เมื่อหลินจืออี้ตื่นขึ้นมา มีตํารวจหญิงในเครื่องแบบคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างเตียงเธอยิ้มเล็กน้อย ทําให้คนรู้สึกสบายใจมาก"คุณตื่นแล้วเหรอ? อยากดื่มน้ำไหม? ตํารวจหญิงลุกขึ้น รินน้ำให้เธอแก้วหนึ่งอย่างรู้ใจ “ร่างกายคุณมีแต่บาดแผลภายนอก ไม่เป็นอะไรหรอก”“ขอบคุณค่ะ”หลินจืออี้ยันตัวขึ้นแล้วรับแก้วมาจนถึงตอนนี้เธอก็ยังตัวสั่นด้วยความกลัวตํารวจหญิงมองเธอและไม่ได้ถามทันที จนกระทั่งเธอค่อยๆ สงบลงจึงเริ่มถาม“จ้าวเฉิงก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้พวกคุณต่างคนต่างพูด ดังนั้นฉันต้องการคําให้การของคุณค่ะ”การกระทําของหลินจืออี้ที่ดื่มน้ำหยุดชะงัก "ต่างคนต่างพูดหรือ? หมายความว่าไงคะ?"ชัดเจนขนาดนี้แล้ว ทําไมต่างคนต่างพูดล่ะตํารวจหญิงพูดตามความจริงว่า "จ้าวเฉิงบอกว่าเขาดื่มมากเกินไปถึงจะมีอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างฉับพลัน เขายังเอารายงานการประเมินทางจิตวิทยาจากต่างประเทศออกมาและบอกว่า... คุณกินข้าวดูหนังกับเขา เขาจึงคิดว่าคุณยอมมีความสัมพันธ์กับเขา”หลินจืออี้หายใจติดขัด รู้สึกเหมือนมีลมหายใจอุดอยู่ที่หน้าอก เจ็บแปลบไม่หยุด“กินข้าวและดูหนังกับอีกฝ่าย ก็คืออยากมีความสัมพันธ์โดยปริยายหรือ ข้อกําหนดข้อไหน ฉั
คุณท่านกงโกรธอยู่แล้ว พอเห็นลูกชายไม่เอาไหนก็ยิ่งโกรธเขายกมือขึ้นและอยากจะแทงเข้าไปในหัวของกงสือเหยียนนัก เขาพูดอย่างโกรธๆว่า"ทําไมฉันถึงได้ลูกชายที่ไร้ประโยชน์แบบนี้? ไร้สมอง! ถูกผู้หญิงจูงไปแบบโง่ๆ! “ถ้าแกฉลาดแบบกงเฉินอยู่บ้าง วันนี้ก็คงไม่ถึงขั้นเป็นแบบนี้หรอก”สีหน้าของกงสือเหยียนยิ่งน่าเกลียดมากขึ้นหลินจืออี้ยังคงลดมือที่จับลูกบิดประตูลง เธอออกไปแบบนี้มีแต่จะทําให้กงสือเหยียนเสียหน้ามากขึ้นเท่านั้นคุณอาดีกับเธอมาตลอดเธอทําใจไม่ได้ในตอนนั้นเอง เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังแทรกเข้ามาร่างที่เย็นชาและเคร่งขรึมเดินเข้ามาอย่างช้าๆ สงบและยับยั้งใบหน้าหล่อเหลานั้นไร้ระลอกคลื่นใดๆ ในดวงตาแฝงไว้ด้วยความเย็นชา“พ่อ จ้าวเฉิงไม่เป็นไรแล้ว พ่อด่าพี่สองแบบนี้ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น”"ฉันอยากทำมากกว่าด่าเขาด้วยซ้ำ ตอนนี้ตระกูลจ้าวต้องการคําอธิบาย ถ้าเรื่องสกปรกแบบนี้แพร่ออกไป ตระกูลกงของเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? พูดไปพูดมาก็คือไม่ควรให้คนเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้า ซ้ำยังเป็นตัวหายนะ มีแต่พัวพันกับเรื่องผู้ชายไปหมด”คุณท่านกงมองหลิ่วเหอด้วยสีหน้าบึ้งตึง ความหมายชัดเจนตัวหายนะก็คือหลินจ
ตำรวจทำงานมีประสิทธิภาพมาก ทันทีที่หลินจืออี้ตกลงยอมความ พวกเขาก็นำหนังสือยอมความมาทันทีหนึ่งในนั้นคือตำรวจหญิงที่บันทึกคำพูดของหลินจืออี้เธอกล่าวเตือนด้วยเจตนาดีว่า “คุณแน่ใจว่าคิดดีแล้วเหรอ?”หลินจืออี้ถือปากกา ตัวสั่นเล็กน้อย และกล่าวด้วยรอยยิ้มเฝื่อน "ฉันคิดดีแล้ว เอาตามนี้แหละ"ใครให้เธอเป็นแค่มดแมลงในมือของคนอื่นตอนนี้กันละ?ไม่รอให้ตัวเองมีโอกาสเสียใจ หลินจืออี้รีบเซ็นชื่อทันทีตำรวจหญิงถอนหายใจ ก่อนถือหนังสือยอมความจากไปจากนั้น หลิวเหอก็ถือกล่องอาหารเข้ามาในห้องผู้ป่วยเมื่อสบตากัน หลินเหอรู้สึกผิดจนขอบตาแดงก่ำ"จืออี้..."“ฉันรู้หมดแล้ว คุณลุงไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลินจืออี้ถามหลิวเหอเช็ดน้ำตา เทโจ๊กไปด้วย ถอนหายใจไปด้วย “ไม่เป็นไร แค่โดนด่าไปยกหนึ่ง ลูกก็รู้อารมณ์ของตาเฒ่า ต้องโทษจ้าวเฉิงคนนั้น พวกเดนมนุษย์!ดูเป็นคนดี ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้ "หลินจืออี้เอ่ยด้วยความอ่อนล้า "แม่ ฉันไม่อยากแต่งงาน"หลิวเหอเองก็ไม่กล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ จึงว่าอย่างไม่ใส่ใจ “รู้แล้ว รู้แล้ว ยังไงตอนนี้คำวิจารณ์ก็เอนไปทางซ่งหว่านชิว ไม่มาถึงเราหรอก ไม่แต่งก็ไม่แต่ง แม่แค่กังวลคนในบ้า
หน้าประตูมหาวิทยาลัยยามเช้าตรู่ ไม่มีผู้คนมากนักหลินจืออี้ที่เหนื่อยเพลียถูกกงเฉินลากเข้าไปในรถ ไม่ว่าเธอจะขัดขืนยังไง ก็มักจะมีแรงหนึ่งดึงเธอกลับมาเสมอเธอปรายตาขึ้นมองถึงได้พบว่าเขากำลังหยอกล้อเธอเหมือนของเล่นก็ไม่ปาน ราวกับว่าการขัดขืนของเธอเป็นเพียงวิธีดึงดูดเขาเท่านั้นเธอเหนื่อยแล้วจริงๆ จึงปล่อยแขนลงกงเฉินดึงเธอมาอยู่ตรงหน้า เชิดหน้าเธอขึ้น ลูบหน้าผากที่แดงจากการกระแทก“ดูเหมือนจะยังไม่จำ ทำไมถึงออกจากโรงพยาบาล?”เขากล่าวอย่างไม่ใส่ใจ ประหนึ่งว่าเขาไม่ใช่คนเสนอให้เธอยอมความอยู่นอกห้องผู้ป่วยหลินจืออี้มองเขา ราวกับเธอมองเขาไม่ออกทั้งสองชาติเมื่อเห็นว่าเธอไม่พูด กงเฉินจึงออกแรงบีบคางเธอเล็กน้อยเธอเป็นเหมือนของเล่นในมือกงเฉิน อยากจะทำอะไรก็ทำอย่างนั้นหลินจืออี้รู้สึกอัปยศอย่างยิ่ง เธอกัดฟันออกแรงปัดมือเขาออกเสียงเพี๊ยะดังสนั่นทั่วภายในรถทั้งรถตกอยู่ในความเงียบสงัดบนหลังมือขาวนวลของกงเฉินมีรอยนิ้วมือสี่นิ้วทิ้งรอยเอาไว้หลินจืออี้ตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ได้ จึงเบือนหน้าหนีทันที“อาเล็ก ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่อายุ่งขนาดนี้ ฉันไม่รบกวนแล้ว”สิ้นเสียง เธอก็หมายจะ
หลินจืออี้ถูกบังคับให้ตามกงเฉินไปที่อพาร์ตเมนต์ของซ่งหว่านชิวทันทีที่ดินออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นคราบเลือดกระจัดกระจายเต็มพื้น และคราบสีน้ำมันแดงบนประตูทั้งหมดดูน่าสยดสยองอย่างมากไม่รอให้หลินจืออี้ได้สติ กงเฉินพุ่งเข้าไปในอพาร์ตเมนต์แล้ว ก่อนเสียงกรีดร้องของผู้ชายและเสียงร้องไห้ของซ่งหว่านชิวจะดังตามมา“นายท่านสาม! ฉันกลัวเหลือเกิน! ฉันกลัว...”เสียงสะอื้นทำให้หลินจืออี้ได้สติ เธอรีบเดินเข้าไปในอพาร์ตเมนต์สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น แววตาเขาดุร้าย เลือดพุ่งออกมาจากปาก ในมือถือกริชไว้แน่นตรงข้าม ซ่งหว่านชิวเอามือกุมแขนที่เลือดไหล พิงตัวอยู่ในอ้อมแขนกงเฉินอย่างอ่อนแรง ใบหน้าสวยงามเต็มไปด้วยความเสียใจชายคนนั้นยังคงกนด่าซ่งหว่านชิว "นังสารเลว! คลานขึ้นเตียงเก่งขนาดนั้น ทำให้ฉันมีความสุขหน่อยจะเป็นไรไป? เดิมเธอก็เป็นผู้หญิงแบบนี้อยู่แล้วนี่!"ซ่งหว่านชิวกล่าวด้วยท่าทีจะร้องไห้ออกมา "ไม่ ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่..."ชายคนนั้นหัวเราะเยาะ “อย่ามาเสแสร้ง! บนอินเทอร์เน็ตต่างพูดกันแบบนี้! มีคนบอกฉันแล้ว เธอนอนด้วยง่ายมาก! อีกทั้งยังมีผู้ชายเข้าๆ ออกๆ ในห้องเธอทุกวัน จะแกล้งทำ
เธอมองดูตัวเองเลือดไหลออกมาอยู่อย่างนั้น ขณะกงเฉินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดึงซ่งหว่านชิวไปอยู่ข้างหลังเขาซ่งหว่านชิวยิ้มอยู่ข้างหลังเขาหลินจืออี้มองภาพนี้ สีหน้าซีดขาว แค่นยิ้มออกมา…จวบจนตำรวจบุกเข้ามา“ใครแจ้งตำรวจ”“ผมเอง” กงเฉินชี้ไปที่หลินจืออี้ด้วยความเย็นชา “เธอ พาตัวไป”ตำรวจเห็นมองบาดแผลของหลินจืออี้ และกล่าวอย่างตกใจ “เลือดเยอะมาก พันแผลก่อน”กงเฉินกล่าวเสียงขรึมแทบไม่มอง“ผมบอกให้พาตัวไป เรื่องที่ตัวเองทำลงไป ก็ต้องรับผลด้วยตัวเอง”สิ้นเสียง หลินจืออี้ก็ถูกใส่กุญแจมือตำรวจเป็นห่วงเธอมาก จึงใช้ผ้าพันแผลที่พกติดตัวมากดห้ามเลือดตรงบาดแผลเธอไว้เมื่อกดลงไปเบาๆ หลินจืออี้ถึงได้รู้สึกเจ็บจนเหงื่อเย็นผุดออกมาตอนที่เธอถูกพาตัวไป ได้หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง และพยายามพูดออกมา “ฉันไม่ได้ทำ”ในตอนที่กงเฉินปรายตามองไปทางเธอ ซ่งหว่านชิวก็สลบไปเขาย่อมไม่สนใจเธอ อุ้มซ่งหว่านชิวขึ้นมาอย่างระมัดระวังหลินจืออี้ปรายตาขึ้น มองไปรอบๆ ถึงได้พบว่าทั่วอพาร์ทเม้นท์ของซ่งหว่านชิวล้วนมีร่องรอยของกงเฉินขณะที่ละสายตากลับมา ก็สบเข้ากับแววตาไร้หัวใจของกงเฉินพอดีเหมือนเขากำลังรอให้เธอเปิดปากขอร
หลิ่วเหอมาถึงสถานีตำรวจอย่างเร่งรีบ ครั้นเห็นมือของหลินจืออี้ ก็ตกใจจนหน้าซีด“เกิดอะไรขึ้น? เพิ่งออกจากโรงพยาบาลทำไมถึงเกิดเรื่องขึ้นอีก? แกคือนักออกแบบ มือของแกสำคัญมาก!”ขนาดหลิ่วเหอยังรู้ กงเฉินจะไม่รู้เหรอ?แต่เขากลับเตะปลายมีดของชายคนนั้นมาทางเธอในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นก็ก่อเรื่องต่อไปเถอะหลินจืออี้จัดผมครู่หนึ่ง ก่อนกล่าว“ฉันไม่เป็นไร แม่ ฉันขอพูดทีเดียว เรื่องที่ฉันให้แม่ช่วยไปถาม แม่ถามมาหรือยัง?”หลิ่วเหอกุมมือหลินจืออี้ไว้ น้ำตารินไหลด้วยความปวดใจ ครู่หนึ่งถึงได้ตอบสนองกลับ“ถามแล้ว ถามแล้ว แกดูนี่”หลิ่วเหอล้วงมือถือออกมา นำเนื้อหาในนั้นให้แค่หลินจืออี้อ่านหลินจืออี้อ่านเสร็จ ก็รู้สึกโล่งใจไม่น้อย “ เป็นแบบนี้จริงด้วย”หลิ่วเหอเมมริมฝีปาก “ จืออี้ ตอนนี้เราจะทำยังไงดี? เรื่องของจ้าวเฉิงเพิ่งจบไป แกก็เกิดเรื่องขึ้นอีก ด้วยนิสัยของคุณท่านต้องขับไล่แกแน่”“ เกรงว่าจะไม่ใช่แค่ไล่ธรรมดา”เธอกับหลิ่วเหอมองหน้ากัน รู้ดีทุกอย่างอยู่แก่ใจเรื่องคืนนั้นของหลินจืออี้กับกงเฉิน คุณท่านรู้ เขาอบรมเลี้ยงดูกงเฉินมาอย่างยากลำบาก ไม่มีทางให้เรื่องนี้กลายมาเป็นจุดด่างพร้อยของกงเ
“ไม่ใช่เธอไม่เหมือนกับจ้าวเฉิง แต่เป็นเธอไม่เหมือนกับฉัน เธอสูงศักดิ์มีเกียรติ เป็นผู้หญิงของอา ฉันไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ดังนั้นฉันไม่ควรทะเลาะกับซ่งหว่านชิว ไม่ควรต่อต้าน ไม่ควรเถียง ฉันควรก้มหน้ายอมรับชะตากรรม ควรยกสองมือเหนือหัว ควรยอมรับผิด ใช่ไหม?”“อาเล็ก งั้นอาเคยคิดถึงผลที่ตามมาจากที่ฉันทำแบบนี้ไหม?”“พวกคุณจะปล่อยฉันไปไหม?”“ดังนั้นฉันควรทำยังไง?ไปตายเหรอ?”หลินจืออี้กล่าวออกมาอย่างแทงใจ พูดจบตัวเองกลับหัวเราะเธอยกมือที่เจ็บส่ายไปมาตรงหน้ากงเฉิน “เหลืออีกไม่กี่มิลก็จะตัดเส้นประสาทขาดแล้ว อาเล็กคงผิดหวังมากสินะ? ขอแค่มือฉันเสียหาย ซ่งหว่านชิวของอาก็จะกลายเป็นตัวแทนเข้าร่วมแข็งขันของโรงเรียนเพียงคนเดียว แล้วคำวิจารณ์บนอินเทอร์เน็ตก็จะเปลี่ยนเป็นฉันใส่ร้ายนินทา ทำตัวเองรับกรรมเอง คุณท่านก็สามารถใช่จุดนี้กำจัดฉันไปได้ ส่วนซ่งหว่านชิวของอาก็จะยังคงเป็นเทพธิดาผู้สูงส่งเหมือนเดิม”“พวกอาไม่เคยสนเลยว่าฉันพูดอะไร และไม่สนว่าฉันจะทำอะไร พวกอาแค่สนใจผลที่พวกอาอยากได้”“ทำไมต้องแสร้งมาพูดว่าจะลงโทษอะไรที่นี่อีก?”“คนที่จ้าวเฉิงเคยทำร้ายมีน้อยเหรอ? เขาไม่ควรได้รับโทษเหรอ? แต่อากลับบ
หลินจืออี้ตกใจเล็กน้อยและมองไปที่กงสือเหยียนด้วยความประหลาดใจ ”คุณอา ทําไมคุณอาถึงทําแบบนี้คะ?”กงสือเหยียนยิ้มอย่างกว้างๆ "คุณท่านมีความคับข้องใจต่อเธอเสมอ ถ้าเขารู้ว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเธอ เขาจะโกรธมากขึ้น ""คุณอา ฉันขอโทษนะคะ" หลินจืออี้ตําหนิตัวเอง"ไม่เป็นไร อย่าเก็บมาใส่ใจเลย" กงสือเหยียนลูบหัวเธอหลิ่วเหอกวักมือเรียก "ที่รักคะ เมื่อกี้ฉันยังกินไม่อิ่ม เราไปดูที่ห้องครัวกันดีกว่าว่ายังมีอะไรกินอีกไหมกันดีกว่า""ไปสิ"สองสามีภรรยาจูงมือเดินออกไปหลินจืออี้รู้สึกอบอ้าวเล็กน้อย จึงไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้เมื่อเดินไปเรื่อยๆ ก็ปรากฏร่างสีดําขึ้นด้านหน้าเป็นกงเฉินเขายืนสูบบุหรี่อยู่ข้างสระ นิ้วมือเรียวยาวเหมือนหยกท่ามกลางแสงไฟแสงแดดส่องกระทบผิวทะเลสาบ น้ำในทะเลสาบเปล่งประกายสีทอง สะท้อนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาด้วยแสงจางๆสายลมเย็นพัดผ่านใบหน้า เป่าผมที่หน้าผาก เผยให้เห็นดวงตาลึกล้ำดุจหมึกหลินจืออี้บีบมือ รู้สึกว่าจําเป็นต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้กับโรงพยาบาลให้ชัดเจนเพิ่งเดินไปได้สองก้าว เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของกงเฉินก็ขัดจังหวะฝีเท้าของเธอกงเฉิน
ฉันสนใจแต่ผลลัพธ์เท่านั้น น้ำเสียงของกงเฉินเหมือนกําลังพูดกับลูกน้อง "จะจัดการกับผลลัพธ์ยังไง ให้ฉันสอนเธอไหม?"ความสุขของซ่งหว่านชิวยังไม่จางหายไปจากใบหน้า แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พยักหน้าอย่างแข็งกระด้าง "ฉัน ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะขอโทษและชดเชยให้ค่ะ""อืม"กงเฉินรับคําแล้วหันหลังเดินจากไปร่างกายของซ่งหว่านชิวอ่อนปวกเปียก ล้มไปข้างหลัง โชคดีที่ฉินซวงประคองเธอไว้"หว่านชิว เธอเกิดเรื่องไม่ได้ คุณชายสามไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ ทุกอย่างยังมีโอกาส""เขาไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ก็จริง แต่เขาไม่สนใจฉันมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว""แล้วยังไงล่ะ? เขารับปากว่าจะแต่งงานกับเธอก็ได้แล้ว ถึงเวลานั้นเธอก็สามารถจัดการผู้หญิงที่อยู่ข้างเขาได้อย่างชอบธรรมแล้ว ถึงเวลานั้น หลินจืออี้จะต้องตายยังไง้ที่กลบฝังอย่างแน่นอน!"ฉินซวงกุมคอที่มีเลือดออก กัดฟันด้วยความโกรธซ่งหว่านชิวพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา "หลินจืออี้ เราจะได้เห็นดีกันแน่"ในเวลานี้ แม่บ้านเดินผ่านมาเห็นทั้งคู่ก็แอบหัวเราะกันทั้งสองได้แต่รีบๆ จากไป……กลับไปถึงเรือนหลิ่วเหอก็รีบให้คนชงชาให้เธอหนึ่งกาทันที ก่อนจะดื่มไปถึงครึ่งกาถ
เหอะ ยังบริสุทธิ์อยู่เหรอ?"คุณหนูซ่ง หลังจากแจ้งความแล้ว คุณจะบอกตํารวจยังไงล่ะ? บอกว่าฉันถูกกระตุ้นให้เป็นบ้าและเกือบจะฆ่าคุณนายซ่ง? แล้วฉันถูกกระตุ้นได้ยังไง? โดนใครกระตุ้นล่ะ?"เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนจึงมองไปที่คุณท่านกงอย่างระมัดระวังไม่ใช่ว่าคุณท่านกงตําหนิกงสือเหยียนและหลิ่วเหอต่อหน้าสาธารณชนเพื่อแม่ลูกตระกูลซ่งหรอกหรือ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้หลินจืออี้เป็นบ้าน่ะ?ซ่งหว่านชิวตกตะลึงเพิ่งเข้าใจว่าตั้งแต่การโทรครั้งนั้น หลินจืออี้ก็วางแผนไว้แล้วเมื่อกี้พวกเขาทั้งครอบครัวทำตัวน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะรอคุณท่านกงเอ่ยปากเท่านั้น!แล้วเธอแจ้งความจะมีความหมายอะไร?ให้เธอเป็นพยานชี้ความผิดคุณท่านกงหรือ?"พอแล้ว!" คุณท่านกงตําหนิอย่างเคร่งขรึม "พวกเจ้าสองแม่ลูกดื่มมากเกินไปแล้ว ดื่มจนเมาจนเป็นแบบนี้ รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ""คุณท่าน..."ซ่งหว่านชิวมองคุณท่านกงอย่างไม่อยากจะเชื่อคุณท่านกงเรียกแม่บ้านมาและส่งกล่องที่บรรจุดาบกลับไป"ดาบนี้ไม่เหมาะกับฉัน พวกเธอเอากลับไปเถอะ ใครก็ได้ ส่งแขก”ซ่งหว่านชิวและฉินซวงรู้สึกไม่ยอม ยังอยากจะช่วงชิงอีกประโยคต่อไปของคุณท่านกงตัดความคิดของพว
ซ่งหว่านชิวกัดฟันและปฏิเสธที่จะพูดใบมีดนั้นกรีดลงบนผิวของฉินซวงโดยตรงฉินซวงกรีดร้อง "หว่านชิว! ช่วยแม่ด้วย! เธอบ้าไปแล้ว!”ซ่งหว่านชิวกัดริมฝีปาก ร้องไห้และเปลี่ยนเรื่อง "หลินจืออี้ เธออย่าทําแบบนี้เลย ฉันรู้ว่าความจริงมันยากสําหรับเธอที่จะยอมรับ แต่แม่ของฉันเป็นผู้บริสุทธิ์นะ"แก้มของเธอแดงก่ำและร้องไห้อย่างเสียใจแต่ก็ไม่ยอมรับผิดแทนแม่เห็นได้ชัดว่าเธอเสแสร้งแค่ไหนทุกคนรู้จักซ่งหว่านชิวมานานกว่าสามปีแล้ว และได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมของเธอ พวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดีในเวลานี้ คุณท่านกงพูดเสียงดังขึ้นมา"หลินจืออี้ เธอบ้าไปแล้วเหรอ? ปล่อยคุณนายซ่งไป เธอคิดว่าแค่ทําเทปบันทึกเสียงปลอมก็สามารถหลอกลวงทุกคนได้หรือ?”คําพูดเหล่านี้ไม่ได้ทําร้ายจิตใจของหลินจืออี้ แต่เป็นกงสือเหยียนเขาอายุปูนนี้แล้ว เมื่อได้ยินว่าพ่อยอมเชื่อคนอื่นมากกว่าเชื่อทุกอย่างที่ตัวเองได้รับ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีคล้ำทันที"พ่อ! นี่เป็นเรื่องจริงทั้งหมด!”"หุบปาก! ทำตัวเหมือนอะไรกัน! ให้หลินจืออี้ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!" คุณท่านกงไม่ฟังเขาพูดอะไรเลยหลินจืออี้ยิ้มหยัน "หึ คุณท่าน ไม่เชื่อขนาดนี้เลยหรือ
เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนอยากอาเจียนออกมา แต่ก็อาเจียนไม่ออกหลินจืออี้พูดเสียงดังว่า "ฉันให้พวกเธอสองคนพูดจาเหลวไหล! ชอบอาหารเหลือและข้าวบูดไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวฉันป้อนให้พวกเธอเอง!”กิริยาของเธอเร็วมาก คว้าเอาน้ำที่ผู้อาวุโสคนหนึ่งแช่ฟันปลอมแล้วสาดใส่ปากฉินซวงที่กรีดร้องไม่หยุดทันทีเสียงร้องนี้ยิ่งโหยหวนมากขึ้นผู้อาวุโสคนนั้นรีบลุกขึ้นและกวักมือพูดอย่างตะกุกตะกัก "เฮ้ย เฮ้ย อย่ากลืนฟันปลอมของฉันนะ!"หลินจืออี้ถลึงตาใส่เขา เขาถึงได้สติ สาดใส่พวกเธอแล้วก็สาดใส่ฉันไม่ได้สินะคุณท่านกงเคยเห็นฉากแบบนี้ที่ไหนกัน ตกใจอยู่นาน ถึงได้พูดอย่างโมโหว่า "หลินจืออี้! เธอหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”หลินจืออี้ยืนอยู่บนโต๊ะ มองคุณท่านกงจากที่สูง แล้วตะโกนด้วยน้ำเสียงที่โกรธยิ่งกว่าเขา "ทําไมคุณท่านถึงด่าคุณอาโดยไม่ถามเหตุผลเลย? หลายปีมานี้ คุณท่านด่าเขาโดยไม่คํานึงถึงกาลเทศะเลย ว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้! คุณท่านเคยคิดบ้างไหมว่าทัศนคติของคุณท่านเป็นตัวกําหนดทัศนคติของคนอื่นที่มีต่อเขา?”"ที่พูดเพราะเขาเป็นคุณชายรองตระกูลกง แต่ข้างนอกใครๆ ก็เหยียบหัวเขาได้ แม้กระทั่งแม่ลูกคู่นี้ก็ยังกล้าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีขอ
ฉินซวงอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุด มันกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนและมองไปที่กงสือเหยียนและหลิ่วเหอหลิ่วเหอหน้าซีดเผือด ขับให้ริมฝีปากแดงก่ำผิดปกติเมื่อกงสือเหยียนจับมือของเธอไว้ ใบหน้าที่ซื่อสัตย์ของเขาก็ดูน่าอายเล็กน้อยเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างมาก แต่เมื่อวานเขาเมาจนไม่ได้สติ เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นล้วนเป็นหลิ่วเหอบรรยายไม่มีหลักฐาน ไม่มีพยาน พูดออกมาก็ไม่มีใครเชื่ออยู่ดีในเวลานี้ หลินจืออี้มองไปที่เขา ส่งสายตาเป็นสัญญาณกงสือเหยียน ตอบกลับด้วยเสียงเบาๆว่า "ไม่เป็นไรครับ""งั้นก็ดีแล้ว ไม่งั้นฉันคงรู้สึกผิดจริงๆ แล้วล่ะค่ะ" ฉินซวงตบหน้าอกอย่างเอาจริงเอาจังได้ยินดังนั้น คุณท่านกงก็ขมวดคิ้วถามว่า "เกิดอะไรขึ้น?"ฉินซวงทําหน้าลําบากใจ "ได้ยินว่าคุณชายรองมีลูกค้าที่อยากร่วมงานด้วยมาตลอด ฉันก็เลยออกมาเชิญทั้งสองฝ่ายมาทานข้าวด้วยกัน ใครจะรู้ว่าคุณชายรองกับคุณนายรองดื่มกันเพลินเกินไป ฉันก็เลยทําได้แค่ส่งลูกค้าออกไปก่อน""นึกไม่ถึงว่าคุณนายรองพาคุณชายรองตกลงไปในห้องทิ้งขยะของห้องครัวด้านหลัง ได้ยินว่าสถานที่แบบนั้นเต็มไปด้วยยุงและแมลงวัน ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่
กงเฉินเงยหน้าขึ้นอย่างสบายๆ แม้ว่าจะดูเหมือนไม่แยแส แต่ความแข็งแกร่งและการครอบครองในดวงตากลับไม่ปิดบังเลยสักนิดหลินจืออี้สวมชุดกระโปรงสีแดง สวมเข็มขัดสีน้ำตาล ผิวพรรณเนียนละเอียด รูปร่างสมส่วนลําคอที่ขาวเนียนมีสร้อยแพลตตินั่มที่ละเอียดอ่อนและเพรียวบาง แสงที่จางๆ ดูคล้ายเปล่งออกมาจากผิวหนังดึงดูดสายตาของผู้คนทันทีคุณนายซ่ง ฉินซวงหลังจากสังเกตเห็นสายตาของกงเฉินแล้ว เธอก็วางถ้วยชาลงอย่างแรงเล็กน้อย และดึงดูดความสนใจของทุกคนด้วยเสียงเอี๊ยดฉินซวงรวบผ้าคลุมไหล่ลายสก็อตผ้าไหมแท้บนไหล่ เอียงหน้ามองหลิ่วเหอพลางยิ้มอย่างสง่างาม แต่ดวงตาเรียวยาวกลับฉายแววเยาะเย้ย"คุณนายรอง ลําบากคุณจริงๆ ต้อนรับพวกเราอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่ได้รบกวนการพักผ่อนของพวกคุณเมื่อคืนใช่ไหมคะ?"พอพูดถึงเมื่อคืน หลิ่วเหอก็ตัวสั่นเล็กน้อย รู้สึกทนไม่ไหว กําลังจะพูดอะไรบางอย่างก็ถูกหลินจืออี้ดึงไว้หลินจืออี้ยิ้มกว้างรับสายตาอาฆาตแค้นของฉินซวง"คุณนายซ่งและคุณหนูซ่งต่างก็แต่งตัวอลังการแบบนี้ ตระกูลกงของเราก็ต้องแต่งตัวอลังการเหมือนกันสิคะ ถึงยังไงตระกูลกงของเราก็ให้ความสําคัญกับวิธีการต้อนรับแขกมาก ไม่อย่างน
หลินจืออี้ไม่สนใจคําถามของหลี่ฮวนและอธิบายจุดประสงค์ของการมาโดยตรงใบหน้าของหลี่ฮวนเต็มไปด้วยความประหลาดใจและเป็นใบ้ไปทันทีผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงพูดอย่างลังเลว่า "เธอแน่ใจหรือ?""อืม""ได้"หลินจืออี้ได้ของที่ตัวเองต้องการแล้วก็ไปแล้วหลี่ฮวนปิดประตูและโทรหากงเฉินทันที"กงเฉิน หลินจืออี้มาหาฉัน""อืม" กงเฉินตอบเบาๆหลี่ฮวนอึ้งไป "นายเดาออกตั้งนานแล้วเหรอ?""อืม""เฮอะ" หลี่ฮวนเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ หมุนปากกาเซ็นชื่อ แล้วพูดอย่างสบายๆ ว่า"หลานสาวตัวน้อยของนายต่อกรกับนายไม่ไหว แต่นายไม่กลัวเธอจะทําเรื่องวุ่นวายหรือ?""ไม่เป็นไร"อารมณ์ของกงเฉินนั้นสบายมาก จนฟังดูแล้วรู้สึกเหมือนอยากจะสนับสนุนคนอื่นหลี่ฮวนเบ้ปาก "ได้ๆ หลานสาวบ้านใครบ้านใครดูแล แต่นายก็ไม่ควรขายฉันนะ?""ขายอะไรกัน?""นายบอกเธอว่าฉันชื่อหลี่ฮวนฮวนใช่ไหม? น่าโมโหชะมัดเลย!”"ฉันไม่ได้พูด" กงเฉินเก็บลมหายใจปากกาในมือของหลี่ฮวนตกลงบนพื้นทันที และทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วเขามองไปรอบๆ และพูดว่า "ฉันจะบอกให้นะ พรุ่งนี้ฉันวางแผนที่จะไปไหว้พระกับแม่ฉันบนภูเขาสักหน่อย!""นายเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?"“
หลินจืออี้หันตัวกลับไป ก็สบเข้ากับดวงตาที่เย็นชาของกงเฉิน“ห้ามแจ้งความ”น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยพลังที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ดวงตาสีดําภายใต้แสงไฟสะท้อนให้เห็นถึงใบหน้าที่หล่อเหลาและอันตรายของเขา เย็นชาและดุดันหลินจืออี้กําหมัดทั้งสองข้าง ไหล่สั่นเทิ้ม ใบหน้าขาวซีดจนเขียวคล้ำ ใช้แรงทั้งหมดที่มีเค้นถามประโยคนั้นออกมา "ทําไม? เพียงเพราะเป็นคนของตระกูลซ่ง? เราก็สมควรแล้วหรือ?"“ทําไมคนที่เสียสละหลังจากเกิดเรื่องถึงต้องเป็นฉันเสมอ?”"หนึ่งครั้ง สองครั้ง..."กงเฉินเงียบและสายตาของเขาก็สงบมากหลินจืออี้กลับเหมือนคนบ้าที่บ้าคลั่ง เธอก้มหน้าลง จ้องไปที่ปลายรองเท้าของเธอทั้งสองรองเท้ากีฬาคู่หนึ่งและรองเท้าหนังแฮนด์เมดชั้นยอดคู่หนึ่ง มันถูกกําหนดไว้แล้วว่าพวกเขาไม่ควรมีปฏิสัมพันธ์กันเธอยิ้มเยาะตัวเอง หัวเราะตัวเองที่เอาไข่ไปกระทบหิน ไม่เจียมตัวเอาซะเลย"ได้ ไม่แจ้งความ หวังว่าอาเล็กจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้ตลอดไป”เธอคว้าโทรศัพท์มือถือของเธอกลับมาและเดินเข้าไปในวอร์ด จากนั้นปิดประตูอย่างแรงหลินจืออี้ที่เห็นเฉินจิ่นจากไป ขมวดคิ้วเดินไปข้างหน้า "คุณชายสาม จะอธิบายให้คุณหลินฟ