แชร์

บทที่ 2 เมื่อผมต้องเจอกับเหล่าเพื่อนรัก

ผู้เขียน: LADY-ZOMBIE
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-20 22:47:25

บทที่ 2 เมื่อผมต้องเจอกับเหล่าเพื่อนรัก

พี่ปรัชไม่ได้รักผม นั่นเป็นสิ่งที่ผมควรรู้และเข้าใจได้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่ว่าจะเพราะความโง่ของตัวเองหรือเพราะอะไร ผมถึงแสร้งทำเป็นไม่รู้มาตลอด เพราะฉะนั้นเมื่อได้รับโอกาสอีกครั้ง ในเมื่อเขาไม่รัก ผมก็แค่ไปรักคนที่รักผม ก็แค่นั้น ข่าวประกาศการยกเลิกงานหมั้น และงานแต่งงานที่เปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวเป็นไปอย่างราบรื่น จริงๆ ไม่ได้ราบรื่นเพราะมีกระแสข่าวมากมายในวงการบันเทิงไฮโซ แต่ถามว่าผมที่ผ่านมาแล้วแคร์หรือเปล่า? ก็ถ้าเป็นผมก่อนตายผมคงแคร์ แต่ต้องไม่ใช่กับผมที่ผ่านความตายมาแล้วในตอนนี้ ผมเดินลงมาจากบันไดบ้านในตอนเช้า แล้วยกยิ้มเมื่อเห็นป๊าตบหน้าอกตัวเอง แล้วเลื่อนอ่านข่าวในไอแพดออกเสียงดังอย่างหงุดหงิดว่า

“ไฮโซทายาทเจ้าของห้างสรรพสินค้า เปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวกะทันหัน เปลี่ยนแล้วทำไม! อาพัชอีจะเปลี่ยนกี่คนก็ได้ ฮึ่ม!” แม้แต่ตอนนี้ป๊าก็ยังคงยืนข้างผม ผมอมยิ้มมองป๊าด้วยสายตาอ่อนลง ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนนั้นผมคงร้องไห้ฟูมฟายหาว่าป๊าไม่รักแล้วหนีขึ้นห้องไปร้องไห้โฮแล้ว แต่ต้องไม่ใช่กับผมตอนนี้ ผมเดินเข้าไปกอดพุงกลมๆ ของป๊า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า

“ป๊า อย่าลืมเพิ่มสินสอดให้พี่ปราชญ์เพิ่มอีกนะ ไม่อย่างนั้นถ้าสินสอดน้อยไปเขาไม่ยกพี่ปราชญ์ให้พัช แย่เลยนะป๊า” ป๊ากลอกตาก่อนจะเอาไอแพดเคาะหัวของผมเบาๆ ทำเอาผมยู่หน้า ก่อนจะผละออก แล้วมองป๊าด้วยสายตาทะเล้น ป๊าพ่นลมหายใจออก ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงถือดีว่า

“ทำไมจู่ๆ ลื้อถึงได้อยากได้อาปราชญ์เป็นผัวนัก เมื่อก่อนป๊าเห็นนะว่าลื้อเอาแต่ตามอาปรัชอีต้อยๆ ” ผมยิ้มแห้งจะให้บอกป๊าได้อย่างว่าตัวเองผ่านอะไรมา ผมยักไหล่ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงมีลับคมคมนัยไปว่า

“เพราะพัชเหนื่อยที่จะต้องตามคนที่เขาไม่รักพัชแล้วไงป๊า” ผมพูดพลางตีหน้าสลด ทำเอาป๊าขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงมีน้ำโหเล็กน้อยว่า

“ช่างมันๆ ใครไม่รักลื้อป๊ารักลื้อนะอาพัช” ป๊าพูดจบก็กอดผมแน่นทำเอาผมยิ้มกว้างหอมแก้มป๊าไปหลายฟอดจนป๊ายกยิ้มมีความสุข ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า “ว่าแต่เพิ่มทองคำแท่งอีก 10 บาทเป็นไงอาพัช น้อยไปไหม?”

“ฮ่าๆ ไม่น้อยๆ ป๊า เอาเท่านี้เลยนะ ฮ่าๆ ” ผมหัวเราะชอบใจที่ป๊าบ้าจี้เพิ่มสินสอดไปขอพี่ปราชญ์จริงๆ ก่อนที่ผมและป๊าจะหัวเราะเสียงดัง แล้วพากันไปทานข้าว เมื่อทานเสร็จ ป๊าบอกว่าจะไปตีกอล์ฟกับเพื่อน ผมเลยโบกมือบ๊ายบ่ายป๊า ก่อนจะก้มมองดูข้อความจากเพื่อนที่ส่งมาถามรัวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงอับอายไม่กล้ารับสายน้ำเหนือหรือตอบข้อความแน่ๆ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้ที่ผมได้เกิดใหม่แล้ว พัชชาจะไม่ยอมให้ใครมาบลูลี่ตัวเองและพี่ปราชญ์อีกแล้ว!!!

“ว่าไงน้ำเหนือ?” ผมกดรับสายน้ำเหนือพลางเดินขึ้นห้องเพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอก เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องชวนผมออกไปข้างนอกแน่นอน

[พัช!ในที่สุดก็รับสาย!] ผมยกยิ้มอ่อนเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนรักเพื่อนร้ายอย่างน้ำเหนือ ก่อนจะเอ่ยตอบกลับไปว่า

“ใช่ เห็นนายโทรมาหลายสายแล้ว มีอะไรหรือเปล่า?” ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจน้ำเสียงกระตือรือร้นเบื้องหลังน้ำเหนือ แต่ยกยิ้มเปิดประตูห้องแล้วเอ่ยด้วยเสียงไม่ทุกข์ร้อนอะไรกลับไป

[ใช่ๆ มีสิ ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหม? พวกเรามีเรื่องอยากถาม!] เสียงของน้ำเหนือไม่ปกปิดถึงความอยากรู้อยากเห็น ถ้าเป็นผมเมื่อก่อนคงตอบปฏิเสธไม่กล้าสู้หน้าไปแล้วแน่ๆ แต่ต้องไม่ใช่กับผมตอนนี้ ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยตอบปลายสายกลับไปว่า

“ได้สิ เจอกันที่ไหนดี?” ผมฟังจุดหมายปลายทางก่อนจะกดวางสายแล้วเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวสวยๆ ผมมองดูตัวเองในกระจกแล้วสะบัดเส้นผมที่ยาวเคลียไหล่ มองดูชุดลูกไม้สีขาวที่เว้าด้านหลังผม มองดูกางเกงเข้ารูปรัดก้นแน่นแสนเซ็กซี่ของตัวเองแล้วเชิดหน้าขึ้น ผมแต่งหน้าบางๆ ก่อนจะหยิบเอากระเป๋าแบรนด์หรูขึ้นมา แล้วเลือกเอากุญแจรถสปอร์ตคาร์ออกมาจากที่ใส่กุญแจรถ พลางเดินลงบันได ก่อนจะเห็นว่าพี่นิ้งแม่บ้านพาใครบางคนเดินเข้าบ้านมา

“น้องพัช?” ผมกะพริบตามองคนที่เอ่ยเรียกตัวเอง แล้วคลี่ยิ้มหวาน เดินเข้าไปกอดแขนของอีกฝ่าย แล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า

“พี่ปราชญ์มาหาพัชหรือครับ?” ใช่ คนที่มาหาผมคือปราชญ์ในชุดสูททำงานเต็มยศเหมือนเคย เจ้าตัวยกมือขึ้นดันแว่น ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า

“ใช่ครับน้องพัช พี่แวะเข้ามาดูเราก่อนไปทำงาน” ผมยกยิ้มจนนัยน์ตาหรี่ลงเป็นเสี้ยวเมื่อเห็นความห่วงใยที่ส่งผ่านมาทางสายตาและการกระทำของพี่ปราชญ์ ใช่ วันนั้นพี่ปราชญ์ก็มาหาผมแบบนี้ แต่ผมเลือกที่จะไม่พบและเจอหน้าใคร ขังตัวเองเป็นบ้าอยู่ในห้อง แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ผมจะไม่บ้าและขังตัวเองไว้อีกต่อไป เพราะผมจะไม่มีทางให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยเดิมอีกอย่างแน่นอน!

“พัชสบายดีครับ กำลังจะออกไปข้างนอกเลย พี่ปราชญ์อยากไปกับพัชไหมครับ?” ผมหรี่ตาลงอย่างมีแผนการในใจ แต่พี่ปราชญ์ยกยิ้มแล้วส่ายหน้า พลางยกมือใหญ่ๆ นั่นลูบเส้นผมของผมอย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้มว่า

“แค่พี่เห็นว่าเราไม่เป็นอะไรพี่ก็พอใจแล้วครับ พี่มีงานค้างอยู่ต้องไปทำ เอาเป็นหลังเลิกงานได้ไหมครับ? แล้วเราไปกินของโปรดน้องพัชกัน?” ผมยกยิ้มจนนัยน์ตาเป็นขีด ก่อนจะกอดแขนพี่ปราชญ์จนแขนของพี่ปราชญ์สัมผัสได้ถึงหน้าอกแบนๆ ของผมจนเจ้าตัวหน้าแดง ก่อนจะเลิ่กลั่กมองซ้ายขวาอย่างน่ารัก ทำเอาผมอดอมยิ้มกับความขี้เขินนั้นไม่ได้ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า

“อืม ของโปรดของพัชอยู่ตรงหน้าแล้วพัชต้องไปกินที่ไหนอีกหรือครับ?” ผมเอ่ยเย้า พลางแอบถูไถอกแบนๆ ของตัวเองกับแขนพี่ปราชญ์จนเจ้าตัวตัวแข็งทื่อ ก่อนจะก้มมองผมด้วยสายตาตกใจระคนเขินแล้วเอ่ยด้วยเสียงกึ่งดุเล็กๆ ว่า

“น้องพัชพูดอะไรครับ!” ผมอมยิ้มไม่ตอบอะไร ก่อนจะวางคางกับต้นแขนพี่ปราชญ์แล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า

“ฮ่าๆ พัชไม่แกล้งพี่ปราชญ์แล้ว ขอบคุณที่มาหากันครับ แต่พัชกำลังจะออกไปข้างนอกครับ เอาไว้เราเจอกันตอนพี่เลิกงานแล้วก็ได้” ผมเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พี่ปราชญ์มองผมก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วเอ่ยชมผมด้วยสีหน้าและแววตาจริงใจว่า

“โอเคครับ วันนี้น้องพัชแต่งตัวสวยมากเลย ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ” ผมยกยิ้มเมื่อได้ยินคำชมของพี่ปราชญ์ ก่อนจะเงยหน้ามองพี่ปราชญ์ แล้วเอ่ยด้วยเสียงทะเล้นว่า

“พัชแต่งตัวแบบนี้พี่ไม่หวงพัชบ้างหรือครับ?” ผมหมุนตัวให้พี่ปราชญ์ดู แต่เจ้าตัวแค่ขยับแว่น แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนลงว่า

“หวงครับ แต่พี่ต้องจัดการความรู้สึกตัวเอง ไม่ใช่เอาความรู้สึกของตัวเองไปทำให้น้องพัชไม่สบายใจ” เมื่อได้ยินผมยกยิ้มจนนัยน์ตาหรี่ลง ก่อนจะกอดแขนพี่ปราชญ์อีกครั้งแล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนลงว่า

“พัชจะไม่แต่งตัวแบบนี้บ่อยๆ ครับ แค่วันนี้พิเศษนิดหน่อยแค่นั้น” เพราะผมไม่อยากแพ้ ใช่ ผมไม่อยากทำตัวอ่อนแอต่อหน้าน้ำเหนือและเพื่อนๆ เพียงเพราะแค่ข่าวของผมและพี่ปราชญ์ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมเลยเลือกที่จะแต่งตัวแบบนี้เพื่อทำให้คนพวกนั้นรู้ว่าผมไม่ได้แคร์อะไรกับการเลิกหมั้นกับพี่ปรัช แล้วมาแต่งงานกับพี่ปราชญ์แม้แต่น้อย

“ครับ แล้วแต่น้องพัชเลย” พี่ปราชญ์พูดแล้วยกยิ้มให้ผม ผมยิ้มอ่อนแล้วเดินควงแขนพี่ปราชญ์เดินออกไปส่งอีกฝ่ายขึ้นรถ แล้วขับไปทำงาน ผมก็ได้เวลาออกไปข้างนอกเหมือนกัน

..........................

ผมเดินลงมาจากสปอร์ตคาร์แล้วกดรีโมทล็อกรถ ก่อนจะเดินขึ้นห้างตัวเองไปที่ชั้นที่นัดหมายกับน้ำเหนือและเพื่อนๆ ผมเดินเชิดหน้าสวมแว่นกันแดดเดินโนสนโนแคร์สายตาใครๆ ไปที่ร้านชานม ก่อนจะเปิดเข้าไปแล้วยกยิ้มให้ทุกคนเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยทักทายทุกคนอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไรว่า “ดีจ้า” ผมยกยิ้มเผชิญหน้ากับสายตาทุกคน โดยเฉพาะน้ำเหนือที่มองผมด้วยสายตายากจะเชื่อ

“พัช?” ผมถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้า ก่อนจะเก็บเอาไว้ในกระเป๋าแล้วนั่งลงที่ที่ว่าง พลางมองใบหน้าของน้ำเหนือแล้วเอ่ยตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า

“แน่สิ เราเอง มีอะไรหรือ?” ผมยกยิ้มมองน้ำเหนืออย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร ทำเอาน้ำเหนือกลอกตาแล้วเอ่ยถามผมด้วยเสียงสนใจว่า

“ที่เป็นข่าวเรื่องจริงหรือเปล่า?” เสียงของมิ้นหนึ่งในเพื่อนสาวในกลุ่มเอ่ยขึ้น ทำเอาผมหันไปมอง ก่อนที่น้ำเหนือจะเอ่ยถามว่า

“จริงไหม?” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไม่ยี่หระอะไรว่า

“ใช่ ทำไมหรือ?” ทุกคนมีสีหน้าแปลกๆ ก่อนที่ต้าเพื่อนเพศพิเศษเหมือนผมและน้ำเหนือจะเอ่ยด้วยเสียงแปลกเปล่งว่า

“พัชจะแต่งกับคนนั้น พี่ชายบุญธรรมของคุณปรัชจริงหรือ?” ผมเลิกคิ้วแล้วหันไปมองต้า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า

“ทำไม? แต่งกับพี่ปราชญ์แล้วมันทำไม?” สีหน้าของต้าและมิ้นแปลกไปเมื่อได้ยิน ก่อนที่น้ำเหนือจะเอ่ยขัดขึ้นมาว่า

“แต่งกับคนที่ด้อยกว่าตัวเองนี่นะพัช? แกพูดจริงหรือ?” ผมยกยิ้มเย็นเมื่อได้ยินคำพูดของน้ำเหนือ ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงไม่สะทกสะท้านอะไรว่า

“พี่ปราชญ์มีอะไรให้ด้อยกว่า?” ผมเอ่ยพลางจ้องหน้าน้ำเหนือ ก่อนจะเอ่ยขัดน้ำเหนือที่กำลังอ้าปากพูดว่า “พี่ปราชญ์เรียนจบจุฬาฯ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ทำงานในตำแหน่งรองประธานตั้งแต่เรียนจบ? มีบ้านมีรถ มีอะไรให้น่าอายก่อน?” เมื่อผมพูดจบน้ำเหนือก็แลกเปลี่ยนสายตากับมิ้นและต้า ผมทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนที่ต้าจะเอ่ยขึ้นมาว่า

“แต่ยังไงเขาก็เป็นแค่ลูกบุญธรรมหรือเปล่าอะ?” ต้าพูดพลางกระแทกไหล่หญิงสาวอย่างมิ้น ทำเอาเจ้าตัวมีสีหน้าแปลกๆ แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาลงว่า

“เหมือน....” แต่น้ำเหนือที่ทนมองสองเพื่อนพูดไม่จบ ก็เอ่ยขัดขึ้นก่อนว่า

เหมือนกาฝาก! แกอยากแต่งงานกับกาฝากจริงหรือพัช?” น้ำเหนือที่พูดจบก็มองหน้าผมเขม็งเหมือนผมไปฆ่าญาติฝ่ายไหนของอีกฝ่ายตาย ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอียงคอแล้วเอ่ยด้วยเสียงไม่ทุกข์ร้อนอะไรว่า

“แล้วอย่างไร? ฉันต้องแคร์เรื่องพวกนี้ด้วยหรือ? ในเมื่อเป็นความคิดของคนอื่น? ฉันจะแต่งกับใครมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ใครต้องเอาหัวมาหนักเรื่องของฉันหรือเปล่า?” เมื่อได้ยินน้ำเหนือก็มีสีหน้าบิดเบี้ยวจนผมยกยิ้มสะใจ ส่วนต้ากับมิ้นมองหน้ากันแปลกๆ ก่อนที่ต้าจะเอ่ยขึ้นมาว่า

“ตอนแรกแกไม่ชอบพี่ปราชญ์คนนั้นไม่ใช่หรือ? ทำไมจู่ๆ ถึงได้พูดเข้าข้างเขาแบบนั้นล่ะ?” ผมโบกมือไม่ใส่ใจอะไร ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไม่ยี่หระอะไรว่า

“ตอนแรกไม่ชอบตอนนี้ชอบแล้ว มีอะไรไหม?” ผมเอ่ยพลางเลิกคิ้วเหมือนไม่เห็นว่าสีหน้าของทั้งสามคนแปลกไปแค่ไหน ก่อนที่น้ำเหนือจะเม้มปากแล้วเอ่ยด้วยเสียงเหมือนรังเกียจว่า

“แกพูดจริงหรือ? ชอบคนที่ด้อยกว่าตัวเองทุกอย่างนี่นะ?” ผมกลอกตากับตรรกะความคิดไม่พัฒนาของน้ำเหนือ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังพลางยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายว่า

“ใครกันแน่ที่ด้อยกว่า เมื่อเทียบกันไม่ว่าจะวุฒิการศึกษาหรือหน้าที่การงานของฉัน หรือนาย เราก็ด้อยกว่าพี่ปราชญ์กันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ?” ผมยกยิ้มพลางเอ่ยเปรียบเทียบทำเอาสีหน้าของน้ำเหนือบิดเบี้ยวก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเข้มว่า

“มันเอามาเทียบกันไม่ได้ไหม!!”

“ฮ่าๆ ตลกน่าน้ำเหนือ นายเรียบจบนิเทศจากมหาลัยเอกชนพอๆ กับฉัน แถมตอนนี้ยังเกาะพ่อแม่กินอยู่เหมือนกัน มีอะไรที่เหนือกว่าพี่ปราชญ์ที่ฉันเทียบไม่ได้บ้าง?”

“พัชชา!” น้ำเหนือลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยเรียกชื่อผมเสียงดังด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว ก่อนที่มิ้นกับต้าจะเขย่าแขนให้น้ำเหนือนั่งลง แต่ผมกลับลุกขึ้นยืนแล้วหยิบแว่นกันแดดเอามาสวม ก่อนจะเอ่ยทิ้งท้ายไว้เพียงแค่ว่า

“ก่อนจะว่าใครด้อยกว่า ดูตัวเองก่อนนะน้ำเหนือ” พูดจบผมก็เดินเชิดหน้าจากไปไม่สนใจสายตากินเลือดกินเนื้อ หรือสีหน้าตกใจของต้ากับมิ้นอีกต่อไป เพื่อนรักแบบนี้ผมขอไม่มีมันเสียดีกว่า ผมเดินเชิดหน้าเข้าไปในร้านทำผมเพื่อเตรียมตัวไปเดตกับพี่ปราชญ์ตอนเย็นอย่างไม่ทุกข์ร้อน พลางส่งเรฟสีทาเล็บไปให้พี่ปราชญ์เลือก ก่อนที่เจ้าตัวจะแคปอันหนึ่งที่ถูกใจผมกลับมา แล้วบอกว่าตัวเองประชุมอยู่ ผมทำเล็บเสร็จแล้วให้โทรหาได้เลย เดี๋ยวเขาพักประชุมออกมาคุยกับผมเอง

ดูสิคนที่ไม่ว่างแต่หาเวลาว่างเพื่อเราขนาดนี้ ผมเป็นบ้าอะไรไม่เลือกเขาตั้งแต่ทีแรกนะ ตาบอดชะมัด!

..........................................

“พี่ปราชญ์?!” ผมที่แต่งตัวด้วยชุดเสื้อแขนยาวครอปสั้น เผยพุงขาวๆ กับจิวเล็กๆ ที่สะดือ รับกับกางเกงยีนขายาวสีดำ พลางกอดแขนพี่ปราชญ์ที่ขับรถมารับผมที่บ้านเพื่อพาออกไปทานข้าวด้วยกัน

“แต่งตัวน่ารักมากครับน้องพัช” ผมยิ้มหยี ก่อนจะชูมือที่ทาเล็บเจลสีแดงให้พี่ปราชญ์ดูแล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า

“เล็บพัชก็สวยด้วยใช่ไหมครับ?” พี่ปราชญ์พยักหน้ารับ พลางดันแว่น ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า

“ครับ สวยมากเลย พี่ชอบมาก” ผมยกยิ้มทั้งปากและตาเมื่อได้ยินคำชมนั้น ก่อนจะกอดแขนพี่ปราชญ์เดินไปขึ้นรถโดยมีพี่ปราชญ์เปิดประตูรถที่นั่งข้างคนขับให้ ก่อนที่เจ้าตัวจะขับรถออกไปเมื่อเรียบร้อย ผมหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปตัวเอง เก็บไว้เตรียมลงไอจี หลังทานอาหารเสร็จ ตอนกินพี่ปราชญ์ก็จัดจานให้ผมถ่ายรูปก่อน แถมยังอาสาถ่ายรูปให้ผมอีก ตอนที่เรากำลังขึ้นรถเพื่อกลับไปส่งผมที่บ้าน ผมเลยเอียงตัวเข้าไปใกล้พี่ปราชญ์ แล้วเอ่ยถามด้วยเสียงออดอ้อนเล็กๆ ว่า

“พี่ปราชญ์พัชถ่ายรูปเราลงไอจีด้วยได้ไหมครับ?” ผมเงยหน้ามองพี่ปราชญ์ตาปริบๆ ก่อนที่พี่ปราชญ์จะพยักหน้าแล้วเอ่ยด้วยเสียงขาดความมั่นใจว่า

“พี่ต้องทำอย่างไรครับ ต้องถอดแว่นไหม? หรือยังไง?” ผมยกยิ้มทั้งปากและตาเมื่อได้รับคำอนุญาตก่อนจะเอียงศีรษะซบไหล่พี่ปราชญ์แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูป ตัวเองและพี่ปราชญ์

“ไม่ต้องครับ แค่ยิ้มสวยๆ ให้กล้องพอ” พี่ปราชญ์เลยยกยิ้มเขินให้กล้อง โดยมีผมยิ้มกว้างใส่ภาพ แล้วลงสตอรี่ และเซ็ทภาพมื้ออาหารและตัวเอง พร้อมแคปชั่นที่ว่า

‘เดตกับคุณว่าที่สามีครับผม’

และใช่ในเวลาต่อมาก็มีข่าวบันเทิงเล็กๆ เอาไปเขียนข่าวเรื่องผม และมีคนกดถูกใจและคอมเมนต์มากมาย หึ พี่ปราชญ์ดีขนาดนี้ผมไม่อวดได้อย่างไรไหวใช่ไหม?

+++++

Lady Zombie

27/10/67

บทที่เกี่ยวข้อง

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 3 เมื่อผมแต่งงานกับคนที่รักผม (มาก)

    บทที่ 3 เมื่อผมแต่งงานกับคนที่รักผม (มาก)“พี่ปราชญ์ว่าชุดนี้สวยไหมครับ?” ผมหมุนตัวโชว์ให้พี่ปราชญ์ที่กำลังนั่งมองผมลองชุดแต่งงานด้วยสีหน้ามีความสุข เจ้าตัวพยักหน้าหงึกหงักพลางขยับแว่น แล้วชมเสียงดังว่า“สวยครับ น้องพัชใส่ชุดอะไรก็สวย” เมื่อได้ยินผมก็ฉีกยิ้มกว้าง แอบเขินพี่พนักงานที่แอบอมยิ้มเหมือนกัน ก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนชุดอีกชุดแล้วออกมา คราวนี้พี่ปราชญ์พอเห็นก็ขยับแว่นแล้วพยักหน้าหงึกหงักตอบเสียงดังก่อนผมจะถามเสียอีกว่า “พี่ชอบชุดนี้ครับสวยมากเลย” ใช่ ชุดที่ผมสวมเป็นชุดสูทลูกไม้แขนยาวผ่าหน้า เว้าหลังสวย รับกับกางขายาวสีขาว แน่นอนว่าชุดนี้ดูจะเปิดเผยเนื้อหนังไปหน่อย แต่ถ้าพี่ปราชญ์ว่าสวยผมก็โอเค“งั้นเอาเป็นชุดนี้นะครับ” ผมเอ่ยกับพี่พนักงานก่อนที่เธอจะพยักหน้า แล้วผมก็เดินมาดึงพี่ปราชญ์ลุกขึ้นแล้วเอ่ยกับพี่พนักงานว่า “ต่อไปเป็นคนนี้ครับ รบกวนขอชุดสูทเข้ากับชุดนี้หน่อยนะครับ” พี่ปราชญ์จับมือผมแล้วย่นคิ้วลงพลางกระซิบกับผมเสียงเบาว่า“พี่ใส่ชุดอะไรก็ได้ครับ” ผมมองพี่ปราชญ์ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า“ไม่ได้สิครับ พี่เป็นว่าที่สามีพัชนะ จะใส่ชุดอะไรก็ได้ได้อย่างไรครับ?” ผมเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 4 เมื่อผมพยายามชวนสามีปั๊มเบบี้

    บทที่ 4 เมื่อผมพยายามชวนสามีปั๊มเบบี้“หรือพัชควรไปเรียนทำอาหารไหมพี่ปราชญ์?” เช้าวันแรกของการแต่งงานเต็มไปกลิ่นอวลของความสุข พี่ปราชญ์ได้หยุดงานสัปดาห์หนึ่ง แต่ยังไม่มีแพลนฮันนีมูนเพราะเรายังตกลงกันไม่ได้ว่าควรไปที่ไหนดี ผมอยากไปเที่ยวต่างประเทศแต่พี่ปราชญ์อยากพาผมไปเที่ยวเหนือ และความอยากตามใจสามีผมเลยเออออว่าจะไปขึ้นเหนือกับพี่ปราชญ์ เราเลยสรุปแพลนกันไว้ว่าจะไปสิ้นเดือนนี้ คืออีกประมาณสองสัปดาห์ต่อมา หลังจากที่ผมอรุณสวัสดิ์ด้วยความรักกับพี่ปราชญ์จนล้นเต็มใบหน้า เราก็อาบน้ำแล้วลงมาด้านล่างเพื่อทำอาหาร แน่นอนว่ามื้อแรกนี้พี่ปราชญ์เป็นคนทำเพราะผมทำอาหารไม่เป็น อาเมน....“ถ้าน้องพัชอยากเรียนทำอาหารพี่สอนได้นะครับ?” พี่ปราชญ์ในชุดผ้ากันเปื้อนสีเขียวไดโนเสาร์ที่ผมซื้อมาเอ่ยรับด้วยเสียงอารมณ์ดี ใบหน้าแจ่มใส พลางขยับแว่นสายตาหนาเตอะนั่นเบาๆ ก่อนจะหันหลังไปผัดข้าวต่อ“ดีเลย งั้นทุกวันหยุดพี่เรามาเรียบทำอาหารกัน” ผมเอ่ยพลางลุกขึ้นไปกอดเอวพี่ปราชญ์จากด้านหลัง ก่อนจะชะโงกหน้ามองข้าวผัดในกระทะทำเอาพี่ปราชญ์อมยิ้ม ก่อนจะใช้ช้อนตักข้าวมาให้ผมชิม“ขาดรสอะไรครับ?”“อื้ม ขอเค็มอีกหน่อยครับ”“โอเค”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 5 เมื่อชีวิตหลังแต่งงานของผมเต็มไปด้วยความสุข

    บทที่ 5 เมื่อชีวิตหลังแต่งงานของผมเต็มไปด้วยความสุข“พี่ปราชญ์อย่ากัดนมพัช!!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อตื่นมาแล้วเจอพี่ปราชญ์เวอร์ชันตบะแตก ทั้งดูดทั้งดึงหน้าอกผมจนแดงไปหมด แถมเสื้อนอนที่ใส่ไว้เมื่อคืนก็ถูกพี่ปราชญ์ถอดออกทิ้งลงข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้!ผมล่ะรักพี่ปราชญ์เวอร์ชันนี้จริงๆ!!!“ขอโทษค่ะ นมน้องพัชมันล่อตาพี่ พี่อดใจไม่ไหวจริงๆ ” พี่ปราชญ์พูดทั้งที่กำลังใช้ลิ้นเลียวนรอบๆ ฐาน แล้วเอ่ยพ่นลมร้อนใส่จนผมตัวสั่นเพราะความเสียวไปหมด“อื้อ อย่าเป่าลมใส่พัชนะ!” ผมดันหน้าพี่ปราชญ์ออก แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมหน้าอกตัวเองที่เปื้อนรอยดูดและรอยแดงช้ำจนน่ากลัว “พอเลย พัชเจ็บนะพี่ปราชญ์” ผมเอ่ยด้วยเสียงงอนนิดหน่อย พี่ปราชญ์ที่เหมือนสำนึกผิด รีบควานหาแว่นมาสวมก่อนจะเข้ามากอดปลอบผมเสียงอ่อน“โอเคครับ พี่ขอโทษนะ เจ็บมากไหม พี่ขอดูหน่อยค่ะ” เมื่อได้ยินผมหรี่ตาลงมองพี่ปราชญ์ด้วยสายตารู้ทัน ก่อนจะสะบัดตัวเดินหนีเข้าห้องน้ำไปทันที “น้องพัช!!” แล้วพี่ปราชญ์ก็เอ่ยเรียกผมอยู่หน้าห้องน้ำเสียงเศร้า เฮ้อ ไอ้มีความสุขนะใช่ แต่พี่ปราชญ์เล่นทำทุกวันมันก็เหนื่อยเป็นธรรมดาไหม!........................ชีวิตหลังแต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 6 เมื่อผมตั้งท้องน้องโปรดและต้องปะทะฝีปากกับเพื่อนรัก

    บทที่ 6 เมื่อผมตั้งท้องน้องโปรดและต้องปะทะฝีปากกับเพื่อนรักหลังจากประกาศเรื่องตั้งท้องผ่านไอจีก็ผ่านมาแล้วเกือบสัปดาห์ คุณแม่ทำตามที่พูดส่งบัตรเชิญมาให้ผมกับพี่ปราชญ์เข้าร่วมงานเต้นรำจริงๆ ผมที่ไม่ได้แพ้ท้องหนักแค่เวียนหัวตอนตื่น กับอาเจียนเมื่อได้กลิ่นคาวปลา นอกนั้นอาการอะไรก็เล็กน้อยมาก เลยคิดจะไปร่วมงานครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อคุณแม่ แต่เพื่อความสะใจของตัวเองล้วนๆ เพราะได้ยินว่าณินินแพ้ท้องหนักมาก เลยมาร่วมงานไม่ได้ และผมจะทำให้ณินินต้องอิจฉาตาร้อนไปเลยว่าผมมีความสุขจากสามีและลูกมากขนาดไหนและเมื่อวันงานมาถึงผมก็แต่งตัวด้วยชุดสูทสุภาพสีขาว คู่กับสูทดำของพี่ปราชญ์ เจ้าตัวที่กำลังขับรถเอ่ยกับผมในระหว่างติดไฟแดงไปด้วยว่า “น้องพัชโอเคใช่ไหมครับ พี่เป็นห่วงเรากับลูกมากนะ” พี่ปราชญ์เขากังวลว่าผมจะไปแพ้ท้องที่งานเลยไม่อยากให้ผมไป แต่เพื่อแสดงความสุขจนแสงออกปากให้คนพวกนั้นได้เห็นมีหรือที่ผมจะยอมแพ้ง่ายๆ และสิ่งที่ผมทำได้คือการใช้ชีวิตให้ดีและมีความสุขเท่านั้น!“พัชพกยามาเผื่อแล้วด้วยครับ พี่ปราชญ์สบายใจได้ พัชสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีครับ” ผมเอ่ยด้วยเสียงจริงจัง ขณะจับมือพี่ปราชญ์มากุมแล้วจุ๊บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 7 เมื่อผมต้องเลี้ยงลูกเพื่อเป็นหม่าม้าที่ดี

    บทที่ 7 เมื่อผมต้องเลี้ยงลูกเพื่อเป็นหม่าม้าที่ดีการเลี้ยงเด็กไม่เคยง่าย ผมเชื่อแบบนั้นและมันก็เป็นไปตามนั้น เมื่อออกจากโรงพยาบาล ผมก็หอบลูกกลับไปเลี้ยงที่บ้านป๊า ป๊ามีสีหน้าอิ่มอกอิ่มใจกับหลานชายตัวอวบอ้วน แน่ล่ะ ถ้าผมไม่เบรกไว้เชื่อเถอะว่าคงเขียนพินัยกรรมยกให้หลานหมด ผมส่ายหน้าไม่สนใจ ก่อนจะนั่งมองน้องโปรดดื่มนมจากขวด เนื่องด้วยผมเป็นเพศพิเศษ จึงไม่มีน้ำนมเป็นธรรมดา เรารับบริจาคน้ำนมจากคุณแม่ที่มีน้ำเหลือเยอะแทน สัปดาห์แรกพี่ปรัชลางานเพื่อมาช่วยผมเลี้ยงลูกที่บ้านป๊า เราสองคนไม่ได้นอนกันหลายคืนติดๆ กันอยู่ แต่พอผ่านไปสักอาทิตย์เราก็เริ่มชินและปรับตัวได้พี่ปราชญ์เลยออกไปทำงานครึ่งวัน แล้วหอบงานกลับมาทำที่บ้านแทน เพื่อช่วยผมเลี้ยงลูก เป็นอยู่แบบนี้เป็นเดือน จนกระทั่งคุณแม่โทรมาหาพี่ปราชญ์บอกให้ผมพาหลานไปหาที่บ้านบ้าง ผมกับพี่ปราชญ์เลยเตรียมเก็บของใส่ตะกร้า แล้วพาน้องโปรดไปที่บ้านคุณแม่ เมื่อมาถึงคนแรกที่ผมเจอไม่ใช่คุณแม่แต่เป็นณินินที่ได้ยินว่าย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านพี่ปรัชแล้ว ผมเม้มปากกอดลูกแน่น พี่ปราชญ์ที่เดินตามหลังถือตะกร้ามาเงยหน้ามองณินินก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มารอปรัช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 8 เมื่อผมกำลังวางแผนมีลูกคนที่สอง

    บทที่ 8 เมื่อผมกำลังวางแผนมีลูกคนที่สองผมตื่นตอนหกโมงเช้า อาบน้ำเก็บของและมองพี่ปราชญ์อุ้มลูกออกจากบ้านไปนอนที่คาร์ซีทในรถ ก่อนจะที่เราจะเก็บของและเตรียมตัวออกเดินทางไปที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว แต่ก่อนหน้านั้นเราต้องไปเช็กอินที่โรงแรมใกล้ๆ ก่อน ผมกับพี่ปราชญ์หาอะไรรองท้องเล็กๆ ที่ร้านสะดวกซื้อข้างทาง ก่อนที่ระหว่างแวะปั๊มจะป้อนนมและข้าวเช้าให้น้องโปรดที่กำลังอารมณ์ดี เราใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงนิดๆ เดินทางมาถึงชลบุรี เช็ดอินเข้าโรงแรมที่เป็นบังกะโล 2 ห้องนอนแล้วนั่งพักผ่อน ก่อนจะออกเดินทางไปสวนสัตว์ในช่วงบ่าย ผมเก็บกระเป๋าใส่ตู้ และนั่งเล่นกับลูก รอพี่ปราชญ์ประกอบเตียงให้น้องโปรดอีกห้อง “น้องโปรดอยากมีน้องไหมครับ?” ผมเอ่ยถามลูกอย่างอารมณ์ดี เพราะผมอยากมีลูกกับพี่ปราชญ์อีกหลายๆ คน“น้องคือใยกั๊บ” น้องโปรดมองผมด้วยดวงตาใสซื่อ ก่อนที่ผมจะเอ่ยกับน้องโปรดว่า“น้องคือเพื่อนอีกคนครับ คนที่จะมาเล่นของเล่นกับน้องโปรด” เจ้าตัวย่นคิ้วก่อนจะส่ายหน้า ทำเอาผมหัวเราะครืน“ไม่อาว โปดจาเล่งคนเดียว”“ฮ่าๆ ” ผมก้มลงหอมแก้มเจ้าลูกชายอย่างมันเขี้ยว ก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะเพราะจั๊กจี้ ผมกับลูกเล่นกอดรัดกันสัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 9 เมื่อเรามีสมาชิกใหม่ของครอบครัว

    บทที่ 9 เมื่อเรามีสมาชิกใหม่ของครอบครัวณินินจ้องมองภาพในไอจีด้วยสายตาราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยประกายตาของความอิจฉา เนื่องจากอีกฝ่ายกำลังประกาศข่าวดีว่าตนกำลังตั้งท้องลูกคนที่สอง ท่ามกลางครอบครัวที่มีความสุข ก่อนที่ณินินจะเม้มปากเมื่อได้ยินเสียงของสามีดังขึ้นว่า “พี่ปราชญ์กับพัชนี่อย่างไร ลูกเพิ่งไม่กี่ขวบจะมีอีกคนแล้ว วุ่นวายจริงๆ ” ณินินยกยิ้มก่อนจะสมทบกับสามีด้วยความไม่เต็มใจว่า“นั่นสิครับ รีบร้อนกันจริงๆ ” ณินินเงยหน้ามองสามีที่กำลังถอดเสื้อผ้าหลังกลับมาจากที่ทำงาน “ว่าแต่คุณพ่อคุณแม่ว่าอย่างไรบ้างครับเรื่องพี่ปราชญ์มีลูกอีกคน” เมื่อได้ยินปรัชญายักไหล่ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงไร้อารมณ์ว่า“ไม่ว่าอย่างไร แค่คิดว่าเร็วไปจริงๆ ” ณินินพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยถามเย้าสามีไปว่า“แล้วพี่ปรัชอยากมีลูกอีกคนไหมครับ?” เมื่อได้ยินปรัชญามองหน้าภรรยา ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนแรงว่า“แค่น้องนายก็พอแล้ว แต่ถ้านินอยากมีอีกคนรอน้องนายเข้าอนุบาลก่อนค่อนว่ากันนะ”“ครับ” ณินินพยักหน้ารับ ก่อนจะมองสามีเข้าไปในห้องน้ำ พลางกดปลดล็อกโทรศัพท์ ดูโพสต์ที่ค้างไว้ด้วยดวงตาของความคับข้องใจ ทั้งๆ ที่ตนเป็นตัวเอกข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 10 เมื่อผมต้องเลี้ยงลูกพร้อมกันสองคน

    บทที่ 10 เมื่อผมต้องเลี้ยงลูกพร้อมกันสองคนเมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งผ่านวันเกิดน้องโปรดครบ 2 ขวบ และน้องปลื้มตอนนี้อายุได้ 3 เดือนแล้วครับ ใช่ ผมอยู่ที่บ้านป๊าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือได้พี่นิ้งมาช่วยเลี้ยงเด็กๆ ด้วย พี่ปราชญ์อยากลางานมาช่วยผมเลี้ยงลูก แต่ดูเหมือนทางพิพิศภักดีกำลังดีลงานกับชาวต่างชาติทำให้มูลค่าโครงการแตะที่หลักร้อยล้าน จนพี่ปราชญ์ไม่สามารถปลีกเวลาออกมาช่วยผมเลี้ยงลูกได้เลย เพราะต้องโฟกัสที่งาน เพราะแบบนั้นเราเลยตกลงกันว่าจะให้ผมกับลูกอยู่ที่บ้านป๊าไปจนกว่าโครงการในมือของพี่ปราชญ์จะเสร็จสิ้น ซึ่งคงใช้เวลายันปีหน้าแน่นอน ผมรู้และเข้าใจไม่ได้งอแงอะไร เพราะกว่าจะรู้ตัวแต่ละทีผมก็หัวหมุนเพราะต้องเลี้ยงลูกจนหมดวันไปแล้วบอกตามตรงว่าไม่มีเวลาทำอะไรเลยจริงๆ และโชคดีที่มีพี่นิ้งจริงๆ ผมถอนหายใจเมื่อเห็นว่าทั้งน้องโปรดและน้องปลื้มนอนหลับสนิท ก็หันไปมองพี่นิ้งที่มีสภาพยุ่งเหยิงไม่ต่างกัน “อยากมีอีกไหมคะคุณพัช?” พี่นิ้งถามยิ้มๆ มองสภาพผมก่อนเถอะ ผมเม้มปากก่อนจะกลอกตาแล้วเอ่ยด้วยเสียงอ้อมแอ้มว่า“พักก่อนครับ อย่างน้อยให้น้องโปรดเข้าอนุบาลก่อนแล้วกัน” ผมเอ่ยเพราะเข็ดจริงๆ กับการเลี้ยงล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20

บทล่าสุด

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทสุดท้าย เมื่อผมกลายเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี

    บทสุดท้าย เมื่อผมกลายเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดีเข้าเดือนเมษายนที่แสนร้อนระอุ เป็นช่วงปิดเทอมของเด็กๆ และเป็นปีที่เจ้าแฝดต้องเข้าเรียนด้วย เราเลยตกลงกันว่าจะพาเด็กๆ ไปที่ทะเลในช่วงนี้แทน เพราะฉะนั้นเหตุการณ์วุ่นวายจึงเกิดขึ้น ผมนั่งเก็บกระเป๋าให้ตัวเองและพี่ปราชญ์ในห้อง แต่เด็กๆ วิ่งเข้ามาทีละคนแล้วชูของในมืออย่างอารมณ์ดีพลางถามว่า“หม่าม้าโปรดเอากางเกงในสีเหลืองเป็ดไปได้ไหม?”“หม่าม้าเปลี่ยมเอารองเท้าผ้าใบคู่นี้ไปด้วยได้ไหม?”“หม่าม้าปลื้มไม่รู้จะเอาอะไรไป หม่ามาเก็บกระเป๋าให้ปลื้มได้ไหมครับ?”“หม่าม้าปกเอาของเล่นไปด้วยได้ไหม?”“ปักษ์เอาคุณเสือไปด้วยนะหม่าม้า”“.....................” นั่นแหละครับ ผมเลยทำได้เพียงต้อนเด็กๆ กลับห้องแล้วเก็บกระเป๋าให้ทีละคน พลางคิดในใจว่าเมื่อไรจะเปิดเทอม!! ก่อนจะเดินเข้าไปเก็บของให้น้องปันเป็นคนสุดท้าย แล้วเดินกลับห้องไปเก็บกระเป๋า ก่อนที่เสียงรถยนต์จะทำให้เด็กๆ วิ่งกรูกันลงไปข้างล่างพลางส่งเสียงดังไปตลอดทางว่า“พ่อมาแล้วววววววววว”ผมนวดขมับ ก่อนจะเก็บของชิ้นสุดท้ายลงกระเป๋าแล้วเดินลงไปข้างล่าง ทันเห็นว่าพี่ปราชญ์กำลังถูกเด็กๆ ล้อมหน้าล้อมหลังวุ่นวายไปหมด

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 19 เมื่อผมได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่รัก

    บทที่ 19 เมื่อผมได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่รักผมมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกแปลกๆ จำได้ว่าเพิ่งนั่งรถกลับบ้านหลังไปส่งเด็กๆ ที่โรงเรียน? แล้วทำไมผมกลับมาที่บ้านได้? ผมก้าวเดินไปที่ห้องนั่งเล่นก่อนจะพบว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าละม้ายคล้ายผมกำลังนั่งที่เก้าอี้โยกในห้องนั่งเล่น เธอนั่งลูบท้องในขณะที่กำลังยกยิ้มพลางฮัมเพลงในลำคอ ก่อนจะเงยหน้าหันมามองผมแล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “สวัสดีค่ะน้องพัช” เมื่อได้ยินผมรู้สึกสั่นไหวในใจ ก่อนจะก้าวขาไปหาอีกฝ่าย แล้วนั่งลงบนพื้นตรงขาของอีกฝ่าย แล้วเอ่ยด้วยเสียงสั่นไหวว่า“ม้า?” ผู้หญิงที่ผมมักจะเห็นในรูปยกยิ้มหวานให้ผม ก่อนจะมือขึ้นมาลูบศีรษะผมอย่างอ่อนโยน แล้วเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า“ค่ะ หม่าม้าดีใจนะคะที่ได้เห็นน้องพัชมีความสุข” ผมเม้มปากน้ำตาคลอ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงกลั้นน้ำตาว่า“แต่พัชจะมีความสุขกว่านี้ถ้าม้าอยู่กับพัชด้วย” หม่าม้ายกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าแล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า“ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่หม่าม้าเฝ้ามองน้องพัชมาตลอดเลยนะคะ” ผมเงยหน้ามองหม่าม้า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงสั่นเทาว่า“ถ้าอย่างนั้นหม่าม้าก็คงเห็นว่าพัชเป็นคนดีใช่ไหมครับ?” เมื่อ

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 18 เมื่อผมต้องไปงานแข่งกีฬาสีโรงเรียนของลูก

    บทที่ 18 เมื่อผมต้องไปงานแข่งกีฬาสีโรงเรียนของลูกปีนี้น้องโปรดขึ้นชั้นป.1 แล้ว แน่นอนว่ามีกิจกรรมหนึ่งที่พลาดไม่ได้ งานกีฬาสีที่จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน น้องโปรดแข่งวิ่ง 100 เมตร กับวิ่งผลัด และลงแข่งฟุตบอลตัวสำรองด้วย วันเวลาที่ผ่านมาผมมองเห็นได้ว่าน้องโปรดตั้งใจมากกับงานกีฬาสีครั้งแรกนี้ของตัวเอง ส่วนเด็กๆ คนอื่นก็เติบโตขึ้นเป็นอย่างดีด้วยความรักของผมและพี่ปราชญ์ น้องปลื้มอายุได้ 5 ขวบตอนี้ขึ้นอนุบาลหนึ่ง น้องเปลี่ยม 3 ขวบ และเจ้าแฝด 1 ขวบ ส่วนพี่ปราชญ์กับผมก็มีความสุขดีครับ วันนี้เป็นวันศุกร์กีฬาสีจัดขึ้นวันแรก ผมในฐานะหม่าม้าจึงขนเด็กๆ และพี่ปราชญ์มาให้กำลังใจน้องโปรด ที่โรงเรียน “ปก ปักษ์อย่าดิ้นครับ” พี่ปราชญ์ที่อุ้มลูกชายสองคนไว้ในมือเอ่ยขึ้นเมื่อเจ้าแฝดพยายามจะดิ้นออกจากพี่ปราชญ์“หาพี่” น้องปกเอ่ยพลางชี้นิ้วไปที่น้องโปรดที่กำลังเดินขบวน ก่อนที่น้องปักษ์จะเบะปากแล้วเอ่ยด้วยเสียงไม่ชัดเจนนักว่า“พี่โปด หาพี่โปด” พี่ปราชญ์เลยต้องปลอบเจ้าแฝดยกใหญ่ น้องปลื้มหยิบเอาป้ายกระดาษแข็งที่นั่งวาดหลายวันมานี้ขึ้นชู แล้วมีน้องเปลี่ยมเอ่ยเสียงดังเป็นลำโพงเล็กๆ ว่า“พี่โปรดฉู้ๆ พี่โปรด!!!” ผม

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 17 เมื่อผมคลอดลูกแฝด

    บทที่ 17 เมื่อผมคลอดลูกแฝดหลังสงกรานต์ผมเตรียมตัวซื้อเสื้อผ้าให้น้องปลื้มเพื่อเตรียมไปโรงเรียนเดือนหน้านี้ ส่วนน้องโปรดกำลังขึ้นอนุบาลสอง ผมซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้น้องโปรดอีกชุด เพราะชุดเก่าเจ้าตัวคับแน่นไปหน่อย ช่วยไม่ได้ที่น้องโปรดกำลังโตก็แบบนี้ เนื่องด้วยผมท้องลูกแฝดท้องจึงใหญ่กว่าปกติจนน่ากลัว ผมเลยเคลื่อนไหวน้อยมาก และโชคดีที่มีพี่นิ้งคอยดูเด็กๆ ในช่วงนี้ เดือนเมษายนไม่มีอะไรมากไปกว่าความซนของเด็กๆ ที่เพิ่มขึ้น จนกระทั่งเปิดเทอมในเดือนต่อมา น้องโปรดและน้องปลื้มต้องไปโรงเรียน แน่นอนว่าวันแรกผมอยากไปส่งลูกที่โรงเรียน แต่เพราะหน้าท้องที่ใหญ่มากทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก ผมจึงทำได้เพียงมองป๊าพาเด็กๆ ไปส่งที่โรงเรียนแทน“บ๊ายบ่ายฮะหม่าม้า” น้องปลื้มพูดพลางกลั้นน้ำตาสุดชีวิต ผมเดินไปลูบหัวก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงปลอบโยนว่า“เดี๋ยวพี่โปรดไปส่งที่ห้องนะครับ น้องปลื้มไม่ต้องร้องนะ” น้องโปรดเข้ามากอดน้องปลื้มก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้องเรียนน้าน้องปลื้ม”“อื้ม” น้องปลื้มปาดน้ำตา ก่อนจะยกยิ้มจับมือพี่ชายเดินขึ้นรถตู้ตามด้วยป๊าที่อารมณ์ดีทำหน้าที่ไปส่งหลาน พี่ปราชญ์ไปทำงานตั้ง

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 16 เมื่อผมกำลังทำลูกกับพี่ปราชญ์ตามธรรมชาติ

    บทที่ 16 เมื่อผมกำลังทำลูกกับพี่ปราชญ์ตามธรรมชาติ“อ๊ะ อ๊า.....” ผมกรีดร้องเสียงดังเมื่อพี่ปราชญ์จับไหล่ผม แล้วดึงไปข้างหลัง พลางกระแทกกระทั้นเข้ามาในตัวผมอย่างรุนแรง ผมนัยน์ตาพร่ามัวก้มหน้าลงยันแขนกับเตียง ก่อนจะกรีดร้องเมื่อแก่นกายของพี่ปราชญ์เข้ามากระแทกย้ำๆ ที่ปากมดลูกจนผมเสียวไปทั้งตัว ก่อนจะปล่อยออกมารอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ ผมตัวอ่อนเหลวไปกับเตียง ก่อนที่แก่นกายของพี่ปราชญ์จะหลุดออกจากช่องทางของผม จนน้ำด้านในไหลทะลักออกมาข้างนอก ผมนอนหอบหายใจเสียงดัง ก่อนจะถูกพี่ปราชญ์พลิกตัวกลับมานอนหงาย “พี่ปราชญ์?” ผมเอ่ยเรียกพี่ปราชญ์เสียงเบา เมื่ออีกฝ่ายจับขาผมพาดไว้กับไหล่ทั้งสองข้าง ก่อนจะถูไถแก่นกายที่กำลังอ่อนตัวที่ปากทางของผมที่กำลังอ้าออก เพราะหุบไม่ลง“อีกรอบนะคะเผื่อลูกไม่ติด” ผมเม้มปากก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงออดอ้อนไปว่า“จูบพัชหน่อย” เมื่อได้ยินพี่ปราชญ์ก็ก้มลงจูบผมก่อนจะค่อยๆ สอดแก่นกายที่กำลังแข็งตัวเข้ามาในร่างกายของอีกครั้งอย่างช้าๆ แล้วเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ “อื้อ” ผมร้องครางพลางหลับตาก่อนจะหมดสติไปเพราะความอ่อนเพลีย แล้วผมก็ไม่รู้แล้วว่าต่อจากนั้นพี่ปราชญ์ทำอะไรต่อ เพราะหลับไปตื่

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 15 เมื่อผมต้องดูแลพี่ปราชญ์

    บทที่ 15 เมื่อผมต้องดูแลพี่ปราชญ์“คนไข้ดูเหมือนจะมีบุคลิกแตกแยกครับ” ผมมองหน้าหมออย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะเม้มปากกอดตัวเอง แน่นแล้วเอ่ยถามเสียงสั่นว่า“หมายถึงพี่ปราชญ์อีกคนหรือครับ?” คุณหมอพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยเสียงเครียด“จากการส่งตรวจเอกซเรย์สมองพบว่าคนไข้ปกติดีครับ แต่จากการสอบถามทางจิตวิทยาพบว่าคนไข้เหมือนจะแตกแยกบุคลิกออกมาอีกหนึ่งบุคลิกครับ หมอสงสัยว่าอาจจะเพราะสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงส่งผลให้ส่วนของความจำและบุคลิกมีปัญหา เลยทำให้คนไข้สร้างเรื่องราวใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง....”“ถ้าอย่างนั้นมีโอกาสหายไหมครับ?” ผมเอ่ยถามหมอเสียงเครือ พลางปาดน้ำตาออกจากหางตา“แน่นอนครับ แต่ญาติต้องอดทนหน่อยนะครับ เพราะดูเหมือนเรื่องราวที่คนไข้สร้างขึ้นมาจะเป็นในแง่ลบทั้งสิ้นส่งผลให้จำเป็นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด”“ครับ” ผมเอ่ยเสียงตอบรับก่อนจะพูดคุยอีกนิดหน่อยก็ออกมา แล้วเดินกลับที่ห้องพักของพี่ปราชญ์ พอเข้าไปเจ้าตัวกำลังนั่งอ่านอะไรบางอย่างในไอแพด ก่อนจะกดปิดหน้าจอฯ เมื่อเห็นผมเข้ามาแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาว่า“หมอว่าอย่างไรบ้าง?” ผมเม้มปากกลั้นน้ำตา เพราะความเย็นชาห่างเหินที่พี่ปราชญ

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 14 เมื่อผมพาครอบครัวไปเที่ยวทะเล

    บทที่ 14 เมื่อผมพาครอบครัวไปเที่ยวทะเลเข้าเดือนเมษายนเพราะช่วงเทศกาลสงกรานต์ผมคิดว่าคนเยอะ เราเลยเลือกที่จะไปทะเลต้นเดือนแทน แต่นักท่องเที่ยวก็เยอะอยู่ดีช่วงนี้ ตอนนี้น้องเปลี่ยม 5 เดือนแล้วเจ้าตัวจ้ำม่ำมาก แขนเป็นปั้นๆ ให้กินอะไรกินหมด แถมกินเก่งอีกต่างหาก เป็นขวัญใจของป๊าเลยที่ได้หลานอ้วนจ้ำม่ำแบบน้องเปลี่ยม วันที่เราเลือกไปทะเลเราออกจากบ้านตั้งแต่ 7 โมงเช้า เดินทางไปถึงพัทยาคงประมาณ 9-10 โมงเช้าได้ เราเลยขับรถไปเองชิวๆ ไม่เครียดหรือเร่งรีบอะไร ผมนั่งที่เบาะหน้าหยิบโทรศัพท์เอามาถ่ายเด็กๆ3 คนที่นั่งเรียงกันในคาร์ซีทอย่างตลก โดยมีน้องเปลี่ยมนั่งตรงกลาง น้องโปรดข้างซ้าย และน้องปลื้มข้างขวา ผมลงสตอรี่มีคนกดเข้ามาดู เยอะมาก ก่อนจะหันกลับมาเปิดเพลงเด็กๆ คลอไปตลอดทางให้เด็กข้างหลังเปิดคอนเสิร์ตร้องตามกันอย่างสบายใจ ได้สตอรี่ไปอีกหนึ่งตะเข็บ“พี่ว่าเราต้องเปลี่ยนรถแล้วน้องพัช” พี่ปราชญ์เอ่ยเมื่อผมเอาแต่ถ่ายสตอรี่เด็กๆ ร้องเพลงอยู่ข้างหลัง ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยพร้อมกับกดเซฟคลิปไว้ในเครื่อง“พัชเห็นด้วยเลย เดี๋ยวพอเด็กๆ โตกว่านี้จะไม่มีที่นั่งเอา” ผมพูดก่อนจะหันหน้ากลับไปมองพี่ปราชญ์ที่ฮั

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 13 เมื่อผมต้องเลี้ยงเด็กสามคน

    บทที่ 13 เมื่อผมต้องเลี้ยงเด็กสามคนในเดือนถัดมาพี่ปราชญ์ลาออกจากรองประธานของพิพิศภักดีแล้ว ป๊าแทบจะจุดพลุฉลองเมื่อรู้ว่าพี่ปราชญ์จะเข้ามาช่วยบริหารงานแทน และตอนนี้ที่อายุครรภ์ผมได้ 5 เดือนแล้วเราก็เพิ่งไปตรวจเพศลูกมาและเป็นผู้ชายอีกครั้ง พี่ปราชญ์แทบปล่อยโฮเพราะอยากได้ลูกสาว ส่วนผมเฉยๆ เพราะจะเพศไหนผมก็รักทั้งหมด และเพราะพี่ปราชญ์ต้องเริ่มเรียนรู้งานกับป๊า เพื่อความสะดวกและอะไรหลายๆ อย่างป๊าเลยเสนอว่าจะยกบ้านเป็นชื่อผม แล้วให้ผมกับพี่ปราชญ์ และเด็กๆ ย้ายกลับไปที่นั่น เพื่อความสะดวกในอะไรหลายๆ อย่าง ส่วนเรื่องรถรับ-ส่งของน้องโปรดก็ต้องยกเลิกไป เพราะต่อไปป๊าที่ว่างงานแล้วจะเป็นคนขับรถไปรับ-ส่งหลานเองเช้า-เย็นเรียกได้ว่าป๊าเห่อหลานสุดๆ และดูเหมือนน้องโปรดเองก็ชอบที่อากงไปรับตัวเองที่โรงเรียนมากกว่าด้วยเช่นกัน ผมย้ายกลับไปอยู่ที่ห้องตัวเองกับพี่ปราชญ์ เด็กๆ แยกห้องไปนอนคนละห้องตามที่ป๊าต้องการ เจ้าตัวถึงกับรีโนเวทบ้านเพื่อเด็กๆ เป็นเดือนๆ เลย ที่สำคัญคือทำห้องให้เจ้าก้อนที่สามในท้องผมล่วงหน้าไปแล้วด้วย เรียกได้ว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่ผมมีความสุขมาก และก็อยากแบ่งปันกับทุกคนด้วยจึงลงสตอรี่

  • จบ เกิดใหม่คราวนี้ผมจะเป็นภรรยาและหม่าม้าที่ดี (Mpreg, Yaoi)   บทที่ 12 เมื่อผมไปงานเลี้ยงรุ่น

    บทที่ 12 เมื่อผมไปงานเลี้ยงรุ่นเข้าเดือนมิถุนายน ต้นเดือนนี้มีงานเลี้ยงรุ่นมหาลัยของผม แน่นอนว่าผมนัดกับเก้า นิลและยี่หวาไว้ที่งานแล้ว รวมไปถึงพี่ปราชญ์ด้วยที่ลางานตอนบ่ายเพื่อพาผมไปงานเลี้ยงรุ่น โดยที่ผมจะฝากน้องปลื้มไว้กับป๊าและพี่นิ้ง วันนี้ผมแต่งตัวจัดเต็มอย่าบอกใคร ลงโพสต์สตอรี่ตั้งแต่เมื่อวานที่ไปร้านทำผมซื้อเสื้อผ้า แล้วฝากน้องปลื้มไว้กับพี่นิ้งแล้ว และโชคดีที่น้องโปรดไปโรงเรียนแล้วไม่อย่างนั้นผมคงหัวหมุนกว่านี้ แน่นอนว่าวันนี้มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ผมรู้สึกตัวเองมาสักพักแล้วว่ากินเก่งขึ้น มันหิวแบบผมต้องกินอันนั้นอันนี้ให้ได้พอไม่ได้กินก็จะเก็บไปนอยเองคนเองเงียบๆ อาการแปลกๆ ที่ผมคุ้นชินเร่งเร้าให้เมื่อวานนี้ผมแวะซื้อที่ตรวจครรภ์มาหลายยี่ห้อก่อนกลับบ้าน แล้วมาแอบตรวจวันนี้คนเดียว เพราะป๊ามารับน้องปลื้มตั้งแต่เช้าเช้าที่แปลว่าเช้าจริงๆ ตั้งแต่ 7 โมงนู้น ผมเลยอยู่บ้านคนเดียวแต่งตัวแต่งหน้าทำผมเตรียมไปงานเลี้ยงรุ่นตอนบ่ายสามโมง งานจัดที่ร้านอาหารริมน้ำแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นี่แหละครับ ผมเลยมาเตรียมลุ้นว่าตัวเองท้องหรือไม่ตอนนี้คนเดียว ก่อนจะยิ้มบ้างยกมือลูบท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อยขอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status