เกิดอะไรขึ้น!!หรือว่ายานี้ใช้ไม่ได้!หลิงเฟิงรีบกล่าว: “พระชายารอง พวกเราถูกพระชายาเอกหลอกจริง ๆ หรือ ข้าน้อยไม่เคยได้ยินเลยว่าฉี่ม้ารักษาโรคได้!”อะไรนะ!!นี่คือฉี่ของม้า!กงฉางจื้อที่ดื่มเข้าไปสองถ้วยใหญ่พลันเบิกตาโพล่ง อาการคลื่นไส้พุ่งขึ้นจากกระเพาะทันที เขาอาเจียนอย่างต่อเนื่องและอดกลั้นจนกลายเป็นสีม่วงไปทั้งใบหน้าและมีเหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วซึมตรงหน้าผากร่างกายของเขาแข็งทื่อและขยับไม่ได้ตั้งแต่ทีแรก ตอนนี้มีกลิ่นฉี่ของม้าอยู่เต็มปากยิ่งทำให้เขารู้สึกตายทั้งเป็นกระเพาะปั่นป่วนและมีกลิ่นเหม็นคาวตีขึ้นมายิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวใจแทบอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อเห็นเขาในสภาพเช่นนี้ มู่หว่านหรงรู้สึกทั้งร้อนใจและโมโหแล้วนี่ควรทำอย่างไรต่อดี! ใคร ๆ ก็รู้ว่ากงฉางจื้อเป็นคนเก่งกาจด้านการรักษา หากผู้อื่นรู้ว่าเขาถูกเสิ่นหรูโจวจัดการได้อย่างง่ายดาย ความจริงก็จะถูกเปิดโปงน่ะสิ!นางเหลือบมองที่เตียงหนึ่งที ใบหน้าทุกข์ทรมานของกงฉางจื้อและยังมีคราบฉี่ม้าตรงมุมปากกำลังส่งสายตามาให้นางน่ารังเกียจ!“อ๊า……อ๊า……” กงฉางจื้ออ้าปากส่งเสียงเรียกอยู่อย่างนั้น ดวงตาสองข้างแดงก่ำ
พูดจบ นางสูดหายใจลึก กัดฟันแน่นแล้วจับกรรไกรกรีดตรงข้อมือที่เล็กและขาวหลิงเฟิงตื่นตกใจมาก “พระชายารอง!”มู่หว่านหรงขยับมุมปาก “ข้าไม่เป็นไร”นางเพียงต้องการใช้แผนทรมานตนเองไม่ได้คิดสั้นแต่อย่างใด บาดแผลเป็นเพียงรอยแดงมีเลือดออกเล็กน้อย“ไปบอกกับท่านอ๋องว่าข้าตั้งใจไปเยี่ยมพระชายาเอกในคุกใต้ดิน แต่พระชายาเอกไม่รับความหวังดีและยังทำร้ายข้า ต้องพูดอย่างไรบ้างข้าคงไม่ต้องสอนหรอกกระมัง!”“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว พระชายารองวางใจได้เลยเจ้าค่ะ!” เมื่อหลิงเฟิงเข้าใจความหมายแล้วก็ออกไปหาเซินเฉินเหยี่ยนทันทีเสิ่นหรูโจวทำให้นางได้รับโทษการโบยตีถึงยี่สิบครั้ง คิดจะให้หลอกตีแต่ทำไม่ได้เพราะมีเมี่ยวตงคอยเฝ้า ยี่สิบครั้งเต็ม ๆ นางต้องฝืนทนความเจ็บปวดคลานกลับมาที่เรือนและรอยเลือดก็ไหลเป็นทางเดินถ้าพระชายารองไม่เอายาให้นางกินจนไม่เหลือความเจ็บปวด นางจะขยับตัวได้อย่างไร!ทำให้นางต้องเป็นทุกข์มากถึงเพียงนี้ นางไม่มีวันปล่อยเสิ่นหรูโจวไปแน่ ต้องแก้แค้นเพื่อตนเองให้จงได้!เซียวเฉินเหยี่ยนเพิ่งกลับมาจากพระราชวัง ใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยความหม่นหมองก่อนหน้านี้ เสด็จพ่อมีรับสั่งให้เป่ยซิวเยี่ยนไปปรา
“แต่เมื่อพระชายาทำชั่วไม่สำเร็จจึงโกรธจัดและทำหมอกงจนบาดเจ็บ! หมอกงจนถึงตอนนี้ก็ยังนอนติดเตียงลุกไม่ได้เจ้าค่ะ!”เมื่อฟังคำบอกเล่าแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเฉินเหยี่ยนมืดมนทันใด “อะไรนะ นางทำร้ายหมอกงด้วยงั้นรึ”มู่หว่านหรงรีบมองหลิงเฟิงและตำหนิ: “พอแล้ว หยุดพูดได้แล้ว คิดว่าท่านอ๋องมีเรื่องรำคาญใจไม่มากพออีกรึ!”“ให้นางพูด” ขากรรไกรล่างของเซียวเฉินเหยี่ยนตึง เส้นสัมผัสทั้งห้าของใบหน้าดูเย็นชามาก “ข้าต้องการฟังว่าเสิ่นหรูโจวก่อเรื่องอะไรไว้อีกบ้าง!”หลิงเฟิงกล่าวต่อทันที: “เจ้าค่ะ สถานการณ์ตอนนั้นอยู่ในภาวะวิกฤต พระชายารองกลัวว่าหากพระชายาเอกยังทำต่อไปมีแต่จะทำให้เกียรติยศของจวนอ๋องเสื่อมเสีย ด้วยสถานการณ์ที่คับขันจึงจำต้องนำตัวพระชายาเอกขังในคุกใต้ดิน ที่ทำไปก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของจวนอ๋อง”“แต่พระชายารองใจอ่อนเกินไป เป็นห่วงว่าพระชายาเอกจะโกรธจึงลงไปเยี่ยมและอยากเกลี้ยกล่อมให้พระชายาเอกล้มเลิกความคิดทำร้ายคน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกับผู้สำเร็จราชการแทนและสร้างปัญหาให้กับท่านอ๋อง แต่พระชายาเอกกลับไม่ฟังและยังกรีดข้อมือของพระชายารองจนบาดเจ็บเจ้าค่ะ!”“หลิงเฟิง เจ้านี่มันพูดม
ไม่เพียงให้คำอธิบายกับมู่หว่านหรงเท่านั้นแต่ยังรวมถึงผู้สำเร็จราชการแทนด้วยเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ ความชั่วช้าที่เสิ่นหรูโจวทำนั้นไม่สามารถชดเชยได้ มีแต่ลงโทษนางก่อน เพื่อให้เป่ยซิวเยี่ยนเห็นและแสดงถึงจุดยืนของเขาด้วยวิธีนี้ เมื่อเป่ยซิวเยี่ยนกลับมา ต่อให้อยากหาคนรับผิดชอบแต่ก็อาจดูไม่ดีหากตำหนิมากไปมิฉะนั้น หากส่งเสิ่นหรูโจวให้เป่ยซิวเยี่ยน ด้วยวิธีการของเป่ยซิวเยี่ยนนั้น เกรงว่านาง……อาจไม่มีชีวิตรอดและนางในวันนี้ใช้แซ่ของเขาแล้ว เขาก็ไม่อยากส่งให้คนนอกเป็นคนลงโทษมู่หว่านหรงยิ้มอ่อนอย่างระมัดระวังให้เขา “ขอบคุณท่านอ๋องเจ้าค่ะ ท่านอ๋อง หว่านหรงรู้ว่าท่านเอ็นดูหว่านหรง”นางไม่รู้ว่าเซียวเฉินเหยี่ยนคิดถึงสิ่งใดอยู่ในใจ รู้เพียงว่าเสิ่นหรูโจวใกล้พินาศแล้วหลังจากเซียวเฉินเหยี่ยนกำชับนางพักผ่อนดี ๆ และเดินออกจากห้องไปแล้ว นางก็แสดงสีหน้าดีใจออกมาทันทีนี่คือผลลัพธ์ของการล่วงเกินมู่หว่านหรงผู้นี้ เสิ่นหรูโจว รอรับความตายซะเถอะ!ในคุกใต้ดินที่มืดมิด เสิ่นหรูโจวกำลังนั่งสานตั๊กแตนอยู่บนเสื่ออย่างเบื่อหน่าย พลันมีเสียงย่ำเท้าดังขึ้นนางเงยหน้าขึ้นมาก็พบใบหน้าร้ายกาจของเซียวเฉินเ
“หากไม่มี คนที่ท่านควรหาไม่ใช่ข้าแต่เป็นเขา เขาไม่มีความสามารถอะไรเลย ท่านยังปล่อยให้เขามีอาชีพทำไมอีก!”“และข้อสุดท้าย ข้าไม่เคยแตะต้องมู่หว่านหรงแม้ผมเส้นเดียว ทำไมนางถึงบาดเจ็บท่านควรไปถามนางเอง”เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าว แววตาของเซียวเฉินเหยี่ยนก็เย็นชาทันใด“คำโกหกร้อยเรียงเป็นหน้ากระดาษ คิดหรือว่าข้าจะเชื่อ!”“ข้าเพิ่งไปหาหว่านหรงมา ข้อมือของนางบาดเจ็บขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เจ้าทำแล้วจะเป็นใครได้อีก! เสิ่นหรูโจว หว่านหรงเป็นหญิงอ่อนแอเช่นนั้นแล้วยังกล้าลงมือได้อีก บรรทัดฐานของความเป็นคนของเจ้าอยู่ตรงไหนกันแน่!!”“ข้าน้อยขอพูดอีกครั้ง!” เสิ่นหรูโจวมองเขาและพูดเสียงแข็งมีพลังมั่นใจ “ข้าไม่เคยแตะต้องมู่หว่านหรง บาดแผลของนางไม่เกี่ยวกับข้า เรื่องใดที่ข้า เสิ่นหรูโจวไม่เคยทำอย่าคิดมาโทษข้า!”น้ำเสียงของนางเย็นเยียบขึ้นเรื่อย ๆ : “เซียวเฉินเหยี่ยน ท่านด่าทอข้าและดูถูกข้าถึงเพียงนี้ เมื่อถึงวันที่ความจริงเปิดเผย ท่านจะต้องเสียใจ!”“ถึงตอนนั้น อย่าโทษว่าข้าไม่เตือน ท่านอาจเสียใจจนร้องไห้ ไอ้คนโง่!”ชาติที่แล้วเซียวเฉินเหยี่ยนก็หน้ามืดตามัว ไม่สนใจถูกผิดกับเรื่องของพี่น้องมู่หว่านหรงเช่นน
อะไรนะ!!เสิ่นหรูโจวช่วยชีวิตลู่หวายหนิง!!มือของเซียวเฉินเหยี่ยนชะงักทันใด สีหน้าประหลาดใจวาบผ่านใบหน้ารูปงามเป็นไปได้อย่างไร!!“เจ้าสับสนอะไรหรือเปล่า ไม่ใช่นางหรือที่ทำร้ายนายน้อยของเจ้าจนมีสภาพย่ำแย่!”เสิ่นหรูโจวสะบัดมือเขาออกทันทีและนั่งลงที่พื้นอย่างอ่อนแรง นางจับหน้าอกและไอหนัก แต่สายตากลับแหลมคมมากเป็นพิเศษฉินอวี่รู้สึกสงสารอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นสภาพนางเป็นเช่นนี้ พระชายาเอกเป็นคนดีถึงเพียงนี้แต่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้!อ๋องอู่เฉิงทำเกินไปแล้ว!“พระชายาเอกช่วยนายน้อยจริง ๆ ขอรับ! อ๋องอู่เฉิง พระชายาเอกเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตนายน้อยของข้าน้อยและยังเป็นผู้มีพระคุณของจวนผู้สำเร็จราชการแทนขอรับ!”เซียวเฉินเหยี่ยนกลับไม่เชื่อเสิ่นหรูโจวว่านางมีความสามารถขนาดนั้นจริง ๆ นางก็แค่คนไม่เอาไหน จิตใจก็โหดเหี้ยมและยังทำร้ายหมอกงกับหว่านหรง นางน่ะหรือจะช่วยคน! เป็นไปไม่ได้!“แม้ว่าเสิ่นหรูโจวเป็นพระชายาของข้า แต่นางไม่มีความรู้ด้านการรักษาจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นนางเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตแบบนี้หรือจะช่วยคนได้ เจ้าระวังถูกนางหลอกเอานะ!”เสิ่นหรูโจวที่นั่งกับพื้นได้ยินดังนั้นมุมปากก็
เสิ่นหรูโจวเหลือบมองเขาด้วยความรู้สึกบางอย่าง สีหน้าสับสนและสงสัยของชายหนุ่มตกอยู่ในสายตาของนางนางยิ้มเย็นชา นัยน์ตาดำสนิทจ้องเขม่นเซียวเฉินเหยี่ยน“เซียวเฉินเหยี่ยน ตอนนี้ผู้เป็นเจ้าของเรื่องพูดแล้วว่าข้าเป็นคนช่วยชีวิตเขา ข่าวลือที่กล่าวหาว่าข้าทำร้ายผู้อื่นก่อนหน้านี้กับพระชายารองของท่านจับข้าไปขังและท่านยังบีบคออยากให้ข้าตาย จะสะสางอย่างไรดีเจ้าคะ”นางตั้งใจไม่ตอบโต้เพื่อปูทางให้กับวินาทีนี้ภายใต้แสงมืดสลัว โครงหน้าด้านข้างของเซียวเฉินเหยี่ยนดูเย็นชาแต่ยังรูปหล่อไม่มีที่ติเขามองเสิ่นหรูโจวยกคางเล็กน้อย ลำคอที่ขาวนวลทำให้รอยแดงเห็นชัดมาก เมื่อครู่นี้เขาลงมือหนักไปจริง ๆแต่ในฐานะอ๋องอู่เฉิง นายท่านแห่งจวนอ๋องจะยอมรับความผิดได้อย่างไร อีกอย่างเรื่องนี้ยังมีข้อสงสัยอีกมากมายที่ทําให้อดคิดมากไม่ได้"เสิ่นหรูโจว เจ้าไม่มีความรู้เรื่องหมอ แต่ตอนนี้เจ้ากลับช่วยชีวิตคนได้และยังเป็นโรคที่ซับซ้อนเช่นนี้อีก มันเป็นไปได้ด้วยรึ! หรือไม่เจ้าก็ไม่ใช่เสิ่นหรูโจว เจ้าแค่สวมหน้ากากหนังของเสิ่นหรูโจว หรือไม่ก็เป็นความดีความชอบของหมอกงแล้วเจ้าบังเอิญได้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ไป"เสิ่นหรูโจวต
“เพราะว่าท่านเป็นเซียวเฉินเหยี่ยน ภรรยารองของท่านใส่ร้ายว่าข้าทำร้ายผู้อื่นและจับข้าขังคุกใต้ดิน ท่านยังทำร้ายข้าเพราะว่าเรื่องนี้ ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด พวกท่านเป็นคนสร้างความเดือดร้อนนี้ทั้งหมด แล้วข้าไม่ควรได้รับการชดเชยรึ!”“หากไม่มีการชดเชย อ๋องอู่เฉิงอย่างท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเจ้าคะ!”หว่างคิ้วของเซียวเฉินเหยี่ยนย่นติดกัน เขาเม้มปากและใช้ดวงตาเรียวยาวดำสนิทจ้องเสิ่นหรูโจวไม่รู้จะกล่าวอย่างไร เขามักรู้สึกว่าเสิ่นหรูโจวรู้จักเขาเป็นอย่างดีแต่งงานได้สองวัน นางก็รู้จักนิสัยของเขาอย่างกระจ่างแล้วรึ! จะเป็นไปได้อย่างไร เขาแทบจะไม่เปิดเผยนิสัยแท้จริงของตนเองต่อหน้าเสิ่นหรูโจวแต่เขามั่นใจว่าจะตอบตกลงข้อเดิมพันของนาง ต่อให้เขาเกลียดเสิ่นหรูโจวเพียงใด หากเขาทำให้นางได้รับความไม่ยุติธรรมและเป็นทุกข์มากมายจริง ๆ เขาจะชดเชยในสิ่งที่นางควรได้อย่างแน่นอนลู่หวายหนิงเห็นเซียวเฉินเหยี่ยนเงียบไม่พูดอยู่นาน จึงมีใจคิดช่วยเสิ่นหรูโจวและกล่าวขึ้น“อ๋องอู่เฉิง พี่คนสวยเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตของข้าจริง ๆ แม้ว่าตอนนั้นข้าลืมตาไม่ขึ้น แต่จิตใต้สำนึกของข้านั้นยังชัดเจนดีและสามารถได้ยินสิ่งที่พวก
เสิ่นหรูโจวกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “เช่นนั้นก็ไม่ผิดแล้ว ในเวลานี้ ความสามารถในการทำงานของตับของพระองค์ได้รับความเสียหายอย่างมากแล้ว” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เซียวจิ่นซีก็คล้ายจะเจ็บยิ่งกว่าเดิมแล้ว เจ็บจนยืดเอวไม่ขึ้นมองเซียวจิ่นซีที่มีสีหน้าเจ็บปวด เซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดคิ้ว “เช่นนั้นมีวิธีการรักษาหรือไม่?”เสิ่นหรูโจวมิได้รีบกล่าว นางหยิบขวดยาเล็กๆ ขวดหนึ่งออกมาจากถุงผ้า เทยาลงบนในกลางฝ่ามือเม็ดหนึ่งยื่นไปที่เบื้องหน้าเซียวจิ่นซี “ทรงเสวยสิ่งนี้ลงไปก่อน” เซียวจิ่นซีฝืนยืดเอวขึ้น มองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าหวาดระแวง “นี่คือสิ่งใด?”“สายพระเนตรขององค์หญิงทรงไม่ดีหรือเพคะ นี่คือยาอย่างไรเล่าเพคะ”เซียวจิ่นซีไม่เชื่อว่าเสิ่นหรูโจวจะปรารถนาดีเช่นนี้ ลังเลอยู่นานไม่ยอมรับไปเสิ่นหรูโจวจึงชักมือกลับมา กล่าวอย่างไม่อนาทรร้อนใจว่า “ไม่เสวยก็ช่างเถอะ ปล่อยให้ทรงปวดตายก็แล้วกัน” เซียวจิ่นซีกัดฟัน คว้าแย่งมาจากนั้นยัดเข้าปากไปเสิ่นหรูโจวโค้งริมฝีปาก หัวเราะอย่างเย้ยหยันทีหนึ่ง จากนั้นจึงพูดวิธีการรักษาออกมา “ตับของพระองค์ยามนี้เสียหายแล้ว หากทรงต้องการมีชีวิตรอด ก็จะต้องตัดตับของพระองค์ออก
เซียวจิ่นซีคิดจะบันดาลโทสะอีกครั้ง ทว่าเซียวเฉินเหยี่ยนขมวดคิ้วมองนาง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เสด็จพี่ แทนที่จะทรงตรัสสิ่งใดด้วยโทสะเพื่อความสะใจเพียงชั่วครู่ มิสู้ทรงให้เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้พระองค์อย่างว่าง่ายดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การรักษาพระวรกายให้หายดีสำคัญที่สุดนะพ่ะย่ะค่ะ"เต๋อเฟยก็เกลี้ยกล่อมเช่นกัน “นั่นสิ จิ่นซี อย่าได้เสียเวลาอีกเลย รีบให้หรูโจวตรวจให้เจ้าเถอะ” สุดท้ายแล้ว เซียวจิ่นซีก็ต้องการรักษาชีวิตตน ไม่ว่าจะเคียดแค้นเสิ่นหรูโจวอย่างไร ยามนี้ก็มิใช่เวลาที่จะมาก่อเรื่อง นางจึงแค่นเสียงเย็นครั้งหนึ่ง แล้วก็ไม่กล่าวสิ่งใดอีกเซียวเฉินเหยี่ยนมองไปยังเสิ่นหรูโจว พูดเสียงเบาว่า “นี่เป็นพระบัญชาของเสด็จพ่อ เจ้าก็อย่าได้เอาแต่ใจ” เดิมเสิ่นหรูโจวก็ไม่คิดจะจากไปจริงๆ เพียงแค่ขู่เซียวจิ่นซีไปอย่างนั้น บัญชาของฮ่องเต้ไม่อาจฝืน นอกจากนี้ นางก็จำเป็นจะต้องสร้างโอกาสให้ตนได้หย่าเช่นกันนางเดินกลับไปอย่างเรื่อยเฉื่อย นั่งลงข้างกายเซียวจิ่นซี “รบกวนองค์หญิงทรงยื่นพระหัตถ์ออกมาด้วยเพคะ” สีหน้าของเซียวจิ่นซีไม่น่ามอง ทว่ายังคงทำตามครั้งก่อนที่เสิ่นหรูโจวตรวจอาการให้เซียวจิ
เมื่อเสิ่นหรูโจวได้ยินคำพูดประโยคสุดท้าย สีหน้าก็ผ่อนคลายลงไม่น้อยดูไปแล้ว จนถึงตอนนี้ยังคงถือได้ว่าราบรื่น ด่านเคราะห์ของท่านพ่ออยู่ที่การศึกครั้งสุดท้าย ไม่รู้ว่าเวลานี้ยาของนางส่งไปถึงหรือยัง หากดูตามเวลาก็น่าจะทันการอยู่ขอเพียงท่านพ่อใช้ยาของนาง ก็จะไม่ทิ้งโรคเรื้อรังไว้ในภายหลังแล้วนับแต่ได้ถือกำเนิดใหม่กลับมา นางยังมิได้พบท่านพ่อเลย นางจะต้องทำให้ท่านพ่อกลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้เซียวเฉินเหยี่ยนเห็นว่าเมื่อนางได้ฟังข่าวของบิดาและพี่ชาย อารมณ์ก็คล้ายจะสงบลงไม่น้อย จึงลองกล่าวว่า “ในอนาคต เจ้ายังคงแก้นิสัยของเจ้าหน่อยเถิด” เสิ่นหรูโจวเงยหน้ามองเขา “นิสัยของข้าเป็นอย่างไร?”“ทุกครั้งที่เจ้าพบกับองค์หญิงเจาหยาง ล้วนมีเรื่องกันจนตึงเครียด” เซียวเฉินเหยี่ยนพยายามพูดอย่างละมุนละม่อม หวังว่านางจะรับฟัง “ถึงอย่างไรนางก็เป็นเสด็จพี่หญิงของข้า เมื่ออยู่ต่อหน้านาง เจ้าก็แสดงท่าทีที่ดีสักหน่อย อย่าใช้อารมณ์ไปเสียทุกเรื่อง” เสิ่นหรูโจวหัวเราะอย่างเยาะหยันทีหนึ่ง กล่าวอย่างดูแคลนว่า “ท่านอย่าได้มาบงการข้า” บนใบหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนมีความไม่พอใจวาบผ่าน "หากเจ้ามีสิ่งใดไม่พอใจ อยาก
เริ่มจากชายแดนส่งข่าวด่วนมา บิดาและพี่ชายของเสิ่นหรูโจวจึงนำทัพไปช่วยที่ชายแดน ภาพเหตุการณ์เปลี่ยนไป กลายเป็นฉากที่รายงานการรบถูกส่งมา ท่านแม่ทัพเสิ่นถูกธนูของศัตรูยิงทะลุมือ เนื่องจากขาดแคลนยาและสิ่งของทำให้ไม่มียารักษา ทว่าก็ยังคงรบชนะต่อมา หลังจากแม่ทัพใหญ่เสิ่นกลับมาถึงเมืองหลวงพร้อมชัยชนะ ก็ล้มป่วยจนต้องนอนอยู่บนเตียงตลอด ส่วนที่จวนอ๋อง เสิ่นหรูโจวกับมู่หว่านหรงทะเลาะกันครั้ง เขาจึงลงโทษกักบริเวณให้นางสำนึกตน นางบังเอิญเป็นหวัดพอดี จึงนอนซมลุกไม่ขึ้น ทำให้ไม่รู้เรื่องที่ท่านแม่ทัพใหญ่เสิ่นได้รับบาดเจ็บผ่านไปไม่กี่วันเมื่อนางรู้ข่าว ก็มาขอร้องต่อหน้าเขา ต้องการให้เขาไปส่งของบำรุงจำนวนหนึ่งไปให้บิดา เขามองใบหน้าที่อ่อนแรงและซีดขาวของนาง ไม่มีความสงสารแม้แต่น้อย มองดูนางอย่างเย็นชาท้ายที่สุดเขายังคงให้คนไปส่งของ ทว่าเด็กรับใช้ส่งไปในนามของเขา รอจนพวกเขารู้เรื่อง เรื่องราวก็ผ่านไปนานแล้ว ความสัมพันธ์ของเสิ่นหรูโจวและตระกูลเสิ่นก็มาถึงจุดเยือกแข็งแล้วเช่นกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่นางปวดใจอย่างที่สุด และก็เป็นครั้งแรกที่นางใส่อารมณ์กับเขา ดั่งเช่นในยามนี้เซียวเฉิยเหยี่ยนยันรถม้าไว้
สีหน้าของเซียวเฉินเหยี่ยนไม่น่ามองอยู่บ้าง “หรือเจ้าจะให้ข้ายืนรอเจ้าอยู่ด้านนอก?”“ท่านจะนั่งยองลงก็ได้เช่นกัน” ใบหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ข้าขอบอกท่านไว้เลย เวลานี้ไม่ว่าข้าจะมองท่านที่ใดก็ขัดตาไปหมด หากท่านไม่ต้องการสร้างความอับอายให้ตนเอง ก็อย่าได้มายั่วโมโหข้า!”กล่าวจบ นางก็หมุนตัวเดินเข้าประตูไป จากนั้นปิดประตูลงดัง ‘ปัง’เซียวเฉินเหยี่ยนยืนอยู่ที่เดิม เขากำหมัดแน่นมองประตูใหญ่ที่ถูกปิดสนิท เขารู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก ทว่าในใจก็เกิดความรู้สึกถึงความแตกต่างขึ้นมาเช่นกันในอดีต ทั้งดวงตาและหัวใจของเสิ่นหรูโจวล้วนมีแต่เขา ไม่มีทางกีดกันเขาไว้ภายนอกอย่างเด็ดขาด ทว่า ในยามนี้ เขาไม่มีสิทธิ์แม้กระทั่งจะเหยียบเข้าประตูเรือนของนางแล้วอย่างนั้นหรือ?ทว่า ความรู้สึกของคนเปลี่ยนแปลงได้ง่ายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เหตุใดเขาจึงโชคไม่ดีเช่นนี้ แต่งงานได้เพียงช่วงสั้นๆ สิบกว่าวัน นางก็ไม่หลงเหลือความรักให้เขาแล้วหลังเสิ่นหรูโจวปิดประตูลง ก็เข้าสู่ห้องของตนเมี่ยวตงเดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม “คุณหนูกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอยากทานสิ่งใด บ่าวจะไปเตรียมให้เจ้าค่ะ” “ไม่ต้องแล้
ชาติก่อนมู่หว่านหรงอาศัยว่าได้รับความโปรดปราน มักแย่งของนางอย่างเปิดเผย ของพระราชทานที่ในวังประทานให้ชายาเอกทุกงานเทศกาลนางก็จะแย่ง ไปช่วยเหลือราษฎรจนสร้างผลงาน นางก็จะแย่งอีก เซียวเฉินเหยี่ยนไม่เคยสนใจแม้แต่น้อย เวลานี้ยิ่งดี แม้แต่ตัวเขาเองก็จะมาแย่งรางวัลของนางด้วย!เซียวเฉินเหยี่ยนถูกคำพูดของเสิ่นหรูโจวซัดไปเป็นชุด ทำให้ภายในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์อยู่บ้างเขาจับข้อมือเสิ่นหรูโจวแน่นไม่ยอมปล่อย ความโมโหในก้นบึ้งของดวงตาปรากฏขึ้นแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว แปรเปลี่ยนเป็นความมืดมิด จับจ้องไปที่เสิ่นหรูโจวแล้วกล่าวว่า “หากข้าไม่ชิงลงมือก่อนเจ้าก้าวหนึ่ง เจ้าก็คงจะไปขอให้เสด็จพ่อประทานการหย่าให้แล้ว” “ไม่ผิด!” เสิ่นหรูโจวตอบอย่างไม่ลังเลนี่เป็นเรื่องที่นางเฝ้าปรารถนา รอคอยมาสองชาติ!“เจ้า…" เซียวเฉินเหยี่ยนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนนับหมื่นอัดอั้นอยู่ในอก อึดอัดจนหายใจไม่ออก”โดยพื้นฐานแล้ว เขาดูแคลนต่อการแย่งผลงานสตรี ที่ทำเช่นนี้ ประการแรก เป็นเพราะจดหมายฉบับนั้นของมู่หว่านชิง ประการที่สอง…เขาคิดได้ว่า เสิ่นหรูโจวจะใช้คำสัญญานี้มาหย่ากับเขา เขารู้สึกไม่อยากห
ฉินหมิงตะลึงไป ถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ท่านอ๋องไม่เป็นอะไร? คำพูดนี้ของนายน้อยหมายความว่าอย่างไร?”ลู่หวายหนิงดึงฉินหมิงเข้ามาใกล้ขึ้นอีกนิด พยายามระงับความตื่นเต้น ลดเสียงเบาลงแล้วกล่าวว่า “ความหมายก็คือบนร่างของอาจารย์ไม่มีผื่นขึ้น อาจารย์อาการภูมิแพ้ไม่กำเริบตอนอยู่กับพี่สาวน่ะสิ” ดวงตาทั้งคู่ของฉินหมิงเบิกกว้าง พูดอย่างตกใจว่า “จริงหรือขอรับ?”ลู่หวายหนิงหัวเราะออกมา “จริงแท้แน่นอน ข้าทำการยืนยันแล้ว” ฉินหมิงรู้สึกไม่อยากเชื่อ “หลายปีมานี้ ไม่ว่าสตรีนางใดสัมผัสท่านอ๋อง ก็ล้วนทำให้ท่านอ๋องเกินอาการแพ้ มีเพียงหญิงที่นายท่านพบในปีที่แล้วนางนั้นที่ไม่เป็นไร” “พูดไปแล้ว ตามหาสตรีนางนั้นไม่เจอเสียที ช่างน่าเสียดายนัก คิดไม่ถึงว่าพระชายาของอ๋องอู่เฉิงก็ไม่ทำให้นายท่านเกิดอาการแพ้เช่นกัน ช่างเป็นเรื่องดีจริงๆ ราวสวรรค์ได้สรรค์สร้างมา” “นั่นสิ!” ลู่หวายหนิงเห็นด้วยอย่างมาก “อาจารย์หาผู้หญิงคนนั้นไม่เจอสักที อย่างนั้นพี่สาวก็เป็นคู่ชะตาที่สวรรค์ลิขิตมาให้อาจารย์แล้ว! ถ้าพวกเขามาอยู่ด้วยกันเร็วหน่อยก็ดี ข้าแทบรอวันนั้นไม่ไหวแล้ว!”ฉินหมิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบส่ายหน้าอย่างรุนแรงทันที “
ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นศีรษะเข้าไป มองซ้ายมองขวาเป่ยซิวเยี่ยนยื่นมือออกไปผลักหัวของเขาเบาๆ “ไม่ต้องดูแล้ว ไม่มีหรอก” ลู่หวายหนิงตกใจอย่างมาก ดวงตาเบิกจนกลมโตมองไปที่เป่ยซิวเยี่ยนบนใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของเป่ยซิวเยี่ยน ก็มีความประหลาดใจอยู่อย่างเลือนรางเช่นกันลู่หวายหนิงยังคงรู้สึกไม่ยากที่จะเชื่ออยู่บ้าง จึงทำการยืนยันอีกครั้ง “อาจารย์ขอรับ เมื่อครู่พี่สาวสัมผัสถูกท่านแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?” เป่ยซิวเยี่ยนเอนกายไปด้านหลัง พิงลงบนพนักเก้าอี้ ดวงตาล้ำลึกดุจบึงน้ำอันเยือกเย็นหรี่ลงเล็กน้อยเรื่องที่เขาเป็นภูมิแพ้ผู้หญิงมีน้อยคนนักที่จะรู้ เมื่อครู่คิดจะหยุดนางเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรง แต่กลับทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปกุมมือของนางเข้าโดยบังเอิญ จนเกิดเป็นผลลัพธ์ที่ไม่ได้ตั้งใจขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ เขามั่นใจว่าอีกครู่อาการของตนต้องกำเริบ จึงปล่อยให้นางเปลี่ยนยาให้ตนเสียเลย คิดไม่ถึงว่า จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการผิดปกติอะไรอาการคันชาบริเวณเอวคล้ายจะยังไม่จางหายไป ปลายนิ้วที่เย็นเล็กน้อยตกลงบนหน้าท้องของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับการยั่วเย้า เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ลู่หวายหนิงร้อ
เป่ยซิวเยี่ยนมองดวงหน้าที่งดงามดั่งหยกของนาง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง หัวใจของเขาก็อ่อนลงอย่างน่าประหลาด “ในเมื่อข้ารับปากเจ้าแล้ว ก็ไม่มีทางผิดคำสัญญา เพราะถึงอย่างไรพวกเราก็ต่างมีผลประโยชน์ร่วมกัน”เสิ่นหรูโจวพลันหัวเราะออกมาแล้ว มองเป่ยซิวเยี่ยนอย่างซาบซึ้ง “ท่านผู้สำเร็จราชการ ท่านเป็นคนดีจริงๆ ข้าจะต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาท่านให้ได้แน่” ไม่ว่าในชาติก่อนเขาจะก่อกบฏ เพราะเหตุใด เหตุใดจึงถูกคนขนานนามว่าเป็นพญามัจจุราชที่มีชีวิต แต่สำหรับนางแล้ว เขาก็คือคนดีคนหนึ่งเป่ยซิวเยี่ยนตะลึงไปเล็กน้อย เมื่อเห็นรอยยิ้มที่แย้มบานราวบุปผาของนาง ริมฝีปากบางก็อดโค้งขึ้นเล็กน้อยไม่ได้เช่นกัน “คำชมของพระชายาช่างแปลกใหม่เหลือเกิน” นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคนพูดว่าเขาเป็นคนดีแปลกใหม่? แปลกใหม่ตรงที่ใดกัน?เสิ่นหรูโจวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ว่าบาดแผลของเขาได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว นางจึงถือกล่องยาขึ้นมา“ท่านผู้สำเร็จราชการ สองสามวันนี้บาดแผลของท่านกำลังสมานตัว จะคันอย่างมาก เพียงระวังอย่าไปเกาก็จะหายดีแล้ว เช่นนั้นข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว” เป่ยซิวเยี่ยนพยักหน้าเบาๆ รอจนเสิ่