่าทรงเป็นภาระ แต่พระองค์หาใช่ภาระ ทรงเป็นพระสวามี สิ่งนี้คือหน้าที่ของหม่อมฉันเพคะ” ในใจรู้สึกดีไม่น้อยเมื่อนางเริ่มพูดตั้งแต้ต้นประโยค แต่อยู่ ๆ รอยยิ้มนี้ก็หายไปหลังได้ยินคำว่าหน้าที่ แต่เพราะเหตุใดเขาต้องไม่พอใจทั้งที่จริงนี่ก็คือหน้าของภรรยาจริง ๆ เขาไม่ควรลืมว่านางเองก็ถูกบังคับให้แต่งกับคนมองไม่เห็นเช่นเขา

“ข้ารู้แล้ว แต่อย่างไรก็ควรเรียนรู้จะทำเองมิใช่หรือ หากเจ้าไม่อยู่ผู้ใดจะทำให้ข้า”

“หม่อมฉันจะไปไหนละเพคะ เอาล่ะไม่ต้องพูดแล้ว อ้าปากเถอะเพคะ โจ๊กเย็นมากจะคาว อาหารพวกนี้หม่อมฉันทำเองทั้งหมด แม้จะช่วยได้ไม่มากแต่อาหารพวกนี้ถือว่าเป็นยา” ไม่ว่านางพูดสิ่งใดก็ล้วนแล้วแต่มีเหตุผล มีเหตุผลจนเขาไม่รู้ว่าจะโต้เถียงสิ่งใดกับนางได้อีก จึงยินยอมนั่งนิ่ง ๆ ให้นางป้อนโจ๊กต่อไป

นางเอกก็นั่งป้อนเขา ชวนเขาพูดคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยราวกับภายในห้องมีเพียงทั้งสองคน แต่ภาพตรงหน้าล้วนแต่ทำให้บ่าวคนสนิททั้งสองดีใจไม่น้อย หลังคุณหนูของนางถูกสองแม่ลูกนั่นลงโทษจนหัวฟาดหมดสติ เมื่อตื่นมาคุณหนูก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยดูไม่ใช่ผู้ที่จะคอยยอมให้ผู้ใดรังแกอีก สำหรับนางเรื่องนี้นั้นดีมากจริง ๆ

ส่วนจื่ออี้ดีใจที่อย่างน้อยพระชายาก็ทำให้อ๋องอันยอมพูดคุยด้วย ยิ้ม หัวเราะได้ เมื่อทรงรู้ว่าตนเองจะมองไม่เห็นอีกจากเดิมที่เคยเงียบขรึม กลับยิ่งเงียบขรึมยิ่งขึ้น ไม่นึกเลยว่าเพียงคืนเดียวพระชายาก็ทำให้ท่านอ๋องของเขาเปลี่ยนไป

แม้เขาจะไม่เชื่อว่านางจะช่วยให้อ๋องอันกลับมามองเห็นได้ แต่เพียงมีนางอยู่ข้าง ๆ ไปเช่นนี้ ท่านอ๋องก็คงมีความสุขมากแล้ว อีกทั้งพระชายายังทำให้ท่านอ๋องของเขากินโจ๊กนั่นจนหมดชามได้

“เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าอ๋องอันจะกลับมามองเห็นอีกไม่ได้” ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ที่ยืนหันหลังให้ถามเขาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ภายในห้องบรรทมขององค์ชายนี้ไม่มีผู้อื่นอยู่อีกนอกจากเขาและหมอหลวงผู้นั้น ผู้ที่ได้ให้การรักษแก่อ๋องอันตั้งแต่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน

“กระหม่อมมั่นใจพ่ะย่ะค่ะ หลังจากตรวจละเอียดแล้วพบว่าพิษนี้คือสิ้นทิวา ผู้ที่โดนไม่มีทางกลับมามองเห็นได้อีกเป็นแน่” หมอหลวงกราบทูลเสร็จก็เงยหน้ามองบุรุษตรงหน้า

“ดี เช่นนั้นไปเถอะ”

“พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย” หมอหลวงกราบทูลเพราะคิดว่าเป็นพี่น้องกันย่อมต้องห่วงกันเป็นธรรมดา เลยมิได้คิดว่าผู้ที่อยู่เบื้องหน้านี้คือผู้ที่เป็นคนใช้พิษนี้มาทำลายพี่น้องด้วยกันเอง เพียงแต่เขาไม่ต้องการให้อีกฝ่ายตายจึงเลือกใช้สิ้นทิวาที่มีฤทธิ์ต่อดวงตาเท่านั้น

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ผู้มาเยี่ยมเยียน

    6ผู้มาเยี่ยมเยียน“น่าจะเส้นประสาทอักเสบ” หญิงสาวบ่นพึมพำหลังจากขีดเขียนสิ่งต่าง ๆ ลงบนแผ่นกระดาษ นางพยายามเขียนวิธีรักษา บรรเทาอาการมองไม่เห็นของอ๋องอันมาตลอด กิจวัตรของนางมิได้มีสิ่งใดมากนัก เช้า กลางวัน เย็น นางจะเป็นผู้เตรียมอาหาร หากเขาเบื่อก็พาไปเดินเล่น ให้เขาได้พักเยอะหน่อยร่างกายจะได้ฟื้นตัวได้ดียิ่งขึ้น“พระชายามีผู้มาพบท่านอ๋อง ตอนนี้รออยู่ที่โถงจื่อเวยเพคะ”“ข้ารู้แล้วไปเถอะ” อ้ายฉิงพยักหน้ารับวางพู่กันในมือลง เดินตามสาวใช้ออกไปจากห้องบรรทม ตอนนี้อ๋องอันกำลังพักผ่อนอยู่นางจึงเป็นผู้ดูแลทุกอย่างในจวนอาคารไม้เพดานสูง ภายในมองเห็นโครงสร้างไม้ทุกแผ่น แต่กลับสบายตาเพื่อไม่ให้อากาศภายในร้อนจนกินไป ฉีฉ้ายฉิงเดินเข้าไปด้วยท่าทางมั่นคง ความยาวของการก้าวเท้าก็สม่ำเสมอ ใบหน้าประดับรอยยิ้มงดงาม แม้จะตัวเล็กแต่ก็ไม่อาจทำให้ผู้อื่นมองผ่านไปได้เลย“สาวใช้บอกว่าท่านมาขอพบอ๋องอัน ไม่ทรา

    Last Updated : 2024-12-15
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   นางเป็นบุตรอนุ

    7นางเป็นบุตรอนุในโถงเงียบสงัดราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ในนั้น กระทั่ง...“โถ เสด็จพี่ข้าก็แค่เพียงเป็นห่วงท่านเท่านั้น หลังได้รับจดหมายจากท่านข้าก็กังวลนัก นึกว่านางถูกส่งมาลอบวางยาท่าน ข้าย่อมต้องไม่ไว้ใจนาง แต่ข้าไม่เข้าใจเหตุใดเมื่อรู้ว่านางเป็นบุตรของอนุ ท่านจึงไม่แจ้งเสด็จพ่อ ทั้งยังยอมให้นางอยู่ข้างกายเช่นนี้ ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ” ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปราวกับคนละคน ยามพูดคุยกับฉีอ้ายฉิงยังมีท่าทีจริงจังพอได้อยู่กันตามลำพังกับพี่ชาย ก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นเด็กน้อย อ๋องอันได้ฟังน้ำเสียงขุ่น ๆ ของน้องชายก็ยกยิ้มอ๋องอันกับองค์ชายหนิงเหอเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาจึงสนิทกันมากกว่าผู้อื่น หลังคืนเข้าหอเขาสั่งให้หงอี้นำจดหมายไปส่งให้น้องชาย แต่กำชับองค์ชายไว้ว่าไม่ให้บอกผู้อื่น เขารู้ว่าที่น้องชายมาวันนี้ก็คงมาเพื่อทดสอบนาง อย่างที่พูดออกไปเมื่อครู่ก็คงมิได้ตั้งใจหยาบคายต่อนาง“หนิงเหอ เจ้าจำได้หรือไม่ว่าตอนข้าถูกพิษ หมอหล

    Last Updated : 2024-12-16
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   เรื่องนี้ดียิ่งนัก

    8เรื่องนี้ดียิ่งนักเกือบหนึ่งเดือนแล้วที่นางทั้งทำอาหาร เตรียมยา จัดยา ฝังเข็ม ประคบดวงตา บัดนี้นางเป็นใหญ่ที่สุดในจวน และบางทีก็อาจจะใหญ่กว่าอ๋องอันเสียอีก ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดเขาก็ไม่ขัด ยอมตามใจนางไปเสียทุกสิ่งเช้าวันนี้แดดจ้ายิ่งนักหลังนางเตรียมอาหารเสร็จก็กลับมาเปิดหน้าต่างห้องเพื่อรับลม ระบายความอับชื้นภายในห้อง สามีของนางคงติดเป็นนิสัยไปเสียแล้วจึงได้ตื่นสายเช่นนี้ทุกวันหากเป็นเมื่อก่อนเขาต้องเตรียมตัวแต่เช้าเพื่อเข้าท้องพระโรง“อ้ายฉิง ปิดหน้าต่างได้หรือไม่ข้าแสบตานัก”“สายเพียงนี้ยังไม่หิวหรือเพคะ” นางตอบรับทันที เตรียมจะเดินไปปิดหน้าต่างห้องบรรทมแต่ฉุกคิดขึ้นมาได้ เหตุใดเขาจึงแสบตาทั้งที่มองไม่เห็น นางหันเท้ากลับมาอีกทางพุ่งไปนั่งข้างเตียง เลิกผ้าห่มของสวามีออกรวดเร็วอย่างลืมตัว“ข้ายังไม่หิว เจ้าทำสิ่งใด ข้าขอนอนอีกหน่อย” ผู้พูดยังไม่ฉุกคิด ดึงผ้าห่มกลับไปหมายจะนอน

    Last Updated : 2024-12-17
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   หายโกรธข้าแล้วหรือ

    9หายโกรธข้าแล้วหรือ“ท่านอ๋องทรงไม่รู้จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ” แม้แต่เขายังรู้ว่าเหตุใดพระชายาจึงโมโหออกมาเช่นนี้ ชายหนุ่มมองหน้าองครักษ์แต่ก็นึกไม่ออกว่าตนเองจะพูดสิ่งใด คล้ายองครักษ์จะรู้ว่าเหตุใดอ๋องอันคิดอย่างไรจึงแก้ไขความกระจ่างนั้นให้แก่ผู้เป็นนาย“พระชายาทรงเป็นห่วงท่านอ๋องจึงโกรธที่พระองค์ใช้ตนเองเป็นเหยื่อล่อ ยามนี้พระองค์ทรงมองเห็นได้ไม่ชัดเจนหากมีภัยจะทรงดูแลตนเองได้อย่างไร เช่นนี้พระชายาจึงคิดเคืองท่านอ๋อง”“เหตุใดเจ้าจึงเข้าใจสตรีมากเพียงนี้ มีคนรักแล้วหรือ”“กระหม่อมไม่เคยมีคนรักพ่ะย่ะค่ะ เพียงแค่ชอบสังเกตุสีหน้าและอารมณ์ของสตรีเท่านั้น” หงอี้ตอบด้วยใบหน้าใสซื่อ ไม่คิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องแปลกประหลาดอย่างไร แต่หากบุรุษอื่นได้ฟังคงนึกขบขันเรื่องราวที่ได้ฟังไม่น้อย คิดเรื่องที่หงอี้พูดอยู่สักครู่จึงลุกขึ้นหมายจะตามนางออกไป แต่ลืมไปว่าตนเองยังเห็นไม่ชัดนัก“หงอี้ พา

    Last Updated : 2024-12-18
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   บังอาจนัก

    10บังอาจนักรถม้าคันใหญ่แล่นไปบนถนนเส้นหลักของเมืองหลวง อ๋องอันให้คนเตรียมรถม้าและข้าวของตั้งแต่วันก่อน พระชายาก็เตรียมยาสมุนไพรหลายอย่างเพื่อนำกลับไปให้มารดาในจวนฉี อีกทั้งอ๋องอันยังส่งคนไปแจ้งในจวนฉีเอาไว้ก่อนเมื่อมาถึงหน้าจวนคนในจวนก็พากันออกมารับเสด็จท่านอ๋องถึงหน้าจวน รถม้าหยุดลงฉีอ้ายฉิงเปิดม่านพร้อมกับประคองอ๋องอันออกมา โดยมีจื่ออี้คอยช่วยเหลือ ยามนี้อ๋องอันมิได้สวมหน้ากากเหล็กปิดบังใบหน้าดังเช่นแต่ก่อน ผู้คนจึงได้เห็นใบหน้าใต้หน้ากากเหล็กเป็นครั้งแรก“ถวายบังคมท่านอ๋อง ถวายบังคมพระชายา”“คารวะท่านพ่อ แม่ใหญ่”“คารวะท่านฉี และฉีฮูหยิน” ชายหนุ่มเอ่ยทักผู้อาวุโสตรงหน้าด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามพระชายาตน สายตามองเหม่อไปด้านหน้า เปลือกตาหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ราวกับมองไม่เห็นอยู่จริง ๆ ฉีอ้ายฉิงเบือนหน้าหนีสักครู่ตอนเห็นหน้าสองแม่ลูกผู้นั้นต่อมาคิดได้ว่าควรไปเยี่ยมแม่เล็กที่เร

    Last Updated : 2024-12-19
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ประทานอภัย

    11ประทานอภัยฉีอ้ายเหม่ยรีบปล่อยมือจากแขนของน้องสาวต่างมารดา แล้วรีบไปยืนอยู่ข้างกายมารดาตนเองทันที ใบหน้างดงามที่ถูกแต่งแต้มจากเครื่องประทินผิวชั้นดีบัดนี้ซีดเผือดราวถูกผีหลอก“พวกเจ้าคิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าทำสิ่งใดกันบ้าง เห็นว่าข้าตาบอดจึงกล้าล่วงเกินพระชายาต่อหน้าข้า ไม่อยากมีชีวิตอยู่กันแล้วใช่หรือไม่” พ่อแม่ลูกทั้งสามรีบคุกเข่าโขกหัวลงกับพื้นโถงเย็น ๆ เพื่อขอพระราชทานอภัยแก่อ๋องอันที่ได้ล่วงเกินท่านอ๋องต่อหน้าเช่นนี้“ท่านอ๋องโปรดอภัย เป็นกระหม่อมที่สั่งสอนบุตรและภรรยาได้ไม่ดีจึงทำให้ท่านอ๋องทรงไม่พอพระทัยเช่นนี้”“พวกเจ้าคิดว่าข้าตาบอดจึงกล้าทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าข้า เพียงข้าไม่พูดไม่ได้แปลว่าไม่รู้ว่าพวกเจ้าส่งฉีอ้ายฉิงมาแต่งงาน แทนที่จะเป็นฉีอ้ายเหม่ยบุตรสาวคนโต” ฉีหลีหมิ่นยิ่งหน้าซีดขึ้นเมื่อรู้ว่าอ๋องอันรู้เรื่องทุกอย่างอยู่ก่อนแล้ว หากอ๋องอันกราบทูลเรื่องนี้ต่อฮ่องเต้เกรงว่าตำแหน่งหัวหน้า

    Last Updated : 2024-12-20
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ข่าวนี้เท็จจริงอย่างไร

    12ข่าวนี้เท็จจริงอย่างไรกลับถึงจวนอ๋องได้ไม่นานข่าวที่อ๋องอันเริ่มมองเห็นก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง แต่ข่าวนี้กลับไม่ได้มีเพียงแต่อ๋องอันมองเห็นยังมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ผู้คนพากันร่ำลือว่า ท่านอ๋องดีขึ้นเพราะพระชายาเป็นผู้รักษาใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนก็ดีขึ้นราวกับเทพรักษาเมื่ออ๋องอันทราบข่าวนี้ก็กังวลไม่น้อย เหตุนี้เองนางจึงยอมให้เขาแพร่ข่าวลือเพราะยามนี้ผู้ที่เป็นเหยื่อคือนางมิใช่เขาแล้ว หากกำจัดนางเสียดวงตาเขาก็ไม่มีทางหายสนิท สตรีผู้นี้นอกจากเฉลียวฉลาดยังเจ้าเล่ห์นัก แสร้งยอมอ่อนข้อให้สุดท้ายปล่อยข่าวลือนี้ซ้ำทั้งยังไปไวกว่าคนของเขาเสียอีก“ฉีอ้ายฉิง”“เหตุใดเรียกข้าเต็มชื่อ ท่านอ๋องรู้ข่าวลือแล้วหรือ”“เหตุใดข่าวจึงออกมาเช่นนี้” ในเรือนสมุนไพรที่เงียบสงบ เขามานั่งเฝ้านางต้มสมุนไพรแต่หลังจากที่จื่ออี้มาแจ้งข่าวลือภายนอก ชายหนุ่มก็นั่งเงียบทันที เมื่อองครักษ์ตนเองออกไปจึงอยากสอบถามนาง

    Last Updated : 2024-12-21
  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   สตรีที่เพรียบพร้อม

    13สตรีที่เพรียบพร้อมหลังข่าวนี้ลือไปทั่วเมืองในวังก็มีการเคลื่อนไหวมากมาย ไม่เว้นแม้แต่องค์จักรพรรดิเองก็ตาม อำนาจต่าง ๆ ล้วนสั่นคลอนอีกครั้ง“พี่สะใภ้” องค์ชายสี่หนิงเหอเองหลังรู้ข่าวก็อยากรีบมาแต่ถูกฮ่องเต้ส่งไปเชื่อมสัมพันธ์กับคณะทูตต่างแคว้นถึงหนึ่งเดือน พอกลับจากต่างเมืองก็รีบมาที่นี่โดยทันที“ถวายบังคมองค์ชายสี่” หญิงสาวประสานมือย่อตัวทำความเคารพหลังอีกฝ่ายเอ่ยทักตนเองก่อน นางไม่เห็นหน้าเขานานนัก ได้ยินจากอ๋องอันว่าถูกส่งไปเจรจาด้านการทูตไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นางยิ้มให้แล้วผายมือเชิญชายหนุ่มตรงหน้าไปนั่งรอที่โถงใหญ่ อีกครู่หนึ่งเจ้าของจวนจึงจะมายามนี้อ๋องอันคงประคบร้อนดวงตาเสร็จแล้ว ทุกวันเวลานี้นางจะช่วยประคบอุ่นให้เขา เกือบสองเดือนจนเขาดีขึ้นมากนางก็ยังทำเช่นเดิม ข่าวที่ถูกปล่อยออกไปยังไม่มีความคเลื่อนไหวใดจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังเลย“พี่สะใภ้ เสด็จพี่เป็นอย่างไรบ้าง ข้าได้ข่าวว่าดี

    Last Updated : 2024-12-22

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   สตรีใดที่ท่านหลงรัก [จบ]

    28สตรีใดที่ท่านหลงรัก“เห็นอยู่กับตาว่าเจ้าคือฉีอ้ายฉิง เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย ไม่รู้เหตุใดชายาตนเองจึงพูดจาแบบนี้ ถามผู้ที่เคยพบล้วนต้องบอกว่านางคือฉีอ้ายฉิงบุตรตระกูลฉีเป็นแน่“เดิมทีฉีอ้ายฉิงถูกฉีอ้ายเหม่ยบุตรสาวคนโตทำร้ายจนสิ้นใจภายในจวน และหม่อมฉันตายจากที่อื่นก็เลยเข้ามาอยู่ในร่างนางแทน เช่นนั้นข้าจึงจำไม่ได้ว่าเคยช่วยท่านเอาไว้ เพราะผู้ที่ช่วยพระองค์ไม่ใช่หม่อมฉัน แต่เป็นนาง”“...”“หม่อมฉันฟื้นขึ้นมาวันที่ต้องเข้าพิธีสมรส จนได้เจอกับพระองค์ คราแรกกังวลใจไม่น้อยที่อยู่ ๆ ต้องเข้าพิธีกับผู้ที่มีชื่อเสียงโหดร้ายเช่นท่าน แต่เมื่อแต่งแล้วจึงรู้ว่าท่านไม่ได้เป็นดั่งที่ชาวบ้านร่ำลือ”“...”“ที่หม่อมฉันช่วยพระองค์ก็เพื่อให้ตนเองได้อยู่อย่างไม่ลำบาก จนไม่นานมานี้ได้รับรู้ว่าที่พระองค์ดีกับหม่อมฉันเพราะทรงจำได้ว่าฉีอ้ายฉิงเคยช่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   เรื่องเหลือเชื่อนี้

    27เรื่องเหลือเชื่อนี้“โชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมอุปสรรคเยอะแยะเหมือนในละคร ไม่งั้นตายแน่เลย เนาะไอ้จิ๋วของแม่” หญิงสาวพึมพำกับตนเองเบาๆ ขณะนั่งหน้าคันฉ่องบานใหญ่ เรื่องนี้ยังไม่มีผู้ใดรู้นางไม่กล้าบอกเพราะกลัวว่าจะไม่มีผู้ใดเชื่อเรื่องเหลือเชื่อนี้เสียงเรียกแผ่วเบาหน้าประตูทำให้นางลุกไปดู หยินซูหยางหรือมารดาแท้ ๆ ของฉีอ้ายฉิงคนเก่า นางมาอยู่ที่จวนอ๋องได้เกือบหนึ่งเดือนแล้วเพราะตระกูลฉีถูกเนรเทศจากเมืองหลวงหลังถูกโบย“ท่านแม่มีอันใดหรือเจ้าคะ”“แม่ไม่ได้พูดคุยกับเจ้ามานานจึงอยากมาพูดคุยด้วยสักหน่อย เป็นอย่างไรบ้าง ยังอาเจียนอยู่หรือไม่”“ท่านแม่เชิญเข้ามาก่อนเถอะเจ้าค่ะ” หยินซูหยางเดินตามบุตรสาวเข้าไปนั่งเก้าอี้ในห้อง อ๋องอันยามนี้คงอยู่ในวังเพื่อวางเรื่องการป้องกันเมืองกับไท่จื่อ นางรินชาให้มารดาแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน แม้ไม่ใช่บุตรแท้ ๆ แต่อย่างไรยามนี้นางก็เป็นฉีอ้

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   โอกาสสุดท้ายของการกลับตัว

    26โอกาสสุดท้ายของการกลับตัวไท่จื่อเบิกตาโตมองผู้คนที่เดินเข้ามาภายในโถงร้านค้าเก่าแห่งนี้ ภายนอกมีคนของเขาเฝ้าอยู่ด้านนอกหลายคนรวมถึงองครักษ์ประจำตัว แต่เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้ายจึงรู้ว่าเพราะเหตุใดองค์จักรพรรดิทรงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่มีอารมณ์ใดปะปนอยู่เลย ร่างกายเย็นวูบชาไปทั่วทั้งร่างไม่นึกเลยว่าองค์จักรพรรดิจะเสด็จเองเช่นนี้ แต่เขากลับไม่รู้เลย“อ้ายฉิงเป็นอย่างไรบ้าง”“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ เพียงรู้สึกอับชื้นจึงหายใจไม่สะดวกเท่านั้น” น้ำเสียงหวานใสบอกกับผู้เป็นสามี ใบหน้ายิ้มแย้มไม่ได้โกรธเคืองหรือตื่นกลัวอันใด“ลูกถวายบังคมเสด็จพ่อ เหตุใดเสด็จพ่อจึงเสด็จมาเองเช่นนี้” องค์ไท่จื่อหันไปพูดกับฮ่องเต้ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด คงกังวลว่าจะถูกกล่าวโทษที่ทำเรื่องเช่นนี้ หรืออาจกังวลว่าฮ่องเต้ทรงรู้สิ่งใดมาบ้าง“ถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ”

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง

    25ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง“เช่นนั้นก่อนตายข้าจะสงเคราะห์ให้” เขาพูดจบก็แหวกม่านหมวกออกทั้งสองฝั่ง เผยให้เห็นใบหน้าโหดเหี้ยม นางไม่คุ้นเคยใบหน้านี้แม้แต่น้อย ไม่เคยเห็นสักครั้งเดียว“แม้จะเห็นหน้าท่านเช่นนี้ข้าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าท่านเป็นผู้ใด อยากจะพูดก็พูดเถอะ หากไม่แล้วก็เชิญทำตามใจ” สิ่งที่เอ่ยออกไปนางไม่ได้จงใจยั่วยุแต่นางคิดเช่นนั้นจริง ๆ อย่างไรนางก็เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้ไม่ได้อยากตายก็ตาม ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อฟ้าลิขิตให้ตายผู้ใดเล่าจะรอดนางพูดจบก็เงยหน้ามองเขาอีกครั้งด้วยแววตานิ่งไม่หวั่นไหว ถามว่ากลัวหรือไม่นางย่อมต้องกลัว แต่จะให้อ้อนวอนขอชีวิตก็คงไม่มีประโยชน์อันใด“ยิ่งเห็นสายตาราวกับไม่กลัวสิ่งใดของเจ้า ทำให้ข้ายิ่งนึกถึงคนผู้นั้นยิ่งนัก ข้าเคยให้โอกาสเจ้าเลือกแล้วที่จะไม่รักษาอ๋องอัน แต่เจ้าดื้อรั้นและดื้อดึง”“อย่างที่ท่านกล่าวมา ข้าทั้งดื้อรั้นและดื้อดึงต่อให้ท่านจะฆ่

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   มีเวลาให้พักมากพอ

    24มีเวลาให้พักมากพอ“ขอแสดงความยินดีกับพระชายา พระองค์ทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” นางยกมือกุมขมับตนเองทันที เป็นหมอแท้ ๆ แต่กลับไม่ทันได้คิดเรื่องนี้เลย มัวแต่ใช้เวลาดูแลผู้อื่นจนลืมสังเกตตนเอง“ขอบคุณท่านหมอ เชิญท่านหมอเถอะ ข้าขอพักเสียหน่อย”“กระหม่อมทูลลา” รายงานเสร็จหมอก็ออกไปจากรถม้าให้นางได้อยู่ตามลำพัง ไม่ได้สั่งยาหรือมอบเทียบยาใดให้เพราะเห็นว่านางอ่อนเพลียจึงปลีกตัวออกมาให้ได้พักผ่อน“ตัวจิ๋วเดียวก็สร้างเรื่องเลยนะ ถ้าอยากมาเกิดจริง ๆ อย่าให้แม่ทรมานนักสิ” นางพึมพำกับตนเองพร้อมกับลูบหน้าท้องแบนราบแผ่วเบาแล้วผล็อยหลับไป“ท่านหมอพระชายาเป็นอย่างไรบ้าง”“ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋อง พระชายาทรงตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาคมเบิกกว้างตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่น้อย ริมฝีปากยกยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ป่วยแล้วหรือไม่

    23ป่วยแล้วหรือไม่“เสด็จพี่ เช่นนั้นผู้บงการนี้”“แม้จะไม่อยากคิด แต่ข้าคิดว่าคงเป็นคนผู้เดียวกับที่เจ้าคิด บัดนี้มีหลักฐานแต่ยังขาดพยาน อาจจะไม่ใช่ก็ได้ ต้องหาคนผู้นั้นให้เจอเราจึงจะได้คำตอบ” น้ำเสียงราบเรียบ เขาให้จื่ออี้ตามหาผู้ที่จับตัวฉีอ้ายฉิงในวันนั้น แม้จะยังไม่พบแต่ไม่นานต้องพบแน่ คนผู้นั้นเองก็คงไม่อยากตาย“หากมีสิ่งใดที่ข้าพอช่วยได้”“ย่อมต้องมีเรื่องรบกวนเจ้าในภายหน้าเป็นแน่” คนเจ็บยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินผู้เป็นพี่ชายบอกว่าต้องมีโอกาสใช้งานเขาแน่นอน เพราะไม่ได้ถูกเลี้ยงดูด้วยกันองค์ชายสามจึงมีแบบอย่างเป็นองค์ชายรองมาโดยตลอด ไม่ว่าองค์ชายรองจะทำอย่างไรจะเป็นอย่างไร เขาล้วนพยายามพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อที่ในสักวันจะได้คอยช่วยพี่ชายออกรบในสนามรบได้หลังได้ยินว่าเขาจะต้องไปช่วยอ๋องอันบรรเทาทุกข์ที่เซียงโจวก็ดีใจมาก คิดตลอดคืนว่าจะพูดคุยกับพี่ชายอย่างไรดีแต่จน

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   ภัยพิบัติคลี่คลาย

    22ภัยพิบัติคลี่คลายชายหนุ่มผละออกมาด้วยใบหน้าเสียดาย ท่าทางงอแงราวลูกสุนัขถูกห้ามกินไก่ น่าขบขันไม่น้อย ยามนี้เขาไม่ใช่แม่ทัพแห่งเทียนมิ่งแล้ว“เช่นนั้นวันนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน แต่เจ้าหนีไม่พ้นตลอดไปหรอก รู้หรือไม่พระชายา” น้ำเสียงหยอกเย้าเอ่ยคาดโทษผู้เป็นภรรยา แล้วเดินออกจากห้องไปเขาต้องการจัดการเรื่องราวภัยพิบัติให้เสร็จภายในห้าวันนี้ เพราะต้องรีบกลับเมืองหลวงเพื่อหาหลักฐานของผู้อยู่เบื้องหลัง มีแต่ทำเช่นนี้เขาและนางจึงจะได้อยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องกังวลสิ่งใด“คนบ้ากล้ามาขู่กัน ชิ” เสียงพึมพำปนความขัดเขินดังออกมาจากริมฝีบาง นางรีบล้มตัวนอนลงทันที ไม่ต้องเถียงกับใครอีกแล้ว นางเหนื่อยจนตาจะปิดอยู่แล้ว แต่เหตุใดจึงเหนื่อยมากถึงเพียงนี้กันองค์ชายสามหลับไปถึงสองวันกว่าจะฟื้นตื่นขึ้นมา สถานการณ์ภัยพิบัติเริ่มคลี่คลาย ผู้ที่บาดเจ็บได้รับการรักษาอย่างดี ยาและอาหารที่ขอจากเมืองหลวงก็มาถึงแล้ว บ้านเร

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   เรื่องนี้บอกผู้อื่นไม่ได้

    21เรื่องนี้บอกผู้อื่นไม่ได้เมื่อนางพูดเขาจึงเริ่มสังเกตุว่าตอนนี้ตนเองมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน รวมถึงใบหน้างดงามอ่อนหวานของผู้เป็นภรรยาด้วย“ข้ามองเห็นได้ชัดนักอ้ายฉิง” ถึงจะเห็นว่าภายในห้องบรรทมมีสิ่งของหรูหราอยู่กี่ชิ้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มสนใจแม้แต่น้อย ที่แท้ใบหน้าของสตรีข้างกายเขากลับงดงามถึงเพียงนี้ หากเขาไม่อาจกลับมามองเห็นแล้ว นี่ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก“เช่นนี้ก็ดียิ่งเพคะ ในที่สุดพระองค์ก็ทรงมองเห็น หม่อมฉันเองก็รักษาคำมั่นสัญญาว่าจะรักษาพระองค์ได้แล้ว”“เรื่องนี้ยิ่งต้องขอบคุณเจ้าที่คอยดูแลปรนนิบัติข้าเป็นอย่างดี หากไม่ใช่เพราะเจ้าไม่รู้ว่าชีวิตนี้จะกลับมามองเห็นอีกหรือไม่” สองมือหนากุมมือนางขึ้นมาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แววตาจริงจังสดใสที่นางไม่เคยรู้สึกถึงมันมาก่อน ทำให้นางพลอยเคลิ้บเคลิ้มไปกับรอยยิ้มแสนหวานตรงหน้าเช่นกัน“พระองค์จะบอกเรื่องนี้กับผู้อื่นหรือไม่”

  • เกิดใหม่เป็นพระชายาท่านอ๋องตาบอด   พ้นข้อกล่าวหา

    20พ้นข้อกล่าวหาฉีอ้ายฉิงใช้เวลาในการรักษาองค์ชายสามอยู่เกือบหนึ่งชั่วยาม โชคดีขององค์ชายที่มีดนี้ไม่ได้ถูกอวัยวะใดจนบาดเจ็บหนัก หลังดึงมีดออกตรง ๆ เลือดก็ไม่ได้ไหลมากเกินไปจนอยู่ในอันตรายอย่างที่กังวล นางใช้เส้นผมของตนเองร้อยกับเข็มเงินในปิ่นของมารดา เย็บปากแผลที่ฉีกออกให้ติดกันแม้เท้าตนเองจะไม่สามารถใช้ได้อย่างไม่เต็มที่ แต่นางมีปณิธานแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมให้ผู้มีพระคุณต้องตายภายใต้การรักษาของตน สุดท้ายจึงอดทนกัดฟันรักษาเขาจนเสร็จได้“จื่ออี้หากองค์ชายฟื้นให้คนไปตามข้า ยามนี้อย่าให้ผู้ใดรบกวนองค์ชาย หากพระองค์ฟื้นแล้วหิวก็อย่าเพิ่งให้กินสิ่งใด ข้าขอไปพักสักหน่อย” หญิงสาวสั่งองครักษ์ของสวามีเสร็จก็หันไบอกแก่หมอท้องถิ่นผู้นั้น พูดจบก็เดินจากไปโดยมีผู้เป็นสามีคอยประคอง เขามองเห็นไม่ชัดนางเดินได้ไม่เต็มที่ ช่างเป็นภาพที่ดียิ่งนักนางเหนื่อยล้าจนลืมไปแล้วว่าตนเองมีบาดแผลที่เท้ายังไม่ทันได้รักษา ผู้เป็นสามีเองก็รู้เพียงว่านางเจ็

DMCA.com Protection Status