“นายจริงจังเหรอ?”ที่หลินโจวพูดก่อนหน้านี้ หลิวซือหมิงมักจะคิดว่าหลินโจวล้อเล่นเนื่องด้วยว่า หลินโจวนั้นเคยเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อหยุนรั่วซีทั้งโดดเรียนและทะเลาะต่อยตีเมื่อคืนตัวเขาเองยังบอกว่าจะทำให้หยุนรั่วซีประหลาดใจเป็นอย่างมากรับรองว่าต่อไปนี้เธอจะขาดเขาไปไม่ได้เลยแต่หลิวชื่อหมิงไม่คาดคิดว่าหลังจากหนึ่งวันหนึ่งคืนบวกกับการสาบานร้อยวัน คำสาบานจะกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปในทันทีนี่คือที่เรียกว่าเพลย์บอยในตำนานเหรอนี่มันชั้นเซียนแล้ว!“แน่นอน ว่าฉันจริงจัง”ขณะที่พูด หลินโจวก็มองไปที่ฝูงชนอีกครั้งพบว่าร่างของสู่เนี่ยนชูลับสายตาไปแล้ว เขาก็ถอนหายใจ“เฮ้อ เพราะนายเลยเชียว คลาดกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยไปจนได้”หลิวชื่อหมิงมองหลิวโจวอย่างตกตะลึง เขาถึงกับถอยหลังไปหนึ่งก้าว พูดอุบอิบอย่างไม่อยากเชื่อ“นาย นายอย่าแกล้งฉันให้ตกใจนะ ไม่ใช่ว่าโดนผีสิงแล้วนะ นาย…นายยังเป็นพี่โจวของฉันอยู่หรือเปล่านี่”แม้ว่าจะเป็นรักแรกพบ แต่มันก็เกินจริงไปหรือเปล่า?ทำไมเขาดูเหมือนคนโรคจิตอย่างนั้น?หลินโจวยกมือขึ้นด้วยความโกรธ ตบไหล่หลิวซือหมิง และเริ่มออกแรง"นายว่าอะไร?"หลิวซือหมิงคร่ำค
"ฉัน ทำไมฉันจะต้องรอหลินโจว"เธอเพียงแต่อยากรู้ว่าหลินโจวเป็นอะไรกันแน่ ทำไมเดิมทีดอกกุหลายที่จะให้เธอกลับกลายเป็นให้คุณครูไป แล้วยังกล่าวคำพูดพวกนั้นบนเวทีอีกเชือกผูกรองเท้าของเธอไม่ได้หลุดสักหน่อยยิ่งอยากรู้มาก หลังเสร็จพิธีกล่าวคำปฏิญาณแล้วหลินโจวแกล้งมองไม่เห็นเธอแล้วเดินหายไปเลยไม่อธิบายกับเธอสักคำใช่เธอต้องการเพียงแค่คำอธิบายเท่านั้นล่ะ!คาบเรียนนึงเข้าไปแล้ว หลิวโจวน่าจะต้องมาอธิบายให้เธอฟังสิเธอยืนอยู่ที่นี่ เพียงเพราะจะสะดวกกับเขาที่จะมาอธิบายกับเธอไม่ได้รอเขาสักหน่อยเห็นหลี่เสียวหวั่นไม่เชื่อ หยุนรั่วซีท่าทางก็ประหวั่นเล็กน้อย"ฉันแค่รู้สึกร้อน เลยมายืนรับลมตรงนี้เท่านั้นแหละ""รับลม"หลี่เสียวหวั่นมองไปยังอากาศด้านนอกเพิ่งเปิดเทอมมัธยมที่สามไปได้ไม่นาน ตอนนี้เพิ่งเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิบางทีก็ติดลบ หนาวจนทนไม่ไหว พยาการณ์อากาศยังบอกอีกว่าสองสามวันนี้หิมะจะตกมารับลมในเวลานี้เนี่ยนะ"ก็ใช่น่ะสิ ในห้องอบอ้าวจะตาย เธอไม่รู้สึกเหรอ"ห้องนึงเจ็บแปดสิบคน แน่นอนว่าอบอ้าวแต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดที่จะออกมายืนรับลมแบบนี้หลี่เสียวหวั่นพบว่า หูของหยุนรั่วซีหนา
หลังจากพูดจบ หลินโจวก็ดึงหลิวซือหมิงที่ตกตะลึงและเดินไปที่ห้องเรียนหยุนรั่วซี:? ? ?เธอตัวแข็งทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อหลินโจวพูดอะไร?ไม่ชอบอีกต่อไป?ทำไมม่ชอบแล้ว?เขาหลงรักเธอมาเกือบหกปีแล้ว!เขากำลังจะเรียนจบแล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงไม่ชอบล่ะ?ไม่!นี่ไม่ใช่ความจริง!หลินโจวจะต้องคิดแก้แค้นเธอ เพราะเธอไม่เคยยอมรับคำสารภาพรักของเขามาก่อนในกรณีนี้ ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักสองสามวัน!มาดูกันว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน!……ระหว่างทางกลับห้องเรียนหลิวชื่อหมิงก็ยกนิ้วให้อย่างเงียบ ๆ :“พี่โจว พี่สุดยอดมาก!”ในโรงเรียนมัธยมหนึ่งในเมืองเจียงไม่มีใครเคยพูดแบบนั้นหยุนรั่วซีดูสิว่าทำเธอโกรธขนาดไหน ใบหน้างเธอแดงก่ำหลินโจวแตกต่างออกไปจริงๆ“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว อย่าตะโกนเมื่อเจอหยุนรัวซีครั้งต่อไป!”สร้างแต่ปัญหาให้เขา“ครับ แต่พี่โจว สิ่งที่พี่พูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”“ประโยคไหน?”“นั่นสินะ ประโยคนั้น...”หลิวชื่อหมิงเกาหัวด้วยความลำบากใจ เมื่อเห็นว่าหลินโจวไม่ต้องการได้ยินอีกต่อไป เขาจึงก้มศีรษะลงแล้วตะโกน:"ประโยคนั้นไง "หลิวชื่อหมิงไม่ใข่คนนอก"!"หล
ภาพการถูกรังแกนับไม่ถ้วนแวบขึ้นมาในใจของ สู่เนี่ยนชู และเธอก็หลับตาอย่างประหม่า:“ฉะ ฉันไม่ดูแล้ว!”"พึบ!"หลินโจวหัวเราะเบา ๆ และยื่นท๊อฟฟี่กระต่ายขาวในมือให้เธอ:“ทิ้งท็อฟฟี่พวกนี้ให้ฉันหน่อย ถังขยะอยู่ตรงนั้น”"อา?"สู่เนี่ยนชู อุทานอย่างเหลือเชื่อเล็กน้อย:“โยน...โยนทิ้งเหรอ?“ใช่ วันนี้ฉันเอามามากเกินไปจนกินไม่หมด”สู่เนี่ยนชู เหลือบมอง หลินโจว ด้วยความประหลาดใจเมื่อตระหนักว่าเขาไม่ได้หมายถึงสิ่งอื่นใดจริงๆ เธอจึงมองลงไปที่ท็อฟฟี่อีกครั้งยังอดไม่ได้ที่จะเตือน:“ใช่ แต่ท็อฟฟี่พวกนี้มันยังดีอยู่เลย จะเป็นการสิ้นเปลืองไป...”นี่คือสิ่งที่หลินโจวกำลังรอคอยชาติที่แล้วเขาได้มอบท๊อฟฟี่นมเหล่านี้ให้กับ สู่เนี่ยนชู ในวันนี้ในเวลานั้น หยุนรั่วซีเพิกเฉยต่อเขาตลอดเช้าหลังจากที่คำสารภาพของเขาถูกปฏิเสธในพิธีสาบานตนแน่นอนว่าไม่มีใครอยากได้ท็อฟฟี่ในกระเป๋าของเขาหลินโจวอารมณ์เสียมากในตอนนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขาสัมผัสถึงท๊อฟฟี่ เขาจะนึกถึงหยุนรัวซีในตอนที่ปฏิเสธเขาเขาหยิบทอฟฟี่ออกมาและเตรียมที่จะทิ้งพวกมันไปเมื่อหลินโจวเดินไปที่ถังขยะ เขาได้ยินคำพูดแรกที่ สู่เนี่ยนชู พูดตั้
"หลินโจว ฝากซื้อข้าวให้ฉันด้วยได้ไหม"แต่ว่าวัยรุ่นตรงหน้าราวกับไม่ได้ยิน เร่งความเร่วกว่าเดิมหยุนรั่วซีที่ยกกล่องข้าวชะงักค้างอยู่ที่เดิมก่อนหน้า ไม่ต้องให้เธอเรียกหลิวโจวก็จะยืนรออยู่ที่ประตู เอาข้าวมาให้เธอวันนี้กลับกลายเป็นต่อให้เธอเรียกเขาก็ทำไม่ได้ยินหยุนรั่วซีรู้สึกจุกในอก น้ำตาเกือบจะไหลออกมาหลี่เสียวหวั่นเริ่มเป็นห่วง "รั่วซี เธอทะเลาะกับหลินโจวเหรอ"หยุนรั่วซีไม่ได้ตอบ ด้านหลังมีเสียงผู้ชายดังขึ้นมา"รั่วซี ไม่งั้นฉันช่วยเธอซื้อข้าวแล้วกัน"เป็นเพื่อนร่วมชั้นของหลินโจว ฟ่านหยุนเฮ้าคะแนนของเขาดีมาก แอบรักหยุนรั่วซีมาตลอด เพียงแต่ไม่กล้าแสดงออกเท่านั้นช่วงมัธยมห้ามมีความรัก ไม่งั้นจะถูกลงโทษอีกทั้งข้างตัวหยุนรั่วซียังมีหลินโจวแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งอีกเขาทำได้เพียงอดทนรออย่างเงียบๆวันนี้ เห็นหลินโจวไม่สนใจหยุนรั่วซี ในที่สุดเขาก็ได้โอกาสหยุนรั่วซีสีหน้าเย็นชา ดึงหลี่เสียวหวั่นได้ก็เดินออกไป"ฉันซื้อเองได้"สีหน้าฟ่านหยุนเฮ้าพลันปั้นหน้ายาก...ที่โรงอาหารเนื่องจากหลินโจวและหลิวชื่อหมิงความเร็วถือว่าใช้ได้ พวกเขาไม่นานก็ได้ข้าวตอนกำลังกินข้าวนั้น
“ใช่ บ้านของเธออยู่ในหุบเขา หรือก็คือทางทิศเหนือของตำบลบ้านสู่ พี่รู้จักไหม ที่นั่นทางขึ้นภูเขา ผมเคยไปครั้งนึงยังกลัวเลย แล้วได้ข่าวมาอีกว่าพ่อแม่ของเธอไม่อยู่แล้ว มีตากับยายสองคนเลี้ยงสองพี่น้องมา น้องชายก็กำลังเรียนอยู่”“ไม่นานมานี้ คุณตาขึ้นไปบนเขาหาสมุนไพรมาขาย สุดท้ายตกลงมา ขาขาด แหล่งรายได้เดียวของบ้านก็ขาดหายไป เธอจึงเอามาเป็นข้ออ้างในการไม่เรียน""แย่แล้ว!"จู่ๆ หลินโจวก็ลุกขึ้นและเดินออกไปหลิวซือหมิงตกใจ: "พี่โจว พี่ไปไหน?"“รอฉันตรงนี้ก่อน แล้วฉันจะกลับมา กินข้าวช้าๆ”"ครับ ครับพี่"หลังจากที่หลินโจวออกจากโรงอาหาร เขาก็มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนมันเป็นเวลากินข้าว ในห้องมีคนนั่งกินบะหมี่สำเร็จรูปอยู่ไม่กี่คน ก็ไม่มีใครแล้วหลินโจวเดินไปที่ประตูหลัง ค่อยๆ มองเข้าไปด้านในมองแว่บเดียวก็เห็นสู่เนี่ยนชูนั่งอยู่ที่นั่นไม่ขยับเธอยังคงรักษาท่าทางเดิมเหมือนกับตอนที่เธอเลิกเรียน ราวกับว่าเธอไม่เคยออกไปไหนเลยมือของเธอกำลังจัดวางบางสิ่งอย่างจริงจังหลินโจวมองอย่างระมัดระวังและพบว่าพวกมันคือลูกอมทอฟฟี่กระต่ายขาวหลายอันที่หลินโจวมอบให้เธอในตอนเช้าเธอ..ไม่ใช่ว่าจะกินเป็นอ
หลิวโจวเงยหน้าขึ้น เห็นในจานของหลิวชื่อหมิงเหลือข้าวและกับอยู่ครึ่งหนึ่งสีหน้าของเขามืดลง"ไม่เป็นอะไร แต่เราจะต้องไม่กินทิ้งกินขว้าง""อา?"หลิวซือหมิงดูสับสน เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของหลินโจว“พี่โจว คุณพูดว่าอะไรนะ?”“ฉันบอกว่า กินข้าวในกล่องข้าวของนายให้หมด กินไม่หมดห้ามลุกไปไหน!”"เอ่อ……"หลิวชื่อหมิง เรอ มองดูข้าวที่เหลือ และตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก:“พี่โจว ผมอิ่มแล้ว...”“กินอิ่มแล้วก็ต้องกินให้หมด ไม่งั้นนายจะตักเยอะขนาดนั้นทำไม”“...แต่พี่โจว วันนี้พี่ชวนผมลดน้ำหนักนะ...”“กินแล้วค่อยลด!”ดูเหมือนหลินโจวจะไม่ได้ล้อเล่น และอาจจะระเบิดได้ทุกเมื่อหลิวชื่อหมิง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งลงและยัดอาหารทั้งหมดลงในท้องของเขาเขายังสาบานว่าจะกินให้น้อยลงในอนาคตนี่ไม่ใช่การทรมานใช่ไหม?หลังจากรับประทานอาหารแล้ว หลิวชื่อหมิง รู้สึกว่าท้องของเขากำลังจะระเบิดหลิวซือหมิงรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าจานของหลินโจวสะอาดมาก“พี่โจว เกิดอะไรขึ้น?”หลินโจวเมินเขา ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่หน้าต่างอาหารหลิวชื่อหมิง มองดูเขาซื้อขาไก่ ขนมปังหนึ่งชิ
"หือ นี่ผมคิดว่าไม่พอกินไงตอนนั้น""แต่ว่านายใช้บัตรฉันซื้อ""พี่โจว ผมผิดไปแล้ว ผมคืนให้ครั้งหน้า ในเมื่อไม่มีคนกิน งั้นก็ทิ้งไปซะเลย"ทั้งสองคนพูดคุยกันจนเดินมาถึงหน้าสู่เนี่ยนชูสู่เนี่ยนชูเห็นว่าในมือหลินโจวมีน่องไก่ ขนมปังแล้วก็นมกล่องหนึ่งเธอขมวดคิ้วแน่นท้องเริ่มร้อง สู่เนี่ยนชูรีบใช้มือกดท้องไว้แน่น กลัวคนได้ยินเธอคิดว่าอดทนอีกหน่อย ถึงกลางคืนก็ไปกินอะไรได้ที่โรงอาหารแล้วแต่ด้านหน้าพลันมีน่องไก่ชิ้นใหญ่ลอยมา สู่เนี่ยนชูชะงักไปเงยหน้าขึ้น เห็นเพื่อนร่วมโต๊ะเอาของกินมาวางไว้ที่โตีะเธอ พร้อมกล่าวอย่างเนือยๆ"เฮ้ พวกนี้เธอช่วยฉันเอาไปทิ้งหน่อย""หา""จะ จะทิ้งอีกเหรอ""ใช่สิ ฉันกินไม่ลงแล้วนี่"สู่เนี่ยนชูเริ่มสงสัยเธออยากจะแนะนำให้เขาเก็บไว้กินครั้งถัดไปแต่ฐานะของเด็กคนนี้ดี จะกินของเหลือได้อย่างไรในตอนที่ไม่รู้จะทำอย่างไร เธอก็ได้ยินเพื่อนร่วมโต๊ะกล่าวว่า"ถ้าเธอคิดว่าสิ้นเปลืองล่ะก็ งั้นก็กินแทนฉันแล้วกัน ฉันกินไม่ไหวแล้ว"เขาเรอออกมาเสียงดัง แล้วยังลูบลูบท้องสู่เนี่ยนชูตกใจเงยหน้าขึ้น"ไม่ ไม่ได้""ไม่ได้ยังไง เธอช่วยฉันอีกครั้ง ถ้าเจอว่าฉันทิ้งขว้