Share

บทที่ 8

Author: จิ่นหลี่ชีชี
คะแนนของเขานี้ ไม่ได้แย่ธรรมดานะ!

ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งร้อยวัน ก็ไม่รู้ว่าจะเพิ่มขึ้นได้ไหม

ยิ่งไม่รู้ว่าสู่เนี่ยนชูระดับเป็นยังไง จะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับเธอได้ไหม

หากว่าไม่ได้ จะต้องทำยังไงถึงจะรักษาการติดต่อกับเธอได้

หลินโจวคิดไปคิดมา พลันรู้สึกได้ว่ามีสายตานึงจ้องมาทางเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

เขาหันไปก็มองเห็นสู่เนี่ยนชูรีบดึงสายตากลับไปอย่างประหม่า ก้มศีรษะลง ทำเป็นขีดขีดเขียนเขียนบนกระดาษ

ยัยคนนี้ ไม่มีกระดาษทดสอบของเมื่อวาน

ใช่สินะ

พวกเขามอหกแล้วทุกสัปดาห์จะมีทดสอบ1-2 ครั้ง

วันนี้คุณครูจะอธิบายข้อสอบอันที่ทดสอบไปเมื่อวาน

เธอเพิ่งย้ายมาวันนี้ ไม่มีข้อสอบก็ถือว่าปกติล่ะนะ

แต่เห็นเธอแบบนี้แล้วดูท่าว่าอยากจะยืมดูของเขาแต่ก็ไม่กล้า

ยัยคนนี้กลัวการเข้าสังคมจริง

หลิวโจวลอบคิดในใจ จากนั้นก็มองไปที่ข้อสอบของตัวเอง

ณ ตอนนี้เวลานี้ เขารู้สึกเสียดายเป็นอย่างมากที่ตัวเองไม่ตั้งใจสอบให้ดี

ได้ยินว่าความประทับใจแรกสำคัญมาก ถ้าหากว่าหญิงสาวคนี้ไม่ขอบเขาแล้วล่ะทำอย่างไรดี

โว้ยมันน่าหงุดหงิดเสียจริง

แต่จะหงุดหงิดอย่างไร หลินโจวก็ทนไม่ได้กับท่าทางเมียงมองกล้าๆ กลัวๆ ของเธอแบบนั้น

เขาอยากจะเรียกเธอมาดูเสียเลยด้วยซ้ำ แต่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แล้วเธอยังขี้กลัวแบบนี้ด้วย

ไม่รู้ว่าจะตกใจกลัวหรือเปล่า

หลิวโจวคิดแล้วคิดอีก ตั้งใจเลื่อนข้อสอบไปวางไว้ตรงกลางระหว่างสองคน

สู่เนี่ยนชูเหมือนค้นพบแผ่นดิใหญ่อันใหม่อย่างไรอย่างนั้น ดีใจจนยิ้มออกมา แต่ไม่นานก็หุบยิ้ม ค่อยๆ เหลือบมามองทางหลิวโจว

หลิวโจวพอใจกับสถานการณ์แบบนี้อย่างยิ่ง

แต่ว่าไม่นาน เขาก็พบว่าเพื่อนร่วมโต๊ะของเขาขมวดคิ้วน้อยๆ ราวกับไม่เข้าใจกากบาทสีแดงบนกระดาษนี้ว่ามายังไง

หลิวโจวคิดแต่ว่าอยากจะมุดหายไปเสียเดี๋ยวนั้น

จะต้องคิดหาวิธีให้เรียนได้ดีขึ้นแล้ว

ไม่อย่างนั้น เดี๋ยวหาจังหวะไปคุยกับหลิ่วชิงเยี่ยน ให้เธอและจางถลกหนังระดมอาจารย์มาช่วยเขาติวเพิ่ม

หลินโจวทางนึงคิดถึงความเป็นได้ของเรื่องนี้ อีกทางนึงก็คิดว่าทำไมคนอื่นย้อนเวลากลับมาถึงมีอภินิหารย์แต่เขากลับไม่มี

หากว่าในเวลานี้มีความสามารถเห็นแล้วจดจำได้ไม่ลืม ตัวเขาเองก็ไม่ต้องเครียดแบบนี้แล้ว

หลิวโจวยิ่งคิดยิ่งโมโห

ช่างเถอะ ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอนดีกว่า

เรียนได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น แต่ครั้งหน้าจะต้องไม่สอบได้ศูนย์อีกก็พอ

คิดดังนั้น หลิวโจวก็มองไปที่ข้อสอบของเขา

มองครั้งนี้ไม่อะไร เขาพบว่า ในข้อสอบที่หลิ่วชิงเยี่ยนอธิบายเหล่านั้นมันเข้าไปในหูของเขาอย่างชัดเจน

อีกทั้ง ยังจำได้หมดอีกด้วย

หลินโจวเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกได้ว่าหัวของเขาปลอดโปร่งขนาดนี้

นี่...

นี่คงไม่ใช่สวัสดิการหลังจากกลับมาเกิดใหม่หรอกนะ

หลิวโจวรีบมองตามข้อสอบข้ออื่นไปเรื่อยๆ พบว่าคำตอบผิดทั้งหมดแล้ว เขารีบพลิกหนังสือเรียนวรรณกรรม

สู่เนี่ยนชูเห็นดังนั้น ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

เพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่นี้กำลังหาอะไรอยู่นะ

ทำไมพลิกหน้ากระดาษมั่วซั่วแบบนั้น

"เอ่อ นาย..."

ฉันกำลังดูบทความเดิมของข้อสอบข้อนี้"

สู่เนี่ยนชูหันไปมองข้อสอบข้อนั้นที่เขาชี้ แล้วก็มองไปที่หนังสือที่ถูกเขาพลิกอย่างมั่วซั่ว ก็รู้สึกอดรนทนไม่ได้

"ข้อนี้มาจากหนังสือมอห้าเล่มสองหน้าที่ 103..."

หลินโจวรีบหยิบหนังสือมอสี่เล่มสองวรรณกรรมโยนเข้าไปในโต๊ะ หยิบของมอห้าออกมา

พลิกไปหน้า 103 แน่นอนว่าเขาก็พบบทความนั้น

หลิวโจวตกตะลึงมองไปยังสู่เนี่ยนชู

ยัยเด็กข้างโต๊ะนี่ ไม่ธรรมดานะเนี่ย

สู่เนี่ยนชูรู้ว่าถูกมองก็รีบก้มหน้างุด ไม่กล้าพูดอะไรอีกต่อไป

หลินโจวก็ไม่ได้สนใจ เจาเปิดสมุดดูบทความเดิม

หลังจากอ่านไปรอบหนึ่ง เขาก็พบว่าตัวเองสามารถจำเนื้อหาบางส่วนได้

หลินโจวรีบอาศัยจังหวะนี้อ่านรอบที่สอง

ครานี้ บทความทั้งอันก็ประทับอยู่ในหัวเขาทั้งหมด

หลิวโจวตะลึงในนาทีนั้น

นี่เป็นสวัสดิการใหญ่หลังมาเกิดใหม่

นี่มันดีจริงๆ

ถือว่าเป็นอาวุธวิเศษในการเรียนเลยทีเดียว...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 9

    หลิวชื่อหมิ่นรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับหลิวโจวไม่เพียงเพราะพิธีเชิญธงในตอนเช้าเท่านั้นเขายังส่งดอกไม้ให้อาจารย์อย่างลึกลับอีกด้วยและเนื่องจากชั้นเรียนนี้ เขาไม่เพียงแต่ยกย่องหลิ่วชิงเยี่ยนต่อหน้าทุกคนเท่านั้น แต่เขาไม่ได้พูดอะไรกับตัวเขาสักคำเลยด้วยถ้าไม่พลิกหนังสือ ก็กำลังอ่านหนังสือเรียนหลินโจวแตกต่างจากหลินโจวปกติโดยสิ้นเชิงต้องทราบก่อนว่า ก่อนหน้านี้ทุกคาบ หลินโจวเวลาส่วนใหญ่เขามักจะคุยกับเขาอยู่ที่ระเบียงทางเดิน ถ้าไม่สามารถพูดคุยได้ก็จะส่งกระดาษจดหมายเล็กๆ คุยกันแม้จะว่าจะส่งต่อกันไปมา ทั้งสองคนมักจะเป็นเพราะทะเลาะกันเรื่องใครคือพ่อใครโง่กว่ากันทำนองนี้เสียส่วนมากแต่นั่นคือหลินโจวที่เป็นปกติยิ่งไปกว่านั้น เขายังกระซิบกับเพื่อนร่วมโต๊ะคนใหม่ของเขาอีกด้วย!จะว่าไปก็ช่างเถอะ เขาดูมีความสุขมากจริงๆคนที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันแต่งตัวเชยขนาดนั้นแถมดูผอมมากยังกับถั่วงอกตามความเข้าใจของหลิวชื่อหมิงเกี่ยวกับหลิน โจว เขาน่าจะชอบคนหน้าอกใหญ่ เอวบาง และก้นงอนถึงจะถูกตัวอย่างเช่น หยุนรั่วซีด้วยหลินโจวเคยผิวปากใส่เหล่านักเรียนที่ผอมบางร่างน้อยเหล่านี้แล้วพูดกับหล

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 10

    “นายจริงจังเหรอ?”ที่หลินโจวพูดก่อนหน้านี้ หลิวซือหมิงมักจะคิดว่าหลินโจวล้อเล่นเนื่องด้วยว่า หลินโจวนั้นเคยเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อหยุนรั่วซีทั้งโดดเรียนและทะเลาะต่อยตีเมื่อคืนตัวเขาเองยังบอกว่าจะทำให้หยุนรั่วซีประหลาดใจเป็นอย่างมากรับรองว่าต่อไปนี้เธอจะขาดเขาไปไม่ได้เลยแต่หลิวชื่อหมิงไม่คาดคิดว่าหลังจากหนึ่งวันหนึ่งคืนบวกกับการสาบานร้อยวัน คำสาบานจะกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปในทันทีนี่คือที่เรียกว่าเพลย์บอยในตำนานเหรอนี่มันชั้นเซียนแล้ว!“แน่นอน ว่าฉันจริงจัง”ขณะที่พูด หลินโจวก็มองไปที่ฝูงชนอีกครั้งพบว่าร่างของสู่เนี่ยนชูลับสายตาไปแล้ว เขาก็ถอนหายใจ“เฮ้อ เพราะนายเลยเชียว คลาดกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยไปจนได้”หลิวชื่อหมิงมองหลิวโจวอย่างตกตะลึง เขาถึงกับถอยหลังไปหนึ่งก้าว พูดอุบอิบอย่างไม่อยากเชื่อ“นาย นายอย่าแกล้งฉันให้ตกใจนะ ไม่ใช่ว่าโดนผีสิงแล้วนะ นาย…นายยังเป็นพี่โจวของฉันอยู่หรือเปล่านี่”แม้ว่าจะเป็นรักแรกพบ แต่มันก็เกินจริงไปหรือเปล่า?ทำไมเขาดูเหมือนคนโรคจิตอย่างนั้น?หลินโจวยกมือขึ้นด้วยความโกรธ ตบไหล่หลิวซือหมิง และเริ่มออกแรง"นายว่าอะไร?"หลิวซือหมิงคร่ำค

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 11

    "ฉัน ทำไมฉันจะต้องรอหลินโจว"เธอเพียงแต่อยากรู้ว่าหลินโจวเป็นอะไรกันแน่ ทำไมเดิมทีดอกกุหลายที่จะให้เธอกลับกลายเป็นให้คุณครูไป แล้วยังกล่าวคำพูดพวกนั้นบนเวทีอีกเชือกผูกรองเท้าของเธอไม่ได้หลุดสักหน่อยยิ่งอยากรู้มาก หลังเสร็จพิธีกล่าวคำปฏิญาณแล้วหลินโจวแกล้งมองไม่เห็นเธอแล้วเดินหายไปเลยไม่อธิบายกับเธอสักคำใช่เธอต้องการเพียงแค่คำอธิบายเท่านั้นล่ะ!คาบเรียนนึงเข้าไปแล้ว หลิวโจวน่าจะต้องมาอธิบายให้เธอฟังสิเธอยืนอยู่ที่นี่ เพียงเพราะจะสะดวกกับเขาที่จะมาอธิบายกับเธอไม่ได้รอเขาสักหน่อยเห็นหลี่เสียวหวั่นไม่เชื่อ หยุนรั่วซีท่าทางก็ประหวั่นเล็กน้อย"ฉันแค่รู้สึกร้อน เลยมายืนรับลมตรงนี้เท่านั้นแหละ""รับลม"หลี่เสียวหวั่นมองไปยังอากาศด้านนอกเพิ่งเปิดเทอมมัธยมที่สามไปได้ไม่นาน ตอนนี้เพิ่งเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิบางทีก็ติดลบ หนาวจนทนไม่ไหว พยาการณ์อากาศยังบอกอีกว่าสองสามวันนี้หิมะจะตกมารับลมในเวลานี้เนี่ยนะ"ก็ใช่น่ะสิ ในห้องอบอ้าวจะตาย เธอไม่รู้สึกเหรอ"ห้องนึงเจ็บแปดสิบคน แน่นอนว่าอบอ้าวแต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดที่จะออกมายืนรับลมแบบนี้หลี่เสียวหวั่นพบว่า หูของหยุนรั่วซีหนา

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 12

    หลังจากพูดจบ หลินโจวก็ดึงหลิวซือหมิงที่ตกตะลึงและเดินไปที่ห้องเรียนหยุนรั่วซี:? ? ?เธอตัวแข็งทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อหลินโจวพูดอะไร?ไม่ชอบอีกต่อไป?ทำไมม่ชอบแล้ว?เขาหลงรักเธอมาเกือบหกปีแล้ว!เขากำลังจะเรียนจบแล้วทำไมจู่ๆ เขาถึงไม่ชอบล่ะ?ไม่!นี่ไม่ใช่ความจริง!หลินโจวจะต้องคิดแก้แค้นเธอ เพราะเธอไม่เคยยอมรับคำสารภาพรักของเขามาก่อนในกรณีนี้ ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักสองสามวัน!มาดูกันว่าใครจะทนไม่ได้ก่อนกัน!……ระหว่างทางกลับห้องเรียนหลิวชื่อหมิงก็ยกนิ้วให้อย่างเงียบ ๆ :“พี่โจว พี่สุดยอดมาก!”ในโรงเรียนมัธยมหนึ่งในเมืองเจียงไม่มีใครเคยพูดแบบนั้นหยุนรั่วซีดูสิว่าทำเธอโกรธขนาดไหน ใบหน้างเธอแดงก่ำหลินโจวแตกต่างออกไปจริงๆ“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว อย่าตะโกนเมื่อเจอหยุนรัวซีครั้งต่อไป!”สร้างแต่ปัญหาให้เขา“ครับ แต่พี่โจว สิ่งที่พี่พูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”“ประโยคไหน?”“นั่นสินะ ประโยคนั้น...”หลิวชื่อหมิงเกาหัวด้วยความลำบากใจ เมื่อเห็นว่าหลินโจวไม่ต้องการได้ยินอีกต่อไป เขาจึงก้มศีรษะลงแล้วตะโกน:"ประโยคนั้นไง "หลิวชื่อหมิงไม่ใข่คนนอก"!"หล

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 13

    ภาพการถูกรังแกนับไม่ถ้วนแวบขึ้นมาในใจของ สู่เนี่ยนชู และเธอก็หลับตาอย่างประหม่า:“ฉะ ฉันไม่ดูแล้ว!”"พึบ!"หลินโจวหัวเราะเบา ๆ และยื่นท๊อฟฟี่กระต่ายขาวในมือให้เธอ:“ทิ้งท็อฟฟี่พวกนี้ให้ฉันหน่อย ถังขยะอยู่ตรงนั้น”"อา?"สู่เนี่ยนชู อุทานอย่างเหลือเชื่อเล็กน้อย:“โยน...โยนทิ้งเหรอ?“ใช่ วันนี้ฉันเอามามากเกินไปจนกินไม่หมด”สู่เนี่ยนชู เหลือบมอง หลินโจว ด้วยความประหลาดใจเมื่อตระหนักว่าเขาไม่ได้หมายถึงสิ่งอื่นใดจริงๆ เธอจึงมองลงไปที่ท็อฟฟี่อีกครั้งยังอดไม่ได้ที่จะเตือน:“ใช่ แต่ท็อฟฟี่พวกนี้มันยังดีอยู่เลย จะเป็นการสิ้นเปลืองไป...”นี่คือสิ่งที่หลินโจวกำลังรอคอยชาติที่แล้วเขาได้มอบท๊อฟฟี่นมเหล่านี้ให้กับ สู่เนี่ยนชู ในวันนี้ในเวลานั้น หยุนรั่วซีเพิกเฉยต่อเขาตลอดเช้าหลังจากที่คำสารภาพของเขาถูกปฏิเสธในพิธีสาบานตนแน่นอนว่าไม่มีใครอยากได้ท็อฟฟี่ในกระเป๋าของเขาหลินโจวอารมณ์เสียมากในตอนนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขาสัมผัสถึงท๊อฟฟี่ เขาจะนึกถึงหยุนรัวซีในตอนที่ปฏิเสธเขาเขาหยิบทอฟฟี่ออกมาและเตรียมที่จะทิ้งพวกมันไปเมื่อหลินโจวเดินไปที่ถังขยะ เขาได้ยินคำพูดแรกที่ สู่เนี่ยนชู พูดตั้

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 14

    "หลินโจว ฝากซื้อข้าวให้ฉันด้วยได้ไหม"แต่ว่าวัยรุ่นตรงหน้าราวกับไม่ได้ยิน เร่งความเร่วกว่าเดิมหยุนรั่วซีที่ยกกล่องข้าวชะงักค้างอยู่ที่เดิมก่อนหน้า ไม่ต้องให้เธอเรียกหลิวโจวก็จะยืนรออยู่ที่ประตู เอาข้าวมาให้เธอวันนี้กลับกลายเป็นต่อให้เธอเรียกเขาก็ทำไม่ได้ยินหยุนรั่วซีรู้สึกจุกในอก น้ำตาเกือบจะไหลออกมาหลี่เสียวหวั่นเริ่มเป็นห่วง "รั่วซี เธอทะเลาะกับหลินโจวเหรอ"หยุนรั่วซีไม่ได้ตอบ ด้านหลังมีเสียงผู้ชายดังขึ้นมา"รั่วซี ไม่งั้นฉันช่วยเธอซื้อข้าวแล้วกัน"เป็นเพื่อนร่วมชั้นของหลินโจว ฟ่านหยุนเฮ้าคะแนนของเขาดีมาก แอบรักหยุนรั่วซีมาตลอด เพียงแต่ไม่กล้าแสดงออกเท่านั้นช่วงมัธยมห้ามมีความรัก ไม่งั้นจะถูกลงโทษอีกทั้งข้างตัวหยุนรั่วซียังมีหลินโจวแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งอีกเขาทำได้เพียงอดทนรออย่างเงียบๆวันนี้ เห็นหลินโจวไม่สนใจหยุนรั่วซี ในที่สุดเขาก็ได้โอกาสหยุนรั่วซีสีหน้าเย็นชา ดึงหลี่เสียวหวั่นได้ก็เดินออกไป"ฉันซื้อเองได้"สีหน้าฟ่านหยุนเฮ้าพลันปั้นหน้ายาก...ที่โรงอาหารเนื่องจากหลินโจวและหลิวชื่อหมิงความเร็วถือว่าใช้ได้ พวกเขาไม่นานก็ได้ข้าวตอนกำลังกินข้าวนั้น

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 15

    “ใช่ บ้านของเธออยู่ในหุบเขา หรือก็คือทางทิศเหนือของตำบลบ้านสู่ พี่รู้จักไหม ที่นั่นทางขึ้นภูเขา ผมเคยไปครั้งนึงยังกลัวเลย แล้วได้ข่าวมาอีกว่าพ่อแม่ของเธอไม่อยู่แล้ว มีตากับยายสองคนเลี้ยงสองพี่น้องมา น้องชายก็กำลังเรียนอยู่”“ไม่นานมานี้ คุณตาขึ้นไปบนเขาหาสมุนไพรมาขาย สุดท้ายตกลงมา ขาขาด แหล่งรายได้เดียวของบ้านก็ขาดหายไป เธอจึงเอามาเป็นข้ออ้างในการไม่เรียน""แย่แล้ว!"จู่ๆ หลินโจวก็ลุกขึ้นและเดินออกไปหลิวซือหมิงตกใจ: "พี่โจว พี่ไปไหน?"“รอฉันตรงนี้ก่อน แล้วฉันจะกลับมา กินข้าวช้าๆ”"ครับ ครับพี่"หลังจากที่หลินโจวออกจากโรงอาหาร เขาก็มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนมันเป็นเวลากินข้าว ในห้องมีคนนั่งกินบะหมี่สำเร็จรูปอยู่ไม่กี่คน ก็ไม่มีใครแล้วหลินโจวเดินไปที่ประตูหลัง ค่อยๆ มองเข้าไปด้านในมองแว่บเดียวก็เห็นสู่เนี่ยนชูนั่งอยู่ที่นั่นไม่ขยับเธอยังคงรักษาท่าทางเดิมเหมือนกับตอนที่เธอเลิกเรียน ราวกับว่าเธอไม่เคยออกไปไหนเลยมือของเธอกำลังจัดวางบางสิ่งอย่างจริงจังหลินโจวมองอย่างระมัดระวังและพบว่าพวกมันคือลูกอมทอฟฟี่กระต่ายขาวหลายอันที่หลินโจวมอบให้เธอในตอนเช้าเธอ..ไม่ใช่ว่าจะกินเป็นอ

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 16

    หลิวโจวเงยหน้าขึ้น เห็นในจานของหลิวชื่อหมิงเหลือข้าวและกับอยู่ครึ่งหนึ่งสีหน้าของเขามืดลง"ไม่เป็นอะไร แต่เราจะต้องไม่กินทิ้งกินขว้าง""อา?"หลิวซือหมิงดูสับสน เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของหลินโจว“พี่โจว คุณพูดว่าอะไรนะ?”“ฉันบอกว่า กินข้าวในกล่องข้าวของนายให้หมด กินไม่หมดห้ามลุกไปไหน!”"เอ่อ……"หลิวชื่อหมิง เรอ มองดูข้าวที่เหลือ และตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก:“พี่โจว ผมอิ่มแล้ว...”“กินอิ่มแล้วก็ต้องกินให้หมด ไม่งั้นนายจะตักเยอะขนาดนั้นทำไม”“...แต่พี่โจว วันนี้พี่ชวนผมลดน้ำหนักนะ...”“กินแล้วค่อยลด!”ดูเหมือนหลินโจวจะไม่ได้ล้อเล่น และอาจจะระเบิดได้ทุกเมื่อหลิวชื่อหมิง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งลงและยัดอาหารทั้งหมดลงในท้องของเขาเขายังสาบานว่าจะกินให้น้อยลงในอนาคตนี่ไม่ใช่การทรมานใช่ไหม?หลังจากรับประทานอาหารแล้ว หลิวชื่อหมิง รู้สึกว่าท้องของเขากำลังจะระเบิดหลิวซือหมิงรู้สึกสับสนเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าจานของหลินโจวสะอาดมาก“พี่โจว เกิดอะไรขึ้น?”หลินโจวเมินเขา ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่หน้าต่างอาหารหลิวชื่อหมิง มองดูเขาซื้อขาไก่ ขนมปังหนึ่งชิ

Latest chapter

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 140

    คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 139

    สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 138

    มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 137

    ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 136

    “แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 135

    “ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 134

    อยากจะหันกลับไปมอง แต่ก็ไม่กล้าฉินอวี่เถียนจึงทำได้แค่เพียงหดคอ และเดินไปข้างหน้าต่อไปใกล้แล้ว ใกล้จะถึงแล้วใกล้จะเดินออกไปแล้วในเวลานี้ ทันใดนั้นฉินอวี่เถียนก็รู้สึกว่าเสื้อผ้าตรงคอของตนเองถูกคนคว้าเอาไว้เค้าโครงเรื่องในหนังผีมาสู่ความเป็นจริงฉินอวี่เถียนแทบจะเป็นบ้า!“อร๊าย~”เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องขึ้นมาจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ดังมาจากเหนือศีรษะ"เถียนเถียน"เอิ่ม?นี่คือ……เสียงของหลินโจว?ฉินอวี่เถียนลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นจริงอย่างที่คาดไว้เธอเห็นหลินโจวขี่จักรยาน มองดูเธออย่างขบขัน“ร้องอะไรน่ะ? นั่นก็แค่หนูตัวหนึ่งก็เท่านั้น และมันก็วิ่งหนีไปแล้ว”ฉินอวี่เถียน:“……”“นายนายนาย ทำไมนายถึงอยู่ที่นี่?”“ก็มาส่งเธอไง พี่พูดคำไหนคำนั้น!”“แต่ว่าเมื่อกี้นาย...”“เมื่อกี้กลับไปยืมจักรยานที่โรงเรียนไง แบบนี้มันจะเร็วกว่า เธอก็คงจะไม่อยากให้ป้าฉินกังวลใช่ไหม?”"......"ฉินอวี่เถียนไม่มีอะไรจะพูดเมื่อนึกถึงการกระทำที่ขี้ขลาดเมื่อครู่นี้ เธอแทบอยากจะหารอยแตกบนพื้นแล้วมุดเข้าไปฉินอวี่เถียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วอธิบายอย่างข้างๆคูๆว่า:

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 133

    สิ่งที่ทำให้ฉินอวี่เถียนประหลาดใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าหลินโจวกำลังช่วยเรื่องการเรียนของเพื่อนร่วมชั้นด้วย?แม้ว่าเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นจะน่ารำคาญนิดหน่อยแต่……หลินโจวเป็นคนจิตใจดีขนาดนี้จริงๆเหรอ?ฉินอวี่เถียนไม่อยากจะเชื่อเลย“ฉันเป็นพี่ชายของเธอ ฉันไม่สนใจเธอแล้วใครจะสนใจเธอ!”ฉินอวี่เถียนส่งเสียงเชอะ หันหลังกลับแล้วเดินไป“ฉันยอมรับตั้งแต่เมื่อไหร่?”“เฮ้อ? สาวน้อยคนนี้ รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอเอง”ตอนนี้ก็สี่ทุ่มครึ่งแล้ว ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียว เดินทางตอนกลางคืนไม่ปลอดภัย“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องยุ่ง ฉันรู้ทางกลับบ้าน”ฉินอวี่เถียนหันกลับมาอย่างดื้อรั้น แล้วเดินกลับบ้าน“น้องสาวจริงๆเหรอ?”หลิวซื่อหมิงชะโงกศีรษะ ด้วยสีหน้าที่งุนงง"ก็จริงน่ะสิ!"“แต่ว่า พ่อของพี่มีพี่เป็นลูกคนเดียวไม่ใช่เหรอ?”“ฉันจะมีแม่เลี้ยงไม่ได้เลยเหรอ?”"......"หลิวซื่อหมิงสำลักเขามองไปที่หลินโจวด้วยความประหลาดใจ: “พ่อของพี่หาแม่เลี้ยงให้พี่เหรอ? แถมยังพาน้องเลี้ยงมาอีกคนด้วย?”“นายเข้าใจถูกแล้ว”หลิวซื่อหมิงกลืนน้ำลาย หลังจากที่ทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างผิวเผินแล้ว ก็เริ่มกังวลข

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 132

    “ได้ครับ ขอบคุณครับครูจาง”ทันทีที่หลินโจวพูดจบ เขาก็ได้ยินฟ่านอวิ๋นเจ๋อพูดด้วยความโกรธ:“หลินโจว แม้ว่าจะเอาคลังโจทย์ข้อสอบเหล่านั้นให้นาย นายจะอ่านเข้าใจเหรอ?”พูดจบ ฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นสวี่เนี่ยนชูที่ยืนอยู่ด้านหลังหลินโจวยืนอยู่ตรงหน้าจางซูฉี:“ครูจางคะ หนูก็ขอชุดหนึ่งค่ะ”“เธอจะเอาไปทำอะไร? เธอไม่จำเป็นต้องฝึกทำโจทย์ แค่รักษามาตรฐานในปัจจุบันของเธอเอาไว้ก็พอแล้ว”"หนูอยากจะช่วยหลินโจวค่ะ"“อืม?”จู่ๆจางซูฉีก็นึกได้ว่าความก้าวหน้าของหลินโจวในช่วงนี้ สวี่เนี่ยนชูก็มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นอย่างมากให้เธอช่วยก็ดีเหมือนกัน"ได้ ครูจะเตรียมให้เธอด้วยหนึ่ง""ขอบคุณค่ะครู"สวี่เนี่ยนชูติดตามหลินโจวไปอย่างอารมณ์ดีสุดขีดฟ่านอวิ๋นเจ๋อ: ......เขาหันศีรษะด้วยความโกรธแ ละพูดกับอวิ๋นรั่วซีว่า:"รั่วซี เธอดูสองคนนั้นสิโง่หรือเปล่า เห็นได้ชัดว่าครูจางให้มาเพียงพอแล้ว แต่ยังยืนกรานที่จะขอเพิ่ม กลยุทธ์ฝึกฝนทำโจทย์ใช่ว่าจะใช้ได้ผลกับทุกคน พวกเราแค่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นสำคัญ .. "ยังไม่ทันได้พูดจบฟ่านอวิ๋นเจ๋อก็เห็นอวิ๋นรั่วซีลุกยืนขึ้นเช่นกันสายตาของเธอจับจ้องไปที่หลินโจวผู้ชายคนนี้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status